พิศสวาทในหลุมรัก
ที่ถูกต้อนจนมุมบาดเจ็บและจนตรอก และกระหายเลือด หญิงท้องแก่ใกล้คลอดผู้โชคร้ายคือ
เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายวันนั้น เธอยังไม่ทันได้คลอดออกมาเชยชม เธอกลับถูกฉีกกระชากคอเพื่อดื่ม
เลือดและกระชากลูกน้อยออกจากท้อง เพราะภาพเหตุการณ์ที่เลวร้ายทั้งหมด เกิดขึ้นต่อหน้าสามีของเธอ และคำพูดสุดท้ายของเมียสุดที่รักกระซิบสั่ง “อย่าให้ลูกตาย” ทำให้สามีกระชากมีดเล่มเล็กที่ปักอกชายหนุ่มอยู่ ออกมาตัดสายรกของทารกหญิงลูกรัก ที่ถูกกระชากออกมาจากตัวแม่ ให้ขาดออกจากแม่การก่อนที่ร่างเธอจะถูกลากหายไปในความมืด ท่ามกลางความตกใจและร่างกายที่บาดเจ็บชายหนุ่มเขาร้องห้ามการกระทำของนั้นไม่ทัน พ่อของเด็กน้อยไม่รู้หรอกว่าเลือดของชายหนุ่มมันได้กระจายเข้าสุ่ทุกอณูเนื้อของเธอแล้ว
บัดนี้สายสัมพันธ์ได้เกิดขึ้นแล้ว


Tags: รักโรมานซ์

ตอน: ผมไม่ใช่สุภาพบุรุษ 100%

“ผมคิดว่าคุณจะแนะนำให้ผมรู้จักเขาซะอีก”
ชายหนุ่มเอ่ยถาม ขณะกำลังเดินตามหญิงสาวขึ้นชั้นบนตัวบ้านแขนยังคงโอบรอบไหล่นวลเนียนไล้ไปมาด้วยทีท่า สบายๆ
“ฉันเบื่อความหึงหวงทวงถาม ขนาดกับคุณฉันยังไม่ถามสักคำว่าคุณชื่ออะไร เพียงแค่ฉันพอใจ ok.คุณชื่อ แมค ล่ะมันก็ดี ดีมากกว่าที่ฉันจะบอกว่าเฮ้!คุณ อยากขึ้นเตียงกับฉันมั้ย อีกอย่างฉันไม่จำเป็นที่ต้องแนะนำผู้ชายของฉันกับของว่าง”
“ของว่างเหรอ? เฮ้!เฮ้!คุณคงไม่คิดจะทำให้ผมเป็นแบบนั้นนะ”
แม้จะเคลือบแคลงแต่เลือกที่เฉยเสียเพราะอีกไม่นานสิ่งที่อยากรู้มันก็คงจะพร้อมใจกันเปิดเผยตัวตนกันออกมาถลกโฉมหน้าจอมปลอมที่ถูกซุกซ่อนไว้ให้เปิดออก
“เปล่า ตอนนี้คุณคือจานหลักจานเดียวเลยล่ะ”
ขณะที่ถามชายหนุ่มก็กวาดสายตาไปรอบๆ แคทเธอรีนพูดถูกรสนิยมแวมไพร์หรูหราฟู่ฟ่าจริง ทุกสิ่งอย่างในตัวบ้านล้วนแล้วแต่เป็นของมีระดับ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับล้วนแล้วแต่นำเข้าด้วยราคาแพงลิบลิ้ว
แคทเธอรีนพาเขาเดินขึ้นบันไดมานิดเดียวก็มาถึงหน้าห้องๆ หนึ่งซึ่งคาดว่าจะเป็นห้องนอนของเจ้าหล่อนเอง ก่อนจะจากปล่อยมือจากเอวของชายหนุ่มก้าวเข้าไปไขกุญแจพร้อมจับลูกบิดประตูหมุนแต่ยังไม่ขยับเปิดก่อนหันมาบอกกับเขาว่า
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ห้อง ปลดปล่อยความเป็นตัวตนของเรา” พูดพร้อมผลักบานประตู
ให้เปิดกว้างขึ้นสิ่งที่ปรากฏ แก่สายตาเขากลับผิดคาดจากที่เขาคาดไว้เพราะว่ามันเป็นเพียงห้องโล่งๆ ที่ปิดทึบด้วยถูกออกแบบมาสำหรับห้องแอร์และเพื่อเก็บกั้นการหลุดลอดของอากาศ และสุ้มเสียงต่างๆ ไม่ให้เล็ดลอดออกไปหรือเข้ามาของอากาศในห้องแอร์คงถูกเปิดไว้นานจนทั้งห้องเย็นจัด ในห้องมีเพียงเตียงขนาดใหญ่ที่ไร้ผ้าปูที่นอน ที่นอนเป็นเพียงเตียงที่หุ้มด้วยพลาสติกเปล่าๆ เท่านั้นเตียงนอนอยู่ทางด้านซ้ายมือ อีกด้านเป็นประตูที่คงเป็นประตูทางเปิดเข้าออกทางใดทางหนึ่งแน่ๆ เขาเดินเข้าไปหยุดแล้วหมุนไปรอบๆ ห้องรอบๆ แล้วยกมือขึ้นทั้งสองข้างก่อนจะผายไปข้างตัว
“คุณทำให้ผมประหลาดใจอีกแล้ว ผมเดาห้องว่าห้องนี้ต้องอลังการที่สุด แต่..”
“ที่รักแล้วคุณจะรู้ว่าทำไม คุณรู้มั้ยการทำความสะอาดซักรีดถ้าอะไรสักอย่างที่มันเปื้อนน้อยๆน่ะมันง่ายแต่อะไรที่มันมากและบ่อย มันจะเป็นที่ผิดสังเกตุฉันเลยเลือกอะไร ที่ทำความสะอาดง่าย” แวมไพร์สาวอธิบาย
ก่อนก้าวตามเข้ามาทีหลังพร้อมปิดประตูก้าวเข้ามาโอบกอดซุกไซ้ใบหน้าเข้ากับแผ่นหลังแข็งแกร่งพลางใช้ฝ่ามือลูบไล้ไปบนลอนคลื่นกล้ามเนื้อหน้าท้องแล้วไล้เลยขึ้นไปบนส่วนเว้านูนบนหน้าอกที่แน่นตึงก่อนหยุดที่จะหยุดตรงตุ่มเนื้อบนนั้นเพื่อสะกิดบีบเค้น มืออีกข้างก็ลูบต่ำลงไปหาหว่างขาที่มีกางเกงยีนส์ขนาดพอดีตัวปิดทับแท่งเนื้อที่นูนสูงขึ้นตามขนาดที่ซุกซ่อนอยู่ในนั้น
แวมไพร์สาวใช้หน้าอกของตัวเองถูไถและบดเบียดเข้ากับแผ่นอย่างบ้าครั่งเพียงเพื่อระบายความกระสันต์อยากและก่อนที่ฝ่ามือของแวมไพร์สาวจะพบเป้าหมายชายหนุ่มก็หยุดมือของแวมไพร์สาวไว้ แล้วพลิกตัวมากลับมาใช้ฝ่ากำกระชากผมบริเวณท้ายทอยให้หน้าของเธอแหงนเงยขึ้นรับเรียวลิ้นที่ถูกสอดออกมาจากริมฝีปากปลาย
ลิ้นที่ถูกคว้านลึก ซอกซอน ลุกไล่เกี่ยวพันกับลิ้นแวมไพร์สาวที่ตะหวัดเกี่ยวต่อสู้ลิ้น
ของชายหนุ่มอย่างไม่ยอมแพ้ ดวงตาของทั้งคู่เปลี่ยนจากสีดวงตาของคนปกติ ให้กลายไปเป็นดวงตาที่ส่องประกายเรืองรอง ทุกครั้งที่แวมไพร์เกิดอารมณ์ไม่ว่าจะหิวหรือปรารถนาดวงตาจะบ่งบอกได้ทันทีก่อนที่ชายหนุ่มจะกระชากริมฝีปากออกมา เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบกระเส่าด้วยแรงอารมณ์ว่า
“ผมคงต้องหาเชือกมาไว้สักเส้นเพื่อ เพื่อป้องกันตัวจากมือที่แสนร้ายกาจของคุณ”
“เชือกเหรอ” เธอเอ่ยด้วยเสียงขบขัน
“คุณต้องใช้เชือกกี่เส้นกันล่ะ ที่รัก ฉันมีของที่เด็ดกว่านั้นให้คุณ” เธอบอก


ก่อนที่จะเธอจะเดินไปริมห้องทางขวาแล้วเธอก็กดปุ่มที่ติดอยู่ด้านข้างห้องเบาๆ
เสียงโลหะที่ถูกปล่อยร่วงลงมาจากด้านบน กระทบกันดังแหวกอากาศจากทางด้านบนของเพดานห้องทิ้งตัวลงมาห้อยลอยตัวที่กลางเตียงโซ่เส้นเขื่องสองเส้นที่แกว่งตัวไปมาตามน้ำหนักของขนาดก่อนจะหยุดนิ่ง
“แบบนี้คุณจะชอบมากกว่ามั้ย”
แวมไพร์สาว เดินนวยนาดไปเอนตัวลงบนเตียง ใช้ศอกข้างหนึ่งเท้ากับที่นอนขาข้างหนึ่งยังห้อยอยู่ที่ข้างเตียง ขาอีกข้างถูกยกขึ้นฉีกออกกว้างไปทางด้านข้างชายชุดกระโปรงถูกถลกขึ้นไปกองที่หน้าอกฝ่ามือถูกเลื่อนมาถูกไถที่เนินเนื้อหว่างขาที่มีซับในบางๆตัวจิ๋วปิดอยู่
“นี่แค่ออเดิร์ฟฉันชอบจิบเครื่องดื่มตอนมีเซ็กส์ที่สุดแล้วคุณจะชอบเหมือนฉันและเพื่อนๆของฉัน มาปลุกอารมณ์กันหน่อยสิแล้วเครื่องดื่มอุ่นๆก็จะมาเสริฟตอนเรากำลังจะเริ่มเซ็กส์ที่ร้อนแรงกันฉันอยากกรีดร้องเต็มทีแล้ว”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นถอดเสื้อยืดออกจากตัวเปิดเปลือยร่างกายที่กำยำงดงามราว
รูปปั้นด้วยเส้นโค้งนูนที่ประดับบนร่างกายประกอบเป็นกล้ามเนื้อ พลิกพริ้วโค้งงอไปตามสัดส่วน ที่พึ่งมี ร่างกายที่ชวนหลงใหลนี้ ทำให้แวมไพร์สาวคิดว่าหากเธอยังมีชีวิตและยังคงมีลมหายใจอยู่เธอคิดว่าถ้าไม่ได้นอนกับเขาวันนี้เธอต้องขาดใจตายแน่
ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาแคทเธอรีนทั้งที่ยังไม่ถอดกางเกง พอใจกับสีหน้าผิดหวังที่ปรากฏขึ้นออกมาให้เห็น
“วันนี้ผมเจอเซอร์ไพร์จากคุณมาแล้วทั้งวัน จากนี้คงต้องเป็นผมแล้วล่ะที่ต้องเซอร์ไพร์คุณบ้าง อย่างเช่นผมจะดูว่าคุณจะทนให้ผมชิมได้นานแค่ไหนกว่าคุณจะเดือด”
ว่าแล้วเขาก็ก้าวขาไปคุกเข่าลงบนที่นอนข้างหนึ่งคร่อมตัวแวมไพร์สาวเอาไว้ก่อนแนบลำตัวตามลงไปบนตัว ประกบปากแนบตามลงไปลิ้นถูกสอดเข้าไปในปากแวมไพร์สาวที่อ้ารับไว้อย่างโหยหิว สองมือที่ลูบไล้อยู่ที่หัวไหล่ก่อนวกเข้าด้านในมาขย้ำที่หน้าอกมหึมาที่ดีดเด้งตัวขึ้นรับสัมผัสจาบจ้วงอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าสัมผัสที่ได้รับจะไม่เพียงพอ ทำให้แวมไพร์สาวแอ่นตัวขึ้นจนหลังแอ่นขึ้นมาจากเตียงเพื่อให้
หนุ่มหล่อมอบสัมผัสที่รุนแรงให้มากขึ้น ดูเหมือนเขาจะรู้ใจเธออยู่แล้วจึงทำให้เขาปล่อยมือที่กำลังบีบขย้ำก้อนเนื้อนุ่มอยู่ออก เพื่อกระชากชุดราตรีที่หล่อนสวมใส่อยู่ให้ขาดแหวกออกจากกันเสียงปากลิ้นที่กำลังดูดเกี่ยวกันอยู่อย่างรุนแรง ทำให้เกิดเสียงก้องอยู่ในห้องตลอดเวลาชายหนุ่มละจากริมฝีปากอิ่มไซร้จมูกไถลลงมาตามคาง
อวบใหญ่ที่เบ่งบานด้วยกำหนัดที่กำลังพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วปลายถันตั้งชันสั่นระริก
ผ่านคำคอซีดขาว ปลายลิ้นเปียกชื้นปาดตวัดเป็นทางต่ำลงเรื่อยๆ จนถึงเต้าเต่งตึง
ภายใต้อุ้งมือใหญ่ที่กำลังบีบเค้นรวบปลายยอดทั้งสองข้างให้มาเบียดชิดกันก่อนที่ชายหนุ่มจะอ้าปากรวบดูดเม็ดตุ่มไตที่แข็งตัวเหยียดยืดเข้าไปก่อนคายออกใช้ปราย
ลิ้นเลียวนรัวเร็ว เขี้ยวในปากชายหนุ่มยืดตัวออกมาเหยียดยาว เขาเหลือบตาขึ้นไป
มอง แวมไพร์สาวที่หลับตาพริ้ม ส่งเสียงครวญครางซูดปากท่าทางเผ็ดร้อนอยู่ตลอดเวลาปรายนิ้วของสองมือที่วางอยู่ศีรษะเขา คอยกำขยุ้มและกดลงให้หน้าเขาแนบชิดดูดลึกขึ้นไปอีกตัวส่ายบิดและยกขึ้นลงอยู่ตลอดเวลาด้วยความเสียวซ่าน
สองขาเรียวก็ตวัดเกี่ยวกับสะโพกหนาแล้วแอ่นยกสะโพกขึ้นไปบดเบียดกับแก่นกายที่แข็งขึงของชายหนุ่ม เขาอ้าปากกว้างขึ้นก่อนจะกดเขี้ยวลงบนเม็ดเนื้อส่วนยอดที่หด
ตัวแข็งด้วยเขี้ยวทั้งสองข้างข้างละซี่ กดปักปล่อยน้ำที่อยู่ในเขี้ยวที่ก่อให้เกิดมึนเมา
…เคริ้ม ที่ใช้กับคนที่พวกเขาต้องการดื่มเลือด ให้….สะลึมสะลือลืมตัว และจำอะไรไม่ได้ แต่กับแวมไพร์มันแค่ เหมือนเป็นยากระตุ้น ให้เกิดอารมณ์กระหายเซ็กส์แบบเร็วจี๋ แวมไพร์สาวสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะปล่อยเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความสุขสม ไม่เคย
มีสักครั้งที่เธอถึงจุดสุดยอดโดยที่ยังไม่ทำอะไรไปกว่าการสัมผัสด้านนอก
ชายหนุ่มยังคงไม่ถอนเขี้ยวออก ตราบจนแวมไพร์สาวคลายอาการสั่นระริกเกร็งค้าง
อันเกิดจากความสุขที่สาดซัด จะผ่อนตัวลงชายหนุ่มจึงถอนเขี้ยวออกแล้วถาม
“ตอนนี้คุณคิดอยากจิบเครื่องดื่มก่อนเซ็กส์ร้อนๆ หรือยัง”
“แน่นอนที่รัก เพราะต่อไป คุณจะต้องเป็นคนกรีดร้อง ครวญครางเพื่อฉัน”
ว่าแล้วแวมไพร์สาวก็พลิกตัวขึ้นคร่อมตัวชายหนุ่มให้นอนหงายลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกระชากโซ่ที่ห้อยอยู่เข้าล็อกข้อมือทีละข้างรั้งให้เขาต้องลุกขึ้นมา
นั่งคุกเข่าอยู่บนเตียงก่อนจะก้มลงใช้ลิ้นลูบเลียไปบนเนื้อตัวเขาจนเปียกทั่วไปหมดทั้งอก
“ตอนนี้ฉันอยากให้ตัวตนของคุณกระแทกกระทั้นเข้าออกข้างในตัวฉันเต็มที่แล้วฉะนั้นฉันจะไปเตรียมเครื่องดื่มสำหรับเรา เครื่องดื่มอุ่นๆ”
ว่าแล้วก็พาร่างเปลือยเปล่าลุกขึ้นสะบัดชุดราตรีที่ฉีกขาดทิ้งออกจากตัวก้าวลงจากเตียงเดินออกปะตูไปอีกทางด้านหนึ่ง ชายหนุ่มลองเกร็งข้อมือกระตุกโซ่ดูมันไม่ได้ยากเลยถ้าเขาต้องการจะสะบัดมันออก แต่ตอนนี้เขายังอยากรอดูแค่นั้นแหละ ว่าความเลวร้ายที่ได้รับรู้มาก่อนหน้านี้มันจะสักแค่ไหน เขาจึงยอมอยู่เฉยๆ
เพียงชั่วครู่หูของเขาก็สัมผัสกับ เสียงหัวใจที่เต้นด้วยจังหวะสม่ำเสมอพร้อมกับเสียงฝีเท้าเล็กๆ ไม่น้อยกว่า3คนซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเป็นของเด็ก และเสียงฝีเท้าของ
แคทเธอรีน ที่เดินนำมาก่อนทุกคน เขาจำเสียงฝีเท้าได้แม่นทีเดียว
แคทเธอรีนพาร่างอวบอัดอะร้าอะร่าม เปลือยเปล่าเดินนำมา เขาไม่รู้สึกใดๆ แต่ที่ทำให้เขาถึงหลงกระตุกกำหมัดเกร็งข้อมือก็คือสิ่งที่เดินตามหลัง แคทเธอรีน ออกมา
ด้วยอาการสงบเหม่อลอย ดูก็รู้ว่าถูกสะกดจิตด้วยอำนาจ ของแวมไพร์ ‘เด็ก’
ใช่เด็กทุกคนล้วนน่าจะไม่เกิน10ขวบ พวกนั้นเดินตามแคทเธอรีนมาหยุดที่ข้างเตียง
แคทเธอรีนก็ส่งสัญญาณมือให้หยุด แล้วทิ้งตัวลงคลานเข่าขึ้นไปหาชายหนุ่มบนเตียงด้วยท่วงท่าที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุด แต่กลับกันชายหนุ่มรู้สึกอย่างเดียวว่ามันคือสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุด แต่ใบหน้าที่แสดงออกคือทึ่งและสงสัย
“คุณคงไม่คิดให้ผม เอ่อ..กับเด็กๆ หรอกนะ” พูดพลางพยักหน้าไปทางเด็กๆ
“โอ! ไม่ที่รัก ฉันเพียงกำลังแค่จะเฉลยเครื่องดื่มรสเลิศ ที่ฉันชอบจิบตอนกำลังสนุก
แก้เหนื่อย รสชาติช่างวิเศษ หรือบางทีก็ให้พวกเขามานั่งบนเตียงคอยยื่นคอเสิร์ฟ ตอนเราเหนื่อย จากกิจกรรมร้อนๆของเรา หรือบางทีที่พวกเราเลยเถิดหน่อยเราก็แค่ฉีกคอพวกจนขาดเลือด อาจจะเลอะที่เตียงเราบ้าง การมีอะไรกันในกองเลือดมันกระตุ้นอารมณ์กระสันต์สุดๆ เนื้อตัวของเราทั้งคู่ถูกคลุกเคล้าไปด้วยเลือด อา”

แวมไพร์สาวอ้าปากครวญคราง ก่อนที่เขี้ยวจะงอกเหยียดออกมาก่อนจะ
สอดลิ้นออกมาเลียไปรอบๆริมฝีปาก
“นั่นคือสาเหตุที่เตียงนี้ไม่มีผ้าปู ใช่มั้ย และผมคิดไม่ออกว่าเด็กๆ เอ่อ… เครื่องดื่มของคุณจะทำเงินได้ยังไงตั้งมากมาย” ชายหนุ่มแย้งอย่างสงสัย
“ธุรกิจไง ที่รัก การส่งออกเด็กพวกนี้ฉันจะส่งออกไปให้พวกเผ่าพันธ์แบบเรา บางคนก็เลี้ยงไว้เพื่อคอยดูดเลือดเองบางพวกก็ เพื่อการค้าเพื่อให้เสพสมพร้อมดื่มกิน พวกนี้ไม่ชอบสะกดจิตเด็กหรอกเค้าชอบสีหน้าที่หวาดกลัว เสียงร้องที่เจ็บปวด เสียงร้องไห้ และการร้องขอชีวิต”
แวมไพร์สาวตอบก่อนจะคลานมาหยุดที่หน้าขาของชายหนุ่มแล้วใช้ลิ้นที่แลบออก มาเลียหน้าขานอกกางเกงยีนส์ของชายหนุ่ม ลากยาวขึ้นมาก่อนจะวกเข้าด้านหน้าที่เด่นนูน อ้าปากงับสลับตวัดเลียด้วยท่าทางตะกละตะกราม ชายหนุ่มอดทนที่จะไม่สะบัดแขนลงมาจับหัวของปีศาจสาวโยนกระแทกเข้ากับผนัง เพื่อที่จะได้สาสมกับ
ความชั่วช้าของเธอ ต้องทำเป็นครวญครางนับหนึ่งถึงสิบเอาไว้รออีกเถอะ แล้วจะรู้ว่าเขาสุภาพบุรุษขนาดไหน
“พวกเรามีกฎไม่ใช่หรือ การดื่มกินมนุษย์ไม่ผิดเพียงแต่เราสะกดจิตเขา น้ำลายของเราก็สามารถ สมานรอยแผลที่เกิดขึ้นให้หายทันที น้ำในเขี้ยวของเราก็สามารถทำให้เขามึนเมา…ลืมเจ็บ เราอิ่มเขาลืม ทุกอย่างโอเค”
ปีศาจสาวชะงักมือที่กำลังปดกระดุมกางเกง เงยหน้าขึ้นมองตอบเสียงสะบัด
“กฎเน่าๆพวกนั้น มันแค่กั้นสัญชาติญาณของเราเอาไว้จาก ความสนุกความ เป็นตัวของตัวเรา ใครจะสน ที่นี่ไม่มีกฎ ใครจะทำอะไรฉันได้ อีกอย่างคุณชวนฉันคุยจนฉันเริ่มคอแห้งแล้ว”
ปีศาจสาวพยักหน้าให้เด็กหญิงตัวน้อยให้เดินไร้ความรู้สึกเข้าไปหาปีศาจสาวใช้มือผลักหัวของเด็กน้อยให้เอียงไปทางด้านข้างก่อนจะใช้ปลายลิ้นเลียแตะหาตำแหน่งของเส้นเลือดใหญ่ ก่อนจะอ้าปากลงประกบดูดเส้นเลือดบริเวณนั้นให้ลอยตัวขึ้นมา
แต่ก่อนที่ปีศาจสาวจะได้ใช้เขี้ยวเจาะลงไปชายหนุ่มที่มองอยู่ก่อนก็ถามลอยๆขึ้นว่า
“คุณเล่าความลับ ของคุณตั้งมากมายให้ผมฟังไม่กลัวผมเอาไปเปิดเผยหรือเล่าต่อหรือ หรือบางที ผมอาจเป็นพวกนักล่าค่าหัวแวมไพร์ก็ได้นะ”
ปีศาจสาวหงายหน้าขึ้นตะเบ็งเสียงหัวเราะอย่างขบขัน ก่อนตอบเสียงกลั้วหัวเราะว่า
“นักล่าค่าหัวเหรอ มันเป็นแค่เรื่องเล่าที่รัก คุณคงได้ยินได้ฟังเรื่องตลกที่เขาเล่ามาละสิ
อีกอย่างคุณก็เป็นแวมไพร์เหมือนฉัน แวมไพร์ล่าแวมไพร์เหรอตลกน่า แล้วเรื่องที่ฉันเล่าก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร ฉันจะเล่าให้แวมไพร์ที่นานๆครั้งเจอฟังประจำเวลาที่เราหลับนอนกัน”
“พวกเขาไม่สนใจลงทุนกับคุณเหรอ”
“ไม่ พวกเขาผ่านมาแล้วผ่านไปสนุกกันแล้วเดินทางต่อ พวกคล่ำครึ่น่ะ”
“ผมว่าพวกเขาเคารพกฎมากกว่า”
“คุณพูดถึงกฎมาหลายครั้งแล้วนะ คุณคงเป็นพวกรักกฎอย่างแรงเลยไม่เป็นไรฉันไม่ถือ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นหุ้นส่วนของฉันก็สนุกกันได้ ถ้าคุณเป็นนักล่าจริงอย่าลืมบอกความรู้สึกของคุณตอนเสียบฉันจนมิดด้ามด้วยว่า คุณซาบซ่านแค่ไหน”
พรางทำสุ่มเสียงยั่วยวน และ สีหน้าซาบซ่านตามไปด้วย
“ก่อนผมจะทำกับคุณแบบนั้นผมถามอีกอย่าง สุดท้าย คุณเอาเด็กพวกนี้มายังไง แล้วนำออกนอกประเทศได้ไงตั้งหลายปีแบบไม่มีใครสงสัยเด็กหาย”
“ใดๆ ในโลกที่รัก ขอเพียงมีเงินเท่านั้นล่ะจะยุโรปเอเชียก็เหมือนกันหมดล่ะ อยากได้หลักฐานด้านไหนล่ะ ลูกบุญธรรม ส่งเสียเรียนต่อหรือลักลอบขนส่งทางเรือเพียงแต่ว่าส่งทางลับเยอะกว่ามากฉันทำงานนี้มาตั้งหกสิบปีเชียวนะ ฉันก็มีเครือข่ายของฉันบ้างล่ะ”
“เคลียร์! แน่นอนชัดที่สุดในสามโลก”
“ว่าแต่ตอนนี้ฉันคงต้องจิบเครื่องดื่มบ้างแล้วล่ะ และฉันขอทำแบบทุกครั้งนะ แล้วคุณจะชอบเหมือนกับพวกที่ฉันส่งเด็กๆออกไปให้บ่อยๆ”
ก่อนที่ชายหนุ่มจะทันห้ามปราม แวมไพร์สาวโบกมือเบาๆเด็กๆขยับตัวทันที
ก่อนจะมองหน้ากันไปมาอย่างงง ดวงตาเต็มไปด้วยคำถามก่อนจะหันมามองผู้ใหญ่แปลกหน้าที่คนหนึ่งเปลือยหมดตัวยืนอยู่ตรงหน้า อีกคนก็ถูกล็อกติดกับโซ่ที่โยงติดกันเพดาน นั่งคุกเข่าเปลือยอกอยู่บนเตียง เด็กที่แวมไพร์สาวจับตัวอยู่เอี้ยวตัว กลับมาถาม ด้วยทีท่าตื่นกลัวว่า
“พวกหนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”
แทนคำตอบแวมไพร์สาวก็อ้าปากกว้างขึ้น ปล่อยเขี้ยวไหลเลื่อนออกมาเหยียดยาวเล็บมือที่อยู่บนนิ้วเรียวก็พลอยยืดยาวออกมาด้วย ดวงตาก็ส่องแสงเรืองรองขึ้นทันทีการดิ้นรนเพื่อหนีออกจากกรงเล็บ และเสียงกรีดร้อง ดังระงมไปทั้งห้องผสมกับเสียงร้องไห้ขอให้ปล่อย สร้างรอยพึงพอใจให้ปรากฏขึ้นใบหน้าของแวมไพร์สาว
“ปล่อยหนู…ฮือ หนูกลัว…หนูอยากกลับบ้าน ฮือ ฮือ”
เด็กๆ ที่ไม่ได้ถูกจับตัวไว้กอดกันร้องไห้วิ่งไปซุกตัวที่มุมห้องอย่างเสียขวัญและไม่รู้ว่าจะหนีไปไหน ตัวสั่นงันงกน้ำตาไหลพรากๆลงเป็นทางทั้งสะอึกสะอื้น แม่หนูน้อยขืนตัวออกหวังวิ่งไปหาเพื่อน ทั้งมืออีกข้างยังถูกยึดไว้ด้วยมือของปีศาจสาว มืออีกข้าง
กวักเรียกเพื่อนให้มาช่วย ทั้งกรีดร้อง ปีศาจสาวกระตุกเบาๆแต่ด้วยเป็นแรงของแวมไพร์ ทำให้เธอถลากลับเข้ามาในอ้อมแขน แล้วก้มลงจะใช้เขี้ยวปักลงลำคอเล็กๆนั่นแต่ก่อนที่หล่อนจะสมหวัง เสียงโซ่ที่ลอยตัดอากาศมากระแทกหัวของแวมไพร์สาวจนเกิดเสียงดังสนั่น จนเจ้าหล่อนกระเด็นลอยไปกระแทกผนังห้อง แต่นั่นมันเพียงแค่ทำให้แวมไพร์สาว มึนแค่นั่นเอง
ที่จริงเขาก็ไม่อยากทำแบบนี้ให้เด็กๆเห็น แต่ถ้าไม่ทำแบบนั้นเด็กที่ไร้เดียงคงไม่แคล้วเป็นของเล่นที่โอชะของปีศาจโรคจิตชั่วร้ายอย่างแคทเธอรีน เขาจึงกระชากโซ่ออกมาแล้วเหวี่ยงส่วนที่หลุดจากเพดานมาหยุดการกระทำที่เขาขยะแขยง นั้นอย่างเร็วเขาดึงโซ่ให้หลุดออกมาทั้งสองข้างแล้วกระโดดลงจากเตียงพุ่งเข้าไปหา แวมไพร์
สาวที่โดนโซ่ฟาดจนกะโหลกยุบ มึนอยู่ชั่วครู่ก่อนหายทัน ก่อนแวมไพร์หนุ่มจะพุ่งเข้าถึง ทำให้แวมไพร์สาวพลิกตัวกระโดดขึ้นเกาะที่เพดานดวงตาเรืองรองด้วยความโกรธเกรี้ยวแยกเขี้ยวขู่คำราม
“ทำไม”
ปีศาจสาวแยกเขี้ยวถามด้วยแรงอารมณ์ แล้วค่อยๆ ไต่ลงจากเพดานมายืนบนพื้นห้องนอนเดินวนไปมาด้วยท่าทางระมัดระวัง
“ถ้าคุณไม่พอใจให้ฉันกินพวกมันตอนตื่น คุณก็แค่บอกฉันๆ จะทำให้พวกมันลืมแล้ว”
“ทำไม”
“ผมอาจจะเป็นเรื่องเล่าเขาที่เล่ามาก็ได้”
เขาตอบแล้วยืนมองตอบแวมไพร์สาวด้วยท่าทีเยือกเย็นและระมัดระวัง เด็กๆยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า กระจุกตัวกอดกันร้องไห้อยู่มุมห้องอย่างเสียขวัญแวมไพร์หนุ่มยังทำอะไรตอนนี้ไม่ถนัด เพราะตัวร้ายยังยืนอยู่ตรงหน้าเขาเดินเบี่ยงไปทางเด็กๆที่นั่งกอดกันอยู่เพื่อกั้นเด็กๆให้อยู่ด้านหลังเขา
“นักล่าแวมไพร์เหรอ! เป็นไปไม่ได้ มันไม่เคยมีอยู่จริง”
แวมไพร์หนุ่มยืดตัวขึ้น แยกขาออกยกมือทั้งสองข้างที่ยังติดด้วยโซ่ผายออกด้านข้าง
“ฉัน แมท แมคธิว เซอร์รีแวน และเพราะฉันไม่มีตัวตนทุกคนจึงไม่รู้จักฉันในฐานะนักล่าฉันเพราะฉันเป็นเพียงหนุ่มนักท่องราตรี โชกโชนไร้แก่นสาร ฉันเป็นนักล่ามานานก่อนเธอเกิดสักร้อยปีมั้ง แต่ใครจะสน ก็ฉันมันแค่นักเที่ยวนักดื่มธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคงเป็นเครื่องดื่ม เธอเดาไม่ถูกหรอกที่รักว่าอะไร
“ไม่ว่าแวมไพร์หน้าไหน มันก็ต้องดื่มเลือด”
ปีศาจสาวสวนด้วยน้ำเสียงแค้นเคือง
“ก็ถูก แต่เลือดอะไรล่ะ…ไม่ต้องเดาให้วุ่นวายหรอก‘เลือดแวมไพร์ต่างหาก’แต่ไม่ต้องห่วงสำหรับเลือดเธอฉันขอผ่าน ฉันกินไม่ลงหรอกมันน่าจะสกปรกมากจนกลิ่นมันแทบโชยออกมา แตะจมูกฉันเลย”
“ถึงแม้แกจะอยากจะลิ้มลองแกก็ไม่สิทธิ์ และทำไม่ได้ด้วย”
พูดจบแวมไพร์สาวก็กระโดดพุ่งตรงเข้ามาหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว กะใช้กรงเล็บกระชากลำคอชายหนุ่มที่ระวังตัวอยู่แล้ว เขาพลิกตัวหลบไปด้านข้างก่อนจะสะบัดโซ่ขึ้นไปตวัดเกี่ยวกับลำคอของแวมไพร์สาวแล้วกระตุกให้กระเด็นลอยกลับมา
เขาใช้มือตบลงไปที่กระเป๋ากางเกงยีนต์ข้างซ้ายที่ถูกออกแบบมาพิเศษเพื่อเก็บมีดเงินขนาดเล็กจำนวนหลายเล่มให้โผล่ออกมา และมีดก็ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเช่นกัน เพราะแค่เพียงกดลงไปที่ปุ่มเล็กๆ ที่ท้ายด้าม ปลายของมีดจะดีดพุ่งตัวออกมาอีกเขาดึงมีดออกมาแล้วกดด้ามมีด ยกมีดขึ้นตวัดรับร่างแวมไพร์สาว
ร่างแวมไพร์สาวกระตุกเกร็งสั่นเคลิ้มเพราะความเจ็บปวด เพราะมีดปักกรีดไปลากตรงไปตำแหน่งหัวใจ ก่อนที่ชายหนุ่มจะบิดใบตัดขั้วหัวใจเขาก็เอ่ยบอกแวมไพร์สาวว่า
“ความรู้สึกของฉันตอนเสียบเธอมิดด้ามเนี่ย โคตรสะใจเลยว่ะ”
……………………………………………………………………………





Kmoon
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.ค. 2557, 19:27:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.ค. 2557, 19:29:47 น.

จำนวนการเข้าชม : 1775





<< ผมไม่ใช่สุภาพบุรุษ 80%   เพราะพรหมลิขิต >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account