คานน้อย คอยรัก (จบแล้วค่ะ)
คานน้อย คอยรัก

ในลักษณ์นั้นว่าประหลาด…………….คนบนคานนั้นว่าน่าประหลาด
เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า…………...เป็นเชื้อชาตินักรักผู้หาญกล้า
เหตุไฉนย่อท้อรอรา…………………..เหตุไฉนย่อท้อรอเวลา
ฤาจะกล้าแต่เพียงวาที…………………ฤาไม่กล้าบอกรักใครสักที

เห็นแก้วแวววับที่ดับจิต…………………เห็นคานแก้วแวววับสดับจิต
ใยไม่คิดอาจเอื้อมให้ถึงที่……………...ใยไม่คิดปีนไปให้ถึงที่
เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี……………อย่ามัวรอจงขึ้นมาเร็วรี่
อันมณีฤาจะโลดไปถึงมือ………………บนคานนี้มีรักให้ฝึกปรือ

อันของสูงแม้ปองต้องจิต………………..คานเราสูงไม่เป็นรองของใครอื่น
ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้ฤา………………..อย่าได้ขืนลงไปให้เสียชื่อ
มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ………………….มิใช่ทองตามตลาดที่อาจซื้อ
ฤาแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม……………..เพราะเราถือความพอใจจึงลงไป

ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง……………ไม่คิดสอยมัวคอยให้คานทับ
คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม………..รอให้ดับคาคานหรืออย่างไร
ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม…………………..ฤาต้องคอยรักแท้จนแก่ใช่ไหม
จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี…………………..เกาะคานน้อยคอยรักต่อไป
…………………..........จนกว่าจะเจอคนที่ใช่…ใช่ไหมคาน………………
(อ้างอิงกลอนจากบทละครเรื่องท้าวแสนปม)

มาดูเหตุผลของคนที่ยังไม่ลงจากคานกันค่ะ...
อาจจะมีเหตุผลมากมายที่ไม่อยากลงจากคาน
หรืออาจมีเพียงแค่หนึ่งเหตุผลง่ายๆก็คือ...

...ไม่ใช่คนที่ใช่ก็ไม่ใช่...

หรือว่า

...โดนข้อหาหลายใจ เพราะเคยมีแฟนหลายหน...

หรืออาจเป็นเพรา

...เขาบอกให้รอ เราก็รอ...

หรือจริงๆแล้ว

...ขออยู่รอคนสุดท้ายคนนั้นได้ไหม...

หรือลึกลงไป

...กำลังรอเจ้าชายในฝันอยู่อย่างอดทนได้ทุกอย่าง...

หรือกำลังปลอบใจตัวเองว่า

...ครึ่งหนึ่งของฉันยังมาไม่ถึง...ซึ่งสักวันเขาจะมาอยู่ข้างกัน...

หรือกำลังหลอกตัวเองด้วยการปกปิดว่า

...ไม่หวั่นไหว หัวใจไม่ปรารถนา...

ทั้งๆที่จริงๆแล้ว

...อยากรัก อยากฝัน แต่เพราะกลัว ก็เลยไม่กล้ารักใคร...

หรือว่าอาจจะเป็นเหตผลสุดท้ายที่ไม่ค่อยมีใครกล้ายอมรับดังๆว่า

...ไม่เคยมีใครมาจีบ ไม่มีใครสน เรามันคนธรรมดาๆ...

แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใด...

เราก็ยังหวังและยังคงรอคอยปาฏิหาริย์ว่าจะได้เจอคนที่ใช่ในสักวัน...


Tags: ดราม่า หวานซึ้ง อบอุ่น หมอรัง สิ้นรัก วายุ ปองขวัญ

ตอน: ยกที่ 96 บทส่งท้าย


...เอาบทส่งท้ายมาฝากกันค่ะ...


มาช้า...แต่มาชัวร์น้า...อิอิอิ



ม่ายรู้ยังมีใครจำคานน้อย คอยรักได้รึเปล่า...

มาทวนความจำกันหน่อยนะคะ

^^


------------------------------------------------



ประกาศด่วน!


รับสมัครสมาชิกชมรม

“คานน้อย คอยรัก”



คติประจำชมรม

(อ่านแล้วใช้วิจารณญาณเพื่อเป็นบรรทัดฐานในการสมัคร)



ในลักษณ์นั้นว่าประหลาด…...........คนบนคานนั้นว่าน่าประหลาด
เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า…..........เป็นเชื้อชาตินักรักผู้หาญกล้า
เหตุไฉนย่อท้อรอรา………………..........เหตุไฉนย่อท้อรอเวลา
ฤาจะกล้าแต่เพียงวาที……………….........ฤาไม่กล้าบอกรักใครสักที
เห็นแก้วแวววับที่ดับจิต……………….........เห็นคานแก้วแวววับสดับจิต
ใยไม่คิดอาจเอื้อมให้ถึงที่………….........ใยไม่คิดปีนไปให้ถึงที่
เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี……..........อย่ามัวรอจงขึ้นมาเร็วรี่
อันมณีฤาจะโลดไปถึงมือ…………..........บนคานนี้มีรักให้ฝึกปรือ
อันของสูงแม้ปองต้องจิต……………….........คานเราสูงไม่เป็นรองของใครอื่น
ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้ฤา……………….........อย่าได้ขืนลงไปให้เสียชื่อ
มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ………………….........มิใช่ทองตามตลาดที่อาจซื้อ
ฤาแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม………….........เพราะเราถือความพอใจจึงลงไป
ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง……….........ไม่คิดสอยมัวคอยให้คานทับ
คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม……….......รอให้ดับคาคานหรืออย่างไร
ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม…………………..........ฤาต้องคอยรักแท้จนแก่ใช่ไหม
จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี…………………..........เกาะคานน้อยคอยรักต่อไป

…………………..........จนกว่าจะเจอคนที่ใช่…ใช่ไหมคาน………………

(อ้างอิงกลอนจากบทละครเรื่องท้าวแสนปม)


รับ10รับ

1.รับปรึกษาปัญหาหัวใจ

2.รับปรึกษาปัญหาเฉพาะหน้า

3.รับบริจาคหัวใจที่ไม่มีใครต้องการ

4.รับฝากของเก่ารุ่นลายคราม

5.รับซ่อมอะไหล่และชิ้นส่วนหัวใจที่แหลกสลายและขึ้นสนิม

6.รับเหมาก่อสร้างคานทุกชนิดที่คุณคิดว่าใช่

7.รับจำนอง จำนำอายุเท่าที่อายุคุณจะมี 8.รับแจ้งเหตุแฟนหายพร้อมยื่นใบสมัครในทันที

9.รับทุบรื้อถอนและประสานรอยร้าวบนคานเมื่อสมาชิกต้องการ

10.รับประกันความสนุก


หลักในการทำกิจกรรมร่วมกัน

เราจะทำงานกันเป็นทีมฟุตบอลคือแบ่งออกเป็น3ศูนย์



1.สมาชิกเพศชาย เป็นศูนย์หน้าพร้อมยิงประตูและทำคะแนนสะสมแต้ม

2.สมาชิกเพศหญิง เป็น ศูนย์กลาง เลี้ยงลูกให้ศูนย์หน้า

3.สมาชิกเพศที่สาม เป็น ศูนย์หลัง คอยเฝ้าระวังประตู เมื่อศูนย์กลางทำงานบกพร่อง



คณะกรรมการคาน


1.กรรมการประจำศูนย์หน้า----> รอรับสมัครและพิจารณาคุณสมบัติ

2.กรรมการประจำศูนย์กลาง----> รอรับสมัครและพิจารณาคุณสมบัติ

3.กรรมการประจำศูนย์หลัง-----> ริชาร์ด (ริรี) ช่อบุญมี





คุณสมบัติของผู้สมัคร



1.โสดสมัครเล่น

2.โสดมืออาชีพ

3.โสดไม่อยาก ไม่ยอมและไม่ขอเปลี่ยนแปลง

4.เลขสามกำลังจะมาเยือนหรือมีเป็นเพื่อนเดินนำหน้ามาหลายปีแล้ว

5.ชอบทานผลไม้ห้าชนิดเป็นชีวิตจิตใจ

6.กลัวความรักมากกว่่าความเหงา

7.กลัวความเจ็บปวดและความผิดหวังมากกว่าความรัก

8.กลัวการมีครอบครัว

9.คู่รักคือทางผ่าน งานคือคู่ชีวิต

10.อยากมีลูกแต่ไม่อยากมีสามีและหรือภรรยา

11.มีคนที่ชอบแต่ยังไม่เจอคนที่ใช่

12.มีคนที่เข้าตาแต่หาคนที่เข้าใจไม่มี

13.กำลังเก็บใจเพื่อรอใครสักคนที่เป็นทุกอย่่าง ใครสักคนที่รักจริง

14.ต้องการใครสักคนมาเป็นคู่ใจมากกว่าคู่กาย

15.เฝ้าคอยใครสักคนที่จะเข้ามาปลอบโยน รักษาหัวใจ ดูแลและห่วงใยกัน
พร้อมที่พักพิงอิงใจในยามที่โดดเดี่ยวเดียวดายให้หายเหนื่อย

16.อยู่ๆก็รู้สึกหนาวอย่่างหาสาเหตุไม่ได้

17.รักอิสระ ไม่ชอบพันธะผูกพัน

18.เดินคนเดียว นั่งร้านเดิมๆประจำ

19.รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่มีเสน่ห์

20.หัวใจเจ้าชู้เพราะไม่รู้จักรัก หรือเป็นเพราะอกหัก ถึงไม่กล้าปักใจรักใครจริงจัง




ใบสมัคร


กรอกใบสมัครตามความรู้สึก

1.นามแฝง……………………………..

2.ต้องการประจำยังศูนย์ใด (หน้า กลาง หลัง)………………..

3.จำนวนอายุที่ต้องการจำนองและจำนำ………………………….

4.เลขที่คุณชอบที่สุด……………………….

5.มีสัตว์เลี้ยงกี่ชนิดและกี่ตัว……………………..

6.เหลือฟันแท้อีกกี่ซี่…………………

7.มีฟันคุดกี่ซี่……………………

8.งานอดิเรกยามว่่าง…………………………..

9.กรอกตัวเลขข้างหน้าตามคุณสมบัติของผู้สมัครที่คิดว่าตรงกับคุณสมบัติของคุณ
ตามที่กล่าวไว้(มากกว่าหนึ่งข้อได้ค่ะ)

…………………………………………………………………................................

10.จะรับอะไรเป็นพิเศษจากรับ10รับของทางเรา

…………………………………………………………………................................

11.เหตุผลที่เลือกสมัครกับทางชมรมคานน้อยคอยรัก
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………..............


ควบคุมประสานงานโดย

………………………….......

ริชาร์ด ช่อบุญมี
(รองประธานชมรม)



พิจารณาคัดกรองโดย


........……………………

เลอเลิศ เลอเลื่องตระกูล

(ประธานชมรมและศิราณี)



อนุมัติโดย

.................

สิ้นรัก ยุรยวรวงศ์

(ผู้ก่อตั้งชมรมและศิราณีกิตติมศักดิ์)



ส่งใบสมัครได้ที่ ชมรมคานน้อยคอยรัก ณ ร้านสุดทางรัก
ซอยxxxxx ถนนxxxx
โทร: 080xxxxxxxx

e-mail:xxxxxxxxx


หญิงสาวร่างบางอรชรอ้อนแอ้น ใบหน้ากระจ่างใสยากจะคาดเดาอายุอานาม
กำลังยืนอ่านใบสมัครที่มีแจกฟรีตรงทางลงสถานรถไฟฟ้าย่านใจกลางเมืองกรุง

รอยยิ้มสวยคลี่ออกก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังทีี่อยู่ของชมรมดังกล่าว…
เมื่อวานเธอยังจำน้ำคำหยอกเย้าของบรรดาเพื่อนๆได้

‘หน้าตาอย่างแกจะมาห้อยโตงเตงอยู่บนคานทำไมนะยัยหมอน…
ย่าง 30 แล้วนะแก ปีนี้แกย่าง 30 แล้วนะ ไม่สะท้านสะเทือนรึไง…’

‘นั่นน่ะสิ…ขืนปล่อยให้ย่างนานเกิน 30 ฉันว่าแกเหี่ยวแน่
ยิ่งย่างนานๆก็ยิ่งเหี่ยวนะเว้ย…’

‘อย่างแกน่าจะถวายตัวอุทิศใจเป็นหมอนให้หนุ่มๆเขาไปได้แล้ว
โน้น…เลือกเอาว่าคนไหน…เลือกมาสักสองสามคน
แล้วค่อยคัดทีหลังว่าจะจริงจังกับใคร…แฟนน่ะหลายคนได้ แต่สามีต้องคนเดียวนะจ๊ะ’

ปากมันก็โบ้ยไปทางหนุ่มๆที่มาร่วมงานแต่งของเพื่อนรักของเธอ

‘เพื่อนรักแกลงจากคานปาดหน้าแกไปแล้ว แกเห็นมั้ย
ยัยลูกสาลี่นั่นน่ะ หน้าตาคนละเรื่องกับแกเลยนะ หุ่นก็อย่างที่เห็น
ฉันล่ะห่วงว่าเจ้าบ่าวของมันจะอุ้มเข้าห้องหอไหวมั้ย…
อายุ 30 แต่น้ำหนักปาเข้าไปเกือบ 80 โล แต่มันก็ยังหาทางลงจากคาน
ได้สำเร็จก่อนแกล่ะว้า…’ เสียงเพื่อนๆตามกระหน่ำคนสวยไม่เลิกรา
คนสวยยังโสดสนิทจึงทำได้แค่ยิ้มสยาม

‘เจ้าบ่าวมันหน้าเด็ก หล่อ หุ่นล่ำแบบนี้ มันทำได้ไงวะ…
แกว่ามันจะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์ม้ัยวะ ฉันกลัวเสียงไซเรนของรถตำรวจว่ะ…
แกคอยฟังให้ดีนะ ถ้าได้ยินล่ะก็ ตัวใครตัวมัน’

มีเสียงวิพากวิจารณ์เจ้าสาวของงานแต่งที่กำลังยืนเคียงข้างเจ้าบ่าว

‘ฉันว่านะ…เวลาเดินเคียงกันมา ดูๆไป มันเหมือนเลข 10 เลยว่ะ’

‘เขาว่าไอ้สาลี่มันเคยไปสมัครเป็นสมาชิกชมรมคานน้อย คอยรัก
เมื่อสองปีก่อน…แกเอ้ย…แล้วมันก็ได้ลงจากคานสำเร็จ

เขาว่ากันว่า คนที่ไปอยู่ชมรมนั้นจะได้ลงจากคานแหล่ะ…
มันเหมือนเป็นอาถรรพ์อะไรเทือกนี้มั้ง…เพราะเจ้าของชมรมคนแรก
ก็ผู้ที่ก่อตั้งชมรมนั้นแหล่ะ…เขาลงจากคานได้สำเร็จหลังจากรอคอยเจ้าชายสุดหล่อ
มาสอยอยู่นานเป็นสิบๆปี…ได้ข่าวว่าเป็นเรื่องราวความรักที่ทั้งดราม่าทั้งโรแมนติก…
โหด มันส์ ฮา ไอ้สาลี่มันว่าคุณสามีของประธานชมรมคนแรกหล่อลากไส้มากเลยแก
เป็นหมอ เป็นนายหัวทางใต้โน่น…ไอ้สาลี่มันเคยแอบฝันแอบปลื้ม…
แอบอิจฉาประธานชมรมร่างเล็กกับเจ้าชายรูปหล่อของมันอยู่สองปีเต็ม

แล้วมันก็หาทางลงจากคานน้อย คอยรักของมันได้สำเร็จก็วันนี้แหล่ะ…
ฉันว่า มันสุดยอดมาก…’

เธอสะดุดใจกับชื่อชมรมเป็นอย่างมาก ยิ่งเรื่องราวของประธานชมรม
มันยิ่งทำให้เธออยากจะรู้จักหญิงสาวผู้ก่อตั้งชมรมดังกล่าวขึ้นมาตะหงิดๆ…

เอ๊ เท่าที่ได้ฟังมา ประธานชมรมคนดังกล่าวไม่น่าจะเป็น ‘หญิงสาว’ แล้วนะ
เพราะชมรมดังกล่าวเธอได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมานานแล้ว…



วันนี้จึงได้ฤกษ์งามยามดี วันหยุดจากภารกิจต่างๆ
หญิงสาวจึงสามารถออกจากถ้ำสู่โลกภายนอกด้วยการเข้ามาเยี่ยมชม
ชมรมคานน้อย คอยรัก ในที่สุด

ป้ายตัวใหญ่ไม่ได้เขียนชื่อของชมรมแต่อย่างใด
หากเขียนไว้เพียงชื่อ

‘ร้านสุดทางรัก’

“เอ่อ…” รู้สีกเคว้งคว้างอย่างที่สุดสำหรับการมายืนอยู่กลางห้อง
โดยไม่พบสิ่งมีชีวิตใด…หญิงสาวยืนหันรีหันขวางมองหาสิ่งมีชีวิตสักตน

และเพียงไม่นานเธอก็พบเข้ากับสิ่งมีชีวิตดังกล่าวที่วิ่งหน้าตื่นมาหาเธอ
ก่อนจะคลอเคลียออดอ้อนออเซาะ หญิงสาวคลี่ยิ้มแล้วย่อตัวลงเพื่อคว้าเจ้าลูกแมว
ขนขาวปุกปุยขึ้นอุ้ม แล้วเอามือลูบขนของมันราวกับหลงใหล…

“มาตัดชุดเจ้าสาวหรือคะ…” เสียงนั้นดังจากทางด้านหลัง
ส่งผลให้คนที่กำลังถือวิสาสะอุ้มลูกแมวอยู่หันกลับไปมองด้วยสีหน้าประหม่า

ยิ่งสายตาของสตรีกลางวัยที่มองมาที่ลูกแมวที่เธออุ้มอยู่ด้วย
หญิงสาวจึงรีบวางมันลงบนพื้นดังเดิม

“เอ่อ…เปล่าค่ะ…หมอน เอ่อ…หนูเข้ามาชมร้านค่ะ…
แล้วก็…เอ่อ…มาตามใบสมัครชมรม…”

สาวมั่นอย่างเธอไม่น่าประหม่าจนถึงกับติดอ่างได้เลยนะ
แต่เพราะรอยยิ้มหรืออะไรบางอย่างในดวงตาคู่นั้นของสตรีกลางวัยตรงหน้า
ที่ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกคุ้นเคยจนสามารถปรับใจปรับน้ำเสียงให้ปกติได้ในท่ีสุด

“หนู…หมอนค่ะ…หนูชื่อหมอนไม้…” หญิงสาวแนะนำตัว

“ฉันสิ้นรัก…” สตรีกลางวัยแนะนำตัวเช่นกันก่อนจะเชิญสาวร่างบาง
ไปยังโซฟารับแขก

“นั่งก่อนสิจํะ…”

“กลิ่นดอกมะลิใช่มั้ยคะ…” หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะสูดดมกลิ่นที่รวยริน
อยู่ภายในห้องแล้วหลุดปากถามออกไปเช่นนั้น

“จ๊ะ…ดอกมะลิในสวนด้านหลังร้าน…สามีฉันเขาชอบกลิ่นของมันมาก
ฉันก็เลยร้อยเอามาวางไว้ในห้องให้กลิ่นของมันกระจายไปทั่ว
หอมเย็น ชื่นใจดี…” เสียงหวานฟังดูอ่อนโยนนั้นทำให้แขกผู้มาใหม่ถึงกับเบาใจ
ไว้วางใจมากขึ้น

“ดูเจ้าแม็กเนตมันจะชอบหนูนะ…”

‘เจ้้าแม็กเนต’ ที่ว่าคือเจ้าลูกแมวตัวนั้นที่วิ่งมาทักทายเธอก่อนใครนั่นเอง
ตอนนี้มันกระโดดขึ้นมาบนโซฟาแล้วถือวิสาสะย่างขาของมันลงบนตักเธอ
ก่อนจะฉวยโอกาสเอาตักเธอเป็นเตียงนอนหมอนอิงของมันหน้าตาเฉย…

“น่าเอ็นดูดีค่ะ…” ว่าพลางยกมือลูบขนของมัน

“ลูกชายฉันเขาเอาแม่มันมาฝากเลี้ยง…ตอนเดินทางไปเรียนต่อ
นี่คือผลผลิตของแม่แมวของลูกชายฉันล่ะหนู…มีลูกเต็มร้าน
นี่ครอกล่าสุด…เจ้าแม็กเนตรอดตายมาได้ตัวเดียว…”

พูดยังไม่ทันขาดปาก บุรุษสองคนต่างวัยก็เดินเข้ามาในร้าน
พร้อมรอยยิ้มและน้ำเสียงหยอกเย้ากันมา…สตรีกลางวัยลุกขึ้นจากที่นั่ง
แล้วเดินไปหาด้วยท่าทางดีใจ

“เอ๊…แย่งพ่อได้ไงเจ้าไอ…” เสียงชายกลางวัยประท้วง
เมื่อโดนผู้เป็นลูกชายปาดหน้าเข้าหาอ้อมกอดมารดาที่กางออกรับไปด้วยสีหน้าแช่มชื่น
ปล่อยให้คนเป็นพ่ออ้างว้างอยู่กลางห้องแทน

“นี่แม่ผมนะ…”

“นี่ก็เมียฉัน…”

“ขอกอดหน่อยไม่ได้หรือพ่อ…”

“แกกอดนานเกินไปแล้ว…ปล่อยได้แล้ว…แม่แกเขาหายใจไม่ออกแล้ว เห็นมั้ยนั่น”

สิ้นรักยืนมองสีหน้าคุณสามีที่ดูจะหวงอ้อมกอดเธอจนออกนอกหน้า ขนาดลูกแท้ๆก็ไม่เว้น

“ถ้าไม่กอดแน่นๆจะได้ยินเสียงหัวใจแม่หรือพ่อ…” คนเป็นลูกไม่วายกระตุกหนวดเสือ

“ห่างแม่แค่เดือนเดียวเอง พ่อถึงกับลงแดงเลยหรือ…
ผมสิ บินไปเรียนต่อมาตั้งสองปีเชียวนะ…คนมันคิดถึง…
พ่ออย่าแสดงอาการหึงตอนนี้ได้มั้ย…ผมขอร้องล่ะ…”

เจ้าลูกชายคนโตของเธอไม่เบาเลย กอดเธอแน่นไม่ยอมปล่อยท่าเดียว…
และดูเหมือนคนเป็นพ่อจะไม่ยอมน้อยหน้าเลยกอดรวบมันทั้งแม่ทั้งลูกในคราวเดียวกัน

ทำเอาคนเป็นลูกถึงกับขนลุก…ผงะถอยทันที ส่งผลให้คนเป็นแม่หัวเราะล่ัน
พร้อมกับฉวยข้อมือคุณภรรยามาแนบข้างทันที…

“แม่แก่ขนาดนี้แล้ว…พ่อยังหวงอยู่อีกหรือ…”

คราวนี้คนที่ถูกฟาดด้วยคำว่า ‘แก่’ ถึงกับถลึงตาใส่ลูกชายก่อนจะค้อนขวับอย่างเคืองๆ

“ถึงจะแก่ แต่ก็มีเสน่ห์ ไม่งั้นแกจะมัวมาแย่งฉันทำไม…”

คนโดนสำทับคำว่า ‘แก่’ เป็นคำรบที่สองถึงกับหน้างอเป็นจวักทันที
คราวนี้หันมาค้อนคนข้างกายแทน…

“ปล่อยเลย…แทนที่จะแก้คำผิดให้ ดันมาถล่มเสียเองแบบนี้…ไม่ต้องมากอดเลยนะ…”
สิ้นรักผลักร่างใหญ่ของคุณสามีออกห่างทันที

“แก้คำผิดหรือ…”

“ก็ใช่น่ะสิ…รักแค่มีอายุ ไม่ได้แก่เสียหน่อย…”

นั่นไง…‘คนมีอายุ’ เริ่่มออกตัวทันทีทันใดว่าแสนจะแสลงกับคำว่า ‘แก่’

“พี่รังนั่นแหล่ะแก่…” คำนั้นคืนสนอง…รังสิมันต์ที่โดนฟาดด้วยคำว่าแก่
หาได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด…เพราะสำหรับเขา

“มะพร้าวเขาว่ายิ่งแก่ยิ่งมัน…”

“ปั้นน้ำเป็นกะทิก็ได้นะพ่อเรา…” คนเป็นลูกเย้าผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียง
และสีหน้ากวนเบื้องล่างสุดๆ ก่อนจะเดินไปนั่งยังโซฟาแล้วก็ต้องถึงกับสะดุ้งโหยง
เมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาดีนั่งเล่นลูกแมวอยู่ในตักเข้า

“ตายแล้ว…แม่ลืมเสียสนิท…” คนเป็นแม่ออกตัวทันทีเมื่อหันมาทางลูกชาย
แล้วนึกได้ว่าตนมีแขก…

“หนูหมอนคงไม่ถือนะ…นี่ลูกชายคนโตของฉัน เจ้าไอ…
ส่วนนี่หนูหมอน…เข้ามาเยี่ยมชมร้้านเรา…”

สิ้นรักแนะนำทั้งสองให้รู้จักกันก่อนจะหันมาทางคุณสามี

“นี่สามีฉันเองจ๊ะหนู…นายหัวรังสิมันต์…” คนฟังถึงกับชะงัก
เมื่อได้ยินชื่อนายหัวรังสิมันต์ เพราะเพื่อนรักของเธอเอ่ยถึงบ่อยๆ
พอๆกับชื่อของสตรีกลางคนตรงหน้านี้

และไม่ลืมหันมามองคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามอย่างลูกชายคนโตของทั้งสอง…
ที่หน้าตาคัดลอกมาจากผู้เป็นบิดามิใช่น้อย…หล่อคม มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม
ไม่น้อยเลยทีเดียว เพียงแค่เห็นหัวใจก็กระตุกได้แล้ว…

“ชื่อน่าหนุนนอนดีนะหนู…” รังสิมันต์แหย่เด็กสาวรุ่นลูกเมื่อเห็นแววตาของลูกชาย
ตอนชำเลืองมองหญิงสาว

...สงสัยคงกำลังอิจฉาเจ้าลูกแมวที่ได้หนุนหมอนปาดหน้าไปเรียบร้อยแล้วแน่ๆ...

“เจ้าแม็กเนตมันถึงได้ไปไหนไม่รอด…ออดอ้อนใหญ่เชียว…”

คนโดนแหย่หน้าแดงระเรื่อทันที ทำเอาสิ้นรักต้องหยิกลำแขนของคุณสามีเป็นการปราม…

“อย่ามาทำเจ้าชู้แถวนี้นะพี่รัง…” สิ้นรักกระซิบให้ได้ยินกันสองคน

“พี่ไม่ได้ทำเจ้าชู้ โน้น หัดดูท่าทีลูกชายตัวเองซะบ้าง…”

สิ้นรักไม่วายหันไปทางลูกชายที่กลายกลับเป็นนั่งนิ่ง สงบ
เจี๋ยมเจี้ยมเชียวลูกฉัน ทีเมื่อครู่ล่ะออกท่า ออกลายสะบัด

“ถ้าชอบจะยกให้…”

นั่น…มีการยกลูกแมวให้ด้วย คนเป็นแม่ตกใจตะลึงงัน

…ตัวเองเอาแม่แมวมาฝากเมื่อสองปีก่อน แต่ลูกแมวนั่นแม่เลี้ยงมันมานะลูกรัก…
ลูกจะมายกมันให้สาวเพื่อเอาใจไม่ได้นา…แม่เสียใจนะ…

“เอ่อ…ยกเจ้าแม็กเนตนี่ให้หรือคะ…” สาวเจ้าดูตกอกตกใจไม่น้อย
กับถ้อยคำแรกที่ได้ยินจากปากของชายหนุ่มหน้าตาดีถึงดีมาก
แถมใจคอดูกว้างขวางอีก…น่าประทับใจที่สุด!

“ก็ดูมันจะชอบคุณ…ขนาดเจ้าของของมันกลับมามันยังไม่สนใจ…”

เจ้าของแมวเหมือนจะออกท่าน้อยใจขึ้นมา

…ก็มันจะจำหน้าตาเจ้าของมันได้ยังไง ในเมื่อมันไม่เคยเห็นหน้า
ถ้าแม่มันก็ว่าไปอย่าง...สิ้นรักแอบค่อนขอดลูกรักในใจ

“มันอาจจะแค่จำไม่ได้…”

“แต่ผมเป็นเจ้าของมัน…ถ้าคุณชอบ…ก็จะยกให้...แต่ถ้ารังเกียจก็ไม่เป็นไร…”

อ้าว มาไม้นี้แล้วฉันจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะพ่อคนรูปหล่อ…

“ใครจะรังเกียจแมวหน้าตาดีได้ลงล่ะคะ แถมนิสัยดีขี้อ้อนแบบนี้ ฉันชอบอยู่แล้ว…”

...แล้วเจ้าของแมวหน้าตาดี นิสัยดีขี้อ้อนแบบนี้ จะผ่านการพิจารณารึเปล่า…

ชายหนุ่มแอบนึกในใจอยากพูดออกไป แต่ต้องเก็บคำเอาไว้
กลัวกระโตกกระตากไปแล้วพ่อกับแม่ที่ยืนกุมเชิงอยู่จะตกใจ หัวใจวายเสียเปล่าๆ…

“ว่าแต่จะไม่เสียใจนะคะ ถ้าหมอน เอ่อ…ฉันจะเอามันไปเลี้ยงดูปูเสื่อจริงๆ…”

หญิงสาวหยั่งเชิงเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าลูกแมวตัวนี้จะตกเป็นของเธอตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป…

“แทนตัวเองแบบนั้นก็ดีแล้วครับ…ผมไม่ถือ…มันดูน่าฟังกว่าเยอะ”

ไอ้สำบัดสำนวนแบบนี้มันคุ้นๆหูอยู่นะ…ดูเหมือนว่าเชื้อจะไม่ทิ้งแถวนะเนี่ย...

สิ้นรักหันไปทางคุณสามี…พ่อต้นแบบของลูกชายของเธอ…
ของแบบนี้นี่มันอยู่ในสายเลือดรึเปล่านะ…น่าจะต้องมีการทำวิจัยอย่างจริงๆจังๆบ้างแล้ว…

“ขอบคุณนะคะ…เอาไว้ยังไงหมอนจะหาโอกาสตอบแทนน้ำใจของคุณบ้าง…”

“ไม่ต้องตอบแทนอะไรมากมายหรอกครับ แค่พามันมาเยี่ยมเจ้าของคนเดิมบ้างก็พอแล้ว…”

นั่นไง…สไตล์การจีบสาวแบบนี้ก็ว่าคุ้นๆเหมือนกัน…

สิ้นรักสะบัดร้อนสะบัดหนาวแทนหญิงสาวผู้นั้นยิ่งนัก
ยิ่งเมื่อเงยหน้าขึ้นมองคุณสามีก็อดไม่ได้ที่จะค้อนเขาให้หนึ่งวง
เพราะรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แสนกลนั่นแหล่ะ…

“ไอ้มุกใช้แมวเป็นด่านหน้าจีบสาวนี่พี่รังว่ามันคุ้นๆมั้ย…”

สิ้นรักได้ทีเลยกระซิบกัดแกมหยอกสามีให้หายคันยิกๆในหัวใจ

“คุ้นสิ...เธอลืมเจ้าไมโครกับโนนะไปแล้วรึไงฮึ…”
รังสิมันต์ก้มลงกระซิบให้ผู้เป็นภรรยาได้ยินตามด้วยเสียงหัวเราะฮึๆในลำคอ

“พูดถึงเจ้าไมโครกับเจ้าโนนะแล้วคิดถึงพี่ลมกับไอ้ปองขึ้นมา…”

สิ้นรักเปรยขณะพยายามลากแขนคุณสามีออกมายืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์แทน…

“อย่าพูดถึงมันตอนนี้นะ…นั่นไง พูดถึงได้ซะที่ไหน ไอ้หมอนี่มันตายยาก…
พูดถึงมันมันก็มาโน่นแล้วไง…แล้วนั่นมันกะจะยกพวกมาถล่มร้านเรารึยังไง…
นี่มันร้านตัดชุดวิวาห์นะไม่ใช่ร้านสุกี้”

“รักเป็นคนโทรไปบอกพี่ลมกับไอ้ปองเองแหล่ะว่าวันนี้เจ้าไอเดินทาง
กลับบ้านกลับเมือง…แล้วนี่ลูกเราที่เหลือล่ะคะ พี่รังเอาไปทิ้งไว้ที่ไหน”

สิ้นรักถามหาลูกสาวและลูกชายคนเล็กขึ้นมา

“เห็นว่าค่ำๆจะตามมาสมทบ…”

“ว่าไงไอ้รัง…กลับมาอ้อนเมียได้แล้วสิ…หัวหายไปเป็นเดือน”

“หายหัวโว้ยไม่ใช่หัวหาย…” รังสิมันต์แก้คำผิดของเพื่อนรักทันที

วายุที่เดินนำทัพหลวงเข้ามาโอบบ่าเพื่อนแล้วหัวเราะลั่นอย่างคนอารมณ์ดี

“ไหนวะลูกชายสุดหล่อของแก เอาหน้ามาให้ดูหน่อยซิ
ว่าเหมาะจะเป็นสามีลูกแฝดของฉันรึเปล่า…”

“แกจะยกให้ลูกชายฉันทั้งสองคนในคราวเดียวกันเลยรึไอ้ลม…”

“ให้เลือกเอาคนเดียวสิวะ ไอ้นี่ วอนซะแล้ว…”

“ก็นึกว่าจะมาเป็นแพ็คคู่…” ว่าพลางมองไปทางลูกสาวฝาแฝดของเพื่อนรัก
ที่ยืนยิ้มส่งเสียงมาทักทาย

“คุณลุงยังหล่อเท่าเดิมอยู่เลยนะคะ…” แฝดพี่ร้องทัก

“ปิ่นว่าหล่อมากกว่าเดิมนะพี่ปาน…” แฝดน้องร้องตาม

“ปากหวานจริงๆว่าที่ลูกสะใภ้ลุง…แต่ลุงมีลูกชายคนโตคนเดียว
ไม่มีแฝดเหมือนพ่อเรา…ตบแย่งชิงกันเอาเองนะ…ลุงไฟเขียวผ่านตลอด”

ว่าทีี่ลูกสะใภ้หันมามองตากันแล้วหัวเราะคิก…

“ไอน่ะหรือคะ…ปานยกให้ปิ่นก็ได้ ปานเป็นพี่ผู้เสียสละ…”
คนเป็นพี่ใจดียิ้มให้น้องแฝด

“ได้ไงพี่ปาน…ปิ่นควรจะได้เสียสละให้พี่สิ…ปิ่นเป็นน้องดีเด่นแห่งปีนะ”

“พ่อรู้แล้วลูกรัก ว่าลูกทั้งสอง อยากเป็นลูกสะใภ้ลุงรังเขามากขนาดไหน…”

วายุว่าพลางหันไปยิ้มเยื้อนให้กับสิ้นรัก

“ว่าไงนาโน…ลูกเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว ส่วนพวกเราก็...แก่เนอะ…”

‘แก่’ อีกแล้วหรือเนี่ย สิ้นรักที่หน้าบานหดเหลือคืบเดียวทันที

“พี่ลมกับพี่รังแก่กันไปล่วงหน้าได้มั้ยอ่ะ สิ้นยังไม่พร้อมแก่ตามซะหน่อย”

“เธอนี่เหมาะจะเป็นเพื่อนรักกับปองจริงๆ…รายนั้นนะอย่าให้ได้ยิน คำว่า แก่…
คุณเธอไม่ยอมท่าเดียว…”

“ว่าแต่…ที่ลูกชายแกกำลังป้ออยู่น่ะว่าที่ลูกสะใภ้แกรึไอ้รัง…
ไหนแกว่าจะยกลูกชายแกให้ฉันไง…”

วายุหันมากระซิบกับเพื่อนรักเมื่อหันไปทักทายทั้งสองหนุ่มสาวเรียบร้อยแล้ว
ส่วนลูกสาวฝาแฝดทั้งสองของเขาก็เดินไปนั่งปั้นจี้ปั้นเจ๋อข้างๆหญิงสาวผู้นั้น
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว…

“หวังว่าคงไม่เกิดศึกชิงชายกันหรอกนะ…แค่ลูกฉันสองคนตบกันก็เลือดสาดแล้ว
ไม่อยากให้มีเรื่องตบข้ามฟากเลยว่ะ...มันจะเคลียร์ยากนะเพื่อน...” วายุว่า

“อย่างกับลูกแฝดแกเขาสนใจลูกชายฉันงั้นแหล่ะไอ้ลม…”

“แต่สิ้นก็ยังอยากได้ลูกพี่ลมมาเกี่ยวใจกับลูกสิ้นอยู่นะ…”

“เหลือเจ้าปัก เจ้าวิและเจ้าเวให้ลูกสาวของเธอเลือกไง…
สามตัวเลือกเลยนะนาโน…เลือกเอาได้ตามใจชอบ…”

ปองขวัญที่เดินเข้ามาหลังสุดเพราะติดพันกับการสนทนาทางโทรศัพท์อยู่
ได้ยินถ้อยคำของคุณสามีเข้าพอดี จึงอดไม่ได้ที่จะค้อนคนใจคอกว้างขวางเหมือนทะเล…
เที่ยวได้ยกลูกให้คนโน้นคนนี้ได้หน้าตาเฉย...

“ยังไม่เลิกหวังอีกรึไงสองพี่น้องคู่นี้นี่…”
ปองขวัญอดแขวะไปถึงเพื่อนรักอย่างสิ้นรักผู้เป็นศิราณีไม่ได้…

“งั้นสิ้นยกเจ้าลังก์ให้เป็นลูกเขยพี่ลมเป็นการตอบแทนนะ…”

นั่น…มีการยกลูกให้กันหน้าตาเฉย หากนั่นทำให้วายุถึงกับสะอึก

“เจ้าลังก์น่ะหรือ…มันอายุเท่าไหร่เอง…ลูกแฝดสาวของพี่คงไม่สนหรอก…
และลูกชายที่เหลือของพี่เห็นทีคงไม่ชอบพวกไม้ป่าเดียวกันอ่ะนะ…”

ท้ายประโยคไม่วายหันไปหยอกเพื่อนชายอย่างรังสิมันต์

“ลูกชายฉันชายแท้ทั้งคู่โว้ย…” รังสิมันต์โวย

“งั้นคงต้องลุ้นน้องไข่มุกแล้วละ…” สิ้นรักว่า วายุจึงร้องรับทันที

“ดีสิ…พี่ชอบนะน้องมุกน่ะ…ถูกใจพี่ทุกอย่าง…น่ารักเหมือนแม่…
เดี๋ยวจะยุให้เจ้าปักมันจีบ…” 'ปักษา' ลูกชายของเขาที่ไม่มีคู่แฝดหนึ่งเดียว

โตเป็นหนุ่มแล้ว โดยมี 'วิหค' กับ 'เวหา' ลูกแฝดชายคู่ที่สองปิดท้าย
เป็นน้องชาย...

“คนนี้ไฟแดงโว้ย…” ไอ้รังเพื่อนรักโวยทันที…

“หวงอะไรนักหนาวะ…ปล่อยๆลูกบ้างเถอะ…” ใครๆต่างรู้กิตติศัพท์
ว่านายหัวรังหวงลูกสาวยิ่งกว่าอะไร

“เดี๋ยวลูกสาวขึ้นคาน…จะหาว่าเพื่อนไม่เตือนนะโว้ย…”

“ขึ้นคานก็ยังดีกว่าได้สามีไม่ได้ความล่ะว้้า…”

นั่นๆ มันกำลังมาหาว่าลูกชายสุดเลิฟของเขาทั้งสามคนไม่ได้ความ

…หล่อเทพ ซ้ำยังมีดีกรีหุ่นดี นิสัยดีเหมือนพ่อ และสมองเพชรเหมือนแม่อีกแบบนั้น
มันจะไม่ได้ความยังไง…

“ลูกสาวคนเดียวก็งี้แหล่ะพี่ลม…ปล่อยพี่รังเขาไปเถอะ...ไว้สิ้นจัดการเอง”
สิ้นรักหันไปกระซิบกระซาบกับวายุสองคน…

“ยังไงสิ้นก็อยากดองกับพี่และไอ้ปองอยู่นะ…” ปองขวัญที่แอบได้ยิน
เพราะยืนอยู่ใกล้ๆกับคุณสามีเลยได้แต่ส่ายหน้าระอาใจทั้งเพื่อนทั้งสามี…

เคยแอบคิดว่าถ้าสองคนนี้เกิดลงเอยได้ครองคู่กัน
โลกใบนี้จะอลวลอลเวงขนาดไหนหนอ…ดีแล้วที่ถูกจับแยกกันแบบนี้
เธอเอามาเสียคน ส่วนอีกคนพี่รังเอาไป จบ!

“ว่าแต่สามหล่อของพี่ลมไม่มาด้วยหรือคะเนี่ย…”

“ยังหรอก เจ้าวิกับเจ้าเวไปร่วมสัมนากับทางท่องเที่ยว
ส่วนเจ้าปักพี่ให้ไปรอรับน้องมุกที่มหาวิทยาลัยแล้ว…ปีนี้จบโทแล้วนี่…
งั้นก็…แต่งงานได้แล้วเนอะ…” ว่ายุว่า

“แกว่าอะไรนะไอ้ลม…” คนเป็นพ่อ ‘น้องมุก’ ถึงกับโพล่งออกไป

“แกอย่าบอกนะว่าอายุที่ผ่านมาทำให้แกหูตึงซะแล้วน่ะเพื่อน…มันเร็วไปมั้ย…”

รังสิมันต์ถึงกับกัดฟันกรอด ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขาทั้งคน
อุตส่าห์เลี้ยงมาอย่างดี มดไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม
ใครจะยอมยกให้ลูกชายมันง่ายๆ…ไม่มีทางเสียหรอก…

“อย่าไปแหย่พี่รังแบบนั้นสิพี่ลม…” สิ้นรักกระตุกแขนวายุ
เพราะรู้ดีว่าสามีจะของขึ้นแค่ไหนเวลารู้ว่าใครคิดจะมาแหยมลูกสาว

ลูกชายเขาจะปล่อยให้ทำอะไรได้อย่างอิสระ แต่กับลูกสาวแล้ว
การเลี้ยงดูช่างแตกต่างนัก…

“พี่ไม่ได้แหย่นะ…พี่ให้เจ้าปักขับรถไปรับน้องมุกจริงๆ…
อีกไม่กี่นาทีก็คงพามาส่งแกถึงที่แล้วล่ะไอ้รัง…”

วายุใช่ว่าจะไม่รู้จักเพื่อน แต่เขาอยากลองดี มีอะไรไหม…

“เรื่องรับส่งน้องมุกมันหน้าที่เจ้าลังก์…”

รังสิมันต์เอ่ยถึงลูกชายคนเล็กที่คอยทำหน้าที่รับส่งพี่สาว
หลังจากพี่ชายคนโตที่เคยทำหน้าที่ดังกล่าวโดนปลดระวาง
เพราะต้องไปเรียนต่อเมืองนอก…

“หน่า…ลูกชายฉันสุภาพบุรุษเหมือนพ่อ…เพราะลูกคนนี้ฉันเลี้ยงมาเอง
เสี้ยมมาเองกับมือ…”

‘เสี้ยม’ ดูมันใช้คำได้ล่อแหลมมาก

“อย่าไปฟังพี่ลมให้มากเลยพี่รัง…เราก็รู้ๆกันอยู่ว่ากวนแค่ไหน…”

ปองขวัญที่ยืนฟังเงียบๆมานานชักเมื่อยขา ที่สำคัญระคายหูสุดๆ
อยากหาอะไรฟาดปากผู้เป็นสามีนัก...เลยชวนเปลี่ยนบรรยากาศเสียเลย

“ไปหาที่นั่งในสวนดีกว่า…ปล่อยให้เด็กๆเขาทำความรู้จักกันเถอะ…
เรามันคนมีอายุแล้ว…” คุณเธอช่างเลี่ยงใช้คำได้เป็นเลิศ
กวาดคะแนนจากเพื่อนรักอย่างสิ้นรักไปเป็นกอบเป็นกำจึงร้องเสริมทันทีทันใดว่า

“ใช่แล้วปอง…เรามันคนมีอายุแล้ว ควรจะไปหาที่ที่มันเหมาะๆ…”

หลังจากนั้น ‘คนมีอายุ’ เลยพากันไปยังสวนหลังบ้าน
ทิ้งพวกหนุ่มสาวเอาไว้ในห้องรับแขก…

“ฉันว่าสองสาวน้อยข้างหน้าเรา…จะแสลงใจกับคำว่า แก่ น่าดูเลยว่ะ…”

วายุกระซิบกระซาบกับเพื่อนที่เดินเคียงกันไป

“ผู้หญิง!” รังสิมันต์สรุปเอาง่ายๆสั้นๆแค่นั้น…

“เอ้อ...ลูกสาวพี่เพลิงกับพี่ตามก็ทั้งสวยทั้งน่ารักขนาดนั้น…
แกไม่สนใจลองทาบทามให้เจ้าลังก์ของแกบ้างรึไอ้รัง…
ถึงไม่หล่อเหลาเท่าเจ้าไอ…แต่หน่วยก้านดี…ฉันชอบว่ะ…”

วายุไม่วายยุเพื่อนให้มาดองกันกับฝั่งพี่ชายแทน เพราะฝั่งตนนั้นเป็นไปได้ยากยิ่ง…
เนื่องจากดันมีลูกชายสามคนซ้อน ส่วนลูกแฝดสาวก็อายุห่างจากลูกชายคนเล็กของเพื่อน
เกินไป

…ยังไงหมดหวังจากเจ้าไอ ได้เจ้าลังก์มาดองกับตระกูลอาทิตยะของเขาก็คงจะดีมิใช่น้อย

“ฉันว่าแกเปลี่ยนอาชีพเหอะ…”

“อะไรของแก…”

“ศิราณีแทนเมียฉันไง…”

“ถ้าฉันมีสัมผัสรักแท้เหมือนนาโนก็น่าสนอยู่หรอกนะ…”




หญิงสาวร่างบางอรชรอ้อนแอ้นอุ้มลูกแมวตัวน้อยมานั่งบนเตียงนอน
ในห้องนอนส่วนตัวของตน แล้วยกขึ้นแนบแก้มก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา
เมื่อนึกถึงเจ้าของของมัน

…ไม่คิดเลยว่า…แค่เดินเข้าไปใน 'ชมรมคานน้อย คอยรัก'
แค่ย่างกรายเข้าไปเท่านั้นเอง…สัญญาณเตือนภัยหัวใจหวั่นไหวของเธอ
ก็ส่งเสียงเตือนทันทีทันใด…

ทั้งๆที่ตั้งแต่โตมาเป็นสาวเป็นแส้ยังไม่เคยเลยสักครั้งที่มันจะส่งสัญญาณเตือนเช่นนี้มาก่อน…

หรือว่ามันจะเป็นอาถรรพ์อย่างที่เพื่อนๆของเธอเล่าขานกันแน่…

เพราะนอกจากลูกแมวตัวน้อยที่ทำให้เธอรู้สึกชอบแล้ว
เจ้าของลูกแมวตัวนี้ก็ดูจะถูกใจเธอไม่น้อย
ถูกใจอย่างที่ไม่เคยถูกใจใครมาก่อนในชีวิต…

‘คานน้อย คอยรัก’ เพราะชื่อนี้สินะ ที่ทำให้คนที่ไปสมัครเป็นสมาชิก
ไม่ต้องรออยู่บนคานน้อยๆนานอย่างที่คิด…

แต่คนที่ติดตามอ่านเรื่องราวของคนบนคานน้อย คอยรัก นั้น
คงรอมานานกว่าจะมาถึงตอนนี้…



................จบบริบูรณ์..........................



เรื่องนี้จบแล้วนะจ๊ะ....ปิดฉากลงตรง 'ยกที่ 96'
แม้จะอ่อยๆเอาไว้ตามแบบฉบับเต่าโย
ก็หวังว่า...ถ้ามีโอกาส อาจจะกลับมาเขียนเรื่องราวคนบนคานน้อยกันอีก

เพราะยังอดไม่ได้ที่จะคิดถึง 'หมอรัง' กับ 'พี่ลม' เพื่อนซี้คู่กัดคู่นี้อยู่ไม่น้อยเลย

สุดท้ายนี้คงต้องขอบคุณนักอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้มากๆนะคะ...

ขอบคุณทุกๆกำลังใจ ทุกๆไลค์ที่กดให้กัน และขอบคุณทุกคอมเม้นท์ที่พิมพ์
ส่งมาให้เต่าโยอ่าน(โยอ่านทุกตัวทุกอักษรค่ะ) ขอบคุณที่นักอ่านหลายท่าน
เข้ามาทักทายให้ได้รู้ว่ายังอยู่นะ ยังอ่านอยู่...ไม่ได้ไปไหนด้วยค่ะ...


เพราะทุกคนที่เข้ามาอ่านคือแรงบันดาลใจทำให้เต่าโยเขียนเรื่องนี้
จบลงอย่างบริบูรณ์ได้สำเร็จ...ถ้าไม่มีก็ไม่แน่ใจว่าจะอยากเขียนต่อให้จบหรือไม่

...ขอบคุณมากๆค่ะ...

...รักษาสุขภาพนะคะ...

"yoraya"




yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ม.ค. 2558, 01:22:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ม.ค. 2558, 01:22:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 2390





<< ยกที่ 94 ลูกสาวของพ่อ   
konhin 8 ม.ค. 2558, 02:07:42 น.
กรี๊ดๆๆๆๆ น่ารัก สาวๆแก่ เอ้ย มีอายุกันหมดแล้ว


ใบบัวน่ารัก 8 ม.ค. 2558, 02:58:37 น.
น่าจะทำแผนผังแต่ละคู่นะและรายชื่อลูกๆด้วย
นึกไม่ออก และอายุเท่าไรกันบ้าง ถ้าน้องมุกจบโท
น้องไอ ก็น่าจะเกือบ30 แล้วอะดิ. แก่ไปหรือเปล่า อะ งง


แว่นใส 8 ม.ค. 2558, 08:20:12 น.
คิดเหมือนกันเลย น่าจะทำผังตระกูลกันซักหน่อย คนเยอะ ความจำเริ่มแย่ (เริ่มมีอายุ อิอิ)
จะได้จำง่าย ๆ หน่อย


ตุ๊งแช่ 8 ม.ค. 2558, 08:43:36 น.
จบแล้ว ลงท้ายไว้แบบนี้ จะมีรุ่นลูกต่อไหมนี่ ภาคที่เท่าไหร่ดี


goldensun 8 ม.ค. 2558, 18:26:55 น.
หมอรังนี่ หวงสิ้นกับผู้ชายทุกคนไม่เว้นแม้แต่ลูกเลยนะนี่
แต่ชมรมนี้ฉุดลงจากคานได้ทันทีทันควันดีแท้
มาตามเก็บตอนจบค่ะ


Pat 9 ม.ค. 2558, 04:34:18 น.
ในที่สุดก็มาถึงบทสรุปจนได้ ขอบคุณที่เขียนให้อ่านจนจบค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account