รักแท้...เคียงใจ
รักแท้...เคียงใจ

โดย ต้นเรื่อง(ภูเพชร)

อารัมภบท

ณหทัย ‘ฉันจะเชื่อเขาได้ไหม ผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างเขา จะมาสนใจใยดีอะไรกับฉัน ผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ไม่มีค่าพอให้ใครต้องจดจำ ขนาดแฟนหนุ่มที่คิดว่าดี คบกันมา กว่า 4 ปี ยังใช้เวลาแค่สิบนาที มาบอกเลิกได้อย่างไม่สะทกสะท้านอะไรเลย’

นราภพ ‘อย่าถามผมได้ไหม ว่ารักคุณเพราะอะไร ผมรู้แค่ว่าอยากมีคุณอยู่ใกล้ ๆ อยากมีคุณอยู่เคียงข้างใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกเหล่านี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีผมก็สามารถบอกกับคุณได้อย่างมั่นใจ ว่าผู้ชายอย่างผมคนนี้ จะรักคุณคนเดียวตลอดไป’

มาพิสูจน์ รักแท้ ที่ไม่จำกัดนิยาม ของ ผู้ชายที่ชีวิตนี้มีเพียง หนึ่งใจ

-------------------------------------------------------------

ข้อความเล็ก ๆ ของคนต้นเรื่อง/ภูเพชร/ปีบเพชร

ก่อนอื่นต้องขออภัยท่านผู้อ่านทุกท่านเป็นอย่างสูงเลยนะคะ ที่หายไปนานแสนนานมาก
ตอนนี้พร้อมแล้วสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ให้จบ ไม่พูดพร่ำทำเพลงจ้า ไปอ่านตอนที่หนึ่งกันเลยเนอะ
อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร ติชมวิพากษ์วิจารณ์กันได้นะคะ หรือจะต่อว่าต้นเรื่อง(ภูเพชร)ที่หายไปก็จัดมาได้เลยจ้า จังหวะนี้ยอมทู้กอย่าง :)

--------------------------------------------------

นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนเป็นสำคัญ ทั้งพล็อตเรื่อง ชื่อตัวละครและคาแร็คเตอร์ตัวละครล้วนแล้วแต่ดำเนินไปตามเนื้อเรื่อง มิได้มีเจตนาจะกล่าวอ้างถึงบุคคลหนึ่งบุคคลใด และเนื่องจากเป็นนิยายเรื่องแรกในชีวิต หากมีจุดบกพร่อมประการใด ต้นเรื่องใคร่ขอคำชี้แนะจากทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ :)

Tags: หวานซึ้ง อบอุ่นใจ

ตอน: ตอนที่ 6 มีเรื่อง

รักแท้...เคียงใจ บทที่ 6 มีเรื่อง โดยต้นเรื่อง

เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสมาเยือนอย่างรวดเร็ว วันนี้ที่ชุมพรอากาศสดชื่นมากเป็นพิเศษ เพราะเมื่อคืนมีฝนตกลงมา ทำให้เช้านี้อากาศเย็นสบาย ณหทัยหยิบหมวกและกล้องถ่ายรูปคู่ใจมาถือไว้ในมือ เตรียมตัวก้าวเท้าออกจากห้องไปสัมผัสกับความหรูหราของอัศวารา ชุมพร โดยส่วนตัวแล้วเธอชอบถ่ายรูปแต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำตามใจเท่าใดนัก เธอไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน บ้านเธอไม่สันทัดเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พอโอกาสมาอยู่ตรงหน้าแบบนี้เธอจึงไม่พลาดที่จะเก็บภาพความประทับใจไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเธอได้มีโอกาสมาพักโรงแรมหรูที่สุดแห่งหนึ่ง

หญิงสาวปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบา ดวงตาหวานซึ้งเหลือบมองไปทางห้องของสมาชิกที่เหลืออย่างชั่งใจว่าจะปลุกดีหรือไม่ เมื่อคืนกว่าจะเสร็จจากทานข้าวและนั่งฟังเพลงกันก็ค่อนข้างดึกพอสมควร ณหทัยตัดสินใจไม่กวนทั้งหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ เท้าบางก้าวเดินยังไม่ทันพ้นหน้าประตูห้อง ประตูห้องทางฝั่งตรงข้ามที่เยื้องกับห้องเธอก็เปิดออกมาเสียก่อน พร้อมกับเสียงร่าเริงของคนร่างสูงกล่าวทักทาย

“อรุณสวัสดิ์ครับณหทัย”

“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณภพ”

“จะไปถ่ายรูปหรอครับ” นราภพถามไถ่เมื่อเห็นเธอถือกล้องถ่ายรูป

ณหทัยมองสิ่งของที่อยู่ในมือ ก่อนจะมองหน้าคนถามยิ้ม ๆ “ค่ะ...คุณภพไปด้วยกันมั้ยคะ”

“ยินดีครับ” นราภพตกปากรับคำอย่างง่ายดาย จะเล่นตัวทำไมในเมื่อรอให้ชวนอยู่แล้ว คนเจ้าเล่ห์ยิ้มกริ่มก่อนจะเดินตามร่างบางไป

สองหนุ่มสาวเดินคุยกันไปถ่ายรูปกันไป โรงแรมอัศวารานั้นกว้างขวางและหรูหรา อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้สองหนุ่มสาวได้เก็บภาพกันอย่างไม่รู้เบื่อ ณหทัยค้นพบว่าพี่ชายร่วมบ้านของเธอชำนาญการถ่ายภาพไม่เบา อาจจะเรียกได้ว่าเข้าขั้นมืออาชีพเลยทีเดียว ภาพแต่ละภาพคมชัด ปรับโฟกัสได้อย่างเหมาะเจาะลงตัวทั้งแสงและเงา จนเธออดทึ่งไม่ได้

“ถ้าไม่ได้อยู่ร่วมบ้านกันมาก่อนตรีต้องคิดว่าคุณภพเป็นช่างภาพแน่ ๆ เลยค่ะ” น้ำเสียงสดใสของณหทัยเอ่ยเลียบเคียงขึ้นหลังจากทั้งคู่มาหยุดนั่งพักกันที่มุมสบายมุมหนึ่งในสวนดอกไม้ของโรงแรม

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” นราภพลูบท้ายทอยเบา ๆ เขินเหมือนกันนะเนี่ย ไม่คิดว่าเธอจะชอบการถ่ายรูปเหมือนกัน ณหทัยอมยิ้มกับท่าทางน่ารักนั่น หญิงสาวกวาดสายตาไปรอบบริเวณอย่างผ่อนคลาย พลางสูดหายใจเข้าลึกๆ อย่างต้องการจะเก็บอากาศดี ๆ ไว้กับตัวให้นานที่สุด

“ที่นี่สวยจังเลยนะคะ บรรยากาศดีสุด ๆ” เสียงใสเอ่ยขึ้น ดวงตาวาวหวานหลับพริ้ม ซึมซับกับบรรยากาศรอบกายเต็มที่ จนนราภพต้องหยิบกล้องที่ตนถือแทนหญิงสาวนานแล้วขึ้นมารัวชัตเตอร์เก็บน่ารักน่าหลงใหลนี้ไว้ก่อน ณหทัยยังคงหลับตาพริ้ม นราภพจึงถามขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ

“ถ้าวันนึงณหทัยได้เป็นเจ้าของโรงแรมนี้ ณหทัยจะทำอะไรเป็นอย่างแรก”

คนถูกถามลืมตาขึ้นมาพลางหัวเราะอย่างน่าเอ็นดู

“คุณภพอย่าถามคำถามที่เป็นไปไม่ได้สิคะ ตรีน่ะหรอจะได้เป็นเจ้าของโรงแรมนี้ ขำอ่ะ” เสียงตอบกลับที่กลั้วมากับเสียงหัวเราะทำเอาคนถามอดยิ้มไม่ได้

“ก็ไม่แน่นะครับ เอาเป็นว่าสมมติก็ได้ ถ้าณหทัยได้เป็นเจ้าของโรงแรมนี้ขึ้นมาจริง ๆ ณหทัยจะทำอะไรเป็นอย่างแรก” นราภพถามกลับอีกครั้ง ซึ่งคนที่มัวแต่นั่งหัวเราะอาจจะไม่ทันสังเกตเห็นประกายตาอะไรบางอย่างที่บ่งบอกว่าคนถามจริงจังกับคำถามที่ถามออกมา ณหทัยหยุดหัวเราะแล้วเอียงคอมองอีกฝ่ายเล็กน้อย

“ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ ตรีคงจะให้รางวัลกับคนที่ทำให้ตรีได้เป็นเจ้าของโรงแรมนี้ก่อนเลย อาจจะเป็นหอมแก้มซักฟอดหรือจูบซักที อะไรประมาณนี้มั้งคะ” ร่างบางเอามือป้องปากพลางตอบคำถามเป็นเสียงกระซิบพร้อมรอยยิ้มพร่างพราว
คราวนี้เสียงหัวเราะมาอยู่ทางฝั่งคนถามบ้าง นราภพหัวเราะอย่างชอบใจกับคำตอบของณหทัย ถูกใจที่สุดกับคำตอบนี้ ใครจะรู้ว่าผู้หญิงเรียบร้อยเป็นแม่ศรีเรือนจะแอบเซี้ยวแอบเฮี้ยวได้เหมือนกัน

“โอเคครับตกลงตามนี้” นราภพรีบตีขลุม

“โอเคค่ะ” ณหทัยเองก็ไม่น้อยหน้ารีบตกลงทันทีเหมือนกัน ด้วยเห็นเป็นเรื่องตลกขบขันที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง
ทั้งคู่คุยเล่นกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะชวนกันกลับห้องพักไปปลุกคุณดนัยแล้วพากันมาทานอาหารเช้า ซึ่งทางโรงแรมจัดไว้อย่างหลากหลายมีทั้งสไตล์เอเชียบ้านเรา สไตล์ยุโรป หรือสไตล์อเมริกันแล้วแต่จะเลือกรับประทาน ทุกอย่างมีเชฟฝีมือดีปรุงให้เห็นกันแบบวด ๆ แล้วจัดใส่ภาชนะอย่างดีพร้อมทั้งตกแต่งอย่างสวยงาม

“อร่อยทุกอย่างเลยเชียว” คุณดนัยนั่งลูบท้องอย่างอิ่มแปล้หลังจากเดินตักอาหารมาทานเสียสี่รอบ เรียกได้ว่าครบทุกแบบทุกสไตล์ จนลูกสาวอดแซวไม่ได้

“น่าจะอร่อยจริงอย่างที่พ่อว่านะคะ พ่อเล่นทานไม่เผื่อพื้นที่ในกระเพาะไว้สำหรับข้าวเที่ยงเลย”

“แหมอีหนู ก็นาน ๆ ทีจะได้มากินอาหารในโรงแรมหรูแบบนี้มันก็ต้องจัดให้คุ้มสิ จริงมั้ยภพ”

“จริงครับคุณลุง”

คุณดนัยหันมาหาพวก ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ขัด พร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่อยู่แล้ว ณหทัยส่ายหน้ายิ้ม ๆ เป็นลูกคู่กันได้ตลอดเวลาเลยสองคนนี้

นราภพก้มมองนาฬิกาข้อมือ เห็นว่าสมควรแก่เวลาออกเดินทางจึงชักชวนสองพ่อลูกเช็คเอาท์ออกจากที่นี่เพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดกระบี่ จุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวครั้งนี้ที่ทั้งหมดตั้งใจมาเยือน

-------------------------------------

“ว้าว...สวยจังเลยค่ะ ตรีว่าที่ชุมพรสวยแล้วนะคะ ที่นี่สวยกว่าหลายเท่าเลย”
หลังจากที่รถกระบะสี่ประตูคันเก่งของคุณดนัยเลี้ยวเข้าสู่ตัวรีสอร์ทสุดหรูอย่าง อัศวารา กระบี่ รีสอร์ทแอนด์สปา ณหทัยก็อุทานออกมาอย่างตื่นเต้นกับภาพที่เห็นตรงหน้า

“สวยมาก” คุณดนัยเห็นด้วยกับบุตรสาว

ด้วยมนต์เสน่ห์ของน้ำทะเลสีครามสดใส....หาดทรายขาวสะอาดที่ทอดตัวยาว....เกลียวคลื่นที่ม้วนตัวล้อเล่นกับสายลม....ความหรูหราอลังการของรีสอร์ทที่พัก ล้วนแล้วแต่สะกดสองพ่อลูกจนอยู่หมัด ณหทัยไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มายืนอยู่บนสถานที่ที่อาจจะเรียกได้ว่าสวรรค์บนดินก็ไม่ปาน ทุกอย่างมันงดงามราวกับมีเทวดามาเสกคาถาปรุงแต่งไว้

“เรามาถูกที่แน่ใช่มั้ยภพ” คุณดนัยเอ่ยเสียงแผ่วราวกับคนละเมอ หลังจากกวาดตาไปรอบ ๆ

“ถูกที่สุดเลยล่ะครับ” หนุ่มรุ่นลูกตอบพร้อมรอยยิ้ม ไม่แปลกใจที่ทั้งสองคนจะตกอยู่ในภวังค์ เขาภูมิใจกับที่นี่เสมอ อัศวารากระบี่คือโรงแรมแห่งแรกที่คุณพ่อของเขาสร้างให้เป็นของขวัญคุณแม่ในวันครบรอบแต่งงานปีที่สิบสี่ ที่นี่จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานประกอบการที่สร้างขึ้นเพื่อหากำไร แต่ที่นี่เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักของพ่อกับแม่เขา ทุกสิ่งปลูกสร้างคือความละเอียดอ่อนของความรักที่คุณพ่อต้องการสื่อสารออกมาให้คุณแม่ได้รับรู้

“อดีตเจ้านายของภพที่สนับสนุนที่พักสุดหรูตลอดการเดินทางเขาอยู่ที่นี่ไหม ถ้าอยู่ลุงอยากพบจัง อยากจะขอบคุณในความใจดีของเขาเหลือเกิน พาลุงไปพบได้ไหม”

ความสงสัยเกิดขึ้นในใจจนคุณดนัยต้องถามหาผู้ให้การสนับสนุน จะไม่ให้สงสัยได้อย่างไรในเมื่อห้องพักที่ได้กุญแจมาพอสอบถามกับพนักงานแล้วปรากฏว่าเป็นบ้านพักหรูริมทะเล ไม่ได้อยู่ในตัวอาคารหลังนี้อย่างที่เข้าใจ ซึ่งราคาน่าจะแพงมากถึงมากที่สุด แล้วใครกันจะทุ่มให้ลูกน้องเก่าขนาดนี้

ความต้องการของคุณดนัยทำเอานราภพเริ่มเครียด จะบอกยังไงว่ายืนอยู่ตรงนี้นี่แหละ ถ้าบอกก็คงความแตกกันพอดี จบเห่กันทั้งขบวน สมองอันชาญฉลาดจึงเริ่มหาทางออก

“เอ่อ...ท่านไปต่างประเทศครับ ไว้มีโอกาสผมจะพาคุณลุงไปพบนะครับ วันนี้เราเที่ยวให้สนุกกันก่อนดีกว่า อย่ากังวลไปเลยนะครับ” ข้ออ้างของหนุ่มรุ่นลูกเกือบจะใช้ไม่ได้ผล ดีที่อีกคนที่โดนมนต์เสน่ห์แห่งอัศวาราสะกดอยู่นานเอ่ยคล้าย ๆ ละเมอขึ้นมาเสียก่อน

“นั่นสิคะคุณพ่อ ตรีก็อยากเจอนะคะ แต่นาทีอยากเล่นน้ำทะเลมากว่า”

พอเห็นนัยน์ตาชวนฝันของลูกสาวคุณดนัยตัดความคลางแคลงสงสัยออกไปทันที มือหยาบกร้านของผู้เป็นพ่อยีหัวบุตรสาวเล่นอย่างนึกเอ็นดู จริงสินะ มาเที่ยวทำไมจะต้องมานั่งสงสัยอะไรมากมาย ใครจะโชคดีอย่างตนบ้าง เที่ยวฟรี ที่พักหรู เมนูอร่อย แถมยังปล่อยไก่ได้เต็มที่ ไว้จบทริปค่อยคาดคั้นเอาคำตอบทีหลังก็ไม่สาย ตอนนี้ต้องเที่ยวให้สนุก คิดได้ดังนั้นคุณดนัยก็บอกมาอย่างผ่อนคลาย

“นั่นสินะ ปะ ไปบ้านพักก่อน แล้วเดี๋ยวเราค่อยไปเล่นน้ำทะเลกัน งานนี้พ่อให้ขี่หลังเลย”
“ไชโย !”

ณหทัยส่งเสียงเริงร่า คล้องแขนผู้เป็นบิดาไปยังบ้านพักริมทะเลโดยมีพนักงานของรีสอร์ทเดินนำไป นราภพลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกพลางก้าวเท้าตามทั้งคู่ไป

ภัคค์ที่ยืนพิงเสาแอบดูอยู่อดหัวเราะกับท่าทางฝ่อ ๆ ของเจ้านายไม่ได้ ใครจะรู้ผู้บริหารหนุ่มที่ดูแลธุรกิจตั้งมากมาย ลึกลับก็เท่านั้น เจ้าเล่ห์ก็ที่หนึ่งจะมีมุมแบบนี้กับเขาเหมือนกัน นี่ถ้าเพชรอยู่ด้วยรับรองมีเรื่องคุยกันสามวันไม่จบ ชื่อของเพชรยังไม่ทันจางจากความคิด เสียงทักจากด้านหลังก็ดังขึ้น

“ไงคู่หู”

เพชรส่งเสียงทักพร้อมกับยืนมือมาตบไหล่ ทำเอาภัคค์สะดุ้ง

“ตายยากจังวะ”

“อ้าวเห้ยทำไมอวยพรกันแบบนี้” เพชรยิ้มขำ

“ก็พึ่งนึกถึงอยู่เมื่อกี้ จู่ ๆ โผล่มา ก็ต้องอวยพรกันแบบนี้ล่ะวะ เป็นยังไงตามประกบไอ้นั่น ได้เรื่องอะไรบ้าง”

“ยาวครับบอกได้แค่นี้ ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟัง”

“โห่ ไม่ต้องเล่ายาวดิ เอาแบบย่อ ๆ ไง”

ภัคค์โวยเมื่อเห็นเพชรแกล้งดึงเชิงไว้ก่อน แต่อีกฝ่ายกลับขยับปากเป็นเชิงบอกว่าไม่

“ก็ดี งั้นเรื่องเจ้านายก็ไม่ต้องอัพเดท” ภัคค์ว่าพลางยักคิ้วให้อย่างเป็นต่อ เพชรจึงล็อคคออีกฝ่ายแล้วลากไปยังบ้านพักด้วยกัน ระหว่างทางสวนทางกับพนักงานในรีสอร์ทที่ต่างก็มองทั้งคู่อย่างเลิกลั่กด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเลขาคนสนิทของเจ้านายจะแสดงออกว่าตนเป็นเก้งกวางจนถึงขนาดมีคู่ขามาลากกันเข้าห้องพักอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้

“ไม่น่าเลยเนาะ คุณภัคค์ออกจะมาดแมนแถมหล่ออีกต่างหาก ไม่น่าเป็นเก้งกวางบ่างชะนีเลย”

“นั่นสิเธอ ทรัพยากรผู้ชายยิ่งน้อย ๆ อยู่ ยังต้องมาเสียให้นางชะนีพวกนี้อีก ว่าละทำไมฉันยังโสด”

“นี่ คู่ขาคุณภัคค์ก็หล่อนะฉันว่า น่าเสียดายพอกัน คล้าย ๆ ฉันเคยเห็นหน้าเขาที่ไหนด้วยนะ แต่นึกไม่ออก”

เสียงพึมพำให้ได้ยินของเหล่าพนักงานดังไปตลอดทาง จนกระทั่งสองหนุ่มหายเข้าไปด้วยกันในบ้านพัก เพชรหยิบแอลกอฮอล์ในตู้เย็นมาจิบอย่างสบายอารมณ์ มองเพื่อนที่นั่งหมดอาลัยตายอยาก

“หมดกันความฮอตของฉันที่สั่งสมมา”

ภัคค์โอดครวญ ที่สาว ๆ พนักงานคุยกันเขาได้ยินทั้งหมด หมดแล้วความเจ้าเสน่ห์ของเขา เรื่องแบบนี้ไวเสียด้วย พรุ่งนี้รับรองรู้ทุกสาขาว่าเขาถูกคู่ขาลากเข้าห้องพักกลางวันแสก ๆ

เพชรหยิบฝาเครื่องดื่มปาใส่ภัคค์ด้วยความหมันไส้

“ให้มันน้อย ๆ หน่อยไอ้เพื่อน จะเข้าเรื่องได้หรือยัง”

“อ้าวเรอะ...โอเค ๆ เข้าเรื่อง”

ภัคค์ปรับตัวเองเข้าสู่โหมดการทำงานอย่างรวดเร็ว สองหนุ่มแลกเปลี่ยนข่าวสารกันอย่างเป็นงานเป็นการ รวมถึงนัดแนะแผนการ ตลอดจนวิธีตามประกบเจ้านายในงานเลี้ยงคืนนี้เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้

----------------------------------------

“คุณพ่อคะ เสร็จหรือยังคะ หนูอยากไปร่วมงานแล้ว”

ณหทัยนึกถึงการไปร่วมงานอย่างตื่น ก่อนหน้านี้ไม่นานระหว่างที่เธอกำลังนอนเล่นอยู่หน้าบ้านพัก มีพนักงานมาแจ้งข่าวงานปาร์ตี้พิเศษในคืนนี้ เห็นว่าจัดขึ้นเพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญของรีสอร์ท พอพนักงานอธิบายลักษณะงานเธอก็อยากไปเป็นส่วนหนึ่งของงานในทันที หญิงสาวจึงชวนชายหนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ แล้วก็ไม่ผิดหวังเมื่ออีกตอบรับในทันทีเช่นกัน ซึ่งทั้งเธอและคุณภพก็เตรียมตัวกันเสร็จแล้วในตอนนี้ เหลือแต่พ่อเธอนี่แหละ

“เอ้า ๆ เสร็จแล้ว เห่อจริง ๆ เลยลูกสาวผมเนี่ย” เสียงผู้เป็นพ่อบ่นพอเป็นพิธี

“โอ้โห” ณหทัยลากเสียงยาว

“เป็นไงพ่อหล่อใช่มั้ย” ดนัยยืดตัวโชว์ความหล่อเต็มที่

“พ่อจะไปงานคาวบอยที่ไหนคะเนี่ย นี่มันงานปาร์ตี้ริมชายหาดนะคะ ไม่ใช่งานคาวบอยไนท์” ผู้เป็นลูกปล่อยเสียงหัวเราะซะเต็มที่ จนผู้เป็นพ่ออดเขินไม่ได้

“แล้วมันไปได้ไหมล่ะอีหนู”

“ไปได้ครับ ไปชุดนี้แหละไม่เห็นต้องแคร์ใคร”

นราภพเป็นฝ่ายตอบแทนให้ เมื่อเห็นว่าคนถูกถามยังหัวเราะไม่หยุด

“เออ พูดดี แบบนี้สิน่ายกลูกสาวให้”

ท้ายเสียงคุณดนัยหันไปกระซิบให้ได้ยินกันสองคน นราภพยิ้มรับแก้มแทบปริ

“ไปกันเถอะค่ะ ตรีอยากไปร่วมงานแล้ว”

สองหนุ่มต่างวัยกับหนึ่งสาวน้อยขวัญใจของบ้านมาถึงงานตอนทุ่มเศษ ๆ ภายในงานเต็มไปด้วยแขกที่มาเข้าพักในชุดสไตล์ฮาวายเหมาะสำหรับปาร์ตี้ริมชายหาดอย่างแท้จริง ทุกคนกำลังสนุกสนานกับการปิ้งย่างและทานอาหารทะเลกันแบบสด ๆ ตรงกลางของพื้นที่จัดงานเป็นเวทีขนาดไม่ใหญ่มาก บนเวทีมีนักดนตรีหน้าตาดีคอยขับขานน้ำเสียงอันนุ่มนวลควบคู่ไปกับเสียงดนตรีอันไพเราะบรรเลงสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ที่มาร่วมงาน

นราภพพาดนัยและณหทัยมายังเตาที่ว่างอยู่ ซึ่งเป็นจุดที่ค่อนข้างจะใกล้เวทีเป็นพิเศษชนิดที่ว่าใครขึ้นมาจะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน จากนั้นลงมือย่างอาหารทะเลบริการให้กับสองพ่อลูกอย่างเอาใจ

“งานนี้เก๋จังค่ะ พนักงานแต่งตัวเท่มากเลยนะคะทั้งหญิงทั้งชาย ทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นลูกสมุนของกัปตันแจ็คที่กำลังจะออกไปผจญภัยที่ไหนสักแห่งในท้องทะเลกว้าง แถมบนใบหน้ายังมีหน้ากากหน้าโจรสลัดตาเดียวบดบังไว้อีก สุดยอดไปเลยเนอะพ่อว่ามั้ย”

ณหทัยเอ่ยขึ้นระหว่างทาน

“อืม เก๋ เท่ อาหารตาเยอะ แต่พ่อตาลายวุ้ย”

“ไหงเป็นงั้นล่ะคะพ่อ ทานอาหารอิ่มบอกตาลายเลย จริง ๆ ง่วงนอนใช่มั้ยคะ บอกหนูมา”

คุณดนัยยิ้มแฉ่ง นราภพที่ประจำอยู่หน้าเตาปิ้งย่างตลอดยังอดขำด้วยไม่ได้

“อีหนูอย่ามารู้ทันพ่อหน่อยเลย”

“แสดงว่าจริงใช่มั้ยคะ”

ณหทัยส่งเสียงล้อเลียนผู้เป็นพ่อ บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน คุณดนัยนั่งอีกไม่นานก็ขอตัวไปพักผ่อน ก่อนไปชายผมสีดอกเลายังไม่วายแอบขยิบตาให้หนุ่มรุ่นลูกเล็กน้อย เป็นเชิงว่าลุงเปิดโอกาสให้แล้วนะพ่อหนุ่ม นราภพมองท่าทางผู้สูงวัยยิ้ม ๆ คล้อยหลังคุณดนัยนราภพก็หยิบจานของตนเองมานั่งข้าง ๆ หญิงสาว หลังจากนั้นไม่ถึงสองนาทีเสียงดนตรีก็หยุดลง พิธีกรประจำงานในชุดหนุ่มชาวเกาะก้าวขึ้นบนเวทีคว้าไมค์มาทำหน้าที่อย่างรู้งาน

“สวัสดีครับท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งาน “Beach Night Surprise Day” งานปาร์ตี้สบาย ๆ ริมชายหาดที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อลูกค้าซึ่งเราถือว่าเป็นคนพิเศษของเรา ให้ทุกท่านได้สนุกสนานและตื่นเต้นไปกับเซอร์ไพรส์สุดพิเศษของเราในค่ำคืนนี้”

พิธีกรบนเวทีทำหน้าที่ของตนได้อย่างดีเยี่ยม เสียงอันนุ่มทุ้มกังวานสะกดแขกเหรื่อทุกคนในงานให้พุ่งสายตาและความสนใจทั้งหมดไปยังเวทีกลางได้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

“น่าตื่นเต้นจังเลยนะคะ”

ณหทัยหันไปชวนคนข้าง ๆ คุย นราภพก็พยักพเยิดอย่างเห็นด้วย

“ใช่ครับ ผมไม่เคยมางานที่น่าสนุกแบบนี้มาก่อนเลย”

ชายหนุ่มหยิบเครื่องดื่มมาดื่มอย่างสบายอารมณ์ เฝ้ารอเหตุการณ์บางอย่างอย่างใจจดใจจ่อ

“ค่ำคืนแห่งการเซอร์ไพรส์ริมชายหาด...ไม่แน่นะคะตรีอาจจะเป็นคนแรกที่ถูกเซอร์ไพรส์ก็ได้ เนอะ”

“แค่ก แค่ก...”

น้ำเสียงกึ่งล้อกึ่งเลียนจากอีกคนทำเอานราภพสำลักเครื่องดื่มขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“อุ่ย ถึงกับสำลักเลยทีเดียว ตรีล้อเล่นนิดเดียวเอง”

มือบางหยิบกระดาษทิชชู่ส่งให้ พลางลูบหลังลูบไหล่อย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นคนตัวโตสำลักเสียน่าแดงก่ำ

นราภพรับกระดาษมาเช็ดหน้าเช็ดตา เสียฟอร์มสุด ๆ ยิ่งกว่าปล่อยไก่ทั้งเล้า ใครจะไปรู้ว่าเธอจะเอ่ยขึ้นมาแบบนั้น คนที่มีชนักปักหลังอันใหญ่มากอย่างเขาก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา นราภพรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติอย่างด่วนที่สุด

“พอดีรีบดื่มไปหน่อยน่ะครับเลยสำลัก ไม่ได้เกี่ยวกับที่ณหทัยแซวหรอก”

“สีข้างถลอกหมดแล้วมั้งคะ”

ณหทัยยิ้มล้อเลียนกับคำแก้ตัวของชายหนุ่ม พลางเสมองทางอื่นเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนที่สองหนุ่มสาวจะทันต่อล้อต่อเถียงกันมากไปกว่านี้เสียงจากบนเวทีก็ดึงความสนใจของทั้งคู่ไป

“เริ่มต้นค่ำคืนแห่งการเซอร์ไพรส์กันเลยดีกว่าครับ ขอเชิญคุณวัชพล หิรัญสถิตและคุณนิดา วรณรงค์ คู่รักต่างวัยที่ทำการเซอร์ไพรส์วงการไฮโซกันมาแล้วตอนประกาศคบหากัน มากล่าวอะไรร่วมกันเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นการส่งมอบความสุขความสนุกสนานในค่ำคืนนี้ของงาน “Beach Night Surprise Day” ให้กับคนพิเศษของอัศวารากระบี่ทุกคนในที่นี้ เชิญครับ”

เสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวกราว สปอร์ตไลท์ของงานจับไปยังคู่รักต่างวัยที่กำลังคล้องแขนควงกันเดินมาอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส เสียงกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์คนทั้งคู่จากแขกเหรื่อในงานดังขึ้นเป็นระยะ บ้างก็ว่าไม่เหมาะสมกันอย่างยิ่ง ฝ่ายหญิงแก่เกินไป ฝ่ายชายหน้าตาดีกว่ามาก ฝ่ายหญิงยังไม่หย่าขาดจากสามี บ้างก็ชมว่าเป็นคู่รักที่โรแมนติก น่ายกย่องที่ทั้งคู่กล้าออกมาประกาศตัวว่าคบหากันอย่างไม่แคร์สื่อ ไม่สนกระแสสังคมที่โจมตี แต่คำติชมทั้งในทางที่ดีและไม่ดีไม่ได้ทำให้การก้าวเดินของคนทั้งคู่สะดุดลงแต่อย่างใด ทั้งวัชพลและนิดายังคงควงแขนกันเดินไปยังเวทีกลางของงานอย่างชื่นมื่น

มีเพียงหญิงสาวคนเดียวในงานที่นิ่งอึ้งไปตั้งแต่พิธีกรชายประกาศชื่อวัชพล หิรัญสถิต เธอนิ่งเสียจนคนข้าง ๆ หวั่นใจ ณหทัยมองตามร่างของวัชพลและนิดาจนทั้งคู่พากันก้าวขึ้นบนเวที จึงได้หาเสียงของตนเองเจอ

“คุณภพช่วยบอกตรีหน่อยสิคะ ว่าคนบนเวทีนั่นไม่ใช่พี่พลของตรี”

มือบางเขย่าแขนคนข้างกายก่อนจะเปลี่ยนเป็นกำแขนเสื้อชายหนุ่มแน่น ใบหน้าที่เคยมีแต่รอยยิ้มนั้นขาวซีด ขณะเดียวกันคนบนเวทีก็ตกใจไม่แพ้กันเมื่อยืนอยู่บนเวทีแล้วมองลงมาเห็นลูกแกะที่ตนตั้งใจจะเลี้ยงไว้ดูเล่นเรื่อย ๆ ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า

“เป็นไปได้ยังไง”

อาการตกใจของวัชพลคงจะมีมากเกินไปจนสาวใหญ่สังเกตเห็น

“พลเป็นอะไรเหรอ”

“เปล่าครับพี่ กล่าวอะไรเล็กน้อยกันดีกว่าครับ”

วัชพลยิ้มหวานให้นิดาสนิทใจ พลางกุลีกุจอประคองอีกฝ่ายมายังกลางเวที ทั้งคู่กล่าวพอเป็นพิธี ก่อนจะส่งเวทีคืนให้กับพิธีกร แล้วคู่รักก็ควงแขนกันลงเวทีด้วยหน้าตาท่าทางมีความสุขอย่างเคย

“เป็นยังไงครับเซอร์ไพรส์แรกของงาน กับคู่รักต่างวัยที่ใคร ๆ ต่างก็อิจฉา ดูได้จากบนเวทีเมื่อสักครู่ ต่างฝ่ายต่างเทคแคร์ดูแลกัน เป็นภาพที่น่ารักมากเลยนะครับ แซวเล่นนะครับพอหอมปากหอมคอ เอาล่ะครับตอนนี้ผมต้องส่งต่อเวทีให้กับพี่ ๆ นักร้องนักดนตรีกันแล้ว เชิญสนุกกันต่อเลยครับ”

สิ้นเสียงพิธีกรหนุ่ม เสียงดนตรีก็บรรเลงขึ้นทันที บรรยากาศปาร์ตี้ยังคงความสนุกสนานในความรู้สึกของใครหลายคน แต่สำหรับณหทัยความสนุกสนานทั้งหมดทั้งปวงได้หยุดชะงักลงตั้งแต่ที่เธอเห็นแฟนหนุ่มควงคู่มากับไฮโซสาวใหญ่อายุอานามรุ่นคุณแม่เธอเห็นจะได้ นี่เขาหายไปเพื่อไปสานสัมพันธ์กับหญิงสาวรุ่นราวคราวแม่เธอหรือเนี่ย ตลกสิ้นดี

ณหทัยเปล่งเสียงหัวเราะออกมา ขณะเดียวกันหยาดน้ำตาก็ไหลริน ค่ำคืนแห่งการเซอร์ไพรส์ริมชายหาดมันช่างสนุกและเร้าใจเหลือเกิน เธอถูกเซอร์ไพรส์จริง ๆ ด้วย เป็นเซอร์ไพรส์ที่ปวดแสบปวดร้อนไปทั้งใจ ไม่สามารถหาคำใด ๆ มาบรรยายได้

อาการของคนข้าง ๆ ทำให้นราภพเป็นห่วง พาลโมโหตัวเองที่ใช้วิธีนี้ในการบอกความจริง ความเห็นแก่ตัวทำให้เขานึกถึงแต่ตัวเอง ลืมนึกไปว่าเธอจะรู้สึกเสียใจแค่ไหนหากได้มาพบกับอะไรแบบนี้

“ณหทัยครับ”

นราภพเอื้อมมือไปกุมทับมือน้อยที่เกร็งแน่นอยู่ที่แขนเสื้อตนเองจนแขนบางซีดขาวไร้สีเลือด มือบางถูกคนตัวโตปลดออกจากแขนเสื้อมากุมไว้ในอุ้งมือใหญ่แทน

“ไม่เป็นไรนะครับผมอยู่ตรงนี้”
ณหทัยหลุดจากในภวังค์ ดวงตาแดงก่ำคลอหยาดน้ำตาหันมองคนข้างกายเพียงนิด หญิงสาวแกะมือหนาของคนตัวโตออกจากการเกาะกุม พลางบอกเสียงเครือ

“ค่ะไม่เป็นไร คุณภพไม่ต้องเป็นห่วงนะคะเดี๋ยวตรีมา”

คนเรียบร้อยของนราภพคว้าแก้วใสทรงสวยที่บรรจุน้ำสีอำพันจากบริกรที่เดินผ่านกรอกลงคอแบบรวดเดียวหมดแก้ว แล้วรุดหน้าตามคู่รักต่างวัยไปทันที

“เดี๋ยวครับจะไปไหน”

นราภพมัวแต่อึ้งจึงคว้าตัวหญิงสาวไว้ไม่ทัน ได้แต่ก้าวตามไปในระยะกระชั้นชิด พอนราภพออกตัว เพชรและภัคค์ในชุดบริกรหนุ่มที่ปกปิดใบหน้าด้วยหน้ากากแฟนซีก็ออกตามไปห่าง ๆ เช่นเดียวกัน

----------------------------

“โธ่ พี่โกรธอะไรผมอีกครับ ผมทำอะไรผิดเนี่ย”

วัชพลส่งเสียงเหนื่อยหน่ายเมื่อเห็นว่าเดินมาห่างจากงานปาร์ตี้พอสมควร รู้สึกช่วงนี้หม้ายสาวจะขยันงอนเหลือเกิน

“เอ๊ะ อย่ามาทำเสียงแบบนี้ใส่พี่นะ” คุณนิดาหันมาตวาดแหว

วัชพลจึงรั้งร่างสาวใหญ่ให้หยุดเดิน พลางดึงร่างอวบไปใต้ต้นไม้ใหญ่ริมหาดที่คิดว่าลับสายตาคนเพราะมีพุ่มไม้สูงบังอยู่พอดี

“โอ๋ ๆ ครับ ไม่ทำเสียงแบบนี้แล้วก็ได้ แต่บอกผมซักนิดนะครับว่าพี่งอนผมเรื่องอะไร”

“ก็พลนั่นแหละ ทำอะไรรู้อยู่แก่ใจ ยังต้องให้พี่บอกอีกหรอ”
นิดาส่งค้อนปะหลับปะเหลือกให้หนุ่มรุ่นน้อง เธอเห็นทั้งหมด วัชพลเห็นผู้หญิงคนนั้นแล้วตกใจหน้าซีด สายตาที่ผ่านโลกมามากอย่างนางดูก็รู้ว่าต้องมีอะไรในกอไผ่ แถมระหว่างพูดก็ยังมองไปบ่อย ๆ แบบนี้ไม่ให้เธอโมโหได้ยังไง

“จะบอกไม่บอก ถ้าไม่บอกพี่เสร็จผมแน่”

“ว้ายพล อย่านะ”

นิดาเบี่ยงหลบริมฝีปากหนุ่มรุ่นน้องที่ระรานมาอย่างเริงร่า เสียงหยอกล้อของคนทั้งคู่ที่ดังเล็ดลอดออกมาช่วยนำทางสาวน้อยอีกคนได้เป็นอย่างดี

ณหทัยเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นภาพหลังพุ่มไม้ มือบางยกขึ้นปิดริมฝีปากที่สั่นระริกกลั้นเสียงสะอื้น ดวงตาแดงก่ำที่ยังไม่ทันหายช้ำเริ่มมีน้ำตาไหลเป็นทางอีกรอบ

“พี่พล...”

ณหทัยตะโกนเรียกชื่อคนรักดังก้องไปทั้งใจ แต่ในความเป็นจริงเสียงนุ่มหวานที่เปล่งออกมานั้นแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน กระนั้นกระแสเสียงแผ่ว ๆ เจือความเจ็บปวดที่หลุดออกมาจากสาวน้อยตรงหน้า ทำให้สองร่างที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ ผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว เมื่อสำนึกได้ว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่กันเพียงสองคนอีกต่อไป ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่นราภพตามณหทัยมาทันพอดี

“น้องตรี !” วัชพล เอ่ยขึ้นอย่างตกใจ แต่เพียงแค่พริบตาเดียว ผู้ชายคนนี้ก็ปรับสีหน้าเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ประหนึ่งว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด นิดามองสาวน้อยตรงหน้าอย่างมาดร้ายที่บังอาจมาขัดจังหวะ

“นี่เหรอคะ...งานที่พลอ้างตลอดเวลา...” หญิงสาวพูดได้เท่านั้นก็สะอื้นจนตัวโยน จนชายหนุ่มที่ตามมาอยากจะวิ่งเข้ามาปลอบซะเดี๋ยวนั้น

“ฮึกๆๆ...ธุระที่ว่าสำคัญ...คือ...การนอกใจ...ตรี หรอคะ” ณหทัยตัดพ้อเสียงสั่น

เมื่อเริ่มคุมสติตัวเองได้ ตัวตนจริง ๆ อีกด้านที่เก็บกักไว้อย่างดีของวัชพลก็ถูกแสดงออกมา

“เรื่องเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ไหน ๆ พี่ก็จะต้องบอกตรีอยู่แล้ว บอกซะเดี๋ยวนี้เลยก็คงไม่เป็นไร” ชายหนุ่มเว้นระยะครู่หนึ่ง พลางหันไปยิ้มหวานกับสาวใหญ่ ก่อนที่จะเอ่ยคำพูดที่ทำร้ายจิตใจหญิงสาวให้แหลกละเอียดไม่มีชิ้นดีออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน “ตรีกับพี่จบกันแค่นี้นะ พี่เจอคนที่พี่จะฝากทั้งหัวใจและชีวิตไว้แล้ว”

แข้งขาพานไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ร่างบางซวนเซทำท่าจะล้มจนนราภพต้องเคลื่อนตัวมาประคองไว้

“นี่คุณนิดา ผู้หญิงที่พี่จริงจังด้วย ถ้าหลงมาเจอกันก็ยกมือไหว้ได้นะ แต่พี่ว่าเราคงไม่ค่อยได้เจอกันหรอก เพราะอยู่กันคนละชั้น” ซาตานในคราบนักบุญตัวฉกาจกล่าวออกมาอย่างไม่เหลือภาพอะไรให้ต้องเก็บรักษา

ดวงตาเรียวเล็กตามประสาหนุ่มที่มีเชื้อสายจีนของวัชพล กวาดมองหญิงสาวคู่สนทนาที่ยืนนัยน์ตาคลอด้วยน้ำใส ๆ ริมผีปากสั่นระริก อยู่ตรงหน้า ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างเย้ยหยันกึ่งสมเพช สายตานั้นยังเหยียดไปถึงนราภพที่ประคองหญิงสาวอยู่

“พี่ว่าไอ้หนุ่มที่ยืนประคองตรีอยู่นั่นน่ะเหมาะสมกับตรีที่สุดแล้ว บ้านนอกพอกัน ดูเหมือนมันก็รอโอกาสนี้อยู่นี่ รีบ ๆ ยื่นให้มันซะ อย่ามัวแต่เล่นตัว เดี๋ยวมันจะเบื่อแล้วหายไปอีกคน”

นราภพขบกรามแน่น มันได้รับเลือกเป็นผู้จัดการบริษัทในเครือเขาได้ยังไง ยังข้องใจ ตั้งแต่ตามมันมายังไม่เคยเจอข้อดีสักข้อ ถ้าไม่ติดว่ามีผู้หญิงอยู่ ไอ้หมอนี่ได้เลือดกลบปากไปนานแล้ว ไม่ได้มายืนพล่ามแบบนี้แน่นอน นราภพสูดหายใจเข้าลึกแล้วค่อย ๆ ผ่อนออกมา พลางบอกกับตัวเองว่าให้เย็นไว้

“พี่เบื่อที่จะเล่นเกมนี้กับตรีแล้ว อย่างตรี พาไปไหนด้วยก็คงไม่เชิดหน้าชูตาเท่าไหร่ ยิ่งตอนนี้หน้าที่การงานของพี่กำลังไปได้ดี ได้เป็นถึงผู้จัดการระดับ “บิ๊ก” ของเครืออัศวเดชา ถึงเวลาที่พี่ควรจะหาผู้หญิงที่เหมาะสมกับพี่ ทั้งฐานะ หน้าที่การงาน ชาติตระกูลและการศึกษาให้ตัวเองเสียที...ซึ่งพี่ก็เลือกคุณนิดา” พูดจบแบดบอยตัวร้ายก็กุมมือสาวใหญ่ขึ้นจรดริมฝีปาก ท่วงท่าอ่อนโยนและเย้ยหยันสาวน้อยตรงหน้าอยู่ในที

“สี่ปี พี่คิดกับตรี...แค่นี้เองหรอคะ” ณหทัย พูดขึ้นบ้าง อย่างคนละเมอ รู้สึกช็อคกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน...มองวัชพล เหมือนกับว่าไม่เคยรู้จักผู้ชายตรงหน้านี้มาก่อน

“ใช่... ลาก่อนนะแม่สาวชาวสวน รีบกลับไปเก็บดอกจำปีขายนะ จะได้มีโอกาสมาเที่ยวสถานที่แพง ๆ แบบนี้อีกบ่อย ๆ” คำพูดที่ตอกย้ำลงไปในความรู้สึกของณหทัย หลุดออกมาจากปากของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่วัชพลจะเดินเคียงคู่ไปกับสาวใหญ่ที่มีแต่รอยยิ้มพึงพอใจ พร้อมกับทิ้งเสียงหัวเราะที่บาดลึกลงไปในจิตใจให้ดังก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของสาวน้อยคนหนึ่งชนิดที่ยากจะลืมเลือน

“ไม่จริง...ไม่จริงใช่ไหม” ณหทัยเอ่ยแผ่วเบา ไม่อยากจะยอมรับความจริง ร่างบอบบางทรุดตัวลงนั่งร้องไห้กับพื้น อย่างไม่อายสายตาใคร จนคนที่โอบประคองอยู่แทบจะรั้งไว้ไม่ทัน

คำพูดที่ออกมาจากปากคนรักที่ตอนนี้กลายเป็นอดีตไปแล้ว ยังบาดหัวใจให้มีเลือดไหลซิบ ๆ

นราภพย่อตัวลงนั่งข้าง ๆ หญิงสาว ที่ตอนนี้กำลังก้มหน้าก้มตาปล่อยน้ำตาให้ไหลเป็นสายอยู่ที่พื้น

“ให้ผมพาไปจากตรงนี้นะครับ” กระแสเสียงอ่อนโยนจากคนตัวโตเอ่ยกับหญิงสาวพอให้ได้ยินกันแค่สองคน แน่นอนนี่ไม่ใช่คำขออนุญาตแต่เป็นเพียงประโยคบอกเล่าให้หญิงสาวได้รับฟังรับทราบจากเขาเท่านั้น เพราะต่อให้เธอไม่อนุญาตเขาก็จะอยู่ตรงนี้ ร่างสูงค่อย ๆ พยุงร่างบางให้ลุกขึ้น โอบกอดประคองพาเดินไปยังสถานที่ที่ตนต้องการ

ณหทัยยังคงจมอยู่กับความเสียใจ วินาทีนี้เธอไม่อยากจะเอ่ยปากสนทนากับใคร ไม่ทัดทานแม้แต่น้อย ไม่สนใจว่าคุณภพจะพาเธอไปที่ไหน ขอแค่ไปพ้นจากตรงนี้ก็พอ หญิงสาวหลับตาลงปิดกั้นการรับรู้ทุกสิ่งอย่าง ปล่อยให้น้ำตาได้ไหลรินอย่างเงียบเชียบ

----------------------------------------------

จบกันไปแล้วสำหรับตอนที่ 6 เป็นยังไงบ้างคะ
แนะนำติชมกันได้นะคะ คำแนะนำติชมของท่านจะเป็นกำลังใจอย่างดีให้ผู้เขียน :)
แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าจ้า
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม



ปีบเพชร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ต.ค. 2557, 09:02:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ต.ค. 2557, 09:02:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 1342





<< ตอนที่ 5 เป็นเรื่อง   ตอนที่ 7 หาเรื่อง >>
ยัยตัวนุ่มนิ่ม 21 ต.ค. 2557, 09:30:10 น.
มาแอบอ่านเวลาทำงานค่ะ รอตอนต่อไปปปปปปปปปปป


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account