บันทึกสารบัญลับของนักรักท่องโลก I
ความรัก?

“ผม..เคยคิดว่า ความรัก คือ ความรู้สึกที่ทำให้ชีวิตมนุษย์มีสีสัน
ใช่!! เหมือนข้อสอบที่รู้แต่ไม่สามารถเข้าใจ
เพราะความรัก คือ อย่างนั้นละ มันถึงยากที่จะทำความเข้าใจ
แต่ถึงอย่างนั้น สำหรับผมในตอนนี้ ผมคิดว่า มันไม่ได้ยากเลย
ทำไม...ผมถึงคิดอย่างนั้นนะเหรอ?
คำตอบมันแน่นอนอยู่แล้ว
ว่า...ผม....นะ
กำลังตกหลุมรักใครบางคนอยู่...อย่างถอนตัวไม่ได้นะสิ”

Tags: รัก

ตอน: บันทึก ความลับของการแอบมอง

สารบัญที่ III
บันทึก ความลับของการแอบมอง

“ผมไม่สบายงั้นเหรอ?? ไม่สิ อาการแบบนี้!!

คงไม่ใช่ว่า

ผม ชอบ ผู้หญิง คน นี้ เข้า จริงๆ หรอกนะ!!!”

“บ้าไปแล้ว ไม่มีทางที่เรื่องบ้าๆนี่จะเป็นจริง ไม่มีทาง” ไวทินร้องตะโกนออกมาอย่างแผ่วเบา

“ไงๆพ่อหนุ่มนักรักท่าทางมีความสุขเชียวนะ” จเรพูดเอาคืนอย่างสาสม

“หะ!!”

“โอ้ !ความรักช่างหอมหวาน5555” ทินกรพูดพร้อมตบไหล่ไวทินเบาๆ

“5555 เมื่อไม่นานจเร วันนี้ก็ไวทินเรอะ!! กลุ่มเรานี่เรื่องสนุกเยอะเนอะ” เธียร์โต้ตอบด้วยสีหน้าสนุกสุดขีด
แต่ถึงไวทินจะโดนแซวขนาดไหนเขาก็ยังคงนิ่งเงียบสนิทจนเพื่อนทั้งสามสงสัย
ทินกรเห็นเพื่อนตนเงียบไปจึงถามด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

“นายคงไม่ได้โกรธ?”

“......ไม่จริงน่า”
แต่ก็ต้องตกใจเพราะหน้าของไวทินกำลังแดงก่ำจากหน้าไปถึงคอแถมยังยืนแข็งทื่อยั่งกับหินเมื่อเห็นอาการแบบนี้เล่นล้อกันต่อไม่ได้เลยทีเดียว

กริ่งงงงงงงง ̴ ̴

เมื่อเสียงกริ่งเข้าเรียนดังขึ้นทั้งสามก็ลากจอมหลับที่กำลังแข็งเข้าห้องด้วยความยากลำบากทันที
ในชั่วโมงแรกเป็นคาบสังคมซึ่งรู้กันดีว่าเสียงครูผู้สอนช่างนุ่มนวลชวนนอนดุจดั่งฟังนิทานก่อนนอนเลยทีเดียว ซึ่งคาบนี้ไวทินหรือผมคนนี้ชอบแอบหลับเป็นประจำนั่นเองแต่ผิดไปที่วันนี้ ผมดันไม่มีทีท่าว่าจะนอนเลยซักนิดแถมเผลอทีไรก็ต้องมองไปโต๊ะข้างหน้าสุดทุกที

ถ้าถามว่าทำไมละก็ .... แน่นอนเพราะเธออยู่ตรงนั่นนะซิ จะว่าไปห้องนี้มันใหญ่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะแล้ววิชานี้มันน่าสนขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมเธอคนนั้นดูสนุกกับการเรียนจัง อะกว่าจะรู้ตัว ผมก็เผลอมองเธอไปอีกละ

“ให้ตายสิที่นี่สดใสขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ” ผมพึมพำกับตัวเองด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข
และกว่าจะรู้ตัววิชาแรกก็จบไปโดยที่ผมยังไม่ได้หลับซักนิดแม้จะง่วงมากแต่ผมก็ไม่รู้สึกอยากนอนเลย แม้แต่นิด
วิชาที่สองเรียนคณิตซึ่งเป็นวิชาที่ผมถนัดและตั้งใจฟังที่สุดแต่วันนี้ผมกลับไม่ได้ยินที่ครูสอนเลยซักนิด เอาแต่ยิ้มเหมือนคนบ้าเมื่อเห็นชูแปงมีท่าทางครุ่นคิด ถ้ามีกระจกผมอาจจะรู้ตัวเร็วกว่านี้ว่าผมมีสีหน้าแปลกๆมากมาย และใช่!!ตอนนี้ผมควรจะทำโจทย์บนกระดานได้แล้ว

(หืม ̴ ยังไม่รู้งั้นเหรอ) ผมจมอยู่กับความคิดเมื่อเห็นท่าทางคิดไม่ตกของเธอ
(อะ!!เหมือนจะรู้แล้วซินะ ฮะฮะ) ผมเริ่มสังเกตเธอมากขึ้นเมื่อเห็นเธอเริ่มขีดเขียนบางอย่างลงไป
แต่จู่ๆเธอก็หันขวับมาค้นของในกระเป๋าหลังเก้าอี้และทอดสายตาตกมาที่ผมพอดี
นั่นทำให้ผมตกใจจนหันหน้าที่มีรอยยิ้มละมุนละไมหนีไม่ทัน
“.........ทิน”

“นายไวทินได้ยินที่พูดไหม!!”

“ครับ!!อาจารย์!!!”

“เอ้า ถ้าได้ยินก็ตอบมาข้อ14ตอบอะไร”
เนื่องจากโดนเรียกกะทันหันทำให้ผมสมองเออเร่อทันทีแต่โชคยังดีที่เธอคนนั่นใจดีไม่น้อยและแอบบอกคำตอบให้ผม
“เอ๊ะ!! เอ่อ.....คือ......√7 กับ 44 ครับ”
“ดีมาก แต่ทีหลังอย่าเหม่ออีกละ”

เมื่อผมนั่งลงก็ได้แต่ส่งสายตาขอบคุณไปที่เธอคนนั้นท่าเดียวและดูเหมือนเธอจะรู้ตัวเลยส่งยิ้มให้ผมเล็กน้อย แต่ก็มากพอที่จะทำให้ผมหน้าแดงได้มากจนตัวแข็งอีกรอบเลย
และเวลาเรียนก็จบลงอย่างรวดเร็ว
และผมก็เป็นเช่นนั่นทั้งอาทิตย์.



AISER
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ส.ค. 2557, 00:01:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ส.ค. 2557, 00:02:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 960





<< บันทึก ความลับของเด็กเลี้ยงแกะ   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account