สัญญารักพรางใจ
คิมหันต์ไม่เคยเชื่อเรื่องพรหมบันดาล โชคชะตา ทำบุญร่วมกันมา
เขาเชื่อว่าทุกอย่างอยู่ที่การกระทำ
หากไม่มีเหตุการณ์นั้นเขาจะแต่งงานกับมัทนาเพราะเหตุผลอะไร

Tags: ความรัก สัญญา ความลับ

ตอน: ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง

มัทนาเพิ่งกลับมาจากไปซื้ออะไหล่ในเมือง พอเห็นพี่ชายหน้าซีดๆ เลยขอให้ไปพักที่บ้านสวน ส่วนเธออยู่โยงเฝ้าอู่ ยังไม่มีใครสังเกตเห็นว่าลำต้นของต้นหูกวางมีรอยกระสุนชำแรกผ่าน ไม่มีตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุ เลยไม่แน่ใจว่ามีการแจ้งความหรือไม่
ตอนบ่ายยังไม่มีลูกค้า มีแต่รถมอเตอร์ไซค์สองคันรอเจ้าของมารับไปเพราะซ่อมเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อวาน อะไหล่ที่เพิ่งซื้อมาถูกนำเข้าไปเก็บในชั้น ระหว่างนี้เธอยังช่วยพี่ชายได้ แต่ถ้าได้งานเมื่อไหร่ก็คงต้องปิดอู่ชั่วคราวจนกว่าบำรุงจะถอดเฝือกออก หรือไม่ก็ทำแต่พอไหว
อู่เงียบ มัทนาเลยเปิดโน้ตบุ๊กที่เก็บเงินซื้อตอนเรียนมหา’ลัยแล้วหางานต่อ จดหมายสมัครงานกับ Resume มีอยู่ในโปรไฟล์ของแต่ละเว็บที่สมัครไว้แล้ว เธอสมัครงานไปอีกสองที หลังจากนั้นก็เปิดเมล์เผื่อว่า ‘อังเคิลเค’ จะติดต่อมา เป็นเรื่องดีๆ อีกเรื่องในชีวิตของเธอหลังจากมีการสูญเสียครั้งใหญ่
อังเคิลเคเหมือนเทวดาที่มีอยู่จริง ในยามที่บ้านของเธอสูญเสียและถูกคนใกล้ชิดโกง ลำพังผู้หญิงสองคนและเธอก็ยังเด็ก ส่วนพี่ไม้เปิดอู่ทำงานส่งเธอเรียนแล้วยังต้องช่วยกันใช้หนี้ ในเวลานั้นเองอังเคิลเคได้ติดต่อมาทางเมล์ เธอคิดว่าเป็นพวกมิจฉาชีพก็เลยไม่ได้สนใจ แต่เมล์ยังส่งมาเรื่อยๆ จนเกือบหนึ่งเดือนผ่านไป เธอถึงยอมตอบเมล์และถามว่าต้องการอะไร อังเคิลเคตอบว่าไม่ได้ต้องการอะไร แค่อยากช่วยในฐานะที่รู้จักคนในครอบครัวของเธอเท่านั้น
แม่ตัดใจขายที่เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ อังเคิลเคส่งตัวแทนมาเป็นธุระให้ เธอกับแม่ยังแปลกใจว่าคนแปลกหน้ามาช่วยกันเพราะอะไร เวลาได้พิสูจน์ว่าการเข้ามาของคนแปลกหน้าไม่ได้มีอะไรแอบแฝง เธอจึงติดต่อกับอังเคิลเคเรื่อยมาจนถึงตอนนี้ หนี้ก้อนนั้นหมดไปนานแล้วก็จริง แต่อังเคิลเคยังคงเป็นผู้มีพระคุณที่คอยช่วยเธอเสมอ ทั้งที่ไม่เคยพบกันสักครั้ง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาอย่างไร แต่เธอกลับรักเขาเสมือนญาติผู้ใหญ่ใจดี อังเคิลเคคงอยู่ไกล อาจแก่มากแล้ว บางทีอาจจะอยู่ต่างประเทศ ทำให้เราพบกันลำบาก
‘ขอบใจสำหรับของขวัญ ขอให้สิ่งดีงามเกิดขึ้นกับเด็กจิตใจดีอย่างหนูมัทนะ ลุงอวยพร’
สัปดาห์ก่อนมัทนาส่งของไปยังตู้ไปรษณีย์ที่อังเคิลเคบอกว่าจะมีคนส่งต่อไปให้ตนอีกที เธอจะส่งของขวัญไปให้อังเคิลเคทุกเดือน ไม่มีอะไรต้องซื้อหา บางครั้งเป็นขนมแห้งๆ ที่เก็บไว้กินได้นาน หรือไม่ก็ของประดิษฐ์ทำมืออย่างที่ใส่รูป แจกันดินเผา สิบเอ็ดเดือนแล้วที่เธอกับอังเคิลเคคุยกันผ่านเมล์แบบนี้ เธอจะส่งเมล์หาทุกๆ สามวัน หรืออาจจะบ่อยกว่านั้น จะมีเมล์ตอบกลับมาเสมอ เป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้โลกใบนี้ไม่โหดร้ายเกินไป

‘มัทรักอังเคิลเคที่สุดเลยค่ะ ของขวัญมีค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบสิ่งที่อังเคิลเคทำให้กับมัท จนถึงตอนนี้มัทไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ไม่รู้จักกันถึงดีกับมัทและครอบครัวได้ขนาดนี้ โดยไม่เรียกร้องขอสิ่งตอบแทนเลยสักครั้ง บอกได้เสมอนะคะถ้าวันใดก็ตามที่อังเคิลเคต้องการให้มัททำอะไร มัทจะทำให้โดยไม่ถามสักคำ
รักเสมอ มัทนา’

เธอแนบไฟล์รูปวันที่ไปเฮฮากับเพื่อนในวันสุดท้ายของการสอบ จากวันแรกที่รู้จักกันผ่านตัวหนังสือจนถึงวันนี้ก็เกือบปีแล้ว บางทีเรื่องมหัศจรรย์อาจเกิดกับเธอเพื่อชดเชยความสูญเสียในอดีตกระมัง เธอเชื่อว่าโลกใบนี้จะนำสิ่งดีๆ มาสู่ชีวิต ส่วนสิ่งที่ไม่ดีก็แค่มองผ่านไป ว่าแต่รถที่เพิ่งขับมาจอดหน้าอู่ แล้วมีคนหน้าตาคุ้นๆ ก้าวลงมานั้น โลกกำลังทำร้ายเธออยู่ใช่ไหม
“พวกคุณอีกแล้วเหรอ”
ไม่เคยมีใครทำเสียงแบบนี้ใส่คิมหันต์มาก่อน แล้วยังคำพูด สีหน้า บอกชัดว่าไม่อยากเสวนาด้วย ถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นเขาคงไม่อยากฟังเสียงแบบนี้เหมือนกัน
ปวรทำหน้าเหมือนอยากบอกน้องทอมดวงซวยว่าไม่ควรทำให้บอสของเขาโมโห เดี๋ยวจะลำบากเปล่าๆ แต่พอมองหน้าบอสแบบผ่านๆ ไม่กล้าจ้อง คงไม่มีอะไรน่าห่วงเท่าไหร่...มั้ง
“ฉันมีเรื่องจะถามเธอไม่กี่คำ แล้วก็จะไป ไม่อยากมารบกวนเวลาทำงานของเธอนักหรอก”
“ก็ถามมาสิ เห็นไหมว่าฉันยุ่ง”
คิมหันต์เลิกคิ้วใส่ เมื่อวานที่เข้าใจว่ายังเด็กคงไม่ใช่ จากท่าทาง การแต่งตัวและสำเนียงการพูด ดูออกว่าเป็นผู้หญิง แต่ถ้าห้าวขนาดสะพายปืนไปหาใครได้คงสรุปได้ง่ายๆ ว่าเขาพบทอมกวนโมโหเข้าแล้ว แล้วนี่ยุ่งกับการตบยุง ปัดฝุ่น เมาน้ำลายเพราะใกล้หลับน่ะสิ ไม่เห็นมีลูกค้าสักคน
“ฉันมาถามหาคน เธอรู้จักคนละแวกนี้ที่ชื่อบุษบันบ้างไหม”
เรียวคิ้วเข้มขมวดใส่คนถาม “เคยได้ยินนะ คุณมาถามหาทำไม”
“ธุระส่วนตัว แล้วเธอช่วยบอกทางได้ไหม ฉันจะให้ค่าเสียเวลา”
มัทนาแกล้งถอนใจ แผนการมีในใจเรียบร้อยแล้ว แต่พอได้ฟังอย่างนี้ไอ้ที่รู้สึกผิดอยู่หน่อยๆ เลยหายเรียบ เมื่อวานเธอยังเห็นหน้าเขาไม่ชัดเท่าไหร่ พอเห็นชัดๆ ก็หน้าตาดี หน้าขาวอย่างกับไม่เคยออกแดด ริมมีปากสวยจนผู้หญิงยังอาย ดวงตาสีดำสนิทของเขาดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ สรุปรวมๆ ก็หล่อดี แต่หน้าหงิกจนความหล่อลดลงไปเศษสองส่วนสาม รวมความแล้วไม่ถูกชะตาเหมือนเดิม
“นอกจากเสนอเงิน เสนออย่างอื่นเป็นไหมคุณน่ะ”
“แล้วเธออยากได้อะไรเป็นการตอบแทน”
“โห! แค่นี้ก็ต้องบอก เวลามีคนช่วยคุณ คุณสะบัดบ๊อบใส่แล้วหายกันหรือไง” มัทนาส่ายหน้ากวนเบื้องล่างแต่พองาม เกิดเขาองค์ลงจับเธอใส่จระเข้ฟาดหางได้หมดสนุกกันพอดี
“ก็ลองให้ในสิ่งที่ฉันต้องการมาก่อนสิ”
“รอเดี๋ยวนะ”
มัทนาเดินไปหยิบกระดาษมาเขียนแผนที่ ปวรค่อยโล่งอกนึกว่าจะต้องพาใครไปโรงพยาบาลเสียแล้ว รหัทเงียบมาตั้งแต่ต้นและออกไปสังเกตการณ์กันประวัติศาสตร์ซ้ำรอยมาตั้งแต่จอดรถ จากยืนรอจนต้องนั่งรอเพราะแผนที่คิดว่าคงมีแค่แผ่นเดียวค่อยๆ เพิ่มเป็นสามแผน ก่อนจะตามด้วยแผ่นที่สี่ คนวาดแผนที่ก็วาดอย่างเมามัน พอหนำใจก็วางมือส่งกระดาษสี่แผ่นให้คิมหันต์หน้าตาซื่อที่สุดในชีวิต
“นี่แหละแผนที่ไปบ้านคนชื่อบุษบัน”
“หมดนี่เลยเหรอ” แค่ชุมชนไม่ใหญ่อะไร ใครจะไปคิดว่าจะมีคนชื่อบุษบันตั้งสี่คน
“ก็ใช่น่ะสิ”
“ขอบใจ” คิมหันต์เอ่ย “แบบนี้ใช่ไหมที่เธอต้องการ”
มัทนายิ้มกลบเกลื่อนแผนร้าย ยืนมองคนแปลกหน้าที่เจอกันครั้งแรกก็หนีตายด้วยกัน เธอรู้ว่าทำแบบนี้มันไม่ดี แต่จู่ๆ คนแปลกหน้ามาถามคนแปลกหน้าเหมือนกันจะไปไว้ใจได้อย่างไรกันเล่า อย่างน้อยในนั้นก็มีคนชื่อบุษบันอยู่จริงๆ ล่ะน่า เพียงแต่ว่า...ไม่อยากคิดแทน เดียวพวกนั้นคงรู้เอง

การหาบุษบันไม่ง่ายแม้ว่าจะมีแผนที่ซึ่งดูง่ายและปวรไปได้ถูกโดยที่ไม่หลง แต่บุษบันคนแรกตายไปแล้ว บุษบันคนที่สองแก่จำอะไรไม่ได้ตาฝ้าฟาง ไม่มีบุษบันคนที่สามและสี่ เพราะแผนที่พาคิมหันต์ไปยังวัดและสถานีตำรวจ นึกอยู่แล้วว่าสายตาของยัยทอมนั่นแฝงความสะใจเอาไว้ เขาคงให้โอกาสคนบางคนมากไป แทนที่จะเชื่อความรู้สึกของตัวเองว่างานนี้ไม่น่าจะได้รับการช่วยเหลืออย่างจริงใจ
“สงสัยเราจะถูกหลอกแล้วล่ะครับ” รหัทเอ่ยทั้งโกรธทั้งขำ พวกเขาเสียเวลาเกือบสองชั่วโมงเพราะแผนที่บ้าๆ ที่ได้มา
“ถ้างั้นวันนี้ผมคงไม่รีบกลับ” คิมหันต์ยิ้มร้าย
ปวรหัวเราะอยู่ในลำคอ ยัยทอมเอ๊ย แหย่ใครไม่แหย่มาแหย่คนอย่างคิมหันต์ แล้วคำสั่งที่เขาได้รับก็ช่างแทบทรวงเหลือเกิน งานนี้เขาคงได้เห็นคนร้ายกาจพอกันหน้าเหวอไม่เกินชั่วโมงนับจากนี้ นับถอยหลังได้เลย

มัทนาขับลุงริชาร์ดไปตลาด ถึงจะเก่า แต่ชินมือ แล้วที่สำคัญยังไม่มีเงินซื้อคันใหม่ แต่ถึงมีเงินซื้อคันใหม่ ยังไงก็ไม่ทิ้งรถคันนี้เพราะพ่อรักมาก ถึงจะไม่เท่าอีกคันที่พังไปแล้วก็ตาม ถ้าได้งานแล้วคงต้องหาซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนให้เสียที
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหญิงสาวก็ออกมาจากตลาดถือของมาพะรุงพะรัง เอาใจคนป่วยเสียหน่อย แล้วก็ขนมครกให้ยายอีกกระทงหนึ่ง ที่เหลือเป็นของสดอีกหลายอย่าง
รถเก่าแต่สีดูใหม่เพราะสองพี่น้องช่วยกันทำขับเข้ามาตามทางดินที่มีหญ้าขึ้นประปรายระหว่างกลางในเวลาเกือบ หกโมงเย็น ทว่าที่จอดรถประจำกลับไม่ว่างเมื่อมีรถคันหรูสีดำจำง่ายของใครบางคนมาจอด เธอลงจากรถพร้อมของที่ซื้อมาแล้วไปลองมองๆ ดูในรถคันหรูกลับไม่เห็นใคร ด้วยความกังวลจึงรีบวิ่งขึ้นบันไดขึ้นไปบนเรือน แต่กลับไม่เห็นใครที่ชานเรือนสักคน
“ไปไหนกันหมด” หญิงสาวตะโกนหา
พิมพ์ใจแง้มบานประตูแล้วตะโกนบอก ในมือถือตะบันหมากกำลังจะตำหมากกิน
“แม่อรอยู่ในสวนมะม่วงกับลูกค้าน่ะเจ้ามัท ส่วนเจ้าไม้กินยาแล้วหลับไปตั้งแต่บ่าย อีกเดี๋ยวค่อยไปปลุกคงระบมไปทั้งตัว”
มัทนาเข่าแทบอ่อนเดินมากอดยายแล้ววางของที่ซื้อมาไว้ตรงหน้าประตู เธอไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย นี่ละน้าไปแกล้งเขาไว้ พอมาตอนนี้ก็กลัวว่าเขาจะมาเอาคืนจนคิดไปไกล ทั้งๆ ที่ไม่น่ามีอะไรแท้ๆ แต่ไปดูให้แน่ใจดีกว่า
“ถ้างั้นเดี๋ยวมัทมานะคะยาย”
หญิงสาววิ่งลงบันไดแล้วเข้าไปในสวนทันที เผือกน่าจะอยู่กับแม่ คงเบาใจได้ ถ้ามีเรื่องอะไรเจ้านี่คงส่งเสียงแปดหลอด พอวิ่งมาได้ครึ่งทางเธอละล้าละลัง
“วิ่งกลับไปเอาปืนดีไหม ไม่ได้ๆ เดี๋ยวแม่ด่า มาทำไมเนี่ย”
เสียงของพิมพ์อรราวกับ GPS บอกทางทำให้มัทนาไม่เสียเวลา นั่นไงเห็นแล้ว แม่กำลังสอยมะม่วง โดยมีเผือกคอยถือตะกร้าให้ ในขณะที่อีตาหน้าโหดอยู่ตรงนั้นเหมือนกัน ทำยังไงดี
“คุณมาทำไม หรือว่าจะมาเอาคืน” เธอใส่ก่อนทันที
คิมหันต์ทำหน้าเฉยให้คนที่มาถึงก็ใส่ไม่ยั้ง วัวสันหลังหวะ ทำผิดไว้เลยกลัวจนวิ่งขาแทบขวิดกันเลยล่ะสิท่า
“ฉันไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น บ้านเธอมีสวนผมไม้ คิดว่าฉันจะมาซื้ออะไรได้ล่ะ แล้วไหนๆ มันก็เย็นแล้ว คุณป้ายังใจดีชวนฉันกินข้าว ใช่ไหมเผือก”
“ครับพี่คิม” เผือกยิ้มแหยๆ ให้ลูกพี่
“ขาดทุนนะแม่ ขายผลไม้ไม่กี่ร้อย แต่ต้องเลี้ยงแขกตั้งสามคน” ถ้าอีตาหน้าโหดอยู่ตรงนี้ แล้วอีกสองคนล่ะอยู่ที่ไหน กลุ้มใจจะบ้า มาทำไมกันก็ไม่รู้
พิมพ์อรกำลังจะตอบลูกสาว แต่ไม่ทันแขกที่เอ่ยขึ้นเสียก่อน
“ฉันไม่มากินอย่างเดียวสักหน่อย ฉันตรงไปตรงมา ไม่เหมือนเธอ วันนี้ฉันไปทักทายเจ้าของบ้านในแผนที่มาด้วยนะ ไม่ยักรู้ว่าเด็กสมัยนี้สมองตายไปเสียครึ่ง จำผิดไปไกลหรือจงใจ สงสัยจะอย่างหลัง”
“อะไรกันหรือลูก”
คนก่อเรื่องก่อนหน้าจ๋อยทั้งถูกว่ากลับ แถมยังถูกแม่ถาม ถ้าตอบไม่สวยมีหวังถูกอบรมผสมโกรธด้วย ก็ใครจะไปคิดว่าอีตานี่จะตามมา
“ไม่มีอะไรค่ะ ถ้างั้นแม่ไปทำกับข้าวแล้วกันนะคะ เดี๋ยวมัทสอยมะม่วงต่อให้เอง”
“ดีเหมือนกัน” พิมพ์อรส่งไม้สอยให้ลูกสาวอยากรีบไปทำกับข้าวเพราะมันชักจะเริ่มมืดแล้ว ไม่อยากให้แขกแขวนท้องรอนาน
มัทนารอจนแม่เดินกลับไปแล้วก็หันมาค้อนใส่คนรู้ทัน เผือกชักปอดๆ เลยมายืนใกล้ๆ ลูกพี่
“คุณจะเอายังไงบอกมาตรงๆ เลย”
“เธอหลอกฉันทำไม” เขาย้อนกอดอกใส่หน้าตาเอาเรื่อง
“ก็คุณไม่น่าไว้ใจ”
ถ้าเป็นเหตุผลนี้ก็พอรับได้ แต่มันมีวิธีอื่นไม่ใช่หรือไง “ทีหลังก็บอกว่าไม่รู้ ไม่ใช่ทำแบบนั้น บอกตรงๆ ถ้าเธอไม่ใช่ผู้หญิง ฉันไม่ปล่อยให้มาฉอดๆ ใส่แบบนี้แน่”
“ทำไม ถ้าฉันเป็นผู้ชายคุณจะทำไม”
ถึงถามไปทั้งหน้าและน้ำเสียงแสนมั่นใจ แต่มือกลับกำด้ามไม้สอยไว้แน่น ถ้ากระโจนเข้าใส่ เธอฟาดไม่เลี้ยงเหมือนกัน เจอกันมาสามครั้งชื่อยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ใครจะไปไว้ใจลง
“ท่าทางฉันเหมือนผู้ชายทำงานออฟฟิศธรรมดาหรือไง” คิมหันต์ถอนใจยังไม่ได้โมโห แค่หมั่นไส้
คนก่อเรื่องเลิกคิ้วมองคิมหันต์อย่างพิจารณาอีกครั้ง โดยรวมนอกจากหน้าตาที่ไปวัดตอนเที่ยงๆ ได้ไม่อายใครแล้ว การแต่งตัวของเขาก็หรูเกินกว่าจะเป็นพนักงานธรรมดาๆ แต่เหมือนที่เคยเห็นในหนังพวกมาเฟียเก็บค่าคุ้มครองมากกว่า
“อืม เหมือนพวกมาเฟีย แต่กิ๊กก๊อกชะมัดถ้าเป็นมาเฟียจริงๆ ลูกน้องมีสองคนอย่างทำมาอวดเลยน่า”
“ช่างเถอะ เธอไม่รู้ ฉันจะไม่ถือสา” คิมหันต์ถอนใจเกือบๆ จะระอา “เสร็จหรือยังล่ะ”
“เกือบแล้ว ลูกน้องคุณล่ะไปไหน ไม่อยู่ แต่รถอยู่” เธอถามไปพลางรีบสอยมะม่วงให้ได้สามกิโลกรัมตามที่เผือกกระซิบบอก
“อยู่ในครัว เธอคิดว่าฉันจะขอใครกินฟรีๆ ให้ถูกด่าลับหลังงั้นเรอะ ฝันไปเถอะ จำไว้ อย่าทำให้ฉันสนใจไม่ว่าใครก็ตามที่ทำดีกับฉัน ฉันตอบแทนอย่างจริงใจ แต่ถ้าทำไม่ดี ฉันตามและเอาคืนอย่างสาสม”
มัทนาหันไปสบตาสีดำสนิทคู่นั้น เป็นครั้งแรกตั้งแต่พบกันที่เธอรู้สึกกลัวเขา น้ำเสียง สายตาและคำพูดไม่มีอะไรที่เรียกว่าล้อเล่นได้เลย เขาเป็นมาเฟียจริงๆ หรือเปล่า ไม่ละมั้ง ถ้าเป็นมาเฟียจริงๆ คงยิงเธอทิ้งไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ ว่าแต่เขาเป็นใคร เผือกเรียกว่าคิม แล้วคิมอะไรหว่า อยากถาม แต่ไม่อยากเสียฟอร์ม



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ต.ค. 2557, 09:21:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ต.ค. 2557, 09:21:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 1221





<< ตอนที่ 2 ครึ่งแรก   ตอนที่ 3 >>
แว่นใส 10 ต.ค. 2557, 13:02:09 น.
เรื่องบังเอิญมีเยอะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account