เชือกผูกตาย
หลังจากที่ขวัญนภาไปเกาหลีเพียงห้าวัน วิทยาแฟนของเธอได้รับอุบัติเหตุตกบันได เข้าห้องไอซียูไปหนึ่งสัปดาห์ แพทย์ตรวจพบว่าร่างกายไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด แต่เขาได้รับความสั่นสะเทือนทางสมองทำให้ความจำเสื่อม อาจเป็นเพราะความเครียดกับบางอย่างที่ทำให้เขาอยากจะลืมมัน ทางญาติของวิทยาก็แจ้งให้ขวัญนภาทราบ เธอรู้ดีว่าความเครียดของวิทยาคืออะไร มันเป็นเรื่องในอดีตว่าเขาเคยมีปากเสียงกับนักเลงกลุ่มหนึ่ง และเธอจะถูกดักทำร้ายเป็นประจำ เขาจึงดูแลเธอแทบไม่คราดสายตา แต่เมื่อเธอไปต่างประเทศทำให้เขาเป็นห่วงหนักขึ้นอย่างแน่นอน ประกอบกับเรื่องที่เขาตกบันไดด้วยยิ่งแล้วใหญ่ เธอไม่อยากให้วิทยาต้องเป็นห่วงเธออีกต่อไป เธอจึงเลือกที่จะไม่กลับไป และบอกญาติๆของเขาว่าอย่าบอกเขาเรื่องเกี่ยวกับเธอ และมันก็เป็นโอกาสดีของวิชาดา เธอแอบหลงรักวิทยามานานแล้ว แต่วิทยาไม่เคยเหลียวมองเธอเลย เธอจึงไปปรนบัติวิทยาอย่างดี หวังว่าเขาจะมีใจให้ แต่เปล่าเลย เขามองเธอแค่ฐานะผู้มีพระคุณเท่านั้น แม้ว่าจะมีความสะดวกสบายแค่ไหนแต่ในใจเขารู้สึกเหงา หลังจากที่แพทย์ให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว คุณสายใจแม่ของวิทยาได้ส่งวิทยาไปเกาหลีเพื่อหวังว่าเขาจะเจอกับขวัญนภา และแล้วพรหมลิขิตให้ทั้งสองพบกันอีกครั้งเพราะทั้งสองคนเรียนที่มหา'ลัยเดียวกัน ขวัญนภาจำวิทยาได้เธอพยายามเดินหนีแต่วิทยาก็คงตามเธอเหมือนได้พบกับสิ่งที่หามานาน สุดท้ายขวัญนภาทำให้วิทยาจำทุกอย่างได้อีกครั้ง ทั้งคู่จึงกลับมาเป็นแฟนกันอีกครั้ง เหมือนกับเชือกผูกตายที่ไม่มีวันแก้ได้
Tags: รัก ความจำ
ตอน: บทที่ 1 วันแห่งการพลัดพราก
#วิทยา
นอนไม่หลับเลย พรุ่งนี้ขวัญจะจากผมไปแล้ว ผมควรจะใช้เวลาที่เหลือคืนนี้ให้มีค่ามากกว่ามานอนกลิ้งในห้องนอนแบบนี้ ว่าแล้วผมก็เดินออกมาจากห้องนอน และเดินไปที่ห้องนอนของขวัญ
'หลับสบายเลยนะ'ผมมองไปที่หน้าเธออย่างเอ็นดูแต่เมื่อสังเกตดีๆพบว่า...
'อะไรกัน ขวัญร้องไห้อย่างงั้นหรอ'ผมตกใจไป เะราะก่อนที่เธอจะเข้าห้องนอน เธอดูมีความสุขนะ แล้วทำไมเธอถึงร้องไห้ล่ะ
ผมนั่งคิดอยู่ข้างๆเตียงที่ขวัญนอนอยู่ ด้วยความซนของสายตาทำให้ตาของผมไปปะทะกับหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนหัวเตียง
'ไดอารี่นี่นา อ่านนิดหน่อยคงไม่เสียมารยาทหรอกนะ'ว่าแล้วผมก็หยิบไดอารี่มาเปิดอ่าน ผมเหมือนได้เรียนรู้ตัวตนของคนตรงหน้า ที่จริงแล้วเธอไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่ผมคิดเลยในทางกลับกันเธออ่อนแอเสียด้วยซ้ำ ผมพอจะเดาสาเหตุที่เธอร้องไห้ได้แล้วล่ะ เพราะเธอไม่อยากจากผมไปน่ะสิ
เวลา 6:00 น.
"หาว~ หลับสบายดีจัง เฮ้ย!!"ขวัญตื่นขึ้นมาและต้องตกใจที่วิทยามานอนกอดเธอแบบนี้
"ว่าไง ตื่นแล้วหรอ"วิทยาพูดอย่างสะลึมสะลือ
"หลับอยู่มั้ง"ขวัญประชดเมื่อเห็นว่าวิทยาไม่มีทีท่าจะปล่อยเธอออกจากอ้อมแขนของเธอเลย
"งั้นก็นอนต่อนะ"
"ขวัญประชด!!"ขวัญตะโกนใส่หูวิทยา เหมือนวิธีนี้จะได้ผลนะ วิทยาสะดุ้งโหยงเลยล่ะ
"อูย~ แสบแก้วหู"
"อยากกวนขวัญเองนะ"ขวัญรีบลุกจากเตียงทันที
"ขอกอดอีกหนึ่งนาทีนะ"
"ไม่อะ ขวัญไม่เชื่อหรอกว่าแค่หนึ่งนาทีน่ะ"
"ชิ รู้ทันอีกแล้ว แฟนใครไม่รู้เนอะ"
ดูเหมือนว่าขวัญจะไม่พูดอะไรวิทยาจึงบอกต่อไปว่า
"เธอรีบไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะตกเครื่องเอานะ"
"อะ...อืม"ขวัญรู้สึกใจตกวูบเมื่อนึกถึงเรื่องที่เธอต้องจากวิทยาไป
หลังจากนั้นขวัญก็เดินไปที่ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำและแต่งตัว
เมื่อทำธุระอะไรเสร็จหมดแล้วขวัญก็เดินลงบันไดมาพร้อมสัมภาระ และให้วิทยาขับรถไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ
"จะไปแล้วหรอ"วิทยาจับข้อมือของขวัญไว้
"อืม"
"งั้นก็ โชคดีนะ"วิทยาปล่อยข้อมือขวัญออก
หลังจากกล่าวล่ำลากันเรียบร้อยแล้ว ขวัญก็เริ่มออกเดินทาง ซึ่งต้องผ่านการตรวจต่างๆตามลำดับ แต่ยังคงเหลือเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง จึงเดินช้อปปิ้งในสนามบินซึ่งเป็นสินค้าแบรนด์เนมทั้งนั้นเลย เล่นเอากระเป๋าเกือบฉีกเลยล่ะ
'สายการบิน T32-01 เตรียมขึ้นเครื่องได้แล้วค่ะ'เสียงประกาศดังก้องสนามบิน ซึ่งเป็นสายการบินที่ขวัญจะขึ้นไปเกาหลีนั่นเอง แต่ก่อนที่จะไป...
ตึ๊งนึง(เสียงข้อความเข้า)
-วิทยา-
(เดินทางโดยสวัสดิภาพ รีบๆไปจะได้รีบๆกลับมาเจอหน้าฉันนะ)
(อืม ขวัญจะไปแต่ตัวและจะรีบกลับมาหาวิทยานะ)
ทันใดนั้นเอง น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไม่ให้ไหลออกมานั้น ตอนนี้ไหลทะลักออกมาเหมือนเขื่อนแตกและแน่นอน ขวัญเป็นคนที่ไม่ชอบแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น เธอจึงรีบสวมแว่นดำและหมวกเดินขึ้นเครื่องบินโดยทันที
'อ่อนแออีกแล้วนะ ขวัญ ถ้าวิทยารู้ว่าเราร้องไห้เขาต้องเป็นห่วงแน่ๆ อย่าร้องไห้นะ'ขวัญบ่นพึมพำกับตัวเองในใจ พร้อมเอาแขนปาดน้ำตาเมื่อสังเกตเห็นว่าหลายคนมองมาที่เธอด้วยความหวาดกลัวอาจเป็นเพราะเธอปกปิดหน้าตาไว้ เธอจริงรีบๆเช็ดน้ำตาและถอดหมวกกับแว่นดำออก ทำให้คนรอบข้างดูคลายกังวลลง
'เอาล่ะ ได้เวลาออกเดินทางแล้ว!!อย่าท้อล่ะ ยัยหมาจนตรอก'ขวัญปลุกใจตัวเองด้วยคำแรงแต่มันก็ทำมห้เธอมีกำลังใจพุ่งสูงปรี๊ด
เมื่อขวัญไปแล้ว มีหรือที่วิทยาจะไม่เหงา หลังจากที่เขากับขวัญจากกันนั้น วิทยาก็รีบเดินกลับไปลานจอดรถ และขับรถกลับทันที เมื่อถึงบ้านแล้วเขาไม่ยอมกินอะไรเลย ถ้ากินก็กินแค่แมวดมจนคุณสายใจแม่ของเขาเป็นห่วงลูกชาย เมื่อสังเกตเห็นอาการเก็บตัวของเขา จึงเข้าไปคุยกับวิทยาในห้องนอนของเขา
"วิทยา ไม่ต้องเป็นห่วงหนูขวัญเขาหรอกนะ หนูขวัญเขาช่วยเหลือตัวเองได้อยู่แล้ว ตอนนี้น่ะเป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะลูก"
"..."วิทยาไม่ตอบอะไร แต่แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ นี่เขาร้องไห้อย่างงั้นหรอ
"ไม่เอาน่า ลูกเป็นผู้ชายนะ ลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้สิลูก ถ้าหนูขวัญมาเห็นลูกร้องไห้แบบนี้ เขาจะไม่สบายใจเอานะ"
"ผม...ผม..ฮึก"
"เฮ้อ ลูกนี่จริงๆเลยนะ อยู่ต่อหน้าคนอื่นน่ะเข้มแข็ง แต่อยู่กับแม่ทีไร ทำตัวเป็นเด็กทุกทีเลยนะ"คุณสายใจแซวลูกชาย"ถ้างั้นก็สงบสติอารมณ์ในห้องก่อนละกันนะ เดี๋ยวแม่ให้พี่คูนไปทำกับข้าวมากินด้วยกันนะ ถ้าสงบใจได้แล้วก็ลงมากินข้าวนะ แม่เป็นห่วง"
"ครับ"วิทยาพูดโดยไม่มองหน้าแม่ของเขาก่อนที่คุณสายใจจะออกไป
'ขวัญ ตอนนี้ฉันรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ'วิทยาคิดเหมือนอยากจะส่งจิตไปให้ถึงขวัญถ้าเขาทำได้
"ฉันจะรอนะ"เขาบ่นเบาๆ ด้วยความเหนื่อยเขาจึงหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ก๊อกๆๆ
"ไม่ได้ล๊อกครับ"
แกร๊ก
"แม่มีอะไรหรอครับ"
"แม่เห็นลูกไม่ลงไปกินข้าวซักทีก็เลยเป็นห่วงน่ะ ตอนนี้พี่คูนเขาเก็บจานไปล้างหมดแล้ว แม่เลยต้มโจ้กมาให้น่ะ กินให้หมดนะ"
"ไม่เป็นไรครับ ผมไม่หิว"
"จะไม่เป็นไรได้ยังไง ลูกไม่ได้ออกมาจากห้องตั้งแต่กลับมาแล้วนะ"
"..."
"แม่เป็นห่วงลูกจริงๆ กินเถอะนะ"
"ครับ"ว่าแล้วแม่ของเขาก็เดินออกไป และเขาก็มองชามโจ้กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน และหยิบมาตักกินจนหมดและนำไปวางไว้ที่เดิม และเขาก็หลับไปเพราะความเหนื่อยรวมกับสภาพที่ดูไม่ได้ของเขา
'หวังว่าพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้นะ'
นอนไม่หลับเลย พรุ่งนี้ขวัญจะจากผมไปแล้ว ผมควรจะใช้เวลาที่เหลือคืนนี้ให้มีค่ามากกว่ามานอนกลิ้งในห้องนอนแบบนี้ ว่าแล้วผมก็เดินออกมาจากห้องนอน และเดินไปที่ห้องนอนของขวัญ
'หลับสบายเลยนะ'ผมมองไปที่หน้าเธออย่างเอ็นดูแต่เมื่อสังเกตดีๆพบว่า...
'อะไรกัน ขวัญร้องไห้อย่างงั้นหรอ'ผมตกใจไป เะราะก่อนที่เธอจะเข้าห้องนอน เธอดูมีความสุขนะ แล้วทำไมเธอถึงร้องไห้ล่ะ
ผมนั่งคิดอยู่ข้างๆเตียงที่ขวัญนอนอยู่ ด้วยความซนของสายตาทำให้ตาของผมไปปะทะกับหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนหัวเตียง
'ไดอารี่นี่นา อ่านนิดหน่อยคงไม่เสียมารยาทหรอกนะ'ว่าแล้วผมก็หยิบไดอารี่มาเปิดอ่าน ผมเหมือนได้เรียนรู้ตัวตนของคนตรงหน้า ที่จริงแล้วเธอไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่ผมคิดเลยในทางกลับกันเธออ่อนแอเสียด้วยซ้ำ ผมพอจะเดาสาเหตุที่เธอร้องไห้ได้แล้วล่ะ เพราะเธอไม่อยากจากผมไปน่ะสิ
เวลา 6:00 น.
"หาว~ หลับสบายดีจัง เฮ้ย!!"ขวัญตื่นขึ้นมาและต้องตกใจที่วิทยามานอนกอดเธอแบบนี้
"ว่าไง ตื่นแล้วหรอ"วิทยาพูดอย่างสะลึมสะลือ
"หลับอยู่มั้ง"ขวัญประชดเมื่อเห็นว่าวิทยาไม่มีทีท่าจะปล่อยเธอออกจากอ้อมแขนของเธอเลย
"งั้นก็นอนต่อนะ"
"ขวัญประชด!!"ขวัญตะโกนใส่หูวิทยา เหมือนวิธีนี้จะได้ผลนะ วิทยาสะดุ้งโหยงเลยล่ะ
"อูย~ แสบแก้วหู"
"อยากกวนขวัญเองนะ"ขวัญรีบลุกจากเตียงทันที
"ขอกอดอีกหนึ่งนาทีนะ"
"ไม่อะ ขวัญไม่เชื่อหรอกว่าแค่หนึ่งนาทีน่ะ"
"ชิ รู้ทันอีกแล้ว แฟนใครไม่รู้เนอะ"
ดูเหมือนว่าขวัญจะไม่พูดอะไรวิทยาจึงบอกต่อไปว่า
"เธอรีบไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะตกเครื่องเอานะ"
"อะ...อืม"ขวัญรู้สึกใจตกวูบเมื่อนึกถึงเรื่องที่เธอต้องจากวิทยาไป
หลังจากนั้นขวัญก็เดินไปที่ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำและแต่งตัว
เมื่อทำธุระอะไรเสร็จหมดแล้วขวัญก็เดินลงบันไดมาพร้อมสัมภาระ และให้วิทยาขับรถไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ
"จะไปแล้วหรอ"วิทยาจับข้อมือของขวัญไว้
"อืม"
"งั้นก็ โชคดีนะ"วิทยาปล่อยข้อมือขวัญออก
หลังจากกล่าวล่ำลากันเรียบร้อยแล้ว ขวัญก็เริ่มออกเดินทาง ซึ่งต้องผ่านการตรวจต่างๆตามลำดับ แต่ยังคงเหลือเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง จึงเดินช้อปปิ้งในสนามบินซึ่งเป็นสินค้าแบรนด์เนมทั้งนั้นเลย เล่นเอากระเป๋าเกือบฉีกเลยล่ะ
'สายการบิน T32-01 เตรียมขึ้นเครื่องได้แล้วค่ะ'เสียงประกาศดังก้องสนามบิน ซึ่งเป็นสายการบินที่ขวัญจะขึ้นไปเกาหลีนั่นเอง แต่ก่อนที่จะไป...
ตึ๊งนึง(เสียงข้อความเข้า)
-วิทยา-
(เดินทางโดยสวัสดิภาพ รีบๆไปจะได้รีบๆกลับมาเจอหน้าฉันนะ)
(อืม ขวัญจะไปแต่ตัวและจะรีบกลับมาหาวิทยานะ)
ทันใดนั้นเอง น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไม่ให้ไหลออกมานั้น ตอนนี้ไหลทะลักออกมาเหมือนเขื่อนแตกและแน่นอน ขวัญเป็นคนที่ไม่ชอบแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น เธอจึงรีบสวมแว่นดำและหมวกเดินขึ้นเครื่องบินโดยทันที
'อ่อนแออีกแล้วนะ ขวัญ ถ้าวิทยารู้ว่าเราร้องไห้เขาต้องเป็นห่วงแน่ๆ อย่าร้องไห้นะ'ขวัญบ่นพึมพำกับตัวเองในใจ พร้อมเอาแขนปาดน้ำตาเมื่อสังเกตเห็นว่าหลายคนมองมาที่เธอด้วยความหวาดกลัวอาจเป็นเพราะเธอปกปิดหน้าตาไว้ เธอจริงรีบๆเช็ดน้ำตาและถอดหมวกกับแว่นดำออก ทำให้คนรอบข้างดูคลายกังวลลง
'เอาล่ะ ได้เวลาออกเดินทางแล้ว!!อย่าท้อล่ะ ยัยหมาจนตรอก'ขวัญปลุกใจตัวเองด้วยคำแรงแต่มันก็ทำมห้เธอมีกำลังใจพุ่งสูงปรี๊ด
เมื่อขวัญไปแล้ว มีหรือที่วิทยาจะไม่เหงา หลังจากที่เขากับขวัญจากกันนั้น วิทยาก็รีบเดินกลับไปลานจอดรถ และขับรถกลับทันที เมื่อถึงบ้านแล้วเขาไม่ยอมกินอะไรเลย ถ้ากินก็กินแค่แมวดมจนคุณสายใจแม่ของเขาเป็นห่วงลูกชาย เมื่อสังเกตเห็นอาการเก็บตัวของเขา จึงเข้าไปคุยกับวิทยาในห้องนอนของเขา
"วิทยา ไม่ต้องเป็นห่วงหนูขวัญเขาหรอกนะ หนูขวัญเขาช่วยเหลือตัวเองได้อยู่แล้ว ตอนนี้น่ะเป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะลูก"
"..."วิทยาไม่ตอบอะไร แต่แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ นี่เขาร้องไห้อย่างงั้นหรอ
"ไม่เอาน่า ลูกเป็นผู้ชายนะ ลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้สิลูก ถ้าหนูขวัญมาเห็นลูกร้องไห้แบบนี้ เขาจะไม่สบายใจเอานะ"
"ผม...ผม..ฮึก"
"เฮ้อ ลูกนี่จริงๆเลยนะ อยู่ต่อหน้าคนอื่นน่ะเข้มแข็ง แต่อยู่กับแม่ทีไร ทำตัวเป็นเด็กทุกทีเลยนะ"คุณสายใจแซวลูกชาย"ถ้างั้นก็สงบสติอารมณ์ในห้องก่อนละกันนะ เดี๋ยวแม่ให้พี่คูนไปทำกับข้าวมากินด้วยกันนะ ถ้าสงบใจได้แล้วก็ลงมากินข้าวนะ แม่เป็นห่วง"
"ครับ"วิทยาพูดโดยไม่มองหน้าแม่ของเขาก่อนที่คุณสายใจจะออกไป
'ขวัญ ตอนนี้ฉันรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ'วิทยาคิดเหมือนอยากจะส่งจิตไปให้ถึงขวัญถ้าเขาทำได้
"ฉันจะรอนะ"เขาบ่นเบาๆ ด้วยความเหนื่อยเขาจึงหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ก๊อกๆๆ
"ไม่ได้ล๊อกครับ"
แกร๊ก
"แม่มีอะไรหรอครับ"
"แม่เห็นลูกไม่ลงไปกินข้าวซักทีก็เลยเป็นห่วงน่ะ ตอนนี้พี่คูนเขาเก็บจานไปล้างหมดแล้ว แม่เลยต้มโจ้กมาให้น่ะ กินให้หมดนะ"
"ไม่เป็นไรครับ ผมไม่หิว"
"จะไม่เป็นไรได้ยังไง ลูกไม่ได้ออกมาจากห้องตั้งแต่กลับมาแล้วนะ"
"..."
"แม่เป็นห่วงลูกจริงๆ กินเถอะนะ"
"ครับ"ว่าแล้วแม่ของเขาก็เดินออกไป และเขาก็มองชามโจ้กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน และหยิบมาตักกินจนหมดและนำไปวางไว้ที่เดิม และเขาก็หลับไปเพราะความเหนื่อยรวมกับสภาพที่ดูไม่ได้ของเขา
'หวังว่าพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้นะ'
เมโลล่า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ต.ค. 2557, 15:15:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ต.ค. 2557, 15:26:42 น.
จำนวนการเข้าชม : 794
<< บทนำ | บทที่ 2 อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด >> |
yimyum 2 ต.ค. 2557, 15:35:42 น.
วิทรันสู้ๆ เอ๋ ไม่ใช่เด่่ วิทยาสู้ๆ รันรันสู้ๆ
วิทรันสู้ๆ เอ๋ ไม่ใช่เด่่ วิทยาสู้ๆ รันรันสู้ๆ
เมโลล่า 2 ต.ค. 2557, 20:47:25 น.
มามุกไหนเนี่ย -_-;
มามุกไหนเนี่ย -_-;
yimyum 3 ต.ค. 2557, 06:05:40 น.
5555 รันรันเงิบเลย ^^
5555 รันรันเงิบเลย ^^