ตะวันบนพื้นน้ำ
เขาเปรียบดังตะวันสาดแสงลงบนพื้นน้ำ
แผดเผากระจายไอร้อนบ่อนทำร้าย
ตะวันไม่เคยเห็นค่าพื้นน้ำแม้แต่หยดเดียว
.......................................................
ขอเมนสักนิดน๊า
แผดเผากระจายไอร้อนบ่อนทำร้าย
ตะวันไม่เคยเห็นค่าพื้นน้ำแม้แต่หยดเดียว
.......................................................
ขอเมนสักนิดน๊า
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 20 ความจริง
มาก่อนวันศุกร์อีกแล้ว รูปภาพเข้าลิ๊งไปดูได้นะ
http://image.ohozaa.com/view2/xKKwvaM5a8soOvGN
ความรู้สึกของฉันเปรียบเหมือนกับกระจกที่มันแตกเป็นชิ้นๆจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว
.........................................................................................................................................................................
"คุณสาม" รอยยิ้มของชายหนุ่มสว่างวาบ การกลับมาอีกครั้งของคนในห้วงคำนึงทำให้ร้อยยิ้มปรากฎขึ้นอย่างง่ายดาย
"นนท์ค่ะ ใส่ติดตัวเสมอถือว่าสามขอร้อง" หญิงสาวยื่นสายสร้อยเส้นดำสนิทส่งให้ชายหนุ่มผู้มีคุณ
ตัวจี้เป็นผลึกใสทรงหยดเพชรเปล่งประกายแวววาวแข่งกับแสงตะวันยามเย็น
http://image.ohozaa.com/view2/xKKZ3SADyM4tm9kT
ขอบคุณคนวาดด้วยน๊า
"ครับ" หนุ่มแว่นยอมสวมใส่จี้ต่อหน้าหญิงสาวตามคำขอร้อง
"หลับตาซิค่ะ" เปลือกตาปิดลงตามคำขอทำให้ชายหนุ่มไม่มีโอกาสมองเห็น
รอยยิ้มราวสั่งลาจากหญิงสาว
"คุณสามครับ เล่นอะไรครับ" เปลือกตาเปิดออกพร้อมรอยยิ้ม คุณสามช่างขี้เล่น
ว่างเปล่า......ไม่มีแม้แต่เงาของร่างบาง
................................................................
"นัลไม่ควรตกอยู่ในมือคนธรรมดา" ผมปลิวสยายตามแรงลมชายหนุ่ม
ข้างกายช่วยรวบมัดเป็นทรงหางม้าแต่ดูท่าเจ้าตัวคงไม่ชอบทรงนี้เท่าไร
"ถักเปีย" เริ่มเอาแต่ใจตนน้องน้อยคนเก่าเริ่มออกฤทธิ์
ชายหนุ่มมองยิ้มส่ายหน้าเบาๆ ไม่ทำให้
"นัลไม่คู่ควรกับเขา" ชายหนุ่มยังคงย้ำเตือน
มือบางแตะสายสร้อยดำสนิทบนต้นคอผลึกใสสะท้อนกับแสงแดดผลึกของพี่ชายนัล Null ลบสัมผัส ลบความมีชีวิต เหลือเพียงความว่างเปล่าสมชื่อนัล Null ว่างเปล่าไร้ตัวตนเป็นหนทางเดียวที่หนีพ้นจากเขา
"สามรู้ค่ะแต่นนท์เขาจำเป็นต้องใช้" เงียบ....ไม่ขยายความ แววตาทอดมองไปไกลไร้แววคนเอาแต่ใจดังเมื่อครู่ ท่าทางของน้องสาวทำให้คำถามของชายหนุ่มต้องหยุดลงเพียงนั้น
หนทางรอดจากปีศาจใจร้ายต้องการมาตลอดไม่ใช่หรือ ใช่ต้องการ ไม่ต้องทนกับอารมณ์แปรปรวนของเขา ไม่ต้องถูกกดดัน ไม่ได้เห็นรอยยิ้ม เอ๊ะ ไม่เห็นก็ช่างสิไม่เห็นสนใจ อย่าไปคิด ยิ้มสิ ยิ้มรับอิสรภาพ
"สามยิ้มอะไรจ๊ะ" ริมฝีปากฉีกออกราวมีความสุขเสียเต็มประดาทำให้ชายหนุ่มข้างกายมองเสียเพลิน
มือใหญ่ลูบผมเอ็นดูรอยยิ้มน้องน้อยทำให้เผลอตัวยิ้มตาม จากกันนานเหลือเกินคิดถึงสุดหัวใจจะขอปกป้องรอยยิ้มนี้ไว้ให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน ส่วนอมนุษย์ชั่วมันต้องชดใช้ประกายตาวาวกล้าฉายแสงขึ้น
"ยิ้มรับอิสรภาพค่ะ" เรากับเขาเปรียบเหมือนเส้นขนานไม่มีวันที่จะบรรจบกัน
...........................................................................................................
เตียงหลังใหญ่คงเป็นเตียงถึงสภาพจะเอ่อ...ไม่เหมือนเตียง ผ้าปูขาดกระจุยร่องรอยพาดพิงพอสันนิษฐานได้ว่าเกิดจากแรงฉีกกระชากขั้นรุนแรงส่วนฟูกหนาหักเป็นสองส่วนข้างกัน หมอนใบนิ่มขนนุ่นหลุดกระจุยกระจายถูกวางทิ้งอยู่ใกล้กับโต๊ะเขียนหนังสือ บนโต๊ะไม่มีหนังสือสักเล่มแถมเก้าอี้ที่ควรอยู่คู่กันกลับหักเป็นชิ้นอยู่ข้างหน้าต่างถัดไปอีกหน่อยหนังสือวิชาสังคมขาดเป็นชิ้นๆอยู่ข้างประตู คณิตศาสตร์อยู่หน้าห้องน้ำ วิทยาศาสตร์อยู่ข้างตู้เย็นส่วนภาษาไทยอยู่บนเครื่องปรับอากาศ
สภาพห้องถูกทารุณหนักแสดงถึงสภาพจิตใจอันไม่ปกติของอสูรหนุ่มที่นั่งสงบนิ่งอยู่ข้างเตียง การระบายลงกับสิ่งของยังไม่อาจหยุดยั้งแรงโทสะให้สงบลงได้ กี่วันที่ไม่เห็นร่างบาง ไม่ได้ยินเสียงต่อล้อต่อเถียง ไม่ได้สัมผัสผิวนุ่มของนาง
การใช้สัมผัสในค้นหาไร้ผลทำให้กำแพงหนากลายเป็นที่ระบายอารมณ เลือดสีดำเปื้อนติดผิวปูนเป็นหลักฐานของการทำร้ายตนเองบนมือซ้ายข้อนิ้วทั้งห้าถลอกช้ำเลือดดำแห้งกรังจับตัวเป็นก้อน รอยแผลสดใหม่บวมช้ำถูกเจ้าของปล่อยจนหลงเหลือเป็นเพียงสะเก็ดให้ดูต่างหน้า
โครม!!ยกที่สองเริ่มต้นขึ้น
ไม่ว่าจะใช้เวทย์ชั้นสูงหรือมนตรากี่บทกี่ขั้นที่อยู่ของแหล่งพลังกลับยังไม่ยอมปรากฎ หน้าต่างสองบานเป็นรายถัดไปตัวบานหักกระจุยทำให้ไอเย็นจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามาสัมผัสผิวกายยิ่งกระตุ้นให้นึกคิดถึงร่างนางบนเตียงกว้างสอดประสานกับร่างตนชัดเจนทุกท่วงท่า เอื้อมมือหมายคว้า...................ได้เพียงอากาศ
"สาม" ขานเรียก...ความเงียบคือคำตอบ ความรู้สึกในซอกลึกถูกกระตุ้น
"มัน" แววตาสว่างวาบสัมผัสส่งหาคนในห้วงคิด ร่างชายหนุ่มในกรอบแว่นปรากฎขึ้นก่อนถูกบดบังจากสายหมอกขมุกขมัว เป็นอาคมปิดบังซ่อนเร้นแบบเดียวกับตอนค้นหาสัมผัสของแหล่งพลัง
กรอด!!กันฟันแน่น
"ลากมันไปด้วย กล้าดีนักนะ" เหี้ยมเกรียมทุกคำ ประกายมรกตเข้มข้นจนน่าอึดอัดมือกำแน่นระงับความรู้สึกก่อนเปิดรอยยิ้มชั่วร้ายเผยให้เห็น
"เจ้ากับมันจะไม่มีวันได้ครองคู่กัน ข้าไม่ยอม" ลั่นวาจาประกาศิษย์เพื่อดับความรู้สึกร้อนรุ่ม คราก่อนข้ายังแยกเจ้ากับมันได้ รอยยิ้มสมใจพลางหวนคิดถึงฉากสังหารโหด
หยดเลือดบนพื้นถนนเป็นเครื่องสังเวยชิ้นดีหมั่นไส้ตั้งแต่อยู่ในโรงหนังบังอาจแตะไหล่จับมือโอบแขนนางตัวดีกลับยอมให้เขาจับอย่างง่ายดายคำสั่งตัดสินจึงเกิดขึ้นทันทีมันต้องตาย ยังไม่พอตอนกินข้าวนางตัวดียังทำซุ่มซ่ามอ่อยชู้ เชอะทำเป็นให้ผ้าเช็ดหน้าอีโธ่เอ๊ยจะหลอกจับมือล่ะสิ ทางด้านนางตัวดีก็ไม่รู้สักนิดยอมแตะมือกับมัน
ขากลับยังคุยกันอีกจะคุยอะไรกันนักหนาจะเจอกันวันสุดท้ายแล้วหรือไง
ขัดหูขัดตาข้าเหลือเกิน !!!
แรงโทสะที่ถูกเก็บกดทับถมมาเนิ่นนานเป็นตัวเร่งระเบิดเวลาให้เริ่มเดินไม่ว่าจะพยายามเก็บซ่อนเร้นไว้ในส่วนลึกสักแค่ไหนกลับทะลักทลายประทุออกมาเมื่อยามอยู่เพียงลำพัง
"ข้าฝืนชะตาไม่ได้รึ"
"ไม่มีทาง ข้าไม่ยอม"ยิ้มแบบเดิมเยาะเย้ยชิงชัง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
"พี่หนึ่ง เราจะไปไหนกันค่ะ" แขนของพี่ชายถูกรัดแน่นแผ่กระจายกระแสความอบอุ่นถ่ายทอดจากแทนความคิดถึง
"สามต้องไปอยู่กับคุณปู่สักระยะนะคนดี" เวลานี้ต้องพาน้องน้อยไปยังที่ปลอดภัยส่วนเราคงยังกลับไปด้วยไม่ได้เรื่องยังไม่จบปีศาจชั่วยังคงลอยนวลต้องสะสางให้เสร็จสิ้นเสียก่อนถึงจะกลับไปรอรับความผิดที่หนีมา
"ไม่เอา สามจะไปกับพี่หนึ่ง" พี่ชายจะไปไหนน้องสาวจะไปด้วยไม่ยอมถูกทิ้งอีกต่อไปแล้ว
"ไม่ได้" ข่มด้วยเสียงนิ่งขรึมพร้อมกับจ้องตาเด็กดื้อเป็นการยื่นคำขาด
"ใจร้าย" อาการเด็กสามขวบเริ่มปรากฎขึ้นรำไรเบะปากเตรียมกรีดร้องหญิงสาวจะเอาแต่ใจมากขึ้นเมื่ออยู่กับพี่ชายคนนี้
อุบ!!! เงียบสนิทอวัยวะเปล่งเสียงถูกปิดกั้นจากอวัยวะชนิดเดียวกัน การกระทำของพี่ชายทำให้น้องสาวแววตาตื่นตระหนกส่วนพี่ชายกลับส่งอมยิ้มโปรยตาหวาน
"….." พี่ชายทำอะไรกับเรา
--------------------------------------------------------------
วันเวลาทำตามหน้าที่อย่างไม่มีการขาดตกบกพร่อง ไม่มีการลาหยุด ลาป่วย หรือ หนีงาน เป็นเช่นนี้มาแสนนาน
หลายวันที่ตัดขาดจากปีศาจใจร้ายดำเนินชีวิตในดินแดนห่างไกลความเจริญบนยอดเขาสูง มัชฌิมา สภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นจัดทำให้เสื้อผ้าต้องหนาตามไปด้วย เสื้อแขนยาวจรดข้อมือกับกางเกงขายาวตัวหนาจึงเป็นตัวช่วยอย่างดีในการเพิ่มความอบอุ่น
ใบหน้าปีศาจใจร้ายติดตรึงยามหลับยามตื่นคอยตอกย้ำถึงความโง่เขลาของตัวเอง ความสาวเก็บบ่มมานานกลับถูกช่วงชิงและย่ำยี อสูรร้ายทำลายคุณค่าของลูกผู้หญิงเสียยับเยิน
"หลานปู่ เจ้าคือแหล่งพลัง ท่านชายแห่งมรนาการถึงตามล่าเจ้าเพื่อฝืนกฎแห่งพันธมิตร"
วันแรกที่เดินทางมาถึงมัชฌิมา คนเป็นปู่เรียกตัวเขาพบอย่างเริ่งด่วน น้ำสักคำยังไม่ได้แตะไหนต้องผจญกับอารมณ์ประหลาดของพี่ชายและช่องว่างของเวลาอันแสนสับสนน่าเวียนหัว อยากพักแต่ก็พักไม่ได้
"อะไรนะค่ะ" แหล่งพลัง ทำไม เราไม่มีพลังไม่ใช่เหรอ
"นานนับศตวรรษ นักเวทย์ทุกรุ่นต้องเสาะหาต้นกำเนิดของแหล่งพลังเพื่อค้ำจุ้นสายพันธุ์ แหล่งพลังจะจุติในคืนจันทร์ทรงกรดนั่นคือเจ้าสามหลานรัก"สบตาหลานรักปลอบประโลม
"สามไม่ใช่คนเหรอค่ะ สามไม่ใช่ลูกพ่อกับแม่ สามไม่ใช่หลานปู่" ความจริงที่รับรู้ทั้งตกตะลึงและเจ็บปวดแปลกใจตกใจผสมปนเปจนเกินรับไหว
"สงบใจเถิด แหล่งพลังเช่นเจ้ามีเชื้อสายเป็นมนุษย์เพียงแต่ไม่ได้กำเนิดจากมนุษย์เท่านั้น" สบตาอีกครั้งก่อนร่ายต่อ
"แหล่งพลังหากใช้ในการค้ำจุนสายพันธุ์เวทย์จะเป็นแหล่งกำเนิดพลังเวทย์อันมหาศาลแต่หากนำไปใช้ในทางที่ผิดจะเป็นภัยพิบัติอย่างใหญ่หลวงคุกคามเหล่าสรรพชีวิตจนจบสิ้นวัฏจักร แหล่งพลังหากแปดเปื้อนจะกลับกลายเป็นสิ่งไร้ค่าเหลืออำนาจเพียงครึ่งเดียวจำต้องสะอาดบริสุทธิ์ถึงจะมีอานุภาพมหาศาล"
ร่างบางนึกคิดถึงจุดจบของบ้านคุ้มกันและอุดร ไฟบรรลัยกัลป์ไล่ล่าเผ่าผลาญพี่น้องร่วมมิตรอย่างน่าสยดสยองยังจำได้ติดตา ทุกชีวิตล้วนจบลงด้วยฝีมือเขากับเรา!!!
“กฎแห่งพันธมิตร คืออะไรค่ะ” หลังฟังคำอธิบายของปู่จนครบทุกถ้อยคำราวกับจิ๊กซอที่ขาดหายค่อยๆประติดประต่อ สงสัยมานานทำไมเขาต้องมาอยู่ใกล้ ทำไมต้องมาหลอกให้ตายใจสร้างความผูกพันผูกมัดเยื่อใย ทั้งหมดเพื่อแหล่งพลังเรามีค่าแค่นั้นสินะหากเราไม่มีประโยชน์คงจะไม่แม้แต่เหลือบมอง
เขาหลอกใช้เราเพื่อฝืนกฎแห่งพันธมิตร
เขาทำลายเราเพื่อฝืนกฎแห่งพันธมิตร
เขาย่ำยีเราเพื่อฝืนกฎแห่งพันธมิตร
ฉันเจ็บนะนากิมคุณรู้บ้างไหม ฉันเกลียดคุณ
"แหล่งพลังเกิดใหม่ได้เสมอใช่ไหมค่ะ" ประโยคเด็ดเดี่ยวบ่งบอกถึงการตัดสินใจ
"ใช่"คนอาวุโสกว่ามองออกแต่ไม่คิดห้ามปรามชะตากรรมต้องปล่อยตามทางเดิน
สามเอ่ยเจ้าช่างเกิดมาผิดทีเหลือเกินหากเจ้าเป็นคนสามัญคงมีชีวิตในความสุขของโลกที่ถูกปิด
เร้นไม่ต้องทนรับภาระแสนเจ็บปวดและหนักหนาเกินกำลัง
"ท่านครับ สำนักทักษิณกับสำนักปัจฉิมถูกโจมตีครับ"คนส่งข่าวรีบรายงานข่าวร้ายอย่างเร่งรีบ
"รวบรวมคนรอดชีวิต"แววตาเคร่งเครียดก่อนออกคำสั่ง
“สามรอเดี๋ยว ปู่จะกลับมาเล่านิทานให้เจ้าฟัง อย่าวู่วาม” ร่างชราลุกออกไปสั่งการไม่นานนัก
ปัง!!! เสียงปิดประตูบานหนักจากมือเหี่ยวย่นราวกับเป็นการเริ่มบทโหมโรงของนิทานโบราณแสนเก่าแก่
“50 ปีก่อน ฝั่งนักเวทย์กับมรนาการอยู่กันอย่างสงบต่างฝ่ายต่างเป็นพันธมิตรต่อกันจนกระทั้งชนเผ่าภูตให้กำเนิดนางภูตต้นหนึ่ง ชานี” เป็นชื่อคุ้นหูหญิงสาวแต่ยังไม่แน่ใจนัก
“เจ้าสำนักคุ้มกันหลงไหลนางภูติพร่ำเพ้อหาแต่นางแต่ภูติสาวกลับมีผู้ที่ชอบพอยู่แล้วคือเจ้าแห่ง มรนาการ
เจ้าสำนักคุ้มกันแค้นที่นางภูติไม่รับรักประกอบกับแรงยุยงของไลน์ นางล่อลวงให้เจ้าแห่งมรนาการเข้าไปยังแดนมนุษย์เพื่อวางแผนสังหาร
เมื่อยามเข้าแดนมนุษย์เจ้าแห่งมรนาการจะยอมลดสภาพชาติพันธุ์ให้เป็นเช่นเดียวกับพระชายาซึ่งเป็นความลับที่รับรู้กันเพียงแค่คนสนิทเท่านั้น ความไว้ใจ ความเชื่อใจ ทำให้เจ้าแห่งมรนาการถูกลอบสังหารได้สำเร็จ
ไลน์ขึ้นครองเป็นท่านหญิงแห่งมรนาการ โยนความผิดทุกอย่างให้พวกเราชาวเวทย์ทั้งยังล่อลวงท่านชายแห่งมรนาการเป็นเครื่องมือเพื่อตามฆ่าล้างพวกนักเวทย์
เหล่านักเวทย์พยายามติดต่อขอเจรจาแต่ท่านชายแห่งมรนาการไม่รับฟัง สงครามจึงเริ่มประทุขึ้นในที่สุดแม้จะเอาชีวิตกันไม่ได้ตามกฎของพันธมิตรแต่ความเสียหายย่อยยับจนไม่อาจนับได้เลยทีเดียว" ร่างชราหยุดไปครู่หนึ่งก่อนเล่าต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
"แต่ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดกลับเป็นการทรยศของเจ้าสำนักคุ้มกัน เจ้าสำนักคุ้มกันขายความลับเรื่องแหล่งพลังให้กับท่านหญิงแห่งมรนาการทำให้เราต้องสูญเสียพี่น้องพ้องเพื่อนอย่างไร้ความยุติธรรม แต่ในท้ายที่สุดเจ้าสำนักคุ้มกันกลับได้รับโทษอย่างสาสมกับความผิดที่กระทำนั่นคือการหายสาบสูญไปของนางภูติไม่มีใครได้พบเจอนางอีกเลยหลังจากสงครามครั้งสุดท้ายจบสิ้นลงทำให้เจ้าสำนักคุ้มกันตรอมใจตายในที่สุด”
“สามจะทำให้เขาฟังเองค่ะท่านปู่” สิ่งที่ปู่พยายามจะบอกใบ้หลานสาวเข้าใจเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
................................................................................20
บอกได้คำเดียวตอนนี้นากิมกับสามทั้งสองคนเข้าใจกันไปคนละทางแล้ว
ขอบคุณทุกคนที่คลิ๊กเขามาอ่านน๊าจ๊า
http://image.ohozaa.com/view2/xKKwvaM5a8soOvGN
ความรู้สึกของฉันเปรียบเหมือนกับกระจกที่มันแตกเป็นชิ้นๆจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว
.........................................................................................................................................................................
"คุณสาม" รอยยิ้มของชายหนุ่มสว่างวาบ การกลับมาอีกครั้งของคนในห้วงคำนึงทำให้ร้อยยิ้มปรากฎขึ้นอย่างง่ายดาย
"นนท์ค่ะ ใส่ติดตัวเสมอถือว่าสามขอร้อง" หญิงสาวยื่นสายสร้อยเส้นดำสนิทส่งให้ชายหนุ่มผู้มีคุณ
ตัวจี้เป็นผลึกใสทรงหยดเพชรเปล่งประกายแวววาวแข่งกับแสงตะวันยามเย็น
http://image.ohozaa.com/view2/xKKZ3SADyM4tm9kT
ขอบคุณคนวาดด้วยน๊า
"ครับ" หนุ่มแว่นยอมสวมใส่จี้ต่อหน้าหญิงสาวตามคำขอร้อง
"หลับตาซิค่ะ" เปลือกตาปิดลงตามคำขอทำให้ชายหนุ่มไม่มีโอกาสมองเห็น
รอยยิ้มราวสั่งลาจากหญิงสาว
"คุณสามครับ เล่นอะไรครับ" เปลือกตาเปิดออกพร้อมรอยยิ้ม คุณสามช่างขี้เล่น
ว่างเปล่า......ไม่มีแม้แต่เงาของร่างบาง
................................................................
"นัลไม่ควรตกอยู่ในมือคนธรรมดา" ผมปลิวสยายตามแรงลมชายหนุ่ม
ข้างกายช่วยรวบมัดเป็นทรงหางม้าแต่ดูท่าเจ้าตัวคงไม่ชอบทรงนี้เท่าไร
"ถักเปีย" เริ่มเอาแต่ใจตนน้องน้อยคนเก่าเริ่มออกฤทธิ์
ชายหนุ่มมองยิ้มส่ายหน้าเบาๆ ไม่ทำให้
"นัลไม่คู่ควรกับเขา" ชายหนุ่มยังคงย้ำเตือน
มือบางแตะสายสร้อยดำสนิทบนต้นคอผลึกใสสะท้อนกับแสงแดดผลึกของพี่ชายนัล Null ลบสัมผัส ลบความมีชีวิต เหลือเพียงความว่างเปล่าสมชื่อนัล Null ว่างเปล่าไร้ตัวตนเป็นหนทางเดียวที่หนีพ้นจากเขา
"สามรู้ค่ะแต่นนท์เขาจำเป็นต้องใช้" เงียบ....ไม่ขยายความ แววตาทอดมองไปไกลไร้แววคนเอาแต่ใจดังเมื่อครู่ ท่าทางของน้องสาวทำให้คำถามของชายหนุ่มต้องหยุดลงเพียงนั้น
หนทางรอดจากปีศาจใจร้ายต้องการมาตลอดไม่ใช่หรือ ใช่ต้องการ ไม่ต้องทนกับอารมณ์แปรปรวนของเขา ไม่ต้องถูกกดดัน ไม่ได้เห็นรอยยิ้ม เอ๊ะ ไม่เห็นก็ช่างสิไม่เห็นสนใจ อย่าไปคิด ยิ้มสิ ยิ้มรับอิสรภาพ
"สามยิ้มอะไรจ๊ะ" ริมฝีปากฉีกออกราวมีความสุขเสียเต็มประดาทำให้ชายหนุ่มข้างกายมองเสียเพลิน
มือใหญ่ลูบผมเอ็นดูรอยยิ้มน้องน้อยทำให้เผลอตัวยิ้มตาม จากกันนานเหลือเกินคิดถึงสุดหัวใจจะขอปกป้องรอยยิ้มนี้ไว้ให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน ส่วนอมนุษย์ชั่วมันต้องชดใช้ประกายตาวาวกล้าฉายแสงขึ้น
"ยิ้มรับอิสรภาพค่ะ" เรากับเขาเปรียบเหมือนเส้นขนานไม่มีวันที่จะบรรจบกัน
...........................................................................................................
เตียงหลังใหญ่คงเป็นเตียงถึงสภาพจะเอ่อ...ไม่เหมือนเตียง ผ้าปูขาดกระจุยร่องรอยพาดพิงพอสันนิษฐานได้ว่าเกิดจากแรงฉีกกระชากขั้นรุนแรงส่วนฟูกหนาหักเป็นสองส่วนข้างกัน หมอนใบนิ่มขนนุ่นหลุดกระจุยกระจายถูกวางทิ้งอยู่ใกล้กับโต๊ะเขียนหนังสือ บนโต๊ะไม่มีหนังสือสักเล่มแถมเก้าอี้ที่ควรอยู่คู่กันกลับหักเป็นชิ้นอยู่ข้างหน้าต่างถัดไปอีกหน่อยหนังสือวิชาสังคมขาดเป็นชิ้นๆอยู่ข้างประตู คณิตศาสตร์อยู่หน้าห้องน้ำ วิทยาศาสตร์อยู่ข้างตู้เย็นส่วนภาษาไทยอยู่บนเครื่องปรับอากาศ
สภาพห้องถูกทารุณหนักแสดงถึงสภาพจิตใจอันไม่ปกติของอสูรหนุ่มที่นั่งสงบนิ่งอยู่ข้างเตียง การระบายลงกับสิ่งของยังไม่อาจหยุดยั้งแรงโทสะให้สงบลงได้ กี่วันที่ไม่เห็นร่างบาง ไม่ได้ยินเสียงต่อล้อต่อเถียง ไม่ได้สัมผัสผิวนุ่มของนาง
การใช้สัมผัสในค้นหาไร้ผลทำให้กำแพงหนากลายเป็นที่ระบายอารมณ เลือดสีดำเปื้อนติดผิวปูนเป็นหลักฐานของการทำร้ายตนเองบนมือซ้ายข้อนิ้วทั้งห้าถลอกช้ำเลือดดำแห้งกรังจับตัวเป็นก้อน รอยแผลสดใหม่บวมช้ำถูกเจ้าของปล่อยจนหลงเหลือเป็นเพียงสะเก็ดให้ดูต่างหน้า
โครม!!ยกที่สองเริ่มต้นขึ้น
ไม่ว่าจะใช้เวทย์ชั้นสูงหรือมนตรากี่บทกี่ขั้นที่อยู่ของแหล่งพลังกลับยังไม่ยอมปรากฎ หน้าต่างสองบานเป็นรายถัดไปตัวบานหักกระจุยทำให้ไอเย็นจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามาสัมผัสผิวกายยิ่งกระตุ้นให้นึกคิดถึงร่างนางบนเตียงกว้างสอดประสานกับร่างตนชัดเจนทุกท่วงท่า เอื้อมมือหมายคว้า...................ได้เพียงอากาศ
"สาม" ขานเรียก...ความเงียบคือคำตอบ ความรู้สึกในซอกลึกถูกกระตุ้น
"มัน" แววตาสว่างวาบสัมผัสส่งหาคนในห้วงคิด ร่างชายหนุ่มในกรอบแว่นปรากฎขึ้นก่อนถูกบดบังจากสายหมอกขมุกขมัว เป็นอาคมปิดบังซ่อนเร้นแบบเดียวกับตอนค้นหาสัมผัสของแหล่งพลัง
กรอด!!กันฟันแน่น
"ลากมันไปด้วย กล้าดีนักนะ" เหี้ยมเกรียมทุกคำ ประกายมรกตเข้มข้นจนน่าอึดอัดมือกำแน่นระงับความรู้สึกก่อนเปิดรอยยิ้มชั่วร้ายเผยให้เห็น
"เจ้ากับมันจะไม่มีวันได้ครองคู่กัน ข้าไม่ยอม" ลั่นวาจาประกาศิษย์เพื่อดับความรู้สึกร้อนรุ่ม คราก่อนข้ายังแยกเจ้ากับมันได้ รอยยิ้มสมใจพลางหวนคิดถึงฉากสังหารโหด
หยดเลือดบนพื้นถนนเป็นเครื่องสังเวยชิ้นดีหมั่นไส้ตั้งแต่อยู่ในโรงหนังบังอาจแตะไหล่จับมือโอบแขนนางตัวดีกลับยอมให้เขาจับอย่างง่ายดายคำสั่งตัดสินจึงเกิดขึ้นทันทีมันต้องตาย ยังไม่พอตอนกินข้าวนางตัวดียังทำซุ่มซ่ามอ่อยชู้ เชอะทำเป็นให้ผ้าเช็ดหน้าอีโธ่เอ๊ยจะหลอกจับมือล่ะสิ ทางด้านนางตัวดีก็ไม่รู้สักนิดยอมแตะมือกับมัน
ขากลับยังคุยกันอีกจะคุยอะไรกันนักหนาจะเจอกันวันสุดท้ายแล้วหรือไง
ขัดหูขัดตาข้าเหลือเกิน !!!
แรงโทสะที่ถูกเก็บกดทับถมมาเนิ่นนานเป็นตัวเร่งระเบิดเวลาให้เริ่มเดินไม่ว่าจะพยายามเก็บซ่อนเร้นไว้ในส่วนลึกสักแค่ไหนกลับทะลักทลายประทุออกมาเมื่อยามอยู่เพียงลำพัง
"ข้าฝืนชะตาไม่ได้รึ"
"ไม่มีทาง ข้าไม่ยอม"ยิ้มแบบเดิมเยาะเย้ยชิงชัง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
"พี่หนึ่ง เราจะไปไหนกันค่ะ" แขนของพี่ชายถูกรัดแน่นแผ่กระจายกระแสความอบอุ่นถ่ายทอดจากแทนความคิดถึง
"สามต้องไปอยู่กับคุณปู่สักระยะนะคนดี" เวลานี้ต้องพาน้องน้อยไปยังที่ปลอดภัยส่วนเราคงยังกลับไปด้วยไม่ได้เรื่องยังไม่จบปีศาจชั่วยังคงลอยนวลต้องสะสางให้เสร็จสิ้นเสียก่อนถึงจะกลับไปรอรับความผิดที่หนีมา
"ไม่เอา สามจะไปกับพี่หนึ่ง" พี่ชายจะไปไหนน้องสาวจะไปด้วยไม่ยอมถูกทิ้งอีกต่อไปแล้ว
"ไม่ได้" ข่มด้วยเสียงนิ่งขรึมพร้อมกับจ้องตาเด็กดื้อเป็นการยื่นคำขาด
"ใจร้าย" อาการเด็กสามขวบเริ่มปรากฎขึ้นรำไรเบะปากเตรียมกรีดร้องหญิงสาวจะเอาแต่ใจมากขึ้นเมื่ออยู่กับพี่ชายคนนี้
อุบ!!! เงียบสนิทอวัยวะเปล่งเสียงถูกปิดกั้นจากอวัยวะชนิดเดียวกัน การกระทำของพี่ชายทำให้น้องสาวแววตาตื่นตระหนกส่วนพี่ชายกลับส่งอมยิ้มโปรยตาหวาน
"….." พี่ชายทำอะไรกับเรา
--------------------------------------------------------------
วันเวลาทำตามหน้าที่อย่างไม่มีการขาดตกบกพร่อง ไม่มีการลาหยุด ลาป่วย หรือ หนีงาน เป็นเช่นนี้มาแสนนาน
หลายวันที่ตัดขาดจากปีศาจใจร้ายดำเนินชีวิตในดินแดนห่างไกลความเจริญบนยอดเขาสูง มัชฌิมา สภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นจัดทำให้เสื้อผ้าต้องหนาตามไปด้วย เสื้อแขนยาวจรดข้อมือกับกางเกงขายาวตัวหนาจึงเป็นตัวช่วยอย่างดีในการเพิ่มความอบอุ่น
ใบหน้าปีศาจใจร้ายติดตรึงยามหลับยามตื่นคอยตอกย้ำถึงความโง่เขลาของตัวเอง ความสาวเก็บบ่มมานานกลับถูกช่วงชิงและย่ำยี อสูรร้ายทำลายคุณค่าของลูกผู้หญิงเสียยับเยิน
"หลานปู่ เจ้าคือแหล่งพลัง ท่านชายแห่งมรนาการถึงตามล่าเจ้าเพื่อฝืนกฎแห่งพันธมิตร"
วันแรกที่เดินทางมาถึงมัชฌิมา คนเป็นปู่เรียกตัวเขาพบอย่างเริ่งด่วน น้ำสักคำยังไม่ได้แตะไหนต้องผจญกับอารมณ์ประหลาดของพี่ชายและช่องว่างของเวลาอันแสนสับสนน่าเวียนหัว อยากพักแต่ก็พักไม่ได้
"อะไรนะค่ะ" แหล่งพลัง ทำไม เราไม่มีพลังไม่ใช่เหรอ
"นานนับศตวรรษ นักเวทย์ทุกรุ่นต้องเสาะหาต้นกำเนิดของแหล่งพลังเพื่อค้ำจุ้นสายพันธุ์ แหล่งพลังจะจุติในคืนจันทร์ทรงกรดนั่นคือเจ้าสามหลานรัก"สบตาหลานรักปลอบประโลม
"สามไม่ใช่คนเหรอค่ะ สามไม่ใช่ลูกพ่อกับแม่ สามไม่ใช่หลานปู่" ความจริงที่รับรู้ทั้งตกตะลึงและเจ็บปวดแปลกใจตกใจผสมปนเปจนเกินรับไหว
"สงบใจเถิด แหล่งพลังเช่นเจ้ามีเชื้อสายเป็นมนุษย์เพียงแต่ไม่ได้กำเนิดจากมนุษย์เท่านั้น" สบตาอีกครั้งก่อนร่ายต่อ
"แหล่งพลังหากใช้ในการค้ำจุนสายพันธุ์เวทย์จะเป็นแหล่งกำเนิดพลังเวทย์อันมหาศาลแต่หากนำไปใช้ในทางที่ผิดจะเป็นภัยพิบัติอย่างใหญ่หลวงคุกคามเหล่าสรรพชีวิตจนจบสิ้นวัฏจักร แหล่งพลังหากแปดเปื้อนจะกลับกลายเป็นสิ่งไร้ค่าเหลืออำนาจเพียงครึ่งเดียวจำต้องสะอาดบริสุทธิ์ถึงจะมีอานุภาพมหาศาล"
ร่างบางนึกคิดถึงจุดจบของบ้านคุ้มกันและอุดร ไฟบรรลัยกัลป์ไล่ล่าเผ่าผลาญพี่น้องร่วมมิตรอย่างน่าสยดสยองยังจำได้ติดตา ทุกชีวิตล้วนจบลงด้วยฝีมือเขากับเรา!!!
“กฎแห่งพันธมิตร คืออะไรค่ะ” หลังฟังคำอธิบายของปู่จนครบทุกถ้อยคำราวกับจิ๊กซอที่ขาดหายค่อยๆประติดประต่อ สงสัยมานานทำไมเขาต้องมาอยู่ใกล้ ทำไมต้องมาหลอกให้ตายใจสร้างความผูกพันผูกมัดเยื่อใย ทั้งหมดเพื่อแหล่งพลังเรามีค่าแค่นั้นสินะหากเราไม่มีประโยชน์คงจะไม่แม้แต่เหลือบมอง
เขาหลอกใช้เราเพื่อฝืนกฎแห่งพันธมิตร
เขาทำลายเราเพื่อฝืนกฎแห่งพันธมิตร
เขาย่ำยีเราเพื่อฝืนกฎแห่งพันธมิตร
ฉันเจ็บนะนากิมคุณรู้บ้างไหม ฉันเกลียดคุณ
"แหล่งพลังเกิดใหม่ได้เสมอใช่ไหมค่ะ" ประโยคเด็ดเดี่ยวบ่งบอกถึงการตัดสินใจ
"ใช่"คนอาวุโสกว่ามองออกแต่ไม่คิดห้ามปรามชะตากรรมต้องปล่อยตามทางเดิน
สามเอ่ยเจ้าช่างเกิดมาผิดทีเหลือเกินหากเจ้าเป็นคนสามัญคงมีชีวิตในความสุขของโลกที่ถูกปิด
เร้นไม่ต้องทนรับภาระแสนเจ็บปวดและหนักหนาเกินกำลัง
"ท่านครับ สำนักทักษิณกับสำนักปัจฉิมถูกโจมตีครับ"คนส่งข่าวรีบรายงานข่าวร้ายอย่างเร่งรีบ
"รวบรวมคนรอดชีวิต"แววตาเคร่งเครียดก่อนออกคำสั่ง
“สามรอเดี๋ยว ปู่จะกลับมาเล่านิทานให้เจ้าฟัง อย่าวู่วาม” ร่างชราลุกออกไปสั่งการไม่นานนัก
ปัง!!! เสียงปิดประตูบานหนักจากมือเหี่ยวย่นราวกับเป็นการเริ่มบทโหมโรงของนิทานโบราณแสนเก่าแก่
“50 ปีก่อน ฝั่งนักเวทย์กับมรนาการอยู่กันอย่างสงบต่างฝ่ายต่างเป็นพันธมิตรต่อกันจนกระทั้งชนเผ่าภูตให้กำเนิดนางภูตต้นหนึ่ง ชานี” เป็นชื่อคุ้นหูหญิงสาวแต่ยังไม่แน่ใจนัก
“เจ้าสำนักคุ้มกันหลงไหลนางภูติพร่ำเพ้อหาแต่นางแต่ภูติสาวกลับมีผู้ที่ชอบพอยู่แล้วคือเจ้าแห่ง มรนาการ
เจ้าสำนักคุ้มกันแค้นที่นางภูติไม่รับรักประกอบกับแรงยุยงของไลน์ นางล่อลวงให้เจ้าแห่งมรนาการเข้าไปยังแดนมนุษย์เพื่อวางแผนสังหาร
เมื่อยามเข้าแดนมนุษย์เจ้าแห่งมรนาการจะยอมลดสภาพชาติพันธุ์ให้เป็นเช่นเดียวกับพระชายาซึ่งเป็นความลับที่รับรู้กันเพียงแค่คนสนิทเท่านั้น ความไว้ใจ ความเชื่อใจ ทำให้เจ้าแห่งมรนาการถูกลอบสังหารได้สำเร็จ
ไลน์ขึ้นครองเป็นท่านหญิงแห่งมรนาการ โยนความผิดทุกอย่างให้พวกเราชาวเวทย์ทั้งยังล่อลวงท่านชายแห่งมรนาการเป็นเครื่องมือเพื่อตามฆ่าล้างพวกนักเวทย์
เหล่านักเวทย์พยายามติดต่อขอเจรจาแต่ท่านชายแห่งมรนาการไม่รับฟัง สงครามจึงเริ่มประทุขึ้นในที่สุดแม้จะเอาชีวิตกันไม่ได้ตามกฎของพันธมิตรแต่ความเสียหายย่อยยับจนไม่อาจนับได้เลยทีเดียว" ร่างชราหยุดไปครู่หนึ่งก่อนเล่าต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
"แต่ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดกลับเป็นการทรยศของเจ้าสำนักคุ้มกัน เจ้าสำนักคุ้มกันขายความลับเรื่องแหล่งพลังให้กับท่านหญิงแห่งมรนาการทำให้เราต้องสูญเสียพี่น้องพ้องเพื่อนอย่างไร้ความยุติธรรม แต่ในท้ายที่สุดเจ้าสำนักคุ้มกันกลับได้รับโทษอย่างสาสมกับความผิดที่กระทำนั่นคือการหายสาบสูญไปของนางภูติไม่มีใครได้พบเจอนางอีกเลยหลังจากสงครามครั้งสุดท้ายจบสิ้นลงทำให้เจ้าสำนักคุ้มกันตรอมใจตายในที่สุด”
“สามจะทำให้เขาฟังเองค่ะท่านปู่” สิ่งที่ปู่พยายามจะบอกใบ้หลานสาวเข้าใจเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
................................................................................20
บอกได้คำเดียวตอนนี้นากิมกับสามทั้งสองคนเข้าใจกันไปคนละทางแล้ว
ขอบคุณทุกคนที่คลิ๊กเขามาอ่านน๊าจ๊า

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ส.ค. 2557, 15:26:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ส.ค. 2557, 16:13:06 น.
จำนวนการเข้าชม : 1122
<< ตอนที่ 19 อาคารากี | ตอนที่ 26 คลี่คลาย >> |

ใบบัวน่ารัก 2 ส.ค. 2557, 18:47:38 น.
ยัง งง ไหน ท่านปีศาจ อายุ 100 ปี
แต่ นิทาน เรื่องนี้ 50 ปี มาแล้ว งง อ่ะ
ยัง งง ไหน ท่านปีศาจ อายุ 100 ปี
แต่ นิทาน เรื่องนี้ 50 ปี มาแล้ว งง อ่ะ