สัญญารัก...ข้ามฟ้า (สนพ ดอกหญ้า 2000)
เอริน..ว่าที่มัคคุเทศก์คนใหม่วัย 25 ปี ที่โชคชะตานำพาให้พบกับใครบางคนที่แดนไกลในครั้งอดีต และต้องจากกันไป
ชานนท์..นักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัย 35 ปี เขากำลังกลับมาตามหาอดีตที่หายไปหลังจากปล่อยเธอไปเมื่อหนึ่งปีก่อน พร้อมกับมาทวงสัญญารักที่จะทำให้เธอต้องจนมุม...อีกครั้ง


Tags: สัญญารัก...ข้ามฟ้า , รักโรแมนติก , ซึ้งกินใจ

ตอน: ตอนที่ 19 ก้าวผ่านอุปสรรครัก

ตอนที่ 19 ก้าวผ่านอุปสรรครัก..



ภายในกระท่อมน้อยที่แยกตัวออกมาจากบ้านหลังใหญ่ยังคงมืดมิดไม่มีแสงสว่างใดเล็ดลอดให้ได้เห็นความเคลื่อนไหวภายในห้องแม้แต่น้อย อติมาแง้มประตูบานที่เชื่อมกันกับบ้านใหญ่เพื่อจะเข้าไปดูอาการลูกสาวถึงกับชะงักมือทันทีที่เห็นร่างน้อยนอนคลุมโปงอยู่บนเตียงอย่างเงียบเชียบคล้ายจะหลับสนิทไปแล้วเหมือนที่เคยทำประจำตั้งแต่เด็ก

“หลับเร็วจังเจ้าลูกคนนี้ หายดีรึยังก็ไม่รู้”

อติมาเลื่อนบานประตูให้ปิดสนิทลงตามเดิม ทันทีที่เห็นว่าลูกสาวนอนคลุมโปงปิดไฟเงียบสนิทดังที่เคยเป็นประจำ จึงได้แต่คิดอย่างเป็นห่วงแต่ก็ไม่อยากรบกวนการพักผ่อนของเอริน

“คงดีขึ้นแล้วล่ะนะ ว่าแต่พ่อช้าจัง มัวทำอะไรอยู่เนี่ย”

อติมาส่ายหน้าเบาๆ หลังจากชะเง้อมองออกไปหน้าประตูบ้านใหญ่ไม่เห็นแม้แต่เงาสามีจะกลับมา จึงได้แต่เก็บกวาดเช็ดถูทำความสะอาดไปพลางๆ อย่างรอคอย



ภายใต้ผ้านวมผืนหนาในห้องที่มืดสนิท เอรินนอนฟุบหน้าลงกับหมอนที่เปียกปอนไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความน้อยใจ ผิดหวัง หลังจากที่เห็นภาพบาดตาเมื่อครู่ หญิงสาวทอดถอนใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายกับปัญหาที่รออยู่ตรงหน้า ในมือมีใบทะเบียนสมรสที่กำจนแน่นยับย่นอย่างคิดเครียด

“ฉันผูกมัดเค้าไว้ได้จริงๆใช่มั๊ย ฉันทำให้เค้าเป็นของฉันคนเดียวได้เพราะแกจริงๆใช่มั๊ย หื้อ..เจ้ากระดาษบ้า แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนี้ล่ะ ทำไมฉันไม่รู้สึกดีใจเลย ฮือ..ฮือ”

เอรินปาดน้ำตาที่ยังคงไหลหลั่งลงมาอย่างคับแค้นใจ ทั้งที่ยังกำใบทะเบียนสมรสไว้ในมือแน่นแต่จิตใจก็ยังคงสับสนวุ่นวายอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี


ในขณะเดียวกันชานนท์ก็กำลังลำบากใจที่ราเชลไม่ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆและยังดื้อรั้นจะอยู่ที่บ้านต้นไม้ให้ได้ ไม่ว่าจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่มีทีท่าจะฟังทำเอาเขาได้แต่อ่อนใจ

“คุณกลับไปเถอะ..ราเชล ผมขอร้องคุณจะอยู่ที่นี่ได้ยังไงมันไม่เหมาะ ระหว่างเรามันจบไปแล้วนะ”

“ทำไมจะอยู่ไม่ได้ ตอนคุณอยู่ที่ครีตฉันยังอยู่ได้ ทำไมล่ะ..อเล็กซ์”

ราเชลได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธไม่ยอมรับฟัง ชานนท์ถึงกับถอนใจก่อนจะกลั้นใจพูดกับหล่อนอย่างไม่ใช้อารมณ์และคำพูดนั้นก็ทำเอาราเชลน้ำตาไหลออกมาอย่างสุดกลั้น

“มันจบตั้งแต่วันที่ผมตัดสินใจมาเมืองไทยแล้วล่ะ คุณก็รู้นี่ราเชลว่าผมเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้ผมมีผู้หญิงคนนั้น ผมมีเอรินแล้ว...ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้วราเชล”

“ไม่นะ..คุณยังรักฉันเหมือนเดิม..ใช่มั๊ย เรายังรักกัน คุณแม่กับคุณลุงของคุณก็รักฉัน ท่านยังอยากได้ฉันเป็นสะใภ้อยู่เลย กลับมาหาฉันเถอะนะอเล็กซ์ เราจะมีความสุขด้วยกันที่ครีตหรือลอนดอนก็ได้ ฉันยอมแล้ว ฉันไม่เอาอีกแล้วอาชีพนางแบบอะไรนั่น ขอเพียงมีคุณก็พอ ฉันยอมทิ้งทุกอย่าง”

ราเชลร่ำไห้คร่ำครวญอย่างน่าสงสาร สองมือเกาะเกี่ยวเอวหนาไม่ยอมปล่อยจนชานนท์ถึงกับเครียดแต่ก็ยังกลั้นใจพูดออกมาให้ราเชลตัดใจแต่โดยดี

“ไม่มีประโยชน์หรอกราเชล อย่าพูดอีกเลย คืนนี้คุณนอนที่นี่เถอะนะ พรุ่งนี้ผมจะจัดหารถไปส่งคุณที่กรุงเทพ แล้วจะให้คนหาตั๋วเครื่องบินกลับลอนดอนให้คุณโดยเร็วที่สุด คืนนี้คุณตามสบายก็แล้วกัน ผมจะลงไปนอนข้างล่าง”

ชานนท์ขืนตัวออกจากการเกาะเกี่ยวของราเชลจนได้ในที่สุดก่อนจะรีบพาตัวเองออกไปจากสถานการณ์ล่อแหลมอย่างรวดเร็ว แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงักทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงแข็งกร้าวจากราเชลที่ไล่ตามหลังมา ชายหนุ่มถึงกับกำหมัดแน่นมือเย็นเฉียบอย่างตกใจไม่น้อยในคำพูดของหล่อน

“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะอเล็กซ์ ว่าคนชื่อ พัชระ น่ะ..เป็นใคร”

ราเชลกลั้นใจเอ่ยชื่อใครบางคนที่หล่อนเผอิญได้รู้จักจากในเอกสารที่หล่อนแอบหยิบติดมือมาด้วยจากห้องพักของเขาที่ครีต แล้วชื่อของใครคนนั้นก็ทำให้ชานนท์ถึงกับหันขวับมาด้วยสายตาคมกล้าอย่างไม่พอใจเอ่ยถามราเชลเสียงเขียว

“รู้อะไรมา”

“ก็..คุณคิดว่าฉันรู้อะไรล่ะ หรือว่าฉันจะบอกลูกสาวเค้าดี ฮึ..คุณว่าไง..อเล็กซ์” ราเชลยิ้มเยาะอย่างเป็นต่อ ทำเอาชานนท์เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันได้แต่มองหล่อนอย่างคาดโทษพร้อมเสียงเข้มที่ทำเอาราเชลสะท้าน

“ไม่ใช่เรื่องของคุณ อย่ามายุ่งนะ..ราเชล ขอเตือนว่ามาล้ำเส้นไม่อย่างนั้นจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ”


*****************************************


และแล้วชานนท์ก็มาหยุดยืนอยู่หน้าประตูกระท่อมฝั่งสวนไม้หอมของเอรินอย่างคิดหนัก เมื่อครู่เขาเพิ่งจะใจแข็งหนีมาจากบ้านต้นไม้ด้วยความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่ราเชลดูเหมือนจะรู้อะไรบางอย่างที่เขากำลังคิดจะทำ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเขาต้องมายืนละล้าละลังอยู่หน้าห้องเล็กภายในสวนไม้หอมของเอรินอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี

“เฮ้อ..ทำไมนอนเร็วจังนะเอริน แล้วฉันจะไปนอนไหนล่ะคืนนี้”

“อุตส่าห์จะมานอนกอดเมียสักหน่อย ทำไงดีวะเรา”

ชานนท์ถึงกับขัดใจไม่รู้จะทำอย่างไร จะกลับบ้านต้นไม้ก็มีราเชลอยู่ จะเรียกเอรินก็กลัวว่าจะทำให้สาวน้อยสงสัยเข้าให้ ชายหนุ่มเดินเรื่อยเปื่อยอย่างคิดหนักออกมาจนถึงหน้าบ้านสวนโฮมสเตย์จนเจอเข้ากับอติมา มารดาของเอรินที่กำลังตรวจดูความเรียบร้อยของบ้านเข้าพอดี

“อ้าว..คุณ ทำไมมาเดินคนเดียวเอาป่านนี้ล่ะคะ แหม..ได้ข่าวว่าเมื่อตอนเย็นแฟนคุณเพิ่งตามมาไม่ใช่เหรอคะ นี่ก็ดึกแล้วถ้าหิวก็ยังสั่งอะไรทานได้นะคะไม่ต้องเกรงใจ กลัวคุณกับแฟนจะหิว พ่อครัวของเราพร้อมบริการตลอดค่ะ” อติมาเอ่ยทักแขกกระเป๋าหนักของบ้านต้นไม้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พยายามจะอำนวยความสะดวกให้เขาให้มากที่สุดอย่างรู้งาน

“เอ่อ..คือ ไม่เป็นไรครับผมไม่หิว แล้วราเชลเธอคงหลับไปแล้ว แต่คือ..ราเชลเธอไม่ใช่..” ยังไม่ทันที่ชานนท์จะแก้ความเข้าใจผิดของว่าที่แม่ยายจบ อติมาก็เอ่ยชวนคุยอย่างคนอารมณ์ดี

“โอ้โห..เจ้าปื๊ดงี้เล่าเป็นคุ้งเป็นแควเลยค่ะ ว่าเธองามมาก ได้ข่าวว่าเป็นนางแบบดังใช่มั๊ยคะ..แฟนคุณ” สีหน้าแสดงความชื่นชมของว่าที่แม่ยายทำเอาชานนท์ถึงกับอึกอักสีหน้ากระอักกระอ่วนใจอย่างที่สุด

“ครับ เธอเป็นนางแบบ ตอนนี้ขาเธอยังเจ็บอยู่ผมก็เลยคิดว่าจะให้เธอพักอยู่ที่บ้านต้นไม้ก่อนคืนนี้ ว่าแต่คุณแม่ เอ๊ย คุณน้า เอ่อ....มีห้องว่างที่นี่อีกสักห้องมั๊ยครับ ผมอยากจะขอพักสักห้อง”

“อ๋อ...มีค่ะ ห้องชั้นล่างเพิ่งว่างพอดี แขกเช็คเอาท์เมื่อบ่ายนี้เองค่ะ ว่าแต่คุณจะสะดวกเหรอคะ ที่บ้านใหญ่เราเป็นห้องเก่า ไม่มีจากุซซี่ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าบ้านต้นไม้หรอกนะค่ะ เกรงว่าคุณจะไม่สะดวกค่ะ”

อติมาเอ่ยถามอย่างเกรงใจแต่ก็อดจะพอใจไม่ได้ที่จะได้เงินจากแขกกระเป๋าหนักเพิ่มอีกในช่วงที่ห้องเก่าว่างพอดี แต่ก็กลัวว่าแขกคนแรกของบ้านต้นไม้จะไม่สะดวก และถึงแม้จะสะกิดใจกับคำเรียกของชานนท์เมื่อครู่ แต่หล่อนก็ยิ้มแย้มกุลีกุจอเชิญให้เข้ามาชมห้องแต่โดยดี

ชานนท์เดินตามเข้าไปชมห้องอย่างค่อนข้างพอใจ ถึงแม้ห้องจะเก่าไปบ้างแต่ก็ถือว่าได้หนีจากราเชลและอยู่ใกล้เอรินเข้ามาอีกนิด โดยที่ไม่รู้เลยว่าสาวน้อยของตนอยู่ห่างกันเพียงแค่ฝาผนังห้องกั้นเท่านั้นเอง

“เป็นไงคะ พอจะพักได้มั๊ย ห้องข้างๆก็ห้องลูกสาวน้าเอง เอรินน่ะค่ะ คุณคงคุ้นเคยกับแกดีแล้ว ถ้ามีอะไรก็เรียกใช้แกได้ทุกเมื่อเลยนะคะ”

อติมาเอ่ยอย่างใจดี ทำเอาชานนท์ถึงกับเลิกคิ้วแววตาลิงโลดอย่างปิดไม่มิดทันที่ได้ยินว่าเอรินอยู่ห้องข้างๆ ชายหนุ่มก็แทบจะไม่ต้องคิดให้เสียเวลา

“ตกลงเลยครับ ผมเอาห้องนี้ แล้วก็ราเชล..เธอเป็นเพื่อนผมครับไม่ใช่แฟน ก็เลยคิดว่าคงดูไม่ดีนักถ้าผมจะพักอยู่บ้านต้นไม้กับเธอ เอาเป็นว่าผมเอาห้องนี้เลยก็แล้วกันครับ อยู่ใกล้เอรินอุ่นใจดี”

ชานนท์เอ่ยน้ำเสียงเกรงใจทั้งที่หัวใจโลดแล่นไปอยู่กับสาวน้อยห้องข้างๆเสียแล้ว อติมายิ้มบางๆอย่างนึกสงสัยกับคำพูดประหลาดของชายหนุ่ม แต่ก็ไม่กล้าถามต่อเกรงแขกหนุ่มจะหาว่าละลาบละล้วง เพราะที่ได้ฟังมาจากเจ้าปื๊ดและกรณ์เอามาใส่สีตีไข่ ดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างที่ชานนท์บอกสักนิด

“ได้ค่ะ เชิญเลยค่ะ ว่าแต่ทิ้งให้คุณผู้หญิงเค้าอยู่คนเดียวที่บ้านต้นไม้จะดีเหรอคะ เธอจะกลัวเอาได้นะคะ บนนั้นเงียบมากเลยด้วยค่ะ” อติมาไม่วายเป็นห่วงสาวสวยที่เพิ่งมาเป็นแขกเยือนบ้านสวนโฮมสเตย์เมื่อบ่าย

“เธอเก่งครับ คุณน้าไม่ต้องห่วง และผมก็ไม่อยากให้เอรินเข้าใจผมผิดด้วยครับ” ชานนท์ตัดสินใจเอ่ยชื่อเอรินออกไปซึ่งก็เป็นผลให้อติมายิ่งงุนงงหนักเป็นรอบที่สอง

“เอ่อ..เดี๋ยวนะคะคุณ แล้วลูกสาวน้ามาเกี่ยวอะไรกับคุณสองคนด้วยล่ะคะ ทำไมต้องกลัวแกเข้าใจผิดด้วย น้างงไปหมดแล้วค่ะ” อติมาเอ่ยถามด้วยความสงสัย นึกสังหรณ์ใจอยู่ครามครัน ถึงเรื่องที่ปื๊ดเคยตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้โดยที่ตนและสามีไม่ได้ใส่ใจฟัง และยังคงนึกไม่ถึงด้วยซ้ำ

“เอ่อ..คุณน้าครับ คือ...ผมมีเรื่องจะสารภาพ”

ชานนท์กลั้นใจเอ่ยกับมารดาของเอริน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้ในนาทีนี้เองก่อนที่เอรินจะรู้ว่าราเชลตามเขามาที่บ้านสวนแห่งนี้ และเกรงว่าราเชลจะปูดความลับที่เขาเพิ่งจะตัดสินใจว่าอยากจะละทิ้งมันไปเมื่อครู่นี้เองระหว่างที่เดินลงมาจากบ้านต้นไม้

เขาควรตัดไฟเสียแต่ต้นลมก่อนที่เรื่องทั้งหมดจะยุ่งยากไปมากกว่านี้ อยากจะให้อภัยคนที่ทำร้ายครอบครัวของเขาแล้วปล่อยเรื่องนี้ให้เงียบหายไปราวกับไม่เคยรับรู้เรื่องราวใดๆมาก่อน และจะพาเอรินกลับไปลอนดอนให้เร็วที่สุด ถึงอย่างไรเขาก็ยังไม่ใจแข็งพอถ้าหากเอรินจะรู้และผิดหวังในตัวเขา เขาจะต้องมีเอริน และจะไม่ยอมเสียหล่อนไปไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

“ขอโทษนะคะ คุณ..คือน้ายังงงๆอยู่เลยค่ะ มีเรื่องอะไรสารภาพเหรอคะ...คุณมีอะไรรึเปล่าคะ ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย น้างงนะคะเนี่ย”

อติมาถามอย่างข้องใจที่เห็นสีหน้าสับสนไม่สู้ดีนักของชายหนุ่ม รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาครามครัน แล้วก็แทบจะไม่ต้องรอนานเพราะจู่ๆชานนท์ก็ทะลุกลางปล้องตอบโจทย์ที่หล่อนเพิ่งจะสงสัยเมื่อครู่โดยไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ


“คือคุณน้า...เอ่อ คุณแม่ครับ..ผมมีเรื่องอยากจะสารภาพ คือผมกับเอริน...เรา...รักกัน”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


คำสารภาพจากปากของหนุ่มใหญ่คมเข้มตรงหน้า ยังคงดังก้องอื้ออึงในหูไม่หยุดหย่อน คำที่ทำเอาอติมาถึงกับตกใจแทบช็อคไม่เคยคิดว่าจะได้ยินเรื่องนี้จากปากชายหนุ่มที่สูงวัยกว่าลูกสาวคนเดียวของหล่อนถึงเกือบสิบปี

“อะ..อะไรนะคุณ น้า เอ่อ...น้าฟังไม่ถนัด” อติมาซวนเซจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่

“คุณแม่ครับ ระวังนะครับ” ชานนท์ใจเสียจะเข้าไปประคอง แต่อติมาโบกมือไปมาปฏิเสธว่าไม่เป็นอะไรก่อนจะรวบรวมสติได้อีกครั้ง

“น้าไม่เป็นไรค่ะ...คุณไม่ต้องเข้ามา น้ายืนไหว”

สีหน้าซีดเผือดของหญิงวัยกลางคนซึ่งเป็นมารดาของเอรินพยายามประคับประคองตัวยืนตรงด้วยความยากลำบาก สายตาที่มองมามีแววเคลือบแคลงสงสัยไม่ไว้ใจ ทำเอาชานนท์ถึงกับหน้าซีดเผือดกลัวใจว่าที่แม่ยายและกลัวคำตอบปฏิเสธที่อาจจะตามมา

“ผมขอโทษนะครับคุณน้า ที่ผมพูดอะไรที่ทำให้คุณน้าตกใจ แต่ผม...กับเอริน...เรา..”

ไม่ทันที่ชานนท์จะพูดจบ เสียงที่เขาคุ้นเคยและจดจำได้ดีเสมอก็ตะโกนแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าไม่ร่าเริงเหมือนเคย


“ไม่นะ!! ไม่ คุณแม่อย่าไปฟังเค้า”

ชานนท์และอติมาหันขวับไปตามเสียงคุ้นเคยพร้อมๆกันอย่างไม่ได้นัดหมาย แล้วเขาก็พบเอรินยืนหอบหายใจหนัก สีหน้าแดงก่ำเคร่งเครียดและหงุดหงิดจนชานนท์ถึงกับหัวใจกระตุกวูบไปในทันที แล้วสาวน้อยก็ตวาดลั่นอีกครั้งอย่างไม่ทันให้เขาได้เอ่ยอะไรต่อ

“กลับไปนะ!! ออกไปเลย!! กลับไปบ้านต้นไม้โน่น มีคนรออยู่ไม่ใช่เหรอ”

เอรินยืนเกาะขอบประตูห้องด้วยมืออันสั่นเทาจนชานนท์สังเกตเห็น หนุ่มใหญ่ทำใจดีสู้เสือยิ้มให้เอรินบางๆพร้อมทั้งก้าวช้าๆเข้าไปใกล้หญิงสาวมากขึ้นเรื่อยๆ

“อย่าเข้ามานะ บอกให้กลับไปพูดไม่รู้เรื่องรึไง” เอรินตวาดลั่นสีหน้าเครียด ดวงตากลมโตฉายแววโกรธอย่างถึงขีดสุด แต่ชานนท์ก็ยังเดินเข้าหาไม่มีทีท่าจะหยุด

“เอริน..โกรธกันเรื่องอะไร ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลยนะ” ชานนท์พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แต่เอรินสวนกลับทันควันโดยไม่ต้องคิด และคำตอบของเอรินก็ตอบข้อข้องใจของเขาได้ในทันที

“ไปหาคุณราเชลสิ มาอยู่ที่นี่ทำไม”

เอรินตวาดลั่น น้ำตาเริ่มไหลอย่างคับแค้นใจ ชานนท์ถึงกับหน้าซีด นึกหวาดหวั่นกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเอริน เขาไม่รู้สักนิดว่าเอรินจะรู้เรื่องที่ราเชลมาหาเขาตั้งแต่บ่ายแก่ๆ ทั้งที่พยายามจะไม่พูดถึงมันแล้ว

แต่เป็นใครจะไม่โกรธ เอรินรู้..รู้ได้อย่างไรในเมื่อเขารีบจัดการเรื่องนี้อย่างเงียบเชียบที่สุด เป็นไปไม่ได้ที่หล่อนจะรู้ หรือจะเป็นเจ้าอ้วนพุงพลุ้ยจอมปากมากอย่างเจ้าปื๊ดที่คาบข่าวมาบอกเอรินกัน

‘ไอ้ปื๊ด...ฝากไว้สองแล้วนะ เจอหน้าจะชำระความซะให้เข็ด’

“เอริน...โธ่ ฉันไม่รู้มาก่อนเลยนะว่าราเชลจะมาน่ะ อย่าผลักไสฉันไปหาเขาเลยนะ...เอริน นะ” ชานนท์เสียงอ่อนพูดปลอบใจสาวน้อย แล้วค่อยๆเดินเข้าไปหาเอรินที่ยืนจังก้าอยู่หน้าประตูสีหน้าน้อยใจอย่างที่สุด

“อย่า..ห้ามเข้ามา คุณหลอกฉัน คุณมันเชื่อไม่ได้ ใจร้ายที่สุด บอกว่าจบกับเธอแล้ว แล้วทำไมเธอถึงยังตามคุณมาอีก มันยังไม่จบอีกเหรอเรื่องของคุณกับเธอน่ะ เห็นฉันเป็นตัวอะไรคะ”

เอรินพูดเสียงสั่นอย่างน้อยใจ สองมือน้อยเกาะประตูห้องตนไว้แน่นไม่ทันได้สนใจว่ามารดายืนอึ้งคอยดูเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลาด้วยสีหน้าตื่นตกใจพูดอะไรไม่ออกสักคำกับเรื่องราวล่าสุดของลูกสาวและหนุ่มใหญ่ที่ได้รับรู้เมื่อครู่ใหญ่ว่าเป็นคนรักของลูกสาว

“เอริน...ขอโทษ แต่ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ ว่าราเชลจะมา จะให้สาบานก็ได้”

ชานนท์ก้าวมาจนถึงตัวเอรินที่ยืนโกรธจนตัวสั่น เอรินยกสองมือกางกั้นกันแผงอกหนาสุดชีวิตไม่ให้เขาเข้าประชิดตัวหล่อนได้

“ไม่ต้องมาสาบานหรอก ฉันรู้ตัวดี ตั้งแต่แรกแล้วฉันไม่มีอะไรจะสู้เธอได้”

เอรินถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ โกรธตัวเองที่ยอมมีอะไรเกินเลยกับเขาเพราะคำว่ารักจนไม่ทันได้สนใจอะไรทั้งสิ้น พอเจอราเชลก็เลยรู้สึกแย่มากที่ไม่รู้จะวางตัวเองไว้ในสถานะไหน ชานนท์คว้าร่างน้อยเข้ามากอดไว้แนบอก แล้วจูบเบาเข้าที่ขมับอย่างปลอบโยน

เอรินซบหน้าลงบนไหล่หนาทั้งน้ำตา ร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น สองมือทุบแผงหลังหนาของชายหนุ่มหลายต่อหลายครั้งไม่ยอมหยุด

“ตีฉัน..ทุบฉันเลย ฉันมันไม่เอาไหน แต่ฉันรักเธอนะ..เอริน ฉันต้องการเธอ..แค่เธอคนเดียวที่ฉันยอมให้เธอผูกพันทั้งร่างกายและจิตใจ เธอเท่านั้นที่ฉันยกย่องให้เป็นภรรยาและยอมผูกมัดด้วยการจดทะเบียน เธอรู้ใช่มั๊ย..เอริน ว่าทั้งหมดนั้นไม่เคยมีใครได้มันแม้แต่ราเชล”

เพราะเป็นคนคิดเร็วทำเร็ว ในที่สุดชานนท์ก็ตัดสินใจได้อีกครั้งเมื่อแผนการณ์ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ตั้งแต่แรกเพราะมีราเชลเป็นตัวเร่ง เขาคงต้องพาเอรินกลับอังกฤษพาหล่อนไปจากเมืองไทยที่ที่มีความหลังฝังใจโดยเร็วที่สุดเพื่อยุติปัญหาทั้งหมดและไปให้ห่างจากความแค้นที่มีต่อบิดาของเอริน เขาจะต้องยับยั้งชั่งใจถ้าหากต้องการจะมีหล่อนต่อไป แล้วเสียงอุทานอย่างตกใจของอติมาก็หยุดความคิดของชานนท์ไว้แต่เพียงเท่านั้น

“อะไรนะ!! หมายความว่าไงที่ว่า..จดทะเบียน” อติมาอุทานออกมาอย่างตกตะลึง ใบหน้าซีดเซียวเพราะตื่นตกใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวัน

ชานนท์และเอรินหันขวับมาตามเสียง เอรินถึงกับหน้าถอดสีเพราะความโกรธ น้อยใจ ในตัวชายหนุ่มตรงหน้าทำให้เผลอลืมนึกไปว่ามารดาของตนยังอยู่ในเหตุการณ์ด้วยอีกคน เอรินผลักชานนท์ออกอย่างแรงก่อนจะถลาเข้าไปคว้ากอดมารดาแน่น

“แม่จ๋า หนู...หนู ขอโทษ ขอโทษนะจ้ะแม่ หนูจดทะเบียนสมรสกับเขาไปแล้ว” เอรินระล่ำระลักจะบอกมารดาแต่นึกหาคำพูดไม่ถูกเพราะความประหม่า ชานนท์จึงพูดแทรกขึ้นมา

“คุณแม่ครับ ผมกับเอริน เราจดทะเบียนกันแล้ว ผมขอโทษที่ทำอะไรโดยพลการ แต่ผมก็อายุเยอะแล้ว และเอรินก็บรรลุนิติภาวะมาหลายปี หวังว่าคุณแม่คงเข้าใจความรักของเรา ผมขออนุญาตรับผิดชอบด้วยการจัดงานแต่งกับเอรินให้เร็วที่สุดครับ”

คำขอที่หนักแน่นของชายหนุ่ม อติมาถอนหายใจอย่างหนักหน่วงแต่ก็ต้องพยักหน้ารับเบาๆทั้งที่ยังตกใจไม่หายกับสิ่งที่ได้รับรู้ มือเรียวเริ่มมีร่องรอยเหี่ยวย่นกอดกระชับเอวลูกสาวไว้แน่นอย่างปลอบใจ อติมามองหน้าลูกสาวในอ้อมกอดทีมองคนหาญกล้าขอลูกสาวหล่อนแต่งงานทีอย่างตัดสินใจไม่ได้

“เอริน..ไหนๆก็จดทะเบียนกันแล้ว จะว่าไงลูก เป็นสามีภรรยากันแล้วก็จัดงานแต่งเถอะนะลูก สังคมจะได้รับรู้ พ่อกับแม่จะได้หายห่วง นะลูกนะ”

อติมาถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนสองมือยังไม่คลายอ้อมกอดให้ลูกน้อยต้องวิตก เอรินส่ายหน้าแรงๆ หลายครั้งโดยไม่ต้องคิด ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบปฏิเสธเสียงเบา

“ไม่รู้ หนูไม่รู้จ้ะแม่ หนูไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใจเค้าได้มั๊ย”

“เอริน!!” ชานนท์อุทานเสียงดังกับคำตอบของเอริน ทั้งที่เขายอมหมดแล้ว ยอมทิ้งความแค้นส่วนตัวเพื่อหล่อน แต่คำตอบที่ได้รับไม่ได้ทำให้เขาพอใจเลย ชานนท์พยายามจะเข้ามาใกล้เอรินเพื่อปรับความเข้าใจ แต่อติมากลับเอ่ยเตือนสติซึ่งก็ทำให้ชานนท์นิ่งฟัง

“ถ้ารักเค้า แม่ก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ ถ้ามันเป็นความสุขของลูก แม่อยากให้ลูกมีความสุขนะ..เอริน”

“แม่ไม่โกรธหนูเหรอจ้ะ” เอรินอ้อมแอ้มถามแผ่วเบาอย่างรู้สึกผิด แต่กลับได้รับคำตอบเป็นรอยยิ้มบางๆอย่างให้กำลังใจ อติมาส่ายหน้าเบาๆ ทำเอาชานนท์ที่คอยลุ้นรอฟังถึงกับหน้าเสีย

“โกรธสิ..แต่ลูกกับเขาตอนนี้ได้ชื่อว่าเป็นสามีภรรยากันถูกต้องตามกฏหมายแล้ว แม่จะว่าอะไรได้ แม่เสียใจที่ลูกทำอะไรไม่คิดถึงจิตใจพ่อกับแม่เลย พ่อจะเสียใจขนาดไหนรู้มั๊ยลูก”

“หนูรู้จ้ะ..หนูรู้ หนูถึงไม่กล้าบอกพ่อ หนูเสียใจ ฮือ..ฮือ”

เอรินร่ำไห้สะอึกสะอื้นพอได้ยินคำของมารดา มือน้อยสั่นไหวก้มกกราบลงบนอกมารดาอย่างเสียใจสุดซึ้ง อติมาตบหลังลูกสาวเบาๆเป็นเชิงยอมรับ

“เอาเถอะเรื่องพ่อน่ะ แม่จะจัดการเอง แต่เราสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้วก็ต้องเชื่อใจกัน ในเมื่อเค้าบอกแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่เพื่อน ก็ต้องเชื่อใจเค้าสิลูก หนูจะเอาแต่ใจเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว”

แล้วเอรินก็ต้องยอมจำนนในที่สุด ทันทีที่เห็นท่าทีของมารดา หญิงสาวพยักหน้าหงึกหงักบนหัวไหล่บางของมารดาแทนคำตอบรับ

อติมายิ้มให้ชานนท์ก่อนจะคลายกอดลูกน้อย แล้วจับมือชานนท์กระชับเข้ากับมือเอรินแล้วลูบเบาๆอย่างปลอบใจ

“คุณคะ...น้าขอฝากลูกสาวด้วยนะคะ กรุณารักแกให้มากๆ น้ามีลูกสาวคนเดียวหวังว่าคุณคงดูแลแกได้เป็นอย่างดี”

อติมาฝากฝังเอรินกับชานนท์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เป็นห่วงลูกน้อยก็แสนห่วง แต่เมื่อเป็นการตัดสินใจของลูกก็คงต้องยอมรับ

“อย่าห่วงเลยครับคุณแม่ ขอบคุณมากๆนะครับที่ไว้ใจผม”

ชานนท์ยิ้มกว้างอย่างดีใจเป็นที่สุด หนทางที่คิดว่ายากเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วตั้งแต่ที่รู้ว่าราเชลมาและอาจจะทำให้อะไรๆเลวร้ายลง แต่มันกลับไม่ยากอย่างที่คิด เหลือเวลาแค่เผชิญหน้ากับบิดาของเอริน ซึ่งเขายังคงหวั่นใจอยู่ไม่น้อยว่าจะเห็นแก่ความรักและห้ามความแค้นในใจของตนได้สำเร็จหรือไม่

“เอริน..ถ้าลูกรักใครแม่ก็รักด้วย แม่ดีใจนะลูก ถึงจะไม่ใช่คนที่แม่คิด แต่คุณคนนี้ได้ข่าวว่าเป็นพี่ชายหนูมินใช่มั๊ย”

“ลูกเจอเค้าที่ลอนดอนใช่มั๊ย..ลูก” อติมาถามเสียงอ่อนโยน เอรินได้แต่พยักหน้ารับอย่างหงอยๆ รู้สึกผิดที่โกหกมารดาถึงความสัมพันธ์ของหล่อนและเขามาตลอด

“คุณคะ..ฉันขอเวลาหน่อยนะ ฉันจะเกริ่นกับพ่อเอรินก่อน เค้าค่อนข้างหวงลูกสาวน่ะค่ะ กลัวว่าเค้าจะทำเรื่องยุ่งๆเสียก่อน” ทันทีที่ได้ยินคำอนุญาตจากว่าที่แม่ยาย ชานนท์หันมาสบตากับเอรินอย่างดีใจ ทำเอาหญิงสาวถึงกับหน้าแดงก่ำกระชับมือแกร่งของเขาแน่น

“มิน่าล่ะครับ เอรินถึงไม่ให้ผมบอกคุณพ่อเธอก่อน เพราะอย่างนี้นี่เอง” ชานนท์และเอรินยิ้มให้กันเล็กน้อยด้วยบรรยากาศที่ดีขึ้นกว่าตอนแรกมากขึ้น

อติมาเฝ้ามองการกระทำของชานนท์ที่มีต่อลูกสาวตัวเองอย่างพอใจ แขกหนุ่มกระเป๋าหนักคนนี้ดูจะรักลูกสาวของหล่อนไม่น้อย ถึงจะรู้สึกเป็นห่วงลูกสาวคนเดียวอย่างบอกไม่ถูกแต่เมื่อเห็นแววตาเด็ดเดี่ยวของชานนท์ที่แสดงออกถึงความจริงใจแล้ว อติมาก็เบาใจไปเปลาะหนึ่ง ทั้งที่ในใจยังอดนึกถึงคำบอกของสามีที่กังวลใจเกี่ยวกับชานนท์อยู่บ้าง แต่ความสุขของลูกสาวคนเดียวย่อมสำคัญกว่า

‘ถ้าพ่อรู้ จะว่ายังไงบ้างนะ ผู้ชายที่พ่อรู้สึกกลัวคนนี้กำลังจะมาเป็นลูกเขยของเราแล้วนะ’

ในขณะที่บรรยากาศภายในบ้านกำลังดีขึ้นจนแทบจะเป็นปกติ อติมาได้แต่มองดูลูกสาวและว่าที่ลูกเขยอย่างชื่นชม ชานนท์และเอรินจับกระชับมือกันแนบแน่นพร้อมทั้งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ในที่สุดความรักก็ทำให้ชานนท์ตัดสินใจที่จะลืมความขุ่นข้องหมองใจในอดีตให้ผ่านไปราวกับสายลม เขาจะพาเอรินไปจากเมืองไทยเป็นการตัดปัญหา และลบเลือนความแค้นเคืองออกไปจากใจ ไปจากอคิราห์ และบ้านสวนโฮมสเตย์ให้เร็วที่สุด..


กรณ์...ยืนมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่หน้าบ้านด้วยสีหน้าซีดเผือด ใจหายเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดทั้งมวลเมื่อได้ยินคำขอแต่งงานของหนุ่มใหญ่ที่เขาเข้าใจว่าคือคนรักของราเชล ชายหนุ่มถึงกับเข่าอ่อนอย่างหมดแรง ไม่นึกไม่ฝันว่าผู้ชายคนนั้นจะหมายปองเอริน และเขาไม่ทันได้คิดเลยด้วยซ้ำว่าเรื่องของเอรินและผู้ชายคนนั้นจะพัฒนาไปไกลขนาดนี้ ชายหนุ่มยืนคอตกอย่างหมดหวังจนไม่ทันได้สังเกตเลยว่าใครบางคนกำลังเดินตรงมายังตนเอง พร้อมคำถามที่ทำเอาชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง...


“ดึกแล้ว...มายืนทำอะไรตรงนี้..เจ้ากรณ์”


**********************************************

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านค่ะ ^ __ ^

คุณแรมรติ : รักหรือเสน่หา ไม่เฉพาะแต่ในนิยาย
แม้แต่ในชีวิตคนเรา บางครั้งก็อาจพบเจอ แยกไม่ออกจริงๆค่ะ ^^

ขอบคุณมากๆค่า




lovereason
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ก.ค. 2557, 18:25:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ก.ค. 2557, 18:25:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 1258





<< ตอนที่ 18 ตัดสินใจ..   ตอนที่ 20 แค่เธอ.. >>
ดาด้า 12 ก.ค. 2557, 21:22:16 น.
เคยอ่านในเด็กดีแต่ไม่ทันตอนจบ
มารออ่านต่อค่ะ



แรมรติ 12 ก.ค. 2557, 21:27:17 น.
ตงิดใจ .. อิตรงบอกว่า 35 เป็นหนุ่มใหญ่นี่ล่ะ หึหึ



เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account