เงารักเงาใจ
เมื่อ...



เขาและเธอต้องใช้ชีวิตคู่โดยปราศจากความรัก





และ…



เขา ชายหนุ่มผู้ที่เคยพึงพอใจผู้หญิงอีกคนแต่กลับ

ต้องแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน





ส่วน…

เธอ หญิงสาวผู้ชอกช้ำจากความรัก

และใช้การแต่งงานกับผู้ชายอีกคนเพื่อตัดใจจากคนรักเก่า





แต่…

จะเป็นเช่นไรเมื่อคนที่เขาพยายามลืมกลับจำ

และ...คนที่เป็นรักแรกของเธอต้องการจะรื้อฟื้น





เรามาช่วยกันลุ้นกับพวกเขาสองคนว่า

จะสามารถฟันฝ่า อุปสรรคไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่

ใน นิยายรักดราม่า

เงารักเงาใจ

(เปลี่ยนชื่อจากสุดรักจากใจ)




Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: เงารักเงาใจ ตอนที่ 3 50 เปอร์เซ็นต์




ตกเย็นที่สระว่ายน้ำใหญ่ สุปรางวดีนั่งเอาเท้าแช่น้ำปลดปล่อยอารมณ์ไปกับสายน้ำเย็น ใบหน้าหวานนึกคิดไปเรื่อยเปื่อยจนไม่ได้ยินเสียงคนเรียกหากระทั่งคนๆ นั้นมานอนเอาศีรษะหนุนตักเธอ หญิงสาวสะดุ้งแล้วมองเห็นเป็นภาคดนัยอดต่อว่าเขาไม่ได้



“คุณมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ฉันตกใจหมด” ภาคดนัยอมยิ้มหลับตาปริ่ม



“ผมต่างหากที่ต้องถามคุณ มัวใจลอยคิดอะไรอยู่ถึงไม่ได้ยินเสียงผมเรียก” สุปรางวดีอ้าปากค้าง อีกฝ่ายลืมตาขึ้นมามอง “คิดอะไรอยู่ครับ” สุปรางวดียิ้มมุมปากก้มลงมองน้ำในสระ ขาสองข้างก็ไขว่ไปมาเบาๆ



“คุณสุ เธอเก่งนะคะ” ภาคดนัยเลิกคิ้วแต่ก็มีพยักหน้าฟังเธอพูดต่อ “เธอดูเป็นสาวมั่น ทำงานเก่ง ดูเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง”



“ใช่ กุสุมาเป็นแบบนั้น” ภาคดนัยย้ำให้เธอ



“แล้วเธอก็ดูดีและสวยมาก” ภาคดนัยเลิกคิ้วแล้วลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิ สายตามองเธออย่างประหลาดใจ



“พูดแบบนี้ คุณคิดอะไรอยู่หรือครับ” สุปรางวดีหันมาถามเขา



“ทำไมคุณถึงไม่จีบเธอละคะ” ภาคกดนัยส่ายหน้า



“เหตุผลมีเพียงข้อเดียวคือ เธอเป็นเพื่อนผม”



“ทำไมล่ะคะ เป็นเพื่อนกันแล้วรักกันไม่ได้หรือคะ”



“รักกันได้ครับแต่ต้องไม่ใช่แบบคนรัก เพราะเวลามีปัญหากันความเป็นเพื่อนจะกระทบไปด้วยซึ่งผมไม่อยากเสียเพื่อน”



“นักธุรกิจเขาคิดกันแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าคะ”



“หา” สีหน้าภาคดนัยดูงงมาก สุปรางวดีลุกขึ้นยืน ปากอิ่มก็พูดไปเรื่อย



“ก็ทำทุกอย่างอย่างมีแบบแผนถ้าไม่ได้กำไรก็ห้ามขาดทุน อย่างนั้น ที่คุณลงทุนแต่งงานกับฉันคุณหวังกำไรจากฉันมากน้อยแค่ไหนคะ” ภาคดนัยลุกขึ้นยืน มือสองข้างสอดกระเป๋ากางเกง



“มันคงเป็นเรื่องโกหกถ้าผมจะบอกว่าผมแต่งงานกับคุณไม่ได้หวังผลอะไรเลย แต่ผมก็ไม่ได้เอาเปรียบคุณ เราต่างก็หวังผลประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ ทั้งพ่อคุณ ป้าผม รวมทั้งตัวผมเอง ที่เห็นๆ ก็คงจะเป็นโครงการก่อสร้างโรงแรมแฝดนั่นที่กำลังดำเนินการอยู่ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าคุณคงจะเห็นโรงแรมนั่นและในอีกหลายๆ โครงการที่ผมกับพ่อของคุณเคยพูดคุยกันไว้ แต่คุณไม่ต้องกังวลไปนะ ถึงยังไงผมก็ไม่มีทางทิ้งคุณ ผมสัญญาเอาไว้ว่าจะแต่งงานเพียงแค่หนเดียวเท่านั้น” แม้คำพูดของเขาจะเน้นย้ำชัดเจนแต่สุปรางวดีก็ไม่อาจแน่ใจอะไรได้ ในวันข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเธอก็ยังไม่รู้ และในวันข้างหน้าเขาจะยังเป็นภาคดนัยคนเดิมที่เธอรู้จักอีกหรือเปล่า



“แล้วถ้าวันข้างหน้าคุณเกิดรักผู้หญิงคนหนึ่งจนหมดหัวใจ คุณจะทำยังไงกับฉันคะ” ภาคดนัยมองหน้าเธอแววตาแน่นิ่ง สุปรางวดีจ้องหน้าเขาตอบก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ ท่าทีของเขาแน่นิ่งจนตอนนี้เธอไม่อยากรู้อีกแล้วว่าคำตอบจากปากของเขาจะเป็นยังไง เท้าเล็กกำลังจะเดินจากแต่แล้วมือหนากลับรั้งเธอไว้ เอวเล็กถูกดึงเข้ามาก่อนจะตกมาอยู่ในอ้อมแขนของเขา มือเล็กสองข้างดันหน้าอกของเขาออกห่าง แต่ไม่สามารถพ้นจากพันธนาการจากมือหนาของเขาได้ ดวงตาสองคู่มองจ้องกันก่อนที่ใบหน้าคมจะโน้มหน้าเข้ามาใกล้ หญิงสาวเอียงหน้าหนี สัมผัสถึงปลายจมูกของเขาที่แตะแก้มเธอเบาๆ ภาคดนัยเปลี่ยนเป็นดึงเธอมากอดไว้



“ถ้าวันนั้นมีจริง ผมคิดว่าผู้หญิงที่ผมจะรักได้จนหมดหัวใจคงจะมีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณพร้อมที่จะมอบหัวใจของคุณให้ผมด้วยหรือเปล่า” สุปรางวดียืนนิ่ง ภาคดนัยคลายกอดแล้วถามเธออีกครั้ง



“แล้วคุณล่ะ คุณจะรักผมได้ไหม” สุปรางวดีสีหน้าแน่นิ่ง มือหนากระชับวงแขนให้แน่นขึ้นราวกับต้องการซึมซับความอบอุ่นจากกายเธอให้แนบชิด ปากอิ่มเอ่ยเสียงอ่อน



“สำหรับฉัน การเริ่มต้นที่จะรักใครใหม่มันต้องใช้เวลาค่ะ ซึ่งฉันคิดว่าคุณเองก็คงคิดไม่ต่างจากฉัน” คนพูดเอียงหน้ามองข้างเห็นใบหน้าคมเพียงครึ่งเสี้ยว ที่น่ามองสุดก็เห็นจะเป็นจมูกโด่งๆ ของเขา





เลิกงานแล้วแต่เพชรกล้ากลับมายืนอยู่หน้าคอนโดของสุปรางวดี สภาพเขาตอนนี้ไม่ได้เมาเหมือนหมาและมีสติดีทุกประการ ชายหนุ่มยืนนิ่งหน้าประตู สิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุดคือการได้อธิบายให้สุปรางวดีรู้ว่า การแต่งงานของเขาเป็นเพียงการชดใช้หนี้สินเท่านั้น



เสียงกริ่งดังขึ้นหนึ่งครั้งแต่เมื่อยังไม่เห็นปฏิกิริยาใดๆ จากคนในห้อง มือหนาก็กดมันขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ถึงกับยืนทำหน้าไม่ถูกเมื่อคนที่เปิดประตูออกมาไม่ใช่สุปรางวดีแต่เป็นผู้ชายที่ไหนไม่รู้



“เออ นี่ใช่คอนโดคุณสุปรางวดีหรือเปล่าครับ” เพชรกล้าถามเสียงเรียบแต่แววตากึ่งสงสัย อีกฝ่ายตอบเสียงเรียบแต่แววตาสงสัยเช่นกัน



“ไม่ใช่ครับ นี่เป็นคอนโดของผม ผมเพิ่งซื้อมาสดๆ เมื่อเช้านี้เองครับ” เพชรกล้าเหมือนจุกพูดอะไรไม่ออก เท้าหนาทำหน้าที่เดินจากตรงนั้นแววตาเลื่อนลอย หากเป็นเรื่องที่เขามาหาเธอเมื่อคืนจนทำให้สุปรางวดีต้องขายคอนโดทิ้งมันก็เท่ากับว่าสุปรางวดีต้องการตัดใจและออกไปจากชีวิตของเขาถึงได้ตัดปัญหาด้วยการขายคอนโดทิ้ง เพื่อที่เขาจะได้ไม่สามารถมาหาเธอที่นี่อีก เท้าหนาเดินมาถึงรถ ยืนนิ่งสักพักแล้วเงยหน้าขึ้นมองยังชั้นคอนโดที่สุปรางวดีเคยอยู่ มีคำพูดหนึ่งออกมาจากปากเขา



“ต่อให้คุณจะหนีผมไปไหน ผมก็ไม่มีทางปล่อยคุณไป และผมก็ต้องหาทางแย่งคุณมาจากไอ้ผู้ชายเจ้าเล่ห์นั่น” เพชรกล้ากับตัวเอง





ที่บ้าน พิเศษกับกาญจนาเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยงแล้วต้องตกใจเมื่อเห็นลูกสะใภ้นั่งผงกหลับอยู่ที่โซฟาห้องโถง กาญจนาจะเดินเข้าไปปลุกแต่พิเศษห้ามไว้ก่อนหันมาเจอแหวนเดินเข้ามาพอดี



“แหวน นี่คุณดาหลับอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร” แหวนทำหน้าเศร้าแล้วตอบ



“หลับไปได้สักพักใหญ่แล้วค่ะ เพราะคุณดาบอกว่าจะรอทานข้าวกับคุณเพชรตั้งแต่เย็นแล้ว” กาญจนาทำหน้างง



“อ้าว แล้วตาเพชรไปไหนล่ะ นี่อย่าบอกนะว่ายังไม่กลับมา” แหวนพยักหน้ายิ้มเจื่อนๆ

ที่ผับแห่งหนึ่ง เพชรกล้ากำลังนั่งดื่มเหล้า แววตาสีหน้าเหมือนคนจมอยู่กับความทุกข์ที่ไม่สามารถระบายมันออกมาได้



เสียงรถดังขึ้น ธิดารัตน์สะดุ้งตื่นก่อนจะลุกขึ้นแล้วออกมารอรับเพชรกล้าถึงหน้าบ้าน ประตูรถเปิดออกปรากฏคนในร่างสูงสภาพดูไม่ค่อยได้ มือหนึ่งถือกระเป๋าทำงานส่วนสูทด้านนอกถูกพาดไปไว้ที่ไหล่ข้างเดียวกันกับที่ถือกระเป๋า ธิดารัตน์เข้ามาช่วยพยุงแต่ถูกอีกฝ่ายผลักออกห่าง



“ไม่ต้องมายุ่ง” เสียงนั้นดูยืดพอๆ กับที่ร่างนั้นทำท่าจะลงไปนั่งกับพื้นข้างรถ ธิดารัตน์วิ่งเข้าพยุงอีกครั้ง ครั้งนี้เหมือนตัวเขาจะหนักมากกว่าเดิม



“คุณเพชรค่ะ คุณเพชร” เธอพยายามเรียกสติเขาแต่ตอนนี้ทุกอย่างดูเงียบสงัด เหลือเพียงเสียงลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ



ร่างเล็กเหมือนจะพยุงไว้ไม่ไหวแต่จนแล้วจนรอดก็สามารถพาตัวเขามาถึงในบ้าน แหวนมาเห็นรีบเข้าช่วยพยุงทันทีก่อนทั้งสองจะพาร่างอันไร้สติของเพชรกล้ามาถึงห้องนอนอย่างทุลักทุเล ธิดารัตน์นั่งหายใจหอบอยู่ที่เก้าอี้ รอแหวนที่ลงไปเอากะละมังมาพร้อมผ้าสะอาด ไม่นานกะละมังใส่น้ำก็ถูกนำมาวางที่โต๊ะข้างเตียง ธิดารัตน์รับผ้าสะอาดมาจากมือแหวน ปากก็ไม่ลืมเอ่ยขอบคุณ



“ขอบใจมากนะจ๊ะพี่แหวน เอาละ เดี๋ยวฉันจะเช็ดหน้าเช็ดตัวให้คุณเพชร พี่แหวนไปพักเถอะ” แหวนพยักหน้าทำท่าจะเดินไปแล้วชะงักหันกลับมาถามใหม่



“แต่คุณดายังไม่ทานอะไรเลยนะคะ ตั้งแต่เที่ยงแล้ว” ธิดารัตน์ยิ้มให้แหวน



“เอาไว้ให้ฉันเช็ดตัวคุณเพชรเสร็จก่อนแล้วจะลงไปทานจ้ะ”



“ค่ะ งั้นแหวนไปนะคะ อ้อ ถ้าคุณดาต้องการอะไรเรียกหาแหวนได้ตลอดเวลาเลยนะคะ แหวนยังไม่นอนตอนนี้หรอกค่ะ พอดีติดละครภาคดึก” ธิดารัตน์พยักหน้ารับทราบ มองแหวนเดินออกจากห้องไป หันกลับมามองเพชรกล้าที่นอนนิ่ง กลิ่นเหล้าฟุ้งติดจมูก ธิดารัตน์ปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดจนหมดก่อนจะใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำบีบพอหมาด เมื่อน้ำเย็นๆ กระทบผิวกาย คนที่นอนนิ่งก็เริ่มดิ้นไปมา ธิดารัตน์ทำอะไรไม่ถูก มือเล็กจับมือเขาไว้ ปากอิ่มเรียกเขาเสียงตื่นๆ



“คุณเพชร คุณอยู่เฉยๆ ก่อนนะคะ ฉันจะเช็ดตัวให้คุณ คุณจะได้สบายตัว” เธอว่าพร้อมกับหยิบผ้าแล้วเช็ดตัวให้เขาแต่กลับถูกเขาจับมือไว้



เพชรกล้าลืมตาขึ้นมามองเห็นไม่ชัดว่าใครนั่งอยู่ข้างๆ แต่รู้ว่าเป็นผู้หญิงแล้วเขาก็มโนเองว่าเป็นสุปรางวดี เมื่อจิตใต้สำนึกของเขาจดจำแต่ใบหน้าของสุปรางวดี มือเล็กถูกมือหนาจับไว้แน่นก่อนจะดึงร่างนั้นให้ลงมานอนแนบกาย ธิดารัตน์เบิกตากว้างทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกฉุดให้ไปนอนข้างๆ เขา ศีรษะของเธอถูกมือหนากดไว้แนบอกส่วนมืออีกข้างของเขาก็พาดมากอดเอวบางของเธอ ไม่มีทางเลยที่หญิงสาวจะหลุดพ้นจากเขาไปง่ายๆ ร่างเล็กดิ้นไปมาอยู่ข้างๆ แต่แทบจะหยุดดิ้นในทันทีเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย



“ปรางค์ ผมคิดถึงคุณ ผมรักคุณ” ธิดารัตน์น้ำไหล หัวใจแตกสลาย การมาได้ยินสามีบอกรักผู้หญิงอื่นในขณะที่กำลังกอดเธอ มันเจ็บปวดที่สุด หญิงสาวเช็ดน้ำตาสะบัดตัวจนหลุดจากเขา ลุกขึ้นยืนมองเขาด้วยความผิดหวัง



กรงแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 มิ.ย. 2557, 00:58:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 มิ.ย. 2557, 00:58:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 1265





<< เงารักเงาใจ ตอนที่ 3 30 เปอร์เซ็นต์   เงารักเงาใจ ตอนที่ 3 75 เปอร์เซ็นต์ >>
Zephyr 25 มิ.ย. 2557, 23:31:45 น.
โอ้ย เจ็บปวด ซะมีที่น่า..... จริงๆเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account