สัญญารัก...ข้ามฟ้า (สนพ ดอกหญ้า 2000)
เอริน..ว่าที่มัคคุเทศก์คนใหม่วัย 25 ปี ที่โชคชะตานำพาให้พบกับใครบางคนที่แดนไกลในครั้งอดีต และต้องจากกันไป
ชานนท์..นักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัย 35 ปี เขากำลังกลับมาตามหาอดีตที่หายไปหลังจากปล่อยเธอไปเมื่อหนึ่งปีก่อน พร้อมกับมาทวงสัญญารักที่จะทำให้เธอต้องจนมุม...อีกครั้ง


Tags: สัญญารัก...ข้ามฟ้า , รักโรแมนติก , ซึ้งกินใจ

ตอน: ตอนที่ 17 ระหว่างรัก..และ..

ตอนที่ 17 ระหว่างรัก และ ....



ท่ามกลางแสงแดดสว่างจ้าจากภายนอก และไอร้อนอบอ้าวจากในตัวรถกระบะบุโรทั่งที่แอร์ไม่เย็นฉ่ำดั่งใจ เจ้าปื๊ดขับรถไปปาดเหงื่อไปอย่างร้อนรุ่มไปด้วยความอิจฉาตาร้อนคู่รักสองคนที่นั่งเบียดเสียดชิดกันอยู่อีกฝั่งของประตู เจ้าปื๊ดทำปากยื่นปากยาวบ่นขมุบขมิบอยู่คนเดียวอย่างนึกหมั่นไส้และพาลไพล่ไปคิดถึงใครอีกคนที่เขาชื่นชอบเป็นการส่วนตัวและอยากให้เป็นคู่กับเจ้านายสาวของตน

‘คุณกรณ์นะ คุณกรณ์ ศัตรูบุกถือดาบถึงหน้าบ้าน จะโดนเค้าฟันหัวใจซะแล้วละมั้งนึกว่าจะได้เป็นดองกันกับบ้านป้าพิมซะแล้วเชียว คุณรูปหล่อคนนี้โผล่มาไงเนี่ย..คนหล่อเซ็ง’

สีหน้าของเจ้าปื๊ดที่เคร่งเครียดผิดปกติทำเอาเอรินที่กำลังหยอกเย้าอยู่กับชานนท์ถึงกับชะโงกหน้ามามองเจ้าปื๊ดผ่านชานนท์ที่นั่งคั่นกลางด้วยสีหน้าหมั่นไส้นิดๆ “เป็นไรปื๊ด อิ๊ไม่ออกรึไง หน้าบูดไม่พูดไม่จาเลย ห๊ะ”

เอรินสัพยอกอย่างอารมณ์ดี ชานนท์ปรายตามองคนขับรถที่หน้าเหวอไปเล็กน้อยอย่างขำขันเมื่อได้ยินคำแซวของเอริน

“โธ่..คุณหนูคร๊าบ ผมกำลังเพ่งสมาธิมองตรงไม่ให้วอกแวกกับสิ่งยั่วยุใดๆอยู่นะคร๊าบ” เจ้าปื๊ดออดเสียงกลั้วหัวเราะ เอรินถึงกับขมวดคิ้วอย่างข้องใจ“สิ่งยั่วยุอะไรปื๊ด ไม่เห็นเข้าใจ”

เอรินส่งสายตามีคำถามมาให้ชานนท์ช่วยตีความ ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ แทนคำตอบ แล้วคว้ามือนุ่มมาจับไว้บนตักอย่างไม่ใส่ใจเจ้าปื๊ดเท่าใดนัก

“ก็คุณหนูกับคุณแฟนน่ะสิคร๊าบ ทำเอาปื๊ดหนาวๆร้อนๆอยากมีเมียมานอนกอดซักคน...โอ๊ย!! อะไรอ่ะคุณหนูมาหยิกปื๊ดทำไม”

เจ้าปื๊ดขับรถไปหลบหลีกมือเรียวขาวแต่หยิกเจ็บยังกับก้ามปูแทบไม่ทัน ชานนท์จึงรีบคว้ามือน้อยมากุมไว้ทั้งสองมือ ทำเอาเอรินต้องนั่งเอี้ยวมาพิงซบอกชานนท์แทบทั้งตัวอย่างจำยอมเมื่อมือน้อยทั้งสองถูกกักกันไว้แน่น

“เล่นซนเป็นเด็กๆไปได้ อย่าลืมสิเอริน อีกไม่นานเธอก็จะมีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วนะ เล่นซนเป็นเด็กๆอย่างนี้ว่าที่สามีคนนี้จะจับตีก้นซะให้เข็ดเลยดีมั๊ย”

ชานนท์พูดนิ่มๆแต่มองเอรินด้วยสายตาเชื่อมสื่อความนัย ทำเอาเอรินหน้าแดงแจ๋อย่างไปไม่เป็น ตอบไม่ถูกเมื่อเจอไม้นี้เข้าไป จนเจ้าปื๊ดได้แต่หัวเราะชอบใจที่เจ้านายสาวโต้ไม่ออก

“คึคึ เหนือฟ้ายังมีฟ้าจริงๆด้วย เหนือคุณหนูยังมีแฟนคุณหนูมาคอยกำหราบยังงี้ปื๊ดก็เบาใจ”

เจ้าปื๊ดพูดอย่างขบขันโดยไม่ทันสังเกตเห็นตาเขียวปั๊ดของเอรินที่ชักจะทนฟังต่อไปไม่ไหวเมื่อรู้ตัวว่ากำลังถูกรุม

“หุบปากไปเลยปื๊ด ระวังจะโดนไม่ใช่น้อย คุณก็อีกคนแทนที่จะเข้าข้างดันไปช่วยเจ้าปื๊ด ไปแต่งกับเจ้าปื๊ดเลยไป” เอรินค้อนขวับก่อนจะดึงมือออกจากการเกาะกุมมากอดอกตัวเองพิงประตูอีกด้านนิ่ง ชานนท์ได้แต่ยิ้มอย่างชอบใจ

“ตลกละ อุตส่าห์มาถึงนี่จะทิ้งความโสดไว้กับเธอ มายุให้แต่งกับเจ้าปื๊ดซะงั้น ฉันไม่ได้สเป็คแบบเจ้าปื๊ดนะ ฉันน่ะชอบตัวเล็กๆ ขาวๆ ไซร้เอสอย่างเธอมากกว่า จริงมั๊ย”

ชานนท์แสยะยิ้มให้เอรินอย่างเป็นต่อ เพียงเท่านั้นสาวน้อยถึงกับเงียบทันควันทันทีที่รู้ตัวว่าโดนสวนเข้าให้ เจ้าปื๊ดได้แต่มองเจ้านายสาวอย่างสงสัยแต่ไม่พูดอะไรซึ่งผิดวิสัยเจ้าตัวดีหนักหนา“ไม่รู้ จะบ้าแล้วคุณนี่”

เอรินค้อนขวับทำหน้าบึ้งเสไปมองข้างทางอย่างไม่สนใจชานนท์อีก จนชายหนุ่มเอาไหล่หนาของตนสะกิดต้นแขนเรียวเบาๆ“โอ๋...ไม่เอาน่าเอริน ฉันพูดเล่น นะ..อย่างอนเลยนะ” ชานนท์งอนง้อเอาใจ เอรินหันมายู่ปากใส่แต่ก็มีรอยยิ้มออกมาได้เมื่อเห็นสีหน้าละห้อยของชายหนุ่ม

บรรยากาศราวกับมีโลกส่วนตัวของสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามัน เจ้าปื๊ดได้แต่กระแอมไอขัดจังหวะเพราะทนดูไม่ไหว“อะแฮ่ม..คุณครับเป็นยังไงบ้างมีแฟนเด็กต้องทำใจเนอะ คุณหนูของผมขี้งอนม๊ากถึงมากที่สุดเลยล่ะครับ”

“ว่าแต่คุณสองคนจะทำยังไง ใกล้ถึงบ้านแล้วนะ จะไม่บอกลุงกับป้าเรื่องนี้ได้เหรอ แหวนยังใส่ติดนิ้วอยู่เลยนะคุณหนู ป้าต้องสงสัยแน่ คุณหนูจะว่ายังไง”

เจ้าปื๊ดเอ่ยเป็นการเป็นงานเสียยาวเหยียด และประโยคต่อมาออกมาจากปากคนขี้เล่นอย่างเจ้าปื๊ดก็ทำเอาว่าที่ลูกเขยของบ้านสวนโฮมสเตย์ต้องคิดหนัก

“คุณคงตัดสินใจดีแล้ว และคงเป็นลูกผู้ชายพอ ผมหวังว่าคุณคงจะไม่ทำให้คุณหนูของพวกเราเสียใจนะครับ”

เพียงคำพูดเรียบๆของเจ้าปื๊ด เอรินถึงกับอมยิ้มในความห่วงใยราวกับครอบครัวเดียวกัน ในขณะที่ชานนท์นั่งตัวแข็งทื่อมือไม้เย็นเฉียบอย่างจนใจ เขาเป็นลูกผู้ชายพอที่จะรับผิดชอบชีวิตของเอรินได้แน่นอน แต่ที่ไม่สามารถพูดได้เต็มปากคือบางสิ่งบางอย่างที่แอบแฝงอยู่ในความคิดของเขา เขาจะทำอย่างไรให้เอรินได้รับรู้ถึงการกระทำทั้งหมดของเขาโดยไม่ขุ่นข้องหมองใจและพร้อมจะเดินเคียงข้างเขา

จะมีวันนั้นหรือไม่...ชานนท์ได้แต่คิดอย่างหนักใจ

‘ฉันรักเธอนะ..เอริน...แต่ฉัน...ฉัน’

แล้วชานนท์ก็หยุดความคิดของตนเองไว้แต่เพียงเท่านั้นเมื่อมองมาสบนัยน์ตากลมใสที่กำลังส่งประกายระริกมาอย่างมีความสุขพร้อมแนบศีรษะลงกับไหล่หนาของเขา แต่ก็ยังไม่วายเงยหน้ามาถาม “คิดอะไรคะ ตกใจปื๊ดขู่เหรอ”

“ปละ.. เปล่าจ้ะ ไม่มีอะไรหรอก ง่วงก็พิงลงมาเถอะ ถึงแล้วจะปลุกนะ”

ชานนท์ลูบศีรษะเอรินอย่างเอ็นดูรักใคร่แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างราวกับจะสกัดกั้นความรู้สึกผิดออกไปจากใจและพยายามที่จะไม่นึกถึงมัน

เอรินบริสุทธิ์นักเมื่อเทียบกับเขาที่กำลังถือดาบซ่อนไว้ข้างหลังโดยที่หล่อนไม่ทันได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

/////////////

และแล้วคฤหาสน์โบราณหลังงามของสิทธิ์ก็ได้มีโอกาสต้อนรับผู้มาเยือนคนใหม่เป็นหญิงสาวสวยเพื่อนสนิทของสริน..ลูกสาวคนโตของเขา และชายหนุ่มอ่อนวัยที่เป็นคนขับรถจำเป็นให้หล่อน สิทธิ์อมยิ้มเล็กน้อยอย่างชายชราใจดีขณะที่บังคับรถเข็นให้แล่นตรงมายังทิศทางที่เพื่อนรักของลูกสาวยืนอยู่ พร้อมทั้งจ้องมองบุรุษแปลกหน้าที่อยู่ในห้องด้วยอย่างสนใจ

ราเชลในชุดเดรสสั้นพอดีเข่าสีขาวแขนยาว ดูเรียบร้อยยืนหันหลังให้ประตูพร้อมทั้งมองภาพถ่ายในกรอบรูปสวยที่ตั้งไว้อยู่บนชั้นไม่ไกลจากโต๊ะทำงานของสิทธิ์อย่างสนใจ แต่แล้วความสนใจของราเชลก็ต้องหยุดอยู่เพียงเท่านั้นเมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนดังแว่วอยู่ด้านหลัง

“นั่นรูปเจ้าอเล็กซ์ตอนอายุน่าจะประมาณซักสิบห้าได้ ดูดีใช่มั๊ย”

น้ำเสียงของชายชราเอ่ยถึงชายหนุ่มในภาพถ่ายอย่างเอ็นดู ทำเอาราเชลหันขวับมาทันทีที่ได้ยินเสียง ดวงตาเรียวสวยมีประกายระริกอย่างตื่นเต้น

“อ๊ะ..ค่ะ สวัสดีค่ะ คุณลุง” ราเชลเอ่ยทักทายพร้อมทำความเคารพบิดาของเพื่อนรักอย่างนอบน้อม

“ไม่ได้เจอกันนานเลย ดีใจที่ได้เจอหนูนะราเชล คุณพ่อสบายดีมั๊ย”

ชายชราลูบศรีษะหญิงสาวที่เคยคุ้นมาตั้งแต่เด็กอย่างเอ็นดูทันทีที่ราเชลมานั่งคุกเข่าเกาะรถเข็นของเขาอยู่ใกล้ๆอย่างดีใจ

“คุณพ่อสบายดีค่ะ หนูเพิ่งกลับมาจากโรงแรมของเราที่ครีต ก็เลยมีของฝากเล็กๆน้อยๆมาเยี่ยมคุณลุงค่ะ วันก่อนหนูเพิ่งโทรคุยกับแซนดี้ก็เลยรู้ว่าคุณแม่ของแมนนี่ย้ายมาอยู่ที่นี่กับคุณลุง แสดงว่าตอนนี้คุณลุงคงไม่เหงาแล้วใช่มั๊ยคะ”

ราเชลเสียงใสประจบเอาใจชายชราที่เป็นบิดาของเพื่อนรักสมัยเด็ก และเป็นคนที่ชานนท์นับถือยิ่งกว่าบิดาของตนเองก็ไม่ปาน“ก็ทำนองนั้นล่ะจ้ะ แล้วหนุ่มคนนั้นล่ะเป็นใคร”

คำถามของสิทธิ์ทำเอาราเชลเหลือบตาไปมองชายหนุ่มที่นั่งนิ่งทำตัวเรียบร้อยอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะแนะนำอย่างไม่ใส่ใจนัก“เขาชื่อกรณ์ เป็นคนขับรถส่วนตัวของหนูค่ะ ไม่มีอะไรน่าสนใจ คุณลุงอย่าไปสนใจเลยนะคะ”

ราเชลยิ้มประจบเอาใจชายชราโดยไม่ได้มองเลยว่าคนที่ถูกแอบอ้างตัวเป็นคนขับรถถึงกับยิ้มค้างหน้าหงิกไปทันที

“ว่าแต่หนูมาทำอะไรที่เมืองไทย ลุงได้ข่าวว่าหนูไปได้ดีกับอาชีพนางแบบที่ลอนดอนไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ได้กลับไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ที่นิวยอร์คบ้างรึเปล่า”

สิทธิ์ลูบศรีษะราเชลอย่างเอ็นดู เมื่อพูดถึงบิดามารดา ราเชลถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างหงอยเหงา นัยน์ตาคมเรียวมีน้ำตาคลอบางๆ

“ไม่ได้กลับไปเลยคะเกือบปีนึงแล้ว มีแต่คุณพ่อคุณแม่ที่บินมาเยี่ยมหนูที่ลอนดอนเมื่อปีที่แล้วค่ะ”

“ท่าทางจะลงหลักปักฐานที่ลอนดอนซะแล้วมั้งเรา ดีเหมือนกันนะ สรินกับแฟนเค้าก็กลับไปดูโรงแรมให้ลุงที่ลอนดอน หนูคงจะมีเพื่อนไม่ต้องทนเหงานะ แต่เจ้าอเล็กซ์นี่ลุงก็ยังไม่รู้เลยว่าจะอยู่ลอนดอน หรือครีต หรือเมืองไทย รายนั้นเค้าบุกเบิกไปเรื่อยๆน่ะ”

“ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ หนูก็อยากอยู่ทุกที่ที่อเล็กซ์เค้าอยู่ค่ะ..คุณลุงช่วยพูดกับอเล็กซ์ให้หนูได้มั๊ยคะ หนูผิดไปแล้วที่เคยปฏิเสธคำขอแต่งงานครั้งนั้น ตอนนี้หนูรู้ตัวแล้วหนูอยากแต่งงานกับอเล็กซ์”

“หนูอยากหยุดและลงหลักปักฐานกับเค้าซักทีค่ะ..คุณลุง”

คำพูดและแววตาอ้อนวอนของราเชลทำเอาสิทธิ์ถึงกับถอนหายใจอย่างหนักใจ เพราะรับรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างชานนท์และเอรินผ่านทางมินตราลูกสาวของเขาที่คอยแอบเชียร์คู่นั้นอยู่ห่างๆ

ส่วนราเชลก็เป็นลูกสาวของหุ้นส่วนทางธุรกิจที่มีสัมพันธ์อันดีต่อกันมาอย่างยาวนาน เขาจะทำเช่นไรเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียที่กระทบกระเทือนกับทุกฝ่าย

ในขณะที่กรณ์ได้แต่มองราเชลอย่างอึ้งๆ ไม่นึกว่าหญิงสาวสวยเฉี่ยวดูดีอย่างหล่อน จะถึงกับต้องบากหน้ามาขอร้องใครบางคนเพียงเพราะเรื่องผู้ชายคนเดียว ชายหนุ่มได้แต่นึกฉงนอยู่ในใจแต่ไม่ได้แสดงท่าทีอันใด...

‘เฮอะ..ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ อยากเห็นหน้าเจ้าอเล็กซ์อะไรนั่นซะจริงหน้าตาจะเป็นยังไงนะ ถึงสยบยัยจอมหยิ่งคนนี้ได้อยู่หมัดเนี่ย หึหึ’

///////////////

เอรินก้าวเข้ามาในตัวบ้านสวนโฮมสเตย์ด้วยความแปลกใจที่ไร้วี่แววบิดามารดาออกมาต้อนรับเช่นเคย หญิงสาวได้แต่หันกลับมาสบตากับชานนท์ที่เดินตามกันเข้ามาอย่างแปลกใจ

“เอ๊ะ..ทำไมบ้านเงียบจัง พ่อกับแม่สงสัยจะไม่อยู่น่ะคุณ คุณจะไปที่บ้านต้นไม้ก่อนก็ได้เดี๋ยวฉันหยิบกุญแจให้นะคะ ปื๊ดฝากเอากระเป๋าไปส่งคุณเค้าทีนะ”

เอรินหันไปพยักเพยิดกับปื๊ดก่อนจะเดินไปหยิบลูกกุญแจมายื่นส่งให้ปื๊ดอย่างรวดเร็ว ชานนท์คว้ามือเอรินมากุมไว้ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน ท่ามกลางสายตาจ้องมองแบบจับสังเกตตลอดเวลาของเจ้าปื๊ดที่อยากรู้อยากเห็นเป็นที่สุด

“เดี๋ยวสิ เอริน ไหนขอดูหน่อยซิ”

ชานนท์กุมมือสาวน้อยไว้ทั้งสองมือพร้อมทั้งมองบางสิ่งบางอย่างที่สะท้อนแวววาวอยู่บนคอขาวที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ตสีขาวออกมารำไร“อะ..อะไรคะ คุณ”

เอรินตะกุกตะกักทันทีที่เห็นสายตาสอดส่องมองคล้ายจะให้ทะลุเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเก่งของหล่อนจนเห็นถึงเนื้อใน แล้วชานนท์ก็ยิ้มอย่างพอใจก่อนจะดึงปกเสื้อเชิ๊ตของเอรินให้เข้าที่ปิดบังบางอย่างที่อยู่ภายในไว้แทบจะมิดชิด

“โอเค..เรียบร้อยดีแล้ว แหวนของฉันเธออย่าถอดมันออกนะ แล้วฉันจะสวมให้เธอวันแต่งของเราอีกครั้ง ห้ามถอดสร้อย ห้ามทำตกหายเด็ดขาดเข้าใจมั๊ย”

ชานนท์อมยิ้มพร้อมสั่งความสาวน้อยตรงหน้าที่กำลังหน้าแดงก่ำทันทีที่มองสบสายตาสื่อความนัยของเขา

“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันไม่ใช่เด็กห้าขวบนะ คุณสั่งฉันไม่รู้กี่ครั้งแล้วเนี่ย จำขึ้นใจเลยล่ะค่ะ” เอรินหัวเราะเบาๆ ดวงตากลมใสเป็นประกายสดใสจนชานนท์อดใจไม่ไหวต้องหอมแก้มนวลเบาๆ ทำเอาเจ้าปื๊ดที่ทนดูไม่ได้ต้องโวยขัดจังหวะชานนท์ที่กำลังทำรุ่มร่ามกับสาวน้อยเจ้านายสุดรักของเขา

“โอ้โห..เลิฟซีนกันกลางวันแสกๆ เกิดลุงกับป้ามาเห็นเข้ามีหวังเป็นลมกันพอดี” เจ้าปื๊ดทำทีเอามือปิดตาไม่มองด้วยกิริยาล้อเลียนนิดๆทำเอาทั้งชานนท์และเอรินหันมาส่งเสียงเอ็ดปื๊ดพร้อมๆกันโดยไม่ตั้งใจ

“ไปนะ แล้วค่ำๆจะลงมากินข้าวด้วย”

ชานนท์ผละจากเอรินแล้วเดินตามเจ้าปื๊ดที่ร้องเพลงลั๊นลานำหน้าไป เอรินได้แต่มองตามก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วหันกลับเดินเข้าไปในตัวบ้านเอรินมองหาบิดามารดาไปทั่วบ้านแต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา หญิงสาวถึงกับอมยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะย่องไปหน้าประตูห้องของบิดาและมารดา

“แหม..ไม่ใช่แต่เราซักหน่อย ขนาดพ่อแม่ยังหนีไปแอบจู๋จี๋กันเลย เจ้าปื๊ดเอ๊ย...นายน่ะยังอ่อนต่อโลกนักย่ะ”

เอรินส่ายหน้าเบาๆอย่างขบขันกับความคิดของตนเอง ในขณะที่กำลังจะเคาะประตูห้องนอน ก็ต้องแปลกใจที่ได้ยินเสียงบิดาพูดโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกดังแว่วออกมาให้ได้ยิน

“คุณหมายความว่ายังไง คุณทำกับผมแบบนี้ไม่ได้นะ ผมไม่ยอมไม่มีทาง ที่นี่เป็นสมบัติของครอบครัวผม อย่าหวังเลยว่าจะเอาไปได้”

“ผมไม่ยอม...ไม่มีวันยอม”

เอรินถึงกับใจหายเมื่อได้ยินเสียงแผดก้องของบิดาที่ตะโกนบอกผ่านคนในสายอย่างแค้นเคืองใจ หญิงสาวได้แต่ยืนอึ้งอย่างตกใจจนต้องยกมือขึ้นทาบเนินอกที่มีรอยแผลเป็นเล็กๆแทบจะมองไม่เห็นผ่านเสื้อเชิ้ตเนื้อดี ใกล้กับสร้อยทองคำขาวเส้นเล็กที่คล้องแหวนทองคำขาวเพชรเม็ดเหลี่ยมสีฟ้าเอาไว้ ทันทีที่แอบลอบมองผ่านช่องประตูแล้วเห็นบิดาขว้างโทรศัพท์ในมือเข้าใส่ฝาผนังห้องเสียงดังก้อง

ภาพของบิดาที่กำลังฉุนเฉียว เอรินไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิตนอกจากความสุขุมนุ่มลึกจิตใจดีของเขา หญิงสาวถึงกับน้ำตาคลอออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ มือน้อยกำสร้อยทองคำขาวที่ชานนท์สวมให้ภายใต้เสื้อเชิ้ตเนื้อดีจนยับย่นไปหมด พร้อมทั้งความรู้สึกวิงเวียนมึนงง คล้ายสติจะดับวูบ

“เอริน!! เอรินเป็นอะไร..ลูก!!”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านค่า ^___^



lovereason
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.ค. 2557, 02:23:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ก.ค. 2557, 02:23:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 1387





<< อีกครึ่งของหัวใจ   ตอนที่ 18 ตัดสินใจ.. >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account