เล่ห์มายา สกุณาที่รัก (ผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์อิงค์)
หล่อนต้องทำหน้าที่ทดแทนบุญคุณบุพการีซึ่งไม่เคยอุ้มชูหล่อนมาด้วยการยอมเป็นเมียเก็บของหนุ่มอิตาเลี่ยน…เทโรนี่ ดีน มอนดาโดรี่ ผู้ชายอันตรายที่หล่อนอยากหลีกหนีให้ไกลที่สุด แต่ทว่าพันธะสัญญาและคำว่า‘กตัญญู’ทำให้หล่อนหลุดไม่พ้นจากกรงทองที่เขาหยิบยื่นมาให้ !

นกตัวน้อยคอยอิสระเพื่อบินใหม่ ออกไปใช้ความเสรีที่โลกกว้าง
ในบางคราวอาจดิ้นรนหมดหนทาง มีหมอกพรางยังดีกว่าอยู่กรงทอง
สกุณาสาวถูกซาตานขังตัวไว้ บังคับให้เป็นภรรยาห้ามใจสอง
เพื่อหนี้สินยอมหุบปีกทนเป็นรอง น้ำตานองหวังให้สิ้นครบ1ปี
นานวันไปใจผันแปรเจ้านกเอ๋ย ดั่งทรามเชยถูกเด็ดปีกไร้ศักดิ์ศรี
คำว่ารักเกิดขึ้นมาแสนภักดี ชั่วชีวียอมถูกขังกรงใจจำ
ปิศาจเล่ห์ทุ่มเทรักหวังพิสูจน์ ให้นงนุชสุดสะคราญเผลอถลำ
ที่โหดร้ายพี่ทำไปเพราะ 3 คำ อยากให้จำ‘พี่รักน้อง’เลยต้องเลว !

Tags: น่ารัก อารมณ์ดี โรแมนติก 18+

ตอน: โสเภณีราคาแพง

บทที่ 3
โสเภณีราคาแพง

เสียงเปียโนบรรเลงแว่วหวานซึ้งเป็นจังหวะช้าๆขับกล่อมทุกห้วงอารมณ์ให้เคลิ้มฝันตามคู่รักเบื้องหน้าที่ยืนสง่าอยู่บนแท่นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ สักขีพยานนับร้อยต่างจับจ้องมองคู่บ่าวสาวด้วยสายตาเป็นประกาย

ในวันมงคลที่มีแต่สิ่งดีงาม บนใบหน้าของทุกคนจึงเปื้อนด้วยรอยยิ้มใสสะอาด สีหน้าของบาทหลวงดูเคร่งขรึมแต่เปี่ยมไปด้วยเมตตา ทำการอ่านพระคัมภีร์ ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวสาบานรักซึ่งกันและกัน

“ไม่ว่ายามดีหรือยามร้าย ยามมั่งมีหรือยามยากจน ยามเจ็บป่วยหรือยามสุขสบาย ขอสาบานว่าจะครองรักอย่างสัตย์ซื่อจนกว่าความตายจะมาพรากจาก”

ดวงตาสีน้ำเงินฉายชัดถึงความอ่อนโยน มือใหญ่เชยคางเรียวให้เงยขึ้นสบตา ก่อนที่หน้าคมหล่อเหลาจะก้มลงมาช้าๆแนบริมฝีปากเข้าที่กลีบปากบางอย่างเร่งเร้าและเรียกร้อง

หล่อนเหมือนถูกพาขึ้นสรรค์ ถูกแหแห่งความอบอุ่นโอบรัดรอบตัว แต่แล้วทุกอย่างกลับพังครืนเมื่ออยู่ๆความรู้สึกกลับดิ่งวูบลงสู่พื้นเบื้องล่าง หญิงสาวลืมตาโพลง…พร้อมความเป็นจริงที่กลับคืนสู่ปัจจุบัน

สกุณาลูบหน้าอกตัวเองไปมา…บ้าชะมัด เพราะไม่เคยลืมเจ้าของดวงตาสีน้ำทะเลแสนสวยทำให้หล่อนเก็บมาฝัน ทั้งๆที่เคยคิดจะไม่ยอมเข้าพิธีแต่งงานกับผู้ชายคนไหน แต่กลับเก็บมาฝันเป็นตุเป็นตะ

หญิงสาวดีดตัวลุกขึ้นยืน…ภายในร้านตอนนี้ช่างดูเงียบงันเพราะเหล่าลูกจ้างต่างเลิกงานกลับบ้านกันหมด มีเพียงหล่อนที่มุมานะโหมงานเพื่อให้เสร็จตามเวลาที่ลูกค้ากำหนด

หุ่นชายหญิงตั้งเด่นเป็นสง่า ฝ่ายชายสวมชุดสูทเรียบหรู ส่วนฝ่ายหญิงสวมชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์…นี่เป็นชุดที่หล่อนตัดให้ลูกค้ารายอื่น ส่วนชุดวิวาห์ของเทโรนี่ หล่อนยังคิดไม่ออกว่าจะออกแบบให้เจ้าสาวอย่างไร

สำหรับเจ้าบ่าวนั้น หล่อนรู้อยู่แล้วทั้งขนาดตัว รูปร่าง อัธยาศัยใจคอ ทำให้พอเดาได้ว่าควรตัดแบบให้เข้ากับบุคลิกเขามากที่สุด จะมีก็เพียงชุดเจ้าสาว…ที่ยังเป็นปัญหาหนักอกสำหรับหล่อน

นิ้วเรียวยาวกรีดไปตามเนื้อผ้าลื่นอย่างดีราวแพรไหม ชุดสีขาวฟูฟ่องชวนให้นึกถึงภาพการแต่งงานในโบสถ์ คู่บ่าวสาวต่างสาบานรักและจูบกันต่อหน้าสักขีพยาน

ใช่…เจ้าสาวเปรียบดั่งกุหลาบขาวที่แสนบริสุทธิ์ ความรักที่มีแต่การให้… ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อนึกอะไรบางอย่างออก

ความรักบริสุทธิ์กับบุปผาสีขาว…งานแต่งงานของเทโรนี่ควรจะเป็นแบบนั้น หญิงสาวละมือออกจากเนื้อผ้าที่จับอยู่ จากนั้นหันไปมองทางนาฬิกาข้างฝาผนังซึ่งตีเวลาบอก2ทุ่มพอดี

เอาล่ะ…ยังเหลือเวลาอีกนับชั่วโมง ตอนนี้หล่อนจะเร่งทำงานในส่วนนี้ก่อน แล้วค่อยแต่งตัวออกไปหาเงินพิเศษข้างนอก ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ต้องทน เพราะภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้หล่อนไม่อาจปฏิเสธความลำบากได้เลย !



ท้องฟ้ายามราตรีแม้จะเป็นสีดำ แต่ทว่าตึกรามบ้านช่องกลับยังคงสว่างไสว โดยเฉพาะในย่านที่มีร้านอาหารหรือผับเปิดอยู่ แสงไฟส่องลอดออกมาเป็นเชิงเชิญชวนผีเสื้อราตรีทั้งหลายให้เข้าสู่วังวนแห่งความบันเทิงยามค่ำคืน

ร้านอาหาร Thai style delicious ตกแต่งสไตล์ยุโรปผสมกับเอเชีย ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอาหารขึ้นชื่อลือชาในด้านความอร่อยแบบไทยๆ แต่เพราะเป็นตึกแถว4ชั้น จึงมีการแบ่งระดับการให้บริการตามแต่ลูกค้าจะปรารถนา

ชั้นที่1เป็นชั้นสำหรับนักท่องราตรีที่บังเอิญหิวแล้วแวะมาหรือตั้งใจมาตั้งแต่แรกโดยจะมีการแสดงดนตรีทั้งนักร้องชายและหญิงสร้างความสนุกสนานและบันเทิง

ชั้นที่2จะเป็นที่นั่งแบบโซฟาสบายๆเหมือนทานอาหารในห้องนั่งเล่น

ชั้นที่3คือชั้นที่ลูกค้าพาผู้หญิงมาด้วย หรือหากไม่ได้ควงสาวมา ทางร้านมีเด็กเสิร์ฟหน้าตาจิ้มลิ้มให้แขกชายเลือกหาคนที่ถูกใจมาร่วมทานอาหารด้วยกัน หรือถ้าอยากจะเกินเลยมากกว่ากินข้าวก็ต้องตกลงกับผู้หญิงคนนั้นๆเอง

ชั้นที่4เป็นชั้นที่อยู่สูงสุด กรุด้วยกระจกใส มองเห็นวิวทิวทัศน์ จะว่าสวยคงไม่ใช่เพราะมันคือภาพที่ชินตาของชาวเมืองกรุง ดวงดาวที่เห็นเพียงน้อยนิดเพราะถูกแสงไฟบดบัง แต่ก็ให้ความรู้สึกเงียบสงบ เหมาะกับการอ่านหนังสือ เป็นมุมเหมาะสำหรับนักอ่าน มีทั้งนิตยสารของไทยและต่างประเทศให้เลือกหาอ่านกันในระหว่างรับประทาน

ชั่ววินาทีที่ทุกคนรอคอย ณ ชั้นที่หนึ่งของ Thai style delicious แสงไฟถูกหรี่ลงจนสลัวรางพร้อมการปรากฏกายของหญิงสาวที่ผู้ชายทั้งหนุ่มและแก่พากันหลงใหล

เสียงดนตรีจังหวะเร้าใจสอดประสานการขยับเท้าอย่างคล่องแคล่ว เอวอ่อน ลีลาโยกสะบัด ผมสยายพลิ้วเคลียหลัง บรรดาหนุ่มๆพากันสูดปากแสดงอาการหื่นกระหายออกนอกหน้า ทำให้คนที่ยืนหลบมุมอยู่ที่เก่าถึงกับนัยน์ตาวาวโรจน์อย่างไม่พอใจ

สิ้นสุดการแสดง กุหลาบสีดำดอกโตถูกโยนลงด้านล่างเวทีอีกครั้ง ส่งสายตามองผู้คนอย่างเย้ายวนก่อนสะบัดหน้ากลับไปพร้อมรอยยิ้มมีเสน่ห์ที่ประทับในหัวใจคนดูอีกหลายคน

หล่อนจงใจใช้กุหลาบสีดำเพื่อเป็นกับดักให้หนุ่มๆพากันหลงใหลความลึกลับ รอยยิ้มรัญจวนที่ส่งมา…แต่เขากลับคิดว่าเป็นรอยยิ้มเสแสร้งเสียมากกว่า ดวงตาหวานเยิ้มที่มองกราดไปทั่ว แท้ที่จริงมันคงเป็นเพียงแววตาของคนที่ไม่เชื่อในรักแท้ และหล่อนก็อยากหามัน !

เมื่อร่างงามหายลับไปจากเวทีแล้ว ร่างสูงจึงขยับเท้าขึ้นไปที่ชั้นสาม เอาล่ะ…คืนนี้เขาจะลองเล่นสนุกกับหล่อนดูสักหน่อย…แม่มดกุหลาบไฟ !


“ฉันแค่มาเต้นเท่านั้นนะคะผู้จัดการ ไม่เคยคิดจะขายตัว” เสียงแหลมๆแผดลั่นเมื่อได้ยินผู้จัดการร้านอาหารแสดงเจตจำนง

“เงินดีนะสกุณา”

“จะดีแค่ไหน ฉันก็ไม่สนค่ะ”

“ภาพลักษณ์ของเธอมันก็ไม่ต่างจากพวกขายตัวอยู่แล้ว ถ้าคิดจะขายจริงๆ ใครจะไปว่าอะไร”

“ผู้จัดการ !” ตากลมโตวาววับ จริงอยู่ที่การทำงานนี้อาจถูกมองว่าเป็นผู้หญิงบริการด้วย แต่หล่อนยึดมั่นเสมอว่าหากบริสุทธิ์ใจเสียอย่าง ใครจะมองไม่ดียังไงก็ช่าง เพราะหล่อนไม่มีวันเอาร่างกายตัวเองไปขายเพื่อแลกเงิน

“เอาล่ะๆ” มือหนาอวบอูมโบกสะบัดไปมาอย่างอ่อนใจ “แค่เป็นเพื่อนทานข้าวเท่านั้น ไหนๆตอนนี้เธอก็ว่างแล้วไม่ใช่หรือ ? จะจ่ายเงินเพิ่มให้ ถือเสียว่าทำโอที”

“แน่ใจเหรอคะว่าแค่ให้ทานอาหารเป็นเพื่อนลูกค้าเท่านั้น” หล่อนยังคงระแวง

“แน่สิ เห็นฉันเป็นคนเชื่อถือไม่ได้เหรอไง” แววตานั้นดูจริงจังจัง จ้องลึกเข้ามาในนัยน์ตาหล่อน ซึ่งคนโดนจ้องก็พยักหน้ารับอย่างไม่เกรงใจ

“ใช่ค่ะ”

ภราดรแทบหงายหลัง เขาขบกรามแน่น หน้างอหงิก… เมื่อพูดดีๆไม่ได้ผล เห็นทีต้องสวมบทบาทเป็นตัวโกงบังคับเสียแล้ว

“ถ้าเรื่องแค่นี้ทำไม่ได้ก็ออกจากงานไปซะ” พูดไปแล้วก็ต้องกลั้นหายใจรอฟังคำตอบ หากหล่อนบ้าจี้ไม่ยอมทิ้งศักดิ์ศรี ยอมที่จะเป็นฝ่ายตกงาน ร้านอาหารของเขาคงขาดลูกค้าไปเยอะ เพราะหล่อนคือดาวเด่นของที่นี่

“ผู้จัดการ เล่นแบบนี้เลยเหรอคะ” หล่อนท้วง หัวสมองมึนงง ครั้นอีกฝ่ายพยักหน้ารับอย่างขึงขัง สกุณาก็ถึงกับใจแป้ว…เพราะอยากหารายได้พิเศษเพื่อลดภาระหนี้สินให้กับตัวเองและพ่อ หล่อนจึงจำยอมมาทำงานที่นี่โดยแจ้งอย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่ขายตัวเด็ดขาด

แต่ถ้าแค่ทานอาหารด้วยกันคงไม่เป็นอะไรหรอกกระมัง… มือเรียวจับกระเป๋าสะพายข้างกระชับมั่น อย่างน้อยก็ยังมั่นใจเมื่อมีเครื่องชอร์ตไฟฟ้าซ่อนอยู่ข้างใน

“ไปเถอะน่า ไม่มีอะไรไม่ดีไม่งามหรอก” หล่อนถูกดันหลังให้ก้าวไปด้านหน้า ผ่านห้องนับสิบห้องจนมาถึงห้องสุดท้าย…ห้องที่ใหญ่ที่สุดและหรูที่สุด

“หะ ห้องนี้เหรอคะ”

“ใช่ ห้องนี้แหละ”

“แสดงว่าเขารวยมาก”

“ใช่ รวยและหล่อมาก เข้าไปเถอะ”

“เอาเด็กเสิร์ฟไปแทนฉันไม่ดีกว่าเหรอคะ” หญิงสาวเริ่มลังเลไม่แน่ใจ มีเพียงสองทางให้เลือกคือ…เปิดประตูเข้าไป หรือจะหันหลังกลับแล้วไปเดินเตะฝุ่นหางานพิเศษที่อื่นทำ

“เขาเจาะจงว่าต้องการเธอ” ภราดรพูดย้ำ ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้หล่อนยืนนิ่งงันอยู่ที่เดิม

เอาเถอะ…แค่เป็นเพื่อนทานข้าวเท่านั้นเอง ถ้าลูกค้าพยายามทำรุ่มร่ามเกินกว่านั้น หล่อนจะจัดการให้สูญพันธ์เลยทีเดียว

ประตูถูกเปิดออกช้าๆด้วยมือเรียวเล็กที่สั่นน้อยๆ ครั้นก้าวเข้ามาในห้องโอ่โถง สิ่งแรกที่สะดุดตาหาใช่เครื่องตกแต่งที่งดงามราวโรงแรมชั้นหนึ่ง แต่ทว่าเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวกว้าง…ดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่จ้องมองหล่อนอย่างรอคอยทำให้สกุณาอ้าปากค้าง ใจหายวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เตรียมหันหลังกลับทันที…

“เดี๋ยวสิแม่มด” เขาเรียกพร้อมลุกขึ้นคว้าแขนเรียวยึดไว้แน่น…สัมผัสจากอุ้งมืออุ่นๆ ความร้อนแรงที่ฉายชัดทางแววตาสีน้ำทะเลราวจะสะกดให้หล่อนยืนนิ่งงันอยู่ที่เดิม ไม่กล้าขยับไปไหน ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ

“ปะ ปล่อยค่ะ”

“เห็นหน้าผมแล้วรีบหลบ หมายความว่าไงกัน” ถามเสียงทุ้มต่ำ ปลายนิ้วแข็งแรงจับคางเล็กยึดไว้มั่น ประกายตาค้นคว้าจ้องลึกเข้ามาในดวงตาฉ่ำหวานที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง

“ปะ เปล่าค่ะ จะไปตามคนอื่นมาแทน ฉัน…ไม่สะดวก” พูดพลางพยายามหลบหน้าเขา ถ้าขืนเขาจับได้ว่าหล่อนคือคนเดียวกับเจ้าของร้านตัดเสื้อผ้า คงแย่แน่ๆ

“ไม่เอา…ผมต้องการคุณ” พยายามจับคางหล่อนให้มามองเขา ดวงตาคู่งามหลับปี๋ รู้สึกหายใจติดขัดจนอยากมุดลงไปใต้ดิน

“ผมเห็นคุณมาหลายคืนแล้วล่ะ คุณสวยและเซ็กซี่มาก”

“…” หญิงสาวลืมตาขึ้นมองเขา หรือว่าเขาจะจำไม่ได้ว่าหล่อนเป็นคนเดียวกับคุณป้าที่สวมแว่นหนาเตอะในตอนกลางวัน รอยยิ้มจึงเผยอออกด้วยท่าทีโล่งใจ

“คุณคงชื่อมอนดาโดรี่”

“โอ…น่าแปลกใจที่คนสวยๆอย่างคุณรู้จักชื่อผมด้วย” สายตาเจ้าชู้ดูกรุ้มกริ่ม ในขณะที่สกุณาใจหาย…บ้าชะมัด พูดเหมือนรู้จักเขาแบบนั้น มีหวังคงโดนสงสัย

“คุณภราดรเป็นคนบอกน่ะค่ะ”

“อ๋อ…” ชายหนุ่มพยักหน้ารับเป็นเชิงเข้าใจ “เรียกผมว่าเทโรนี่ก็ได้ครับ”

“ค่ะ คุณเทโรนี่” หล่อนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ยิ้มนิดๆก่อนจะถามว่า “คุณให้ฉันมาทานอาหารเป็นเพื่อน”

“ใช่ ผมทานคนเดียว รู้สึกว่ามันจะไม่อร่อย”

“ค่ะ ถ้าแค่ทานอาหาร…ฉันเต็มใจเสมอ”

“แล้วถ้า…” หยุดคำพูดลงนิดหนึ่งอย่างเจ้าเล่ห์ ขยับกายไปล็อกกลอนเสียงดังกริ๊ก เล่นเอาหญิงสาวถึงกับเบิกตากว้าง สัญชาตญาณบางอย่างทำให้หล่อนรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล

นิ้วยาวแข็งแรงเชยคางมนขึ้นพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งเล่นกึ่งจริง

“แล้วถ้าผมอยากทานคุณด้วยล่ะ จะว่ายังไง”

“ฉันก็จะตบคุณน่ะสิคะ”

“อ้อ…กล้าตบด้วยเหรอ” น้ำเสียงฟังเนิบนาบเหมือนเก่า แต่ทว่านัยน์ตากลับฉายแววหยามหยัน “คุณเองก็น่าจะชอบเรื่องแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ขยันโปรยเสน่ห์ให้ผู้ชาย”

“นั่นเป็นงานของฉัน”

“อ้อ…ลืมไปว่าเป็นงานของคุณ” ชายหนุ่มแค่นเสียง เขามองหล่อนผิดไปจริงๆ อย่างน้อยก็ขอทำโทษให้สาสมกับที่ผิดหวังในตัวหล่อนสักหน่อยเถอะ

“ใช่ มันเป็นงานของฉัน และฉันก็มาที่นี่เพื่อทานอาหารกับคุณ แต่ถ้าคุณต้องการมากกว่านั้น ฉันคงรับงานนี้ไม่ได้ ขอตัวก่อนค่ะ” หล่อนผลีผลามจะหนีเขา แต่ประตูถูกล็อกอยู่ ไม่ว่าจะบิดจะผลักจะดันสักเท่าไร ประตูก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับเขยื้อน เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นจากคนตัวสูงราวจะเยาะหยันเหยื่อสาวที่จนมุม

“คุณคงไม่รู้สินะว่าผมจ่ายค่าตัวคุณแพงมากแค่ไหน กว่าภราดรจะยอมเกลี้ยกล่อมให้คุณยอมนอนกับผม”

“นอน ? นอนอะไรกัน เขาบอกฉันว่าแค่ทานอาหาร”

“หึหึ คุณกำลังจะบอกผมว่าคุณซื่อมากจนโดนหลอกงั้นสินะ โน่น…ดูซะ” เขาผายมือไปทางโต๊ะตัวใหญ่ซึ่งว่างเปล่า “เห็นมั้ยว่าไม่มีจานอาหารสักจาน คุณนี่ซื่อหรือโง่กันแน่นะ”

“หยุดคำพูดหยาบคายของคุณเดี๋ยวนี้นะ”

เขายิ้ม…ยิ้มกว้างจนตาหยี แต่ให้ตายเถอะ…แม้จะมีสีหน้าดุจเทพบุตร แต่ผู้ชายคนนี้คือซาตานชัดๆ หล่อนจะทำอย่างไรเพื่อให้รอดพ้นจากเงื้อมมือเขา

“ผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวยั่วยวนผู้ชาย ใส่โป๊ๆวับๆแวมๆ คุณรู้มั้ยว่าคนอื่นจะมองยังไงน่ะ หืม? มิสสกุณา”

หญิงสาวเบิกตากว้าง เมื่อครู่นี้เขาเรียกหล่อนว่าสกุณา งั้นก็หมายความว่าเขารู้มาโดยตลอดว่าหล่อนคือคนเดียวกับคนที่ยืนเต้นยั่วบนเวที…ทำไม ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ หรือว่าคิดจะแกล้งหล่อน

“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง ถ้าคู่หมั้นของคุณรู้เข้า เธอคงจะเสียใจน่าดู”

“หึ” เขาทำเสียงชนิดหนึ่งในลำคอ ฝ่ามือลูบไล้หน้าท้องแบนราบที่โผล่พ้นชายเสื้อสายเดี่ยวออกมา “ก็ไม่รู้สินะว่าว่าที่เจ้าสาวของผมจะเสียใจหรือดีใจกันแน่ที่ผมทำแบบนี้”

ผู้ชายคนนี้…ยังคงยิ้มหน้าเป็นอยู่ได้ ไม่เคยนึกแคร์ผู้หญิงที่ตัวเองรักบ้างเลยหรือยังไงกัน

“ไอ้ฝรั่งทุเรศ ถ้าคุณไม่ปล่อยฉัน ฉันจะโวยวายให้ร้านอาหารถล่ม”

“หืม ?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง ตาคมพริบพราว “ไม่น่าเชื่อว่าสาวเฉิ่มๆดูเอาการเอางานในตอนกลางวันจะปากจัด เสียงดัง ช่างวีนขนาดนี้”

“ปล่อยฉัน ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ไอ้บ้าไอ้ทุเรศ ฉันจะให้ตำรวจมาลากคอคุณ”

“คิดเหรอว่าตำรวจจะทำอะไรผมได้…ผมซื้อคุณมาแล้วนะด้วยราคาที่แพงจนไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงฉาวโฉ่เช่นคุณจะมีค่าตัวสูงขนาดนี้”

“ผู้ชายปากเสีย…ปากสุนัข” หล่อนกัดฟันกรอด พ่นผรุคำหยาบออกมาอย่างไม่นึกเกรง ต่อให้เขาเป็นลูกค้าทั้งที่ในร้านเสื้อผ้าและที่ร้านอาหาร หล่อนก็ไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทกับผู้ชายคนนี้ในเมื่อเขาไม่ให้เกียรติหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว

“ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงเน่าๆอย่างคุณจะทำท่าโมโหราวสาวพรหมจรรย์ ไม่เอาน่าที่รัก…แสดงความร้อนแรงให้ผมดูหน่อยสิ รู้มั้ยว่าผมและบรรดาผู้ชายต่างเฝ้ารอชมการแสดงของคุณทุกคืน…คงเจนจัดล่ะสิท่า”

เพี๊ยะ !

เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่น วงหน้างามแดงก่ำ ดวงตาสองข้างเป็นประกายพริบพราวด้วยหยาดน้ำ หึ…คงเป็นน้ำตาแม่มดเจ้าเล่ห์ที่คิดจะเพิ่มราคาค่าตัวของตัวเองด้วยน้ำตาแสนไร้เดียงสานั่น แต่ขอโทษทีเถอะ…ผู้ชายเช่นเขาเจอผู้หญิงมามาก รู้ดีว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร ก็แค่หยดน้ำแห่งความเสแสร้ง ไม่มีค่าพอให้นึกเห็นใจเลยสักนิด

“อ้อ ชอบซาดิสม์ซะด้วยนะ” มือหนาลูบไล้ซีกแก้มไปมา “ได้สิ เดี๋ยวผมจัดให้”

“กรี๊ด ถอยไปนะ ไอ้บ้ากาม ไอ้บ้า”

“ก็ดีแล้วนิ ผมบ้ากาม ส่วนคุณก็บ้าเงิน เราน่าจะไปกันได้ดีไม่ใช่เหรอไง”

“ฉันไม่ต้องการไปกับคุณ อย่ามาถูกเนื้อต้องตัวฉัน” มือเรียวปัดป่ายหาทางรอด แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนเพียงใด เขากลับรุกประชิดไม่ยอมถอย วงแขนแกร่งรวบรัดร่างนุ่มเข้ากอดแนบอก ก่อนก้มลงจูบเรียวปากอิ่มอย่างดุดันไม่คิดถนอม

ความรู้สึกแรกที่ได้รับคือความหวานซ่านผสานกลิ่นคาวเลือด การกระทำที่จาบจ้วงของเขาเรียกเลือดจางๆให้ซึมออกมานอกริมฝีปาก หากทว่าต่อมา…รสชาติกลับเปลี่ยนเป็นเค็มระคนขมขื่นเมื่อหยดน้ำตารินไหลจากสองข้างแก้มแทรกซึมเข้าสู่จุมพิตของทั้งคู่

มือหนาจับท้ายทอยหล่อนตรึงไว้แน่น บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงรู้สึกหงุดหงิดนักหนา…แค้นใจจนอยากจะคลั่ง พายุอารมณ์ไม่ยอมสงบลงง่ายๆ มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อ กอบกุมปทุมคู่งามที่ถูกซุกซ่อนภายใต้บราเซียตัวจิ๋ว ออกแรงบีบเคล้นเบาๆแล้วทวีความรุนแรงมากขึ้นจนหล่อนปวดร้าว

หากวินาทีต่อมาความเจ็บกลับกลายเป็นความรัญจวน ชิวหาร้อนตวัดรัดลิ้นอ่อนนุ่มพลิกพลิ้วดื่มด่ำอย่างชำนาญจนน้ำตาหญิงสาวพาลแห้งเหือดไปโดยไม่รู้ตัว สองมือเผลอโอบรัดรอบลำคอแกร่ง ก่อนที่เขาจะถอนจูบออก ผลักหล่อนล้มลงที่พื้น ดวงตาหยามเหยียดจิกมองผู้หญิงตรงหน้าพร้อมคำพูดหนึ่งที่ทำให้หล่อนถึงกับสะอึก

“โสเภณีราคาแพง !”




1อังกฤษ2อักษรสีทอง3รามิล4จอมขวัญ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ค. 2557, 11:23:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ค. 2557, 11:23:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 941





<< เหตุเกิดในห้องลองเสื้อ   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account