"จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อแก๊งตุ๊ดสุดแซ่บวิญญาณทะลุมิติไปอยู่ในร่าง4สาวงาม "โอ๊ย! ผู้ชายคนนั้นก็ดูดี คนนี้ก็อยากได้" แต่ถ้าไม่ใช่พี่ก็ฝ่ายตรงข้ามซะงั้น ถ้าไม่เลือกรักต้องห้ามก็ต้องจับศัตรูกดสถานเดียวละวะ!!!"

คำนำ

นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นมาเพราะคำมั่นสัญญาที่มีต่อสหาย
ทุกตัวอักษรจึงเกิดจากความรักและความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง
หากมีข้อผิดพลาดหรือถ้อยคำไม่เหมาะสม ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่นเพศที่สามแต่อย่างใด
ในมุมมองส่วนตัวแล้ว พวกเธอช่างสดใส โดดเด่น เก่งกาจ
บางคนก็น้ำใจงามจนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เหนือสิ่งอื่นใด ถึงจะแตกต่างแต่พวกเธอก็เป็นคนเหมือนกัน
แล้วทำไมจึงต้องปิดกั้นหวงห้ามไม่ให้มาเป็นตัวเอกในนิยายด้วยเล่า?
เชื่อเถอะ หากคุณได้พิจารณาพวกเธออย่างลึกซึ้ง
ไม่แน่หรอกว่าคุณอาจจะเผลอใจหลงรัก ‘กะเทย’ ก็เป็นได้

ทิ้งท้ายแด่เพื่อนสาว
ขอบคุณสำหรับแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่
สำหรับฉัน พวกแกก็เหมือนกับดอกไม้ มองทีไรอดยิ้มไม่ได้ทุกที
ถึงบางทีฉันจะว่าแกเป็นดอกอุตพิด แต่รู้อะไรไหม?
‘ฉันโคตรรักอุตพิดเลยว่ะ"

ตารกา

สวัสดีค่ะทุกท่าน มาประกาศของลายาวอีกสองเดือนค่ะ ต้องขออภัยเป็นอย่างมากเพราะงานไม่เสร็จจริงๆ คือคิดว่าเคลียร์ให้เรียบร้อยไปเลยดีกว่า ค้างคาแยกร่างแบบนี้กลัวงานจะแย่ไปทั้งสองเรื่องค่ะ

ตอนนี้กำหนดส่งต้นฉบับอีกเรื่องคือ 30 พย แต่หลังจากนั้นต้องแก้+ตรวจบรู๊ฟให้ทันพิมพ์ในเดือน มค ค่ะ ดังนั้นขอหายยาวจนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยนะคะ แต่ขอสัญญาว่าจะกลับมาเขียนตอนใหม่ให้เป็นของขวัญปีใหม่แน่นอนค่ะ

แต่ไหนๆ วันนี้ก็โผล่หน้ามาแล้ว ขอทักทายยาวๆ ด้วยการเมาท์ถึงที่มาของคาแร็กเตอร์ในนิยายนะคะ อันนี้เขียนไว้นานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสให้โพสต์ กลัวร่างต้นแบบตุ๊ดแรมโบ้กระทืบ โทษฐานเอานางมาเมาท์

วันนี้ที่กล้านี่เพราะล่าสุดได้ข่าวว่านางจะบวช อนุโมทนากับนางไปแล้ว โอกาสหายากเยี่ยงนี้ไม่มีซ้ำสอง ต้องรีบชิงลงมือโพสต์ก่อน ช่วงนี้นางยังไม่อยู่ในผ้าเหลืองค่ะแต่ทำอะไรนางก็ไม่โกรธ เตรียมตัวเตรียมใจโดยเริ่มจากศีลหลักสิบก่อน

เพิ่มเติมอีกนิด เรื่องการบวชนี่ผู้ใหญ่ทางบ้านเพื่อนมีความเชื่อเรื่องบุญจากชายผ้าเหลือง เจ้าตัวเลยอยากกตัญญูต่อคุณแม่ที่ยังมีชีวิตและคุณพ่อที่เสียไปแล้ว พออยู่ในผ้าเหลือง ก็ตั้งมั่นตั้งใจว่าจะรักษาศีลให้ครบทั้งกายวาจาใจ รับประกันว่าทำตัวดีกว่าเพื่อนผู้ชายแมนๆ บางคนที่บวชตามประเพณีอีกค่ะ เพราะอยากบวชเองในวัยเลขสาม มาอนุโมทนาร่วมกันนะคะ

คุยกันหรรษา : ที่มาของตุ๊ดแต่ละนาง

ยกมือไหว้งามๆ สวัสดีทุกท่านค่ะ ขอแนะนำตัวอีกครั้งนะคะ ชื่อโน้มน้าวค่ะ เรียกโน้มก็ได้ เป็นผู้เขียนนิยายเรื่อง พิภพจอมนาง หรือ ตุ๊ดทะลุมิติ ที่ทุกท่านกำลังติดตามอ่านอยู่ขณะนี้ค่ะ เห็นมีหลายนามปากกา แต่ว่ามีคนเดี๋ยวนะจ๊ะ มิได้เป็นทีมเขียนทำงานร่วมกันสี่คนแต่ประการใด

วันนี้โน้มขอคุยแบบยาวๆ อารมณ์พี่น้องเพื่อนฝูงนั่งล้อมวงกินขนมเมาท์มอยกันสักหน่อยนะคะ คือโน้มแทบไม่ได้ตอบคอมเมนต์ใครเลย นอกจากที่แฟนเพจกับหลังไมค์ อันนี้ต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอคุยแบบรวบยอดท้ายตอนแทน ไม่ว่ากันนะตัวเอง

สำหรับหน้านี้ขอเมาท์ยาวหน่อย มีเรื่องอยากเล่าค่ะ นั่นคือที่มาที่ไปหรือแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายเรื่องนี้นั่นเอง อย่างที่กล่าวในบทนำค่ะ โน้มเขียนเรื่องนี้เพราะคำมั่นสัญญาที่มีต่อเพื่อนสาวว่าจะเอาพวกเธอทั้งหลายมาเป็นนางเอก ดังนั้นตัวละครหลักก็จะมีนิสัยของตุ๊ดร่างต้นพอประมาณค่ะ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เหมือนเกินมันจะแรดไป 55555 (โดนเพื่อนสาวเขวี้ยงค้อนใส่ทั้งอัน)

ขอเริ่มแนะนำตัวจากแว่นหรือกุ้ยฮวากันก่อนนะคะ แว่นได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพื่อนสาวที่กำลังจะได้เป็นด็อกเตอร์ในไม่กี่เดือนนี้ค่ะ นางใส่แว่น ก็เลยให้ชื่อตัวละครว่าแว่นเสียเลย ปัจจุบันเพื่อนคนนี้เป็นอาจารย์ค่ะ เป็นที่นับหน้าถือตา แต่ไม่ได้เรียนด้านพฤกษศาสตร์นะคะ

ชีวิตส่วนตัวนางแซ่บมากจนชะนีอย่างอิฉันอิจฉาตาร้อนผ่าว เพราะแฟนนางแต่ละคนงานเกรดพรีเมียมมาก สมัยเรียนนางเคยควงมาให้ยลโฉม เลิศระดับเนตไอดอล เลยเป็นที่มาของวลี “ความอร่อยที่ชะนีได้แต่มอง” ตอนหลังเลยเอามาปรับใช้ในนิยายค่ะ กลับกันบ้าง รู้สึกเหมือนได้แก้แค้นนางเบาๆ หึหึหึ

นางที่สองคือหน่อมหรือลี่จู นางนี้แรงบันดาลใจไม่ได้มาจากเพื่อนสนิทค่ะ แต่มาจากคนรู้จัก ที่เราบังเอิญไปมีส่วนรู้เห็นเรื่องของคนคนนี้โดยมิได้ตั้งใจ ในเรื่องหน่อมจะไม่มั่นใจในตัวเองว่าเป็นเพศไหนกันแน่ ร่างต้นแบบก็เช่นกันค่ะ ลอกมาแบบเป๊ะๆ เลย คือคุณชาย บ้านรวย หน้าตาดี สาวกรี๊ด แต่ไม่มีแฟน เพราะสับสนในตัวเอง

ที่รู้เรื่องของคนคนนี้เพราะเพื่อนสนิทเราในตอนนั้น เป็นที่ปรึกษาให้เขาค่ะ แล้วเพื่อนเราก็มาปรึกษาเราอีกต่อ อารมณ์ให้แนะนำสาวไม่ก็ชายให้ เผื่อมันจะรู้ตัวเองว่าชอบอันไหนกันแน่

ฮีสับสนจริงๆ ค่ะ ก็เลยลองมันทั้งสองอย่าง สุดท้ายหวยก็มาออกที่ชะนี ฮีบอกว่าเรื่องเซ็กส์มันฟิวกู๊ดกว่า “เดี๋ยวนะ! แกไปลองตอนไหน” โน้มน้าวกับเพื่อนสาวร้องเสียงสูง ฮียักไหล่ ยิ้มกรุ้มกริ่ม และปล่อยให้คาใจมาจนถึงบัดนี้ว่าความจริงในม่านเมฆเป็นเช่นไร? ปัจจุบันฮีแต่งงานแต่งการมีครอบครัวที่มีความสุขค่ะ ยังไม่มีลูกแต่เป็นสามีที่น่ารักมาก ชาบูเบาๆ ในที่สุดชะนีก็ชนะในศึกแย่งผู้ชายบ้างแล้ว

มาถึงนางที่สามคือเจ้หรือฟางเซียน อันนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคนสองคนค่ะ แรงบันดาลใจด้านความงามมาจากเพื่อนสาวที่เคยอยู่หอเดียวกัน นางเป็นกะเทยที่สวยมาก สวยทั้งที่ไม่ได้แปลงเพศ แค่ไว้ผมยาวหน้าไม่ต้องแต่ง ยิ้มทีงี้หนุ่มๆ ละลายเลยค่ะ เคยนั่งอยู่กับนาง ผู้ชายมองผ่านโน้มน้าวไป แล้วไปโดนนางสะกดอยู่นานสองนาน จบเลยค่ะงานนี้ ชะนีไม่มีที่ยืน แต่ก็ไม่อิจฉานางนะคะ ปลื้มอ่ะเวลามีผู้ชายมาหลงนาง ชอบที่มีเพื่อนสวย แม้แต่ทอมยังมาจีบเลยค่ะ สวยแบบสุดยอดแค่ไหนคิดดู

สำหรับนิสัยเอามาจากเจ๊ใหญ่ที่เป็นกะเทยรุ่นพี่ค่ะ นางฮาและร่าเริงมาก ตอนนางรู้ว่ารุ่นน้องมีทอมมาจีบ นางถามคำถามหนึ่งขึ้นมาด้วยสีหน้าซีเรียสมาก ‘ช่วยเจ๊คิดหน่อย เคสนี้ใครจะเป็นผัว ใครจะเป็นเมียวะ’ ฮาแตกทั้งวงค่ะ แต่หลังจากนั้นพอเจ้าตัวมา นางก็ให้คำปรึกษาในฐานะพี่ใหญ่ และแสดงความเป็นห่วงเป็นใยนะคะ แก๊งนี้เค้ารักกันมาก คอมเฟิร์มเลย

มาถึงนางสุดท้าย โบ้หรือไป๋หลิน ตัวละครตัวนี้ได้รับแรงบันดาลใจอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมาจากเพื่อนรหัสค่ะ นางคือกะเทยคนแรกที่เรียกเราว่า ‘ชะนีน้อย’ แบบซึ่งๆ หน้า ความที่เราเลขที่ใกล้กัน เลยมีอาจารย์ที่ปรึกษาคนเดียวกัน ทำแล็บด้วยกัน เหล่หนุ่มงุงิครุคริกันไป

นางเป็นคนอารมณ์ดีมาก อยู่กับนางแล้วมีความสุขค่ะยิ้มได้ตลอด มีครั้งหนึ่งสอบแล็บแบบตัวต่อ อาจารย์เรียกเข้าไปเชือดทีละคน โดยการให้เคสมา แล้วให้เราจัดการประเมินอาการและรักษาเดี๋ยวนั้น หมดเวลาทำไม่ได้ถีบออกจาก รอสอบใหม่ (อย่างโหด) นางกลัวเพื่อนเครียดค่ะ เลยไปซื้อคทาของเล่นเด็กมา จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติการ

นึกภาพนะคะจากประตูเข้าภาควิชามาจะเป็นทางเดินยาวๆ แล้วมีห้องต่างๆ เรียงกันอยู่ พวกรอสอบก็จะนั่งเรี่ยราดกันอยู่หน้าห้องเรียงยาวกันไปนั่นแหละ อยู่ๆ ก็มีเสียงดังจากทางประตู ทุกคนหันไปมอง แล้วก็ต้องอึ้ง เมื่อนางหมุนตัวเข้ามา ตามด้วยท่าบัลเล่ต์ ก่อนจะประกาศก้อง “แปลงร่างเป็นแม่มดน้อยโดเรมี”

ทุกท่ามาเป๊ะจัดเต็ม คอสตูมก็เลิศเพราะนางเอาผ้ามาพันตัว เสียอย่างเดียวแม่มดน้อยนี่มันไม่น้อยค่ะ หุ่นนางน้องๆ พะยูนเกยตื้น โพสต์ท่าแปลงร่างทีไขมันกระเพื่อมที ทุกคนเงียบอึ้งเงิบไปอึดใจก่อนจะฮาลั่น ระเบิดเสียงหัวเราะจนอาจารย์ต้องออกมาดู

อาจารย์ดุทันทีเลยว่าไม่ให้เสียงดังเพื่อนสอบอยู่ แต่ตอนสอบเสร็จมีบังคับให้นางแปลงร่างให้ดูอีกรอบ แถมยังชอบคทานางอีกต่างหาก นางเลยจัดเต็มให้ ตอนจบอาจารย์ประทับใจมาก เลยตั้งชื่อเล่นให้ใหม่ว่า ‘โดเรมี’ ทุกคนพากันเรียกตามจนลืมชื่อเล่นจริงๆ นางไปเลย

นอกจากจะอารมณ์ดีอย่างที่เห็น นางยังมโนแจ่ม แรงจินตนาการเป็นเลิศค่ะ นางสร้างแลนด์มาร์กแบบมั่นๆ ด้วยการบอกว่าเขาเป็นสามีนางแล้ว ผ่านการแลกเปลี่ยนก๊าซ คือผู้ชายเขาหายใจออก นางก็เลยเดินสวนสูดลมหายใจเข้า เป็นอันว่าเอากันเรียบร้อยแล้ว สรุปที่เคยบอกว่าได้ผู้ชายมาเป็นร้อย นี่ได้มาด้วยวิธีนี้สินะยะ

ตัวจริงนางปากกล้าแต่ป๊อดตลอดค่ะ รั่วแต่ไม่มั่ว วีรกรรมเลยเยอะ แต่ขอพักการเล่าแต่เพียงเท่านี้นะคะ เดี๋ยวจะกลายเป็นเผาเพื่อน แล้วแปรสภาพเป็นมหากาพย์แซงหน้านิยาย พบกับมหกรรมเมาท์มอยกันยาวๆ กันใหม่ เมื่อองค์เจ้าแม่ช่างจ้อประทับค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่อดทนอ่านมาจนถึงตอนจบ รักทุกคนนะจ๊ะจุ๊บๆ ^3^ เจอกันอีกครั้งเมื่องานเสร็จค่า

หมายเหตุ โน้มจบกายภาพบำบัดมาค่ะ ไม่ใช่หมอหรือพยาบาล มีคนเข้าใจผิดเยอะเลยบอกไว้ก่อนค่ะ กายภาพบำบัดจงเจริญ ฮิปฮิปฮุเล่!!!

นิชาภา

จำนวนการเข้าชม : 2090

---

---

---

---

เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account

Copyright (c) 2012 love-stories.net. All Rights Reserved. Designed by @windygallery