The Universe story series Hexagon T.
เอก อนุทวีสกุล เด็กหนุ่มอัจฉริยะของโลกมนุษย์ผู้ที่ได้รับเลือกแบบไม่ทันได้ตั้งตัวให้เข้าร่วมกับหน่วยพิเศษเฉพาะกิจโดยมีภารกิจหลักคือการตามขุมพลังอันเป็นต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่งก่อนที่ใครจะได้ไปครอบครอง งานนี้ เขาและเพื่อนต่างดาวอีกห้าคนที่มีความสามารถในระดับสูงจะท่องไปในพหุภพอันกว้างใหญ่และเผชิญกับอันตรายทุกรูปแบบ การเดินทางได้เริ่มขึ้ันแล้ว
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: อาณาจักรทั้ง6
ดวงดาวที่1เด็กหนุ่มจากอณาจักรอีราทอร์ (โลก)
ชีวิตผมไม่ได้มีอะไรมาก ตื่นขึ้นมา อาบน้ำแต่งตัว เตรียมที่จะไปโรงเรียน ขยันเข้าไว้เพื่ออนาคตของตนเอง เรียนเสร็จก็กลับบ้าน อ่านหนังสือ ทำการบ้าน เล่นเกม แล้วก็ คร่อกกกกก แล้วมันก็วนอยู่ซ้ำๆนี่แหละบางวันอาจเปลี่ยนแผนบ้างนิดหน่อย จีบสาว หรือ ไปเที่ยว บ้างก็หลับเลยเมื่อถึงบ้าน ผมก็แค่เด็กหนุ่มซึ่งย่างเข้าสู่วัยรุ่น นี่แหละผม “เอก อนุทวีสกุล”
ในวันที่อากาศสดใส เด็กหนุ่มก็เข้าเรียนตามปรกติ เขาเป็นเด็กฉลาด สอบแข่งขันวิชาการ หรือ จะกีฬา เขาก็เป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ ถึงแม้ในเวลาเรียนเขาจะแค่ปล่อยให้เสียงที่อาจารย์พูดนั้นผ่านหูไป และ ด้วยความฉลาดของเขาทำให้เขาได้เข้ามหาวิทยาลัยเพียงอายุแค่ 13ปี
“ทำไมวันนี้มันรู้สึกแปลกๆ แฮะ เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้สติเราไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยนะ”
เด็กหนุ่มคิดในใจ เขารู้สึกว่าวันนี้ เวลานั้นเดินช้ามากกว่าปรกติ มีบางอย่างข้างนอกรั้วมหาวิทยาลัยกำลังเรียกเขาอยู่
กริ๊งงงง เสียงกริ่งร้องดัง บรรยากาศอันกดดันและแสนน่าเบื่อภายในหัวสมองของเด็กหนุ่มกระจายหายไปในอากาศ
“ยะฮู้ บ้ายบาย แล้วเจอกัน มหาลัย” เขาตะโกน และมุ่งตรงไปยังจุดมุ่งหมายของเขา ซึ่งนั่นก็คือ....
อันที่จริงเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะไปไหน ในหัวของเขาคือความว่างเปล่าและอิสระเสรี ความเป็นตัวของตัวเอง เขาวิ่งมาได้ซักพัก มันคือ ตึกร้างท่าทางเก่า แต่ไม่มาก น่าจะเป็นตึกที่สร้างไม่เสร็จแต่ก็หยุดสร้างไป เขาหยุดอยู่ตรงหน้าตึกร้างนี้ มีบางสิ่งบอกเขาให้เข้าไป ไม่รอช้าความอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาก้าวย่างเข้าไปแต่เมื่อขาของเขาก้าวไปพียงครึ่งก้าว สิ่งต่างๆรอบตัวก็บิดเบี้ยว
ภาพข้างหน้าเหมือนกับอากาศถูกฉีกออกเป็นรูเปิดอ้ารับเขา นี่เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เขาลังเลในการตัดสินใจ “เอาไงเอากัน ย้ากก” เด็กหนุ่มกระโดด เข้าไปร่างของเขาหายวับไป อากาศที่ถูกฉีกออกก็หายไปพร้อมกันเหลือเพียงความว่างเปล่า
........
ดวงดาวดวงที่ 2 เด็กสาวแห่งอาณาจักรยูโทร่าห์
ห่างจาก เอกภพของโลกมาแสนไกล นี่คือ ดวงดาวที่มีแหล่งอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรือง เด็กสาวอายุเมื่อเทียบกับ อายุของชาวโลก คือ 13 ปี เธอมีรูปร่าง สีผิว ที่คล้ายกับมนุษย์โลก หน้าตาดูดี ผมสีน้ำตาลยาวประบ่าดวงตาสีฟ้าดั่งสายน้ำรูปร่างสมส่วน จัดว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารักเลยทีเดียว ภายในห้องโถงของเธอที่ทั้งกว้างใหญ่และหรูหรา ในห้องมีของมีค่ามากมายหลายชนิดเธอนังอยู่บนโซฟา เบื้องหน้าของเธอคือชายวัยกลางคน ลักษณะคล้ายมนุษย์โลก เพียงแต่ทั่วเรือนร่างนั้นคือหินแร่สีเงิน ผิวพรรณส่องประกายราวเพชร จากนั้นการสนทนาก็เริ่มขึ้น
“ลอเรีย นากาเร็ต เธอคือ เด็กสาวที่มีความสามารถมากมายทั้งความรู้ และความสามารถ เราคือ หน่วยงาน HEXAGON เธอได้รับเลือกให้เข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิก ของเรา” หนึ่งในสองคนนั้นเอ่ยขึ้น
“ค่ะ หนูก็พอรู้เรื่องเกี่ยวกับองค์กรณ์นี้มาบ้างแล้ว” เด็กสาวตอบกลับ จากนั้นก็จ้องตาของคู่สนทนาด้วยแววตาที่คมกริบ “สิ่งๆนั้นมันกำลังปรากฎตัวขึ้นสินะคะ” เธอถามกลับ
“ถูกต้อง” คู่สนทนาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“เฮ้อออ ไม่คิดจะทำท่าทีเป็นปิดบัง หน่อยหรอค๊ะ ไม่สนุกเลยย” เธอถอนหายใจ ตอบด้วยเสียงอ่อย
“ตกลงจะมามั้ยหล่ะ” ชายหนุ่มพูดขึ้น
“ตัวแทนแห่งยูเทร่าห์ เพื่อนำ สิ่งนั้นมา ใครไม่มาก็คงไม่มีอยู่แล้ว” เธอกล่าวและลุกขึ้น เป็นการบอกว่าเธอพร้อมแล้ว
อากาศถูกฉีกเผยให้เห็นชอ่งข้ามมิติ ชายหนุ่มผายมือ เป็นการบอกเชิญให้เธอ เข้าไป
“จะไปหล่ะนะค๊ะ” เธอกระโดดเข้าไปข้างใน พริบตา ช่องมิติก็หายไป ทุ่งสิ่งเป็นดังเดิม
.......................
ดวงดาวดวงที่3เด็กหนุ่มแห่งอาณาจักรนาซาซิส
รอบด้านของดาวดวงนี้เต็มไปด้วยป่าไม้ ภูเขา แม่น้ำ สัตว์ป่า ธรรมชาติ เด็กหนุ่มตัวสูงกว่ามนุษย์ราวๆ 2เท่า ผิวสีน้ำตาลดั่งเปลือกไม้ผมสีเทาหยิกยาวลงมาถึงต้นคอ ดวงตาสีเขียว การเคลื่อนไหวที่ว่องไวราวเสือชีตาร์ เครื่องนุ่งห่มที่ทำมาจากหนังสัตว์ที่ไมมีในโลกมนุษย์ มีสร้อยคอ ที่มีเขี้ยวของสัตว์ร้ายประดับอยู่ที่คอ มือข้างหนึ่งถือหอก วิ่งไล่ตามสัตว์ใหญ่ตามแนวแม่น้ำ
“ย้ากก แกเสร็จแน่” เขาขว้างหอกปักอกใส่สัตว์ยักษ์อย่างแม่นยำ ซึ่งลักษณะเหมือนหมูป่า ต่างกันแค่เขี้ยวและลำตัวใหญ่กว่าบนโลก 3-4เท่า
“เยี่ยมยอดจริงๆ สมแล้วที่เป็นถึงบุตรชายของ อาคาชายน์ เจ้าแห่งนาซาซิส ท่านชื่อนาปากัซสินะ”
สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์เพียงแต่ลำตัวนั้นกล้ามเนื้อเป็นมัดอัดแน่นอยู่
“แกเป็นใคร” เด็กหนุ่มตะโกนถามอย่างระหวาดระแวง
“ข้าคือตัวแทนจาก HEXAGON ข้ามารับท่าน แน่นอนว่าบอกพ่อท่านแล้ว” ชายร่างยักษ์ตอบอย่างสุภาพ
“สิ่งนั้นมันกำลังออกมาสินะ แล้วเจ้าก็เลือกข้า” เด็กหนุ่มยิ้มชอบใจ
“เอาสิข้าพร้อมแล้ว” เด็กหนุ่มตอบรับ
ชายร่างยักษ์หยิบมีดออกมาผ่าไปในอากาศ เกิดรอยฉีกของอากาศทำให้เกิดป็นประตูมิติ
“ไปหล่ะนะ”เด็กหนุ่มกระโดดไปในช่องมิติราวกับกระโดดเข้าเครื่องเล่น
“องค์กร HEXAGON องค์กรที่ใหญ่ที่สุดในพหุภพ ข้าจะได้เป็นตัวแทนแห่งนาซาซิสแล้ว เท่ระเบิดดดดด” เด็กหนุ่มตะโกนตลอดทาง ทำเอาชายร่างยักษ์ถอนหายใจเป็นช่วงๆ
“สมแล้ว เจ้าชายแห่งการวิวาท นาปากัซ แค่เริ่มก็เลือดร้อนแล้ว”
.....................
ดวงดาวดวงที่4เด็กน้อยแห่งอาณาจักรเอเจนาย
ในห้องที่อึมครึมห้อมล้อมด้วยเครื่องมืออันทันสมัยผนังห้องเต็มไปด้วยสูตรคณิตศาสตร์ที่เกิดจาก เด็กอายุ 10ขวบ ตัวเล็ก ใบหูเรียวยาว หางตาคมขนตาเรียว ผิวพรรณเรียบเนียน เด็กน้อยชาวคาร่า ดวงดาวที่เจริญในด้านเทคโนโลยี แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งต่างๆบนดาวเกิดจาก ความอัจฉริยะของเด็กน้อยคนนี้
“ไม่ต้องซ่อนหรอกครับ จ.น.ท ของ HEXAGON ผมรู้อยู่แล้ว” เด็กหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงเรียบขณะที่กำลังอยู่หน้า สิ่งที่เหมือนกับคอมพิวเตอร์
“สมแล้วที่เป็น เด็กอัจฉริยะแห่งดาวเอเจนาย คาร่า”เสียงปรากฏขึ้นพร้อมกับร่างของชายสูงวัย ถึงจะรู้สึกเสียหน้านิดๆ ที่ถูกจับได้ว่าซ่อนตัวโดยอาศัยเข้าไปอีกมิติเพื่อเข้ามาแต่กลับถูกเด็กจับได้
“ผมจะเข้าร่วมเพื่อนำสิ่งๆนั้นมา นี่คือคำตอบไม่ต้องถามมาก” เป็นคำตอบที่ทำให้อีกฝ่ายเสียหลักอยู่อย่างมาก นอกจากโดนจับได้ว่าลอบเข้ามา ยังถูกดักคำถามไว้อีก
“รู้ถึงข้อมูลละเอียดแล้วหรอ” ชายชราไม่ยอมแพ้ เขาไม่ยอมเสียหน้าอีกต่อไปแล้ว
“รู้หมดแล้วหล่ะครับ ทั้ง จุดประสงค์ บุคคล ข้อมูลของเจ้านั้น อันที่จริงรู้กระทั่งความลับสุดยอดของ HEXAGON ด้วยซ้ำ”เด็กหนุ่มหีนมาหาชายชราพร้อมแสยะรอยยิ้ม และหัวเราะในลำคอ
“ระดับ IQที่290อย่างหนูไม่แปลกหรอกที่จะแฮ็คเข้ามา”ชายชราหมดหวังที่จะเอาชนะ
“พร้อมรึยัง”ชายชราหยิบมีด
“ยังใช้เครื่องผ่ามิติแบบนั้นอยู่อีกหรอ”เด็กน้อยหันไปหยิบเครื่องมือคล้ายกับ smart phone จากโต๊ะทำงานของเขา
“HEXAGON” เด็กหนุ่มพูด เครื่องมือก็เริ่มเกิดปฏิกริยา แสงสว่างล้อมรอบเขาและชายชราไว้
ซูมมมมมม เขาและชายชราหายไปแล้ว
...................................
ดวงดาวดวงที่5สาวน้อยแห่งอณาจักรฟาร์ฟอนเจีย
ณ ดินแดนบนดวงดาวที่อยู่ในระบบสุริยะที่ห่างไกลจากเอกภพอื่นๆ ดาราจักรอื่นๆ ปราสาทหินที่ใหญ่โต หรูหรา อลังการ มันคือปราสาท แห่งอาณาจักร ฟาร์ฟอนเจีย ปกครองโดย กษัตริย์ มาดอนที่12 ภายในตกแต่งด้วยภาพวาด งานศิลปะ เครื่องเงิน และเป็นที่อยู่ของเจ้าหญิงองค์น้อยๆ “เอเซกุด มาดอน”เด็กหญิงอายุ 5 ขวบ ธิดาแห่งราชวงศ์ มาดอน
“ท่านมาดอนที่12และเจ้าหญิง เอเซกุด เสด็จ” เสียงตะโกนของบ่าวหน้าประตูเป็นสัญญาณให้เหล่าข้าราชบริวารเคารพในการกลับวังหลังจากตรวจราชการ
“ท่านมาดอน มีคนจาก HEXAGON มาเข้าเฝ้าขอรับ” นายทหารรายงาน
“ข้าจะไปพบ”มาดอนตอบ และหันไปหาลูกสาว “ลูกพ่อ พร้อมที่จะก้าวสู่สังเวียนเพื่อ ฟาร์ฟอนเจีย แล้วหรือยัง”
“หนูพร้อมเสมอค่ะ” เด็กสาวยิ้มน่ารักส่งให้พ่อ ทำเอา คนทั้งโถงรับเสด็จยิ้มตามกับความน่ารักตรงหน้า
ทั้งสองเดินตรงไปยังห้องรับรองแขก
“ข้าคือ นอมเทียส ชาว มาเดียส ตัวแทนแห่ง HEXZAGON ในการพาตัว เจ้าหญิง เอเซกุด เพื่อทำภารกิจ” ชายผอมสูงพูดพร้อมอากัปกริยาเรียบร้อย พร้อมทั้งน้ำเสียงก็นิ่มนวลไพเราะอันเป็นเอกลักษ์ของชาวมาเดียส
“ลูกสาวของข้าพร้อมเสมอ ฝีมือของเธอก็ไม่ได้แตกต่างไปจากข้า เผลอๆ ดีกว่าเสียด้วยสิ” ผู้เป็นราชากล่าวตอบด้วยความภาคภูมิ
“พ่อค๊ะ หนูจะทำให้สำเร็จค่ะ ฮิฮิ” เด็กน้อยท่าทางไร้เดียงสายิ้มแย้ม และหัวเราะให้ผู้เป็นพ่อเห็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเข้าไปในประตูมิติ
ดวงดาวดวงที่6นักสู้แห่งอาณาจักรโฮเทเพีย
ตึกสูงเสียดฟ้ามากมายหลายแห่ง มีต้นไม้และความธรรมชาติในตัวเมืองและชานเมืองทำให้อากาศพิษนั้นแทบจะไม่มีเลย ดวงดาวแห่งนี่คือโฮโทเพีย หนึ่งในห้าดวงดาวที่นับเป็นอารยธรรมที่ก้าวหน้าและพร้อมในทุกด้าน ที่นครเมืองหลวงแห่งนี้มีชาวต่างดาวหลากหลายสายพันธ์มากมายนับได้ว่าครึกครื้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ดาวดวงนี้ยังเป็นหนึ่งในหก ของ HEXAGON PLANET อีกด้วย และแน่นอนด้วยความเป็นมหาอำนาจแห่งพหุภพทำให้ศูนย์ทงานหลักขององกรณ์ HEXAGON อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน องกรณ์นี้อยู่บนตึก H tower ตึกที่สูงที่สุดบนเอกภพที่ โฮเทเพียอยู่ บนพื้นยังมีใต้ดินอันเป็นที่พักของเหล่าทหารนักสู้ฝีมือดีชาวโฮเทเพียแท้ และวันนี้เป็นวันคัดเลือกระหว่าง “เนียทาพอง” เด็กหนุ่มวัย 16 ปี รูปร่างสูง ร่างกายบึกบึนแข็งแรง สีผิวออกคล้ำ เขาเป็นนักสู้ระดับหนึ่งในชั้นเรียน วันนี้เขาค้องสู้กับ “นาโปเต” ถือได้ว่าเป็นอริกัน ไม่แปลก เพราะทั้งคู่เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน
“ถึงแกป็นพี่ฉัน ฉันก็ไม่ยอมแกหรอก” นาโปเตกล่าวร้อง
เป้ง เสียงเคาะเป็นสัญญาณว่าเวลาตัดสินได้เริ่มขึ้นแล้ว
นาโปเตกระโดดขึ้นฟ้า ยกเท้า เตรียมถีบหน้าพี่ชายอย่างเต็มแรงหวังให้ครั้งเดียวจบศึก ขณะที่เนียทาพองยืนหลับตาอยู่นิ่งๆ
“ย้ากกก จบสักที”นาโปเตใช้กำลังขาฟาดเข้าเป้าหมาย หรือก็คือพี่ชายตนเอง แต่ทว่า
ความไวในช่วงเสี้ยววินาที่ เนียทาพองก้มหลบและใช้หมัดอัดเข้าท้องของน้องตนเองก่อนจะเผด็จศึก ใช้ฝ่ามือผลักอีกฝ่ายกระเด็นติดกำแพงเหล็กกล้า
“สติ ต้องมาก่อนสู้เสมอนะ”เขากล่าวด้วยเสียงเก็กหล่ออย่างเต็มที่
“อ่ะฮว้า เสียงคนชนะก็เป็นงี้แหละ”เขากล่าวปนเยาะเย้ยก่อนที่ครูฝึกจะพาตัวเขาไปยังประตูมิติ
ชีวิตผมไม่ได้มีอะไรมาก ตื่นขึ้นมา อาบน้ำแต่งตัว เตรียมที่จะไปโรงเรียน ขยันเข้าไว้เพื่ออนาคตของตนเอง เรียนเสร็จก็กลับบ้าน อ่านหนังสือ ทำการบ้าน เล่นเกม แล้วก็ คร่อกกกกก แล้วมันก็วนอยู่ซ้ำๆนี่แหละบางวันอาจเปลี่ยนแผนบ้างนิดหน่อย จีบสาว หรือ ไปเที่ยว บ้างก็หลับเลยเมื่อถึงบ้าน ผมก็แค่เด็กหนุ่มซึ่งย่างเข้าสู่วัยรุ่น นี่แหละผม “เอก อนุทวีสกุล”
ในวันที่อากาศสดใส เด็กหนุ่มก็เข้าเรียนตามปรกติ เขาเป็นเด็กฉลาด สอบแข่งขันวิชาการ หรือ จะกีฬา เขาก็เป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ ถึงแม้ในเวลาเรียนเขาจะแค่ปล่อยให้เสียงที่อาจารย์พูดนั้นผ่านหูไป และ ด้วยความฉลาดของเขาทำให้เขาได้เข้ามหาวิทยาลัยเพียงอายุแค่ 13ปี
“ทำไมวันนี้มันรู้สึกแปลกๆ แฮะ เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้สติเราไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยนะ”
เด็กหนุ่มคิดในใจ เขารู้สึกว่าวันนี้ เวลานั้นเดินช้ามากกว่าปรกติ มีบางอย่างข้างนอกรั้วมหาวิทยาลัยกำลังเรียกเขาอยู่
กริ๊งงงง เสียงกริ่งร้องดัง บรรยากาศอันกดดันและแสนน่าเบื่อภายในหัวสมองของเด็กหนุ่มกระจายหายไปในอากาศ
“ยะฮู้ บ้ายบาย แล้วเจอกัน มหาลัย” เขาตะโกน และมุ่งตรงไปยังจุดมุ่งหมายของเขา ซึ่งนั่นก็คือ....
อันที่จริงเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะไปไหน ในหัวของเขาคือความว่างเปล่าและอิสระเสรี ความเป็นตัวของตัวเอง เขาวิ่งมาได้ซักพัก มันคือ ตึกร้างท่าทางเก่า แต่ไม่มาก น่าจะเป็นตึกที่สร้างไม่เสร็จแต่ก็หยุดสร้างไป เขาหยุดอยู่ตรงหน้าตึกร้างนี้ มีบางสิ่งบอกเขาให้เข้าไป ไม่รอช้าความอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาก้าวย่างเข้าไปแต่เมื่อขาของเขาก้าวไปพียงครึ่งก้าว สิ่งต่างๆรอบตัวก็บิดเบี้ยว
ภาพข้างหน้าเหมือนกับอากาศถูกฉีกออกเป็นรูเปิดอ้ารับเขา นี่เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เขาลังเลในการตัดสินใจ “เอาไงเอากัน ย้ากก” เด็กหนุ่มกระโดด เข้าไปร่างของเขาหายวับไป อากาศที่ถูกฉีกออกก็หายไปพร้อมกันเหลือเพียงความว่างเปล่า
........
ดวงดาวดวงที่ 2 เด็กสาวแห่งอาณาจักรยูโทร่าห์
ห่างจาก เอกภพของโลกมาแสนไกล นี่คือ ดวงดาวที่มีแหล่งอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรือง เด็กสาวอายุเมื่อเทียบกับ อายุของชาวโลก คือ 13 ปี เธอมีรูปร่าง สีผิว ที่คล้ายกับมนุษย์โลก หน้าตาดูดี ผมสีน้ำตาลยาวประบ่าดวงตาสีฟ้าดั่งสายน้ำรูปร่างสมส่วน จัดว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารักเลยทีเดียว ภายในห้องโถงของเธอที่ทั้งกว้างใหญ่และหรูหรา ในห้องมีของมีค่ามากมายหลายชนิดเธอนังอยู่บนโซฟา เบื้องหน้าของเธอคือชายวัยกลางคน ลักษณะคล้ายมนุษย์โลก เพียงแต่ทั่วเรือนร่างนั้นคือหินแร่สีเงิน ผิวพรรณส่องประกายราวเพชร จากนั้นการสนทนาก็เริ่มขึ้น
“ลอเรีย นากาเร็ต เธอคือ เด็กสาวที่มีความสามารถมากมายทั้งความรู้ และความสามารถ เราคือ หน่วยงาน HEXAGON เธอได้รับเลือกให้เข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิก ของเรา” หนึ่งในสองคนนั้นเอ่ยขึ้น
“ค่ะ หนูก็พอรู้เรื่องเกี่ยวกับองค์กรณ์นี้มาบ้างแล้ว” เด็กสาวตอบกลับ จากนั้นก็จ้องตาของคู่สนทนาด้วยแววตาที่คมกริบ “สิ่งๆนั้นมันกำลังปรากฎตัวขึ้นสินะคะ” เธอถามกลับ
“ถูกต้อง” คู่สนทนาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“เฮ้อออ ไม่คิดจะทำท่าทีเป็นปิดบัง หน่อยหรอค๊ะ ไม่สนุกเลยย” เธอถอนหายใจ ตอบด้วยเสียงอ่อย
“ตกลงจะมามั้ยหล่ะ” ชายหนุ่มพูดขึ้น
“ตัวแทนแห่งยูเทร่าห์ เพื่อนำ สิ่งนั้นมา ใครไม่มาก็คงไม่มีอยู่แล้ว” เธอกล่าวและลุกขึ้น เป็นการบอกว่าเธอพร้อมแล้ว
อากาศถูกฉีกเผยให้เห็นชอ่งข้ามมิติ ชายหนุ่มผายมือ เป็นการบอกเชิญให้เธอ เข้าไป
“จะไปหล่ะนะค๊ะ” เธอกระโดดเข้าไปข้างใน พริบตา ช่องมิติก็หายไป ทุ่งสิ่งเป็นดังเดิม
.......................
ดวงดาวดวงที่3เด็กหนุ่มแห่งอาณาจักรนาซาซิส
รอบด้านของดาวดวงนี้เต็มไปด้วยป่าไม้ ภูเขา แม่น้ำ สัตว์ป่า ธรรมชาติ เด็กหนุ่มตัวสูงกว่ามนุษย์ราวๆ 2เท่า ผิวสีน้ำตาลดั่งเปลือกไม้ผมสีเทาหยิกยาวลงมาถึงต้นคอ ดวงตาสีเขียว การเคลื่อนไหวที่ว่องไวราวเสือชีตาร์ เครื่องนุ่งห่มที่ทำมาจากหนังสัตว์ที่ไมมีในโลกมนุษย์ มีสร้อยคอ ที่มีเขี้ยวของสัตว์ร้ายประดับอยู่ที่คอ มือข้างหนึ่งถือหอก วิ่งไล่ตามสัตว์ใหญ่ตามแนวแม่น้ำ
“ย้ากก แกเสร็จแน่” เขาขว้างหอกปักอกใส่สัตว์ยักษ์อย่างแม่นยำ ซึ่งลักษณะเหมือนหมูป่า ต่างกันแค่เขี้ยวและลำตัวใหญ่กว่าบนโลก 3-4เท่า
“เยี่ยมยอดจริงๆ สมแล้วที่เป็นถึงบุตรชายของ อาคาชายน์ เจ้าแห่งนาซาซิส ท่านชื่อนาปากัซสินะ”
สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์เพียงแต่ลำตัวนั้นกล้ามเนื้อเป็นมัดอัดแน่นอยู่
“แกเป็นใคร” เด็กหนุ่มตะโกนถามอย่างระหวาดระแวง
“ข้าคือตัวแทนจาก HEXAGON ข้ามารับท่าน แน่นอนว่าบอกพ่อท่านแล้ว” ชายร่างยักษ์ตอบอย่างสุภาพ
“สิ่งนั้นมันกำลังออกมาสินะ แล้วเจ้าก็เลือกข้า” เด็กหนุ่มยิ้มชอบใจ
“เอาสิข้าพร้อมแล้ว” เด็กหนุ่มตอบรับ
ชายร่างยักษ์หยิบมีดออกมาผ่าไปในอากาศ เกิดรอยฉีกของอากาศทำให้เกิดป็นประตูมิติ
“ไปหล่ะนะ”เด็กหนุ่มกระโดดไปในช่องมิติราวกับกระโดดเข้าเครื่องเล่น
“องค์กร HEXAGON องค์กรที่ใหญ่ที่สุดในพหุภพ ข้าจะได้เป็นตัวแทนแห่งนาซาซิสแล้ว เท่ระเบิดดดดด” เด็กหนุ่มตะโกนตลอดทาง ทำเอาชายร่างยักษ์ถอนหายใจเป็นช่วงๆ
“สมแล้ว เจ้าชายแห่งการวิวาท นาปากัซ แค่เริ่มก็เลือดร้อนแล้ว”
.....................
ดวงดาวดวงที่4เด็กน้อยแห่งอาณาจักรเอเจนาย
ในห้องที่อึมครึมห้อมล้อมด้วยเครื่องมืออันทันสมัยผนังห้องเต็มไปด้วยสูตรคณิตศาสตร์ที่เกิดจาก เด็กอายุ 10ขวบ ตัวเล็ก ใบหูเรียวยาว หางตาคมขนตาเรียว ผิวพรรณเรียบเนียน เด็กน้อยชาวคาร่า ดวงดาวที่เจริญในด้านเทคโนโลยี แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งต่างๆบนดาวเกิดจาก ความอัจฉริยะของเด็กน้อยคนนี้
“ไม่ต้องซ่อนหรอกครับ จ.น.ท ของ HEXAGON ผมรู้อยู่แล้ว” เด็กหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงเรียบขณะที่กำลังอยู่หน้า สิ่งที่เหมือนกับคอมพิวเตอร์
“สมแล้วที่เป็น เด็กอัจฉริยะแห่งดาวเอเจนาย คาร่า”เสียงปรากฏขึ้นพร้อมกับร่างของชายสูงวัย ถึงจะรู้สึกเสียหน้านิดๆ ที่ถูกจับได้ว่าซ่อนตัวโดยอาศัยเข้าไปอีกมิติเพื่อเข้ามาแต่กลับถูกเด็กจับได้
“ผมจะเข้าร่วมเพื่อนำสิ่งๆนั้นมา นี่คือคำตอบไม่ต้องถามมาก” เป็นคำตอบที่ทำให้อีกฝ่ายเสียหลักอยู่อย่างมาก นอกจากโดนจับได้ว่าลอบเข้ามา ยังถูกดักคำถามไว้อีก
“รู้ถึงข้อมูลละเอียดแล้วหรอ” ชายชราไม่ยอมแพ้ เขาไม่ยอมเสียหน้าอีกต่อไปแล้ว
“รู้หมดแล้วหล่ะครับ ทั้ง จุดประสงค์ บุคคล ข้อมูลของเจ้านั้น อันที่จริงรู้กระทั่งความลับสุดยอดของ HEXAGON ด้วยซ้ำ”เด็กหนุ่มหีนมาหาชายชราพร้อมแสยะรอยยิ้ม และหัวเราะในลำคอ
“ระดับ IQที่290อย่างหนูไม่แปลกหรอกที่จะแฮ็คเข้ามา”ชายชราหมดหวังที่จะเอาชนะ
“พร้อมรึยัง”ชายชราหยิบมีด
“ยังใช้เครื่องผ่ามิติแบบนั้นอยู่อีกหรอ”เด็กน้อยหันไปหยิบเครื่องมือคล้ายกับ smart phone จากโต๊ะทำงานของเขา
“HEXAGON” เด็กหนุ่มพูด เครื่องมือก็เริ่มเกิดปฏิกริยา แสงสว่างล้อมรอบเขาและชายชราไว้
ซูมมมมมม เขาและชายชราหายไปแล้ว
...................................
ดวงดาวดวงที่5สาวน้อยแห่งอณาจักรฟาร์ฟอนเจีย
ณ ดินแดนบนดวงดาวที่อยู่ในระบบสุริยะที่ห่างไกลจากเอกภพอื่นๆ ดาราจักรอื่นๆ ปราสาทหินที่ใหญ่โต หรูหรา อลังการ มันคือปราสาท แห่งอาณาจักร ฟาร์ฟอนเจีย ปกครองโดย กษัตริย์ มาดอนที่12 ภายในตกแต่งด้วยภาพวาด งานศิลปะ เครื่องเงิน และเป็นที่อยู่ของเจ้าหญิงองค์น้อยๆ “เอเซกุด มาดอน”เด็กหญิงอายุ 5 ขวบ ธิดาแห่งราชวงศ์ มาดอน
“ท่านมาดอนที่12และเจ้าหญิง เอเซกุด เสด็จ” เสียงตะโกนของบ่าวหน้าประตูเป็นสัญญาณให้เหล่าข้าราชบริวารเคารพในการกลับวังหลังจากตรวจราชการ
“ท่านมาดอน มีคนจาก HEXAGON มาเข้าเฝ้าขอรับ” นายทหารรายงาน
“ข้าจะไปพบ”มาดอนตอบ และหันไปหาลูกสาว “ลูกพ่อ พร้อมที่จะก้าวสู่สังเวียนเพื่อ ฟาร์ฟอนเจีย แล้วหรือยัง”
“หนูพร้อมเสมอค่ะ” เด็กสาวยิ้มน่ารักส่งให้พ่อ ทำเอา คนทั้งโถงรับเสด็จยิ้มตามกับความน่ารักตรงหน้า
ทั้งสองเดินตรงไปยังห้องรับรองแขก
“ข้าคือ นอมเทียส ชาว มาเดียส ตัวแทนแห่ง HEXZAGON ในการพาตัว เจ้าหญิง เอเซกุด เพื่อทำภารกิจ” ชายผอมสูงพูดพร้อมอากัปกริยาเรียบร้อย พร้อมทั้งน้ำเสียงก็นิ่มนวลไพเราะอันเป็นเอกลักษ์ของชาวมาเดียส
“ลูกสาวของข้าพร้อมเสมอ ฝีมือของเธอก็ไม่ได้แตกต่างไปจากข้า เผลอๆ ดีกว่าเสียด้วยสิ” ผู้เป็นราชากล่าวตอบด้วยความภาคภูมิ
“พ่อค๊ะ หนูจะทำให้สำเร็จค่ะ ฮิฮิ” เด็กน้อยท่าทางไร้เดียงสายิ้มแย้ม และหัวเราะให้ผู้เป็นพ่อเห็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเข้าไปในประตูมิติ
ดวงดาวดวงที่6นักสู้แห่งอาณาจักรโฮเทเพีย
ตึกสูงเสียดฟ้ามากมายหลายแห่ง มีต้นไม้และความธรรมชาติในตัวเมืองและชานเมืองทำให้อากาศพิษนั้นแทบจะไม่มีเลย ดวงดาวแห่งนี่คือโฮโทเพีย หนึ่งในห้าดวงดาวที่นับเป็นอารยธรรมที่ก้าวหน้าและพร้อมในทุกด้าน ที่นครเมืองหลวงแห่งนี้มีชาวต่างดาวหลากหลายสายพันธ์มากมายนับได้ว่าครึกครื้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ดาวดวงนี้ยังเป็นหนึ่งในหก ของ HEXAGON PLANET อีกด้วย และแน่นอนด้วยความเป็นมหาอำนาจแห่งพหุภพทำให้ศูนย์ทงานหลักขององกรณ์ HEXAGON อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน องกรณ์นี้อยู่บนตึก H tower ตึกที่สูงที่สุดบนเอกภพที่ โฮเทเพียอยู่ บนพื้นยังมีใต้ดินอันเป็นที่พักของเหล่าทหารนักสู้ฝีมือดีชาวโฮเทเพียแท้ และวันนี้เป็นวันคัดเลือกระหว่าง “เนียทาพอง” เด็กหนุ่มวัย 16 ปี รูปร่างสูง ร่างกายบึกบึนแข็งแรง สีผิวออกคล้ำ เขาเป็นนักสู้ระดับหนึ่งในชั้นเรียน วันนี้เขาค้องสู้กับ “นาโปเต” ถือได้ว่าเป็นอริกัน ไม่แปลก เพราะทั้งคู่เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน
“ถึงแกป็นพี่ฉัน ฉันก็ไม่ยอมแกหรอก” นาโปเตกล่าวร้อง
เป้ง เสียงเคาะเป็นสัญญาณว่าเวลาตัดสินได้เริ่มขึ้นแล้ว
นาโปเตกระโดดขึ้นฟ้า ยกเท้า เตรียมถีบหน้าพี่ชายอย่างเต็มแรงหวังให้ครั้งเดียวจบศึก ขณะที่เนียทาพองยืนหลับตาอยู่นิ่งๆ
“ย้ากกก จบสักที”นาโปเตใช้กำลังขาฟาดเข้าเป้าหมาย หรือก็คือพี่ชายตนเอง แต่ทว่า
ความไวในช่วงเสี้ยววินาที่ เนียทาพองก้มหลบและใช้หมัดอัดเข้าท้องของน้องตนเองก่อนจะเผด็จศึก ใช้ฝ่ามือผลักอีกฝ่ายกระเด็นติดกำแพงเหล็กกล้า
“สติ ต้องมาก่อนสู้เสมอนะ”เขากล่าวด้วยเสียงเก็กหล่ออย่างเต็มที่
“อ่ะฮว้า เสียงคนชนะก็เป็นงี้แหละ”เขากล่าวปนเยาะเย้ยก่อนที่ครูฝึกจะพาตัวเขาไปยังประตูมิติ
CHXWritter
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 พ.ย. 2557, 23:00:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 พ.ย. 2557, 23:00:17 น.
จำนวนการเข้าชม : 835
<< บทนำ | ป้อมปราการ HEXAGON >> |