...คาสบลังก้า...ดารัลฟาเดล...(จบแล้วค่ะ)
สืบเนื่องมาจากเรื่อง "อะรูซะตี...เจ้าสาวของผม"
เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของลูกสาวสุดหวงของหมอดานีส
กับนาดา โดยเรื่องราวของคุณพ่อเมื่ิอครั้งก่อนนั้น
จะเป็นแนา "แต่งก่อนจีบ"
แต่สำหรับรุ่นลูกแล้ว จะเป็นแนว "จีบก่อนแต่ง"

ต้องมาคอยดูกันค่ะว่า จะจีบกันอย่างไร แล้วคุณหมอดานีส
ที่ต้องมารับบทบาทเป็นพ่อของลูกทั้งเจ็ดจะตกอยู่ในสภาพเช่นไร..
แล้วนาดาจะเป็นแม่แบบไหน...



เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศของเมือง
"คาสบลังก้า" หรือ "อัดดารัลบัยฎออ์"
ซึ่งแปลว่า..."บ้านสีขาว"
ดินแดนในฝันดั่งต้องมนต์เสน่หาแห่งโมร็อกโก...
กับดินแดนอันแสนอบอุ่นด้วยไอรักแห่งแดนอาทิตย์อุทัย...

พบกับเขาและเธอ...

...ดารัล...ฟาเดล...

หญิงสาวที่หัวใจเปี่ยมล้นไปด้วยความรักความอบอุ่น
จากครอบครัวอันแสนสุขและน่ารัก...
ชีวิตที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่เคยต้องการสิ่งใดอีกแล้ว
เพราะเธอพอใจทุกอย่างที่มีมาตลอด

จนเมื่อเจอกับเขา...ที่นั่น "คาสบลังก้า"
เขาทำให้เธอไม่อาจลบลืมมนต์เสน่หาของที่นั่นได้เลย
ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น...

กับ

ชายหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยรูปเปลือกที่สวยงามสมบูรณ์
หากภายในใจนั้นยังคงโหยหาไออุ่นแห่งรักจากใครสักคน
มาเติมเต็มหัวใจกำพร้าของเขา...

แล้วเธอคือผู้ที่เขาค้นพบว่ามีทุกอย่างที่เขากำลังต้องการอยู่
ดังนั้น...ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร เขาก็จะปล่อยเธอ
ไปไม่ได้โดยเด็ดขาด!




Tags: หวานซึ้งโรแมนติก ดราม่า โมร็อกโก คาสบลังก้า ทะเลทรายซาฮาร่า ดารัล ฟาเดล โสภณพสุธ

ตอน: บทที่ 30 ตอนพิเศษ Chapter 1


Chapter 1



"อย่างนี้ต้องสะสาง"





เป็นอีกครั้งที่ฟาเดลถึงกับตาค้างเมื่อนั่งจับเข่ากับดารัลนั่งจ้องจอแก้ว
ในบ้านสีฟ้ารั้วสีขาวท่ามกลางฟาร์มสมุนไพร…
โดยลูกชายหัวปีนั่งกินขนมอยู่บนตักพ่อ ส่วนลูกสาวตัวน้อยวัยเจ็ดเดือน
กำลังนอนดูดนมแม่อยู่ในอ้อมกอดของดารัล…

“คุณนายิกาเขาจะมาไม้ไหนอีกน่ะพี่ฟาเดล…
เราหยุดแล้ว แต่ทำไมเขายังไม่ยอมหยุด…”

ดารัลลอบถอนใจด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายเมื่อกำลังนั่งดูรายการถ่ายทอดสด
ที่กำลังสัมภาษณ์คนดังแห่งปีนักธุรกิจหญิงยอดเยี่ยม 2 ปีซ้อน
ถึงเรื่องชีวิตส่วนตัวของเธอ...หญิงสาวที่ดูสวยงามหมดจดในชุดหรูหราอลังการณ์
จัดเต็มจัดหนัก

“ลองฟังเขาดูหน่อย…เผื่อว่าจะสนุกกว่าละครหลังข่าว…”

ฟาเดลเอ่ยด้วยสีหน้าราวกับไม่ได้อนาทรร้อนใจแต่อย่างใด
อีกทั้งยังอ้าปากรับขนมที่ลูกชายป้อนให้ด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อย

“พี่เพิ่งเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนพี่ก็เดี๋ยวนี้เองว่า
การมีลูกคอยป้อนขนมให้กินมันดีแค่ไหน…”

“ต่างกับเมียป้อนให้กินมากมั้ยคะ…” ดารัลแหย่ตามเคย…

“ต่างสิ…หรือต้องให้บอกด้วยการกระทำว่าต่างกันยังไง…
เพราะถ้าจะให้อธิบายเป็นคำพูดพี่ไม่ถนัด…” ฟาเดลไม่วายเย้าคืน

แล้วถ้อยคำของคนในโทรทัศน์ก็ช่วยทำให้ทั้งสองพักยกหันมาให้ความสนใจ
กับสาวสวยในจอแทนกับบทสัมภาษณ์ของเธอ

'ตอนนี้ได้ข่าวว่าธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมกำลังไปได้สวยมากเลยใช่มั้ยคะ…'
พิธีกรโยนคำถามออกไป

'ค่ะ…' คนถูกถามตอบแบบประหยัดคำพูด หากก็ไม่ลืมรอยยิ้มเพื่อการค้า

'แล้วความสัมพันธ์ระหว่างคุณนายิกากับคุณฟาเดลในตอนนี้
ยังหวานชื่นเหมือนวันวานใช่มั้ยคะ…'

'ค่ะ…เรายังคงเป็นคู่สามีภรรยาที่ยังรักกันหวานชื่น แม้ในบางช่วง
จะยุ่งๆกับงานจนไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน…
อีกอย่างฟาเดลเขารักสันโดดค่ะ…อาจมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง
ตามประสาคู่ชีวิตทั่วๆไป…แต่สุดท้ายก็พยายามทำความเข้าใจกันค่ะ'

ถ้อยคำของหญิงสาวยังคงสวยงามเสมอ…

'หนุ่มๆคงอิจฉาคุณฟาเดลมาก…เพราะเข้าสูตรรูปหล่อ พ่อรวย
แม่สวย ภรรยางามเช่นนี้…' นายิกายิ้มรับคำชมด้วยใบหน้าละมุนละไม

'แล้วเมื่อไหร่จะมีข่าวดีเรื่องโซ่ทองคล้องใจบ้างล่ะคะ…พวกเราก็รอลุ้น
กันว่าน้องจะหล่อจะสวยขนาดไหน…' คำถามนั้นก่อให้เกิดรอยยิ้ม
บนใบหน้างามกระจ่างใส…

'จริงๆแล้วยังไม่เคยประกาศหรือให้ข่าวกับที่ไหนมาก่อนเลยค่ะ…'
พิธีกรได้ฟังถึงกับตาโต

'นี่อย่าบอกนะคะ…' นายิกายิ้มพรายหันไปทางกล้องเมื่อพยักหน้า
พร้อมกับการประกาศข่าวดีของเธอต่อหน้าสื่อมวลชนในห้องส่ง

'ค่ะ…ตอนนี้ตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว…กำลังลุ้นอยู่ค่ะว่าจะเป็นหญิงหรือชาย
แต่สำหรับคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อเป็นแม่ขอแค่ลูกเกิดมา สมบูรณ์ ปลอดภัย
สุขภาพดี ไม่ว่าจะหญิงหรือชายเราก็มีความสุขมากแล้วว่ามั้ยคะ…'

รอยยิ้มของเธอทำให้ตากล้องต้องซูมภาพใบหน้าของเธอเข้ามาใกล้…

ทำให้ดารัลกับฟาเดลที่กำลังชมการถ่ายทอดสดอยู่ถึงกับหันมามองหน้ากัน
ก่อนจะส่ายหัวพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

“ท้องลมรึเปล่าน้องรัล…” ฟาเดลเผลอหลุดปากออกมาด้วยสายตาไม่เชื่อถือ

“ไม่ลมนะคะ…เพราะดูเธอจะมีหลักฐานจากหมอมายืนยันต่อนักข่าวเสียด้วยสิ…
งานเข้าแล้วพี่ฟาเดล…”

ฟาเดลหันกลับไปมองจอแก้วอีกครั้ง คราวนี้ชายหนุ่มถึงกับสำลักลมหายใจ…

“ท้องกับใครล่ะน้องรัล…เพราะที่แน่ๆไม่ใช่กับพี่นะ…
ชื่อพี่ในใบทะเบียนสมรสที่เธอกอดอยู่คงไม่ถึงกับทำให้ท้องได้แน่ๆ…

ให้ตายเถอะ…งานเข้าจริงๆ…พี่ไม่น่าประมาทแม่มดเมดูซ่าของน้องรัลเลยจริงๆ…”

ฟาเดลอุทานออกมาด้วยแววตากังวล

“น้องรัลว่าพี่ฟาเดลอย่าเพิ่งดีใจที่มีลูกเพิ่มมาอีกคนตอนนี้เลยค่ะ…
มาดูช็อตเด็ดดีกว่า…น้องรัลว่ามันต้องมีสิ…”ดารัลยิ้มกริ่ม

…สามีเธอน่ะไม่เคยรู้ฤทธิ์เดชแม่ยายเอาเสียเลย…

“อย่าทำให้พี่ตกใจเล่นๆนะน้องรัล เพราะแค่นี้ก็ดีใจแทบแย่แล้ว…”
ฟาเดลไม่วายรับมุกภรรยาด้วยสีหน้าที่ซ่อนแววกังวลไม่มิด

ดารัลจึงยกหูโทรศัพท์ขึ้นกดเบอร์ยิกๆ…ก่อนจะกรอกหูฝ่ายโน้นไปว่า

“อย่าบอกนะคะว่าเซอร์ไพร้ของแม่กับคุณย่าคือสังหารนายิกาคาจอแก้ว
ท่ามกลางผู้ที่ร่วมรับรู้ทั่วประเทศน่ะ…มันไม่โหดร้ายไปหน่อยหรือคะ”

แล้วดารัลก็วางสายเมื่อฝ่ายโน้นพูดอะไรบางอยากกลับมา
เธอทำได้เพียงพยักหน้าเท่านั้น…

“มีอะไรน้องรัล…สังหารโหดอะไรยังไง…” ดารัลยิ้มพราย
แล้วบุ้ยใบ้ให้คุณสามีหันไปมองหน้าจอที่ตอนนี้ดูจะชุลมุนกันอยู่ไม่น้อย
เมื่อมีบุรุษหัวดำ ตาเรียวเล็ก ร่างสูงโปร่ง สวมชุดสูทอย่างดี

สีหน้าท่าทางบ่งบอกเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ได้ดีโดยเฉพาะภาษาอังกฤษสำเนียงแบบนั้น…
แม้ตรงหน้าผากจะไม่ได้ประทับตราเมดอินแจแปนก็ตาม หากดารัล
ที่คุ้นเคยกับดินแดนนั้นมาทั้งชีวิตย่อมรู้ดีว่าหนุ่มผู้นั้นคือใคร…

“นั่นมันดารานี่น้องรัล…” ฟาเดลจำได้แม่นว่าชายผู้นั้นคือดาราดังจากแดนปลาดิบ…
แม้จะเป็นดารารุ่นใหญ่และห่างหายวงการไปบ้างในช่วงหลังๆมานี้

หากเป็นใครก็ต้องจำได้…

“นี่อย่าบอกนะว่า…” ยังไม่สิ้นสุดคำพูด ฟาเดลก็ออกอาการอ้าปากค้าง
เมื่อดาราชายผู้นั้นประกาศต่อหน้าสื่อมวลชนในห้องส่งว่าเขาคือพ่อตัวจริง
ของลูกในท้องของนายิกา

พร้อมกับปลดปล่อยพ่อจอมปลอมอย่างฟาเดลให้เป็นอิสรภาพ
ด้วยประโยคเด็ดที่ว่า

“เราสองคนรักกันมานานแล้วล่ะครับ…ซึ่งจริงๆแล้วคุณฟาเดล
เขามีเหตุให้ต้องจดทะเบียนสมรสกับคุณนายิกา…ซึ่งทั้งสองไม่ได้ใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากัน…
มันเป็นการแต่งงานในเชิงพานิชย์ครับ ไม่ได้แต่งเพราะอยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจริงๆ…

แล้วคุณฟาเดลเขาก็กลับไปอยู่กับภรรยาของเขาเสียตั้งนานแล้ว…
เขากับภรรยารักกันมาก จนผมออกจะชื่นชมความรักของคนทั้งสอง

ตอนนี้เขาและภรรยาสุดที่รักมีลูกชายและลูกสาวด้วยกันแล้วสองคน
เด็กๆน่ารักมากครับ…นี่ครับรูปของครอบครัวเขา…

ส่วนที่อยู่ข้างกายผมตอนนี้คือภรรยาและครอบครัวของผมครับ…”

ดาราชายโชว์รูปถ่ายในมือให้กล้องจับภาพดังกล่าว

ฟาเดลกับดารัลจ้องภาพครอบครัวของตัวเองแล้วยิ้มออกมา…

“ขึ้นกล้องจริงๆเมียพี่…” ฟาเดลเอ่ยชมกับภาพถ่ายที่ดารัลซึ่งคลุมฮิญาบ
แต่ไม่ได้ปกปิดใบหน้าซึ่งเธอกำลังอุ้มลูกสาว ส่วนลูกชายกำลังขี่คอเขา

ในภาพเธอหันหน้าให้กล้องโดยเขายื่นจมูกแตะแก้มนวลผ่องนั่น…
รอยยิ้มสดใสของเธอไม่ต่างจากรอยยิ้มของลูกชายคนโตที่อายุขวบเศษ
ถอดเค้าหน้าตามาจากผู้เป็นแม่ ทำให้มีใบหน้าหวาน
เหมือนเจ้าหญิงมากกว่าจะเป็นเจ้าชาย…

ซ้ำชายหนุ่มผู้นั้นจะนำคลิปวิดีโอที่ฟาเดลกับดารัลและลูกๆ
มาเปิดเผยให้ดูถึงความรักของครอบครัวหรรษา โดยในคลิปวิดิโอ
จะเป็นภาพเคลื่อนไหวตอนที่ฟาเดลให้ลูกขี่หลังคลานไปหาดารัล

เมื่อไปถึงแม่ที่อุ้มน้องสาวตัวน้อยอยู่ในตัก ลูกชายคนโตที่อยู่บนหลังพ่อ
ก็ยื่นจมูกไปหอมแก้มมารดาคนละข้างกับพ่อตัวเอง...
ทำให้เกิดเสียงฮือฮาในห้องส่งไม่น้อย...

“ไม่บอกพี่ไม่เชื่อนะเนี่ยว่านายิกาจะมีลูกกับดารา…” ฟาเดลอดไม่ได้
ที่จะกังขากับเหตุการณ์ในจอแก้ว…ที่ทำเอานักธุรกิจยอดเยี่ยมแห่งปีถึงกับหน้าถอดสี
จนด้วยคำพูด…อยากจะสงสาร แต่ก็ไม่รู้ว่าคนอย่างนายิกาควรให้สงสารแค่ไหน…

“ดาราในจอกับดารานอกจอก็เหมาะสมกันดีมิใช่หรือคะพี่ฟาเดล
หรือว่าที่ตกใจขนาดนี้เพราะว่ากำลังเสียใจที่ไม่ได้ลูกเพิ่ม…”

ดารัลเห็นสีหน้าตกใจของสามีจึงอดที่จะแหย่เขาไม่ได้…
ทำเอาลูกสาวตัวน้อยที่กำลังดูดนมเธออยู่ผละจากนมแล้วชะโงกหน้าออกมาดู
สถานการณ์ ทำตาแป๋วแหววส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นอยู่ครู่นึง
ก่อนจะตัดใจหันไปกินนมของแม่ต่อ

“ก็อยากได้เพิ่มอีกนะ…น้องรัลว่าไงล่ะ…ไหวป่าว…คราวนี้ไม่เอาแล้วดาวซัลโว
อยากได้รางวัลโกลเด้นท์บอลล์ (Golden Ball)อย่างเมสซี่บ้าง…”

ดารัลย่นจมูกใส่พ่อดาวซัลโวที่อยากได้รางวัลลูกบอลทองคำขึ้นมา
เหมือนดารานักบอลคนโปรดผู้เก่งกาจในสนามฟุตบอลระดับโลก
อย่างลีโอเนล เมสซี่…

ฟุตบอลจึงเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่เธอและเขาจะมานั่งจับเข่าดูด้วยกันเสมอ…
ซ้ำเธอกับเขายังเชียร์กันคนละทีม แถมเป็นทีมศัตรูคู่อาฆาตกันด้วย…

เพราะเขาชอบเมสซี่ที่สังกัดสโมสรที่เขาโปรดอย่างบาร์เซโลน่า หรือบาร์ซ่า
ส่วนเธอหรือชื่นชอบผู้รักษาประตูอย่าง อีเกร์ กาซียัส
จากสโมสรเรอัลมาดริดมาเนิ่นนานแล้ว…ประทับใจมากมายในความสามารถ
ในการรักษาประตูที่เข้าจู่โจมของกัปตันทีมผู้นี้
จนช่วยให้ทีมได้แชมป์มาแล้วหลายต่อหลายรายการ…

ซึ่งทั้งสองสโมสรนั้นเป็นสโมสรฟุตบอลของสเปน…

และแน่นอน…พอถึงฤดูกาลเชียร์บอลโลก เขาก็จะนั่งเชียร์ทีมจากประเทศอาร์เจนติน่า
ซึ่งมีเมสซี่เป็นผู้นำทีม…ส่วนเธอนั้นหรือนั่งเกาะจอเชียร์ทีมจากสเปน
และแน่นอน อีเกร์ กาซียัสคือผู้รักษาประตูอย่างมิต้องสงสัย…

“คราวนี้น้องรัลไม่ยอมง่ายๆหรอก…เพราะน้องรัลก็อยากได้
รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปีอย่างอีเกร์ กาซียัสเหมือนกัน…”

คำประกาศกร้าวของดารัลทำเอาฟาเดลถึงกับอึ้งไปสองวินาที…
ก่อนจะตั้งสติหันมาโต้กลับอย่างนึกสนุกว่า

“ถ้ารอดปีนี้ไปได้โดยพุงไม่ยื่น…พ่ีจะสั่งทำถุงมือทองคำให้เป็นรางวัลเลยเอ้า…”
ดารัลเกิดอาการหมั่นไส้คนที่มั่นอกมั่นใจในตัวเองสูงจึงยกมือ
ฟาดลำแขนแน่นเปรี๊ยะนั่นของเขาเต็มแรง

“เล่นแรงนะน้องรัล…เดี๋ยวจะหาว่านักเตะยอดเยี่ยมไม่เตือน…”

ดารัลเลยแยกเขี้ยวใส่ ตอนนี้ทั้งสองหมดความสนใจหน้าจอโทรทัศน์ไปเรียบร้อยแล้ว…

“กาซียัสมีดีตรงไหน ถึงได้ชื่นชอบมันนัก…” ฟาเดลเริ่มพาล
เมื่อรู้สึกว่าภรรยาสุดที่รักพูดถึงผู้รักษาประตูที่เขาชังน้ำหน้าให้ได้ยิน

“ก็เขารักษาประตูได้เยี่ยมยอดไงล่ะ…เขาช่วยให้ทีมได้แชมป์หลายต่อหลายรายการ…
ที่สำคัญ…อยู่ยงคงกระพันมาหลายสมัยแล้ว
ถ้าไม่ขอลาออกคงอยู่เป็นอมตะ…ให้พี่หมั่นไส้ไปอีกนานแสนนาน”

“ไม่ใช่เพราะว่ามันหล่อด้วยใช่มั้ย…” ฟาเดลเริ่มตีรวน…

“ถ้าเรื่องหล่อคงต้องยกให้คริสเตียโน โรนัลโดโน่น…”

มาอีกแล้ว…ชื่อนี้โผล่มาอีกแล้ว…แล้วหน้าหล่อๆของดารานักบอลคนนี้
ก็สังกัดทีมสโมสรเรอัลมาดริด ศัตรูตัวฉกาจของสโมสรโปรดของเขาเสียด้วย…

ใจคอเธอจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขาให้ได้ใช่มั้ย…

“นึกว่าเรื่องหล่อต้องยกให้พี่ซะอีก…” ในที่สุดนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี
ก็เผลอยิงเข้าประตูตัวเองจนเสียสกอร์ไปโดยที่ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมอย่างดารัล
ไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้รับแต้มไปฟรีๆ

และคงจะเกิดศึกแย่งชิงประตูชัยกันอีกนานหากเสียงลูกน้อยไม่ดังขึ้นเสียก่อน
ราวกับเป็นเสียงนกหวีดของกรรมการกลางสนามดังขึ้นก็ไม่ปาน

…งานนี้เลยปิดสกอร์ไปด้วยคะแนน 1-0
ทุบนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีไปอย่างหมดคราบสิ้นลาย…






“สรุปว่านายิกาท้องกับดาราคนนั้นจริงหรือน้องรัล…”
ฟาเดลยังไม่หายสงสัยกับประเด็นดังกล่าว จึงถามภรรยาสาวที่กำลังพับผ้าอ้อมให้ลูกอยู่
ซึ่งตอนนี้เป็นจังหวะดีที่พ่อแม่จะจู๋จี๋กัน เพราะลูกทั้งสองหลับปุ๋ย
ไม่รู้เรื่องรู้ราวไปเรียบร้อยโรงเรียนฟาเดล…ที่กว่าจะกล่อมให้หลับได้
ก็ถึงกับปาดเหงื่อกันทีเดียว…

“ท้องเสียที่ไหนล่ะคะ…เขากุเรื่องขึ้นมาให้พี่ผวาเล่นน่ะสิ…” คำตอบนั้น
ทำเอาฟาเดลถึงกับตาโตอย่างคาดไม่ถึง…

“แล้วทำไมดาราคนนั้นถึงพูดแบบนั้น…” ดารัลยิ้มกริ่ม ก่อนจะเล่าให้
ฟาเดลรู้ฤทธิ์เดชแม่ยายว่า

“ดาราคนนั้นทำผู้หญิงท้องไม่ได้หรอกค่ะ…เพราะเขาเป็นเกย์…
และแม่ของน้องรัลก็สืบเรื่องนายิกามาตลอด รู้ด้วยว่าเธอไม่ได้ท้อง
เธอสร้างหลักฐานทางการแพทย์ปลอม ส่วนจะเพราะอะไรนั้น…
สั้นๆง่ายๆค่ะ…คืออยากลนก้นพี่กับน้องรัลน่ะสิ…แต่แม่ก็แก้เกมเสียหมดรูปเลย…

ทีนี้ล่ะ…คงเดือดร้อนเพราะว่าเสกเด็กเข้าท้องก็ไม่ได้
คงต้องเล่นบทแท้งลูกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า…
เฮ้อ…คิดแล้วน้องรัลวุ่นวายใจและก็ปวดหัวแทนเขาจริงๆค่ะ…”

ฟาเดลพ่นลมออกทางปาก

“แสดงว่าดาราคนนั้นถูกจ้างมาหรือน้องรัล…” ดารัลพยักหน้า…

“เขาเป็นดารานี่คะ…แค่แสดงละครสดให้คนดูไม่กี่นาทีได้เงินหลักล้าน
ใครจะไม่ยอม…นายิกาก็ดาราเจ้าบทบาทอยู่แล้วด้วย…
เขาคงตีบทแตกหรอกค่ะ…เราเรียกว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง...
ดาราก็ต้องปะทะกับดาราถึงจะสูสี...พี่ฟาเดลไม่ต้องกังวลไปหรอกนะคะ…
อีกไม่นานเขาก็คงจะหาทางออกได้เอง…และน้องรัลรู้ว่าเขาจะออกทางรูไหนด้วย…”
ดารัลเลิกคิ้วให้ผู้เป็นสามี

“อย่าบอกนะว่าน้องรัลจะไปรอเขาที่รูนั้น…” ดารัลยิ้มให้เป็นคำตอบ
พร้อมกับส่งคำใบ้ให้ว่า

“ก็ใครใช้ให้เขามาแหย่รูปูเข้าล่ะคะ…โดนหนีบบ้างจะได้เข็ดหลาบ
ที่ผ่านมาเราปล่อยลูกเสือเข้าป่า…และตอนนี้ก็ได้เวลากำราบแล้ว…”

ฟาเดลลอบยิ้มกับสีหน้าท่าทางดุดันของภรรยาสุดที่รัก

“แม่ลูกอ่อนนี่ดุสมคำร่ำลือจริงๆ…”
ดารัลมองคนตรงหน้าตาขวาง…

“น้องรัลว่าเขาจะยอมเซ็นใบหย่าให้พี่ดีๆมั้ย…” ดารัลกระตุกยิ้มที่มุมปาก

“คราวนี้ไม่อยากเซ็นก็คงต้องเซ็นล่ะค่ะ…เพราะพ่อแม่พี่น้องของน้องรัล
เอาจริงแล้ว…พี่เตรียมรับทรัพย์ได้เลย…”






หลังจากนั้นเพียงแค่ครึ่งปี…ฟาเดลก็ได้รับเอกสารโอนสิทธิ์ทั้งหมดที่เคยเป็นของเขาคืน
พร้อมกับใบหย่าจากนายิกาเพราะถูกบีบคั้นจากคู่ขาทางธุรกิจที่ได้ฟังข่าวของเธอ
ในคราวนั้นและรู้ว่าเธอคิดไม่ซื่อ จนสุดท้ายเธอต้องปล่อยกระดาษแผ่นนั้น
ที่กอดมานานให้หลุดลอยไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก…

ด้านธุรกิจโรงแรมภายใต้การดูแลของนายิกาในช่วงกลางปีหลังมานี้ซบเซาลงฮวบๆ
จนเกือบต้องเทขายหุ้นที่มีบางส่วนเพื่อพยุงธุรกิจในเครือให้อยู่รอด…
เพราะโดนบีบคั้นจากนักลงทุนชาวต่างชาติที่เริ่มไม่ไว้วางใจการบริหารงานของเธอ

ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนถึงความโปร่งใสในการทำงานของเธอ
เลยไปถึงเรื่องฉาว แม้จะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หากนั่นก็คือภาพลักษณ์ของธุรกิจ…
ที่มีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน…จนมีหลายรายขอถอนตัวไปบ้าง
ชะลอโครงการใหม่ไปบ้าง

และที่สำคัญ…เธอยอมปล่อยธุรกิจโรงแรมในเครือทั้งหมดที่เขาเคยถือสิทธิ์กลับคืนมา
เพราะไม่อาจโอบอุ้มภาระหนี้สินเหล่านั้นเอาไว้ได้อีกต่อไป…
และเหนื่อยล้าเกินกว่าจะแบกรับปัญหาต่างๆที่หลั่งใหลเข้ามาราวกับคลื่นยักษ์
สาดซัดเข้าหาฝั่งเพียงลำพังได้ไหว…

ส่วนคฤหาสถ์หลังนั้นถูกโอนกลับมาให้เขาเพราะข้อต่อรองของท่านหญิงอะมานี
ผู้กำความลับสุดยอดในมือที่จะทำให้นายิกาไม่มีที่ให้ยืนบนแผ่นดินใดได้อีก
หากข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผยออกไป…

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เธอเคยทำในอดีต เรื่องลักพาตัวดารัล
เรื่องบีบบังคับให้ผู้ชายที่มีภรรยาอยู่แล้วแต่งงานด้วย เรื่องซัดทอดความผิดให้ปู่ผู้ล่วงลับ
ไปแต่เพียงผู้เดียว…รวมทั้งเรื่องที่กุข่าวผิดๆขึ้นมาสร้างความเสียหายให้ฟาเดล
เรื่องท้องลม เรื่องดาราชายคนนั้น โดยเฉพาะเรื่องที่เธอโกหกว่าแท้งลูก
เพื่อขอความเห็นใจจากผู้คน แล้วยัดเยียดความผิดให้ดาราชายคนดังกล่าว
ว่าเขาคือคนผลักเธอตกบันไดจนแท้งลูก ตอนนั้นเรียกคะแนนสงสารจากผู้ชมไปมิใช่น้อย…

แต่เธอพลาด…พลาดเพราะทุกเรื่องราวทั้งหมดนั้น นาดาซึ่งเป็นมารดาของดารัล
ที่ให้นักสืบคอยเฝ้าติดตามพฤติกรรมของเธอมาตลอด
เป็นผู้ล่วงรู้และกำความลับทั้งหมดของนายิกาเอาไว้…

แต่เพราะสงสารและใจอ่อนเกินกว่าคิดจะนำหลักฐานทั้งหมดออกมาเปิดเผย
เพื่อทำลายอนาคตของคนอื่นได้ มันไม่ถูกไม่ควรเลยสำหรับการกระทำเช่นนั้น…

ท่านหญิงอะมานีจึงต้องยื่นมือเขาจัดการอีกครั้งอย่างเสียมิได้

และมันได้ผล...เธอยอมโอนสิทธิ์ทุกอย่างที่ได้มาโดยมิชอบให้เจ้าของเดิม
แล้วพับเสื่อกลับบ้านเกิดเมืองนอนไปในสภาพนกปีกหัก
เพื่อแลกกับความลับพวกนั้นที่จะกลายเป็นความลับตลอดกาล…

‘คนไม่รู้จักสำนึก ทำผิดซ้ำผิดซาก…อุตส่าห์ปล่อยไปแล้ว ให้โอกาสแก้ตัวแล้ว
ยังจะมาแว้งกัดกันไม่เลิก…มันก็ต้องโดนอย่างนี้ล่ะ ถึงจะสมน้ำสมเนื้อกัน’

นั่นคือถ้อยคำของท่านหญิงอะมานีที่เคยบอกว่าจะวางมือจากทุกเรื่อง
เพราะอายุมากแล้ว ไม่อยากปวดหัวกับเรื่องใดๆอีก…หากสุดท้ายกลับปล่อยวางไม่ได้
ต้องกลับมาลงสนาม…เนื่องจากลูกสะใภ้ใจอ่อนเกินไป…

เธอจึงต้องออกโรงปกป้องลูกหลานด้วยการให้ยาแรง…
โดยไม่ได้หวังจะเปิดเผยความลับเหล่านั้นออกไปแต่อย่างใด
เพียงแค่อยากใช้มันสั่งสอนเด็กอมมืออย่างนายิกาเพียงเท่านั้น…

ซ้ำยังประกาศกับนายิกาว่า อย่าได้เข้ามาข้องแวะต่อกันอีกไม่ว่าจะทางใดก็ตาม...
มิเช่นนั้นความลับก็จะไม่ลับอีกต่อไป...

ซึ่งนาดาเองก็พอใจกับฝีมือของแม่สามีเป็นอย่างยิ่ง…และเธอคงต้องเรียนรู้วิชาต่างๆ
จากท่านอีกมากเช่นกัน…อย่างน้อยในวันข้างหน้า
เธอก็อยากเป็นหนึ่งในผู้ที่จะเป็นที่พึ่งพิงให้ร่มเงาแก่ลูกหลานได้
อย่างที่ท่านหญิงอะมานีปฏิบัติมาตลอดชีวิตของท่าน…



และแน่นอน…ธุรกิจโรงแรมในเครือของฟาเดลที่กำลังตกอยู่ในสภาวะย่ำแย่
ก็กลับมาผงาดขึ้นอีกครั้งเมื่อเปลี่ยนมือผู้บริหาร…
ความไว้วางใจกลับมา…นักลงทุนต่างก็หันมาให้ความสนใจอีกครั้ง

ซึ่งเขารู้ว่า…ที่ทุกอย่างกลับมาดีวันดีคืนเช่นนี้เพราะมีกองหนุนที่ดี
อย่างพ่อแม่พี่น้องของดารัลที่ร่วมมือกันผนึกกำลังช่วยเหลือ…
หลังจากร่วมมือกันเรียกคืนทรัพย์ของเขากลับคืนมาได้สำเร็จแล้ว…

จากงูเขียวหางไหม้สิ้นฤทธิ์กลายเป็นมังกรยักษ์ที่กลับมาผงาดลายอีกครั้ง
ในระยะเวลาสามปี…กำลังใจสำคัญของเขาคงหนีไม่พ้นภรรยาและลูกๆ



ผ่านคืนวันอันพากเพียร ฟาเดลที่ยืนหลบมุมอยู่ตรงระเบียงห้อง
เหม่อมองไปยังชิงช้าตัวที่เขาทำให้ดารัลในสวนที่เขากลับมาปรับโฉมใหม่
เพื่อต้อนรับลูกๆของเขา…

มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ มีพื้นที่ให้ลูกๆได้ทำกิจกรรมร่วมกัน…มีลานน้ำพ
มีสระว่ายน้ำเพิ่มขึ้นมา…และมีสวนผีเสื้อที่เขานำมาเลี้ยงให้ลูกน้อยวิ่งเล่นไล่จับ

ฟาเดลมองลูกทั้งสามคนที่กำลังอยู่ตรงลานน้ำพุที่ทำจากแผ่นหินหยาบ
เมื่อเด็กๆเข้าไปเหยียบตรงจุดบนพื้นหินดังกล่าว…สายน้ำก็จะพวยพุ่งออกมา
จากพื้นด้านล่างเหมือนสายฝนให้กระโดดโลดเต้นกัน

เสียงร้องเล่นอย่างสนุกสนานของแม่ลูก โดยรอบๆบริเวณน้ำพุ
มีเจ้าเสือที่โตเป็นหนุ่มใหญ่แล้ววิ่งหนีน้ำที่กระเซ็นใส่
กำลังกระโดดโหยงเหยงไปมาน่าเอ็นดูปนตลกขบขัน…

พลันนึกไปถึงนาตาชาที่นำเจ้าเสือมาให้ดารัล…บัดนี้หญิงสาวผู้นั้นได้กลายมาเป็น
ผู้จัดการสาขาใหม่ในเครือของโรงแรมของท่านหญิงอะมานีที่มาเปิดสาขาร่วมทุน
กับโรงแรมของเขาที่คาสบลังก้า เธอแต่งงานไปกับสามีชาวคาสบลังก้า
ที่เคยเข้ามาทาบทามเธอในช่วงที่เธอมาดูแลโครงการใหม่ที่นี่เมื่อหลายปีก่อน
ตอนนี้้มีลูกสาวน่ารักวัยขวบเศษด้วยกัน…

ฟาเดลมองภาพนั้นอยู่ไม่นานก็ชักอยากมีส่วนร่วมด้วย
เลยผละจากระเบียงเดินไปหาภรรยาและลูกทั้งสาม…

“เปียกมอมแมมทั้งคนทั้งแมว…” ฟาเดลส่งเสียงร้องทักเมื่อเห็นสภาพคน
ที่ไม่ได้แตกต่างไปจากสภาพแมว…ก่อนจะโดนลูกๆลากไปยังลานน้ำพุ
คนเล็กสุดเกาะเขาหนึบ

“ป่ะป๊าขา ให้ฟาเดียขี่คอหน่อย ฟาเดียอยากขี่คอ…”

ป่ะป๊าคนดีจึงย่อตัวลงให้ลูกสาวขึ้นขี่คอ…หากลูกสาวอีกคนไม่ยอมขอมีเอี่ยวด้วย

“ขอฟาดาขี่หลังนะคะ…”

“โอย…ป่ะป๊าแย่แน่ๆงานนี้…” ฟาเดลครวญคราง
ส่งผลให้ดารัลที่มองสภาพทุลักทุเลของคุณพ่อลูกสามที่กำลังโดนลูกๆรุมทึ้ง
ถึงกับหัวเราะคิกคัก

“เป็นไงล่ะพ่อนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี…อยากปิดสกอร์ไว้ที่สามประตู
ก็สารภาพกับน้องรัลมาเถอะ…อดีตผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปีคนนี้
ยินดีให้การช่วยเหลือ…”

ไม่มีใครรู้ดีว่าเธอสามารถทำลายสถิติของนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีอย่างเขา
จนได้รับถุงมือทองคำมาไว้ในครอบครองสำเร็จ แต่สุดท้ายตำแหน่งนั้น
ต้องหลุดลอยไปในปีีถัดมา…เพราะโดนพ่อนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปียิงประตูชัยสำเร็จ
ได้ลูกสาวนามว่า ‘ฟาเดีย’ วัยสองขวบ น้องสาวของเด็กชาย ‘ราฟา’
ที่ปัจจุบันอายุย่างห้าขวบ กับ เด็กหญิง ‘ฟาดา’ ที่กำลังย่างเข้าสี่ขวบ
มาเป็นพยานรักอีกคน…

ซึ่งตอนนี้กำลังรุมหน้ารุมหลังป่ะป๊าจนนัวเนียเกลือกกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้นลานน้ำพุ
เปียกโชกไปทั้งเนื้อทั้งตัวทั้งพ่อทั้งลูก…

“พอแล้วลูกพอแล้ว ป่ะป๊าแบนแต๊ดแต๋แล้วน้าาา” ฟาเดลร้องโอดครวญ
เมื่อโดนลูกๆล้มทับ…กลายเป็นม้าที่โดนเด็กสามคนควบขี่

หากก็ยังไม่วายได้ยินเสียงภรรยาสุดที่รัก จึงโต้กลับไปว่า

“ไม่ยอมหรอกน้องรัล…พี่จะเอาอีก…นักเตะยอดเยี่ยมอย่างพี่
ไม่มีทางจะปิดสกอร์ที่สามแน่ๆ…ว่าแต่น้องรัลเต๊อะ…สู้ไหวรึเปล่า…”

พูดเสร็จก็หันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้ดารัลที่นั่งบนผืนหญ้านุ่มเช็ดขนให้เจ้าเสืออยู่

…ใครว่ามีลูกแล้วเธอจะเลิกรักเลิกเอาใจแมว…ไม่จริงเลย…เขาขอค้าน
…ลูกก็รัก ส่วนแมวก็เห็นยังรักยังเอาใจไม่เปลี่ยน…

“เหนื่อยแล้ว…พักครึ่งก่อนแล้วกัน…ไม่มีเวลาเลี้ยงแมวแล้ว…”

ดารัลเอาเจ้าเสือบังหน้าเหมือนหลายๆครั้งที่ใช้เป็นข้ออ้างเสมอมา
ฟาเดลจึงหันมาขอเสียงจากลูกๆแทน

“ใครอยากได้สมาชิกเพิ่มยกมือขึ้น…” แล้วเสียงสนับสนุนจากกองเชียร์
ก็ดังโหมโรงขึ้นมาทันทีพร้อมมือที่ยกชูขึ้นสูงบ่งบอกเจตนารมย์

“อยากได้ครับ/อยากได้ค่ะ…”

“ถ้าอยากได้ก็ต้องปล่อยให้ป่ะป๊าได้บอกรักแม่ใกล้ๆบ้าง…
ห้ามแย่งที่นอนป่ะป๊า โอเคมั้ย…” ฟาเดลบอกลูกๆและไม่วายส่งเสียงให้ดัง
พอกระแทกหูอีกคนที่นั่งทำหูทวนลมไปด้วย

“ทำไมล่ะครับ…” ลูกชายคนโตของเขาเริ่มสงสัย เล่นบทเจ้าหนูจำไมอีกแล้ว

“ก็เพราะว่า…พ่อจะได้กอดแม่บ้างไง…”

“กอดแล้วจะมีน้องหรือคะ…” ลูกสาวขี้สงสัยถามด้วยดวงตาใคร่รู้

“แน่นอน…”

“งั้น…ฟาดาจะกอดแม่แน่นๆ กอดนานๆ น้องจะได้ออกมาจากท้องแม่...ดีมั้ยคะ…
จะให้ฟาเดียช่วยกอดด้วยอีกคน…น้องจะได้ออกมาไวๆ”

ว่าแล้วไหมล่ะ…เจ้าหนูจำไมทั้งสองหน่อเริ่มป่วนเขาอีกแล้ว…
ดีนะที่ฟาเดียยังจ้อไม่เก่ง เลยยังพูดติดอ่างอยู่ ไม่งั้นหูเขาคงชากว่านี้

“ว่าแต่...น้องออกจากท้องแม่ทางไหนคะ…”

นั่นไง งานเข้าแล้วน้องรัล...ตอบลูกหน่อยซิ…
ฟาเดลพยายามหาตัวช่วยที่เหมือนจะไม่ยอมช่วยไกล่เกลี่ยเพราะเอาแต่ก้มหน้าก้มตา
เช็ดขนไอ้เจ้าเสือหนุ่มนั่นเหมือนกับไม่ได้ยินอะไรเลย…แกล้งกันนี่นา…

“ทางสะดือไงฟาดา…ช่่างไม่รู้อะไรบ้างเลย…”

'ช่่างไม่รู้อะไรบ้างเลย' ทำหน้าตาฉงน ก่อนจะกลอกตาไปมา

“สะดือหรือคะ…”

“ก็สะดือน่ะสิ…อย่าถามอะไรโง่ๆแบบนี้อีกนะ…”

ผู้เป็นพี่ชายเฉลยน้องสาวที่อายุห่างกันปีเดียวด้วยน้ำเสียงติดจะรำคาญ

“มาว่าเค้้าถามโง่ๆ…ตัวเองเคยเห็นรึไงว่าน้องออกมาจากท้องแม่ยังไง…
เห็นรึเปล่าว่าเค้าออกมาจากท้องแม่ทางไหน”

นั่น ผู้เป็นน้องสาวไม่ยั่น…ทำเอาผู้เป็นพี่ถึงกับไปไม่ถูก

“เห็นมั้ยล่ะ…ตัวก็ไม่รู้ไม่เคยเห็น…แล้วทำมาว่าเขา…”

“ก็บอกว่าทางสะดือก็ทางสะดือสิ…สมองไง เราต้องใช้สมองคิดสิ”

ฟาเดลกลอกตาไปมามองลูกน้อยทั้งสองที่กำลังถกปัญหาเรื่องชาติกำเนิด
แบบไม่รู้จะช่วยอย่างไร…

อดีตผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปีก็ดูจะเอาหูไปทำนาเอาตาไปทำไร่เสียแล้ว…

“งั้นเอางี้แล้วกัน…ตอนน้องออกจากท้องแม่เมื่อไหร่ เราค่อยไปดูให้รู้กัน…
ถ้าน้องออกมาทางสะดือจริง ตัวต้องเอาค่าขนมทั้งเดือนมาให้เค้า ตกลงมั้ย…”

ผู้เป็นพี่ชายยื่นข้อเสนอที่ทำเอาผู้เป็นน้องคิดหนัก

“แล้วถ้าน้องไม่ได้ออกมาทางสะดือล่ะ…ตัวจะให้อะไรเค้า…”

“เค้าจะเป็นม้าให้ตัวขี่หลังหนึ่งเดือนเลยเอ้า…”

เอาแล้วสิน้องรัล...งานเข้าแล้ว…

ฟาเดลหันไปทางดารัลที่บัดนี้เงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างรู้กัน…
ปัญหาเรื่องชาติกำเนิดกำลังจะรุกล้ำอาณาเขตเข้าไปทุกที

“ได้…แล้วเราค่อยมาดูกัน…” ดารัลถึงกับสะท้าน…
รู้ล่ะว่าลูกคนไหนแพ้พนันรอบนี้ แต่ไอ้ครั้นจะเฉลยไปก็กระไรอยู่

“พี่นั่นแหล่ะตัวป่วนเลย…หาเรื่องให้น้องรัลตลอด…”

เมื่อทำอะไรลูกไม่ได้ จึงหันมาเล่นงานสามีแทน

“อ้าว…ไหงมาลงท่ีพี่ล่ะ…”

“ก็ใครใช้ให้พี่พูดเรื่องน้องให้ลูกๆฟังเล่า…” แล้วอ้าวที่สองก็ตามมา

“อ้าว…พี่ผิดหรือนี่ที่อยากทำสกอร์เพิ่ม…” คนพูดทำหน้าเหลอหลา
หาได้รู้สำนึกไม่…ทำเอาดารัลถึงกับคำรามในลำคอ…

“อย่าคิดแม้แต่จะขย้ำพี่ตอนนี้นะ…พี่ยังไม่พร้อมรับศึกรอบด้าน…”

เพราะแค่ศึกสามด้านก็หนักหนาแล้ว เขาว่าเป็นเขานี่แหล่ะ
ที่จะสู้ไม่ไหวเสียล่ะมากกว่า…จนต้องนอนแผ่หราหมดสภาพบนพื้นหญ้านุ่ม
ทั้งเนื้อตัวเปียกโชกโดยใช้ตักดารัลแทนหมอน…

ส่วนลูกๆถูกแม่บ้านจับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว…

“พี่มีอะไรมาฝาก…” เมื่อมีเวลาเป็นส่วนตัวฟาเดลจึงหยิบอะไรบางอย่าง
จากกระเป๋ากางเกงที่ซ่อนอยู่ในกล่องอย่างดี…

แม้สภาพกล่องจะเปียกโชกหากของที่อยู่ข้างในยังคงทำให้ผู้รับ
ถึงกับพออกพอใจคลี่ยิ้มออกมา…

“สวยจังเลยค่ะ…”

“พี่เห็นว่าผมน้องรัลยาวเกือบเท่าเดิมแล้ว…ก็เลยแกะมาให้กับสองมือพี่...ชอบมั้ย…”

ว่าพลางหยิบปิ่นปักผมที่ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายวิจิตรสวยงาม…
ยิ่งรู้ว่ามันมาจากฝีมือของเขา เธอก็ยิ่งประทับใจ
จนต้องก้มลงหอมแก้มของเขาเป็นรางวัล…

“ชอบมากเลยค่ะ…อันเก่าที่พี่เคยทำให้ น้องรัลยังเก็บไว้นะคะ…
เอาติดตัวไปด้วยตลอด…แม้จะไม่ได้ใช้ก็ตาม…”

ฟาเดลจับเส้นผมนุ่มมือของดารัลที่ทิ้งตัวลงมาม้วนเล่น…
เพราะตอนที่เห็นสภาพศีรษะที่ปราศจากผมก็เธอในคราวนั้น
มันทำเอาเขาต้องกัดฟันกรอด นึกถึงความร้ายกาจของนายิกา
ที่พรากเส้นผมสวยงามของเธอไปจากศีรษะได้รูปไป...
ตอนนั้นทั้งใจหายระคนเสียดายเป็นที่สุด...

หากก็ทำใจได้ว่า...อย่างไรผมมันก็ยาวได้อีก...
และเขาก็จะช่วยเธอเลี้ยงผม บำรุงผมให้เธอด้วยอีกแรง...
โดยใช้สมุนไพรเข้าช่วย จนผมเธอแข็วแรงสุขภาพดี
ยาวเร็วและดกดำสวยงามยิ่งกว่าเดิม
ที่สำคัญ...มันทำให้เขาภูมิใจที่มีส่วนช่วยให้เกิดผลลัพธ์ดังกล่าวด้วย...

“อันนี้เอาไว้รับขวัญ…พี่ติดให้เอามั้ย…อยากลองดูว่าเข้ากันรึเปล่า…”

ว่าพลางดีดตัวขึ้นแล้วอ้อมไปทางด้านหลังของดารัล
ม้วนผมที่ยังเปียกหมาดๆของเธอด้วยปิ่นปักผมอันใหม่ที่เขาทำขึ้นมา
เพื่อเธอโดยเฉพาะ ก่อนจะอ้อมมาทางด้านหน้า มองดูภาพผลงานของตัวเอง
ที่ไปประดับอยู่บนศีรษะของดารัลแล้วคลี่ยิ้มออกมา

“เหมาะกับน้องรัลมาก…อย่าทำหายนะครับ…อันนี้พี่แกะอยู่เป็นเดือน”
ดารัลตาโตกับสิ่งที่ได้ยิน

“เป็นเดือนเลยหรือคะ…” ฟาเดลพยักหน้า รอยยิ้มยังคงมิได้จางหายไป

“เป็นเดือนเพราะพี่แทบไม่มีเวลาแกะน่ะสิ…น้องรัลก็รู้ว่าเรา
แทบไม่มีเวลาสวีตกันเลยด้วยซ้ำ…”

ดารัลเห็นสีหน้าแววตาของเขาก็ถึงกับยิ้มขัน

“งอนน้องรัลหรืองอนลูกล่ะคะ…”

“ทั้งแม่ทั้งลูก…”

“งั้นคืนนี้น้องรัลจะง้อพี่ทั้งคืน…แล้วพรุ่งนี้เราก็จะไปกินข้าวนอกบ้าน
ด้วยกันสองต่อสอง…ไปเดินเล่นด้วยกันตามประสาหนุ่มสาวข้าวใหม่ปลามัน…

น้องรัลจะยอมให้พี่ฟาเดลจีบน้องรัลให้รักใหม่อีกรอบ
เหมือนครั้งแรกที่เราเจอกันที่นี่…ที่คาสบลังก้า…
ที่ที่น้องรัลพบรักแรกรักเดียวและรักครั้งสุดท้าย…
ที่ที่ครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่งคอยมองเวียนจ้องมองมาด้วยแววตาที่ทำให้น้องรัลอ่อนไหว…
ที่ที่ทำให้น้องรัลตกอยู่ในอ้อมกอดของพี่ครั้งแรก…กับจูบแรกจากพี่…”

จูบแรกที่มีผ้าปิดหน้าของเธอกางกั้นเอาไว้…

ฟาเดลต่อถ้อยคำนั้นในใจ ก่อนจะขมวดคิ้วเพียงนิดเมื่อนึกได้ว่า
เธอจะเอาลูกน้อยไปไว้ที่ตรงไหน แล้วเขาก็ได้รับคำตอบ

“เพราะเย็นนี้คุณปู่กับคุณย่าและฟาฮาน่าจะมารับหลานๆไปเทีี่ยว
และขอพาไปค้างคืนด้วยกันที่รีสอร์ทริมทะเล…เด็กๆอยากเล่นน้ำทะเลเลยยอมตกลง…

หลังจากสวิตกันเสร็จเราค่อยตามไปสมทบก็ยังไม่สาย…พี่ฟาเดลเห็นด้วยมั้ยคะ…”

ฟาเดลถึงกับยิ้มกว้างให้กับแผนการที่ภรรยาสุดที่รักวาดให้เขาจินตนาการภาพของมัน
ได้ไม่ยาก…จึงอดใจไม่ได้ที่จะรวบร่างที่เริ่มมีเนื้อมากกว่าเดิมเข้ามากอดเอาไว้
พลางกระซิบชิดริมหูว่า

“พี่เห็นชอบด้วยประการทั้งปวง…” แล้วจึงฝังจมูกและริมฝีปากหยักสวยได้รูป
ตรงพวงแก้มแดงๆของเธอด้วยหัวใจรัก…รักสุดหัวใจ!





....ติดตามต่อในตอนพิเศษ Chapter 2 นะจ๊ะ....


มีพิเศษ Chapter 1 ก็ต้องมี 2...
ตอนพิเศษหน้าหวานน้ำตาลเปรี้ยว เย้ย หวานน้ำตาลหยด...อิอิอิ

นักอ่านท่านใดที่ยังคงคิดถึง "ทะเลทรายซาฮาร่า" อย่าพลาดนะคะ
เพราะงานนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นที่นั่น (อีกแล้ว)

...คุยกับนักอ่านจากตอนที่แล้วค่ะ...

1.คุณnapt...งานนี้ถือว่า...เราบ่ผิดท่่านมล้าง...ดาบนี้คืนสนอง
ได้รับสนองไปแล้วค่ะสำหรับแม่มดเมดูซ่า...เพราะซ่่าไม่ยอมหยุดนั่นแล...

2.คุณตุ๊งแช่...แสดงว่า 29 ตอนน้อยไปชิมิ...
เลยเสริฟแบบพิเศษอีก 2 ตอนเพิ่มซะเลย...
คิดว่าตอนนี้คงจะสะใจนิดๆ ส่วนตอนหน้า ทะเลทรายจะกลับมาหวานอีกครั้งจ๊ะ
...อิอิอิ

3.คุณkonhin...ท่านหญิงอะมานีนั่นแหล่ะค่ะที่เลือกจะปล่อยเสือเข้าป่าไป
กะจะให้ไปหลบเลียแผล...แต่แล้วก็โดนแว้งกัด...เลยต้องกลับมาจัดการต่อ
ถือว่าคนเราผิดพลาดกันได้ แต่ถ้าผิดซ้ำผิดซาก อันนี้ก็ไม่ไหวจะเคลียร์ค่ะ
อย่างนี้ต้องสะสาง! คราวนี้ก็เลยไม่มีอะไรค้างคาอีกแล้ว
และนี่คือตอนพิเศษ Chapter1 ที่กะให้สะใจ...ส่วน Chapter2 กะจะให้หวาน
และก็ขอขอบคุณมากๆเลยค่ะที่แวะเข้ามาส่งกำลังใจและกดไลค์
เป็นแรงผลักดันให้เต่าโยต่อไป...

4.คุณแว่นใส...ตอนนี้นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปียิงเข้าประตูไป 3 ประตูแล้วค่ะ
แต่เห็นว่ายังไม่ขอปิดสกอร์ ต้องมาลุ้นกันตอนหน้าค่ะว่าจะปิดสกอร์ที่เท่าไหร่...อิอิ

5.คุณคิดหันตุ์...ช่ายแล้ว...เรื่องนี้จะมาแนวแกมหยิกแกมหยอก
เพราะนิสัยของพระนางมาทางนั้น...อิอิ ส่วนของลูกปาดนั้นจะแนวเพ้อๆ
เพราะลูกปาดเขาเป็นสาวฝันเฟื่องมานานแว้วววว เลยโดนพี่ๆแกล้งกันสนุก
ปล.หวังว่าคงได้ใช้ของขวัญนั่นเวลาอ่านนิยายเต่าน้าาาา...5555
แบบว่าม่ายช่ายเช็ดน้ำตา แต่เป็นเช็ดน้ำหมากหรือเลือดกำเดาอะไรประมาณนั้นนะจ๊ะ

6.คุณomelate...นั่นสิ...จากดาวซัลโว พ่อคุณก็อยากขยับมาเป็น
ลูกบอลทองคำอีก...กะจะยิงประตูไม่ให้ผู้รักษาประตูรับได้กันเลยทีเดียว...555
แต่ดารัลก็เป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมเหมือนกันนะคะ...แม้จะรักษาตำแหน่ง
ไว้ไม่ได้ก็ตาม...เหอๆ...


สุดท้ายไม่ท้าย...ยังไม่จบนะคะ...
แต่ก็อยากขอบคุณนักอ่านที่ตามอ่านกันมา ส่งกำลังใจกันมา
กดไลค์ให้กันมาถึงตอนนี้มากๆค่ะ...

...รักษาสุขภาพนะคะ...

"เต่าโย"




yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ธ.ค. 2557, 00:26:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ธ.ค. 2557, 00:26:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 3521





<< บทที่ 29 บทสรุปทุกความรู้สึก (ตอนจบ)   
คิมหันตุ์ 27 ธ.ค. 2557, 09:41:37 น.
มามะดูซิจะปิดสกอร์ที่เท่าไรหนอ? อิอิ


แว่นใส 27 ธ.ค. 2557, 09:51:37 น.
ลงโทษได้เหมาะมากเลย


omelate 27 ธ.ค. 2557, 19:17:27 น.
วิ้ดดดด วิ้วววว น่ารักค่ะ


konhin 27 ธ.ค. 2557, 23:37:46 น.
ก็นะ ในมุมมองของนายิกา เธอยังไม่ได้อะไรไง สามีในทะเบียนอยู่ไหนไม่รู้ต้องเสแสร้แกล้งทำทุกวิธีให้ได้คืน (แต่ลืมไปว่าเป็นอะไรที่แย่งเค้ามา)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account