ม่านลวง
การแต่งงานเพราะผลประโยชน์ทำให้เธอได้พบกับเขา ผู้ชายคนแรกในคืน one night stand น่าขำที่เธอตกหลุมรักชายคนนี้ทั้งที่ก่อนนั้นไม่อยากแต่งงาน และนั่นไม่ได้อยู่ในข้อตกลง แล้วเขาล่ะ...คิดกับเธออย่างไร
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 5 (2/3)




แว้บมาแปะไว้ก่อนค่ะ เช่นเดิม ต้นฉบับที่ท่านเห็นเป็นตัวขัดเกลาแบบว่ายังไม่ใช่ฉบับที่จะส่งให้ สนพ. ดังนั้นอาจมีคำผิด คำสลับ เนื้อหากระโดด หรือบางจุดติดขัด ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยท้วงติงเมื่อเห็นจุดบกพร่อง ขอขอบพระคุณจากใจค่ะ และขอบพระคุณทุกคอมเม้นท์ที่บอกเล่าให้รู้ว่าท่านรู้สึกอย่างไรกับนิยายเรื่องนี้ ดีใจที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ

รัก...

อ้อย/สุชาคริยา

ปล. เดี๋ยวจะตามมาตอบเม้นท์อีกทีหนึ่งจ้า ตอนนี้ต้องเร่งงานก่อน จุ๊บๆ

---------------------------



ความเย็นเยียบทำให้ร่างกายหนาวสั่น รอบด้านมืดมิดไร้แสงทำให้มองอะไรไม่เห็น ถิรมนรู้สึกหนาวและกลัวจับใจ วันนี้พายุเข้าอย่างนั้นหรือไฟจึงดับ ฮีตเตอร์ไม่ทำงาน ไม่มีไฟหรือแสงสว่างให้เห็นเลย ความหนาวเย็นมากมายขนาดนี้เพราะหิมะตกหนักหรืออย่างไรกัน จนต้องลุกขึ้นมาเพื่อหาผ้าห่มกันหนาว

“น้องเลิฟ”

ถิรมนหันไปตามเสียง เธอมองไม่เห็นว่าเป็นใคร เพ่งเท่าไหร่ก็มีแต่ความมืดมิด แรงโอบกอดแต่ไม่เห็นใบหน้าทำให้วิตก ทว่าสิ่งหนึ่งที่รับรู้
เมื่ออยู่ในอ้อมกอดคือความอบอุ่นจากอ้อมแขนที่โอบเธอเอาไว้

“คุณพ่อขา”

ใบหน้าของถิรคุณค่อยๆ ปรากฏราวกับมีแสงไฟส่องฉายทั้งที่โดยรอบมืดมิด ความหล่อเหลาในวัยหนุ่มของท่านยังชัดเจน ถิรมนยิ้มกว้าง กอดท่านแน่นๆ อย่างดีใจ

“ไฟดับหรือคะ” เธอถามทั้งอยู่ในสภาพนั้น ความคุ้นเคยบอกว่านี่คือห้องนอนในบ้านของวิรงรองกับชาร์ลีที่นิวยอร์ก นั่นจึงทำให้เธอเป็นห่วง เพราะสัมผัสบ่งบอกว่าถิรคุณสวมเสื้อบางๆ “หนาวแบบนี้ คุณพ่อใส่แต่เสื้อยืดเดี๋ยวจะไม่สบายนะคะ”

ถิรมนเตรียมลุกขึ้นไปหยิบเสื้อโค้ทให้ถิรคุณ แต่ก็ถูกรั้งแขนไว้ จึงนั่งลงที่เดิม

“พ่ออยากกอดน้องเลิฟ” เสียงของท่านบ่งบอกความคิดถึงที่มีมากมาย

ถิรมนยิ้มออกมา แม้ไม่เห็นท่านชัดเจนแต่เธอก็ดีใจ ควานหาผ้าห่มเจอจึงดึงขึ้นคลุมไหล่ให้ท่าน ขยับตัวซุกไว้ในอ้อมอกนั้นด้วยความรักและคิดถึง เป็นสุขเหลือเกิน ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นตอนนี้นี้มีมากกว่าเสื้อตัวนั้นที่จะให้ท่านใส่เป็นไหนๆ

“น้องเลิฟอยากกอดคุณพ่อแบบนี้นานๆ จังเลยค่ะ คุณพ่อขา...น้องเลิฟจะเก็บเงินให้มากๆ เราจะได้กลับบ้านไปอยู่ด้วยกันนะคะ กลับไปอยู่บ้านเรา น้องเลิฟจะดูแลคุณพ่อให้ดีที่สุด จะทำกับข้าวให้คุณพ่อทาน คุณพ่อจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”

“แต่พ่อห่วงน้องเลิฟ”

“คุณพ่อไม่ต้องห่วงน้องเลิฟเลยค่ะ งานไม่ได้หนักอะไร น้องเลิฟทำได้ น้องเลิฟอยากให้คุณพ่อได้พักบ้าง น้องเลิฟรักคุณพ่อนะคะ”

อ้อมแขนนั้นกอดกระชับเธอมากขึ้น โยกตัวเธอไปมาดั่งเห่กล่อม สัมผัสที่จรดลงบนศีรษะเธอยังจำได้ ชื่นใจมากมายที่ได้รับสัมผัสเช่นนี้ แม้ไม่มีแสงใดให้เห็นแต่เธอก็รับรู้ ตื้นตันจนไม่อาจบรรยายที่ท่านได้กอดเธออีกครั้ง ขอบคุณอ้อมกอดนี้ที่ทำให้เธอไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไป

“เลิฟ”

“ขา” ขานรับและดันตัวเองออกมา เงยหน้าขึ้นมองเมื่อเสียงของท่านเปลี่ยนไป เพ่งมองเท่าไหร่ก็ไม่เห็น

เธอเริ่มกะพริบตาหนักขึ้นเมื่อเกิดความพร่ามัว และ...

“มองอะไร”

เสียงนั้นทำให้ต้องสะบัดศีรษะนิดๆ หลับตาหนักๆ สองสามครั้ง เพ่งมองให้ชัดจึงรู้ว่ามีแสงไฟสีส้มอ่อนๆ

นี่เธออยู่ในห้องนอนที่เมืองไทยนี่ ไม่ได้อยู่นิวยอร์กสักหน่อย แล้วก็ไม่มีคุณพ่อด้วย

“เปิดแอร์ลงโดนตัวทางเดียวไม่สวิง เดี๋ยวก็เป็นไข้หรอก หลับแท้ๆ ตัวยังสั่นกึกๆ” เสียงนั้นเหมือนจะดุนิดๆ

ถิรมนมองตาปริบๆ ไปยังเจ้าของเสียง รู้แน่ชัดว่าเป็นปรมัตถ์ก็ตอนที่เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ จ้องตากับเธอ

“แล้วนี่ฝันอะไร ถึงได้ละเมอร้องไห้ร้องห่มขนาดนั้น” เขาเหมือนจะกลั้นหัวเราะ

แต่ถิรมนหัวเราะไม่ออก รู้สึกมึนงงสุดๆ นี่เธอฝันไปหรอกหรือ แถมยังนอนคว่ำกอดหมอนแน่นเลยเชียว แล้วนั่นรอยน้ำอะไร ถิรมนลุกนั่งทันที มองหมอนที่มีรอยเปียกชื้นและยกมือลูบหน้าเร็วพลัน

‘นี่เธอร้องไห้จริงๆ’ คิดแบบนั้น จึงมองผ้านวมผืนหนาตกลงไปกองที่เอว ไม่รู้ว่ามาอยู่บนตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ และเมื่อหันไปมองรอยชื้นนั้นอีกครั้งก็รู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยก็ไม่ใช่น้ำลายให้เธอขายหน้ามากกว่านี้

เมื่อหันไปมองปรมัตถ์จึงรู้ว่าเขายังมองอยู่ อมยิ้มกับสิ่งที่เห็น ถิรมนรีบลูบหน้าลูบผมให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย แต่อาการกลั้นหัวเราะของเขายิ่งทำให้เธอขัดเขิน พูดไม่ถูกไปเลยทีเดียวที่ปล่อยให้เขาเห็นสภาพนี้

ปรมัตถ์อยู่ในชุดนอน เขามาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

‘เย็นนี้เจอกันที่บ้าน’ คำพูดของปรมัตถ์ยังดังก้องอยู่ในหัวไม่ลบเลือน แต่เขาไม่ได้มาตามเวลาที่พูดเอาไว้ เธอหันไปมองนาฬิกา จึงรู้ว่าเกือบตีสองแล้ว

“ขอโทษที่พี่มาไม่ทันตอนเย็นอย่างที่บอกไว้ งานเยอะจริงๆ แต่ยังไงพี่ก็มา เอาเป็นว่าความผิดนี้ยกให้พี่ก็แล้วกัน นับว่าทันเวลาอยู่...ใช่ไหม” เขามองเธอเหมือนจะถาม ส่งยิ้มละลายใจให้นิดหนึ่ง ขยับนอนลงบนเตียงด้วยท่าทางสบายๆ ซุกตัวเข้าใต้ผ้านวมสีขาวผืนเดียวที่มีอยู่และหลับตา

“เอิ่ม...” แล้วก็เอิ่ม...แค่นั้น เพราะเหมือนจะพูดอะไรไม่ออก งงกับความฝันยังไม่เท่ากับงงพฤติกรรมของคนที่นอนข้างๆ องค์อะไรลงประทับปรมัตถ์กันนะ เขาถึงดูใจดี ให้ความสนิทสนมราวกับคุ้นเคยกันมานาน

“วันนี้เป็นไงบ้าง” เขาถามทั้งยังหลับตาอยู่

ถิรมนไม่ได้ตอบนอกจากมองเขานิ่งๆ

“นอนสิจ๊ะ” เขาพลิกตะแคง มองเธอเหมือนชักชวน

แต่ใช่ว่าเธอจะสะดีดสะดิ้งอะไร ช่วยบอกหรือให้สัญญาณเตือนกันหน่อยได้ไหม จะได้ทำใจถูก เขาไม่รู้บ้างหรือไรว่าแค่นี้เธอก็ยากจะลบเขาออกจากความทรงจำ ดวงตาของเขานั้นคมกริบบาดหัวใจเธอเสมอจนไม่อาจหลอกตัวเองว่ามีเขาผ่านเข้ามา หรือเขามองออกว่าเธอชอบเขาเสียแล้ว จึงอ่อยเหยื่อให้ติดกับ

‘มันก็น่าติดกับนะ พี่มัตถ์น่ารักออก’ ความคิดที่หนึ่งดังมาอย่างน่าตกใจ

‘ใช่... เธอไม่เถียงว่าเขาน่ารัก แต่มันก็มีหลายอย่างที่ชวนให้สงสัย อารมณ์ของพี่มัตถ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย และไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วเขาคิดอะไรอยู่กันแน่’ ความคิดฝ่ายเหตุผลดังเถียง

‘จะคิดมากทำไม อยากก็กิน...อิ่มก็จาก ใครๆ เขาก็ทำกัน’ แทบจะตาโตกับความคิดนี้ประหนึ่งเป็นสาวรอบจัดไม่แคร์อะไร

จนต้องรีบเถียงในใจ ‘นั่นมันไม่เหมือนกัน’

‘ไม่เหมือนยังไง’

‘ก็... ก็... ปล่อยตัวปล่อยใจไปแบบนั้นมันดูง่ายดาย ไม่มีค่า’

‘ไม่มีค่ายังไง ไม่เข้าใจ’

‘ฉันต้องการความสัมพันธ์ที่มั่นคง ไม่ใช่ฉาบฉวย’ นั่นคือความคิดของเธอที่มีมาตลอด

‘กินให้หายอยากแล้วจากกัน ใครเขาก็ไม่ว่าอะไรหรอกหากไม่พูดว่าไปนอนกับใครมา’

‘หา! ช่างกล้าคิด ถึงไม่พูดแต่ก็รู้แก่ใจ’ แทบจะเสียงดังใส่ความคิดเปรี้ยวๆ ของตัวเอง

ถิรมนอยากจะขยุ้มคอเจ้าความคิดชวนขนลุกนี้จริงๆ ความสัมพันธ์แบบมีศีลธรรมนะพอรับได้ แต่ปรมัตถ์เขามีเจ้าของ หากเธอไม่รู้ก็คงสะดวกใจ ไม่ใช่ความสัมพันธ์ในรูปแบบคาราคาซัง

‘ฮั่นแน่... หากเขาไม่มีห่วงก็ยอมแหละใช่ม้าาา สนใจเขาก็พูดมาตรงๆ เถอะ’

นี่เธอมีความคิดบ้าๆ แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ น่าตีนักที่ทำตัวเหมือนสาวไวไฟไปได้

ถิรมนสูดลมหายใจเข้าลึกหวังให้สติกล่อมเกลา แต่ความจริงคือยิ่งเงียบความคิดก็ยิ่งตีกัน ใจหนึ่งอยากขึ้นเตียงกับเขาให้รู้แล้วรู้รอด แต่อีกใจก็ละอายและไม่กล้า อยากเขกกะโหลกตัวเองที่คิดอะไรพิเรนทร์ รู้ตัวดีว่าสับสนทุกครั้งคิดถึงปรมัตถ์ ไม่รู้จริงๆ ว่าคิดอย่างไรกับเขา แค่ชอบ หรืออยาก หรือต้องการความรัก หรือเพราะอะไร

หญิงสาวกรอกตาหวังให้ใจเต้นรุนแรงน้อยลง และเมื่อเห็นแอร์คอนดิชั่นเนอร์ก็เลยโทษเสียเลยว่าเพราะเจ้านี่ทำให้เธอฝันเป็นเรื่องเป็นราวได้มากมาย ทำให้ใจแกว่งเมื่อลืมตาขึ้นมาเมื่อเจอปรมัตถ์ สุดท้ายก็สับสนจนทำอะไรไม่ถูก

เธอนี่บ้าจริงๆ

“นอนได้หรือยัง”

ได้ยินคำถามจึงค่อยๆ เอนตัวลง

“ปิดไฟด้วยสิจ๊ะ”

ถิรมนหันไปมอง ปรมัตถ์พยักหน้าว่าให้ทำตามนั้น แต่เขาเป็นคนเปิดไฟนะ จะให้เธอเป็นคนปิดได้ยังไง ทว่าเมื่อมองตาคมๆ และใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์แบบผู้ชายแสนเย้ายวนก็ได้แต่หลบตา ความคิดของเธอก่อนหน้าแบบนางฟ้ากับนางมารยังตีกันและเหมือนจะรุนแรงกว่าเดิม จึงรีบหันหลังลุกขึ้นไปปิดไฟทันที

วันนี้มันวันอะไรของเธอกันนะ สับสนจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว

และเมื่อความมืดเข้ามาเยือนอีกครา ถิรมนก็คิดว่าการที่ปรมัตถ์ไม่อำนวยความสะดวกด้วยการเปิดไฟที่หัวเตียงทำให้เธอผ่อนคลาย แม้ต้องคลำเส้นทางก็ยังดีกว่าให้เขาเห็นว่าเธอหน้าแดง โชคดีว่าห้องใหม่คุ้นเคยระดับหนึ่งจึงไม่ลำบากกับการคาดคะเนทิศทาง

“กอดหน่อย คิดถึงจัง”

ร้องหวีดเบาๆ กับการถูกคว้าเอวแล้วลากเข้าไปกอด ใจสั่นไหวเต้นรัวเมื่อถูกรุกเช่นนี้





สุชาคริยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.ค. 2557, 22:22:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.ค. 2557, 22:46:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 1797





<< บทที่ 5 (1/3)   บทที่ 5 (3/3) >>
kaelek 16 ก.ค. 2557, 23:13:45 น.
หวีดดดดวิ้ววววว " กอดหน่อย คิดถึงจัง " แอบจิกหมอนก่อนนอน


konhin 17 ก.ค. 2557, 00:04:31 น.
กอดหน่อย กรี๊ดๆๆ อ่านแล้วต้องนึกหน้าคุณต้น(ไมค์)ตอนอ้อนเจติยา(มากี้)


คิมหันตุ์ 17 ก.ค. 2557, 03:16:33 น.
แอ้ะ. ยังไงๆ


นักอ่านเหนียวหนึบ 17 ก.ค. 2557, 03:32:34 น.
อั๊ยยะ!!!! กอดแน่นๆ นะจ้ะ คิๆๆๆ


ใบบัวน่ารัก 17 ก.ค. 2557, 08:34:21 น.
น้องเลิฟมีความคิดนางฟ้ากะนางร้ายเยอะไปแล้วนะ
จับปล้ำพี่มัตหรือให้นอนข้างเตียงไปเลย
พี่มัตอีกคน วัยทองหรือ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย พองี้ก็มาขาดความอบอุ่นอีก
วัยทองแน่ๆๆ


แว่นใส 17 ก.ค. 2557, 12:08:23 น.
ช่างแกล้งนะ


แล่นแต๊ 17 ก.ค. 2557, 16:44:48 น.
พี่มัตถ์ช่างอ่อยจริงจริ้งงงง


สุชาคริยา 17 ก.ค. 2557, 22:48:38 น.


ตอบเม้นท์จากตอนที่แล้วจ้า (บทที่ 5 [1/3]) >>

คุณ konhin = 5555 นั่นสิคะ เหมือนน้องเลิฟต้องมนตร์จริงๆ

คุณคิมหันตุ์ = เห็นภาพพี่มัตถ์ได้น่ากลัวกว่าเดิมเลยค่ะตอนเห็นเม้นท์นี้

คุณ OhLaLa = อิอิ ถูกต้องค่าาา ตบจูบด้วยปากแท้ๆ เลยค่ะ ^^

คุณใบบัวน่ารัก = 55555 ไม่รู้ว่าเลิฟจะรับไหวหรือว่าสั่งพี่มัตถ์ได้แบบนั้นหรือเปล่านะคะ เฮียแกยิ่งลูกล่อลูกชนเยอะอยู่

คุณแว่นใส = ไม่รู้ว่าแกล้งหรือพี่แกสับสนจริงๆ กันแน่สิคะ ^^

คุณนักอ่านเหนียวหนึบ = บางทีพี่มัตถ์ก็มีมุมน่ารักๆ เนอะ ^^

คุณแล่นแต๊ = ใช่ค่ะ พี่มัตถ์คราวนี้มาแบบว่าไม่ใช่ผู้ชายแสนดีนะจ๊ะ แต่ฉันมีเสน่ห์ แอร๊!



สุชาคริยา 17 ก.ค. 2557, 22:52:19 น.


ตอบเม้นท์จากตอนล่าสุด (บทที่ 5 [2/3]) >>

คุณ kaelek = อิอิ ฝันดีนะคะ ฟินนน

คุณ konhin = 55555 กริ๊กกริ้ววว

คุณคิมหันตุ์ = นั่นสิคะ ยังไงกันน้อ พี่มัตถ์นี่ น่าคิดๆ

คุณนักอ่านเหนียวหนึบ = อิอิ งุงิงุงิ

คุณใบบัวน่ารัก = 55555

คุณแว่นใส = แกล้งหรือยังไงอันนี้ต้องติดตามกันเนอะ ^^

คุณแล่นแต๊ = อ่อยท่านี้ ไม่รู้ว่าสาวๆ จะหลงคารมแกหรือเปล่านะคะ ^^



เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account