ทองพญามาร [---ชุด ๕ ปรารถนา---]
จากเคยออกปล้นชิงสิ่งล้ำค่าในคืนอันมืดมิด
แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา
พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต

แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลับกลายเป็นสาวสวย!

ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่...
เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป

Tags: พญาดำ เหรียญพระจันทร์ เก้าชีวิต กระต่าย ตัวนุ่ม

ตอน: ๔.๓ สู่ฤกษ์โจร

คุณภาวิน – ข้าก็ชอบฉากชุบตัวของเจ้าเงาะ จริงๆเรื่องข้ามีนัยยะเทียบกับสังข์ทองนะ พูดถึงไว้นิดนึงตอนท้ายๆ
คุณเกดนุ่ม – สิ่งที่ออกมาก็คือเหล่าอสูรร้ายที่จะฉีกกระต่ายนุ่มเป็นชิ้นๆแล้วกิน งั่มๆๆ ไม่ใช่ละ...

คุณพี่พันธุ์แตง – น้องชอบดูหนัง เวลาเขียนจะคิดภาพแบบหนังออกมาก่อน เอิงเงย
ตัวนุ่มโดนขังแป๊บเดียวเองตอนที่ฉากทะลึ่งไม่เหมาะกับสาวน้อย แต่ไม่รู้งอนไปแล้วหรืออะไร...
อิอิ หัวเราะมีเลศนัย ขอบคุณที่มาอ่านน้า แก้งานเสร็จละหรือ
คุณเลิฟหมวย – มาแย้วค่า คนเขียนตื่นมากลางดึก ข้าวยังไม่กินก็เคาะบรรทัดก่อนเลย


คุณใบบัวน่ารัก – ตอนนี้ไม่รุ้ใครงอนใครแล้ว เอาครีมหน้าใสให้พี่เก้าทาเถอะ พี่เก้าโกรธแล้วนะ...
จุดอ่อนจากการที่ไว้ใจจจจ ตอนนี้ตัวนุ่มต้องวางแผนปล้ำพี่เก้าแล้วแหละ อ้อนๆ
คุณนักอ่านเหนียวหนึบ – อาปองนี่ร้ายจริงน้า บอกพี่เก้าเลย อามาที่นี่ๆๆ
พี่เก้าได้ชุบตัวแบบไม่ได้ตั้งใจแล้วนะ แต่ดูเหมือนจะไม่มีผลเท่าไหร่ เอ๊ยยย
คนวิปริตน่าจะมีเยอะค่ะ เพราะรับเอาสิ่งนี้ปากคนเขียน คนละเล็กละน้อย อร๊ายย

คุณหนอนน้อยครวญคราง – หนอนอ่านตอนนี้จบแล้วจะว่าไงล่ะเนี่ย อืมมม ตัวนุ่มมัวทำไรน้า
โหย เดาเรื่องเป็นเอกได้เป็นฉากๆเลยอะ ขุ่นแม่กุเต่ยชักกลัวใจหนอน... ต้องหลอกมากขึ้นอีก
หลอกยิ่บหลอกย่อย หลอกแม้แต่ในเม้นต์ด้วยดีก่า อิอิ
คุณหนูยิ้มยิ้ม – พี่เก้าดวงไม่ค่อยดีอยู่ มาเอาใจช่วยพี่เก้าไปด้วยกันหน่อยนะ บรรยากาศน่าสะพรึงขึ้นทุกที

คุณสุขุมวิท66 – มันคือพาโรดี้ ส่อนัยยะเลียนเรื่องสังข์ทองค่ะ ตอนนี้ตกไปไม่เป็นไร
แต่สระเนี่ยไม่ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ ในอนาคตต้องใช้งาน หุหุ อยากแหวกว่ายจังเลย
คุณหมีบุลิน – เหอ ตัวนุ่มเกลียดตาปองเกียรติหัวเหม็นเขียวนั่นจะตาย รอไปชาติหน้าตอนบ่ายแก่ๆ
คุณโกลเด้นซัน – พี่เก้าไม่ค่อยอยากเห็นฉากหวิวค่ะ เฮียขี้เขินนะ... นายชาอาจพอมีประโยชน์
ไหนๆฮีก็เป็นอัจฉริยะ //รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลองนะคะพี่เก้า แต่ตอนนี้เลยได้ลองใจตัวนุ่มไปด้วยเลย
คุ้มไหมน่ะ
--------------------------






วังนี้มีกี่ชั้น มองจากภายนอกกะด้วยสายตาไม่ถูกเอาเลยชั้นบนที่ขึ้นมาทั้งมืดและเงียบ...
เสมือนย่างสู่เทวสถาน ชายหนุ่มเดินเบากริบไปบนทางเดินดำแวววาวสะท้อนเงา
ข้างผนังแถบใหญ่รูปไม้นูนสูงสลักลึก งดงามดั่งเทพยดาถือพระขรรค์ยืนเรียงราย
ผินหน้าต้อนรับผู้มาเยือน กระแสบางอย่างแล่นซ่านเมื่อนพคุณกรายผ่าน สะดุดใจ
เหลียวขวับกลับไปมอง คล้ายไม่มีใดผิดปกติ...

ทว่า! ใบหน้าที่วูบแรกจำได้ว่าล้วนเบือนไปยังปากประตูของเหล่าเทวดาพากันหันตาม
เขามาหมดแล้วอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนิ่งสนิทไร้การเคลื่อนไหวราวอยู่ท่านั้นมาเนิ่นนานแล้ว

ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก เหงื่อเย็นๆไหลซึม รู้ดีว่าไม่ใช่...
ขนงเนตรประณีตหรี่ปรือจับจ้องมองการบุกรุก ใบหน้าอันงดงามด้วยยิ้มบัดนี้
แลสะพรึงราวยักษ์มาร ยิ้มนั้นหายไปแล้วเช่นกัน มีแต่ตาแทบถลนปะทุ
และริมฝีปากเบะเบี้ยววิปริตเริ่มแยกออกเป็นเขี้ยวอสูร

เงาร่างดำๆโดดออกมาวูบวาบ ล้อมทั้งซ้ายขวาหน้าหลังไม่รอให้ตั้งตัว

เงาแรกปราดเข้าหาอย่างกระหายเลือด นพคุณกันไว้ด้วยมีดเหล็กน้ำพี้
เวลาคับขัน เขาดีดปลายมีดที่ซ่อนอยู่ให้ยืดออกมาจากส่วนท้ายของด้ามจับ
รับการโจมตีจากหลากทิศอย่างได้ผล แต่บางตนเข้าถึงร่างเขาด้วยความไวอย่างเหลือเชื่อ

เสียงกระเหี้ยนกระหายครางแหลมระงม...แน่แล้วพวกนี้เป็นอสุรกาย!
หาใช่เทพอย่างที่คิดทีแรก ชายหนุ่มไถลตัวหลบสรรพาวุธในมือมารเล็บคมที่รุมคว้าไขว่
ทิ้งร่างม้วนกลิ้งกับพื้น จังหวะนั้นก็คว้าชอล์กหินบริสุทธิ์ออกมาขีดวงล้อมรอบตัวขึ้นรวดเร็ว
ก่อกำแพงศักดิ์สิทธิ์ป้องกันกาย เขม้นจ้องพวกอสุรกายที่บัดนี้จำแลงตนเป็นผีตายโหง
บ้างก็เปรต เกรี้ยวกราดอาละวาดอยู่เบื้องนอกเขตคั่น พยายามตะกายเจาะช่องแหวกเข้ามา

ชายหนุ่มนิ่วหน้า ก้มมองแผลที่เพิ่งได้รับมาสดๆ...จะไม่ให้กังวลได้อย่างไร
นับวันความหนังเหนียวที่เคยมีก็ยิ่งเสื่อม นพคุณมองหย่อมเลือดสีคล้ำของตนที่หยดแหมะ
อยู่บนพื้นเบื้องนอก อสูรในชุดเทวดาที่เริ่มสลัดคราบเดิมกันยกใหญ่เร่งแย่งกันคลานสี่ขา
เข้าแก่งแย่งเลียเลือดอย่างโหยหิว บ้างได้กลิ่นเลือดจากกายเขา แห่มาเอาตัวพุ่งกระแทก
กำแพงที่มองไม่เห็นซึ่งเขากักตนอยู่ภายในอย่างบ้าคลั่ง จนหน้าเละๆยิ่งถูกกำแพงอาคม
บาดยับเยิน เนื้อเหม็นเน่าหลุดเผละเป็นชิ้นร่วงหล่นเกลื่อนกระจาย!

เขาเลิกชายเสื้อขึ้นดูแผลถูกพระขรรค์เหวอะตรงชายโครงที่เริ่มปวดแสบปวดร้อน
เสื้อที่ลงยันต์ซ่อนไว้ข้างในถึงกับขาด ดูท่าจะมาเจอ‘ของแรง’เข้าให้แล้ว บางทีความหิว
ที่สั่งสมมานับร้อยๆปีคงทำให้มันคลั่งกันอย่างหนักเมื่อพบเหยื่อ แต่อย่างเขานี่รึเหยื่อ?

นพคุณหยิบชานหมากเก่าเก็บของหลวงพ่อเกจิรูปหนึ่งออกมาใส่ปากเคี้ยวอย่างไม่เสียดาย
เมื่อพึมพำคาถา หมากที่แห้งกรังไปนานแล้วเริ่มคลายตัวอย่างอัศจรรย์ คืนกลับเป็นหมากสด
เขากัดขยี้ ใช้ฟันเค้นคั้นน้ำแล้วอมไว้ ที่ซึ่งกลิ้งตัวมานี้จงใจให้ใกล้รูปสลักของพวกเปรตอสุรกายแต่แรก

พริบตา น้ำสีแดงสดเหมือนเลือดพ่นพรวดจากปาก! พุ่งสาดกระจายใส่รูปสลักไม้แถบใหญ่
จนถ้วนทั่ว เกินกำลังลมปอด หากแต่ด้วยคาถาลมที่ส่งเสริม! เสียงกรีดร้องหวีดแหลม
ลั่นพร้อมกันในคราวเดียวก่อนเงียบวับลับหาย ทุกอย่างรอบกายพลันคืนสู่ความสงัด


นพคุณเอาชานหมากที่คายออกมาวาดผ่านรอยแผลตรงชายโครงเสียด้วย
ความแสบร้อนคลายลงชะงัด พร้อมๆกับที่หมากกลับสู่รูปแห้งสนิท
พร้อมให้เก็บคืนพกคืนห่ออย่างไม่เสียเวลา เขาเงยมองผลงานเละเทะอย่างสาแก่ใจ
...ทั้งรอยหมากสีเหมือนเลือดบนงานศิลป์ ทั้งรอยขูดขีดบนพื้น

พ้นวงล้อมนั้นมา ทุกก้าวย่างที่ล่วงไปกลับยิ่งคุ้นเคยอย่างประหลาด
ที่นี่เหมือนที่ไหน... ผนังรอบข้างเคลื่อนผันจากโทนดำมาสู่เทา รูปแบบช่องทาง
อย่างเทวสถานจางหายไปยังทิศซึ่งเขาไม่ได้เลือก ส่วนนี้ดูทันสมัย ทุกอย่างเป็น
สีเทากับสีของโลหะ นี่คือส่วนของธาตุดินที่อยู่เหนือขึ้นมาข้างบน เป็นพื้นที่ต้องห้าม
นอกจากเหมาะจะเอาไว้ซ่อนของ ยังเหมาะเป็นที่ซ่อนคน...

ชายหนุ่มตาโพลงรีบวิ่งพรวดพราด ไม่ผิดแน่ นี่คือที่เดียวกับที่ครูฤทธิ์เคยพาเขามาดูไอ้เอก!
ที่แล้วมามันไม่ใช่อยู่ในป่าเขาลำเนาไพรซับซ้อนหรือเกาะร้างยากจะเข้าถึง
แต่กลับเป็นบ้านของหมอสุทัศน์!

หมอหลอกให้เขามาติดกับ?
หรืออาจกำลังทำเรื่องขัดแย้งกับความต้องการของพวกบิดาตน?
อย่างการช่วยพาเขามาเจอไอ้เอก...สุทัศน์นั้นไม่ชอบอรรณพพี่ชายเขาเป็นทุนเดิม
จึงช่วยจัดการเรื่องปล้นคราวก่อน

เบื้องหน้า มองผ่านซี่กรงขังสีเหล็ก คุกผนังสีเทา ห้องหับทันสมัยสไตล์โมเดิร์น
ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง เพียงแต่ไม่มีใครถูกขังอยู่ในนั้น มีเพียงข้อความ
เขียนด้วยสีน้ำตาลคล้ายคราบเลือด หรืออาหารอะไรสักอย่างเด่นหรา


ไม่ต้องตามหากู...


ที่ดั้นด้นมา...มีเพียงคำนี้เท่านั้นหรือที่เพื่อนฝากถึงเขา ถ้ามีสิ่งอื่นซ่อนแฝงในคำนั้น
ตอนนี้เขาก็มองไม่เห็นเลย ความรู้สึกเกือบจะเป็นสิ้นหวังถั่งโถมเข้ามา
พาให้ความกระหายใคร่ปล้นพลอยจางลง

อาคมแน่นหนายังคงอยู่ เขาไม่มีทางฝ่าเข้าไปดูในห้องนั้นได้ ชายหนุ่มหันหลัง
ยังไม่รู้จะก้าวไปทางไหน หูคล้ายแว่วยินเสียงวิทยุเก่าๆลำโพงแตกพร่า
เพลงฮัมหวานหยาดเย็นแว่วมาจากที่ไม่ใกล้ไม่ไกล...ท่วงทำนองแผ่วยิน
เป็นเสียงฮัมเพลงกล่อมเด็กแบบของฝรั่ง สุ้มเสียงบางเบาชวนเคลิบเคลิ้มผ่อนคลาย

ไม่ไกลจากห้องขังนั้น บรรยากาศดูจะสลัวลงอีก บนนี้ไม่มีหน้าต่าง หากจะเรียกมันว่า
กรงลอยฟ้า นกข้างในก็คงจะอึดอัดเฉาตายเสียก่อน เขาเดินไปจนพบห้องอันเป็น
ที่มาแห่งเสียง หน้าห้องเป็นระเบียง มองลงไปเจอสระทองสวยใสอยู่ใต้ร่มหลังคา
สะท้อนเงาเลื่อมพราย

หันมาให้ความสนใจกับประตูที่เสียงเพลงลอดเร้นออกมาอีกครั้ง
ตอนนี้เสียงที่ว่ากลับเงียบสนิทลงแล้ว...
นพคุณค่อยๆผลักบานประตูที่แง้มอยู่ ในห้องมืดมาก แต่มีแสงเทียนนิ่งสงบจุดอยู่
หนึ่ง สอง สาม มีมากถึงเจ็ดเล่ม ทว่าเปลวของมันราวกับไม่สั่นไหว
น่าพิศวง เทียนที่ไม่อาจหลั่งน้ำตา?

หญิงสาวผ่ายผอมคนหนึ่งนั่งอิงหมอนบนเตียง นพคุณเห็นหน้าที่ก้มงุดนั้นไม่ชัด
ทว่าดุจมีกระแสเรียกร้องบางอย่างแผ่ออกมา แบบเดียวกับที่ทำให้เขาวิ่งเข้าหา
กุญแจทองหรือเป็นเอก เขาเชื่อว่าการมีอยู่ของเธอมีความหมาย แม้ตอนนี้ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร

ในเมื่ออยากรู้ ก็ต้องก้วเข้าไปถาม
“ถูกขังอยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอ...เธอเป็นใคร?”

เจ้าของร่างนั้นทำอาการคล้ายจะพยักหน้าโดยไร้เสียงตอบ

นพคุณยิ้มอย่างใจดี แปลก ไม่รู้ทำไมจึงรู้สึกสงสารเธอเป็นพิเศษ
เขากำลังใกล้เข้าไป อยากเห็นหน้า อยากพูดคุยกับผู้หญิงคนนี้ดูสักหน่อย


ทว่า...


คมมีดแหลมบางแข็งแกร่งเล่มหนึ่งเสียบพรวดแม่นยำจากด้านหลัง!
ตัดก้านสมอง ทะลุออกปากชายหนุ่มที่ตาเหลือกค้าง
รู้สึกได้ถึงรสเลือดท่วมปาก กับความเคลื่อนไหวของของเหลว
ที่พุ่งจากท้ายทอยเมื่อผู้ลอบทำร้ายชักมีดกลับคืน

“แกมาไกลเกินไปแล้ว...”

เสียงพร่าแตกดังผ่านเครื่องแปลงเสียงกระซิบอยู่ริมหู ก่อนร่างของเขาจะทรุดลง

วิญญาณที่หลุดลอยกะทันหันกำลังมึนงง ตั้งตัวไม่ติด เมื่อมองเห็นภาพตนเอง
ถูกหิ้วเหมือนถุงขยะดำลากออกมาพ้นประตูโดยไอ้โม่งที่เคยไล่ล่ากันมาก่อน

“อย่าลืมดับเทียนให้เหลือหกด้วยล่ะ แต่ถ้าคืนนี้มันตายมากกว่านั้น
...ฉันค่อยมาดับเพิ่มเอง” เสียงทรงอำนาจเอ่ยสั่ง

“ค่ะ เข้าใจแล้ว...” คนในห้องตอบเสียงแผ่ว

ตอนนี้ความสนใจของนพคุณย้ายมาอยู่ที่ร่างของตนซึ่งกลายเป็นศพ
ร่างปวกเปียกถูกหิ้วมาถึงขอบระเบียงหน้าห้อง ก่อนถูกเหวี่ยงด้วยช่วงแขนทรงพลัง
ลอยคว้างข้ามผ่านความสูงไม่ใช่น้อยตกตูมลงไปยังบ่อทองเบื้องล่าง ชายชุดดำ
ทำท่าทีเหมือนไม่ใช่สิ่งสลักสำคัญอะไรนัก คล้ายโยนศพหมาสักตัวที่นอนตายเกะกะลงไปข้างถนน

วิญญาณของเขาตามติดร่างซึ่งจมดิ่งสู่ก้นสระลึกอย่างช้าๆ ไม่ไกลจากนั้น
คือดวงแสงใต้น้ำที่แลเหมือนลูกแก้วมังกร สาดแสงมาสะท้อนเคลือบเงาบนผิวดำเมื่อม
ของข้ารับใช้พญายมที่กำลังปรากฏร่างล่องลอยตามเฝ้าดูอยู่ในน้ำตามหน้าที่ของตน

“เอายังไง จะตื่น... หรือชักเบื่อเกมชีวิต คิดจะตายไปเลยก็ง่ายดี”

“ใครจะเลือกแบบนั้น!”

เพราะนี่คือการสื่อสารของจิตวิญญาณที่ไม่ต้องผ่านอากาศ จึงพูดกันได้
เหมือนอยู่เหนือน้ำอย่างไร้อุปสรรค
อีกครั้งที่ทั้งสองสบตากันแน่วนิ่ง พอนพคุณพยักหน้า จิตพลันถูกดึงวูบ
กลับสู่ร่างที่นอนอยู่ก้นสระ บาดแผลสมานตัวคืนสนิท
ทั้งที่คอและแผลตรงชายโครงล้วนอันตรธานหาย

ชีวิต เหลือหกแล้วสินะ...

เพราะร่างกายกระสันอยากจะหายใจอีกครั้งเขาจึงสำลักน้ำเข้าไปอึกใหญ่
เร่งตะกายโผล่พรวด ก่อนจะว่ายน้ำเข้าหาฝั่งอย่างไม่รั้งรอ บางที ไอ้คนชุดดำนั่น
มันคงรู้เรื่องเกมชีวิตนี้ และอาจกลับมาเพื่อจัดการเขาซ้ำอีกที

ขึ้นฝั่งมาตั้งตัวได้ ชายหนุ่มยังคุกเข่าไอสำลัก ขณะที่เห็นเท้าของใครบางคนก้าวพรวด
เข้ามาเร็วกว่าใจคิด เขาไถลตัวหลบเตะตวัดตัดขาให้มันล้มตามการเคลื่อนไหวนั้นไปด้วย
แต่ที่ได้ยินคือเสียงร้องโอดโอยอย่างคนไร้เรี่ยวแรง

“โอ๊ย! ใจเย็นโว้ย ฉันเอง”

“ไอ้ชา! แก มาได้ไง” ไม่เพียงการมาของมันที่ทำให้ประหลาดใจ เขายังเห็น
แม่วิญญาณสาวที่ตลอดเวลาเงียบหายกำลังยืนปิดปาก ทำสีหน้าตระหนกอยู่ข้างๆเพื่อนตน

“ตอนแรกฉันหลับไป มันเอาอะไรมาให้กินก็ไม่รู้ ดีที่มีนี่” หนุ่มแว่นทำท่าเจ็บไม่หาย
จากการล้ม แต่ก็ลนลานหยิบเอาของที่ห้อยคอไว้ขึ้นมาอวด “ตะกรุดพี่ศร
แกมีอีกดอกเลยแบ่งให้มา พออมไว้ก็เลยหายง่วง น่าแปลกมากๆ มันคงมีสารเคมีกระตุ้นบางอย่าง”

“แล้วแกมาเจอฉันตรงนี้ได้ไง”

“ก็มีน้องผู้หญิงคนนึง ตาโตๆน่ารักๆ ปิ๊งกว่ายายรวีอีก” สุวิชาไม่วายทำหน้ากรุ้มกริ่ม
“เขาบอกว่าให้ตามมา แกกำลังลำบาก”

อ้อ ไม่ได้ออกมาเวลาคับขัน แต่อุตส่าห์แล่นไปตามคนมาช่วย

“ว่าแต่ น้องเขาหายไปไหนวะ ตะกี้ยังเห็นอยู่ตรงนี้แหม่บๆ เออ เว้ย” สุวิชาเหลียวซ้ายแลขวา

ในสายตานพคุณ เขาก็ยังมองเห็นแม่คนเก่งของสุวิชาก้าวเข้ามาใกล้ เจตนาให้เขาเห็นคนเดียว
“คงหนีเปิดไปแล้วมั้ง ก็ที่นี่มันอันตราย” ชายหนุ่มตอบกร้าว สะบัดผมเปียกให้หมาดน้ำ
“ใครเขาจะคอยมาตามช่วยแก”

มือนุ่มนวลวางแตะบนไหล่ เขาอยากขยับหนี แต่ตาคู่สวยที่ทอแววห่วงใยชัดเจนกลับ
เหนี่ยวรั้งไว้ได้ยิ่งกว่าสัมผัสของเธอ

ดวงตานั้นราวกับจะถาม...เจ็บมากไหม

แต่ตาเขาตอบไป...ไม่ต้องมาสน

เจ็บไม่เจ็บก็แค่ตายเท่านั้น ตายโดยไม่มีคำเตือน ทั้งที่เชื่อว่าแม้เธอจะเงียบอยู่ในเหรียญ
แต่คงเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง นั่นทำให้ประมาทไปมาก

“รีบหนีเถอะ ที่นี่ไม่ปลอดภัยแล้ว...” สุวิชาเตือน



ชายหนุ่มทั้งคู่เร่งผละจากบริเวณนั้น ไม่นึกว่าจะเจอเข้ากับเจตน์ที่สภาพเรียบร้อยดี
ไม่ได้เหมือนผ่านศึกอะไรมา นพคุณนึกยินดีที่หมอนี่ไม่หมอบไปซะก่อนด้วยแผน
เล่นทะลึ่งพิลึกพิเรนทร์ของเขาเอง

“บ้านเงียบเหมือนป่าช้าเลย” หนุ่มนักข่าวเอ่ยเครียดๆ

“แน่ละ คืนนี้มันแค่ต้องการจะสั่งสอนเรา” นพคุณผ่อนลมหายใจอึดอัด สั่งสอน...
บวกกับป้อนข้อมูลบางอย่างให้เขาได้รู้ เกี่ยวกับเป็นเอก คลิปวีดีโอนั่น แถมเขาบังเอิญ
ได้เจอผู้หญิงประหลาดในห้อง ตอนนั้นเจ้าคนชุดดำพูดว่า เขามาไกลเกินไปแล้ว
แปลว่าเขาไม่ควรจะได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของเธออย่างนั้นหรือ?

นพคุณกับสุวิชาแยกไปยังห้องพักของกานต์รวี ส่วนเจตน์ไปดูลู่ทางหนี
ทั้งหมดกลับมาพบกันตรงทางออก เจตน์ถอยรถมารับพอดิบพอดีกับที่
นพคุณอุ้มกานต์รวีออกมา สุวิชาหอบแฮ่กวิ่งตามมาติดๆ

“รถนี่ไม่ต้องงัด มีคนเตรียมกุญแจไว้ให้พร้อม แถมมีกระเป๋าเดินทางพวกเราอยู่ท้ายรถ
คาดว่าประตูหน้าก็คงเปิดรอไว้แล้ว”



...ระหว่างรถเคลื่อนออกมา เป็นเวลาตีสองกว่าๆเข้าไปแล้วกานต์รวีเอนนอนอยู่ข้างที่นั่งคนขับ
ผู้ชายอีกสองคนนั่งข้างหลัง มีวิญญาณสาวปรากฏกายอยู่ตรงกลางเป็นไข่แดงเงียบๆ
โดยไม่กล้ากวนใจคนกำลังทำขรึม

นพคุณรู้ว่าพวกตนถูกเชิญเข้าไปปั่นหัวแล้วก็ถูกไล่ออกมาทั้งก๊ก
มันยังไม่อยากให้เขาตายดับหมดชีวิตไปจริงๆ พวกมันต้องการให้เขามีชีวิตอยู่ เพราะอะไร?
แต่ไม่ว่างยังไง ตอนนี้ควรห่างออกมาจากรังของมันก่อนตั้งตัวแล้วค่อยลงมือใหม่อีกที
ไม่ใช่ที่นี่ ครั้งต่อไปจะต้องเป็นฉากของเขา แผนของเขา ล่อให้พวกมันมาติดกับ เอาให้จำไปจนตาย!

แต่แล้วเสียงงัวเงียก็ดังฝ่าความเงียบ กานต์รวีตื่นแล้ว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือ...”

นพคุณหรี่ตา “เรากำลังกลับกันรวี”

“อ้าว แล้วหมอสุทัศน์ แล้วเพื่อนพ่อเขาล่ะ รวียังไม่ได้ดูดวงเลย” หญิงสาวพูดอู้อี้

“อ๋อ อันนั้นผมดูให้ก็ได้ เรากำลังดวงซวยกันสุดๆ เราทั้งสี่คนนี่แหละ
คงไม่ใครก็ใครจะได้ถูกซิวไปอยู่เป็นเพื่อนไอ้เอกเร็วๆนี้”

ชายหนุ่มพินิจหญิงสาวเพื่อนร่วมทีมจากเบื้องหลัง
เขายังสงสัย...กานต์รวีอาจไม่ได้เมา ไม่ได้หลับ
เธออาจเพียงแค่ทำหน้าที่นักแสดงจนถึงที่สุดก็เป็นได้



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ต.ค. 2557, 00:25:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ต.ค. 2557, 04:18:56 น.

จำนวนการเข้าชม : 1199





<< ๔.๒ สู่ฤกษ์โจร   ๔.๔ สู่ฤกษ์โจร >>
Chii 1 ต.ค. 2557, 00:40:37 น.
ผู้หญิงนั่น...
พี่เก้าไม่คุ้นไม่คล้ายบ้างเลยเรอะ
หรือไม่ทันพิจารณาก้อตายไปซะก่อน


อสิตา 1 ต.ค. 2557, 03:27:50 น.
ตายค่ะ จิตห่วงร่างด้วย


ภาวิน 1 ต.ค. 2557, 04:42:57 น.
ตายอีกครั้งแล้วสินะ กว่าจะตายครบเก้าครั้ง คนเขียนคงเหนื่อยแทบขาดใจ


ketza 1 ต.ค. 2557, 06:31:06 น.
ปรื๊อๆๆๆ ตายอีกครั้งแย้ววว พี่เก้างอนตัวนุ่มรึ นุ่มไม่ถนัดบู๊นะ ถนัดรักอย่างเดียว 555555


lovemuay 1 ต.ค. 2557, 06:34:29 น.
ผู้หญิงคนนั้น คงจะเป็นตัวนุ่มสินะ


yimyum 1 ต.ค. 2557, 06:49:34 น.
อ้าว สุวิชาเห็นตัวนุ่มด้วยหกรอเนี่ย


ใบบัวน่ารัก 1 ต.ค. 2557, 07:17:06 น.
ส่งพี่เสือไปช่วยดิ หรืองูดี มีหลายตัวนิ
เหลือ6 ชีวิตแล้วนะเก้า ไปถือศีล กินเจ งดเหล้าเข้าพรรษากัน
เหลืออีกไม่กี่วัน อดทนนะ จาก สสส. ไงสโลแกนดีออกนะ
ตัวนุ่มใส่บิ๊กอายด้วยปะเนี่ย นายชา ไปสบตาปิ้งๆ ไม่เสียแรง
ที่ส่งอายไรเน้อไปช่วยกรีดตา เพราะตาตัวนุ่มมองแต่เก้าอะดิ ว้ายๆๆ


พันธุ์แตงกวา 1 ต.ค. 2557, 07:27:52 น.
แม่หนูน้อยอุตส่าห์ไปตามเพื่อนมาช่วย น่ารักจริงๆ แบบนี้แสดงว่าไม่ได้งอนหรอกชิมิ

บร๊ะแล้ว หกแล้ว แบบนี้...ต้องเช็ดสินะ ไม่งั้นเดี๋ยวลื่นล้ม

ปริศนาของไอ้เอกที่เขียนฝันติดข้างฝาไว้ ว่าไม่ต้องตามหากูนี่ จะมีนัยสำคัญซ่อนเร้นอันใด รอติดตามตอนต่อไป


ริญจน์ธร 1 ต.ค. 2557, 10:12:52 น.


Sukhumvit66 1 ต.ค. 2557, 11:32:15 น.
กระหายใคร่รู้ อยากอ่านตอนต่อไปแบ้ววว


บุลินทร 1 ต.ค. 2557, 11:51:25 น.
มีตัวละครเด่นๆเหมือนลุงไผ่กับหม่องยีรึเปล่า พระเอกไม่เด่นเลย กิกิ


goldensun 1 ต.ค. 2557, 12:47:50 น.
โผล่มาอีกสาวแล้ว พร้อมกับชีวิตหายไปอีกหนึ่ง และเงื่อนงำที่ได้เพิ่มเติม
ตอนนี้ทั้งกลุ่มโดยเฉพาะเก้าเหมือนโดนปั่นหัวเลย อีกฝ่ายต้องการอะไร
ชิมลางดูฝีมือหรือคะ เก้าเลยยิ่งระแวงไปทั่วเลย
ไมว่างยังไง ง เกินค่ะ


นักอ่านเหนียวหนึบ 1 ต.ค. 2557, 15:32:42 น.
อั้ยยะ ตกลงยัยตัวนุ่มนี่ถอดจิตได้ช้ะ หรือ จริงๆ แล้วห้องสีเทานั่นคือที่อยู่ในเหรียญ เอ๊ะ ยังไง จินตนาการอลังการจิงๆ ตอนนี่ไม่รู้จะไปเชียร์ใคร จะสงสารใคร ก็เหมือนจะไม่มีใครน่าสงสารนินา มีแต่น่าระแวงทั้งนั้นเลยยย


ดังปัณณ์ 1 ต.ค. 2557, 18:58:53 น.
อ๊ะ โถ จำกันไม่ได้อีกต่างหาก ตัวนุ่มในร่างคนคงไม่ค่อยน่าดูสินะ แต่ตัวนุ่มยังไปตามคนมาช่วยเหนแมะล่ะ อิพี่เก้ายังทำเชิดใส่อีก เหลือแค่หกแล้วหนอ พี่เก้าเอ๊ย แต่ฉากนี้ขุ่นแม่กุเต่ยมันอ่ะ ชอบ เลือดกระสาด หุๆ

วันนี้ตามไม่ทันแล้วละ แต่อยากรู้ ตัวนุ่มทำไมอดีตปัจจุบันทำเวรกรรมไรไว้เนี่ย 555+ ต้องมาคอยง้ออิพี่เก้าเนี่ย


Zephyr 4 ต.ค. 2557, 22:06:11 น.
ร่างตัวนุ่มสินะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account