วังวนวารี [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
คนหนึ่งอบอุ่นอ่อนโยน คนหนึ่งห่ามห้าว ใจร้อน แตกต่างกันราวกับน้ำพุร้อนเดือดพล่านและสายฝนฉ่ำเย็น หากสิ่งหนึ่งที่ทั้งสองเหมือนกัน คือเขาต่างมีใจให้เธอ แล้วเธอล่ะ จะมอบใจรักเพื่อใคร
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ ๑๙

หมายเหตุ : เมื่อวานมีความผิดพลาดเกิดขึ้นขณะลงนิยาย คือเน็ตกระตุกแบบรัวๆ เพราะฝนตกหนัก ทำให้นิยายที่ลงสั้นกุดและตัดจบด้วนๆ แต่ตอนนี้แก้ไขแล้วค่ะ ใครที่อ่านตอนเมื่อวานไว้และเห็นความผิดปกติ ลองคลิกย้อนกลับไปอ่านให้จบตอนก่อนนะคะ เพื่อความต่อเนื่องและได้อรรถรสในการลุ้นค่ะ


**********************


“ผมจองตั๋วเครื่องบินให้แล้ว บินพรุ่งนี้ตอนบ่าย ต้องขอโทษด้วยนะครับคุณว่าน ที่ทำให้คุณเดือดร้อนมานอนโรงพยาบาลแบบนี้”

“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ คุณช่วยชีวิตผมไว้” หากไม่ได้ริชาร์ด ร่างวาริคงแตกดับ วิญญาณของเขาหลุดลอยจากร่างและถูกนำตัวกลับไปรับโทษทัณฑ์ตามวาระกรรมที่ตนก่อไว้

“เพราะคุณเป็นคนที่วีวี่รัก ผมรักวีวี่ ไม่อยากให้เธอเสียใจ ถึงช่วยคุณสุดกำลัง”

“ไม่จริงหรอก ต่อให้ผมเป็นใครที่คุณไม่รู้จัก คุณก็จะช่วยเต็มที่”

ริชาร์ดหัวเราะ “คุณว่านพูดเหมือนรู้จักผมดีอย่างนั้นแหละ เราเจอกันไม่กี่ครั้งเอง”

เผด็จจ้องดวงตาสีฟ้าใสกระจ่างคู่นั้นแน่วนิ่ง เหมือนตนเองถูกดูดดึงหวนกลับไปยังอดีต น้ำเสียงห้าวทุ้มเอ่ยด้วยความมั่นใจ

“ใช่ ผมรู้จักคุณดี...เรเชล”




“ไอ้เรมันเป็นทอม”

เพื่อนสนิทร่วมคณะเอ่ยอย่างขบขัน ตามด้วยเสียงโห่ฮาเมื่อทราบว่าเขาสนใจรุ่นน้อง...สาวน้อยลูกครึ่งนัยน์ตาสีฟ้าใสกระจ่าง ริมฝีปากบางเฉียบแดงเรื่อราวกับผลเชอร์รี่ เห็นวูบแรกก็อยากจูบ เขาคิดตามประสาวัยคะนองฮอร์โมนกำลังพุ่งพล่าน

“ทอมบ้าอะไรวะ สวยจัดขนาดนั้น” เขาเถียง “ผมยาวถึงเอว เดินเหินก็ไม่อวดเบ่งให้รู้ว่ากูเป็นทอมนะเว้ย”
“มึงมัวแต่มุดหัวอยู่ในขวดเหล้าน่ะสิไอ้เด็ด นั่นแหละเขาเรียกหงิมๆหยิบชิ้นปลามันโว้ย น้องแป้งจี่ที่กูจีบอยู่ ไอ้เรก็สอยไปควงจี๋จ๋ามาแล้ว”

“งั้นเขาเรียกหยิบชิ้นแป้งมึง ไม่ใช่ชิ้นปลามัน” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มโยนมุกแป้กๆเข้ามาในวงสนทนา

ปกติเผด็จจะรับมุก ไม่ว่าแป้กหรือด้านแค่ไหน แต่วันนี้เขาไม่สนใจสิ่งใดมากไปกว่า...ไอ้เรเป็นทอม

เขาไม่เชื่อหรอก จนกว่าจะได้พิสูจน์ด้วยตนเอง ความคิดนี้ส่งผลให้เผด็จไปดักรอรุ่นน้องที่ชื่อเรเชลถึงหน้าคณะมนุษยศาสตร์ ดักอยู่หลายวันกว่าจะพบ

วันนั้นเมฆฝนมืดครึ้ม เวลาสี่โมงเย็นมืดราวกับใกล้ค่ำ เผด็จจะถอดใจอยู่แล้ว แต่เห็นร่างสูงเพรียวในชุดนักศึกษาวิ่งหน้าตาตื่นลงมาจากอาคารเสียก่อน เผด็จรีบก้าวยาวๆไปขวางหน้า คิดในใจว่าจะเริ่มบทสนทนาด้วยการชวนขึ้นรถพาไปส่งยังที่ที่เธอจะไป เพราะฝนกำลังจะตก จังหวะเดียวกันนั้น เด็กสาวเกิดสะดุดขาตัวเองหกล้มหน้าคะมำลงพื้น หน้าผากโขกกับปลายเท้าเขาพอดิบพอดี ผู้คนผ่านไปมาต่างหันมอง ดูก็รู้ว่าเธออาย เผด็จจึงแกล้งเตะขาตัวเองล้มลงไปเป็นเพื่อน...นั่นแหละ จุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ผู้หญิงที่ชื่อเรเชล

“ทำไมต้องแกล้งล้มด้วย” เธอถามขณะลุกขึ้นปัดกระโปรง ภาษาไทยของเธอชัดเจน เสียงห้าวโดยไม่ต้องดัด ขัดกับหน้าสวยๆหวานๆโดยสิ้นเชิง

“มีเพื่อนอายไม่ดีหรือ”

“เป็นเพื่อนอายให้สาวๆบ่อยสิ” เธอส่งมือมา

เผด็จไม่รีรอ จับมือนั้นแล้วหยัดตัวขึ้นยืน “เพิ่งครั้งแรกนี่แหละ คนอื่นก็เข้าไปจีบดีๆ ไม่ต้องลงทุนขนาดนี้”

“อ้าว นี่มาจีบหรือ” ดวงตาสีฟ้าแฝงรอยขบขัน

“ลงทุนขนาดนี้แล้วยังจะถามอีก” เผด็จไม่อ้อมค้อม เขาไม่ใช่คนมีชั้นเชิงแพรวพราวอะไร สำหรับเขา เรื่องพวกนั้นมันไร้สาระและ
ทำให้เสียเวลา เมื่อรู้เป้าหมายแล้วก็พุ่งชนเลยดีกว่า จะได้จะเสียก็ให้มันรู้กันไป

ปกติเขาจะเป็นคนพุ่งชนเป้าหมาย เพิ่งมีครั้งนี้แหละที่เป้าหมายพุ่งชน

“แล้วเมื่อกี้วิ่งหนีอะไรมา หน้าตาตื่นเชียว” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง

“ผีน่ะสิ”

“หือ”

“จริง ผีผู้หญิง อยู่บนตึก ในหอก็มี ที่นี่ผีเยอะแยะไปหมด จะเป็นประสาทอยู่แล้ว”

“บ้าน่า ผีที่ไหนจะมี เรียนมาทั้งปีไม่เห็นเคยเจอ”

“มาเรียนหรือเปล่าล่ะ ใครๆเขาก็โดนกันทั้งนั้น” เธอย้อน

ชายหนุ่มหัวเราะ ไม่อยากเถียงในเรื่องที่ตนเองเสียเปรียบ บทสนทนาต่อจากนั้นจึงว่าด้วยเรื่องผีในมหาวิทยาลัย ซึ่งเรเชลประสบพบเจออยู่บ่อยครั้ง เผด็จไม่เคยคิดเลยว่าตนจะต้องมาคุยเรื่องผีๆเวลาจีบหญิง

“เมื่อก่อนเราไม่เชื่อเรื่องผี เราเป็นคริสเตียนเชื่อในพระเจ้า แต่พอมาอยู่ที่นี่ เจอบ่อยมาก”

“เดี๋ยวก็ชิน” เผด็จปลอบ

“ถ้ามาให้เห็นเหมือนเดิมก็คงชิน แต่นี่เปลี่ยนไปเรื่อย เห็นทีไรตกใจทุกทีสิน่า เธอไม่เคยเจอไม่รู้หรอก”

“ก็อยากเจออยู่เหมือนกัน” น้ำเสียงท้าทาย ความคิดนั้นแหละที่ทำให้เผด็จแอบก่อตั้งชมรมเรื่องลี้ลับขึ้นมา ต้องแอบเพราะกลัวถูกต่อต้าน เนื่องจากกระทำในเรื่องที่ดูเหมือนลบหลู่วิญญาณที่วนเวียนอยู่ในสถานที่แห่งนี้

แต่ให้ปกปิดแค่ไหน เรื่องก็ทราบไปถึงอาจารย์ลือฤทธิ์อยู่ดี เผด็จถูกชะตากับท่านเพราะดูเป็นผู้ใหญ่ใจดีภายใต้ท่าทีฉลาดเคร่งขรึม แต่ถูกชะตาอย่างไร เขาก็โดดเรียนวิชาที่ท่านสอนอยู่บ่อยครั้งด้วยเหตุผลเพียงสองอย่าง

ง่วง ไปกินเหล้าดีกว่า

น่าเบื่อ ไปกินเหล้าดีกว่า

ท่านเข้ามาเป็นที่ปรึกษาชมรมเรื่องลี้ลับ และแทนที่จะไปสอดเสาะดูผีในที่ต่างๆ ท่านกลับชวนนักศึกษาไปฝึกสมาธิ เจริญกรรมฐาน เปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์เดิมในการตั้งชมรมของเขาเสียสิ้น อีกทั้งยังพยายามชักจูงเผด็จให้กลับมาเป็นคนยึดมั่นในความดีงาม…น่าจะเปลี่ยนจากชมรมเรื่องลี้ลับเป็นชมรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาเสียให้รู้แล้วรู้รอด

‘เนื้อแท้เธอเป็นคนมุ่งมั่น ตรงไปตรงมา อยากเอาชนะ ถ้าเธอใช้คุณสมบัติเหล่านี้ไปในทางที่ดี เธอก็จะเจอแต่เรื่องดีๆและมีความสุขกว่านี้’

อะไรบางอย่างในตัวอาจารย์ลือฤทธิ์ทำให้เขาเกรงขาม ไม่กล้าถกเถียงโต้แย้ง เขาเงียบฟังทุกคำสั่งสอน แต่ก็ยังประพฤติตนตามใจตัวอยู่นั่นเอง

ชมรมเรื่องลี้ลับเติบโตขึ้นพร้อมกับความสัมพันธ์ทางใจระหว่างเขากับเรเชล ยิ่งคบนาน ยิ่งเห็นว่าเรเชลเป็นคนจริงจังกับทุกเรื่อง เขาเคยขับรถพาเธอไปกินข้าวตอนค่ำ ขากลับไปส่งที่หอพัก พบคนเมากำลังเตะหมาที่ขวางทางเดิน เธอสั่งให้หยุดรถ เขาเองก็รีบทำตามคำสั่งโดยไม่คิดอะไร ใครจะนึกออกเล่าว่าเรเชลจะวิ่งไปคว้าไม้จากข้างทางมาทุบตีคนเมาคนนั้น เผด็จลงไปยื้อยุดอยู่นานกว่าเรเชลจะยอมปล่อยไม้ในมือ ขี้เมาคนนั้นก็สะบักสะบอมแทบเดินไม่ไหว

“อีบ้า เมิงตีกูทามมายวะ กูไปทำอะไรให้เมิง” ขี้เมาชี้หน้าด่าเสียงอ้อแอ้

“แล้วหมามันทำอะไรให้แกเล่า แกถึงได้ไปเตะมัน” เรเชลย้อน หอบหายใจแรงด้วยความเหนื่อย

“มันขวางทางกู กูก็เตะมัน ผิดตรงหนาย-ย-ย”

“เออ แกก็ทำตัวขวางตาฉัน ฉันเลยตีแก ผิดตรงหนาย-ย-ย-ย” เธอย้อนเสียงยานคางเลียนแบบคู่กรณี

ก่อนสงครามครั้งใหม่จะปะทุ เผด็จรีบลากเรเชลขึ้นรถ ปากก็บ่นไปเรื่อย “ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก อันตรายรู้ไหม ไม่เคยได้ยินหรือไง อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา”

“อ๋อ เข้าข้างพวกเดียวกัน...เพราะงี้แหละ เราถึงเกลียดผู้ชาย ถ้าเลือกได้ เราจะเป็นผู้ชายที่ดี คอยปกป้องดูแลผู้หญิง” เธอต่อว่าด้วยความขุ่นเคือง

เผด็จเงียบ บอกแล้วว่าเขาไม่ชอบถกเถียงประเด็นที่ตนเองเสียเปรียบ

เรเชลเกลียดผู้ชายเป็นทุนเดิม เนื่องจากแม่เธอถูกผู้ชายทิ้งทันทีที่รู้ว่าท้อง เธอเกิดมาเป็นลูกไม่มีพ่อ เธอไม่ศรัทธาคำรักจากปากมนุษย์เพศชาย แต่ยอมคบกับเผด็จเพราะเขาตรงไปตรงมา ไม่ปั้นคำหวานป้อยอ แต่เธอก็เคยบอกว่า

“เราไว้ใจเธอ เธอเป็นผู้ชายคนแรกที่เราสนิทที่สุด ถ้าวันไหนเธอทิ้งเราไป รู้ไว้เลยว่า เรเชลจะตายตามไปด้วย”

แทนคำสัญญา เรเชลสักรูปไม้กางเขนพาดพันด้วยเถากุหลาบงดงามอ่อนช้อยเช่นเดียวกับรอยสักบนต้นแขนเขาไม่มีแผกเพี้ยน
ความรักจริงใจของเรเชลเกือบฉุดเขาขึ้นจากหล่มแห่งความมัวเมาอยู่แล้ว หากไม่มีคำปรามาสเหยียดหยามจากคนใกล้ชิดกรอกหูทุกเช้าค่ำ

‘ฉันไม่เคยเชื่อเลยว่าคนอย่างแกจะเอาดีได้’ น้ำเสียงเย็นชาของบดินทร์ที่เอ่ยทำนองนี้ให้ได้ยินบ่อยครั้ง ทำให้เขาเชื่อไปโดยปริยายเหมือนถูกสะกดจิตว่า...คนอย่างเขาเอาดีไม่ได้ เอาได้แต่เรื่องเลวๆแย่ๆ และเขาก็ทำตนให้ย่ำแย่ยิ่งกว่าบดินทร์จะจินตนาการได้ เขาดื่มเหล้า และเริ่มใช้ยาเสพติด ลุ่มหลงมัวเมาจนไม่เป็นอันเรียน

ในที่สุด เขาถูกรีไทร์เพราะผลการเรียนย่ำแย่ไม่ผ่านเกณฑ์ บดินทร์จับได้ว่าเขาติดยาและส่งตัวไปบำบัด ทุกอย่างทำอย่างเงียบๆเพราะบดินทร์เกรงว่านักข่าวจะรู้ ตอนนั้นท่านดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสังคมฯ คงไม่งามหากใครรู้ว่าลูกตัวเองติดยา มัวแต่ช่วยสังคมภายนอกจนลืมดูแลสังคมภายในบ้าน

เรื่องราวครั้งนั้นทำให้เผด็จตัดสินใจบอกเลิกเรเชล ไม่ว่าเธอจะเสียใจเพียงใดก็ตาม เรเชลเป็นคนดี เธอคู่ควรกับผู้ชายดีๆ ไม่ใช่ไอ้ขี้ยาที่ไม่รู้ว่าจะเลิกยาได้หรือเปล่า หากเลิกไม่ได้ เกิดวันใดเมายาจนขาดสติแล้วทำร้ายเธอขึ้นมาล่ะ เขาไม่อยากให้เหตุการณ์หดหู่นั้นเกิดขึ้นเสียก่อน จึงมาคิดได้

วันที่บอกเลิก เรเชลไม่มีน้ำตาสักหยด แต่ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นหม่นมัวราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆฝน และมันรวดร้าวเหมือนดวงตาของสัตว์บาดเจ็บ เผด็จไม่อาจสู้สายตาเธอได้ เขากลัว...กลัวว่าเธอจะพบความปวดร้าวในดวงตาเขาเช่นกัน

วันต่อมา ก่อนเผด็จจะถูกส่งตัวไปสถานบำบัด แม่บ้านนำกล่องสี่เหลี่ยมมาส่งให้เขา บอกว่ามีผู้หญิงนำมาฝากไว้ ชายหนุ่มเปิดกล่องดู ภายในเป็นของขวัญที่เขาเคยมอบให้เรเชล เผด็จหยิบของในกล่องขึ้นดูทีละอย่าง ภาพถ่าย กรอบรูป หนังสือกลอน ตุ๊กตาหมีคู่ เธอเก็บไว้อย่างดี แม้กระทั่งดอกกุหลาบซึ่งเคยสดฉ่ำเมื่อวาเลนไทน์ที่ผ่านมา มันแห้งกรอบและเปราะบาง แตะเพียงนิดก็ร่วงกราวสิ้นเค้าความงามในอดีต เหลือเพียงก้านโด่เด่แข็งกระด้างอยู่ในมือ




“คุณรู้จักเรเชล” ดวงตาสีฟ้าไหววูบราวผิวน้ำต้องลม

เผด็จคิดว่าถึงตนเองไม่พูด ริชาร์ดหรือเรเชลที่เขารู้จักก็ทราบคำตอบดีอยู่แล้ว คราแรกที่พบริชาร์ดหนุ่มลูกครึ่งหน้าตาสะสวย เขาคุ้นหน้า ใช้เวลาไม่นานเขาก็นึกออกว่าริชาร์ดเหมือนกับเรเชลอย่างกับคนเดียวกัน แต่ไรหนวดเครานั่นทำให้เขาลังเล แม้รู้ว่ามีวิธีทำให้มันเกิดขึ้นได้ แต่ใจลึกๆก็ยังหวังว่าเรเชลจะไม่ทำแบบนี้ เขาแอบภาวนาว่าให้ริชาร์ดเป็นญาติสนิทที่หน้าเหมือนเรเชล แต่กระนั้น ใจก็ยังรั้นจะเชื่อว่าริชาร์ดและเรเชลเป็นคนเดียวกันอยู่นั่นเอง

ความสงสัยใคร่รู้ทำให้เผด็จตกลงมาเที่ยวทะเลทันทีที่ทราบว่าริชาร์ดจะมาด้วย หวังว่าความใกล้ชิดจะทำให้พบหลักฐานยืนยันว่าทั้งสองเป็นคนคนเดียวกัน

แต่ยังไม่ทันมาทะเล เผด็จก็ค่อนข้างมั่นใจว่าความเชื่อของเขาถูกต้อง เมื่อพบริชาร์ดตรงหน้าห้องน้ำในปั๊มน้ำมันก่อนถึงฮวงซุ้ย และเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง ก็พบช่อบูเกต์พร้อมแนบการ์ดเขียนด้วยลายมือคุ้นตาคุ้นใจ นั่นชัดเจนพอแล้วสำหรับข้อยืนยันความเชื่อของเขา ครั้นมาพบรอยสักยิ่งมั่นใจว่าใช่แน่ เรเชลกับริชาร์ดคือคนเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัยใดๆอีกแล้ว

เผด็จตอบตัวเองไม่ได้ว่าอยากรู้ความจริงไปเพื่ออะไร ยิ่งรู้ชัด ยิ่งนึกละอายแก่ใจ

รักเจ้าเอย
ไฉนเลยไม่เปลี่ยนผัน
ฤๅจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์
อยู่ในความฝัน ในความหลัง ที่ยังจำ

ความรักของเรเชลไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าเธอจะอยู่ในเพศไหน แต่ความรักของเขาเปลี่ยนไป ในใจตรงที่ที่เรเชลเคยยืนปักหลักมั่น กลับถูกทดแทนด้วยใครอีกคน

“ใช่ ผมรู้จักเรเชล” เผด็จตอบหลังจากนิ่งไปนาน แล้วเสริมต่อว่า “ผมรู้จักพี่เผด็จ รู้จักดีพอจนรู้เรื่องราวทุกอย่างในชีวิตเขา”

เจ้าของดวงตาสีฟ้าแหงนหน้ามองเพดาน ริมฝีปากเม้มแน่น สูดลมหายใจเข้าลึกยาว ดูรู้ว่าพยายามตั้งสติ ครู่หนึ่งจึงสบตาเขา

“อย่าพูดถึงเขาเลย เขาตายไปแล้ว และฉันก็มีชีวิตใหม่แบบที่ฉันต้องการ”

“แต่คุณก็ยังรักเขา...ผมพบช่อบูเกต์ที่ฮวงซุ้ยนั่น”

ริชาร์ดยิ้ม ก่อนเอ่ย “ความรักความอาลัยมันยังคงอยู่ในใจ แต่ฉันไม่ได้ฝังหัวใจไว้ในอดีต เผด็จเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่ฉันรัก แต่ในเมื่อเขาไม่ต้องการความรักของฉันจะทำยังไงได้ ชีวิตคนเราก็ต้องเดินไปข้างหน้า”

ริชาร์ดดูชัดเจนและมั่นใจ เขายืดอกรับอย่างเปิดเผย เผด็จเองเสียอีกกลับบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นแฟนเก่ากลายเป็นผู้ชายมาดแมน เขานึกขอบคุณริชาร์ดที่ไม่ใช้สรรพนามแทนตัวว่า ‘ผม’ แบบที่เคย ไม่งั้นตนคงกระอักกระอ่วนใจยิ่งกว่านี้

“แม่รู้หรือเปล่าว่าคุณเป็น...” เผด็จคิดคำไม่ออก เป็นอะไรดี ทอมก็ไม่ใช่ ผู้ชายก็ไม่จริง แม้ทุกสิ่งบนเรือนร่างเหมือนผู้ชายแท้ๆก็ตาม

“ฉันไม่เคยโกหกปิดบังคนที่ฉันรัก” ริชาร์ดตอบพร้อมรอยยิ้มภูมิใจ “ฉันไม่มีทางทำร้ายคนที่ฉันรัก เพราะความรักของฉันกับวีวี่ไม่มีทางลงเอยกันได้ด้วยดีอยู่แล้ว ฉันต้องใช้เวลาทุกนาทีกับวีวี่ให้คุ้มค่า คุณไม่ต้องห่วง ฉันไม่มีทางแย่งวีวี่มาจากพ่อคุณได้ และไม่คิดจะทำ เพราะวีวี่รักคุณวรุตม์ ฉันเป็นเหมือนเพื่อนสนิทคลายเหงาเท่านั้น”

“ไม่จริงหรอกริชาร์ด” เสียงวิไลวรรณดังขึ้น ไม่รู้หล่อนเปิดประตูเข้ามาตอนไหน
ทั้งสองหันมองพร้อมกันราวกับนัดไว้

วิไลวรรณเดินมากอดแขนริชาร์ด “ฉันรักคุณค่ะริชาร์ด แต่กับคุณวรุตม์ ฉันสงสารและทิ้งเขาไม่ลง” เสียงบอกรักมั่นคง ก่อนเล่าต่อ จงใจบอกกับบุตรชายโดยเฉพาะ “แม่กับพ่อเหมือนเพื่อนกันไปแล้ว พ่อก็รู้ว่าริชาร์ดไม่ใช่ผู้ชาย เขาเคยพยายามเตือนแม่อยู่”
สาวใหญ่หวนคิดถึงถ้อยคำสนทนาระหว่างตนกับสามีในคืนฝนพรำ

‘เรื่องริชาร์ด...ล่วงเลยไปถึงไหนแล้ว ดูสนิทสนมกว่ารายอื่นๆนะ’

‘ยังไม่ถึงไหนหรอกค่ะ ถามทำไม หึงเหรอ’

‘ผมเหรอจะหึงคุณ เป็นห่วงมากกว่า หมอนี่มันไม่ธรรมดานะ อย่าไปหลงคารมมันนัก เดี๋ยวจะเสียใจทีหลัง’

‘ใช่ค่ะ เขาไม่ธรรมดา เพราะเขาเป็นคนพิเศษสำหรับฉัน อย่ากลัวเลยค่ะ เรื่องเสียใจน่ะ ฉันเจอมาจนชาชินแล้ว ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์เป็นห่วง’

‘ก็เตือนด้วยความหวังดีหรอก’

‘ขอบคุณอีกครั้งค่ะ แต่ไม่ต้องห่วง ฉันรู้จักเขาดี’

‘คงไม่ทุกเรื่องมั้ง’

‘ทุกเรื่องค่ะ ฉันมั่นใจ’

ใช่ วิไลวรรณรู้จักริชาร์ดดีทุกเรื่อง เหมือนที่หล่อนรู้จักวรุตม์ดีนั่นละ รู้ว่าเขาซ่อนซุกความลับใดไว้บ้าง




กว่าเผด็จจะออกจากโรงพยาบาลก็เกือบเที่ยง ท้องฟ้าสดใสระบายริ้วเมฆขาวบางเบากลับมืดครึ้มลงทันทีที่เขาก้าวขึ้นรถ ดวงตะวันถูกก้อนเมฆกลืนหายเหลือเพียงแสงหม่นสลัว ชายหนุ่มแหงนหน้ามองฟ้า ใจคอไม่ดี

‘ดูจากรัศมีชาตาในดวงจิตมันแล้ว หม่นหมองเต็มที เราคงไม่ต้องรอนาน’

รัศมีชาตา คือรัศมีของดวงชะตา หากหม่นหมองแปลว่าเวลาบนโลกมนุษย์ใกล้หมดลงแล้ว เขายังมิได้ชำระสะสางเรื่องราวในอดีตเลย

วันนี้เบาะนั่งตอนหลังมีเขาอยู่เพียงลำพัง เนื่องจากน้ำหนึ่งขอแยกกลับกรุงเทพฯตั้งแต่ตอนเช้าหลังกลับจากซื้อกาแฟ เธอบอกเหตุผลสั้นๆว่า วันนี้เป็นวันครบกำหนดที่แม่จะกลับจากปฏิบัติธรรม เผด็จไม่คิดทัดทาน ตระหนักดีว่าที่เธอยอมอยู่ต่ออีกสองสามวันนี่ไม่ใช่เพราะความเจ็บป่วยของเขา แต่เพราะความเจ็บป่วยมันเกิดขึ้นกับร่างวาริที่เขายึดครองไว้ต่างหาก

วิไลวรรณนั่งข้างริชาร์ดซึ่งเป็นคนขับ หล่อนหลับตลอดทางเนื่องจากเมื่อคืนอยู่เป็นเพื่อนตนที่โรงพยาบาล พยาบาลเข้ามาวัดไข้ วัดความดันเกือบทุกชั่วโมง ทำให้หล่อนพลอยหลับๆตื่นๆไปด้วย เมื่อไม่มีเสียงสดใสของวิไลวรรณคอยคุยโน่น ถามนี่ เล่านั่น ภายในรถก็เงียบไร้เสียงพูดคุย เผด็จไม่มีอะไรจะพูดกับอดีตคนรัก ไม่ว่าในฐานะวาริหรือในฐานะเผด็จ

ชายหนุ่มเหม่อมองนอกรถ บ้านร้างสีขาวหม่นซ่อนอยู่ในดงรกผ่านตาไปอย่างไร้ความหมาย ใจเฝ้าครุ่นคิดจดจ่อเรื่องเดียว กลับไปคราวนี้เขาต้องหาทางพบชรัณให้ได้ เค้นเอาความจริงจากปากมันว่าจงใจสร้างสถานการณ์เพื่อฆ่าเขาทำไม ดวงตาสีนิลเบนกลับมายังท้องถนนทอดยาวเบื้องหน้า มันลดเลี้ยว คดโค้ง สูงชัน และลาดต่ำสลับซับซ้อนจนต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง ก็คงไม่ต่างจากใจของคนบางคนกระมัง ลดเลี้ยวซับซ้อนจนดักเดาไม่ถูก ยามอยู่ใกล้ก็ต้องระมัดระวัง หากพลาดพลั้งก็ถึงตายแบบเขานี่ไง

ท้องฟ้าภายนอกขมุกขมัวยิ่งกว่าเดิม เมฆฝนลอยต่ำเรี่ยยอดเขาเขียวครึ้ม อากาศเย็นลงจนภายในรถหนาวเยือก วิไลวรรณขยับเนื้อขยับตัว แต่ยังไม่ลืมตา ริชาร์ดละมือหนึ่งจากพวงมาลัย เอื้อมหยิบผ้าห่มบนเบาะหลัง โดยสายตายังจับนิ่งอยู่บนถนน ข้างหน้าคือทางโค้งหักศอกแล้วลาดดิ่งลงต่ำอย่างน่าหวาดเสียว เผด็จช่วยหยิบของที่ริชาร์ดต้องการส่งให้

“ขอบคุณ”

เพียงวิบตาเดียวที่ริชาร์ดหันมากล่าวคำสั้นๆนั้น เป็นวินาทีที่ทำให้โลกของเผด็จพลิกคว่ำคะมำหงายไม่เป็นท่า รถพุ่งหลุดโค้งสู่หุบเหวเบื้องล่าง คนขับพยายามหมุนพวงมาลัยบังคับรถให้กลับมาอยู่บนทางสายหลัก รถหันเหเบี่ยงทิศทางจากองศาเดิม กระแทกเข้ากับต้นไม้ริมทาง เอียงกระเทเร่จวนจะร่วงแหล่มิร่วงแหล่

คนอื่นมีชะตากรรมอย่างไรเผด็จไม่รู้ รู้แต่ว่าประตูฟากฝั่งที่เขานั่งเปิดพะเยิบ และเขาซึ่งไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยหลุดร่วงจากเบาะนั่งสู่ความเวิ้งว้างเบื้องล่างราวกับนกปีกหัก

เป็นธรรมดาของผู้อยากมีชีวิตรอด ย่อมไขว่คว้าหาที่ยึดเหนี่ยว เผด็จก็เช่นเดียวกัน เขาไม่รู้ว่าร่วงลงมาลึกแค่ไหน รู้แต่ว่าสองหูอื้ออึง ใจไหววูบวาบ สองมือไขว่คว้าได้แต่อากาศว่างเปล่า กระทั่งร่างกระแทกลงบนกิ่งไม้ที่แทรกจากรอยแตกของผาหิน มันแข็งแรงพอจะรับน้ำหนักเขาหรือเปล่าไม่รู้ แต่ในนาทีวิกฤติเช่นนี้ มันเหมือนฟางเส้นสุดท้าย หน่วยล่าวิญญาณพวกนั้นคงเฝ้ารอให้ดวงจิตเขาหลุดจากร่างวาริ แต่เขายังไม่พร้อมจะกลับไปตอนนี้ รอก่อนได้ไหม รอให้เขาพาชรัณไปด้วย เขาไม่ยอมตกนรกหมกไหม้คนเดียวหรอก

ความเคียดแค้นส่งผลให้พลังฮึกเหิมเพิ่มทวี เขาเหนี่ยวกิ่งไม้เล็กๆอ่อนยวบนั้นไว้ ค่อยๆสาวขึ้นไปอย่างยากเย็น เจียนจะหลุดร่วงก็หลายครั้ง แต่เขาไม่ยอมปล่อยมือ ไม่มีทางปล่อยมือเด็ดขาด

ฝนเริ่มโปรยสายเป็นละอองอ่อนนุ่มเย็นชื้น หากไม่ได้อยู่ในสภาวะคับขันอันตรายคงสดชื่นไม่น้อย น้ำฝนชะเข้าไปตามร่องนิ้วทีละน้อย เผด็จรู้ทันทีว่าหากไม่รีบโหนกายขึ้นไปอยู่เขาบนแง่งหินใหญ่เหนือศีรษะนั่นให้ได้ คงเลื่อนไหลร่วงหล่นสู่ก้นเหวแน่

ฝนหนาเม็ดขึ้นทุกที ชายหนุ่มหยุดนิ่ง ซบหน้าลงบนต้นแขน รวบรวมพลังใจเฮือกสุดท้าย สองมือจับกิ่งไม้มั่น ดึงกายขึ้นสู่เบื้องบน เท้าทั้งสองเตะถีบในอากาศราวกับว่ามันจะช่วยส่งร่างหน่วงหนักที่เขาอาศัยอยู่ขึ้นสู่ที่สูงได้อย่างนั้นละ จนในที่สุดก็เหนี่ยวแง่งหินไว้ได้ โหมแรงอีกเฮือก ตะเกียกตะกายหวังขึ้นไปอยู่บนนั้น

เผด็จใจหายวูบ เมื่อฝ่ามือลื่นและชื้นไปด้วยเหงื่อพลาดหลุดจากแง่งหินที่ตนเหนี่ยวไว้ ร่างไถลครูดเจียนจะร่วง ถึงเวลามรณะของตนแล้วหรือ แต่แล้วก็เหมือนมีใครดึงมือไปจับหินแง่งใหม่ รู้สึกมั่นคงปลอดภัยเหมือนรอบกายโอบอุ้มด้วยตาข่ายสายลม สิ่งนี้เพิ่มพลังใจอันส่งผลให้กายมีเรี่ยวแรง

ในที่สุด สิ่งที่เขาพยายามก็สำเร็จได้ แม้จะยากเย็นเหลือแสน ร่างสูงทิ้งกายลงนอนแผ่หลาหมดสภาพ มือสองข้างแตกยับ รองเท้าหลุดหายไปตอนไหนก็ไม่รู้

น้ำฝนกระหน่ำลงบนกายอ่อนล้าจนเปียกชุ่ม ชะล้างเหงื่อไคล บางส่วนหยาดไหลเข้าปาก ดับกระหายและช่วยต่อลมหายใจไปอีกนิด

เผด็จรู้ว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา มันถูกกระทำให้เป็นไป มีผู้หมายวิญญาณเขา และคงไม่หยุดหากยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ เขาเองก็เช่นกัน จะไม่ยอมหยุด หากไม่บรรลุวัตถุประสงค์

ความโกรธแค้นที่เห็นคนที่ตนชังเสวยสุขแสนสบายอยู่นอกคุก ในขณะตนต้องทนทุกข์แสนสาหัสในแดนอเวจี แถมทิ้งประวัติอันน่ารังเกียจไว้บนโลก ทำให้คนที่เขารักชิงชัง

คนที่เขารัก...เผด็จเม้มปากแน่น นึกถึงแก้มอิ่มใส ริมฝีปากอ่อนนุ่มที่เขายังจดจำสัมผัสนั้นได้ดี สัมผัสที่เธอมอบให้ในขณะเขาฟื้นขึ้นมาในร่างวาริพอดี...ร่างวาริ...เผด็จเจ็บแปลบในอก จูบนั้นไม่ใช่เพื่อเขา แต่เพื่อคนที่เธอรักต่างหาก คนคนนั้นคือวาริ

หากเธอรู้ว่าในร่างผู้ชายคนนี้คือไอ้ฆาตกรหื่นใจโฉด เธอจะรู้สึกเช่นไร เผด็จไม่อยากจินตนาการ เพราะเพียงเขาพูดจาเข้าข้างและตั้งท่าจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น เธอยังโกรธเสียใหญ่โตขนาดทิ้งเขาไว้ที่ฮวงซุ้ยได้โดยไม่สนใจว่าเขาจะกลับอย่างไร

เผด็จเคยได้ยินมาว่าความรักไม่มีเหตุผล แต่รักของน้ำหนึ่งเต็มไปด้วยเหตุผล เธอไม่ได้ใช้เพียงหัวใจ แต่ใช้สมองร่วมด้วย ความรักของเธอจึงมั่นคงตราบเท่าคนที่เธอรักทำตัวถูกใจ ถ้าวันใดคนนั้นเบนเข็มออกนอกลู่นอกทางหรือมีสิ่งใดขัดแย้งกับความรู้สึก ความรักของเธอก็พร้อมจะแปรเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน เขาเข้าใจความรู้สึกเช่นนั้น เมื่อคนต้นเหตุทำตัวไม่น่ารักก็ไม่สมควรได้รับความรัก

แล้วเขาล่ะ ทำไมถึงรักเธอ ชายหนุ่มย้อนถามตนเอง ก็เพราะเธอเป็นเธอแบบนี้ไงล่ะ แบบนี้ละที่ถูกใจเขา หากเธอเปลี่ยนไปจากนี้ เขาอาจไม่รักก็ได้

ฝนซาเม็ดและขาดหายไปในที่สุด เผด็จลุกขึ้นนั่งชันเข่า ตรงที่เขาปักหลักอยู่เป็นลานหินเล็กๆบนชะง่อนผา สูงจากพื้นลิบลิ่วชวนหวาดเสียว ดวงตาเหนื่อยล้าทอดมองรอยขาดบนกางเกงยีนขายาว เผยให้เห็นผิวหนังถลอกเป็นปื้น เลือดแดงสดซึมและแสบ ไม่หรอก ไม่เกินความอดทน นี่มันยังน้อยกว่าสิ่งที่เขาพบเจอในแดนทุกขติภูมิหลายล้านเท่านัก

สองแขนยันพื้นด้านหลังออกแรงส่งร่างสูงให้หยัดยืน มันโงนเงนในคราแรก จนต้องไปขยับหาที่ยึดซึ่งคือก้อนหินขนาดมหึมาด้านหลัง สายลมครางวู่หวิวปะทะแก่งหิน แทรกเสียดมาในโตรกเขา กระทบกายจนสั่นสะท้าน ฟันกระทบกันดังกึกๆอยู่ในปาก เผด็จเริ่มเป็นห่วงกายเนื้อที่เขายึดครอง

ร่างกายก็เหมือนบ้าน ต่อให้คนในบ้านแข็งแกร่งแค่ไหน หากไม่ดูแลรักษาบ้านที่ตนอาศัยให้ดี ไม่ซ่อมแซมยามมันสึกหรอ มันก็ผุพังล้มครืนได้เสมอ เมื่อถึงเวลานั้น หากสร้างบ้านใหม่ไม่ได้ ก็ต้องเร่ร่อนไร้ที่พักพิง...เขายังไม่อยากเร่ร่อน

เผด็จแหงนหน้ามองฟ้ามืดครึ้ม ตะวันอับแสงไม่อาจคาดเดาเวลาได้ ชายหนุ่มคิดไม่ออกว่าตนจะมีมีชิวิตอยู่บนลานเล็กๆเวิ้งว้างกลางอากาศโหดร้ายนี่ได้นานเพียงใด จะมีใครตามหาจนพบหรือเปล่า แล้วริชาร์ดกับวิไลวรรณเล่า มีชะตากรรมเช่นไร

ความหดหู่คืบคลานสู่จิตใจ เขา เป็นเพราะเขาแท้ๆ ที่ทำให้สองคนนั้นต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วย




คนที่เผด็จนึกห่วงปลอดภัยดีทั้งคู่ หลังจากหมดสติไปช่วงสั้นๆก็รู้สึกตัวและมีอาการเคล็ดขัดยอกเท่านั้น แต่หากถามว่าพวกเขามีความสุขและดีใจที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ไหม ทั้งริชาร์ดและวิไลวรรณคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ จะให้มีความสุขสบายใจได้อย่างไรในเมื่อวาริหายไปทั้งคน

ริชาร์ดรู้สึกผิดเพราะเขาเป็นคนขับ ทั้งที่คุ้นเคยเส้นทางและมั่นใจว่าตนไม่ได้ประมาท แต่ในช่วงนาทีวิกฤตินั้น เขาไม่อาจควบคุมรถได้เลย เหมือนมีมือใหญ่ยักษ์จับรถเขาพุ่งไปตามทิศทางที่มันพอใจราวกับเป็นรถเด็กเล่น

เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุหลังจากผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญไปแล้วสองชั่วโมง เนื่องจากฝนตกหนัก ทัศนวิสัยแย่ การขับรถขึ้นเขาในช่วงนั้นจึงอันตราย ริชาร์ดและวิไลวรรณหลบอยู่ใต้ร่มคันเล็กที่งัดออกมาจากรถซึ่งเอียงกระเท่เร่ติดอยู่กับต้นไม้ ทั้งคู่ไม่กล้าเสี่ยงเข้าไปหลบในรถเพราะลักษณะมันหมิ่นเหม่พร้อมจะร่วงลงเหวได้เสมอ

หลังการตรวจสอบร่องรอยต่างๆอย่างละเอียด ตำรวจสันนิษฐานว่าวาริคงตกลงไปในหุบเหวด้านล่าง เมื่อทราบว่าผู้เคราะห์ร้ายคือวาริ สหทรัพย์ ทายาทธุรกิจน้ำเมารายใหญ่ของประเทศ หน่วยกู้ชีพถูกระดมเข้าค้นหาอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงเย็นของวันนั้น ทั้งภาคพื้นดินและเฮลิคอปเตอร์ นักข่าวเดินทางเข้ามาทำข่าวในพื้นที่ได้รวดเร็วเหลือเชื่อ ปักหลักกินนอนอยู่ ณ จุดเกิดเหตุ รายงานความคืบหน้าแบบเรียลไทม์ และแน่นอนว่า ภาพวิไลวรรณและริชาร์ดถูกแพร่ไปทั่วประเทศ ระหว่างที่ยังค้นหาวาริไม่พบ เรื่องส่วนตัวก็คงถูกเพ่งเล็งเป็นธรรมดา

สายตาหลายคู่มองมายังริชาร์ดซึ่งยืนเคียงข้างหล่อนอย่างหาญกล้า มือเย็นเฉียบของเขากระชับมือสั่นเทาของหล่อนไว้มั่น แทนคำยืนยันว่าจะอยู่เป็นเพื่อนตรงนี้ไม่ทิ้งไปไหน อยู่จนกว่าหล่อนจะไม่ต้องการ

“เกิดเหตุร้ายกับลูกชายแบบนี้ คุณวรุตม์หายไปไหนคะ” นักข่าวกล้าถามตรงๆ

วิไลวรรณกลืนก้อนสะอื้นลงคอ หล่อนเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ทำไมถึงติดต่อไม่ได้ เขาไม่ยอมรับสายเลย หล่อนโทร.หาจนแบตหมดไปแล้ว ถ้าให้เดา เขาคงกำลังสำเริงสำราญอยู่กับใครคนนั้น อยากใช้เวลาร่วมกันโดยไม่ให้ใครรบกวน เขาจะรู้ไหมว่าในขณะที่เขากำลังมีความสุขกับคนรัก ลูกกำลังตกอยู่ในอันตราย จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้

ความรักความสงสารที่ยังคงเหลือขังค้างในใจเหมือนจะเหือดหายไปแล้ว ความรักของหล่อนมีค่าเกินไปสำหรับคนเห็นแก่ตัวคนนี้ หล่อนไม่ได้หวังกำลังใจจากเขา แต่ในฐานะพ่อ เขาควรมีส่วนร่วม หากเหตุการณ์นี้ทำให้เขาถูกขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวออกมาตีแผ่จนอับอายมองหน้าใครไม่ติด หล่อนนี่แหละจะเป็นคนแรกที่สมน้ำหน้า

“ไม่ทราบค่ะ ดิฉันยังติดต่อเขาไม่ได้เหมือนกัน” วิไลวรรณข่มเสียงให้ราบเรียบ

ก่อนนักข่าวจะส่งคำถามรุนแรงกระแทกใจหล่อนอีก สายฝนระลอกใหม่ก็เทลงมา ริชาร์ดกล่าวขอตัวอย่างสุภาพแล้วจูงมือหล่อนเดินหลีกมาพักยังเต็นท์นอนซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมให้ หลังจากวิไลวรรณแจ้งว่าหล่อนจะกินนอนอยู่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตรงนี้ ดึกดื่นแค่ไหนก็จะรอ จนกว่าจะได้ข่าววาริ ไม่ว่าจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายก็ตาม

ตราบใดที่ยังไม่พบศพ ตราบนั้นหล่อนยังมีความหวัง

เมื่ออยู่ลำพังสองต่อสอง ริชาร์ดดึงหล่อนเข้าไปกอดแนบอก หล่อนแหงนเงยสบตาสีฟ้ากระจ่างที่มองลงมา ความเสียใจเอ่อท้นในดวงตาคู่นั้น หากเป็นเวลาปกติ วิไลวรรณคงอยากแบ่งเบาความรู้สึกดังกล่าวมาไว้กับตน แต่ในขณะนี้ ความเศร้าโศกหลากล้นใจหล่อนเช่นกัน มันไม่เหลือพื้นที่ไว้สำหรับความเสียใจของใครอีกแล้ว

“ขอโทษ...ที่ทำให้คุณว่านเป็นแบบนี้” เสียงเบาสั่นพร่า น้ำตาเอ่อคลอในหน่วยตาสีสวยซึ่งบัดนี้หมองจัด

ให้เข้มแข็งอย่างไร เนื้อแท้ริชาร์ดก็คือผู้หญิง...ผู้หญิงที่ชื่อเรเชล

“ไม่ต้องขอโทษ มันคืออุบัติเหตุ ไม่มีใครตั้งใจ” วิไลวรรณลูบแก้มสากระคายด้วยรอยเคราเขียวๆ หล่อนเองมิใช่หรือที่หาซื้อยาฮอร์โมนให้เขากินเมื่อเขาออกปากว่าอยากมีหนวดเคราแบบหนุ่มๆบ้าง

“เธอช่วยว่านให้รอดชีวิตมาได้แล้วครั้งหนึ่งตอนจมน้ำ แล้วเขาก็มาตกเหวซ้ำอีก คงเป็นคราวเคราะห์ของเขาจริงๆ ตั้งแต่ขับรถชนอุโมงค์คราวนั้น ก็เกิดอุบัติเหตุติดๆกัน แต่ทุกครั้ง ฉันยังเห็นว่าเขามีชีวิตอยู่ แต่คราวนี้...” เสียงหล่อนขาดหาย ไม่อยากคิดหรือพูดอะไรต่อ เพราะรู้ว่ามันจะเป็นไปในทางร้าย

ริชาร์ดกระชับอ้อมกอดไว้มั่น กดปลายคางลงกลางกระหม่อมซึ่งปกคลุมด้วยผมนุ่มสลวย เปลือกตาบอบบางของเขาปิดลงแผ่วเบา ขนตาสีน้ำตาลอ่อนงอนงามเรียงเป็นแพ หยาดน้ำใสเกาะพราวราวกับน้ำค้างต้องยอดหญ้า

“การสูญเสียคนรักมันเจ็บนะ ไม่ว่าจะรักแบบไหน” เขาพึมพำ กระแสเสียงสั่นน้อยๆ “เผื่อใจไว้บ้าง จะได้ไม่เจ็บหนัก ไม่เศร้านาน”
“ฉันรู้ ฉันกำลังพยายาม เธออยู่กับฉันนะ อยู่ข้างๆฉัน”

เขาพยักหน้ากับเรือนผมสลวย วิไลวรรณผละจากอ้อมแขน ขยับกายมานั่งชิดใกล้ อิงศีรษะซบไหล่กว้าง
“อยู่สิ อยู่ตลอดเท่าที่คุณต้องการ” ริชาร์ดยืนยัน

“ถ้าอย่างนั้นก็ตลอดไป”

แทนคำตอบ ริชาร์ดกดขมับลงศีรษะหล่อน วางมือลงบนบ่าบีบกระชับเบาๆ ปล่อยให้ความเงียบหลั่งไหลเข้าแทนที่ ความเงียบที่เต็มไปด้วยความรักความเข้าอกเข้าใจของคนสองคน นี่เป็นสิ่งเดียวที่พยุงวิไลวรรณให้มีกำลังใจอยู่ต่อได้ เหมือนแสงเทียนอบอุ่นสาดส่องท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมิดโหดร้าย




รถญี่ปุ่นสีขาวคันกะทัดรัดแล่นเข้ามาจอดหน้ารั้วระแนงในตอนบ่ายแก่ใกล้เย็น น้ำหนึ่งก้าวลงจากรถเพื่อเปิดประตูรั้ว กุญแจที่เธอล็อกไว้ก่อนออกเดินทางยังคงอยู่เหมือนเดิม แปลว่าแม่กับเกศรายังไม่กลับ หญิงสาวนำรถเข้าไปจอด ใจนึกห่วงสองคนนั้น ระหว่างหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าตรงไปยังประตูบ้าน มือหนึ่งก็เลื่อนบนหน้าจอสมาร์ทโฟนจนพบชื่อมารดาจึงโทร.ออก

หญิงสาวพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิดเมื่อไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่เธอเรียก มัววุ่นวายกับโทรศัพท์ในมือ กว่าจะเงยหน้าขึ้นก็เกือบถึงประตูบ้านแล้ว

“อ้าว เกดซ่า” น้ำหนึ่งร้องด้วยความแปลกใจ เมื่อพบร่างผอมบางของเกศรายืนขวางประตู ไม่เจอกันเพียงครึ่งเดือน เด็กสาวดูเติบโตขึ้นมาก ไม่รู้เป็นเพราะผมยาวถูกรวบเก็บเผยวงหน้าเกลี้ยงเกลาไร้ร่องรอยตลกโปกฮา เสื้อสีขาวคอปิดเรียบร้อย แขนยาวมิดชิดจรดข้อมือ กระโปรงสีเดียวกันยาวครึ่งแข้ง ทั้งหมดนั้นเสริมบุคลิกให้ดูน่าเกรงขามยิ่งนัก

“ส่งโทรศัพท์มา แล้วไปกับเกดซ่าเถอะค่ะคุณเพชร” แววตาสุกใสแสนซื่อของเจ้าตัวยามนี้ทรงพลังอย่างประหลาด

น้ำหนึ่งนิ่วหน้า เกศรามีสิทธิ์อะไรมาสั่งเธอ

“ทำไมต้องไป แล้วแม่ฉันอยู่ที่ไหน” น้ำหนึ่งเสียงแข็ง

“คุณอันอยู่ในที่ที่ปลอดภัยค่ะ” สีหน้าเกศราสงบขรึมเฉกเช่นเดียวกับน้ำเสียง “แต่ถ้าคุณเพชรไม่ไปกับเกดซ่า คุณเพชรนั่นแหละค่ะจะไม่ปลอดภัย”

“ไปไหน” คำถามนั้นห้วนสั้น คนถามระมัดระวังตัวทุกขณะ สถานการณ์ตอนนี้ไม่น่าไว้วางใจ ทุกอย่างที่เห็นยืนยันว่าเกศราไม่เหมือนเดิม แต่เธอยังไม่รู้วัตถุประสงค์เท่านั้นว่าเด็กสาวต้องการอะไร

หญิงสาวฉุกใจคิดถึงคำพูดของมารดาตอนโทร.บอกเธอว่าจะไปปฏิบัติธรรม น้ำเสียงสั่นน้อยๆที่ฟังรู้ว่าพยายามปรับให้เป็นปกติ

‘เพชร แม่จะไปปฏิบัติธรรมสิบห้าวันนะ หนูอยู่บ้านคนเดียวได้หรือเปล่า’

‘อะไรนะ แม่จะไปปฏิบัติธรรมสิบห้าวัน...ทำไมนานขนาดนั้นล่ะ แล้วแม่จะไปที่ไหน กินอยู่ยังไง’

‘เป็นบ้านของเพื่อนแม่จ้ะ เขาเปิดให้คนไปปฏิบัติธรรม เพชรไม่ต้องห่วงแม่นะ เกดจะไปกับแม่ด้วย’

เกศราพามารดาเธอไปไหน และด้วยวิธีข่มขู่กลายๆเช่นที่ทำกับเธออยู่ขณะนี้หรือเปล่า คนเดียวที่สามารถให้คำตอบแก่เธอได้ ก็คือเด็กสาวในชุดขาวตรงหน้าเธอนี่แหละ

น้ำหนึ่งสบตาเด็กสาวแน่วนิ่ง พยายามรวบรวมสมาธิ รอจนกระแสเย็นฉ่ำจุดขึ้นในอกแล้วเลื่อนไหลสู่ดวงตาทั้งคู่จนเย็นซ่า จึงสั่งคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงช้าชัด

“แม่ฉันอยู่ที่ไหน”

เจ้าของคำสั่งรับรู้ถึงพลังบางอย่างซึ่งมีอานุภาพมากกว่าเปล่งจากดวงตาที่ตนมองสบ ออกแรงต้านทานจนน้ำหนึ่งปวดกระบอกตาไปหมด ทว่ายังไม่ยอมปล่อยให้กระแสเย็นฉ่ำนั้นตกฮวบ ยังคงประคับประคองและรอคอยอย่างมีความหวัง

“อย่าพยายามค่ะคุณเพชร ผลร้ายมันจะเกิดกับคุณเพชรเอง”

ใช่เพียงแค่ไม่ได้ผล แต่กระแสเย็นวาบยังสะท้อนกลับจนน้ำหนึ่งผงะคล้ายถูกผลักแรงๆ ดวงตาทั้งคู่แสบราวกับต้องลมแรงมานานนับชั่วโมง

เสี้ยววินาทีที่พลั้งพลาด แค่สบตาเพียงนิด เกศรากลับเป็นฝ่ายรุก ดวงตาสุกใสทวีอำนาจเร้นลับ

“ส่งโทรศัพท์มา แล้วไปกับเกดซ่าเดี๋ยวนี้ค่ะ”

น้ำหนึ่งนัยน์ตาเลื่อนลอย ส่งโทรศัพท์มือถือให้เกศราอย่างว่าง่าย หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเดินตามร่างในอาภรณ์สีขาวต้อยๆราวกับนางทาสผู้ภักดี

สองสาวเดินตามกัน ผ่านรั้วระแนง ฝ่ายเจ้าของบ้านปิดล็อกกุญแจดังเดิม จากนั้นตามเด็กสาวไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ไม่ไกล กว่าน้ำหนึ่งจะรู้ตัวก็ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว...จุดหมายปลายทางซึ่งมีใครบางคนกำหนดให้


จบตอน

****************



ภาวิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ต.ค. 2557, 03:08:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ต.ค. 2557, 03:23:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 1426





<< บทที่ ๑๘ (แก้ไขเพิ่มเติม จบตอน)   
ภาวิน 9 ต.ค. 2557, 03:21:26 น.
สวัสดีค่ะ เชื่อว่าตอนนี้คงทำให้ใครหลายคนที่ติดตามกันมาตลอดเดือนกว่านี้ถึงกับหงายเงิบเมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วริชาร์ดคือใคร
วันนี้เป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคะที่วังวนวารีจะโพสต์ให้ได้อ่านกัน เมื่อวานนี้ตรงกับวันออกพรรษา ๕ ปรารถนาก็เริ่มวางบนแผงหนังสืออย่างเป็นทางการแล้วสำหรับบางร้านในกรุงเทพฯ ส่วนต่างจังหวัดก็คงรออีกวันสองวัน หากใครอดใจไม่ไหวจะไปหาซื้อมาอ่านกันต่อจากที่ค้างคาไว้ตอนนี้ก็ย่อมทำได้ แต่หากอดใจไว้ซื้อในงานมหกรรมหนังสือที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ ๑๕ ตุลาคมนี้ ซื้อยกเซ็ตที่บูทคำต่อคำ(W16) และบูทดวงตะวัน (O13) จะได้บ๊อกเซ็ตงามไปครอบครองฟรีเลยค่ะ

พรุ่งนี้ ผู้เขียนจะนำตอนพิเศษมาลงเป็นการส่งท้าย พร้อมทั้งประกาศรายชื่อผู้โชคดีที่ได้รับของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆเป็นการร่วมสนุกกันก่อนอ่านนิยายเล่มจริง เพราะฉะนั้น ใครที่เข้ามาตามอ่านแบบเงียบๆอย่าเหนียมอายไป ทิ้งรอยยิ้มอวดชื่อไว้ในคอมเม้นท์ นี่เป็นวันสุดท้ายแล้วนะคะ



ภาวิน 9 ต.ค. 2557, 03:44:57 น.
ตอบคอมเม้นท์

พี่แตงกวาที่น่ารัก ต้องขอบคุณมากๆ ขณะที่เขียนวังวนวารีก็มีพี่ช่วยอ่าน ช่วยเร่ง ช่วยตาม ทำให้น้องมีแรงกระตือรือร้นเขียนจบทันเข็นออกมาพร้อมเพื่อนๆ แถมพอลงเว็บยังตามอ่านกันอย่างเหนียวแน่น ถ้าทำได้จะยกทั้งวาริและเผด็จให้ไปเชยชมพร้อมๆกัน ซดเกาเหลารสแซ่บแล้วกลั้วคอด้วยน้ำเปล่า ตอนนี้น้ำลายที่ไหลย้อยตอนบรรยายหุ่นริชาร์ดถึงกลับไหลย้อนกลับเลยไหมคะ

ไอ้พี่เก้า แกจะมาเลือกอีวาริทำไม อยากกินข้าวเหนียวถั่วดำรึ ไปป้อนแครอทนังตัวนุ่มเถอะ ขอบใจนะที่เดินเคียงข้างกันมาเป็นเรื่องที่สองแล้ว จะมีเรื่องต่อไปอีกหรือเปล่าไม่รู้นะ แต่ชอบและดีใจที่ได้ร่วมงานกัน ตบไหล่ปุปุ

น้องยิ้มจัง เรื่องนี้กลายเป็นชุดห้าเก้ง ๕๕๕ แต่นั่นดูธรรมดาไปนิด พี่เป็นคนรักเพศที่สามค่ะ พี่ว่าคนเหล่านี้มีสิ่งพิเศษในตัวที่หญิงหรือชายไม่มี

น้องหนอนน้อย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องไม่ธรรมดาของริชาร์ดจะสามารถทำให้น้องหงายเงิบได้เพราะเดาผิดทาง เอิ๊ก กุมท้องหัวเราะสะใจล่วงหน้า หลอกหนอนได้สำเร็จจจจ

คุณ Patok สัญญาณอินเทอร์เน็ตมีปัญหาค่ะ ลงแล้วก็ลืมตรวจ เลยออกมาแบบนั้น แต่ลงเพิ่มให้แล้วนะคะ

น้องหมีบุลินทร ใช่แล้ว มันแปลกจริงๆ มีแต่คนทัก กว่าจะรู้ก็ผ่านไปจะครึ่งวันแล้ว

คุณรินทร แวะมาให้กำลังใจกันตลอดๆ กอดๆ ขอบใจนะ ดีใจที่ได้ทำงานด้วยกัน จากที่เมื่อก่อนตอนที่เรายังไม่เขียนหนังสือ ก็แอบอ่านงานของรินทร ไม่เคยคิดฝันว่าวันหนึ่งจะได้สัมผัสตัวเป็นๆ

เกดซ่า ยกซาตานให้เลย ไปงมเอาเองในเหว ๕๕๕

คุณโกลเด้นซัน ขอบคุณมากค่ะที่ทักท้วงเรื่องความผิดปกติของการตัดตอน และขอบคุณที่เข้ามาตามอ่านและฝากคอมเม้นท์ไว้ให้ผู้เขียนได้ชื่นใจ ความลับเรื่องริชาร์ดเปิดเผยแล้วค่ะว่าทำไม แต่ก็มีปมใหม่ให้ไปตามกันในเล่มต่อ รับรองว่ามีอะไรเกินคาดอีกเยอะค่ะ

คุณสุขุมวิท ๖๖ ตอนนี้คงเซอร์ไพรส์หลายๆคนว่าเผด็จรู้จักริชาร์ดได้อย่างไร ขอบคุณค่ะที่เข้ามาตามอ่านตั้งแต่เรื่องก่อน ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมีเรื่องต่อไปมาลงนะคะ แหะ แหะ ถ้าไม่มีเดดไลน์นี่สองสามปีเขียนจบเรื่องนึงค่ะ

คุณหนอนหนังสือ ตอนนี้เผด็จก็ยังไม่ยอมออกจากร่างเลยค่ะ นางคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกไปแล้ว

คุณ Peeno เขาไม่เพียงเคยช่วยเหลืือเกื้อกูลกัน แต่เขาเคยรักกันค่ะ

คุณ Napawadee Khunbua เขาจะกลับมาในตอนต่อไปค่ะ แต่ต้องไปตามอ่านในเล่มง่ะ ตอนนี้หนังสือวางแผงแล้วค่ะ เลยจำเป็นต้องยุติการโพสต์เพื่อสนับสนุนการขายหนังสือ

แล้วพรุ่งนี้มาอ่านตอนพิเศษกันค่ะ เป็นผลงานของติญญานะคะ เธอฝากมาลงค่ะ เนื่องจากตอนพิเศษนี้เป็นเรื่องราวของเพื่อนสนิทอย่างตินพลและน้ำหนึ่งที่ดูเหมือนเกือบจะเป็นคู่จิ้นกันได้ เรื่องราวเกิดขึ้นก่อนเข้าบ้านปรารถนา นอกจากตอนพิเศษที่นำมาสมนาคุณเพื่อนๆนักอ่านแล้ว ยังมีรายชื่อผู้โชคดีได้รับของที่ระลึกจากผู้เขียนด้วย จะจับแจกสามรางวัล แล้วมาลุ้นกันค่ะ


หนอนหนังสือ 9 ต.ค. 2557, 04:25:48 น.
อุตส่าห์เดาว่าริชาร์ดเป็นเกย์ ที่ไหนได้เป็นทอมซะงั้น เงิบจริงๆสิคะ
หนังสือออกแล้วจะรออุดหนุนแน่นอนค่ะ ขอให้ขายดีๆนะคะ


ketza 9 ต.ค. 2557, 06:37:45 น.
กรี๊ดดดด เรเชลลล กร๊ากกกกก อึ้ง & เงิบ ชะเอิงเองง 5555


... ยัยเกดซ่าผู้น่าสงสัย หล่อนเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ววววว เหอๆๆๆๆ


yimyum 9 ต.ค. 2557, 10:18:47 น.
ใครรักใครหนูไม่รู้ รู้แต่ว่าหนูรักน้องรดา เอ๊งโดนพี่ปุ๊กถีบ ><


(ร่าง)วาริจะเป็นไงหว่า


Barby 9 ต.ค. 2557, 14:27:16 น.
ใครช่วยดึงเผด็จอะ เกศราเธอมีพลังเหนือกว่าอีกอะ

อะไรกันลงแค่นี้อะหรอ ไม่เอาๆๆๆๆค้างคามากกกกก

เรเชลชื่อเพราะอะ


patok 9 ต.ค. 2557, 15:39:35 น.
เกศราเป็นใคร ใครส่งเธอมา ทำไปเพื่ออะไร แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับการตายของเผด็จ+พี่สาวนางเอกรึเปล่า

แง่มมมมม ต่อมอยากรู้อยากเห็น อยากได้หนังสือ ตอนนี้เลย


นักอ่านเหนียวหนึบ 9 ต.ค. 2557, 16:38:55 น.
ม่ายยยยยย ทำไมเป็นทอม เงิบนะครัชชชช
ไม่ดงไม่เดามันละ รออ่านเป็นเล่มก็ด้ายยย
ค้างคาจริงจัง คืออัลไลเนี่ยยยย
ว่าแต่ นายริ นายให้เดดดี้ใช้ร่างแบบนี้ ถ้ากลับมาได้นายคงได้ชื่อว่า อึดและถึกที่สุดในโลกอะ คงมีคนมาถามว่า แขวนพระวัดไหน 555


พันธุ์แตงกวา 9 ต.ค. 2557, 17:58:53 น.
ดีใจที่มอบสองพระเอกให้มาเชยชมนะ เป็นเกียรติมากๆที่ได้อ่านก่อน ฮ่าๆๆๆ หนังสือออกแล้ว ขอให้ขายดิบขายดี เฮงๆๆๆๆๆจ้า^^


อสิตา 9 ต.ค. 2557, 18:43:06 น.
เดินเคียงกันมาแบบทุลักทุเล แต่จบแล้วก็แฮปปี้ดี ... หนทางยาวไกลพิสูจน์หมา กาลเวลาพิสูจน์แมว ต้องมีโอกาสได้ร่วมทางกันอีก แค่อยู่สนพ.เดียวกัน ไปขายนิยายด้วยกัน ก็ถือว่าร่วมทางแล้ว


ใบบัวน่ารัก 9 ต.ค. 2557, 18:58:45 น.
ไม่ม่ายยยย. หลายปมปริศนาจัง
อะไรก็เกิดขึ้นได้นิใน5ปรารถนา


ดังปัณณ์ 9 ต.ค. 2557, 19:28:43 น.
หนอนไม่แปลกใจ...โดนพี่เก้าหลอกมาแล้วฮ่ะ ตอนนี้กำลังอนุโมทนาสาตุ๊ แง! แม่จ๋า หนอนโดนแกล้งงงงงงงงงงงงงงงง 555+

หลอกได้หลอกดีหลอกเข้าไป๊ หลอกเข้าไป ฮือๆๆๆ คนใจร้าย ชริ! งอน

ว่าแต่เกดซ่าเป็นใครล่ะเนี่ย เรื่องนี้ยังมองไม่เห็นตัวร้ายลึกๆเลย อร๊ายยยยยยยยยยยยยย! ไปซื้อก่อนงานหนังสือก็ได้ชริ!


peeno 9 ต.ค. 2557, 21:08:32 น.
เกินความคาดหมายจริงๆที่ริชาร์ดเป็นทอม
เด็กสาวปริศนาที่เก็บขยะจากห้องชรัณ และที่ให้พวงกุญแจเปลือกหอยกับมาลิน มีพลัง คงเป็นเกดซ่าสินะ แล้วเป็นใคร ทำเพื่ออะไร?
ไรท์สุดยอดดดด ทิ้งปมไว้มากมาย ชวนติดตามมมม
ขอให้หนังสือขายดิบขายดีนะคะ


goldensun 10 ต.ค. 2557, 00:52:45 น.
อ่านตอนที่แล้วสงสัยจัง เผด็จว่าตัวเองโดนวางยา ทำไมตรวจศพไม่พบล่ะคะ
ริชาร์ดอดีตเผด็จจริงๆ แปลงร่างจนเผด็จจำไม่ได้เลย
ลุ้น เผด็จจะรอดมั้ย น้ำหนึ่งจะเจออะไร ยั่วให้ติดตามจริงๆ ขายดีแน่ค่ะ หนังสือชุดนี้ลุ


ริญจน์ธร 10 ต.ค. 2557, 10:16:46 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account