ทองพญามาร [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
จากเคยออกปล้นชิงสิ่งล้ำค่าในคืนอันมืดมิด
แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา
พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต

แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลับกลายเป็นสาวสวย!

ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่...
เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป

Tags: พญาดำ เหรียญพระจันทร์ เก้าชีวิต กระต่าย ตัวนุ่ม

ตอน: ๑ ก้าวที่ล้มเหลว

สัญญาณรถหวอเร่งเร้ากรีดผ่านอากาศ เหมือนมัจจุราชกำลังมุ่งหน้าใกล้เข้ามาอย่างไม่รอรั้ง
จังหวะแหลมสูงดังผสานเสียงผู้คนที่ต่างสับสนอลหม่านถามไถ่กันไปมา

“ดีนะไม่ตกมาทับหัวชาวบ้าน พาคนอื่นซวยอีก” ถ้อยคำวิจารณ์เอะอะ “แปลก! สมองไม่ยักกะไหล”

“โดดลงมาไม่สูงเท่าไหร่มั้ง มีใครเห็นบ้างตอนนั้น”

เสียงเซ็งแซ่หึ่งๆในย่านซึ่งปกติคลาคล่ำแออัดไปด้วยฝูงมดงาน ยังดีวันนี้การจราจรพอจะไปได้สวย
มองเผินๆไม่รู้สึก หากจับสังเกตให้ลึกไปกว่านั้น...ราวกับมีการจัดวางควบคุมพื้นที่เอาไว้
เปิดทางให้รถฉุกเฉินแปะป้ายโรงพยาบาลเอกชนคันหนึ่งมาจอดเทียบได้ไวอย่างไม่น่าเชื่อ
ก่อนรถตำรวจหรืออาสาสมัครเจ้าไหนๆจะมา เวลานั้นไม่มีใครทันสังเกตรายละเอียดของรถที่มามากนัก
อาจเป็นด้วยความฉุกละหุก เข้าใจว่าคงมีพลเมืองดีโทร.แจ้งไปว่าคนที่ตกมาจากตึกยังมีชีวิต
เมื่อใครสักคนตะโกนว่านิ้วเขากระดิกให้เห็น ม่านตาและดวงตาก็ยังมีการเคลื่อนไหว
ถ้าฟังจากปากคำของหน่วยไทยมุงใจกล้าซึ่งไม่กลัวเลือดและเสี่ยงเข้าไปมุงแบบถึงตัว


จนเมื่อร่างโชกเลือดถูกพาขึ้นไปบนรถ บรรยากาศจ้อกแจ้กภายนอกจึงไม่อาจซึมแทรกกล้ำกราย
สู่ความเยือกเย็นเป็นระเบียบข้างในนี้ เมื่ออุปกรณ์พยุงชีพถูกต่อเข้ากับร่างผู้ประสบเหตุ เมื่อนั้น
เจ้าหน้าที่เวชกรหนุ่มสะโอดสะองถึงกับสะอึก ขมวดคิ้วนิ่วหน้า หลุดครางอุทานผ่านผ้าปิดปากออกมา
“ชีพจรปกติ หมอนี่ทำไม...”

ก่อนเขาจะทันได้พูดต่อ ปากกลับชะงักแข็งค้างเมื่อเจ้าของร่างที่นอนแบ็บเป็นตายดันลืมตาโพลง!
ไม่เพียงเท่านั้น ยังฉีกยิ้มกว้างให้อย่างเป็นมิตรสุดใจทั้งที่เลือดอาบหน้าซึ่งเละไปครึ่งซีก ดูน่าสะพรึงเป็นที่สุด

“อ๊ะ...” เจ้าหน้าที่หนุ่มตั้งท่าจะกรีดร้อง ท่าทีสมชายโบยบินหนีหายยามตั้งตัวไม่ติด
ไม่เร็วไปกว่ามือหนึ่งซึ่งเอื้อมขวับมากระตุกผ้าปิดปากของเขาลง โปะแทนฉับด้วยยาสลบ
พริบตาเดียวคนที่ไม่รู้ตัวมาก่อนว่าจะตกเป็นเหยื่อก็ตาลอยคว้าง หมดสติลงในบัดดล

กลับกัน เจ้าของร่างเปื้อนเลือดลุกขึ้นนั่งยืดเส้นยืดสาย ยิ้มมุมปากน้อยๆอย่างพึงใจ
“ก็คนลงมานอนชิลอยู่กลางไทยมุงจนหายตื่นเต้นไปนานละ ชีพจรจะไม่ปกติได้ยังไง”
ยามพูดก็ลอกแผ่นซิลิโคนที่แต่งไว้ให้หน้าข้างหนึ่งของตนเละออกทิ้งไปพลาง

“เจ็บตรงไหนไหม” ชายซ่อนหน้าที่เพิ่งโปะยาสลบใส่หนุ่มสำอางเคราะห์ร้ายถามห้วนจัด

นพคุณขยับเปลี่ยนท่าแล้วก็พลันสูดปาก ทั้งไหล่ยังตั้งหลังยังตรง วางท่าไม่หวั่นไหวดุจดังเดิม
“คอเคล็ดไปหน่อย กับหน่วงๆไหล่ซ้าย ขอยาอัดฉีดเข้าเส้นสักเข็ม...น่าจะไปต่อได้แบบสบายๆ”
อันที่จริงเขารู้สึกแย่กว่านั้น แต่ไม่อยากพูดออกไปให้คนฟังหนักใจ “ยังไงก็...คงไม่เจ็บเท่า
ลุงที่นั่งอยู่ตรงมุมนั่นหรอก” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงตามสบายตามประสา
พลางชี้นิ้วพยักพเยิดไปยังส่วนว่างของรถ

“ลุงไหน!” เสียงผู้หญิงจากอีกร่างในชุดเจ้าหน้าที่พยาบาลประจำรถแหวเสียงเขียวทันควัน

“ลุง...แกตายแบบสมเป็นไทยแท้ๆเลย เห็นมีดเหน็บเล่มเขื่องปักคาลิ้นปี่อยู่แน่ะ
คงจะเจ็บแย่...ไม่ต้องมาทำตาหลุดอวดผมหรอกลุง ผมไม่กลัว” ท้ายประโยคเจือแววหัวเราะเข้ม
ลุงคนนี้คงไปถูกนักเลงที่ไหนแทงดับ มีดนั่น สายตาเซียนของดีอย่างเขา ดูก็รู้ว่าหายากไม่ใช่น้อย

“ประสาท สงสัยหัวจะโขกพื้นไม่เบาตอนตกลงมา” เพื่อนชายร่วมทีมว่าพลางส่งเข็มยาที่นพคุณร้องขอให้

เจ้าตัวยื่นมือมารับหลอดไปฉีดเข้ากับแขนตนเอง “ขอบใจ เจตน์...ที่พูดนี่เรื่องจริงนะ
สมัยนี้ขนาดรถป่อเต็กตึ๊งบางคันเขายังแปะกฎกติกาสำหรับผีไว้ชัดเจน ถ้าจะขึ้นรถ
มีน้ำใจต้องให้หวย...ห้ามปรากฏตัวในเวลาเขาปฏิบัติหน้าที่กัน ถึงจุดหมายแล้วให้ลงทันที
ลุงนี่ยังอยู่คารถ สมัยยังไม่ตายคงเป็นพวกยึดติดน่าดู” นพคุณพึมพำ

“เอ๊ะ เก้านี่! บอกหลายหนแล้วนะ เลิกเล่นมุกหลอกผีซะที ไร้สาระ!”
หญิงสาวร่วมทีมพยายามใช้เสียงโทนสูงเข้าข่ม

คนฟังแย้มยิ้ม เห็นได้ชัดว่าคนโวยกลัวผีจนมือไม้แทบจะสั่น ยิ่งอยู่ในที่ซึ่งบรรยากาศเป็นใจอย่างนี้ด้วยแล้ว

กานต์รวีถอนใจแรงเมื่อคนถูกดุยิ้มเฉยไม่สะทกสะท้าน ทั้งในสภาพเยินขนาดนี้ราศีก็ยังส่งให้
นพคุณดูจับตาจับใจคนมองอยู่ดี ขาวสูง เพรียวสง่าเหมือนเป็นสโลแกนของเขา คนอะไร
หล่อกว่าดาราแต่ริจะเป็นมหาโจร หญิงสาวรู้สึกเขินๆอยู่บ้างกับรอยยิ้มนั้น ใจหนึ่งก็ยังพะวักพะวน
เรื่องผีลุงแก่บ้าบออะไรนั่น ที่สุดจึงตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องโดยพลัน
“ดูท่าเครื่องชะลอการตกของนายสุวิชานี่จะเวิร์คนะ ไอ้เราก็คิดว่าจะได้มาเก็บศพจริงๆซะแล้ว”
กล่าวทั้งรอยยิ้มชื่นชมจากดวงตาซึ่งเก็บไว้ไม่มิด ถึงปากจะชมคนคิดค้นอุปกรณ์ แต่สุ้มเสียงกลับ
แสดงออกชัด ที่นิยมคือคนผู้กล้าใช้มันทำเรื่องเสี่ยงตายสุดระห่ำอย่างกระโจนดิ่งจากยอดตึก

“ให้ท้ายกันเข้าไป ทีมเรานี่มีแต่คนยังไงนะ” มือโปะยาสลบส่ายหัวพลางตัดบท
“เร่งมือเถอะรวี รีบช่วยเก้ามันเปลี่ยนชุด เช็ดเลือดซะ แล้วให้สลับตัวกับไอ้หมอนี่ไวๆ”

เปลือกตาหนาปรือทรงเสน่ห์ของฝ่ายหญิงหรี่ลงน้อยๆอย่างไม่พอใจที่ถูกสั่ง แต่ก็ไม่เสียเวลา
รีบใช้ผ้าชุบน้ำยาสำหรับทำความสะอาดเลือดปลอมเตรียมจะเช็ดหน้าเช็ดตาให้พ่อคนแกล้งเจ็บ
เจ้าตัวเองก็เร่งถอดเสื้อถอดผ้า ยื่นมือมาด้วยรอยยิ้มเห็นลักยิ้มบุ๋มน้อยๆสองข้างที่แสนสะกดใจ
หมายชิงรับผ้านั้นไปเช็ดทำความสะอาดตัวเอง หญิงสาวซึ่งเดาทางได้อยู่แล้วพลิกมือหลบไป
จนถึงหน้าเขาได้ แต่ชายหนุ่มกลับตามขยุ้มคว้าแขนเธอไว้ ออกแรงแข็งขืนดึงผ้าไปจนสำเร็จโดยละม่อม

...ดูเถอะ ในเวลาแบบนี้นพคุณก็ยังไม่ยอมให้เข้าถึงตัว
หญิงสาวหน้าตึงขึ้นนิดหนึ่ง จำต้องปล่อยผ่าน หากเป็นคนอื่นการยื้อแย่งแสดงเจตนารมณ์
จะเอาใจช่วยดูแลอาจทำได้ไม่ยาก แต่สำหรับผู้ชายตรงหน้านี้...เขาจะโกรธ และความโกรธนั้น
เย็นเยียบเสียดกระดูกอย่างคาดไม่ถึง หญิงสาวจึงเข็ดที่จะกวนใจ อีกอย่าง นพคุณต้องพร้อม
ก่อนรถจะมุ่งไปถึงโรงพยาบาล ที่ซึ่งยังต้องดำเนินการตามแผนต่อ

ชายหนุ่มเองกำลังเรียกสมาธิทบทวนแผนไปพลาง เขาย้ำอยู่ในใจ นี่มันเพิ่งครึ่งทางเท่านั้น
อีกครึ่งเขาต้องไปทำให้สำเร็จ การค้นหา กุญแจทอง ให้พบ ชิงเอามันมาให้จงได้

นพคุณผ่อนลมหายใจ เหลือบมองเพื่อนสองคนในรถพยาบาลซึ่งมารับตัวเขา
หนึ่งชายกับอีกหนึ่งหญิง ทั้งคู่คือเพื่อนร่วมทีมปล้น เช่นเดียวกันกับไอ้เอกหรือเป็นเอก
เพื่อนสนิทที่เขาทิ้งไว้ทำงานยากอยู่เบื้องหลัง

ใจชายหนุ่มยังไม่วายพองฟูด้วยความรู้สึกได้รับการเติมเต็ม ถ้าเขาผ่านการโดดลงจากตึกนั่นมาไม่ได้
เขาคงไม่คู่ควรกับคำว่าทำได้ทุกอย่าง ตามที่เคยยืนยันเป็นคำมั่นกับเพื่อนเดนตายที่มาร่วมหัวจมท้ายกัน
ในการปล้นบ้าๆแบบนี้

...เริ่มจากวางแผนดึงความสนใจของคนในตึกดำมายังตัวเอง เพื่อปล่อยให้ไอ้เอกเข้าไปขโมยของโดยสะดวก
นั่นก็หนึ่ง และเพราะสุวิชาอยากทดลองอุปกรณ์ชะลอการตกที่มันเพิ่งพัฒนามาจนพร้อมใช้ในสถานการณ์จริง
ก็อีกหนึ่ง ไอ้คนบ้าเทคโนโลยีนั่นแทบไม่ห่วงเขาเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพราะมันไม่รักเขา แต่เพราะมันมั่นใจ
ในฝีมือการประดิษฐ์ของตัวเองจนแทบเป็นอวดดีเสียละมากกว่า

นอกจากอุปกรณ์ไฮเทคบวกกับการแต่งหน้าแต่งตัวฝีมือกานต์รวีเพื่อนสาวผู้ร่วมทีม
นพคุณยังใช้ตัวช่วยพิเศษเล็กๆน้อยๆที่เก็บงำเอาไว้มาทำให้งานสำคัญนี้เป็นไปได้
แม้ในสายตาคนอื่น การที่ภารกิจนี้สำเร็จลงอาจดูว่าเป็นมหัศจรรย์แห่งวิทยาการล้วนๆ
แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เขาเองยังอาศัยผงรากไม้มีคุณสีขาว ช่วยให้ร่างกายคงกระพันกว่าเดิมนับเป็นสิบเท่า
โดดลงมาจากตึกงั้นรึ ใครจะไปยอมเสี่ยงตายฟรีขนาดนั้น
หลายสิ่งถูกกวนรวมกันออกมาจนกลายเป็นความกล้าที่จะทำ โดยมีอย่างหนึ่งอย่างเดียวที่สำคัญที่สุด
เขาอยากพิสูจน์ว่าตัวเองสามารถพอจะทำได้ทุกอย่าง...เพื่อนำพาตนไปสู่เป้าหมายสุดท้าย

ชายดวงไม่ดีที่ถูกทำให้สลบตอนนี้นอนเลือดอาบอยู่บนเตียงคนเจ็บแทนที่เขา
ครอบเครื่องช่วยหายใจปิดบังโฉมเลือดปลอมถูกนำมาราดพอให้ชุ่มฉ่ำสมจริง
ยิ่งดูก็ยิ่งเห็นว่าหมอนี่หน่วยก้านคล้ายนพคุณเองอยู่หลายส่วน และโชคดีเอามากๆ
เจ้านี่เป็นคนสนิทของเป้าหมายในคราวนี้พอดี

นพคุณในชุดเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินประจำรถพยาบาลมองภาพสะท้อนในกระจกซึ่งกานต์รวียื่นให้อย่างพอใจ
เขาลูบใบหน้าใต้ผ้าปิดปาก เลิกคิ้วที่เปลี่ยนทรงไปด้วยการเมคอัพ วิกผมปลอมๆถูกเสริมเข้ามา
รูปโฉมถูกปรับแต่งจนเปลี่ยนเป็นคนละคน มือในถุงมือบางขยับป้ายชื่อให้เข้าที่...
คราวนี้เขาก็พร้อมสวมรอยเป็นนายธรรม์ธวัช คนพิเศษผู้เดียวที่มีสิทธิ์เข้าออกห้องส่วนตัว
ของผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้สะดวกดาย สิ่งนี้จะทำให้เขามีสิทธิ์เข้าถึงกุญแจทอง

ความรู้สึกหน่วงๆอุ่นวาบขึ้นในช่องหูซ้าย นพคุณเอื้อมมือแตะ
หยาดโลหิตสีเข้มติดมากับปลายมือ...
มองไปทางเพื่อนสองคน ไม่มีใครทันสังเกต

คนไร้ศีล หนังจะเหนียวได้สักแค่ไหน

ความรู้สึกหนักใจแล่นประดังขึ้นแต่เขาก็ฝืนกลืนข่มมันลงไป เกมสำคัญยังต้องดำเนินต่อ
และเขาจะไม่ยอมชะงักค้างอยู่แค่ตรงกลางทาง




หลังจากเพื่อนดิ่งพสุธาลงไปแล้ว เมฆหม่นถูกมือพระพายปัดทิ้งไปหมดในวินาทีนั้น
ฟ้าแจ้งจางปางเป็นสัญญาณเปลี่ยนฤกษ์... เป็นเอกเร้นกายจากดาดฟ้าเข้าสู่ภายในตึก
ที่มืดดำแทบไม่ต่างจากเปลือกภายนอกของมัน

ตึกดำ...ถึงจะดูราวกับตึกร้าง แต่เขารู้ เจ้าของที่นี่มีลูกเล่นคาดไม่ถึงซึ่งอาจใช้ออกมาได้เสมอ
เสียงสื่อสารในหูฟังจากสุวิชาหรือนายชากำลังกระซิบบอกทางปลอดภัยให้เขา สมกับที่
อีกฝ่ายครองทั้งตำแหน่งนักประดิษฐ์ ช่างเทคนิก เป็นมันสมองหลักของทีมปล้นทีมนี้
สุวิชาเคยออกปากว่าทำได้หมดทุกงาน จะใช้ให้ทำอะไรก็ใช้เถอะขอแค่ไม่ต้องออกแรง
ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตเป็นพอ เพราะมันกลัว...

จนที่สุด เป็นเอกพาตัวไปถึงห้องอันเป็นจุดหมายอย่างเงียบเชียบ เปิดเข้าไปด้วยรหัสเปิด
ซึ่งเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า ในห้องดูเหมือนว่างเปล่าไม่มีใคร กลิ่นหืนเอียนหน่วงอวลในบรรยากาศ
น้ำหอมผู้ชายราคาแพงปนเปกับพิมเสนและยาลมสมุนไพรอับเก่า กลิ่นอายครึ่งไทยครึ่งเทศ
ประจำตัวเจ้าของห้อง กลิ่นที่เขาแสนจะรังเกียจมาเนิ่นนานนักหนา เป็นเอกพยายามเบนความคิด
มาจากสิ่งรบกวน ...โต๊ะทำงานตัวมหึมาที่อยู่ตรงกับประตูดูเป็นภาพย้อนแสง เก้าอี้สูงหันหลังให้เขา
โดยหมุนหันไปทางหน้าต่างสว่างโพลนเบื้องหลังซึ่งเป็นกระจกสีชาจางตลอดแนวผนัง

ยามนี้ไม่พบสุ้มเสียงลมหายใจใดในบรรยากาศ เป็นเอกขมวดคิ้ว ค่อยๆสืบเท้าใกล้เข้าไปยังโต๊ะ

“มาตามเวลาพอดีเลยนะคุณเป็นเอก ดำเกิงอดิเรก ...ไอ้เอกหลานรัก”

เก้าอี้นั้นหมุนกลับมาช้าๆ คนเป็นหลานตัวชาวาบ เหงื่อเย็นชืดไหลซึมและคล้ายจะแห้งหาย
ไปในวินาทีถัดจากนั้น ความรู้สึกหนาวปนร้อนแล่นจับใจเมื่อได้เห็นใบหน้าคุ้นเคย
ของชายศีรษะล้านเผยเป็นรอยยิ้ม

...นาทีนี้ มาถึงตัวเขาจนได้

ในที่สุด ความตายปลอมๆซึ่งเกิดขึ้นเบื้องล่างของไอ้เก้าก็ไม่ได้ดึงดูดเจ้าของตึก
ให้สนใจมากมายเท่าที่มันคิด ทั้งที่มันเองเชื่อมั่นถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ตามประสา
เรื่องที่ว่าเมื่อมีคนมารายงานรูปพรรณของมันให้ชายกลางคนตรงหน้าเขาทราบ
คนคนนี้ต้องแล่นจากห้องไปดูความตายของศัตรูเก่าด้วยตาตนเอง
นี่ก็พิสูจน์แล้ว...เพื่อนเขาคิดผิด

“อาปองเกียรติ” ชายหนุ่มที่รู้ชะตาว่ากำลังจะถูกจับกลืนน้ำลายฝืดคอ
สงบนิ่งรอคอยให้การ์ดที่แต่ละคนสุดอันตรายย่างสามขุมเข้ามาหา
ถึงรูปกายเขาค่อนข้างจะแข็งแกร่งบึกบึนอยู่พอตัว แต่เทียบกับพวกนี้แล้วก็เหมือนเด็กกับยักษ์

‘เกิดอะไรขึ้นวะเอก’
เสียงสุวิชาเอ่ยเครียดๆผ่านมาทางเครื่องสื่อสารริมหู ทว่าเป็นเอกกลับเอื้อมขึ้นไปกดปุ่มสำคัญ
ทำลายอุปกรณ์ขนาดจิ๋วนั้นทิ้งคามือ ณ จุดนี้ไม่มีใครจะช่วยเขาได้

“คนคิดทำลายสมบัติบ้านตัวเองนี่ก็เพิ่งเห็นแกคนแรก” ปองเกียรติแค่นเสียงหนัก
“นี่ละนะ ที่เขาว่าคบเพื่อนชั่วอัปราชัย ...เอาตัวมันไปให้พ้นหน้ากูไวๆ! หนีออกจากบ้าน
ไปทำระยำซะตั้งนาน จับตัวมันไว้ได้แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เผื่อเพื่อนชั่วที่ว่าจะแล่นตามมา
ติดกับอีกตัว ถ้ามันไม่ฉลาดหางจุกตูดเผ่นหนีทิ้งแกไปซะก่อนน่ะนะไอ้เอก หลานรักของอา”

เป็นเอกยกมือทั้งสองข้างขึ้น หลับตาลง
จากนี้...คุกที่ใช้ขังเขานั้นคงต้องเป็นคุกอย่างพิเศษ ยากจะหาทางหนี
อาปองเกียรติรู้จักเขาดี รู้จักแถมรวมไปถึงเพื่อนสนิทของเขาอย่างไอ้เก้า
และย่อมตระหนักว่าคุกธรรมดาคงใช้ป้องกันจอมโจรอย่างมันไม่ได้แน่!



เตียงผู้ป่วยถูกเข็นอย่างเร่งร้อนไปตามทาง ขณะที่ทุกคนกำลังรีบ กระแสไฟฟ้าพลันดับวูบ
ยังเสียงอุทานตระหนกตกใจ แสงสว่างทำท่าคล้ายจะติดพรึ่บขึ้นมาใหม่ทันท่วงทีด้วยระบบไฟฟ้าสำรอง
แต่แล้วกลับตกหายลงไปอีก หลายอึดใจใหญ่ๆ เมื่อไฟมา เจ้าหน้าที่คนหนึ่งซึ่งรั้งท้าย
ได้หายตัวไปจากตรงนั้นโดยแทบไม่มีใครสังเกต

ไป...เพื่อทำหน้าที่อันขัดแย้งกับชุดฟอร์มที่สวมใส่อยู่โดยสิ้นเชิง


นพคุณปลีกตัวจากขบวนคนเจ็บตรงสู่ลิฟต์ตัวพิเศษซึ่งซ่อนอยู่ยังมุมอับ
ตอนนี้ทุกคนที่พบหน้าจะต้องคิดว่าเขาคือผู้ชายชื่อธรรม์ธวัช

เรียกว่าเป็นโชคเข้าข้างหรืออะไรก็แล้วแต่ อรรณพ ผอ.โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นพวกรักร่วมเพศ
แถมยังมีคู่ขาที่ไว้อกไว้ใจกันมากอยู่คนหนึ่ง ซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่ตำแหน่งไม่ใหญ่โตแต่หนุ่มแน่น
ผู้ปฏิบัติงานฉุกเฉินประจำรถพยาบาลที่นพคุณอาศัยสวมรอยมา ในขั้นตอนเตรียมแผนการปล้น
พวกเขาค้นพบว่านพคุณเองเผอิญมีรูปร่างผิวพรรณคล้ายคลึงกันมากกับธรรม์ธวัช คือผิวขาวเหลือง
สูงเพรียวประมาณกัน ไหล่กว้าง ช่วงหน้าเรียว

อีกอย่าง ต้องขอบคุณรสนิยมทางเพศของนายอรรณพที่ช่วยให้ทุกอย่างง่ายเข้า
ผอ.โรงพยาบาลมักเรียกคู่ขาหนุ่มให้เข้าไปหาทั้งเครื่องแบบปฏิบัติงานเต็มยศ!
เพราะฉะนั้น... ทั้งผ้าปิดปาก ถุงมือที่สวมอยู่ ล้วนช่วยอำพรางตัวตนให้นพคุณเป็นอย่างดี
ไม่ต้องหวั่นกลัวแม้กล้องในโรงพยาบาลจะบันทึกติดภาพของเขาในขณะนี้

สายข่าวคนในยืนยันมาแล้ว อรรณพไม่อยู่บนห้องชุดส่วนตัวซึ่งซ่อนไว้ชั้นบนสุดของโรงพยาบาล
และเขาก็มีพิมพ์ลายนิ้วมือปลอมๆของธรรม์ธวัชที่จะใช้เปิดเข้าไปได้ เป็นเรื่องปกติที่ชู้รักคนนี้จะขึ้นไป
ทำธุระปะปังแทนเจ้าของห้อง หรือใช้เวลาเตรียมตัวคอยอีกฝ่ายกลับมาหา
ไม่ว่าอย่างไร เขารู้...เวลามีจำกัด

ประตูบานสำคัญเลื่อนเปิด ไอเย็นไหลพรูปะทะหน้าจนหนาวเยือก คล้ายว่าเจ้าของห้องเพิ่งจากไปไม่นาน
นพคุณรู้ว่าไม่ใช่ เพียงแต่สิ่งมีชีวิตเลือดเย็นอย่างผู้ชายคนนั้นไม่ว่าเวลาไหนก็มักชอบอยู่ในห้องแอร์เย็นจัด
จนคนที่ผ่านมาเยือนอาจนึกว่าข้ามไปอยู่อีกซีกโลก หน้าชา มือเย็นจนต้องหาที่ซุกแอบ
แม้แต่หัวใจก็ยังพลอยจะด้านแข็งตามไปด้วย น่าสงสารนายธรรม์ธวัชไม่น้อยที่ต้องอดทนกับอะไรหลายๆอย่าง
โดยเฉพาะรสนิยมเฉพาะตัวของคนอย่างอรรณพ แต่เม็ดเงินที่ได้ตอบแทนกลับไปก็คงคุ้มค่า

เพดานสูงทำให้รู้สึกราวกำลังย่างสู่ที่ประดิษฐานของสิ่งลึกลับแสนล้ำค่า
ทั้งห้องตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลขรึมและทองหม่นขึ้นเขียวรำไรอย่างมีรสนิยม
ทว่าเมื่อมองพื้นพรมที่เท้าเหยียบไปนั้น บางวูบรู้สึกคล้ายก้าวย่ำบนผืนหญ้าแห้งดายไร้ชีวิต
เสมือนเป็นหนทางท้าความตาย



เกมนี้ไม่ง่าย หลังจากใช้ทุกวิธีที่รู้ในการสำรวจอย่างประณีต ตั้งแต่ใต้โต๊ะไปจนถึงใต้เตียง
ฝาตู้ พื้น เพดาน ตลอดจนฟูก หลังกระจก ใช้สแกนสารพัดแบบตรวจหาถี่ยิบทุกตารางนิ้ว
รวมทั้งเครื่องมือตรวจจับโลหะทันสมัยเท่าที่พกมาด้วยก็งัดออกมาจนหมดมุก
นพคุณยังคงหากุญแจทองหรือตำแหน่งที่สมควรจะมีกุญแจดอกนั้นซ่อนอยู่ไม่พบ
เขาขมวดคิ้วอย่างหนักใจ ดวงตาคมหรี่ลง สิ่งที่รับรู้ถูกดึงขึ้นมาทบทวนในห้วงสำนึกอย่างเร่งร้อน

‘คนที่เอากุญแจทองไปครองคือปองเกียรติไม่ก็อรรณพ แต่เราฟันธงไม่ได้ว่ามันถูกเก็บไว้กับใครแน่
สมควรลงมือปล้นพร้อมกันทั้งสองทาง เพราะถ้าพลาดทางไหน พวกมันคนที่เหลือที่เป็นฝ่าย
เก็บกุญแจไว้จริงๆจะได้ไม่ทันมีเวลาระวังตัว ย้ายที่ซ่อนของ’
สุวิชา เพื่อนแว่นหนาท่าทางคงแก่เรียนอธิบายภาพฉายบนจอสามมิติขนาดยักษ์ให้เพื่อนร่วมทีมปล้นฟัง
ด้วยท่าทีขึงขังไว้ก่อน คล้ายพูดจี้ใส่เด็กสอนยากในชั้นเรียน

‘อ้อ สรุปคราวนี้ต้องไปปล้นคนสองคน อาของไอ้เอก...กับพี่ชายฉันเองสินะ’
ตอนนั้นนพคุณรำพึงลอยๆพลางเคาะนิ้วกับโต๊ะประชุมที่ใช้เป็นทั้งโต๊ะกินข้าว โต๊ะทำงาน
หรือหนักสุดก็โต๊ะสนุ๊กฯ ถ้าหากว่าวันไหนเขาและไอ้เอกพอใจจะให้เป็น ...ส่วนประโยคที่เพิ่งเอ่ยออกไปนั้น
ความจริงพูดให้ถูกต้องตรงตัวควรจะเป็น เขาต้องไปปล้นอรรณพ พี่ชายต่างมารดาที่ไม่เคยรู้ว่าเขา
มีตัวตนอยู่ เพราะแม้แต่พ่อแท้ๆของนพคุณเองก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ!

‘แล้วจะแบ่งงานยังไง’ คนถามคือเป็นเอก สุ้มเสียงมันฟังดูไม่อยากมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ไม่ใช่ว่ามันเป็นคนขี้เกรงใจหรืออะไรหรอก เพราะในขณะที่ถามเจ้าตัวก็ยังแค่นจะเอาทั้งสองเท้า
ในเกือกหนังครบครันขึ้นมาวางพาดไขว้กันบนโต๊ะ เอกเขนกนอนพิงเก้าอี้ด้วยท่าทีแสนเกียจคร้าน
แม้ในช่วงเวลาที่สมควรจะเคร่งเครียดจริงจัง ‘แต่ว่า...ไอ้การทดลองตกจากที่สูงอะไรนั่นน่าสน
ฉันขออาสาเป็นคนโดด ดีไหมนายชา’

‘ไม่ดี...’ นพคุณเอ่ยขัด ‘มันควรจะเป็น แค้นตระกูลใครใครก็สะสางเองไม่ใช่เรอะ
ถ้าคนที่โดดจะได้ไปต่อทางโรงพยาบาลแล้วคนไม่โดดจะต้องเข้าไปในตึกดำ’
ความแค้นที่ต้องสะสาง...ตอนนั้นเขาโพล่งแย้งเรียบๆ แต่ด้วยเนื้อหาราวกำลังพูดถึง
หนังจีนทวงหนี้แค้น เรียกเสียงหัวเราะจากคนอื่นได้
ส่วนเจตน์เพื่อนในกลุ่มอีกคนที่เหลือเพียงรับฟังเฉยๆ ไม่พูดไม่จา

ความจริงนพคุณไม่อยากให้เป็นเอกเป็นคนโดด แม้จะไว้ใจมันเท่าๆกับที่ไว้ใจตัวเอง
มันก็มีของดีอยู่ไม่น้อย แต่เรื่องเสี่ยงตายขนาดนั้น เขาขอเป็นคนทำเองดีกว่า
เพราะเขาจะยอมสูญเสียคนสำคัญคนสุดท้ายที่เหลือในชีวิตไปอีกไม่ได้ เป็นอันขาด...

ชั่วเวลาขณะนั้น พวกเขาปลอดภัยอยู่ในห้องแคบๆ ที่ประชุมหารือกันของสมาชิกทั้งห้าแห่งทีมปล้น

เหล่าคนผู้ไม่เคยได้รับความยุติธรรมในชีวิตเท่าที่คิดว่าตนควรได้ นั่นเป็นสาเหตุของการมารวมตัวกัน
ตั้งแต่สองปีก่อน เพื่อทวงหนี้ที่ติดค้างในใจคืนเอาจากสังคม พวกเขาต้องการค่าเสียหายชดเชย!

สำหรับนพคุณกับเป็นเอกที่เป็นเพื่อนรักกันมาแต่เด็ก เรียกว่าถ้ามีข้าวต้มมัดหนึ่งมัด
ก็แบ่งกันคนละครึ่ง แต่ถ้ามีอยู่อันเดียว ก็แบ่งกันกัดคนละคำ ครั้งหนึ่งเคยอยู่เคียงข้างกัน
จนแทบไม่มีช่องว่าง พวกเขาคือหัวหอกในการลงแรงทุกอย่างที่เสี่ยง ลงมือในทุกเกมที่ท้าทาย
มีสุวิชานักวิชาการหัวใสเป็นมันสมอง ส่วนกานต์รวีซึ่งเคยทำงานในวงการบันเทิงมาก่อน
อาศัยใช้ฝีมือแต่งหน้าปลอมแปลงโฉมอันเรียกว่าพรสวรรค์ เปลี่ยนเพื่อนให้กลายเป็นตัวหมาก
ที่ใช้การได้เหมาะสมในแต่ละเกม เจตน์มีจุดแข็งเรื่องเส้นสายในอาชีพสายงานข่าวกว้างขวาง
นอกจากนั้นสองคนหลังยังเป็นตัวละครสนับสนุนนพคุณและเป็นเอกได้เยี่ยม
จะเรียกว่าเพราะความที่ตีหน้าเก่งเป็นทุนเดิมก็คงใช่

สองปีมาแล้วที่ได้จับมือกันแน่นแฟ้น ลงมือปล้น เอาคืนจากสังคมซึ่งเคยบีบคั้นเอาเปรียบ
อย่างมีประสิทธิภาพ เปล่าเลย...พวกเขาไม่ใช่โจรใจงามปล้นทรัพย์คนรวยไปเทหวยลงใส่กระเป๋าคนจน
เงินที่ได้มาก็เข้ากระเป๋าพวกกันเองนี่แหละ ทั้งเพื่อความสุข ทั้งใช้เป็นทุนรอน เสริมฐานกลุ่มให้ทรงพลังยิ่งขึ้น

คนที่เคยสร้างความร้าวรานให้ในอดีต จะต้องถูกแก้แค้นโดยภารกิจการปล้นครั้งมโหฬาร
สนองปมในใจส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคนไล่เรียงมาเรื่อยๆ

จากครั้งแรก การปล้นตามความปรารถนาของเป็นเอก แผนระเบิดตึกสำนักงานอดิเรกกรุ๊ป
สาขาใหญ่ของบ้านมันเองจนระเบิดเถิดเทิง ถือเป็นการฉลองการเปิดตัวทีมโจรอย่างยิ่งใหญ่
ตามด้วยปล้นกองถ่ายร้อยล้านของผู้กำกับที่เคยหยามน้ำหน้ากานต์รวีจนงานนั้นพังไม่เป็นท่า
...ถัดมา ปล้นโรงงานอดีตเพื่อนผู้ขโมยผลงานการคิดค้นของสุวิชา
และภารกิจก่อนหน้านี้ไม่นาน ส่งหนอนบ่อนไส้ไปป่วนสำนักข่าว
ที่เคยไล่เจตน์ออกให้ได้เจ็บๆคันๆ ด้วยการตอดเป็นระยะอยู่ร่ำไปราวกับปลิงขโมยเลือด

เกมสางปมแค้นทุกเกมจบลงอย่างสาสมสะใจ จนล่วงมาถึงคราวนี้...การปล้นใหญ่ครั้งที่ห้า

นพคุณเป็นต้นคิดภารกิจ และสิ่งที่เขาต้องการอย่างที่สุด กุญแจทองดอกนั้น
หากมีมันเขาก็จะเข้าถึงขุมทรัพย์ซึ่งศัตรูหวงแหนได้ เพราะนอกจากที่บ้านไอ้เอก
ได้ยินมาว่ารัฐมนตรีอนันต์บิดาผู้ทรงเกียรติของเขาก็สั่งอรรณพลูกชายคนโต
ให้ทุ่มไปไม่น้อยกับการแย่งชิงอำนาจเหนือสิ่งนี้...
ศัตรูคู่อาฆาตทั้งของเขากับของเป็นเอกจะต้องเจ็บใจแทบกระอัก

แล้วแผนก็ถูกวางมาอย่างดีจนวันนี้ ตามที่คิด หากว่าเขาไม่เจอกุญแจในที่ที่เชื่อว่ามันควรอยู่
ก็เป็นไปได้ว่ากุญดอกนั้นอยู่ในรังของปองเกียรติ ตึกดำ ไอ้ตึกผีนรกที่เขาเพิ่งโดดท้าตาย
ลงมาจากยอดตึก หวังว่าเป็นเอกจะหามันพบ

...ไม่มีประโยชน์ที่จะรั้งอยู่ ทว่าก่อนผละจากห้องอรรณพ พี่ชายผู้ไม่เคยปันความมั่นคั่ง
แม้หนึ่งในล้านส่วนที่มีมาให้เขา สายตาของนพคุณพลันไปสะดุดเข้ากับรูปสลักไม้โบราณ
แกะเป็นพญานาค สีทองซึ่งเคลือบไว้ยามนี้หลุดล่อน ปากขนาดใหญ่เต็มไปด้วยเขี้ยว
คล้ายอ้ารอขบกัดให้ได้เลือดถึงกระดูกหากมีใครสักคนหาญกล้ามาแตะต้อง
ในคอยังดูเป็นโพรงลึก มีกลิ่นอายทะมึนโชยออกมาอย่างแปลกประหลาด

เขาสืบเท้าเข้าหา ในความรู้สึก ตาแดงก่ำราวลูกปัดเลือดของนาคายิ่งโชนแสงแรงกล้า
มากเสียจนชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลต้องหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิดเมื่อสบตากับพญางู

เขาเชื่อว่าตัวเองออกจะหนังเหนียว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องระวัง...

“ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า ว่าไหม”

มือล้วงหยิบเอามีพับคู่ใจออกมาสะบัดกาง คมเหล็กน้ำพี้ดำเหลือบเขียวสะท้อนเงาปลาบ
ถูกปักตรึงลงตรงกลางแสกหน้าของงูไม้...สะกดให้อยู่ใต้อาณัติ จากนั้น ชายหนุ่มค่อยๆ
ล้วงสู่ลำคอนาคาหน้าตาดุดันอย่างระวัง เขี้ยวสีเหลืองวาวแสยะออกเป็นเสี้ยวแตกแหลม
ไม่ใช่ทำจากไม้อย่างส่วนอื่นของตัวนาค มันคือโลหะทองเหลืองมีคม
ที่แม้จะเก่าแต่ปลายก็ยังคมอย่างน่าหวาดเสียว

“ดีจริงๆ ความรู้สึกตอนได้ล้วงคองู” ชายหนุ่มคลี่ยิ้มแช่มช้า





อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ก.ย. 2557, 13:36:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ก.ย. 2557, 13:36:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 1318





<< บทนำ   ๑ ก้าวที่ล้มเหลว(ต่อ) >>
ketza 10 ก.ย. 2557, 13:36:37 น.
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
รอทั้งวันเยยยยยยยยยย


ดังปัณณ์ 10 ก.ย. 2557, 13:43:55 น.
อื้อหื้ออออออออ ไอ้พี่เก้าเอ๊ยยยยยยยยยยยยย ล้วงคองู ยอมแล้ววววววววว เฮียแกนิสัยยังไงแน่เนี่ยยยยยยยยยยย


ทำไมหนอนคิดถึงชาจังมึน(ชามัล) ขึ้นมาตงิดๆๆๆ 555+


ketza 10 ก.ย. 2557, 13:46:35 น.
พี่เก้าาาาาาาา
พ่อมหาโจรสุดหล่อออออออออ


บุลินทร 10 ก.ย. 2557, 13:50:30 น.
กลัวอดใจไม่ไหว ขออ่านรวดเดียวดีกว่า ฮ่าๆๆ


อสิตา 10 ก.ย. 2557, 13:52:06 น.
โหยยย พี่เก้านิสัยตรงข้ามกะชาจัง //ลืมตอบเม้นต์ตอนก่อน ลืมๆๆ ตอบแปร๊บจ้า


อสิตา 10 ก.ย. 2557, 13:59:44 น.
เกดซ่า – มาไวมาก และกรี๊ดเสียงดังมากๆ รอกระต่ายน้อยสักพักน้าที่ร้ากกกก
ริญจน์ธร – อืม เว็บเริ่มร้างแล้ว เราเม้นกันเองก็ล่าย 555
บุลินทร – อ่านแค่บทนำก็พอ ที่เหลือไปอ่านในเล่ม เล่มนี้มีคนชมว่าหวานมาก มุ้งมิ้งมาก แต่ชื่อโหด 555
ดังปัณณ์ – ไอ้พี่เก้า พี่เก้านิ้ว ชายคนนี้ไม่เหมือนชามัลเลยน้า อ่านไปแล้วจะเห็นเอง ตอนนี้ยังไม่ออกลาย
คุณหนอนฮับ – ขอบคุณที่มาอ่านค่ะ คนเขียนจะพยายามลงถี่ๆเท่าที่ทำได้นะคะ หุหุ
หนูยิ้ม – นั่นสิไม่ตายจริงๆ มันคือเทคนิคในการโดด 555 โจรไฮเทคก็งี้
ภาวิน – พี่เก้ามาช้า แต่ไม่เล็กนะครัช (อะไรเล็ก)
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ ยินดีที่ได้พบกันอีก ย้างงง อย่าเพิ่งติดตาค่ะ มันคือภาพมายา
คุณพี่พันธุ์แตงกวา – คุณพี่จะอ่านของป๋องแป้งในนี้ไหม หรือรอเป็นเล่มทีเดียวเลย อิอิอิ


ภาวิน 10 ก.ย. 2557, 14:17:00 น.
พี่เก้ายังไม่ได้ฤกษ์เข้าบ้าน AF เอ๊ย บ้านปรารถนา รอฉากกระจุ๋งกระจิ๋งกะตัวนุ้มนุ่ม


ริญจน์ธร 10 ก.ย. 2557, 15:39:16 น.
พี่เก้ารีบเข้าบ้านได้แล้ววววววว


พันธุ์แตงกวา 10 ก.ย. 2557, 18:23:11 น.
มาเซ็นชื่อจองไว้ก่อน เดี๋ยวมาอ่านตอนเงียบๆ


goldensun 10 ก.ย. 2557, 20:30:31 น.
ล่มไปแล้ว ข้างเป็นเอก ขนาดมีดีพอตัวนะ
แล้วฝั่งพี่เก้าจะรอดมั้ยนี่ ล้วงคอพญานาคเชียว


พันธุ์แตงกวา 10 ก.ย. 2557, 20:31:22 น.
พี่เก้าสุดยอดอ่ะ ที่แท้เป็นแผนนี่เอง
นี่ขนาดเฮียยังไม่ได้เข้าบ้านปริศนา เอ้ย บ้านปรารถนานะเนี่ย เฮียก็โลดโผนโจนทะยานซะแล้ว ทำไปได้


yimyum 10 ก.ย. 2557, 23:58:44 น.
หุย...... ช่างกล้าอ่ะ ล้วงขอ เป็นหนูหนูไม่กล้านะคะ เก่งอ่ะ หนูนับถืออออออ คนยี้แหละ รักเลย>< (มั้ง)


patok 11 ก.ย. 2557, 18:18:22 น.
อ่านแล้วตลกพระเอกอ่ะ พระเอกต้องเป็นคนตลกแน่ๆ กล้าทำอะไรเสี่ยงๆ555+ มีเครื่องชะลอตกด้วยนะ 555+


นักอ่านเหนียวหนึบ 11 ก.ย. 2557, 19:12:59 น.
จิงด้วย ตาแก่ชามัวเมามาเกิดใหม่เป็นพี่เก้าช้ะ
แหม่ๆๆๆ เกิดใหม่ซะหล่อล่ำ กำยำ น่าหม่ำ หุ่นเซี้ยเชียวน้าาา


บุลินทร 11 ก.ย. 2557, 21:22:19 น.
พระเอกแหวกแนวมาก ไม่แพ้เล่มอื่นๆของอสิตาเลย รู้สึกให้ปีกรักนำทางพระเอกจะอ่อนโยนสุดแล้ว ฮ่าๆๆๆ


Zephyr 12 ก.ย. 2557, 23:50:23 น.
ล้วงคองู -______-"
เอิ่มนิสัย เป็นเอกเทศสุดๆ
หลุดแนว แหวกขอบ


pkka 14 ก.ย. 2557, 21:02:39 น.
โห ซับซ้อนน


Barby 16 ก.ย. 2557, 15:09:55 น.
อ่านแรกๆมึนๆงงๆเขาทำไรกัน เริ่มจะรู้เรื่องขึ้นมานึดนึงละ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account