ทองพญามาร [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
จากเคยออกปล้นชิงสิ่งล้ำค่าในคืนอันมืดมิด
แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา
พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต

แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลับกลายเป็นสาวสวย!

ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่...
เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป

Tags: พญาดำ เหรียญพระจันทร์ เก้าชีวิต กระต่าย ตัวนุ่ม

ตอน: ๒.๕ เกมต่อชีวิต

ยังคงเป็นบท ๒ เพราะทั้งเรื่อง จะมีแค่ ๙ บทเท่านั้น...
(เก๋ๆตามคอนเซปต์ค่ะ อิอิ)

คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – โอ้โห ให้พี่เก้าชื่อ Se7enเป็นไงคะ เป็นนักร้องเกาหลีไปเลยทีนี้นะ อะหือ ชุดหางกระต่ายหูกระต่ายก็มีนะ พลาดได้หรือ แต่รอก่อนๆ ...แหม การเดาเรื่องเสียงที่ได้ยินจากครัวนั่นนนนน ไปอ่านต่อกันเลยยยย
คุณภาวิน – เหอๆ ในตู้เย็นพี่เก้าไม่มีหอยลาย แต่ถ้ามีก็คงกินนะ นางเอกเราน่าจะชอบกินของสดๆคาวๆ
คุณเกดซ่า – นั่นจินะ ตัวนุ่มเป็นใคร มาทำอะไร...คนเขียนคิดไว้ล่วงหน้า ส่วนพี่เก้าเคยเป็นใครนี่อะ ตอนเขียนยังเปลี่ยนใจจนแทบจะจบเรื่องเลยน้า เดากันเพลินแน่
คุณเลิฟหมวย – นั่นสิ ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆแน่ พี่เก้าก็รู้นะ แต่พี่เก้าเป็นโจรที่อยากฮุบฟรีๆ เดี๋ยวใครจะชนะ มาลุ้นกัน
คุณยิ้มยิ้ม – ตัวนุ่มตบแก้มพี่เก้าปุๆ ด้วยอุ้งเท้านุ่มนิ่มน่ารัก ต่อไปจะเล่นกันยิ่งกว่านี้อีกน้า
คุณพี่แตง – พี่เก้าดวงตก ตายฟรีสองที แต่ต่อไปก็ระวังมากขึ้นละ //บางทีกระต่ายอาจเข้าเหรียญมาเองก็ได้น้า เพราะหลงรักพี่เก้า อุอิ
คุณหนอนน้อยดังปัณณ์ – พี่เก้าเริ่มหลงกระต่ายแล้ว แต่หลงสาวนี่ต้องใช้เวลาหน่อยนะ หนอนหนีไปนอน โกงๆๆ เมื่อวานเราอยู่จนเช้าเลย เหอๆ
คุณริญ – โผล่มายิ้มหวาน ใช้สายตาให้น้อยๆน้า ทำงานเยอะ ต้องพักด้วย
คุณบุลินทร – เรื่องหน้ามียักษ์กับนางฟ้าไง เหนือมนุษย์ แนวไซไฟด้วยฟ้าฝ่า เปรี้ยงๆๆ ใส่ฝีมือสุดๆๆๆๆ โม้ๆ
คุณโกลเด้นซัน – สังเกตเก่งอีกแล้วค่ะ แหม ดูเหมือนกระต่ายน้อยจะมีซัมติงเช่นรู้จักพี่เก้ามาก่อนจริงๆรึเปล่าน้า พี่เก้าไม่ค่อยสนหญิงค่ะ ต้องรอดูนะว่ากระต่ายสาวจะยั่วเก่งแค่ไหน หุหุ ส่วนในครัว สิ่งที่เจอก็คือ...
คุณใบบัวน่ารัก – ผู้ช่วยต้องเอาใจเจ้านายเพื่อให้เจ้านายรักซะแล้ว เอ๊ะ แต่ดูเหมือนจะดื้ออยู่นะ ทะเลาะกันค่อยรักดีไหม ตอนนี้กระต่ายยังไม่สนิทกับเจ้าชายมหาโจรนัก รอสนิทกันแล้วจะแอบจุ๊บนะ
คุณเลิฟรีซัน – คุณนุ่น ตามมาอ่านแล้วหรือคะ ขอบคุณน้า ปลื้มจายยยย //กระต่ายจิ๋วอ้อนๆ
คุณMooNa – แม่บ้านแม่เรือนเหรอ อืมกระต่ายจะช่วยดูแลบ้านได้ไหมน้าคงพอไหว... ตอนนี้มาลองดูกันค่ะว่าพี่เก้าจะเจออะไรในครัว

ป.ล. ไม่แน่ใจนัก ว่าตอนนี้ยังต้องแจ้งกันอยู่ไหมว่านิยายจะลงไม่ถึงตอนจบ เพราะเห็นว่าส่วนใหญ่ค่อนข้างยึดธรรมเนียมนี้กันมากแล้ว ด้วยสนพ.มักจะขอมา +เคยบอกไปแล้วในเรื่องก่อนๆ ก็ยังเป็นตามนั้นอยู่ค่ะ แต่คิดว่าคงพอให้ความสนุกสนานคนอ่านได้ในส่วนที่ลง เรียกว่าฟินระดับนึง เท่าที่จะให้ได้ แต่ถ้าเอาถึงสุดคงต้องรบกวนอุดหนุนในเล่ม ถ้ามันมีค่าพอ //ก็หวังมากๆว่ามันจะมีค่าพอนะคะ กับงานที่ทุ่มเทใจอีกเรื่องงานนี้
-----------------------------



เสียงแปลกปลอมที่ไม่ดังนัก คล้ายเจ้าตัวระวังให้เบา
กระนั้นเสียงที่ว่าก็ยังสะกิดหูให้ลืมตาตื่น

เขาคุ้นชินกับความมืดเป็นปกติ ยิ่งในห้องตัวเองแล้วไม่ต้องพูดถึง หลับตาเดินยังได้
มีแสงสว่างเรืองรองจากตู้ไม้น้ำที่เลี้ยงไว้ ใบของมันไหวเอนในกระแสวารีอย่างสงบราวกับจะปลอบโยน
ให้ตั้งสติ เวลานี้ลมจากเครื่องปรับอากาศเย็นเยือก นพคุณเลิกผ้าห่มออกพ้นตัว เย็นนิดๆ
เมื่ออกเปล่าเปลือยกระทบกับอากาศ เขาคว้ามีดพับคู่กายจากใต้หมอนมาถือกระชับ
มันเป็นเหล็กน้ำพี้เนื้อดีลงอาคมที่ขอครูฤทธิ์มาปรับแต่งอย่างพิเศษ เท้าทั้งสองเหยียบลงบน
พื้นพรมสีเข้มแช่มช้า ค่อยๆก้าวเบากริบไปยังประตูห้องนอนซึ่งเพียงงับไว้

คอนโดของนพคุณนั้นส่วนนั่งเล่นรับแขกกับห้องกินอาหารเชื่อมติดกันเพียงเลี้ยวมุม
แต่ถัดไปยังมีครัวอยู่หลังผนังกั้นเจาะช่อง ไม่มีบานประตูปิด ชายหนุ่มก้าวเข้าใกล้
เห็นแสงสีทองรำไรสว่างเรืองสะท้อนออกมาจากครัว สุ้มเสียงน่าสงสัยยังดังต่อเนื่องไม่หยุด
ใครบางคนอาจบุกขึ้นมาทางช่องทิ้งขยะ... เขาตัดสินก้าวพรวดเข้าไป

วูบนั้นนพคุณอ้าปากค้างแทบปล่อยมีดร่วงผล็อย
เบื้องหน้า แสงสว่างบ้าบอคอแตกนั่น... ที่แท้ก็คือไฟจากตู้เย็น!

ส่วนผู้ร้ายที่ถูกจับได้คาหนังคาเขา ยังเห็นบั้นท้ายกระจิริดผลุบๆโผล่ๆ หางสั้นแนบก้น
กระดิกไปมาอย่างย่ามใจ นี่มันโจรร้าย! โจรขโมยอาหารของเขาชัดๆ น่าจะจำได้ว่าเมื่อเช้า
แม่นี่ก็มาแทะขนมปังที่วางทิ้งไว้จนเกลื่อนกลาดทีนึงแล้ว วิญญาณบางประเภทก็ต้องกิน
คงเหมือนกับเอาน้ำแดงไปตั้งแล้วกุมารสูบหายชนิดที่น้ำพร่องไปเร็วอย่างน่าประหลาด
เกินกว่าจะเรียกว่าระเหย แต่เจ้ากระต่ายนี่ กินเป็นจริงเป็นจังถึงขนาดนี้ได้ยังไง

ชายหนุ่มเห็นอีกฝ่ายยังคงไม่รู้ตัว เขาก้าวไปถึงตู้เย็นเงียบเชียบ ย่อตัวลงนั่งยองๆ
ยื่นมือใหญ่โตออกไปหา ดูเอาเถอะ แม้ขณะเขาขยำบั้นท้ายอวบฟูขนาดพอดีมือที่มีเนื้อและขนปลิ้นตามร่องนิ้ว
ลากออกมา แม่นั่นยังคงกอดลูกแอ๊ปเปิ้ลที่แทะไปแล้วส่วนหนึ่งไม่ปล่อย ทำฮึดฮัดเหมือนฝ่ายน่ารังเกียจคือเขา
ที่มารบกวนอย่างนั้นแหละ ตากลมหวานปรายมองสื่อแววติติง ใครกันแน่สมควรจะถูกต่อว่า มันน่าตีเสียเหลือเกิน

ตัวพ้นตู้เย็น กระต่ายจิ๋วดิ้นสะบัดหนีไม่ทันหลุดพ้นมือนพคุณดีก็มีเสียงปุ้งดังเบาๆ
พร้อมกับฝุ่นประกายทองที่ไม่ได้อลังการเท่าตอนเปิดตัวครั้งแรก ผู้ร้ายกลับกลายเป็นหญิงสาวผมกระดก
หน้าตาจิ้มลิ้มคนเดิม คราวนี้นั่งซ้อนตักระทวยอยู่บนต้นขาเขาแทนเจ้ากระต่ายเมื่อครู่เลยทีเดียว

ตาสบตา อยู่ใกล้กันแบบนี้เธอยิ่งสังเกตเห็นว่าตาสีน้ำตาลใสของเขาสวยมาก
ตาคู่นี้ เห็นที่ไหนเมื่อไหร่ก็คงไม่มีทางลืม...

ข้างนพคุณ ตากลมหวานบนดวงหน้าที่เข้ามาอยู่ใกล้กลับทำให้อึดอัด
ผู้หญิงอะไร ขนตายาวจนจะทิ่มหน้าคนอื่นอยู่แล้ว และแม้ไม่ได้ตั้งใจ
ตาคู่นั้นก็เหมือนกำลังวอนขอบางอย่างจากเขา ออดอ้อน รีดไถ
ยายตะกละ...แค่ขออาหาร ไม่ต้องมองกันขนาดนี้ก็ได้ละมั้ง

วินาทีนั้น คล้ายกล้าๆกลัวๆ มือบอบบางกลับยกขึ้น กำลังจะแตะแช่มช้าลงบนเรียวแก้ม
ของใบหน้าขาวคมได้รูป ห่างอีกเพียงไม่ถึงองคุลี

“อย่า...”
เสียงต่ำพึมพำออกมาอย่างไม่ได้ดังอะไรนักทว่าเย็นชา เพียงพอจะทำให้คนทำใจกล้าชักมือกลับ
ใจเต้นรุนแรงอย่างหายใจไม่ทั่วท้อง พร้อมๆกับที่ปุบปับชายหนุ่มก็เทเธอจากตักลงบนพื้นราวกับทิ้งของร้อน

“มาบอกให้คนอื่นถือศีล เจ้าโจรขโมยอาหาร” ชายหนุ่มลุกยืน พูดด้วยน้ำเสียงคลายลง
ราวกับเมื่อครู่ไม่ได้มีสิ่งใดผิดประหลาดเกิดขึ้นระหว่างกัน

“กะ...ก็มันหิวนี่” เสียงตอบอู้อี้ทั้งเศษแอ๊ปเปิ้ลที่ยังเคี้ยวคาปาก ก่อนโจรสาวจะคลานโซเซ
ผลักประตูตู้เย็นปิดจึงค่อยตะกายลุกขึ้นยืนเต๊ะท่า “นะ นายก็อนุญาตอย่างเป็นทางการไว้ซะเลยสิ
คนอยู่ร่วมบ้าน จะไม่ให้กินอะไรเลยหรือยังไง”

นพคุณกอดอก จ้องอีกฝ่ายที่ทำไม่รู้ร้อนรู้หนาวเก็บลูกแอ๊ปเปิ้ลมาแทะกินต่อจากหัวจรดเท้า
หนึ่งเดือนข้างหน้าภาระของเขาคงหนักหนาไม่น้อย ไหนจะต้องคอยเลี้ยงดูรับมือกับแม่คนนี้
แต่หลังจากนั้น รอให้หลังจากนั้นเสียก่อน จะเรียกคืนให้สาสมชนิดนึกไม่ถึงทีเดียว!


คืนนั้นกระต่ายสาวอิ่มจัด อิ่มมากขนาดที่ว่ากว่าจะฟื้นขึ้นมาก็หลับปุ๋ยยาวไปจนเกือบบ่าย
เดินมัวขี้ตาออกมาในร่างของหญิงสาว กลับพบชายที่เพิ่งรับปากว่าจะถือศีลเอนกายดวดแบล็คเลเบิ้ล
อยู่ยังโซฟารับแขกด้วยหน้าตาสงบ เปี่ยมสติ และไม่รู้สึกผิดเลยจนนิดเดียว เมื่อถูกจ้องอย่างไม่พอใจ
ชายหนุ่มเพียงยกแก้วนั้นขึ้นนิดหนึ่งเป็นเชิงดื่มให้เธอ

“นายติดเหล้าด้วยเหรอ”

คนถูกถามเลิกคิ้วเนือยๆพลางอมยิ้มเกียจคร้าน “เปล่าเลย... แต่ช่วงนี้เครียดๆ
พอรู้ว่าจะต้องงดไปเดือนนึงเลยกินซะหน่อย” สุ้มเสียงบ่งบอกว่าอารมณ์ดี “ส่งท้าย...”

“แบบนี้คงจะได้ดีหรอกนะ มีความตั้งใจสูงมาก” หญิงสาวประชด

เพราะยังกลับเข้าไปในเหรียญไม่ได้ ด้วยบางอย่างที่ตาเก้าร่ายใส่เหรียญนั้นไว้
เธอจึงตัดสินใจคืนร่างเป็นกระต่ายแล้วยึดเตียงเสียอีกคำรบ ก็เห็นเขายินดีจะ
ยึดทำเลนอนเกลือกอยู่บนโซฟา แต่อย่างน้อยๆเธอก็เลือกที่จะอยู่ในร่างจิ๋ว
จะได้ไม่ดูเป็นการแย่งพื้นที่เจ้าของห้องตัวจริงเกินไปนัก ในเมื่อเขายังอยากทำตัวเละเทะ
ทางนี้ก็ขี้เกียจจะทนมองให้ขัดตา

กระต่ายตัวจ้อยนอนทำปากขมุบขมิบ จนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เผลอหลับไปบนเตียงนอนสีขาวสะอาด
กลืนไปกับขนขาวละไม ถึงอย่างนั้นก็เริ่มรู้สึกอยู่เลาๆ เย็นย่ำผ่านไปแล้ว นอกหน้าต่างกำลังมืดลงทีละน้อย
ใครคนนั้นเข้ามาในห้อง เปิดไฟดวงที่สว่างรองลงมาบนผนัง ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำเสียงดังซู่ซ่า
ฟังเพลินดีเหมือนกัน
นพคุณเมาแล้ว... แม้จะเมาไม่มากแต่เขาก็เมา ชายหนุ่มพยายามใช้น้ำเย็นๆรดราดตัวเอง
ก็สร่างจริงอย่างว่า แต่ความรับรู้ยังไม่เฉียบคมอย่างปกติ ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรเลยที่จะทำตาม
ความเคยชิน คือเดินออกจากห้องน้ำเทิ่งๆเข้าไปในห้องนอนอย่างไม่สะท้าน อยู่คนเดียวจะกลัวอะไร
ส่วนผ้าเช็ดตัวน่ะหรือ...พาดอยู่บนบนครึ่งหัวครึ่งไหล่นั่นแหละ

โครม! เคร้ง! โป๊ก---!

เสียงไอ้โน่นหกไอ้นี่หล่นดังติดกันเป็นชุดต่อเนื่องในห้อง ตอนแรก เขานึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเสียงอะไร
มาจากไหน หรี่ตามองสักพักจึงเริ่มเข้าใจ เมื่อเห็นเงาสีขาวที่กำลังแตกตื่นพล่านหนีสุดชีวิต
นพคุณอยากตบหน้าผากสักฉาด...เพราะมึนๆเมาๆ เขาดันลืมซะได้ว่ามีใครมาอยู่ด้วย
แถมยายกระต่ายนอนเงียบอยู่ในห้องไม่หือไม่อือจนเหมือนไร้ตัวตน

เพล้ง!

เสียงสุดท้ายดังขึ้นปิดพิธี ก่อนทั้งห้องจะเงียบกริบ ชายหนุ่มเท้าสะเอว
เมื่อพบว่ากรอบรูปสุดหวงของเขาหล่นลงมาแตกเรียบร้อยแล้ว ด้วยพื้นตรงนั้น
ไม่มีพรมรองรับเหมือนอย่างใกล้เตียง แถมผู้กระทำผิดยังนอนหงายท้อง
หายใจยุบหนอพองหนออยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ

“ทำข้าวของเสียหายแล้วแกล้งตายรึ”

ท่าแหงแก๋ก็สมจริงอยู่หรอก แต่หายใจระรัวแบบนั้น มันจะเหมือนตายได้ยังไง
ชายหนุ่มเดินไป ‘หยิบ’ กระต่ายที่กองแบ็บกับพื้นติดมือขึ้นมาโยนลงบนเตียงลวกๆ
กอดอกมองอย่างกึ่งขำกึ่งหมั่นไส้

กระต่ายตัวเล็กค่อยหรี่ลืมตา ตัวยังสั่นอยู่น้อยๆ
บ้าที่สุด เธอเสียความบริสุทธิ์แล้ว เสียแล้วจริงๆ อย่างน้อยก็ทางสายตา
ก็เพราะไม่ชินกับการอยู่ในสภาพนี้ ตกใจจนลืมไปว่าตัวเองเป็นผี เที่ยวหาทางหนีให้วุ่นไปหมด
ตาบ้านี่รุ่มร่ามน่ารังเกียจเหลือเกิน ตากลมโตลืมขึ้นรับภาพชายที่กอดอกยืนทะมึนอยู่ตรงหน้า
ทั้งองคาพยบเพรียวแกร่งด้วยกล้ามเนื้อยังพราวไปด้วยน้ำเกาะ แต่ดีหน่อย เขานุ่งผ้าเช็ดตัวพันตรงนั้นไว้แล้ว
ค่อยหายใจหายคอได้บ้าง สาวในร่างกระต่ายนึกอยากต่อว่า แต่ถ้าเธอกลับเป็นผู้หญิงตอนนี้ มันจะไม่ยิ่ง
ล่อแหลมไปอีกหรือไง ไม่ไม่ไม่! ไม่ได้เด็ดขาด
กระต่ายส่ายหน้ารัวๆอย่างอัดอั้นตันใจ

“เป็นอะไรหือ ถึงกับเสียจริตเลยรึไง” เสียงมีแววยั่วยิ้ม

มือใหญ่เอื้อมลง หมายจะยีขนขาวละเอียดให้สนุกมือ แต่แล้วกลับชะงักค้างกลางอากาศ
เมื่อเสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะหัวเตียงดังขึ้น เขาจึงเดินไปคว้ามาพูดสาย ปล่อยให้แม่กระต่าย
ที่ยังอยากแสดงอารมณ์ประสาใบ้แสดงต่อไปตามใจชอบ

“ว่าไง นายชา... เออ สองสามวันนี้มีเรื่องต้องทำนิดหน่อย ทำไม”
ชายหนุ่มว่าแล้วทิ้งตัวลงนอนคุยบนเตียงข้างก้อนขนที่ยังสั่นไม่หาย

หญิงสาวในร่างกระต่ายขบฟันอย่างโกรธๆ คนคนนี้ออกจะประหลาด เขาไว้ตัว
แต่ก็ปล่อยตัวไปด้วยในบางเรื่อง แล้วแบบนี้จะรับมือถูกได้ยังไง วันไหนถ้าเกิดว่า...

ความคิดพลันสะดุดขาดห้วง! เมื่อร่างเล็กลอยหวิวขึ้นด้วยมือเดียวของคนนอนเอกเขนก
ทั้งยังถูกวางปุลงไปบนพุงแกร่งเกร็งด้วยรอยกล้ามจางๆ ยิ่งทำเอาอ้าปากหวอ
แข็งค้างเป็นตุ๊กตากระต่ายไปเลยในท่านั้นแบบไม่หือไม่อือ

นพคุณลูบขนนิ่มในมือไปพลางหาข้ออ้างมาพูดใส่เพื่อนทางโทรศัพท์ไปพลาง
เสียงเรียบเอื่อยแสดงความเบื่อไม่น้อย

“ก็อย่างที่บอก อยากจะปลีกวิเวกสักพัก ยังไงเราก็ชะงักกันทั้งทีมแล้ว
วันก่อนแกยังบอกเองไม่ใช่หรือ...ว่าคงหาทางช่วยไอ้เอกได้ยากเต็มกลืน”

ชายหนุ่มตัดบทวางสายจากสุวิชาในเวลาไม่นานนัก เมื่ออีกมือว่างก็ย้ายมากอบกุมกระต่ายจิ๋ว
ที่แทบจะจมหายไประหว่างสองมือเขา ไล้เล่นอย่างเบามือ

คนในร่างกระต่ายเพิ่มความช็อกยิ่งขึ้นไปอีก จนค่อยๆเปลี่ยนเป็นเลือดขึ้นหน้า
นี่ถ้า ถ้าอยู่ในร่างคน ไอ้ที่ปลายนิ้วเขาวนอยู่มัน... มันคือหน้าอกเธอไม่ใช่หรือไง!

ร่างปุยตั้งใจจะดีดตัวสุดฤทธิ์ หมายกระโดดกัดแล้วค่อยถีบตัวหนี แต่เพราะโดนจับไว้มั่น
จึงไม่อาจหลุดมือใหญ่ไปได้ เจ้าตัวจึงพยายามลนลานแทะมึงเขางั่มๆ แต่ก็ทำได้แค่เจ็บๆคันๆเท่านั้น
เป็นภาพที่ชวนขำยิ่งนักในสายตาคนมอง นพคุณใช้สองมือที่กอบก้อนขนไว้ยกขึ้นมาหันจ่อพอดีกับหน้า
“ตัวเท่าเมี่ยง ริอ่านกัดเราอีกแล้ว...”

หญิงสาวในร่างกระต่ายมองตาสีน้ำตาลสวยคมกริบตรงหน้าอย่างพ่ายแพ้
ตัดสินใจตบหน้าหล่อเหลารัวๆๆ ด้วยอุ้งเท้าเล็กปุยนับครั้งไม่ถ้วนเป็นเชิงประท้วง

“อายเหรอ...ที่ต้องอยู่กับฉันในสภาพแบบนี้” นั่นน่ะสิ เขาควรจะคิดว่าแม่นี่เป็นผู้หญิงหรือกระต่ายกันแน่
แต่ไม่ว่ายังไงก็เป็นสมบัติของเขาที่เขาจะครอบครองไว้ จะทำอะไรก็ได้... ทีเมื่อคืนทำเป็นใจกล้าจะมาแตะหน้า
คนอื่น แต่พอเห็นเขาโป๊ พอโดนจับไว้ให้เผชิญหน้าไม่ให้ไปไหนก็กลับโต้ตอบแบบนี้ ถ้ามีแผนอะไรหรือถ้าแน่จริง
คงคืนร่างเป็นผู้หญิงสาวไปแล้ว ...หากเธอทำแบบนั้น เขาเองที่จะเป็นฝ่ายปฏิเสธ ไม่ใช่ว่ากลัว แค่ไม่ต้องการ

ก้อนขนส่งเสียงร้องอึ๊ดๆ ติดเป็นอี๊ซอ๊าซในคอแทบไม่ออกมาเป็นเสียงจนตัวเองยังนึกเจ็บใจ
ทำไมเธอไม่กลายเป็นตัวอะไรที่แผดเสียงโต้ตอบได้มากกว่านี้นะ ทำไมต้องเป็นกระต่ายอ่อนแอด้วย
กระต่ายตัวนิดๆน้ำตาคลออย่างเจ็บใจ จำต้องหลับตาลงขณะที่ยังแว่วเสียงหึๆของคนเกือบโป๊
ซึ่งนอนไม่รู้ไม่ชี้กกตนไว้แนบอก

ดันมาลงเรือร่วมหัวจมท้ายกับหมอนี่ได้ ต่อไปจะเป็นยังไง หนึ่งเดือนนี้เขาจะทำตัวดีขึ้นบ้างสักนิดไหม
ให้ตายเถอะ รังแกกันได้ ชักจะเกลียดขี้หน้าตาเก้าแล้วจริงๆ


จากวันนั้นมา นพคุณเริ่มใช้ชีวิตร่วมกับกระต่าย ไม่สิ...ผู้หญิงจอมยุ่งคนหนึ่ง เวลาเป็นกระต่ายตัวจิ๋วๆ
ให้อุ้มเล่นก็น่ารักน่าเอ็นดูดีอยู่ แต่เมื่อไหร่ที่นึกถึงความเพี้ยนและกวนของเจ้าหล่อนยามเป็นคน
เขาก็ฉุนปนขำทุกที
เมื่อลองเสิร์ชดูในหน้าเว็บ แม่นี่ดูคล้ายลูกกระต่ายพันธุ์ Dwarf Hotot ดวอร์ฟ โฮโท
กระต่ายแคระตัวกลมหน้าสั้นกลม หูตั้งและสั้นจุ๊ด เขียนอายไลเนอร์สีดำรอบตาจนดูเหมือนตาดำ
มีขนาดโตใหญ่อย่างน่าขัน แต่ไม่มีรูปภาพกระต่ายตัวไหนเลยที่สวยน่ารักนุ่มนิ่ม ตาหวานคม
เท่ากระต่ายของเขาตัวนี้ แถมยังดูจะเป็นลูกกระต่ายแคระอยู่อย่างถาวรเสียด้วย
น่าเอ็นดูเสียจนเขาว่างขึ้นมาทีไรก็นึกอยากจะดูกระต่ายที่ตนกำลังเห่อทีนั้น

แต่แม่นี่ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเหมือนกระต่าย สามารถกินได้ทุกอย่างที่เขากิน
แถมยังร้องให้หาดอกไม้สดมาเสียบแจกันไว้สะพรั่ง ว่างๆก็ให้หยิบมาป้อนตุ้ยๆ
ทำท่าว่าหอมแล้วก็อร่อยดีเอามากๆ

นพคุณจัดแจงให้เจ้ากระต่ายน้อยดูว่ากรอบรูปที่เธอทำตกลงมาแตกเป็นรูปถ่ายของเขากับแม่
นอกจากนั้นยังเอาอัลบั้มเล็กๆออกมาอวดเสียด้วย พอเห็นอีกฝ่ายส่ายหน้าแล้วเอาขาสั้นๆ
จิ้มหน้าเขากับหน้าแม่บนรูป ชายหนุ่มก็เดาใจ

“หน้าไม่เหมือนกันงั้นรึ...”

กระต่ายพยักหน้าและทำมือคล้ายกอดอกพิจารณาเขา

“เหมือนนิดหน่อยนะ อย่างน้อยฉันก็ได้ลักยิ้มของแม่มา” คนพูดก้มลงไปยิ้มเสียจนใกล้ก้อนขนสีขาว
เมื่อใกล้เกินไปจึงโดนกระโดดดึ๋งชกใส่ปลายคางไปหนึ่งทีจนต้องหัวเราะ

ยิ่งกว่ารูปถ่ายกับแม่ ยังมีรูปเขากับไอ้เอกที่ฝ่ายนั้นอัดเผื่อเสียเยอะ
ประการหนึ่งเพราะค่าอัดรูปนี่ก็นับเป็นเรื่องสิ้นเปลืองของเขาสมัยเด็ก
แต่มันก็ไม่เคยลืมจะนึกถึงเขาโดยไม่ต้องร้องขอ


...เห็นสนิทสนมดูรูปด้วยกันอย่างนี้ ทว่ายามกระต่ายคืนร่างเป็นสาวสวยน่ารัก
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเหินห่างเป็นอีกระดับ เพราะทั้งสองฝ่ายล้วนตั้งป้อม
ตั้งข้อตกลงระหว่างกันขึ้นมา
“เลี้ยงฉันไว้ก็เหมือนนางกวัก ถ้าจะให้รุ่งก็ต้องบูชาดีๆรู้ไหม”

ชายหนุ่มรู้ดี นั่นคือเหตุผลในการร้องขอของกินนั่นนี่ไม่สิ้นสุดของแม่คนนี้เขาละ
ดังนั้นเมื่อเขาลงทุนลุกเดินไปสั่งพิซซ่า ดวงตาของผู้เฝ้ามองจึงหวานเชื่อมอย่างพอใจ

เรื่องสัญญาเกี่ยวกับข้อศีลที่รับปากไว้ เขารู้ว่าภายในหนึ่งเดือนตนควรรักษาจิตให้สงบลงตามไปด้วย
นพคุณไม่ใช่พวกห่างไกลศาสนา อย่างน้อยก็อยู่มากับครูฤทธิ์ถึงห้าปี บทสวด มนตร์คาถาอะไรพวกนั้น
ก็รู้เจนจบ เพราะมีไม่น้อยที่อาศัยดึงเอาอำนาจพุทธคุณมาช่วย เขาเคยอยู่บนหนทางนั้น
ก่อนวันที่จะเลือกเป็นโจร แต่ในเมื่อตอนนี้ตั้งใจถือศีล ก็ควรลืมช่วงเวลาที่ตนก้าวพ้นทางปกติมาเสีย
อย่างน้อยก็ชั่วคราว

“ตัวนายมีพลังบวกอยู่นะ อยู่ใกล้ๆแล้วรู้สึกปลอดภัยดี”

ชายอมยิ้มจนแก้มบุ๋ม “อ้อนหรือ ฉันไม่ใช่แม่กระต่ายที่คลอดเธอมานะ”

เมื่อได้ยินคำว่าแม่ ถ้าตาไม่ฝาด เขาคล้ายจะเห็นหญิงสาวที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่เคียงกันบนโซฟา
นัยน์ตารื้นหยาดน้ำขึ้นมาหน่อยๆ เพียงชั่วเสี้ยววินาทีก่อนจะเสเปลี่ยนร่างเป็นกระต่าย โดดดึ๋งขึ้นมา
บนต้นขาเขา เจตนาคือมุดหนีเข้าไปเนียนขุดกรอกแกรกอยู่ในถุงขนมขบเคี้ยวที่ชายหนุ่มครองอยู่
หน้าตาเฉย เมื่อขนมหมดสิ้นแล้วจึงโผล่หน้าออกมากองอ้วนอยู่ปากถุงทั้งสะอึกดังอึ๊กเบาๆ

“นี่ถ้าเป็นกระต่ายจริงๆละก็ ไม่ให้กินอาหารคนแบบนี้หรอก อายุสั้นพอดี”

ดวงตาดำขลับนั้นมองค้อนใส่ตาสีน้ำตาลใสเรียวสวยของชายหนุ่ม
ก็ไม่ใช่กระต่ายจริงสักหน่อยนิ จะพูดทำไม...

นพคุณหัวเราะหึ ดึงถุงออกทิ้งไป มือเรียวแข็งแรงวางทับลงบนร่างเล็กจิ๋วที่ใหญ่กว่าลูกซาลาเปาไม่เท่าไหร่
ขนสีขาวละเอียดนุ่มนิ่มบางเบาเหมือนปุยฝ้าย สองสามคืนมานี้เขาได้แอบลูบขนเนียนนี้เล่นเมื่อเจ้าตัวยุ่ง
นอนอยู่ใกล้มือ ช่วยให้หลับลงง่ายกว่าช่วยที่ผ่านๆมามาก

“เจ้าตัวนุ่ม ฉันเรียกเธอว่าตัวนุ่มก็แล้วกัน โอเคไหม”

กระต่ายน้อยชะงัก ลืมตาแป๋ว ทอดตามองเสี้ยวหน้าขาวคมอย่างจริงจัง ตาเก้าคนนี้
...เขาจะรู้ตัวไหม ชื่อที่เพิ่งเอ่ยออกมานั่น มันมีความหมายกับเธอมากมายเหลือเกิน



นพคุณเคยคิดว่าเป็นเรื่องตลก เวลาเห็นเพื่อนสักคนตามใจแฟนจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
แม้นั่นจะไม่ใช่เหตุผลโดยตรงที่เขาไม่คิดมีใคร แต่เพราะเขาไม่มีใครก็เลยโล่งใจที่ไม่จำเป็นต้อง
ทนทำอะไรบ้าๆแบบนั้น ...จนวันนี้ เขาเพิ่งพบว่ามันก็สนุกดีอยู่หรอกในบางแง่
ถ้าเจ้าของกระเป๋าสตางค์มีเงินพอจะจ่าย!

เป็นอีกวันที่เขาพาแม่วิญญาณสาวตัวดีออกมาเดินห้าง หญิงสาวอยู่ในร่างคน
แถมยังอาศัยส้นสูงราวสี่นิ้วมายกระดับความสูงให้เข้าใกล้กับเขามากขึ้นอีกระดับ

“ไม่งั้นจะรู้สึกเหมือนถูกข่มนี่นา”

“เธอคิดของเธอเองคนเดียว ก็ช่วยไม่ได้ อยากเกิดมาเตี้ย ที่จริงผีจะเพิ่มความสูงให้ตัวเอง
มากขึ้นจนเป็นเปรตก็ยังไม่ยาก แต่เธอมันยึดติดกับรูปร่างแบบเดิมเกินไป
ทั้งที่บอกว่าจำเรื่องก่อนตายไม่ได้แท้ๆ นี่! อย่าเกาะสิ”
นพคุณเกือบชักแขนหลบ แต่เพราะเห็นอีกฝ่ายทำท่าคล้ายจะเสียหลักบนส้นสูงทั้งที่เป็นผีแท้ๆ
เขาเลยจำยอมเป็นเสาให้ยายตัวนุ่มเกาะทรงตัวแค่ชั่วคราว

“สังเกตมาหลายวันแล้ว พอเป็นกระต่ายโอ๋แทบตาย แต่พอเป็นสาวสวยแบบนี้ นายมักจะ
กันฉันไว้ห่างๆทุกที แถมทำขนลุกขนพอง ทำไม ไม่ชอบผู้หญิงงั้นเหรอ”

น้ำเสียงอาจมีแววตัดพ้ออยู่ในที แต่นพคุณเหลือบตาไปมอง คนที่แกล้งทำเสียงน้อยใจกลับมีสีหน้าซุกซนทะลึ่ง
ดูก็รู้ว่ากำลังล้อเขาเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน ...ชายหนุ่มส่งเสียงขึ้นจมูกออกมาคำหนึ่ง ไม่เอ่ยอะไร

ขณะเดินไปด้วยกันนั้นไม่มีใครเห็นตัวเธอนอกจากนพคุณเพียงคนเดียว
แต่ยายตัวยุ่งกลับบ่นเป็นระยะว่าคนนั้นเดินชนไหล่บ้าง คนนี้เดินเหยียบเท้าบ้าง
ทำเอาชายหนุ่มอยากหันไปเขกให้สักที ทว่าไม่ทันไรทั้งร่างก็ถูกกระชากยื้อ
ให้เข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์หรูในห้าง ตามด้วยเสียงรบเร้าจนหูแทบชา

“ขอชุดนั้น นะๆๆ มีเงินเยอะไม่ใช่เหรอ”

ชายหนุ่มทำหน้าทื่อ กะพริบตาปริบๆ สมัยยังจนเขาเคยงกแค่ไหน แม่คนนี้ช่างไม่รู้เสียเลย
“อย่างเธอเป็นผีแล้วจะเอาชุดพวกนี้ไปทำไม เอาไปก็ใส่ไม่ได้อยู่ดี” นพคุณพยายามกระซิบตอบ
อย่างที่ขยับปากให้น้อยที่สุด ไม่ให้ดูเหมือนคนกำลังพูดกับตัวเอง

“ก็เหมือนเวลาซื้อชุดไทยให้เจ้าแม่ตะเคียน สาวๆอย่างเราก็ไม่ได้จะเอาชุดมาใส่ลอยไปลอยมา
แต่เราก็อยากให้มีคนเอาชุดสวยๆมาประเคน ไม่ใช่ชุดกระดาษหรือของเด็กเล่นอะ”

“อ้อ เลี้ยงเธอไว้ ถ้าอยากให้รุ่งก็ต้องบูชาด้วยของดีเลิศ ว่างั้น?” ยังไงก่อนจะมาเขาก็รับปาก
แม่นี่แล้วว่าอยากได้อะไรจะให้ ตามใจหน่อยคงไม่เป็นไร

แล้วเขาก็ยอมเสียเงินง่ายๆกว่าที่เคยเป็นมายามปกติหลายเท่า
ไม่ใช่เพราะเชื่อว่าต้องบูชาเทพีกระต่ายนางนี้อย่างเคร่งครัดอะไรนักหรอก
ส่วนหนึ่งมันอาจเป็นเพราะวันก่อนเพิ่งพบด้วยตัวเองว่าความตายมันเป็นเรื่องง่ายดายเหลือเกิน
แบบนั้นชีวิตก็จบ เงินทุกบาทที่ลำบากแย่งชิงมาก็คงไม่ได้ใช้อะไรเลย เขาก็แค่นึกสนุกที่ได้ให้
บางครั้งไม่ต้องเป็นของแพง ขอแค่ช็อกโกแลตสักกล่องแม่นี่ก็ปลื้มแล้ว...แต่ในทางกลับกัน
ของแพงแล้วถูกใจก็ร้องจะเอาเหมือนกัน

นพคุณกอดอก ยกมือหนึ่งขึ้นลูบคางที่มีไรเคราเขียวจางของตน พิจารณาผู้หญิงตรงหน้า
อันที่จริงถ้าเป็นคนอื่นทำเขาคงรำคาญ แต่ดูเธอสิ ผมม้าปิดหน้าผากเด๋อนิดๆ หางผมข้างหลังกระดกเป็นเป็ด
ตาโตสั่นระริกราวกับตัวการ์ตูน พร้อมจะแสดงความดีใจอย่างมากทุกครั้งที่เขาตามใจ เอาเถอะ ถ้าต่อไป
แม่นี่จะกลายเป็นนางกวักประจำตัว เลี้ยงดูให้สุขสันต์เสียหน่อยจะเป็นไร

...เอ็นดูคนหรือผีสาวที่ติดตามตนมาด้วยจิตสงบผ่องใสได้ไม่ทันไร ยายตัวนุ่มกลับฉวยทีเผลอ
ดันหลังนพคุณหัวซุนเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่น ยังไม่ทันที่เขาจะทันหนี พนักงานต้อนรับก็ครวญคราง
ขานรับกันระงมเสียแล้ว เอาก็เอา หิวพอดี แต่ใช้วิธีมัดมือชกแบบนี้ ช่างเป็นวิญญาณร้ายสมควรตายจริงๆ
แต่เพราะยายนี่ตายอยู่แล้ว ถ้าหากเขาคิดจะจับลงหม้อ คงต้องรอไว้หลังจากนี้อีกที

เขาสั่งทาโกะยากิลูกกลมๆร้อนกรุ่นมาสังเวยแม่คนครึ่งกระต่าย แถมยังพิซซ่าญี่ปุ่นตามที่อีกฝ่ายร่ำร้อง
ไม่คาดคิดว่าแม้แต่ข้าวหน้าปลาดิบส่วนของตัวเอง เนื้อปลากลับถูกสูบหายๆ เหลือแต่ก้อนข้าวขาวโพลน
ทิ้งให้ดูต่างหน้า นพคุณเกือบหักตะเกียบทิ้ง หากเพียงแต่เขาไม่สะดวกจะไล่ตะครุบกระต่ายหรือผีสาว
ที่ใครต่อใครมองไม่เห็นในร้านอันสงบเงียบอยู่ในความเรียบร้อยเช่นนี้ ทำได้แต่จิบชาเขียวเย็นเฉียบ
ด้วยอารมณ์ร้อนปุดๆ

“น้องครับ” ชายหนุ่มข่มใจกวักมือเรียก “สั่งอาหารเพิ่มหน่อย... เอาเรือปลาดิบสองลำเลยนะ
เอาแบบใหญ่ที่สุดที่มี วันนี้พี่ตะกละ เอ๊ยหิว ว่าจะกินให้หมดร้านเลย”

นพคุณหันกลับมายังชุดอาหารตรงหน้า ตั้งใจจะกินข้าวปั้นกับเศษสาหร่ายที่เหลืออยู่ไม่กี่คำแก้หิว
กลับพบว่าแม้แต่ก้อนข้าวเหล่านั้นก็ยังอันตรธานหายไปด้วย
พร้อมกับที่ข้างๆตัวเขามีเสียงเรอเอิ้กสองทีซ้อนอย่างพอใจ


กลับจากศูนย์การค้าทั้งข้าวของพะรุงพะรัง นพคุณรู้สึกสูญเสียพลังชีวิตไปเกือบหมด
ผีสาวในเหรียญตนนี้กำลังเกาะกินเขาจนหมดตัว ไม่แน่อาจลงทับจนกระทั่งเขาอาจต้องสูญเสีย
ชีวิตที่สามไปในไม่กี่วัน... ดูสิ ทำหน้าตาน่ารักยิ้มเห็นฟันกระต่าย รื้อชุดออกมาเตรียมลอง
อย่างสนุกสนานทีเดียว ทำจนห้องรกไปหมด แถมยังเอ่ยเชิญเขาออกไปให้พ้นห้องนอนเสียด้วย

“จะยืนดูผู้หญิงเปลี่ยนชุดหรือ” เจ้าตัวถามด้วยสีหน้าราวกับถูกคนโรคจิตคุกคาม

“แต่นี่ห้องใครล่ะ” ชายหนุ่มกอดอก หรี่ตาอย่างสะกดกลั้นอารมณ์

“ขอยืมห้องแค่นี้ก็ต้องว่าด้วย! ไหนว่าจะตามใจทั้งวันไง” คนพูดกอดชุดสวยไว้แนบอก
กัดริมฝีปาก เบะหน้าราวกับน้ำตาจะไหลมิไหลแหล่

ให้มันได้อย่างนี้ ชายหนุ่มเดินเลี่ยงออกมาเอนหลังบนโซฟาหน้าทีวี นึกทบทวนตัวเลขหลักทรัพย์ที่เสียไป...
คราวนี้ไม่เพียงแต่เงินที่ไหลออกจากกระเป๋าไปมากมาย เขาเหมือนจะเห็นความเจ้าเล่ห์บางประการ
แฝงรวมอยู่ แม่นี่กำลังสาแก่ใจที่ได้ใช้เงินที่เขาหามาให้หมดไป คล้ายจะสั่งสอนอยู่กลายๆว่าเงินทอง
ที่เอามาด้วยวิธีไม่ถูก ได้มาแล้วต้องเสียไปอย่างง่ายดายตัวเขาก็ไม่มีสิทธิ์บ่นเสียดมเสียดาย

งีบหลับไปบนโซฟาได้เพียงครู่... เสียงประตูหน้าถูกเปิด นพคุณลืมตาข้างหนึ่ง เห็นผู้มาเยือนเป็นกานต์รวี
ที่ส่ายคีย์การ์ดในมือไปมาอย่างอยากยั่วเขา ชายหนุ่มเฉยเมยไม่เต้นตาม หลับตาลงอีกครั้ง ไม่อยากใส่ใจ

หญิงสาวผู้เชิญตัวเองเป็นแขกขมวดคิ้วมองคนแกล้งหลับต่ออย่างออกจะผิดหวัง ก่อนเดินมานั่งบนโซฟาอีกตัว
วางขนมที่ซื้อมาฝากลงบนโต๊ะ เธอได้การ์ดเปิดห้องเขามาก็ด้วยการไปหว่านล้อมคนอย่างสุวิชา
ยกข้ออ้างว่านพคุณชักจะหายหน้านานเกินไปแล้ว ต้องการจะไปดูให้แน่ว่าเขาเป็นอยู่อย่างไร
ยังครองสติได้หรือเป็นบ้าเป็นหลังไปลำพัง

‘ก็ตั้งแต่มีเรื่องเอก เก้าก็เปลี่ยนไปมาก...นี่แหละเวลาฉุกเฉิน ส่งคีย์การ์ดมาซะดีๆ’

‘งั้นเหรอ รวี--’ คนตอบแกล้งทำยานคาง ‘ไม่เห็นกับคนอื่นเธอจะห่วงขนาดนี้
อย่างเอกมันถูกจับไปทั้งคน ไม่เห็นทำท่าเหมือนมีอะไรหายไปเลย ทั้งที่มันเองเป็นคน
พาเธอมาเข้ากลุ่มเราด้วยซ้ำ’ สุวิชายังคงกะล่อนเรื่อยเจื้อยตามปกติ

ยามนั้นหญิงสาวมองคนผอมสูงไหล่งุ้มไร้สง่าราศีอย่างพยายามสะกดอารมณ์ ยักไหล่
ก่อนจะตอบเรียบเรื่อย ‘ประเทศนี้มันประชาธิปไตยหรือเปล่าล่ะ ฉันมีสิทธิ์เลือกว่าจะห่วงใยใครก็ได้
ไม่จำเป็นต้องให้ทุกคนเท่ากันเสียหน่อย’ กานต์รวีถือโอกาสยกประโยคเหล่านี้มาอ้าง ทั้
งที่แทบไม่เคยไปเลือกตั้งแม้แต่ครั้งเดียว โดยคิดเอาง่ายๆว่าเธอแค่ไม่เหมือนอย่างดาราคนอื่น
ที่ชอบใช้การอวดตัวเป็นคนดีมาสร้างกระแส

‘อย่าให้ต้องกล่อมนานไปกว่านี้เลย เอาคีย์การ์ดมา’

‘ไม่ให้’ สุวิชากอดอกยืนกราน สีหน้าคล้ายจะหนักแน่นอยู่ครึ่งหนึ่ง

‘เอามาเหอะน่า’

‘งั้นก็หอมแก้มก่อน’ ชายหนุ่มสวมแว่นหรี่ตา เสนอขายเพื่อนอย่างไม่รีรอ

กานต์รวีหัวเราะ ดีที่สุวิชาไม่ทำตัวคิดมากกับเรื่องจุกจิกอย่างการที่เธออยากบุกไปหานพคุณ
แถมคำท้าของเขาก็ฟังดูกวนอารมณ์ดีไม่หยอก เท่าที่ฟังชื่อเสียงมา...ถึงคนตรงหน้าจะดูเป็นหนอนหนังสือ
แต่หมอนี่รู้จักผู้หญิงดีเข้าขั้น ชนิดที่นำหน้านพคุณไปหลายขุม เธอเองก็ใช่ว่าจะหวั่นเหมือนกัน

อีกฝ่ายยื่นแก้มป่องๆมาให้ แต่เธอกลับประคองหน้าเขา แล้วจุ๊บลงบนปากซีดๆเซียวๆนั้นหนึ่งที
ก่อนจะฉกคีย์การ์ดที่เขายอมปล่อยหลุดมือ พลางมองคนที่ทำหน้าตะลึงลานปนหยาดเยิ้มอย่างสาแก่ใจ

‘ท้าแค่นี้ ใครกลัว...’ หญิงสาวก้าวถอยหลังเตรียมผละไปยังจุดหมาย ‘อย่าลืมนะฉันเป็นนักแสดง
ถ้าจูบคนที่ไม่ชอบไม่ได้ ถ้าร้องไห้ให้คนที่ไม่รักไม่เป็น กราบเท้าคนที่ตัวเองรังเกียจไม่ไหว...
ก็อย่าหวังเป็นมันเลย ดารา’

เธอคิดอย่างนั้นเสมอมา และรู้ดี ตนกำลังใกล้จะได้กลับไปยืนยังจุดเดิม เป็นดาวจรัสแสง...
แต่มาตอนนี้ ขอแค่เป้าหมายใกล้ๆอย่างห้องนพคุณก่อน แล้วเธอก็บุกเข้ามาจนได้ ถ้าเป็นผู้ชายอื่น
เห็นสาวสวยอย่างกานต์รวีมาเยือนถึงที่คงชอบใจ จับกดเข้าให้อย่างไม่ใช่ก็ใกล้เคียงในละคร
แต่นี่พ่อรูปหล่อกลับนอนต่อ แถมตะกี้ยังเพิ่งพลิกหันหลังให้เธอเสียอีก

ปกติคอนโดนี้ไม่ได้มีการป้องกันอะไรแน่นหนาอยู่แล้ว โดยเฉพาะถ้าผู้มาเยือนเป็นสาวสวยมาดดีอย่างเธอ
ที่จะเดินตามหลังใครเข้ามาก็ได้ทั้งนั้น แต่นพคุณบ่ายเบี่ยงปลีกตัวพ้นหน้าเพื่อนในทีมมาหลายวัน
โทรศัพท์ก็ยังขี้เกียจจะรับ เขาอาจแกล้งไม่เปิดประตูให้หรือแกล้งทำเป็นไม่อยู่ห้องก็เป็นได้

ลมหายใจสม่ำเสมอ แต่เขาไม่ได้หลับ... หญิงสาวรู้ดี นพคุณเป็นคนระวังตัวแค่ไหน
จนครู่ใหญ่ที่เธอแกล้งเงียบเล่นสงครามประสาทด้วย ที่สุดเขาก็ยอมขยับตัวตื่นอย่างเป็นทางการ

“หวัดดี รวี” ชายหนุ่มชันตัวลุกขึ้นนั่ง ยิ้มอย่างประชดประชันให้กานต์รวีที่วันนี้ม้วนผมเป็นหลอดเป็นลอนใหญ่
ดูโฉบเฉี่ยว ท่าทางจะเสียเวลาไปไม่น้อยกับทรงผมซึ่งแทบไม่เคยเหมือนกันเลยสักวัน

“อะไรกันเก้า ผมเผ้ายาวยุ่งใหญ่แล้ว หนวดเคราก็ไม่โกน” กานต์รวีที่เพิ่งเห็นชัดๆร้องทัก
“แต่แบบนี้ก็ห้าวดีเหมือนกันนะ รวีชอบ” หญิงสาวบิดผันประโยคที่คล้ายจะติติงทีแรก
ให้กลายเป็นคำชมเสียแทน

นพคุณปิดปากหาว เขาไม่คิดว่าผมที่แค่จะรวบเป็นกระจุกเล็กยังคอยจะหลุดลุ่ยนั้นเรียกได้ว่ายาวตรงไหน

“มาซะดึกป่านนี้... เอาน้ำเอาท่าอะไรไหม หรือจะขนม”
ชายหนุ่มลุกขึ้น ถามไปแกนๆ แต่ที่จงใจเน้นจริงคือคำว่ามาเสียดึก

“เอาสิ แต่ขอหยิบเอง”

นพคุณพยักหน้ากับข้อเสนออันเป็นที่พอใจกันทั้งสองฝ่าย แต่สมองกลับสั่งให้ขายาวๆก้าวตาม
เผื่อว่าอีกฝ่ายมีอะไรอยากพูดจะได้พูดมาเลยไวๆ ทว่ากลับเจอคำถามที่ผิดคาด
ยามผู้มาเยือนทอดตามองสภาพครัวเขาที่เปลี่ยนไป

“เอ เก้าไม่กินมัสตาร์ดไม่ใช่เหรอ เห็นเคยบอก... มะเขือเทศนี่ก็ด้วย ขนซื้อมาทำไมเต็มตู้เย็น”

นั่นมันจะของใครซะอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่ยายผู้หญิงตัวยุ่งรบเร้าให้ซื้อ...ชายหนุ่มขยับจะอ้าปากบอกว่า
ลองแล้วเกิดติดใจ แต่นึกได้ว่าตอนนี้ตนได้ก้าวเข้าสู่เขตแดนของการถือศีลหนึ่งเดือนเต็มๆ
เพราะไม่จำเป็นต้องตอบจึงเพียงยิ้มให้อีกฝ่ายที่ส่งสายตาจับจ้องมา

กานต์รวีเป็นคนสวย ดวงหน้ารูปไข่ เปลือกตาหนาทำให้ดูเซ็กซี่ แต่เครื่องหน้าอย่างอื่นนับว่าอ่อนเยาว์
และอย่างน้อยๆก็เรียกว่าสวยระดับนางเอกแถวหน้า ก่อนจะร่วงจากที่เกือบขึ้นถึงตำแหน่งนั้นมาโดยสิ้นเชิง
ก่อเกิดรอยร้าวลึกในใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับคู่แค้น...ดาราสาวสวยขบเผาะหน้าใหม่ผู้ได้มาแทนที่
ในวาระเดียวกันนั้น สำหรับวงการบันเทิง แค่สวยและพยายามยังไม่พอ ยังต้องขึ้นกล้อง ต้องอาศัย
เส้นสาย ที่สำคัญกว่านั้นคือโชค สิ่งที่กานต์รวีขาดไป แต่เขารู้ว่าหญิงสาวไม่เคยลืม ยังมุ่งมั่นอยู่เสมอ
ว่าไม่นานนี้นี่แหละ เธอจะกลับไปยืนจุดเดิมหรือสูงกว่าเดิมให้ได้เต็มภาคภูมิ

ตั้งแต่ก่อนกานต์รวีจะเข้าไปในครัว เจ้าของห้องแอบเห็น...ผีสาวที่เขาเลี้ยงไว้ได้แอบแง้มประตูห้องนอน
ออกมาดูอย่างใคร่รู้ใคร่เห็น ชายหนุ่มเผยยิ้มมุมปาก ผู้หญิงสองคนมาเจอกัน แม้เขาจะไม่ได้คิดอะไรกับทั้งคู่
แต่จะทำให้ดูเหมือนรถไฟชนกันธรรมดาก็คงไม่สนุกเท่าที่ควร

ยายกานต์รวีเคยยืนยันว่าไม่เชื่อเรื่องเหนือจริงไร้สาระทุกชนิด แต่กลับกลัวผีเป็นที่สุด...
เป็นเหตุให้คนใกล้ผีอย่างเขาชอบจะหลอกอำให้อีกฝ่ายเต้นตามสนุกๆ เคยรู้มาว่าสมัยยังเล่นละคร
เพื่อนสาวคนนี้ปฏิเสธหัวชนฝาไม่รับเล่นหนังผี ไม่ว่าจะได้บทกึ่งตลกหรือบทดีแค่ไหน ขนาดหนัง
‘พ่อมากพระประแดง’ ที่ภายหลังดังเป็นพลุแตก แต่เธอกลับเชิดหน้าว่าไม่เสียดายที่ปฏิเสธบทไป
...ก็นับว่ายังต้องให้เครดิตเรื่องที่ว่ากานต์รวีฝืนใจแต่งหน้าให้เขาจนเละเป็นศพในภารกิจล่าสุด
อวดฝีมือได้อย่างน่าชม

ตอนนี้ในห้องเขาก็มีผีที่แสนจะเลอค่าอยู่ตนหนึ่ง มีคนกลัวผีอยู่คนหนึ่ง จะสร้างเรื่องจากตรงนี้ยังไงดี




อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ย. 2557, 02:02:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.ย. 2557, 02:02:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 1226





<< ๒.๔ เกมต่อชีวิต   ๒.๖ เกมต่อชีวิต >>
Sukhumvit66 20 ก.ย. 2557, 02:31:08 น.
เม้นต์แรก เย้

เป็นกระต่ายที่เลอค่าจริง ๆ อิอิ


อสิตา 20 ก.ย. 2557, 02:42:49 น.
อ้าว คุณสุขุมวิทเพิ่งมาอ่านตอนก่อน เลยไม่ได้ตอมในเม้นต์รวมเลยค่ะ วันนี้ยังไม่นอนเหรอคะ


lovemuay 20 ก.ย. 2557, 06:31:27 น.
กระต่ายน้อยน่ารัก ชวนหวั่นไหวจริงๆ อิอิ


yimyum 20 ก.ย. 2557, 08:57:51 น.
ก้อนกลมๆ ลากแอ๊ปเปิ้ล งั่มๆ แง่มๆ น่ารัก
ไอ้พี่เก้าจะแต่งเรื่องไงหว่า??


ดังปัณณ์ 20 ก.ย. 2557, 11:14:24 น.
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกก มันมุ้งมิ้งฟุ้งฟิ้งมากกกกกกกกก อร๊ายยยยยยยยยย อิพี่เก้านิสัยดีกว่าชาจังมารเห็นๆ กรี๊ดๆๆๆๆๆ

ตัวนุ่มน่ารักอ่ะ อั้ยๆๆๆๆ แต่แหม ดูพี่เก้าเอ็นดูแบบเอ็นดูสัตว์เลี้ยงของตัวเองอ่า 555+ แอบแตะอั๋งเค้าด้วย ชริ! ตัวนุ่มเสียเปรียบ แต่...ฮามาก ฮาที่สุด ตัวนุ่มน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกก กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ ไม่มีอะไรจะเม้นท์ มันน่ารักอ่าาาาาาาาาาาาา อั้ยๆๆๆๆๆ


บุลินทร 20 ก.ย. 2557, 11:47:49 น.
แค่นี้ก็ฟินระดับหนึ่งแล้วล่ะ ไม่เป็นไรหรอก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ


Barby 20 ก.ย. 2557, 11:59:22 น.
สาวเเซ่บเจอกับสาวแสบหรอนี้


ใบบัวน่ารัก 20 ก.ย. 2557, 18:45:39 น.
เป็นกระต่ายน้อยเปิดตู้เย็นได้อย่างไร เค้างง
หิวมากนักหรือ พี่เก้าต้องขุนให้อ้วนๆๆนะ เนื้อจะๆด้แน่นๆเวลาลงหม้อ
ซื้อชุดอะไรมาอะ ใส่แล้วอะยังเป็นกระต่ายน้อยตกใจง่ายจัง มีแกล้งตายด้วยจำมาจากไหนค้า
พี่เก้าจนกรอบแน่ รุ้ด้วยว่าถูกจับหน้าเมื่อคืน จุ๊บๆๆเลยพี่เก้า


พันธุ์แตงกวา 20 ก.ย. 2557, 21:23:11 น.
ตัวนุ่มน่าร้ากกกกกกกกก เสียความบริสุทธิ์ทางสายตา อกอิแป้นจะแตก เวลาเฮียอยู่กับตัวนุ่มเหมือนเป็นคนละคนเลย มันมีพลังด้านบวกแอบแฝงจริงๆล้วย


ketza 21 ก.ย. 2557, 00:02:29 น.
อ่านตัวนุ่มมุ้งมิ้งกับพี่เก้าแล้วฟินสุดๆ น่าร๊ากกกกก นุ่มฟู น่ากอดชิมิล้าาาาา ถนอมเค้าดีๆน๊าาา เดี๋ยวให้โชค แต่ขอขนมแลกเยอะๆ อุจิ๊


นักอ่านเหนียวหนึบ 21 ก.ย. 2557, 23:01:23 น.
อะไรๆ ก็ดีอะ ตัวนุ่ม มุมมุ่้งมิ้งของพี่เก้า ความตะกละของยัยตัวนุ่ม บลาๆๆ
ติดอยู่นิดเดียว! สุวิชา ... นายมีอะไรซ่อนเร้นคนอ่านอยู่ชั่ยยยยยอ้ะ !!!!


Zephyr 4 ต.ค. 2557, 16:57:45 น.
หืม แกล้งคนนี่ไม่ผิดศีลสินะ
แกล้งเอาๆๆๆ
ตัวนุ่มฉุนนะเนี่ย ฮึ อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account