ร่มไม้ สายน้ำ ความรัก (หัวใจ...แอบรัก)
ภารกิจรักกลับมาใหม่ ครั้งนี้นอกจากคุณนายจันทราจะพาพี่บอมกับพี่บันบันมาป่วนแล้วยังพ่วงเจ้าดัลเมเชี่ยนลายจุด เข้ามาสกัดจุดหัวใจให้พี่ใหญ่ได้สมหวัง
หัวใจ...แอบรัก รักลุ้นๆของมดแดงที่เอาแต่แฝงตัวอยู่หลังใบมะม่วง งานนี้นอกจากลุ้นยังต้องวุ่นปนป่วนฮากับวาจาจิกกัด ผสมกับท่านพี่ที่ขนดีกรีเกินพี่หมามาช่วยกัน
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: หัวใจ...แอบรัก ตอนที่ ๕

ตอนที่ ๕
“พี่ปริตรส่งแป้งหน้าโรงพยาบาลก็ได้ค่ะเดี๋ยวแป้งเข้าไปเอง”
ปูนแป้งรีบบอกเมื่อปริตรเลี้ยวรถเข้ามาในเขตรั้วโรงพยาบาลที่เธอทำงานอยู่แต่เขากลับเลี้ยวรถไปจอดในลานจอดรถแทนที่จะขับไปส่งที่หน้าประตูตามที่เธอบอก
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ช่วยถือของเข้าไปให้”
ชายหนุ่มบอกเมื่อดับเครื่องยนต์แล้วก้าวลงจากรถทันทีพอมาถึงตอนนี้ปูนแป้งรู้แล้วว่าทำไมพี่ปริตรถึงซื้อของกินในร้านสะดวกซื้อมาตั้งหลายอย่าง
“พี่ปริตรจะเอาไปไหนคะ”
ปูนแป้งแกล้งถามเมื่อปริตรเลือกของในถุงออกมาใส่ตะกร้าหวายคลุมด้วยผ้าที่ย่าน้อมมักจะใส่ของกินให้เขาติดรถเวลาไปไหนมาไหนไกลๆ
“ก็เราเฝ้าคนไข้แล้วต้องทำงานต่อตอนเช้าเลยใช่หรือเปล่าล่ะพี่ก็เลยซื้อของกินมาให้แล้วจะได้เผื่อเพื่อนๆเราด้วย”
ชายหนุ่มตอบทั้งๆที่ยังก้มหน้าก้มตาเลือกของใส่ตะกร้าจนเสร็จถึงได้หันมามองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังสนใจอะไรบางอย่างที่อยู่บนจอมือถือนิ้วเรียวลากไปบนหน้าจอก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนที่ยืนถือตะกร้ารอแล้วยิ้มประจบ
“พี่ปริตรอย่าเข้าไปว่านิอรนะคะ”
“ทำไมต้องพูดดักด้วยพี่จะไปทำอะไรเพื่อนเราได้ที่จะต้องดุก็คือแป้งที่ใจอ่อนยอมให้เขาแลกรถแล้วยังให้เรามาเฝ้าคนไข้ทั้งๆที่เขาเป็นคนรับงานกับเงิน”
ปริตรทำเสียงดุ ก่อนจะแย่งถุงนิยายในมือหญิงสาวมาถือแล้วพยักหน้าให้เธอเดินนำเข้าไปด้านในเมื่อเขาปิดประตูรถเรียบร้อยแล้ว
“ยายแป้งทำไมเพิ่งมายายอรไปตั้งแต่สองทุ่มแล้วตอนนี้ฉันวุ่นๆอยู่คนเดียวเลยเนี่ย”
ทันทีที่ปูนแป้งผลักประตูเข้าไปในส่วนห้องพิเศษเกยูรก็รีบเข้ามาหาพร้อมกับรายละเอียดเกี่ยวกับคนไข้ที่นิอรรับงานไว้ก่อนจะหันไปมองร่างสูงที่เดินตามหลังเข้ามาแล้วยิ้มแห้งๆ
เกยูรยกมือไหว้ปริตรแวรับตะกร้าที่ชายหนุ่มส่งให้ไปวางไว้ด้านในส่วนที่ทำงานของพยาบาลก่อนจะเดินกลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับกุญแจรถที่นิอรฝากไว้ให้
“มีคนมารับยายอรเมื่อตอนสองทุ่มเขาเลยฝากกุญแจรถให้ เห็นบอกว่าพรุ่งนี้เย็นจะขอติดรถแป้งไปเอารถที่บ้านด้วยนะ”
เกยูรรีบบอกแล้วหันมามองปริตร เห็นว่าเขายังยืนอ่านชื่อพยาบาลเวรในห้องพิเศษที่ผนังทำท่าเหมือนไม่ได้สนใจฟังการสนทนาของพวกเธอ
“นี่ๆพี่คาวินมาแล้วนะรู้หรือเปล่ามาถึงเมื่อเย็นนี้เอง”
เกยูรกระซิบโดยไม่รู้เลยว่าคนที่ทำเป็นไม่สนใจนั้นกำลังฟังอย่างตั้งใจเลยทีเดียว
“จริงเหรอ”
ความดีใจของปูนแป้งแสดงออกทางน้ำเสียงจนคนที่ยืนห่างออกไปถึงกับขมวดคิ้วใส่รูปพยาบาลตรงหน้าพลางนึกสงสัยว่าไอ้หมอนี่เป็นใครชื่อก็น่าจะเป็นพวกลูกครึ่ง หรือว่าเป็นหมอ
“งั้นเดี๋ยวเราไปหองคนไข้เลยนะอ้อนิยายที่เกดฝากซื้ออยู่นี่ ร้อยเจ็ดสิบเก้าบาทจ้ะ”
คำพูดของปูนแป้งที่ริอาจเก็บเงินเพื่อนทั้งๆที่เขาเป็นคนซื้อนิยายให้ทำให้ปริตรต้องยกมือขึ้นมาตรงหน้าแล้วทำเสียงขลุกขลักเหมือนมีอะไรติดคอและเมื่อหันมาสบตาใสๆคิ้วเข้มก็เลิกขึ้นเป็นเชิงล้อเลียนเล่นเอาหญิงสาวถึงกับหน้าแดง
“พี่ปริตร”
หญิงสาวทำจมูกย่นแล้วก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่มองมานั้นกำลังยิ้มกับเธอพลางนึกในใจว่าทำไมเขาถึงไม่ยิ้มบ่อยๆรู้ไหมว่าตัวเองยิ้มแล้วดูดีแค่ไหน
“พี่ไปนะ เราไปทำงานเถอะ”
ปริตรบอก เขาก้มศีรษะรับไหว้จากเกยูรและปูนแป้งพลางยกมือขึ้นคล้ายโบกลาก่อนจะเดินออกไปนอกประตูกระจกใสที่กั้นห้องพิเศษแยกออกมาจากส่วนอื่น
“โห...แป้งซื้อนิยายมากี่เล่มกันเนี่ย”
เกยูรละความสนใจจากคนที่จากไปหันมามองหนังสือที่อยู่ในมือปูนแป้งหญิงสาวเลือกนิยายที่จะไปอ่านตอนเฝ้าไข้แล้วส่งที่เหลือให้กับเพื่อนสนิทโดยไม่ลืมที่จะไปเลือกเสบียงที่ปริตรจัดมาให้ ริมฝีปากเผยรอยยิ้มน่ามองเมื่อเห็นว่าของที่อยู่ในนั้นล้วนแต่เป็นของที่เธอชอบ
“พี่ปริตรน่ารักเนอะ...หล่อ เข้ม ใจดี รวยด้วย”
เกยูรทำตาชวนฝันแล้วกระโดดหลบเมื่อโดยปูนแป้งหยิกเข้าที่แขนด้วยความหมั่นไส้
“ดุจะตายไป เมื่อกี้ยังเทศน์เรามาตลอดทาง”
หญิงสาวบ่นอุบอิบแต่เกยูรกลับพยักหน้าหงึกหงักเป็นทำนองเห็นด้วย
“เป็นเรา ราก็ว่าเหมือนกันนะ ทำไมเธอต้องยอมยายอรด้วย”
“ก็เพื่อนกัน”
ปูนแป้งบอกแล้วเดินไปทางห้องพิเศษที่นออรรับเฝ้าไข้ไว้โดยมีสายตาเป็นห่วงของเกยูรมองตามหลัง
“แล้วเธอจะต้องยอมยายอรไปอีกนานแค่ไหน”
ปริตรเก็บความหงุดหงิดมาจนถึงรถเขานึกอยากถามว่าตกลงคนที่ชื่อคาวินนี่มันเป็นใครแล้วทำไมต้องทำท่าดีอกดีใจจนถึงขนาดนั้นความวุ่นวายในใจมันก่อกวนเสียจนชายหนุ่มลืมความหิวไปจนกระทั่งขับรถมาถึงหน้าปากซอยเห็นร้านขายบะหมี่หน้าร้านสะดวกซื้อถึงนึกออกว่าตัวเองหิวขนาดไหน
“พี่ปริตร ทางนี้”
พอปริตรก้าวลงจากรถเสียงเรียกจากร้านก๋วยเตี๋ยวแบบรถเข็นทำให้เขาเปลี่ยนจุดหมายจากร้านสะดวกซื้อเดินมาหาต้นเสียงเขามองโต๊ะที่ว่างเปล่าแล้วเลิกคิ้วขึ้นเพราะแสดงให้เห็นว่าสามหนุ่มเพิ่งมาที่ร้านเหมือนกัน
“แสดงว่าเชียร์บอลหนักไปเลยหิวล่ะสิ”
ปริตรถามก่อนจะหันไปขอบคุณเด็กสาวที่เอาเก้าอี้มาวางให้พร้อมกับรอยยิ้มหวานฉ่ำแต่มันก็เลือนหายไปในทันทีเพราะเขาไม่ได้สนใจแม้แต่จะมองหน้าเธอเลยด้วยซ้ำ
“บอลเพิ่งจบเดี๋ยวมีอีกรอบตอนตีสาม”
มหิศรบอกก่อนจะหันไปรับชามก๋วยเตี๋ยวจากเด็กสาวคนเมื่อครู่เขาสั่งบะหมี่เพิ่มอีกชามพร้อมกับรอยยิ้มเก๋ที่ทำให้อีกฝ่ายถึงกับหน้าแดงจนกมลต้องเอ่ยปากขึ้นมา
“บอกกี่ครั้งแล้วอย่ายิ้มแบบนั้นเดี๋ยวพ่อเขาก็ฟันหัวแบะหรอกที่ไปยุ่งกับลูกสาวเขา”
“แค่ยิ้มเอง อะไรจะขนาดนั้น”
มหิศรบ่นแล้วจัดการปรุงบะหมี่ชามใหญ่พิเศษโดยไม่สนใจใครไม่นานนักชามน้ำซุปที่เต็มไปด้วยเอียเล้งซึ่งเป็นกระดูกที่ยังมีเนื้อติดอยู่พอได้แทะเล่นก็ถูกนำมาวางให้พร้อมกับรอยยิ้มหวาน
“ถ้าไม่พอขอเพิ่มได้นะคะ”
แม่ค้าบอกเสียงหวานแล้วเดินกลับไปแต่ไม่วายทิ้งสามตาให้หนุ่มๆทั้งสี่คนในโต๊ะแบบเท่าเทียมกันมฆวันมองน้องชายแล้วส่ายหน้าห้ามไม่ให้สานต่อเพราะรู้ดีว่าน้องชายตัวเองใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่ ขืนปล่อยให้ยิ้มไปยิ้มมาเดี๋ยวก็ได้มีปัญหาเหมือนคราวก่อนที่ถึงขนาดมีผู้หญิงเก็บเสื้อผ้าตามมาถึงบ้าน
“กินเลยเจ้าศร”
มฆวันเอาตะเกียบเคาะชามของน้องชายแล้วก้มหน้าก้มตาจัดการกับชามตรงหน้า ก่อนจะผลัดกันสั่งอีกคนละชาม พร้อมกับเพิ่มลูกชิ้นลวกกับหมูแดงและกระดูกมาแทะเล่นอีกชามใหญ่ส่วนปริตรนับตั้งแต่ประโยคแรกก็ไม่มีใครได้ยินพี่ใหญ่พูดอะไรอีกเลยจนกระทั่งถึงเวลาจ่ายเงิน
“เดี๋ยวพี่จ่ายเอง”
“งั้นผมสั่งอะไรไปกินเล่นตอนดูบอลนะ”
กมลได้ทีรีบบอกแล้วทำท่าจะหันไปสั่งแต่ถูกมฆวันเอามือดันหน้าไว้ก่อน
“พอเลย เมื่อกี้บะหมี่สอง เกี๊ยวพิเศษหนึ่ง ลูกชิ้นอีกชามแกเลี้ยงพยาธิไว้ในท้องหรือไงวะเจ้ามล”
ปริตรส่ายหน้าริมฝีปากได้รูปกระตุกขึ้นไปรอยยิ้มเพียงชั่วเวลาสั้นๆ
“พวกนายเข้าไปก่อนนะ”
“อ้าวก็ขับรถไปด้วยกันนี่ล่ะ หรือพี่จะไปไหน”
กมลหรี่ตาทำท่าจะจับผิดแต่กลับไม่ได้คำตอบเพราะพอปริตรจ่ายเงินเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อไม่สนใจว่าน้องๆจะกลับบ้านหรือตามเข้ามาเพราะถือว่ามีรถมากันเองแต่ด้วยความอยากรู้ทำให้กมลเดินตามเข้าไปในร้านแล้วเดินไปหยุดข้างๆพี่ชายที่กำลังยืนมองหนังสือในชั้นอยู่เงียบๆ
ส่วนมหิศรพอเดินเข้ามาก็หันความสนใจไปอยู่ที่พนักงานร่างเล็กใบหน้าจิ้มลิ้มเขายิ้มให้เป็นการปูทางก่อนจะเดินเข้าไปหยิบของทานเล่นประเภทขนมปังมาให้หญิงสาวอบพร้อมกับชวนคุยไปเรื่อยๆ
“จะเอาอะไรก็ไปเลือกไป เดี๋ยวจ่ายให้”
ปริตรหันมาบอกคนที่ยังยืนข้างๆเพราะไม่อยากให้น้องชายรู้ว่าเขาจะซื้ออะไรมฆวันเลยเดินมาล็อกคอกมลลากไปหาเสบียงตุนไว้สำหรับช่วงเวลาที่เหลืออย่างรู้งาน
ปริตรทำปากว่าขอบใจแบบไม่มีเสียง ซึ่งมฆวันก็ยิ้มรับแล้วลากกมลไปทางตู้แช่เครื่องดื่มโดยไม่ลืมแวะลากคอมหิศรให้ไปด้วยกันอีกคน
“หนึ่งพันเจ็ดร้อยเก้าสิบค่ะ”
พนักงานหน้าเคาน์เตอร์บอกแล้วรีบยกมือขึ้นปิดปากเมื่อปริตรยกนิ้วชี้ขึ้นแตะปากตนก่อนจะส่งธนบัตรใบละพันให้สองใบเขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมื่อตอนที่เขาซื้อของครั้งแรกถึงหมดไปเกือบสามพันที่แท้ค่านิยายก็ปาเข้าไปกว่าครึ่งแล้ว
พอซื้อของตัวเองเสร็จชายหนุ่มยังยืนรอเพื่อจ่ายเงินค่าของให้น้องๆพอทุกอย่างเรียบร้อยเขาก็แยกมานั่งในรถก่อนจะหยิบแสตมป์เป็นปึกหย่อนใส่กระเป๋าเสื้อพลางนึกถึงเงินที่ปลิวออกจากกระเป๋าไปเกือบหมดนับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาหมดเงินไปมากขนาดนี้กับร้านเล็กๆแค่ร้านเดียว
“ผู้หญิงนี่นอกจากจะหมดเงินกับค่าเครื่องสำอาง กระเป๋ารองเท้า ยังต้องเพิ่มค่านิยายเข้ามาอีกรายการ”
ปริตรมองหนังสือที่อยู่ในถูกบนที่นั่งข้างคนขับเขาเลือกนิยายเรื่องเดียวกับที่ปูนแป้งซื้อไปสองเล่มอีกแปดเล่มถือว่าเสี่ยงดวงแล้วกันว่าหญิงสาวจะมีหรือเปล่าที่แน่ๆเขาคงต้องหาตู้ใส่หนังสือเล็กๆมาตั้งไว้ในห้องนั่งเล่นเผื่อหญิงสาวจะได้เอาไว้ใส่หนังสือตอนที่มาค้างที่บ้าน
อาจเป็นเพราะเลยเวลานอนมาแล้วแถมยังจัดบะหมี่ใส่กระเพาะไปถึงสองชามจนแน่นท้องทำให้ปริตรตาสว่างเขาเลยเลือกหนังสือนิยายออกมาเล่มหนึ่งแล้วลงมืออ่านโดยอาศัยโซฟาในห้องนั่งเล่นแทนที่จะขึ้นไปชั้นบน
ยิ่งอ่านไปหัวคิ้วได้รูปก็ยิ่งขยับเข้าหากันเรื่อยๆตลอดเวลามันมีแค่คำถามว่า ทำไม ทำไม และทำไมบางครั้งเขาก็เปิดย้อนกลับมาแล้วหาที่มาที่ไปถ้าเจอก็จะกลับมาอ่านต่อแต่ถ้าไม่เจอเขาก็จะพับหน้าที่สงสัยเอาไว้ตามนิสัยที่แก้ไม่หาย
“ตกลงพระเอกรวยได้ยังไง วันๆไม่ทำอะไรทำไมถึงรวยแล้ว...มันกินยาโด๊ปยี่ห้ออะไรทำไมคึกทั้งวัน”
ปริตรเลิกคิ้วครั้งแล้วครั้งเล่า หลายครั้งที่ยกมือขึ้นมานวดหัวคิ้วก่อนจะอ่านต่อไปจนจบเล่มและเมื่อเปิดเล่มที่สองได้ไม่นานเขาก็ต้องลุกขึ้นไปหายาพารามากินก่อนจะหลับไปทั้งๆที่หนังสือนิยายยังกางอยู่บนอกพร้อมกับคำถาม...ทำไม
เพราะต้องรีบจัดห้องให้เสร็จทำให้ปริตรลุกขึ้นแต่เช้าแล้วร่างรายการที่จะซื้อ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามันแทบจะเต็มหน้ากระดาษเลยทีเดียวชายหนุ่มตั้งใจว่าจะไปเบิกเงินออกมาเพื่อซื้อของเพราะขี้เกียจใช้บัตรเครดิตแต่กมลเอาซองจดหมายสีชมพูมาให้ก่อนที่จะออกไปข้างนอกพอดี
“อาพงศ์ให้เอามาให้บอกว่าพี่ต้องใช้”
“แล้วอาล่ะ”
“ไปตั้งแต่เช้ามืดแล้วคุณปู่ใส่เสื้อลายดอกสีส้มแสบตาเลยพี่ งานนี้มีกระชากวัย”
กมลพูดยิ้มๆก่อนจะก้มลงดูเวลาที่ข้อมือ
“ไปแล้วพี่ เดี๋ยวไม่ทันวันนี้อาจารย์โหดด้วยไปละ”
ปริตรส่ายหน้ากับอาการเหมือนเด็กไม่รู้จักโตของกมลก่อนจะเปิดซองจดหมายดูซึ่งในนั้นมีเงินสดอยู่ห้าหมื่นพร้อมกับจดหมายกำชับว่าต้องดูแลคุณจันทราให้ดีที่สุดห้ามขัดใจเด็ดขาด
แต่คนที่ถือจดหมายกลับคิดไปว่า อาพงศ์จะรู้หรือไม่ว่าคนอย่างคุณจันทรา...ถึงอยากขัดใจก็ทำไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงได้ตายเร็วกว่ากำหนดเพราะคมมีดจากปากของแก
พอคิดไปชายหนุ่มก็อดคิดถึงหน้าของพ่อตาเมฆาขึ้นมาไม่ได้เขาจำได้อย่างแม่นยำว่าตอนที่คุณลุงเดฟรู้ว่าคุณจันทราไม่ได้ไปด้วยนั้นแกแทบจะจุดพลุเลยที่เดียว
มุมปากหนายกขึ้นเผยยิ้มที่ดูอบอุ่นเมื่อนึกไปถึงใครอีกคนตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมปูนแป้งถึงหน้าแดงตอนที่เขาหยิบนิยายขึ้นมาอ่านชื่อเรื่องแต่ไม่ทันได้ดูอักษรด้านล่างที่พิมพ์ว่า 18+
ก็บทรักในเรื่องมันร้อนแรงจนแทบไฟลุกแล้วมันยังทำให้เขาสงสัยเข้าไปอีกว่าคนแต่งอายุเท่าไหร่ไปเอาการอธิบายแบบนี้มาจากไหนแล้ว...รู้ได้อย่างไรว่าเวลานั้นมันรู้สึกแบบนั้นจริงหรือไม่
ว่าไปแล้วปริตรก็อดขำตัวเองไม่ได้ที่ดันสงสัยไปเสียทุกอย่างนี่เขาคงอ่านนิยายพวกนี้ไม่ได้อีกแล้วเพราะไม่อย่างนั้นสักวันคงอดครั้งคำถามที่สงสัยกับใครสักคนแล้วจะกลายเป็นส่าเขาไม่เข้าใจผู้หญิง...แต่...เขาก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมถึงได้ชอบอ่านนิยาย เพราะพระเอกในนิยายไม่มีทางหาได้ในชีวิตจริง
ปริตรหยิบหนังสือที่อ่านค้างมาวางบนโซฟาแล้วหยิบกุญแจรถมาถือไว้ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าจนลึกแล้วปล่อยออกมาทีเดียวเพื่อตั้งหลัก
“เอาล่ะ ออกรบได้”
ทันทีที่กมลกลับมาจากมหาลัยแล้วเห็นชั้นหนังสือใบใหม่ที่ร้านเอามาส่งก็แทบจะถามคนสั่งว่าตกลงเขาจะเปิดห้องสมุดในบ้านเลยไหมแล้วพาลคิดไปตามนิสัยที่ไม่ชอบใช้จ่ายสิ้นเปลืองว่าเบาะนั่งขนาดใหญ่ทรงหยดน้ำที่ใช้ผ้าปลอดไรฝุ่นอีกสามสี่อันนี่อีก...สั่งมาทำไมทั้งๆที่มีโซฟาอยู่แล้ว
“พี่ปริตรขนมาขนาดนี้เดี๋ยวก็เต็มบ้านพอดี”
กมลตบเบาะแล้วทิ้งตัวลงนั่งเขาเลิกคิ้วขึ้นเมื่อมันยุบตัวตามรูปร่างเลยปล่อยตัวตามสบาย
“ไม่เต็มหรอกอย่าลืมสิพี่มีห้องว่างอีกตั้งสองห้อง”
ปริตรตอบแล้วยกมือชี้เข้าไปในห้องที่ติดห้องทำงานงานเมื่อได้ยินคำถามจากหน้าประตูว่า...ให้เอาไว้ที่ไหนครับพอกมลหันไปมองก็อ้าปากค้างเมื่อเห็นพนักงานขนอุปกรณ์เข้ามาพร้อมกับที่นอนขนาดห้าฟุต
“ซื้อเตียงด้วย พี่บ้าไปแล้ว คุณป้ามาอยู่แค่สองอาทิตย์พี่ถึงขนาดต้องซื้อเตียงใหม่เลยเหรอ”
อาการตกใจของน้องชายเพราะเข้าใจผิดว่าห้องที่กำลังจัดเป็นห้องของคุณจันทราทำให้ปริตรแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเพราะขี้เกียจอธิบายว่าทำไมเขาต้องจัดห้องนี้ใหม่แล้วถ้าบอกไปว่าทำให้เพราะปูนแป้งแพ้ฝุ่น เดี๋ยวก็ได้โดนมองแบบจับผิดอีก
“จะไปทำอะไรก็ไปเถอะ ไม่ต้องมาช่วยหรอกพี่ทำไหว”
“แต่มันจะทันเหรอพี่ คืนนี้แป้งจะมาค้างแล้วพรุ่งนี้เช้าพี่ก็ต้องไปรับคุณป้าอีกให้ผมช่วยเถอะ”
กมลยังไม่วายตั้งคำถามและเสนอตัวที่จะช่วยงานเขามองออกไปหน้าระเบียงเห็นบ้านสุนัขถูกยกมาตั้งไว้ก็ทำตาโตพลางหันไปมองหน้าพี่ใหญ่ว่าคิดดีแล้วใช่ไหมที่จะให้พี่หมาของอาแอนนอนนอกบ้าน
“บ้านแตกแน่คราวนี้”
กมลนึกในใจก่อนจะยอมเดินออกมาเพราะดูท่าทางของปริตรแล้วคงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากตนจริงๆ แต่พอเดินออกมาได้ไม่ไกลก็นึกออกว่าเขานัดกับมหิศรไว้ว่าจะไปกินข้าวที่ร้านหมูกระทะใกล้บ้านซึ่งงานนี้คงชวนปริตรไปไม่ได้เพราะเขารู้ดีว่าพี่ใหญ่ไม่มีวันเข้าร้านพวกนี้เด็ดขาด
“มันไม่สะอาด”
และด้วยคำนี้ทำให้ทุกคนแอบเรียกปริตรลับหลังว่า...คุณชายอนามัย
เย็นวันนั้นปูนแป้งไม่ได้กลับมานอนบ้านของปริตรเพราะนิอรโทรมาลาป่วยทำให้หญิงสาวต้องรับเฝ้าไข้ต่ออีกคืนทำให้ปริตรมีเวลาจัดการกับห้องนอนและเตรียมที่นอนไปไว้ในห้องทำงานสำหรับตัวเอง
เขาจัดการปูที่นอนจัดห้องให้ปูนแป้งจนเสร็จถึงได้ขึ้นอาบน้ำแล้วลงมานอนอ่านนิยายต่อซึ่งถามว่าสนุกไหมสำหรับผู้ชายอย่างเขามันไม่สนุกหรอกแต่เพราะอยากรู้มากกว่าว่าทำไมผู้หญิงถึงชอบอ่านนัก
วันนี้ปริตรไปเลือกซื้อของในห้างเลยขึ้นไปหาหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพรที่จะใช้ในการค้นคว้าพอเดินผ่านส่วนที่เป็นหนังสือนิยายเห็นมีคนยืนอ่านตั้งแต่เด็กมัธยม มหาลัยวัยทำงานไปจนถึงรุ่นแม่ของเขาก็มี
แถมวันนี้เขาดันซื้อนิยายที่พนักงานบอกว่าเพิ่งออกสดๆร้อนๆมีเขียนกำกับไว้ด้วยว่าวรรณกรรมสำหรับผู้ใหญ่แต่ว่า...เขาจะให้ปูนแป้งด้วยวิธีไหนที่จะไม่ให้เธออาย
เช้าวันรุ่งขึ้นปริตรต้องไปรับคุณจันทราที่บ้านเขามองกระเป๋าสองใบกับตุ๊กตาเก่าๆสองตัวด้วยความสงสัย แต่ไม่ได้พูดอะไรนอกจากยกขึ้นรถตามหน้าที่
พอขนเสร็จคุณจันทราก็ส่งกุญแจให้บอกว่าช่วยจัดการล๊อกบ้านให้ด้วยก่อนจะเดินนำพี่หมาออกไปยืนข้างๆรถ พอชายหนุ่มเดินตามออกมาคุณจันทราก็ก้าวขึ้นนั่งด้านหลัง
ส่วนพี่บอมกับบันบันต่างก็พากันยืนรอหน้าประตูรถด้านหน้าแล้วใช้สายตาประหนึ่งจะบอกว่าอุ้มพี่ขึ้นรถด้วยน้อง ทำให้ปริตรต้องทำหน้าที่อุ้มพี่หน้าขึ้นไปนั่งด้านหน้าข้างๆคนขับซึ่งพอก้มลงอุ้มพี่บอมขึ้นเท่านั้นเขาก็สงสัยว่าตกลงนี่หมาหรือกระสอบข้าวสารกันแน่
ระหว่างการเดินทางปริตรคอยมองพี่หมาเพราะกลัวว่าจะฉี่หรืออึออกมาให้เลอะรถแต่สิ่งที่เขาเห็นคือพี่หมาสองตัวนั่งหน้าเชิดแล้วเอาขาเคาะช่องแอร์ด้านหน้าเบาๆ อยู่หลายครั้งจนในที่สุดคนที่นั่งเงียบอยู่ด้านหลังเป็นฝ่ายทนไม่ได้
“ช่วยปรับแอร์หน่อย มันเป่าตาพี่เขาเดี๋ยวพี่ตาเจ็บ”
ปริตรเงยหน้าขึ้นมองคนพูดผ่านกระจกมองหลังก่อนจะเลี้ยวรถเข้าจอดข้างทางเขาเอื้อมมือไปปรับไม่ให้ลมแอร์ออกมาโดนพี่หมาบรรดาศักดิ์ซึ่งพอปรับเสร็จจะขยับถอยกลับมา พี่บอมก็เอาขาหน้าตบลงบนมือเขาเบาๆ
“พี่เขาบอก ขอบใจมาก”
เป็นอีกหนึ่งคำอธิบายจากด้านหลังซึ่งพอชายหนุ่มมองหน้าพี่หมาก็เห็นว่าทั้งสองตัวกำลังมองหน้าเขาและ...ปริตรอยากจะคิดว่าตัวเองตาฝาดที่เห็นหมายิ้ม แต่มันเป็นอย่างที่เขาเห็นจริงๆ
“ไม่เป็นไรครับ”
ชายหนุ่มบอกเบาๆ แล้วออกเดินทางต่อหลังจากนั้นไม่นานคุณจันทราก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากออกมาอีกครั้ง
“แถวบ้านเรามีร้านขายตับไก่ย่าง”
“ไม่แน่ใจนะครับ”
ปริตรตอบเขาอยากจะบอกเหลือเกินว่านอกจากร้านสะดวกซื้อกับร้านอาหารแบบเป็นห้องๆที่ดูสะอาดแล้วตนเองแทบจะไม่เคยกินของข้างทางเลย แล้วจะไปรู้ได้ยังไงว่าแถวบ้านมีร้านที่ถามหรือไม่
“งั้นถ้าเจอลงไปซื้อให้หน่อยนะเอาสุกๆล่ะเดี๋ยวพี่เขาท้องเสีย”
คนขับรถจำเป็นถึงกับอึ้ง เขาหันมามองพี่หมาสองตัวช่วงที่รถติดไฟแดงพลางนึกสงสัยว่าตกลงบ้านนี้เลี้ยงหมาในฐานะอะไรกันแน่
“ได้ครับ”
ชายหนุ่มรับคำสั้นๆแต่นั่นกลับทำให้คนในซอยได้มีโอกาสเห็นหน้าหลานชายคนโตของตระกูลอัครมนตรีที่ร้อยวันพันปีไม่เคยออกมาให้ใครเห็นหน้า
ร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าร้านขายไก่ย่างส้มตำดูแตกต่างจากคนอื่นๆและนั่นทำให้เขาเป็นเป้าสายตาจากทุกคน จนคนที่นั่งรออยู่ในรถถึงกับยิ้มออกมา
“พี่บอมกับบันบันต้องช่วยแม่นะลูก”
คุณจันทราหันไปทางพี่หมาที่ตอนนี้ย้ายมานั่งด้วยแล้วมองไปอีกฝากถนนพี่บอมมองปริตรแล้วหันมาเห่าเบาๆเหมือนเป็นคำตอบก่อนจะหันกลับไปมองร่างสูงที่พยายามเดินหลบควันจากเตาย่างไก่เพราะไม่ว่าเขาจะเดินไปอยู่ตรงไหน มันก็ลอยตามไปราวกับแกล้ง



tonpalm
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ก.ย. 2557, 17:35:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ก.ย. 2557, 17:35:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1911





<< หัวใจ...แอบรัก ตอนที่ ๔   ตอนที่ ๖ >>
ribbin 27 ก.ย. 2557, 18:23:33 น.
กรี๊ดๆดีใจจัง วันนี้มา2ตอนแหนะ อยากรู้จังคุณนายจันทราวางแผนอะไรไว้หนอ

ไม่ทราบว่าเรื่องนี้พิมพ์ทันงานหนังสือไหมคะ


Zephyr 27 ก.ย. 2557, 19:31:34 น.
พี่ปริตรโดนแทคทีมอ่ะ
งานนี้รอดยาก 5555


goldensun 7 ต.ค. 2557, 19:19:34 น.
ขำตอนอ่านนิยาย ชอบแป้งที่ชอบอ่าน เลยขนซื้อมาเตรียมไว้เพียบ น่ารักจัง
คุณชายอนามัยโดนคุณนายจันทราดัดนิสัยซะแล้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account