อ้อนรักเดิมพันหัวใจ (สนพ.กรีนมายด์)
เพราะการพบกันครั้งแรกเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าประทับใจสำหรับ “ศันลิตา” หญิงสาวสวยน่ารักเจ้าของร้านหนังสือจึงทำให้เธอรู้สึกหมั่นไส้ “กฤตตะวัน” หนุ่มหล่อขี้เก๊กเจ้าแผนการ โดยไม่รู้ว่าเขาคือทายาทบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังแห่งหนึ่ง เพราะความจำเป็นทำให้กฤตตะวันต้องเข้ามาเป็นพนักงานขายในร้านหนังสือเพื่อแลกกับความช่วยเหลือบางอย่างจากศันลิตา เกมรักที่มีหัวใจเป็นเดิมพันจึงเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับความจริงซึ่งนำพาไปสู่อันตราย
“พูดแบบนี้แสดงว่าคุณไม่กล้าเดิมพันกับผม เพราะกลัวว่าจะหลงรักผมใช่มั้ยล่ะ” กฤตตะวันถามพลางมองสบตาหญิงสาวอย่างท้าทาย
“อย่างฉันเนี่ยนะต้องกลัวหลงรักคุณ รู้จักศันลิตาน้อยไปซะแล้ว ตกลงฉันรับเดิมพันกับคุณแต่ถ้าครบกำหนดสามเดือนแล้วคุณไม่สามารถทำให้ฉันพูดว่ารักคุณได้ ต่อไปคุณห้ามมายุ่งวุ่นวายกับฉันอีกนะ” ศันลิตาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในขณะที่กฤตตะวันคลี่ยิ้มอย่างสมหวังดวงตาคู่คมเป็นประกายพราวระยับเมื่อโน้มใบหน้าคมเข้มลงมากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูหญิงสาวอย่างใกล้ชิดว่า
“ตกลงตามนั้นและนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปผมมีสิทธิ์ทำทุกอย่างเพื่อให้คุณหลงรักผมแล้วนะศันลิตา”
เดิมพันหัวใจครั้งนี้ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ใครเจ้าเล่ห์กว่าใครในเกมรัก เชิญร่วมลุ้นไปกับพวกเขาใน “อ้อนรักเดิมพันหัวใจ” ค่ะ

ขอแจ้งให้นักอ่านทราบล่วงหน้าว่านิยายเรื่องนี้จะลงเนื้อเรื่องเพียงแค่ 60% เท่านั้น ไรเตอร์จะทยอยอัพให้อ่านวันละตอนนะคะ เนื่องจากนิยายได้รับการตีพิมพ์แล้วจะวางแผงในเดือนมิถุนายน 2257 นี้ค่ะ ใครสนใจสั่งจองได้ที่เว็บกรีนมายด์เลยนะคะ

Tags: รัก, กุ๊กกิ๊ก,โรแมนติก

ตอน: ตอนที่ 14

ศิริวรรณ ชัยพร และวีณาหันมาสบตากันด้วยความประหลาดใจทันที เมื่อเห็นกฤตตะวันเดินจูงมือศันลิตาออกมาหน้าร้านทั้งที่ก่อนหน้านี้ศันลิตาเป็นฝ่ายลากแขนชายหนุ่มเข้าไปข้างในด้วยท่าทางโกรธจัด ศันลิตารีบดึงมือตนเองออกจากมือชายหนุ่มทันทีเมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังมองอยู่

“เอ่อ...คุณกฤตกับต้าคุยกันรู้เรื่องแล้วเหรอคะ” ศิริวรรณถามขึ้น กฤตตะวันพยักหน้าพลางตอบ

“เราคุยกันเข้าใจแล้วครับ”

“แล้วตกลงคุณกฤตจะจัดการกับข่าวลือยังไงล่ะคะ” วีณาถามขึ้นบ้าง

“ตกลงว่าผมจะทำให้ข่าวลือเป็นจริงครับ”

คำตอบของกฤตตะวันทำให้สามคนที่ได้ยินถึงกับทำหน้าเหวอไปตามๆ กัน ก่อนที่ศิริวรรณจะถามเขาว่า

“คุณกฤตหมายความว่ายังไงคะที่ว่าจะทำข่าวลือให้เป็นจริง”

“หมายความว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะขออนุญาตจีบน้องสาวพี่วรรณครับ ต้าให้เวลาผมสามเดือนถ้าผมทำให้เค้าชอบผมได้ ต้าก็จะยอมตกลงเป็นแฟนกับผมครับ” กฤตตะวันตอบหญิงสาวรุ่นพี่

ศิริวรรณอึ้งไปครู่หนึ่งกับคำตอบของชายหนุ่มก่อนจะหันไปทางน้องสาวแล้วถามขึ้น

“จริงเหรอต้า”

“จริงค่ะ เราเดิมพันกันเอาไว้โดยมีข้อแม้ว่าถ้าครบกำหนดสามเดือนแล้วคุณกฤตยังไม่สามารถทำให้ต้าชอบได้ เค้าจะต้องเลิกมายุ่งวุ่นวายกับต้าตลอดไปค่ะ” ศันลิตาตอบพี่สาว

“เดิมพันกันนี่นะ” ศิริวรรณทวนถามอย่างประหลาดใจกับเดิมพันพิลึกพิลั่นของสองหนุ่มสาว ก่อนจะหันมาทางกฤตตะวันพลางถาม “คุณกฤตคงไม่ได้คิดจะจีบน้องสาวพี่เล่นๆ ใช่มั้ยคะ”

“ไม่เลยครับ ผมจริงจังกับสิ่งที่ผมทำเสมอแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จด้วย” กฤตตะวันตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นพลางและมองสบตาศิริวรรณตลอดเวลาที่เขาพูด

“อย่าเพิ่งมั่นใจขนาดนั้นเลยคุณ ฉันไม่ยอมแพ้คุณง่ายๆ หรอก” ศันลิตาค่อนขอดชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเดินหนีออกไปหน้าร้านดื้อๆ กฤตตะวันหัวเราะเบาๆ กับคำปรามาสของหญิงสาวก่อนจะหันมาเอ่ยขอตัวกับศิริวรรณแล้วรีบเดินตามศันลิตาไปทันที

“เอ่อ เดี๋ยวนี้เค้ามีวิธีขอเป็นแฟนกันแบบแปลกๆ นะคะต้องเดิมพันกันด้วย” วีณาพูดขึ้นหลังจากที่หายงง

“นั่นมันหลุมพรางชัดๆ คุณกฤตนี่เจ้าเล่ห์ไม่เบาเลยนะที่ชวนต้าเดิมพันแบบนี้” ชัยพรพูดขึ้นก่อนจะหันไปถามศิริวรรณว่า “วรรณดูไม่ออกเหรอ ทำไมถึงไม่บอกให้ต้ายกเลิกเดิมพันนั่น”

“ดูออกสิคะ แต่เมื่อกี๊นี้ตอนที่คุณกฤตยืนยันว่าเค้าไม่ได้คิดจะจีบต้าเล่นๆ แววตาของเค้าจริงจังมาก แล้วอีกอย่างก็คือคุณกฤตเป็นผู้ชายคนแรกที่ต้ายอมให้เข้ามาใกล้ชิดกับตัวเองถึงขนาดจูงมือได้ แม้แต่คุณโชคที่ตามจีบมานานต้ายังไม่เคยยอมให้แตะเนื้อต้องตัวเลย แต่คุณกฤตต้ากลับยอมให้เค้าจูงมือแล้วก็ยอมรับเดิมพันทั้งๆ ที่จะปฏิเสธก็ได้ พี่ชัยไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่แปลกเหรอคะ” ตอนท้ายประโยคศิริวรรณย้อนถามชัยพรกลับไป ซึ่งชัยพรก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนที่วีณาจะถามขึ้นว่า

“แล้วเดิมพันครั้งนี้พี่วรรณกับพี่ชัยคิดว่าใครจะชนะคะ”

“เฮ้อ! พี่ว่าต้าแพ้ตั้งแต่ตอบตกลงรับเดิมพันกับคุณกฤตแล้วล่ะ” ศิริวรรณตอบยิ้มๆ ในขณะที่วีณาเบิกตากว้าง ส่วนชัยพรหัวเราะเบาๆ อย่างขบขัน


วันนี้เป็นวันหยุดประจำเดือนของร้านมุมสบายฯ ดังนั้นกฤตตะวันจึงขับรถมารับศันลิตาไปเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าด้วยกันตามลำพัง ชายหนุ่มจูงมือหญิงสาวเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่เร่งรีบนัก ศันลิตาพยายามจะดึงมือตัวเองออกจากมือเขาหลายครั้งหลายหนแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะกฤตตะวันไม่ยอมปล่อย ในที่สุดหญิงสาวก็จำต้องปล่อยให้คนร่างสูงจูงมือเธอเดินอย่างอ่อนใจถึงแม้ว่าจะรู้สึกเขินกับสายตาของผู้คนที่มองมาก็ตาม

“คุณไม่อยากซื้อเสื้อผ้าสวยๆ บ้างเหรอ” กฤตตะวันถามขึ้นหลังจากที่เขาพาศันลิตาเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าชื่อดังหลายร้าน แต่หญิงสาวก็แค่เดินดูเฉยๆ โดยไม่มีทีท่าสนใจหรือว่าอยากจะซื้อผ้าเลยสักตัว จนกระทั่งเขาพาเธอเดินเข้ามานั่งพักอยู่ภายในร้านไอศกรีมชื่อดังแห่งนี้

“ทำไมคุณคิดว่าเสื้อผ้าที่ฉันใส่อยู่มันไม่สวยรึไง” หญิงสาวถามเสียงขุ่น ชายหนุ่มเลยหัวเราะเบาๆ กับคำถามเอาเรื่องของอีกฝ่าย พลางมองดูชุดที่ศันลิตาสวมมาออกเดทกับเขาครั้งแรกอันได้แก่เสื้อเชิ้ตแขนสามส่วนลายสก๊อตสีชมพูสลับขาวตัวเสื้อเข้ารูปกับกางเกงยีนขายาวและรองเท้าสานรัดส้นแบบสบายๆก่อนจะตอบว่า

“ไม่ใช่ซะหน่อย คุณแต่งตัวแบบนี้ผมชอบนะดูสบายๆ ดี ที่ผมถามก็เพราะเห็นว่าผู้หญิงส่วนมากเค้าชอบซื้อเสื้อผ้ากับเครื่องสำอางกัน แต่ผมเดินมากับคุณตั้งนานยังไม่เห็นคุณอยากซื้ออะไรสักอย่างก็เลยสงสัย”

“คุณจะซื้อให้ฉันรึไง” ศันลิตาแกล้งถามพลางตักไอศกรีมขึ้นรับประทาน

“ถ้าคุณอยากได้ผมก็เต็มใจซื้อให้คุณอยู่แล้ว” กฤตตะวันบอก ศันลิตาเบ้หน้าทันทีก่อนจะพูดว่า

“ไม่ต้องมาทำตัวเป็นอาเสี่ยกับฉันเลย เพราะว่าฉันไม่ใช่อีหนูของคุณ ถ้าฉันอยากได้อะไรฉันก็จะซื้อเอง แต่ที่ฉันไม่ซื้อก็เพราะว่าเสื้อผ้าฉันมีเยอะแยะพอใส่อยู่แล้วจะไปซื้อมาเพิ่มอีกทำไมให้เปลืองเงิน ทำงานมาเหนื่อยจะแย่กว่าจะได้เงินสักบาทเรื่องอะไรฉันจะเอามาใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายโดยไม่จำเป็น”

กฤตตะวันมองใบหน้าเนียนสวยของหญิงสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาตักไอศกรีมรับประทานด้วยแววตาเอ็นดูพลางยิ้มแล้วพูดว่า

“ก็เพราะคุณเป็นแบบนี้ไง ผมถึงได้ชอบคุณ”

ศันลิตาชะงักมือที่กำลังจะตักไอศกรีมทันทีพลางเงยหน้ามองคนพูดแล้วก็เกิดอาการหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นสายตาอ่อนโยนของเขาที่ทอดมองมาพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจหญิงสาววูบไหวอย่างประหลาด

“ไม่เห็นต้องมาพูดหวานๆ แบบนี้กับฉันเลย เลี่ยน” ศันลิตาพูดแก้เขินก่อนจะก้มหน้าก้มตาตักไอศกรีมรับประทานต่อ หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายที่กำลังนั่งพูดคำหวานส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้เธออยู่ในขณะนี้จะเป็นคนเดียวกับผู้ชายท่าทางขี้เก๊ก เย่อหยิ่ง พูดจากวนประสาทที่เธอพบบนเครื่องบิน

“คุณเขินล่ะสิ” กฤตตะวันกระเซ้าหญิงสาวพลางหัวเราะเบาๆ เวลาอยู่กับเธอชายหนุ่มรู้สึกสบายใจและเป็นตัวของตัวเองมาก ศันลิตาเป็นผู้หญิงคนแรกที่สามารถทำให้เขายิ้มและหัวเราะได้บ่อยครั้งเพราะความที่เธอเป็นคนทำตัวง่ายๆ น่ารักเป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนผู้หญิงหลายคนที่เกศวรางค์เคยพยายามจะจับคู่ให้เขาเพราะแต่ละคนพยายามทำตัวสวย เลิศหรูอยู่ตลอดเวลาจนดูไม่เป็นธรรมชาติ และทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัดเสมอเวลาที่ต้องไปไหนมาไหนกับหญิงสาวเหล่านั้น

เมื่อออกมาจากร้านไอศกรีมกฤตตะวันก็จูงมือศันลิตาเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าที่หญิงสาวเคยเจอเขากับเกศวรางค์ ก่อนจะขอร้องให้ศันลิตาช่วยเลือกเสื้อเชิ้ตให้เขาใส่ไปทำงานสักตัว

“คุณเลือกเสื้อเองไม่เป็นรึไงถึงต้องให้ฉันเลือกให้” หญิงสาวถามอย่างหมั่นไส้พลางจับเสื้อเชิ้ตที่แขวนโชว์อยู่บนราวขึ้นมาดูทีละตัว

“ผมเลือกเสื้อเองเป็นแต่ว่าวันนี้ผมอยากจะให้คุณช่วยเลือกให้” ชายหนุ่มตอบ

“ท่าทางคุณคงจะให้ผู้หญิงช่วยเลือกเสื้อผ้าให้เป็นประจำล่ะสิ” ศันลิตาค่อนขอด

“นอกจากคุณแม่กับพี่เกศแล้วผมไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนเลือกเสื้อให้เลยคุณคือคนแรกนะต้า” กฤตตะวันบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนคนฟังรู้สึกได้ และทำให้ใจของศันลิตาเต้นแรงขึ้นมาทันทีเพราะคำพูดประโยคเมื่อครู่ของชายหนุ่มหมายความว่านอกจากมารดากับพี่สาวแล้วเธอคือคนพิเศษของเขา

หลังจากเดินเลือกอยู่ครู่หนึ่งศันลิตาก็ส่งเสื้อเชิ้ตสีน้ำงินสดตัวหนึ่งให้ชายหนุ่ม กฤตตะวันรับเสื้อไปถือเอาไว้ก่อนจะใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่จูงมือหญิงสาวให้เดินตามไปยืนรอเขาที่หน้าห้องลองเสื้อด้วย หลังจากหายเข้าไปในห้องครู่หนึ่งชายหนุ่มก็เปิดประตูออกมาพลางถามหน้าตาเฉย

“เป็นไงคุณ ผมหล่อมั้ย”

ศันลิตาแทบกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่กับคำถามประมาณว่าหลงตัวเองของชายหนุ่ม แต่จะว่าไปแล้วเธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเขาไม่หล่อ แล้วเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินสดที่กฤตตะวันกำลังสวมอยู่ก็ช่วยขับให้ผิวของเขาที่ขาวอยู่แล้วดูเด่นชัดมากยิ่งขึ้นด้วย

“ก็พอดูได้นะคุณ” หญิงสาวแกล้งตอบแล้วก็เห็นคนหล่อทำตาขุ่นหน้าบึ้งอย่างขัดใจทันที แต่เพียงครู่เดียวเขาก็อมยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วก้มตัวลงมาจนใบหน้าคมเข้มอยู่ห่างจากใบหน้าเนียนใสไม่ถึงคืบพลางบอก

“ตกลงผมเอาเสื้อตัวนี้แหละ เดี๋ยวคุณช่วยแกะกระดุมตรงคอเสื้อให้ผมหน่อยสิ”

“คุณก็เข้าไปแกะเองในห้องสิ ทำไมต้องให้ฉันแกะให้ด้วยล่ะ”

“ผมแกะเองไม่ถนัดนี่ คุณช่วยแกะให้ผมหน่อยสินะคุณนะ” ท้ายประโยคกฤตตะวันทำเสียงอ้อนเสียจนพนักงานขายของร้านซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลนักถึงกับเผลอหัวเราะคิกออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ด้วยความเอ็นดูเมื่อเห็นหนุ่มหล่อร่างสูงก้มตัวลงมาพยายามออดอ้อนแฟนสาวให้ช่วยแกะกระดุมเสื้อให้

“คุณนี่ไม่รู้จักอายบ้างรึไงนะ ทำไมจะต้องมาอ้อนฉันต่อหน้าคนอื่นด้วย” ศันลิตาต่อว่าชายหนุ่มตาขวางพลางเอื้อมมือขึ้นไปพยายามแกะกระดุมตรงคอเสื้อให้เขา

“ก็อ้อนให้คุณรักผมไง” กฤตตะวันตอบพลางขยิบตาให้หญิงสาวพร้อมด้วยรอยยิ้มละลายใจ ก่อนจะกระซิบให้ศันลิตาได้อายอีกว่า “แล้วผมก็อยากให้คุณฝึกเอาไว้ก่อนด้วย เพราะเวลาที่แต่งงานกันไปแล้วคุณจะต้องช่วยติดกระดุมแล้วก็แกะกระดุมเสื้อให้ผมทุกวัน”

“บ้า! ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าจะแต่งงานกับคุณ” หญิงสาวว่าพลางพยายามจะรีบแกะกระดุมเสื้อแต่มือไม้ก็ดูจะไม่เป็นใจเอาเสียเลยเพราะใบหน้าหล่อๆ ที่ก้มลงมาจนจมูกโด่งเป็นสันของเขาคลอเคลียอยู่ไม่ห่างจากแก้มของเธอนัก ใกล้เสียจนศันลิตารับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดลงมาบนแก้มเนียนที่เริ่มเป็นสีระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ

“เดี๋ยวพอครบกำหนดสามเดือนคุณก็ต้องตอบตกลงแต่งงานกับผมแน่นอน ว่าแต่หอมจังแก้มคุณรึว่าแชมพูนะ” คำถามท้ายประโยคของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวถึงกับผงะออกห่างจากร่างสูงทันทีและเพราะความรีบร้อนจึงทำให้ร่างระหงเสียหลักเพราะความลื่นของพื้นไม้

“ว้าย!” ศันลิตาอุทานด้วยความตกใจแต่เธอก็ไม่ได้ลื่นล้มไปอย่างที่กลัวเพราะวงแขนแข็งแรงของกฤตตะวันตวัดโอบกอดเอวบางไว้ได้ทัน ดังนั้นขณะนี้ร่างเพรียวระหงของหญิงสาวจึงยืนแนบชิดอยู่กับร่างสูงของชายหนุ่มชนิดที่ว่าเธอรู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจเขาเลยทีเดียว

“คุณนี่ซุ่มซ่ามตลอดเลยนะ” กฤตตะวันก้มหน้าลงตำหนิหญิงสาวในอ้อมกอดอย่างไม่จริงจัง และรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้กอดร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกอย่างใกล้ชิด

“ปล่อยฉันได้แล้ว” ศันลิตาบอกพลางรีบดันตัวออกจากอ้อมกอดของกฤตตะวันใบหน้าของเธอร้อนผ่าวไปหมดเพราะความอับอายกับสายตาของพนักงานในร้านซึ่งขณะนี้กำลังซุบซิบกันไปมาพลางอมยิ้มเป็นแถวกับภาพประทับใจเมื่อครู่

หญิงสาวอายจนไม่รู้จะทำยังไงและสิ่งที่ศันลิตาทำได้ก็คือไล่ให้กฤตตะวันรีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อแล้วไปจ่ายเงินก่อนจะลากชายหนุ่มออกไปจากร้านเสื้ออย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีของคนร่างสูงเมื่อเห็นอาการเขินอายของเธอ

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในตอนหนึ่งทุ่มเศษเป็นของเพทายที่โทรเข้ามาหลังจากที่กฤตตะวันขับรถมาส่งศันลิตาแล้วลากลับไปและหญิงสาวเพิ่งจะเดินขึ้นมาถึงห้องนอนได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น เมื่อกดรับสายเพื่อนรักของเธอก็ยิงคำถามรัวมาเป็นชุดทันที

“วันนี้ฉันไปหาเธอที่ร้านแต่พี่วรรณบอกว่าเธอไปเดทกับคุณกฤต มันหมายความว่ายังไงแล้วเธอไปตอบตกลงเป็นแฟนกับคุณกฤตตั้งแต่เมื่อไหร่กันยะ ฉันงานยุ่งไม่ได้ไปหาเธอแค่ไม่กี่วันเธอปล่อยให้ฉันตกข่าวแบบนี้เลยเหรอ”

“มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกนะเพทาย” แล้วศันลิตาก็เล่าเรื่องราวข่าวลือต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมาให้เพื่อนรักฟัง รวมทั้งเรื่องการเดิมพันระหว่างเธอกับกฤตตะวันด้วย

เมื่อเพทายรู้เรื่องทั้งหมดก็หัวเราะอย่างขบขันก่อนจะบอกมาว่าเดิมพันครั้งนี้ศันลิตาจะต้องพ่ายแพ้กฤตตะวัน เพทายเชื่อว่ากฤตตะวันชอบศันลิตาจริงๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ยอมลงทุนปล่อยข่าวว่าตนเองเป็นแฟนกับเธออย่างแน่นอน พร้อมทั้งแนะนำให้หญิงสาวตอบตกลงเป็นแฟนกับกฤตตะวันเสียจะได้ไม่ต้องเสียเวลานานถึงสามเดือน แต่ศันลิตาก็ยืนกรานกับเพื่อนรักไปว่าจะไม่มีวันยอมแพ้กฤตตะวันเด็ดขาดและเชื่อว่าเหตุผลที่ชายหนุ่มต้องการเป็นแฟนกับเธอก็เพียงเพราะว่าเขาอยากเอาชนะและต้องการแกล้งศุภโชคโดยใช้ศันลิตาเป็นเครื่องมือ

“ถ้าเธอคิดอย่างนั้นแล้วทำไมถึงยอมรับเดิมพันกับคุณกฤตล่ะ” เพทายถามมา

“ที่ฉันยอมรับเดิมพันกับเค้าก็เพราะว่าถ้าฉันชนะเดิมพันเค้าจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉันตามสัญญาไง”

“ยัยต้าเอ้ย! เธอลืมไปรึเปล่าว่าครั้งนี้เธอวางเดิมพันเอาไว้สูงมากเลยนะ เพราะว่าเธอเดิมพันด้วยหัวใจ เธอจะแน่ใจได้ยังไงว่าเธอจะไม่ไปหลงรักคุณกฤตเข้า”

ศันลิตาอึ้งไปครู่หนึ่งกับคำพูดของเพื่อนรัก ที่เพทายพูดมาไม่ผิดเลยสักนิดเพราะว่าวันนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เธอได้ไปเดินเที่ยวกับชายหนุ่ม กฤตตะวันสามารถทำให้ศันลิตาใจเต้นโครมครามใบหน้าร้อนวูบวาบและหวั่นไหวอยู่ตลอดเวลาก็เพราะรอยยิ้มกับแววตาของเขา

“แน่ใจสิ ฉันไม่มีทางหลงรักเค้าหรอกน่าฉันจะไม่ยอมแพ้เดิมพันครั้งนี้เด็ดขาด” ในที่สุดศันลิตาก็บอกเพื่อนรักไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยมั่นคงนัก

กฤตตะวันเลิกคิ้วเข้มขึ้นด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นเกศวรางค์นั่งดูรายการโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่นตามลำพังทั้งที่อีกฝ่ายบอกว่าคืนนี้จะไปงานเลี้ยงกับบิดามารดาหลังกลับมาจากการช้อปปิ้งกับกลุ่มเพื่อนที่นัดกันเอาไว้ในช่วงกลางวัน

“อ้าว! พี่เกศไหนบอกว่าคืนนี้จะไปงานเลี้ยงกับคุณพ่อคุณแม่ไม่ใช่เหรอครับ” กฤตตะวันถามพลางนั่งลงบนโซฟาตัวที่ว่างอยู่

“พี่เปลี่ยนใจอยู่บ้านเพราะว่าอยากจะรอดูพฤติกรรมของน้องชายสุดที่รักไง’” เกศวรางค์ตอบหน้าตาเฉย

กฤตตะวันชี้นิ้วเข้าหาตัวเองพลางถามด้วยน้ำเสียงขบขัน

“รอดูพฤติกรรมผมนี่นะ ผมทำอะไรผิดมิทราบครับคุณพี่สาวคนสวย”

“พอดีว่าเมื่อกลางวันตอนที่พี่กำลังเดินช้อปปิ้งอยู่กับเพื่อนๆ พี่บังเอิญเห็นหนุ่มหล่อหน้าตาคุ้นๆ คนนึงกำลังนั่งกินไอศกรีมอยู่กับผู้หญิงสวยหน้าตาคุ้นๆ ที่ดูเหมือนจะชื่อว่าศันลิตา ท่าทางสวีทกันมากด้วย นี่แสดงว่านายกับต้าตกลงเป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ย แล้วทำไมถึงไม่ยอมบอกพี่บ้าง ข่าวดีแบบนี้ทำไมต้องปิดบังกันด้วยยะนายตัวดี”

“ผมไม่ได้ปิดบังนะครับ แต่ที่ยังไม่ได้บอกพี่เกศก็เพราะว่าเค้ายังไม่ยอมตอบตกลงเป็นแฟนกับผม”

“หมายความว่ายังไงที่บอกว่าต้าเค้ายังไม่ยอมตอบตกลงเป็นแฟนกับนาย” เกศวรางค์ถามอย่างไม่เข้าใจ

กฤตตะวันจึงเล่าเรื่องการเดิมพันระหว่างเขากับศันลิตาให้พี่สาวฟัง พอฟังจบเกศวรางค์ก็ส่ายหน้าในความเจ้าเล่ห์แสนกลของน้องชายที่ใช้การเดิมพันเป็นข้ออ้างเพื่อหาทางใกล้ชิดกับศันลิตาอย่างแนบเนียนเพื่อให้หญิงสาวหลงรักตนเอง

“ใครนะที่เคยบอกว่าไม่มีทางเอาคนซุ่มซ่ามมาเป็นแฟน แต่ตอนนี้กลับถึงขั้นวางแผนหลอกให้เขาเดิมพันกับตัวเองเพื่อหาทางใกล้ชิดทำให้เขาหลงรัก”

“สถานการณ์เปลี่ยนความรู้สึกของผมก็ต้องเปลี่ยนบ้างสิครับ ผมชอบที่เค้าเป็นคนตรงไปตรงมา ทำตัวง่ายๆ ถึงจะซุ่มซ่ามเป็นบางครั้งแต่ก็น่ารักดี” กฤตตะวันพูดพลางยิ้มอ่อนโยนเมื่อนึกถึงใบหน้าของศันลิตา

“พี่คิดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่านายจะต้องชอบเค้า”

“ทำไมพี่เกศถึงคิดว่าผมจะชอบเค้าล่ะครับ” กฤตตะวันถามพี่สาวอย่างนึกขำ

“ก็เพราะว่าพี่รู้จักนิสัยนายดีน่ะสิ คนอย่างนายถ้าไม่สนใจผู้หญิงคนไหนนายจะไม่มีวันไปตามตอแยตามแกล้งเค้าแบบนั้นหรอก จริงมั้ยล่ะ”

“เกลียดชะมัดเลยคนรู้ทัน” กฤตตะวันบ่นพลางส่ายหน้า เกศวรางค์หัวเราะพลางขยับลุกขึ้นยืน

“ถ้าไม่รู้ทันจะเป็นพี่สาวของนายได้ยังไง พยายามเข้าล่ะน้องชายสุดที่รักอย่าให้แพ้เดิมพันเชียวนะ เดี๋ยวพี่จะอดมีน้องสะใภ้น่ารักๆ ” พูดจบเกศวรางค์ก็เดินออกไปจากห้องนั่งเล่นทันที

กฤตตะวันขยับลุกขึ้นยืนบ้างก่อนจะเดินอย่างช้าๆ เพื่อขึ้นไปยังห้องนอน ชายหนุ่มอมยิ้มนิดๆ เมื่อนึกถึงศันลิตากับเหตุการณ์ในร้านเสื้อเมื่อตอนกลางวัน ก่อนจะบอกกับตัวเองอยู่ในใจว่าเขาจะไม่มีทางยอมแพ้การเดิมพันครั้งนี้เด็ดขาด ในเมื่อเขาเดิมพันด้วยหัวใจเพราะฉะนั้นเขาก็ควรจะได้หัวใจของศันลิตากลับมาเป็นรางวัลด้วยเช่นกัน

แพรกำลังเก็บข้าวของใส่กระเป๋าสะพายหลังจากหมดชั่วโมงเรียนในตอนบ่ายสามโมง หญิงสาวตั้งใจว่าจะแวะไปที่ร้านมุมสบายฯ ก่อนกลับบ้านเพราะต้องไปเอาหนังสือเรียนที่เธอลืมเอาไว้ที่ร้านเนื่องจากต้องใช้เรียนในวันพรุ่งนี้

“วันนี้ไปเดินเล่นที่ห้าง...กันมั้ยแพร” เสียงนฤมลเพื่อนสนิทคนสวยของแพรซึ่งกำลังเก็บข้าวของใส่กระเป๋าอยู่เช่นกันเอ่ยชักชวนขึ้น

“วันนี้คงไม่ได้หรอกมล ฉันต้องแวะไปที่ร้านเอาหนังสือเรียนที่ลืมไว้เพราะพรุ่งนี้ต้องใช้เรียน”

“ไปร้านหนังสือที่เธอทำงานพาร์ทไทม์เหรอ ดีนะถ้างั้นฉันขอไปกับเธอด้วยคนสิ แล้วก็ขอตามไปนั่งเล่นที่บ้านเธอต่อสักพัก ค่ำๆ ค่อยกลับบ้านดีกว่า เพราะกลับไปตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่บ้านสักคนน่าเบื่อจะตาย” นฤมลพูดด้วยน้ำเสียงสุดแสนซ็งพอๆ กับสีหน้า

แพรมองเพื่อนสนิทอย่างเข้าใจครอบครัวของนฤมลจัดว่ามีฐานะดีพอสมควร แต่ค่อนข้างมีปัญหาเพราะบิดาของนฤมลมีภรรยาน้อยจึงไม่ค่อยกลับบ้าน ส่วนมารดาก็ไปชอบสังสรรค์กับเพื่อนฝูงวัยเดียวกันและติดการพนัน ในขณะที่พี่สาวคนเดียวของนฤมลแยกตัวออกไปซื้อบ้านอยู่ตามลำพังจะแวะมาเยี่ยมบ้านแค่เพียงเดือนละครั้งเท่านั้น ดังนั้นนฤมลจึงค่อนข้างโดดเดี่ยวและมีอาการเบื่อบ้านที่เงียบเหงา ถ้าวันไหนเลิกเรียนเร็วอีกฝ่ายจึงมักจะชวนแพรไปเดินเล่นที่นั่นที่นี่เสมอหรือไม่ก็ขอตามไปนั่งเล่นที่เธอเป็นประจำ

“ไปสิมล เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปซื้อขนมไทยร้านพี่เอยด้วย ที่ฉันเคยซื้อมาแล้วเธอบอกว่าอร่อยไง” แพรบอกอีกฝ่ายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งนฤมลก็ยิ้มรับอย่างยินดีพลางรีบเก็บของใส่กระเป๋า

จากนั้นสองสาวก็เดินคุยกันเดินออกมายืนรอรถประจำทางอยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัย โดยใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก็เดินทางมาถึงร้านมุมสบายฯ

“สวัสดีค่ะพี่ๆ ทุกคน” แพรส่งเสียงทักทายทุกคนอย่างร่าเริงเมื่อเปิดประตูร้านเดินนำนฤมลเข้าไป

“อ้าว! แพรทำไมวันนี้ถึงมาได้ล่ะจ๊ะ” ศันลิตาทักถามด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายแวะมาที่ร้านในตอนเย็นแบบนี้

“แพรแวะมาเอาหนังสือเรียนที่ลืมไว้ค่ะพี่ต้า พอดีว่าพรุ่งนี้ต้องใช้เรียนค่ะ” แพรตอบก่อนจะแนะนำให้นฤมลรู้จักกับศันลิตาและคนอื่นๆ ในร้านก่อนจะขอตัวขึ้นไปหยิบหนังสือเรียนที่ลืมเอาไว้บนชั้นสอง ศันลิตากับทุกคนจึงชวนนฤมลพูดคุยอย่างเป็นกันเองจนกระทั่งแพรกลับลงมา

“อุ๊ย! คุณต้าคะแฟนคุณต้ามาแล้วค่ะ” วีณาบอกศันลิตาด้วยน้ำเสียงล้อเลียนเมื่อเห็นรถของกฤตตะวันแล่นเข้ามาจอดที่หน้าร้าน ศันลิตาเลยหันไปค้อนวีณาพร้อมทั้งแย้งว่ากฤตตะวันยังไม่ใช่แฟนเธอ ในขณะที่คนอื่นๆ พากันอมยิ้มกับท่าทางเขินของหญิงสาว

ส่วนนฤมลนั้นกำลังรอดูอยู่ด้วยใจจดจ่อว่าเจ้าของรถสปอร์ตคันหรูสีดำราคาแพงที่วีณาล้อว่าเป็นแฟนของศันลิตาจะหล่อเหลาเหมาะสมกับหญิงสาวสวยเจ้าของร้านหนังสือแห่งนี้หรือไม่ แล้วเธอก็ไม่ผิดหวังเพราะว่าชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินสดกับกางเกงสแล็คสีดำที่เพิ่งจะก้าวลงมาจากรถหล่อเหลาเฉียบขาดบาดตาเหมาะสมกับศันลิตามากมาย จนนฤมลต้องหันไปกระซิบชื่นชมความหล่อของเขากับแพรเบาๆ

“ทำไมวันนี้คุณมาเร็วจัง นี่เพิ่งจะบ่ายสี่โมงนิดหน่อยเองนะ” ศันลิตาถามขึ้นเมื่อกฤตตะวันเดินเข้ามาในร้าน ชายหนุ่มยิ้มพรายก่อนจะตอบด้วยเสียงที่ไม่เบาเพราะจงใจให้ทุกคนได้ยินกันทั่วหน้า

“พอดีวันนี้ผมทำงานเสร็จเร็วก็เลยรีบมาที่นี่ เพราะว่าผมคิดถึงคุณ”

“โห! คุณกฤตมาถึงก็หวานกับคุณต้าเลยนะคะ” วีณาแซวขึ้นทันที

“นั่นสิ จะพูดอะไรก็เกรงใจคนยังไม่มีแฟนบ้างนะครับคุณกฤต” ชัยพรเสริมขึ้นอีกคน ส่วนศิริวรรณ แพรและนฤมลพากันหัวเราะเบาๆ อย่างขบขัน

“มาถึงก็เลี่ยนเลยนะคุณ” ศันลิตาว่าเสียงขุ่นพลางมองค้อนคนปากหวานที่กำลังทำให้เธอเขินจนไม่รู้จะเขินยังไงแล้ว ในขณะที่กฤตตะวันยืนยิ้มอย่างเอ็นดูกับท่าทางเขินของหญิงสาว

“แล้วทำไมวันนี้แพรมาอยู่ที่นี่ล่ะ มาทำโอทีรึไง” กฤตตะวันทักถามหญิงสาวรุ่นน้องอย่างล้อๆ

“พอดีแพรแวะมาเอาหนังสือเรียนที่ลืมไว้เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว เดี๋ยวก็จะกลับแล้วค่ะพี่กฤต” แพรตอบก่อนจะหันไปทางนฤมลที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วแนะนำให้เพื่อนรักกับกฤตตะวันได้รู้จักกัน

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” กฤตตะวันพูดกับนฤมลพลางส่งยิ้มให้อีกฝ่ายตามมารยาท ก่อนจะเอ่ยขอตัวไปเตรียมตัวทำงาน จากนั้นชายหนุ่มก็จูงมือศันลิตาเดินเข้าไปทางหลังร้านทันที

สักพักกฤตตะวันก็ยกหนังสือเดินตามหลังศันลิตาออกมาจำนวนหนึ่งแล้วช่วยหญิงสาวจัดหนังสือเข้าชั้น ในระหว่างที่จัดหนังสือชายหนุ่มก็แกล้งวางหนังสือสลับกันไปมาไม่ถูกหมวดทำให้ศันลิตาต้องไปไล่ตามจัดใหม่พลางหาเรื่องเย้าแหย่ต่อล้อต่อเถียงกับหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองทั้งคู่ด้วยความขบขัน

“พี่กฤตนี่ขยันหาเรื่องแกล้งพี่ต้าได้ตลอดเวลาจริงๆ เลย” แพรพูดอย่างขำๆ

“น่ารักดีออก แอบถ่ายรูปหนุ่มหล่อสาวสวยเก็บไว้ดูเล่นดีกว่า” นฤมลพูดพลางยกโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นถ่ายรูปกฤตตะวันกับศันลิตาที่กำลังช่วยกันจัดหนังสือเอาไว้อย่างนึกสนุก



แก้วแสงจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 มิ.ย. 2557, 20:46:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 มิ.ย. 2557, 20:46:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 1074





<< ตอนที่ 13   ตอนที่ 15 >>
yimyum 16 มิ.ย. 2557, 21:25:26 น.
จะเอารูปไปทำไรไหมว้าาาาา~~


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account