เสน่หาภรรยาครึ่งปี
เสน่หาภรรยาครึ่งปี โดย กันต์ระพี
เดิมชื่อกรงรักวิมานร้อน

เธอ..ถูกหลอกขายให้ชายแปลกหน้า
เขา...ต้องการแค่ภรรยาครึ่งปี
เพียงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน
เขาก็ต้องการหล่อนทั้งตัวและหัวใจ แต่จะทำฉันใด...

เปิดให้ทดลองอ่านบางส่วนเท่านั้น วางจำหน่ายในรูปแบบ e-book
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตัวอย่างเนื้อเรื่อง

เสน่หาภรรยาครึ่งปี

ประพันธ์โดย...กันต์ระพี

บทนำ...

สายลมเย็นพัดผ่านหน้าต่างพาผ้าม่านพลิ้วไหว โมบายเปลือกหอยริมเฉลียงส่งเสียงกังวานไกล ปลุกคนนอนหลับตาพริ้มบนเตียงนุ่มให้ตื่นจากห้วงฝันมายิ้มรับวันใหม่

พิมพ์ลดาสูดลมหายใจลึกรับโอโซนบริสุทธิ์ในยามเช้า สดชื่นกับการได้นอนหลับเต็มตื่น ถึงกระนั้นก็ยังไม่อยากลุกจากเตียง หากแต่นอนลืมตาฟังเสียงคลื่นลม มองแสงแรกแห่งวันทอประกายหยอกเย้าผืนน้ำสีครามผ่านผนังกระจกด้านหนึ่ง

หล่อนมัวแต่หลงใหลได้ปลื้มกับภาพตรงหน้า ไม่ได้เอะใจสักนิดว่าอยู่ผิดที่ผิดทาง จนกระทั่งตวัดผ้าห่มออกจากตัวก็ใจหายวาบ ความสุขจากการดื่มด่ำบรรยากาศรอบตัวพลันเลือนหาย เมื่อเห็นเนื้อตัวเปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้าติดกายเลยสักชิ้น

พิมพ์ลดาหน้าถอดสีทีเดียว ตกใจไม่น้อย สายตาตื่นๆ กวาดมองสถานที่ไม่คุ้นตา ถึงแม้ว่าห้องนี้จะสะอาดสะอ้าน ไม่ได้อุดอู้เหมือนที่คุมขัง แต่ก็อดที่จะนึกกลัวขึ้นมาไม่ได้

หล่อนอยู่ที่ไหนกัน...แล้วมันเกิดอะไรขึ้น?

พิมพ์ลดายกมือขึ้นกุมขมับ งุนงงไปหมด หล่อนจำอะไรไม่ได้เลย ครั้นก้มลงสำรวจตัวเอง...น้ำตาก็พานจะไหล เมื่อพบว่ามีรอยปื้นเป็นผื่นแดงปรากฏบนเนื้อตัวอยู่หลายแห่ง ไม่จำเป็นต้องบอกก็รู้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาหล่อนมีสัมพันธ์สวาทที่เร่าร้อนกับใครบางคน

ภูมินทร์อย่างนั้นเหรอ...

เป็นไปไม่ได้!

คนรักของหล่อนเดินทางไปติดต่อธุรกิจที่ต่างประเทศ เมื่อวานเขายังโทรศัพท์มาไหว้วานหล่อนให้ไปเป็นตัวแทนของบริษัทติดต่อการค้ากับมิสเตอร์ดีแลนด์ โดยอ้างถึงความจำเป็นที่ไม่สามารถเดินทางกลับมาเซ็นสัญญาด้วยตัวเอง หล่อนเกรงว่าจะเกิดผลเสียกับบริษัทของเขาก็เลยตกปากรับคำว่าจะจัดการให้ ด้วยเห็นว่าภูมินทร์ไม่มีใครและเขาก็ไม่ไว้ใจคนอื่น...นอกจากหล่อน

แม้พิมพ์ลดาจะแปลกใจ เมื่อรู้ว่าบริษัทของภูมินทร์จับมือร่วมทุนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ประกอบธุรกิจการค้าด้านน้ำมันและทองคำ ทั้งที่บริษัทของเขาไม่ได้ดำเนินกิจการที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางด้านนี้ แต่หล่อนก็ไม่ได้ติดใจสงสัยหรือคิดจะซักถาม นั่นอาจจะเป็นเพราะมัวแต่กังวล อยากช่วยเหลือจึงรีบจัดการตามที่เขาร้องขอ

พิมพ์ลดาก้าวออกจากที่ทำงานในช่วงบ่าย ไม่ได้รีบร้อน เพราะเห็นว่าโรงแรมที่นัดหมายอยู่ไม่ไกลมากนัก ถึงกระนั้นหล่อนก็ยังมาถึงก่อนเวลานัด มีเวลาแต่งหน้าทาปากและซักซ้อมคำพูดเรียกความมั่นใจ ถึงแม้ว่าหล่อนจะเคยทำหน้าที่เป็นตัวแทนบริษัทที่ตนทำงานอยู่มาบ้างก็ตาม

“พิมพ์ลดาค่ะ”

“ดีแลนด์ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” นักธุรกิจหนุ่มมือทองสองสัญชาติ ทายาทเจ้าของบ่อน้ำมันและเหมืองทองคำที่ก้าวเข้ามาพร้อมผู้ติดตามยื่นมือออกมาทักทายตามมารยาท แต่ไม่ได้ปล่อยในทันที หากแต่จับค้างไว้ จนหญิงสาวต้องเป็นฝ่ายปลดมือเขาออกอย่างสุภาพ

“เช่นกันค่ะ” พิมพ์ลดาบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น แม้จะประหม่า แต่ก็แสร้งยิ้มปกปิดความหวั่นไหว ทั้งที่เสียความมั่นใจในตัวเองไปกว่าครึ่ง

นักธุรกิจวัยสามสิบต้นๆ ผู้นี้หล่อเหลือร้าย เขาดูดีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า รอยยิ้มทรงเสน่ห์ของเขาทำให้สาวๆ หัวใจละลายได้ไม่ยาก จนหล่อนต้องเตือนตัวเองว่าผู้ชายที่รู้ตัวว่าหน้าตาดีและรู้จักบริหารเสน่ห์ของตัวเองจัดว่าเป็นบุคคลอันตรายที่ไม่ควรเข้าใกล้ ถึงกระนั้นก็อดที่จะชำเลืองมองเขาไม่ได้

“คุณทราบเงื่อนไขในสัญญาหรือยังครับ”

“ค่ะ ภู...เอ่อ...ดิฉันหมายถึงคุณภูมินทร์บอกให้ทราบคร่าวๆ แล้วค่ะ” พิมพ์ลดาหลุบสายตาลงต่ำ นึกกระดากอายขึ้นมา ทั้งที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงมาดนิ่ง แต่เวลานี้กลับต้องเสียกิริยาเพียงแค่ถูกจ้องมอง

“แล้วคุณก็ไม่ขัดข้องอย่างนั้นเหรอ” ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะอิงหลังกับพนักโซฟาในอิริยาบถสบายๆ แต่น้ำเสียงกับสีหน้าก็บ่งบอกความแปลกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด

“ค่ะ” พิมพ์ลดารับคำเรียบๆ แม้จะนึกฉงน แต่ก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจในคำถามนั้น ทั้งที่อยากจะถามกลับว่าทำไมหล่อนต้องขัดข้อง กับการที่ภูมินทร์ซึ่งเป็นคนรักร้องขอให้หล่อนมาเป็นตัวแทนบริษัทเขา

“ก็ดี...เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลากันมากนัก” ดีแลนด์เอ่ยเสียงหยันพลางไหวไหล่ ทั้งที่คิดว่าผู้หญิงคนนี้ดูดีในสายตาเขา หล่อนสุภาพอ่อนโยน ไม่กร้านสังคม เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นภรรยาและมารดาของบุตรสาวตัวน้อยของเขา พบกันครั้งแรกในงานเลี้ยงเปิดตัวบริษัทฯ ในเครือ เขาก็ถูกใจจนไม่อาจละสายตาได้ ทว่า...หล่อนกลับขายตัวให้เขาง่ายๆ ช่างน่าผิดหวังจริงๆ

นี่เขาคงมองผิดไปสินะ...

ดีแลนด์แค่นยิ้มให้กับความคิดของตนเอง เขาไม่น่ามองคนแค่เปลือกนอก แต่ควรจะมองให้ลึกซึ้งถึงเนื้อใน ถึงแม้จะไม่รู้ว่าหล่อนเต็มใจขายตัวให้เขาเองหรือถูกหลอกถูกบังคับมา แต่เขาก็ไม่มีเวลามานั่งซักถามหรือหาผู้หญิงคนใหม่ แต่ต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อให้ชีวิตครอบครัวเป็นปกติสุข

“ถ้าคุณไม่มีข้อสงสัยอะไร เราก็มาเซ็นสัญญากันเลยดีกว่า” ดีแลนด์ปรายตามองเอกสาร ผู้ติดตามก็รีบหยิบหนังสือสัญญามาวางลงบนโต๊ะตรงหน้า พลางยื่นปากกาให้พิมพ์ลดาอย่างรู้งาน

“เดี๋ยว!” คำท้วงนั้นทำให้พิมพ์ลดาต้องชะงักมือที่กำลังจรดปลายปากกาลงบนหนังสือสัญญา พลางเงยหน้าขึ้นมองดีแลนด์แล้วเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเป็นเชิงถาม

“คุณจะไม่ตรวจดูรายละเอียดในสัญญาอีกสักรอบเหรอครับ”

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ คุณภูมินทร์ยอมรับในเงื่อนไขของคุณและดิฉันก็เห็นดีตามนั้น” พิมพ์ลดาคลี่ยิ้มตามมารยาท พลางเซ็นชื่อในเอกสาร หล่อนเชื่อใจภูมินทร์ เคารพในการตัดสินใจของเขา และเชื่อว่าเขาต้องเล็งเห็นว่าการทำสัญญากับบริษัทยักษ์ใหญ่จะนำพาให้บริษัทเติบโต ไม่เช่นนั้น...คงไม่ร้อนใจ โทรมาขอร้องให้หล่อนมาเซ็นสัญญาแทนเขา

“ยินดีที่ได้ด้วยร่วมงานกันครับ และผมก็หวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราตลอดระยะเวลาหกเดือนนี้จะราบรื่น” ดีแลนด์เผยยิ้มกว้าง

แม้พิมพ์ลดาจะสะดุดหูในคำพูดนั้น แต่หล่อนก็ยิ้มตอบรับ คิดว่าจะขอตัวกลับ เพราะหมดหน้าที่ของหล่อนแล้ว แต่ดีแลนด์ก็บอกให้ผู้ติดตามนำแชมเปญมาเปิดฉลอง

“เพื่อมิตรภาพระหว่างเรา”

พิมพ์ลดามองแก้วแชมเปญในมือดีแลนด์ที่ยื่นมาตรงหน้า กลืนน้ำลายลงคอลำบากขึ้นมาทันที หล่อนแพ้เครื่องดื่มชนิดนี้มาแต่ไหนแต่ไร ดื่มทีไรนิสัยจะเปลี่ยนเป็นคนละคน และทุกครั้งที่ดื่ม...ตัวตนที่อยู่ก้นบึ้งของจิตใจก็มักจะตื่นขึ้นมาทำอะไรตามจิตใต้สำนึก ซ้ำยังจดจำเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ได้

หล่อนเคยปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญหลายต่อหลายท่าน แต่ก็บอกว่าเป็นเสียงเดียวกันว่าโรคเฉพาะบุคคล ไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่ไม่มียารักษา แค่หลีกเลี่ยงก็จะไม่เกิดปัญหา หล่อนก็เลยไม่คิดที่จะแตะต้อง แต่สถานการณ์ในตอนนี้จะปฏิเสธออกไปก็ใช่ที่ ก็เลยต้องจำใจยื่นมือออกไปรับแก้วเครื่องดื่มมาถือไว้

“ดื่มสิครับ”

พิมพ์ลดามือสั่นใจสั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยเชิญชวนอย่างสุภาพ ครั้นจะไม่ยกแก้วขึ้นก็กระไรอยู่ ก็เลยคิดว่าจะทำทียกขึ้นจรดริมฝีปากแล้วเอาลง แต่สายตาของดีแลนด์ที่จ้องมองมากลับทำให้หล่อนประหม่า ลืมเลือนความนึกคิดของตัวเองไปเสียหมด ทันทีที่แก้วเนื้อบางใสสัมผัสกับเรียวปากอิ่ม หล่อนก็ดื่มรวดเดียวไม่เหลือติดแก้วเลยสักหยด

“หรือว่าจะเป็นเขา...” พิมพ์ลดาพึมพำเสียงเบา หยุดความคิดไว้แค่นั้นแล้วหันมองประตูด้านข้าง เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออก




กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ก.ค. 2557, 08:46:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.ค. 2557, 10:34:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 1498





   ตัวอย่างเนื้อเรื่อง >>
นักอ่านเหนียวหนึบ 15 ก.ค. 2557, 14:02:12 น.
วะวะว้าววววว ตามมาอ่านแบบรัวๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account