เหลี่ยมร้ายลายพยัคฆ์
เหลี่ยมร้ายลายพยัคฆ์
ประพันธ์โดย...กันต์ระพี
(ลิขสิทธิ์งานเขียนเรื่องนี้เป็นของสนพ. Touch publishing)

อลิส..นักโจรกรรมสาวพราวเสน่ห์หวังช่วงชิงไดมอนด์เฟอร์เซีย แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันนำเธอสู่ทะเลทราย ดินแดนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งรัก

เปิดให้ทดลองอ่านบางส่วนเท่านั้น!!
หมายเหตุ...
งานเขียนเรื่องนี้เดิมทีชื่อพยัคฆ์สาวเจ้าหัวใจชีค
ปัจจุบันต้นฉบับได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อเรื่อง
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 4

“ข้อมูลจากนักสืบเอกชนพระเจ้าค่ะ”

“อืม...” ชีคลาซิสยื่นพระหัตถ์ออกไปรับซองเอกสารสีน้ำตาลจากอับดุลลาแล้วดำเนินออกจากห้องบรรทมมาประทับนั่ง ทรงให้ความสนใจข้อมูลที่อยู่ในนั้น มากกว่าพระกายาหารเช้าที่หัวหน้าราชองครักษ์ลำเลียงมาขึ้นโต๊ะเสวย

“ผู้ชายคนนี้เป็นคู่หมั้นของปลายฟ้าอย่างนั้นเหรอ เข้าตามตรอกออกตามประตูอย่างนี้นี่เล่า มิน่า...พระสนมฟ้ามาศถึงไม่ได้ว่ากล่าวประการใด” ชีคลาซิสเปรยขึ้น หลังจากทรงอ่านประวัติคร่าวๆ ของชายหนุ่มที่ทรงว่าจ้างนำสืบเอกชนไปนำสืบก็คลายกังวล

มาร์ค รีวิลล์ไม่มีประวัติด่างพร้อย เขาประกอบอาชีพสุจริต เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่มีชื่อเสียงในแวดวงสังคม บริษัทรีวิลล์ เน็ทเวิร์ค จำกัด ซึ่งผลิตอุปกรณ์สื่อสารที่ทันสมัยภายใต้การบริหารงานของมาร์คเป็นที่รู้จักแพร่หลายในหลายประเทศ

ผู้ชายคนนี้มีความเหมาะสมกับพระขนิษฐาทุกประการ

แม้ชีคลาซิสจะทรงยินดีที่ท่านหญิงปลายฟ้าเลือกคู่ครองไม่ผิด แต่ภายในพระราชหฤทัยกลับสะท้อนใจนัก ด้วยไม่อาจเลือกคู่ครองได้ตามความปรารถนาเฉกเช่นพระขนิษฐา เพราะกฎมณเฑียรบาลบัญญัติไว้...ผู้นั่งบัลลังก์ในฐานะกษัตริย์จะต้องอภิเษกสมรสกับหญิงสาวที่มีเลือดซาร์รียาร์กอยู่ในตัวเท่านั้น!

ชีคลาซิสทรงถอนพระปัสสาสะ พลางสลัดความคิดเหล่านั้นทั้งไป เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งคิดเรื่องส่วนตน แต่ควรจะหาวิธีไถ่โทษแทนพระมารดา ซึ่งนี่ก็เป็นโอกาสเหมาะที่จะส่งคืนสร้อยเพชรล้ำค่าให้กับเจ้าของที่แท้จริง โดยไม่ตะขิดตะขวงใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ชีคลาซิสทรงมีพระราชดำริจะยกเอางานวิวาห์ของท่านหญิงปลายฟ้ามาเป็นข้ออ้าง ด้วยมีพระประสงค์จะพระราชทานไดมอนด์เฟอร์เซียเป็นของขวัญ ซึ่งพระสนมฟ้ามาศคงไม่กล้าขัดขวาง เพราะการที่พระเชษฐาต่างมารดาจะประทานของสักชิ้นให้กับพระขนิษฐานั้นไม่ใช่เรื่องแปลก

ชีคหนุ่มแย้มพระโอษฐ์ ครั้นเลื่อนสลับเอกสารในพระหัตถ์ก็ต้องตกตะลึงแลกับภาพสตรีที่ปรากฏเบื้องพระพักตร์ อลิส...น้องสาวของคู่หมั้นท่านหญิงปลายฟ้าช่างงดงามนัก หล่อนสดใสน่ารัก มีนัยน์ตาสีครามราวกับห้วงน้ำในมหาสมุทร ดวงหน้าก็หวานซึ้งตรึงหทัยเป็นยิ่งนัก ทรงตกหลุมรักหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็นราวกับต้องมนต์สะกด ด้วยต้องตาต้องใจจนพระราชหฤทัยรุ่มร้อนไปหมด

“อับดุลลา...เดี๋ยวเจ้าช่วยติดต่อบริษัทรีวิลล์ บอกว่าเราต้องการเชิญมาร์คกับครอบครัวของเขามาร่วมโต๊ะอาหารค่ำในวันพรุ่งนี้” ชีคลาซิสมีรับสั่งโดยไม่ละพระเนตรจากภาพถ่ายในพระหัตถ์ จู่ๆ มีพระประสงค์จะทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคยกับสองพี่น้องคู่นี้ขึ้นมา โดยเฉพาะคนที่เป็นน้องสาว...



บ่ายวันเดียวกัน...อลิสรวบเก็บเรือนผมสลวยสีทองไว้ใต้วิกผมสีดำสนิท ปกปิดดวงตาสีครามใต้คอนแทกเลนส์ ตลอดจนแต่งแต้มไฝเม็ดงามเหนือริมฝีปากบางเรียกความมั่นใจ ครั้นสำรวจความเรียบร้อยในการปลอมตัวเสร็จ หล่อนก็สะพายกล้องอย่างทะมัดทะแมงไม่ต่างจากเหยี่ยวข่าวสาวมาพบชีคลาซิสที่โรงแรมหรู

อลิสผ่านการตรวจค้นและเข้าสู่ห้องที่ประทับได้อย่างง่ายดาย ด้วยการแสดงละครตบตาแสร้งทำเป็นประหม่าหยิบของตกหล่น งกๆ เงิ่นๆ ประหนึ่งนักข่าวมือใหม่ ซึ่งท่าทางที่อ่อนหัดนั้นก็แลไร้พิษภัย อีกทั้งภายในกระเป๋าสะพายของหล่อนก็ไม่มีอาวุธที่จะทำอันตรายผู้ใดได้

อลิสหยักยิ้มอย่างหมายมาด ดวงตาทอประกายวาววับ ขณะปลายเท้าเรียวบนรองเท้าส้นสูงที่ก้าวตามหลังอับดุลลาหัวหน้าราชองครักษ์นั้นเต็มไปด้วยความมั่นคงอย่างคนมั่นใจ ด้วยหมายมั่นปั้นมือจะช่วงชิงสร้อยเพชรล้ำค่านามไดมอนด์เฟอร์เซียมาให้ได้

“มิสปานวาด...จากนิตยสารกู๊ดแมนพระเจ้าค่ะ” อับดุลลาแนะนำ

อลิสได้ยินดังนั้นก็รีบปรับเปลี่ยนสีหน้า พลางย่อตัวลงถอนสายบัวทำความเคารพอย่างนอบน้อม ครั้นเงยหน้าขึ้นมองแล้วสบเข้ากับพระเนตรคมของชีคหนุ่ม หล่อนก็ยืนนิ่งราวกับรูปปั้น ถึงแม้ว่าจะเคยต่อกรกันมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นชีคลาซิสอย่างเต็มตา

บุรุษเรืองอำนาจผู้นี้สูงสง่าสมชายชาตรี ใบหน้าคมเข้มตามสัญชาติหล่อเหลาราวเทพบุตร ท่าทางสุขุมลุ่มลึกแลมั่นใจอยู่ในที ซึ่งแตกต่างจากชายหนุ่มที่อยู่รอบกายหล่อนอย่างสิ้นเชิง ดวงตาสีนิลคู่นั้นสะท้อนความหยิ่งทะนงอย่างเจิดจ้า ประหนึ่งพยัคฆาที่ไม่เคยสยบยอมต่อผู้ใด

อลิสใจเต้นรัวทีเดียว หล่อนไม่เคยหวั่นไหวกับอะไรง่ายๆ แต่ยามนี้กลับครั่นคร้ามในเสน่ห์บุรุษ ครั้นลดระดับสายตาลงมาหยุดที่ริมฝีปากของเขา ลำคอก็แห้งผาดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ พยายามไม่คิดถึงเรื่องวาบหวาม แต่อดคิดไม่ได้ว่าบุรุษแดนทรายผู้นี้มีผู้หญิงอยู่ข้างกายกี่คนกัน

หล่อนพอทราบมาบ้างว่าผู้ชายชาวอาหรับมีภรรยาได้มากกว่าหนึ่ง ซึ่งคนที่ดำรงตำแหน่งชีคก็มีอภิสิทธิ์มากกว่า เขาสามารถจะมีสัมพันธ์สวาทกับผู้หญิงได้เป็นร้อยเป็นพันและเก็บสะสมสาวๆ เหล่านั้นไว้ในฮาเร็ม นอกเหนือจากชายาและพระสนมทั้งสี่

เกลียดนัก! พวกมักมาก

“ยินดีที่ได้รับจักครับ” ชีคลาซิสมีรับสั่งเป็นภาษาไทยพลางยื่นพระหัตถ์ออกไปทักทาย ทว่านักข่าวสาวกลับยืนนิ่งจนอับดุลลาต้องท้วงขึ้น

“มิสปานวาด!”

“ค...คะ?” อลิสหลุดจากภวังค์พลางยิ้มเจื่อน เมื่อเห็นอับดุลลาส่งสายตาตำหนิมองมา หล่อนก็รีบสลัดความคิดฟุ้งซ่านแล้วหาประโยชน์กับช่วงเวลานั้น ด้วยการขยับไหล่ปล่อยสายกระเป๋าสะพายหลุดจากบ่า

“อุ๊ยตายแล้ว!” อลิสแสร้งอุทานหน้าเลิกลั่ก แล้วไล่ตะครุบเครื่องสำอางกับข้าวของกระจุกกระจิกที่กระเป๋าเทกระจาดออกมากลิ้งเกลื่อนกลาดบนพื้น

ชีคลาซิสกับอับดุลลาเห็นดังนั้น ก็แสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการช่วยกันเก็บ โดยหารู้ไม่ว่านั่นเป็นหนึ่งในแผนการของแม่นักข่าวสาวจำแลง ซึ่งหล่อนก็อาศัยจังหวะนั้นแอบเอาเครื่องดักฟังขนาดเล็กติดไว้ใต้โต๊ะทรงงานของชีคหนุ่ม

“ขอบพระทัยเพคะ และก็ต้องขอพระราชทานอภัยที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น พอดีว่าหม่อมฉันเพิ่งเริ่มงานวันแรก ไม่เคยพบปะกับคนใหญ่คนโตมาก่อนก็เลยประหม่านิด” อลิสยื่นมือออกไปรับข้าวของกระจุกระจิกที่อับดุลลากับชีคหนุ่มรวบรวมมาให้อย่างกระมิดกระเมี้ยนแล้วนำใส่กระเป๋า

“ไม่เป็นไรครับ เชิญทางนี้ดีกว่า” ชีคลาซิสแย้มพระโอษฐ์ พลางผายพระหัตถ์แล้วดำเนินนำไปที่โซฟาตัวยาว ไม่ได้ถือสาหาความ ด้วยเห็นว่านักข่าวสาวมีท่าทางใสซื่อไร้จริตเหมือนคนไม่เจนสังคม

อลิสทำตามอย่างว่าง่าย แต่ยังไม่ทันจะเปิดบทสัมภาษณ์ อับดุลลาก็ยกกาแฟหอมกรุ่นกับขนมนานาชนิดมาเสิร์ฟ หล่อนจำต้องยกกาแฟขึ้นจิบตามมารยาท ครั้นหัวหน้าราชองครักษ์ถอยร่นออกไป หล่อนก็เปิดการสนทนาโดยมุ่งเข้าสู่ประเด็นสำคัญ

“หม่อมฉันได้ยินมาว่าไดมอนด์เฟอร์เซียเป็นสร้อยเพชรล้ำค่าที่คู่กับแผ่นดินซาร์รียาร์ก ไม่ทราบว่าฝ่าบาททรงนำติดตัวมาเมืองไทยด้วยหรือเปล่าเพคะ”

“ครับ สร้อยเส้นนี้ไม่เคยห่างตัวผม”

“แล้วไม่กลัวถูกโจรกรรมบ้างเหรอเพคะ”

“คงเป็นไปได้ยากครับ ถ้าหัวขโมยจะมาเอาสร้อยไปต้องเข้าถึงตัวผมเท่านั้น” ชีคหนุ่มแย้มพระโอษฐ์ พลางถอดสร้อยพระศอที่ทรงสวมมาถือไว้

“แต่นี่ไม่ใช่ไดมอนด์เฟอร์เซียนี่เพคะ” อลิสท้วง สร้อยที่ถักทอเป็นเกลียวเชือกในมือชีคหนุ่มไม่แตกต่างจากสร้อยคอทองคำที่วางขายตามร้านขายทองรูปพรรณทั่วไป จะแปลกตาก็ตรงจี้รูปกุญแจกับแม่กุญแจทรงสี่เหลี่ยมขนาดกว้างยาวประมาณสองนิ้ว ด้านหน้าฝังอัญมณีหลากสีรายล้อมเพชรเม็ดโตตรงส่วนกลาง มองผ่านๆ คล้ายเครื่องประดับทับทรวง

“ครับ แต่ผมเก็บสร้อยเพชรเส้นนั้นไว้ในนี้...ปลอดภัยดี”

“ฝ่าบาททรงฉลาดหลักแหลมยิ่งนักเพคะ” อลิสไม่ได้ปด นึกชื่นชมชีคหนุ่มจากใจจริง ด้วยคิดไม่ถึงว่าเขาจะเก็บไดมอนด์เฟอร์เซียไว้ในจี้แปลกตานั้น มิน่าล่ะ...หล่อนถึงไม่พบ จากที่ไม่ใส่ใจสร้อยคอทองคำเส้นนั้น เวลานี้หล่อนกลับจ้องตาเป็นมัน ครั้นเห็นชีคหนุ่มมองมาก็แสร้งยกกาแฟขึ้นจิบแล้วเอ่ยออกมาเสียงหวาน

“ถ้าหม่อมฉันจะขอชมไดมอนด์เฟอร์เซียสักครั้งจะได้ไหมเพคะ”



กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ส.ค. 2557, 13:04:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ส.ค. 2557, 13:04:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 1192





<< ตอนที่ 3   ตอนที่ 5 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account