บ่วงรักฝังแค้น
เมื่อความรักกลายเป็นความอาฆาตแค้น และตามจองเวรเขาและเธอไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่ว่าภพชาติไหนจะขอตามจองล้างจองผลาญไม่ให้เหลือสิ้น ความรักและความแค้น
จากอดีตชาติติดตามเป็นเงาตามตัว เขาและเธอจะทำเช่นไรเพื่อหยุดความแค้นนี้ลงได้
Tags: บ่วง,รัก,ฝัง,แค้น

ตอน: ตอนที่ 2 เทพบุตรจากแมนฮัตตัน

ตอนที่ 2 เทพบุตรจากแมนฮัตตัน

ภายในห้อง I C U

“ลูก..ยัง..มี..พี่ชาย.. เจตน์” เสียงแหบแห้งเอ่ยบอกลูกชายอย่างอ่อนแรง ริมฝีปากซีดเซียวสั่นระริก พยายามเอ่ยบอกข้อความบางอย่างให้กับบุตรชายตรงหน้าของเขา

“ไปตามหาพี่ชายฝาแฝดของลูก...กลับ..มา..ให้..ได้...”เสียงชายชราเริ่มขาดห้วง ลมหายใจเริ่มอ่อนลง ดวงตาก็เริ่มอ่อนแสงแต่ยังคงจับจ้องใบหน้าของบุตรชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า

ร่างสูงของบุตรชายตรงหน้าเอื้อมไปกุมมือพ่อของเขาทันที ที่ได้ยินพ่อของเขาเอ่ยบอกเช่นนั้น ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจระคนประหลาดใจในคราวเดียวกัน พร้อมเอ่ยถามกลับไป

“ผมมีพี่ชายหรือครับพ่อ เป็นพี่ชายฝาแฝดของผมอย่างนั้นเหรอครับ มันเป็นไปได้อย่างไง”เสียงชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจกับสิ่งที่เพิ่งจะได้รับรู้ ดวงตาคมกล้าก้มลงมองพ่อของเขารอคำอธิบาย

พ่อของเขาพยักหน้าติดๆ กัน แทนคำพูด ก่อนจะกล่าวคำอธิบายชี้ชัดและเอ่ยย้ำอย่างชัดเจน

“ลูกมีพี่ชายฝาแฝดจริงๆ คนที่รู้เรื่องเป็นอย่างดีและจะพาลูกไปหาพี่ชายฝาแฝด คือเข็มชาติ ไป..ตามหา..พี่ชายของลูก..กลับมาให้..ได้”

ชายชราเอ่ยย้ำเสียงชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมบีบมือลูกชายก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“สัญญากับพ่อ...เจตน์ ลูกต้องตามหาพี่ชายของลูก พี่ชายของลูกเท่านั้นที่จะช่วยลูกได้ ลูกจะปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่พ่อยกให้ลูกของพ่อทุกคน รีบไปตามพี่ชายของลูกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เมื่อพ่อเป็นอะไรไปแล้ว ชีวิตลูกของพ่อทุกคนจะตกอยู่ในอันตราย เรื่องนี้สำคัญที่สุดอย่าเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด แล้วไม่ต้องบอกให้ใครรู้ว่าพ่อคุยกับลูกได้รีบไป!”

เจตน์ พยักหน้ารับคำสั่งพ่อของเขาแทนคำตอบ ร่างสูงก้มลงกระซิบข้างหูพ่อเบาๆ

“ผมจะรีบไปตามที่คุณพ่อสั่ง รอผมกลับมาพร้อมพี่ชายนะครับคุณพ่อ”เจตน์ กระซิบบอกพร้อมกอดร่างพ่อของเขาที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อช่วยยื้อชีวิตอย่างสุดความสามารถ

ร่างสูงของเจตน์ ค่อยๆ ก้าวถอยหลังพร้อมตัดใจเดินออกจากประตูห้อง ICU ไปอย่างรวดเร็ว โดยมีสายตาของผู้เป็นพ่อมองตามหลังบุตรชายผ่านม่านน้ำตา ที่ไหลเอ่อล้นจนมองไม่เห็น มีเพียงเสียงรำพึงรำพันที่กลั่นออกมาจากหัวใจของชายชราเท่านั้น ที่ดังก้องกังวานอยู่ภายใน

“พ่อก็หวังว่าจะมีชีวิตอยู่รอคอยลูกได้เช่นกัน ”ชายชราพึมพำอยู่ภายใน หยาดน้ำตาไหลรินเป็นทางยาว ก่อนจะได้ยินเสียงเอ่ยตรงหน้า

“พูดได้แล้วเหรอคมกริช!”เสียงทักเอ่ยเย็นยะเยียบ ร่างหนาเดินตรงมาที่ชายชราเจ้าของชื่อคมกริชอย่างรวดเร็ว

“กะ...กะ...แก..!!!!” ชายชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก เมื่อเห็นร่างหนาดังกล่าวตรงหน้า เดินตรงเข้ามาหาเขาด้วยแววตาที่โหดเหี้ยม ไร้สิ้นความปราณีอย่างเห็นได้ชัด

ชะตากรรมอุบัติขึ้นด้วยความโลภของคนที่ไม่รู้จักพอ ความแค้นจึงก่อตัวเพื่อโต้ตอบและทำลายล้าง จองเวรผู้ที่ก่อเวรก่อกรรมนั้นขึ้นมา ท่ามกลางความแค้นและความละโมบดั่งไฟโลกันต์ สิ่งใดจะสามารถทำให้ชะตากรรมอันเลวร้ายพลิกผันไปได้เล่า


ประเทศสหรัฐอเมริกา
แมนแฮตตัน นครนิวยอร์ค

แมนแฮตตัน เป็นแหล่งศูนย์กลางธุรกิจ วัฒนธรรม การเงิน ที่สำคัญของโลกแห่งหนึ่ง เป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) บนถนนวอลล์สตรีทและตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินในโลก เป็นที่ตั้งของสื่อหลายๆแขนงไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ และบริษัทสื่อต่างๆ ล้วนตั้งอยู่ที่นี่ทั้งสิ้น แมนแฮตตันมีแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง รวมถึงพิพิธภัณฑ์และมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ด้วยความเจริญที่หลากหลาย แน่นอน อิทธิพลก็ย่อมมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และแมนแฮตตันยังถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเขตร่ำรวยที่สุดในสหรัฐอเมริกา บทคนจะรวยก็รวยเสียจนน่าอิจฉาถ้าเทียบกับคนระดับล่างแล้ว แตกต่างเหมือนกับฟ้าและเหว ให้ตายสิ

ดวงตาสีสนิมเหล็กคมกล้า กำลังยืนจ้องมองทิวทัศน์มหานครนิวยอร์ค ที่เต็มไปด้วยตึกสูงเสียดฟ้านับ 100 ชั้น มากมาย และที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาคือ ตึกวันเวิรด์เทรดเซ็นเตอร์หรือชื่อเดิมคือ ฟรีดอมทาวเวอร์ อาคารที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา มีความสูงถึง 1,776 ฟุต หรือ 541.3 เมตร นั่นเอง ตึกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในโลกกำลังใกล้เสร็จสมบูรณ์ในอีกไม่ช้า และเมื่อตึกดึงกล่าวเสร็จ CEO ทางด้านพลังงานเช่นเขา ก็จะย้ายฐานจากตึกแบงก์ออฟอเมริกาทาวเวอร์ มาอยู่ที่ตึกวันเวิรด์เทรดเซ็นเตอร์แทน โดยเขาซื้อพื้นที่ตั้งแต่ชั้นที่ 51ถึง ชั้นที่ 60 สำหรับใช้เป็นที่ทำการสำหรับกิจการของแอนเดอร์สันของเขาทั้งหมด

เกาะแมนแฮตตัน คือบ้านที่เขาเติบโตมาตั้งแต่จำความได้ ภายใต้มหานครนิวยอร์คที่ได้ขึ้นชื่อว่า “นครแห่งความฝัน” ชายหนุ่มเจ้าของความสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว ท่วงท่าที่องอาจ เต็มไปด้วยอำนาจ เจ้าของดวงตาสุดเซ็กซี่ ภายใต้ขนตางอนยาวเป็นแพ “อลัน แอนเดอร์สัน ” CEO คนปัจจุบัน ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันปิโตรเลียม ธุรกิจทางด้านนวัตกรรมยานยนต์ ชายหนุ่มเป็นผู้สืบทอดกิจการทั้งหมด ต่อจากนายวิลเลี่ยม แอนเดอร์สัน บิดาบุญธรรม ที่เลี้ยงดูเขาตั้งแต่แรกเกิด

ชายหนุ่มได้รับรู้เรื่องราวของเขาจากพ่อบุญธรรมนายวิลเลี่ยม แอนเดอร์สัน หนุ่มหล่อชาวสหรัฐ ที่มาตกหลุมรักมารดาของเขาและเป็นรักข้างเดียว เนื่องจากมารดาผู้ให้กำเนิดของเขา มีคนรักอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่เป็นเพราะความแตกต่างทางด้านชนชั้น ทำให้มารดาของเขาถูกพลัดพรากจากบิดาที่ให้กำเนิด ตลอดเวลาที่มารดาของเขาตั้งครรภ์ บิดาของเขาไม่สามารถมาเฝ้าและคอยดูแลเหมือนสามีทั่วไปได้เลย เพราะถูกขัดขวางจากคุณหญิงระย้า เดชวโรดม หรือคุณย่าของเขานั่นเอง จนกระทั่งมารดาของเขาครบกำหนดคลอด และให้กำเนิดลูกชายฝาแฝด

คุณหญิงระย้า ทราบข่าวว่ามารดาของเขาให้กำเนิดบุตรชายฝาแฝด จึงต้องการหลานชายฝาแฝดมาเลี้ยงดูแต่ไม่ต้องการมารดาของเขาเข้ามาเป็นสะใภ้ มารดาของเขาจึงหอบลูกชายฝาแฝดหนีออกจากโรงพยาบาล แต่คนสนิทของคุณหญิงระย้าสามารถกักฝาแฝดคนน้องเอาไว้ได้ เพราะแฝดคนน้องต้องนอนในตู้อบเนื่องจากมีภาวะตัวเหลือง แต่เขาซึ่งเป็นแฝดคนพี่ไม่ต้องนอนตู้อบ ทำให้มารดาได้เขามาเพียงแค่คนเดียว

และคนที่คอยให้ความช่วยเหลือก็คือ พ่อบุญธรรมของเขา ความรักและความซื่อสัตย์ที่มอบให้กับมารดาของเขา ทำให้มารดาของเขายินยอมที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันและติดตามมาอยู่เคียงข้างกับพ่อบุญธรรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้ว พ่อบุญธรรมเป็นบุคคลที่ได้ชื่อว่ามหาเศรษฐีลำดับต้นๆ ของสหรัฐ แต่ความสุขก็อยู่กับพ่อบุญธรรมได้ไม่นาน เมื่อมารดาของชายหนุ่มต้องจากไปหลังจากแต่งงานและจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพียงแค่ 2 ปี เท่านั้น ชายหนุ่มกำพร้าแม่ตั้งแต่อายุเพียง 2 ขวบ และนับตั้งแต่นั้นมา พ่อวิลเลี่ยม คือบุคคลที่คอยเฝ้าถนอมและเลี้ยงดูเขามาโดยตลอด จนกระทั่งเขามีอายุ 31 ปี

อลัน ได้รับสืบทอดกิจการทั้งหมดต่อจากวิลเลี่ยม แอนเดอร์สัน พ่อบุญธรรมของเขาซึ่งได้เสียชีวิตลงเมื่อปีที่แล้ว และได้ทำพินัยกรรมระบุให้เขาเป็นผู้รับมรดกแต่เพียงผู้เดียว พ่อบุญธรรมของเขาไม่ยอมแต่งงานใหม่ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย นับตั้งแต่มารดาของเขาเสียชีวิตไป และเป็นเพราะพ่อบุญธรรมของเขา ทำให้เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับตัวเขา ว่าเขาไม่ได้อยู่เพียงลำพังแต่เขายังมีพ่อที่ให้กำเนิดและยังมีน้องชายฝาแฝดที่อยู่เมืองไทย
และนับตั้งแต่ได้รับทราบเรื่องราวของเขาจากปากพ่อบุญธรรมก่อนจะลาจากไป ชายหนุ่มได้สืบค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับน้องชายฝาแฝดและบิดาผู้ให้กำเนิดอย่างเงียบๆ และได้รับรายงานจากสายข่าวในเมืองไทยอย่างละเอียด และล่วงรู้แม้กระทั่งว่าในขณะนี้ ที่ประเทศไทยบิดาที่ให้กำเนิดเขากำลังล้มเจ็บอยู่ในห้อง ICU

ร่างสูงองอาจ ยืนนิ่งกอดอกมองทิวทัศน์มหานครนิวยอร์ค ภายใต้ชุดสูทราคาแพงปิดบังเรือนร่างแข็งแกร่ง ร่างบุรุษของเขาเป็นที่พิสมัย ผิวสีแทนละเอียด คมเข้มขึ้นมันวาว เพราะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เขาเป็นประธานบริษัทฯ ที่อายุน้อยและเป็นที่หมายปองของสตรีชั้นสูง และหญิงสาวทุกคนที่ได้พบเห็นเขา แต่หัวใจเขายากที่จะรับหญิงใดเข้ามาในหัวใจ ความเย็นชามีมากกว่าความอ่อนโยน แต่ใครเล่าจะล่วงรู้ว่าแท้จริงแล้ว หัวใจของเขาโหยหาความรักและความอบอุ่นมากมายเพียงใด แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้เสียด้วยซ้ำไป

“กริ้งงงงงงงงงงง” เสียงโทรศัพท์ทำลายความเงียบ ทำลายความคิดที่กำลังเหม่อลอยไปไกลแสนไกล ให้หวนกลับคืนมาสู่ตัวเขา ร่างสูงชายหางตามองไปที่โทรศัพท์ตั้งโต๊ะ ลมหายใจถอนออกมาอย่างช้าๆ เพื่อเรียกสติกลับเข้าหาตัว เขายืนใจลอยนานเท่าไรก็ไม่อาจรู้ได้ ก่อนจะเอี้ยวตัวกดรับโทรศัพท์พร้อมกรอกเสียงโต้ตอบกลับไปเบาๆ
“ว่าไง”เสียงเย็นยะเยียบถามสายปลายทาง

“ท่านครับ คุณเจตน์ เดินทางมาถึงนิวยอร์คเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้พวกเรากำลังคอยเฝ้าคุณเจตน์ กับคนที่ติดตามมาด้วย แต่น่าแปลกตรงที่ว่าคุณเจตน์ กำลังเดินทางไปพักบ้านตากอากาศใกล้ๆทะเลสาบออนแทรีโอ แทนที่จะเข้าพักโรงแรมในนิวยอร์คเพื่อมาพบคุณท่านครับ”

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยทันที เมื่ออลันได้ยินการรายงานข่าวจากลูกน้องเขา คอยรายงานความเคลื่อนไหวน้องชายฝาแฝดของเขาให้ได้รู้ทุกระยะ

“ทะเลสาบออนแทรีโอ เจตน์เดินทางไปที่นั่นทำไม ในเมื่อรู้ว่าเราอยู่ในนิวยอร์ค”อลันพึมพำออกมาเบาๆ ลางสังหรณ์บังเกิดขึ้นภายในใจขึ้นมาทันที

“รีบตามคุณเจตน์ไปและคอยเฝ้าอย่างใกล้ชิด จับตามองทุกคนที่เข้ามาใกล้ๆ ถ้าดูแล้วไม่เข้าท่ารีบโทรรายงานฉันทันทีเข้าใจไหม”

“ครับคุณท่าน”ปลายสายขานรับอย่างแข็งขัน

ดวงตาคมกล้ายังคงจับจ้องไปที่โทรศัพท์ตั้งโต๊ะ เขากำลังจะได้พบน้องชายฝาแฝดของเขาเป็นครั้งแรกในชีวิต ชายหนุ่มไม่ได้อยู่ลำพังโดดเดี่ยวท่ามกลางมหาสมบัติมากมายมหาศาลของพ่อบุญธรรม แต่เขายังเหลือน้องชายและพ่อที่ให้กำเนิดของเขา ไม่ได้ตัวคนเดียวโดดเดี่ยวและอ้างว้าง แต่ทำไมเขาจึงรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก ซ้ำร้ายรู้สึกหายใจติดขัดคล้ายคนหายใจไม่ออก

มือหนาปลดกระดุมคอเสื้อเชิ้ตพร้อมดึงเนคไทให้คลายออกเพื่อบรรเทาความอึดอัด เสื้อสูทราคาแพงลิบถูกถอดออกจากร่างกำยำ ก่อนจะถูกเหวี่ยงไปที่เก้าอี้รับรองแขก กระดุมเสื้อเชิ้ตถูกปลดออก 2 เม็ดเพื่อคลายความอึดอัด เผยกล้ามเนื้อแน่นตึงภายใต้เสื้อเชิ้ตราคาแพง แขนเสื้อทั้งสองข้างถูกพับขึ้นจนถึงข้อศอก

ร่างใหญ่ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้รับรองแขกตัวยาว กึ่งนั่งกึ่งนอน เขาพยายามทำให้อาการหายใจติดขัดจางหายไป ทำไมเขาจึงมีอาการแบบนี้ขึ้นมาได้เล่า มันน่าแปลกอยู่มิใช่น้อย จะเป็นเพราะความเหนื่อยล้าในการทำงาน หรือจะเป็นเพราะจากสาเหตุใด จู่ๆ อลันผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว และเขาได้ตกเข้าสู่ภวังค์แห่งความฝัน ฝันที่เหมือนจริงชัดเจนราวกับว่ามันกำลังเกิดขึ้นกับตัวเขาเอง

ท่ามกลางวังวนแห่งความฝัน ทะเลสาบออนแทรีโออยู่เบื้องหน้า บ้านพักส่วนตัวหรูหราติดทะเลสาบตั้งเรียงราย เว้นระยะความเป็นส่วนตัวพอสมควร มีอยู่ด้วยกันหลายหลังแต่ไม่มากนัก บ้านทุกหลังจะมีอาณาบริเวณกว้างขวางและติดทะเลสาปเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติ

“เจตน์! เจตน์!”ไบรอันส่งเสียงร้องเรียกน้องชายฝาแฝดของเขา เขาก้าวเดินไปตามทางที่ทอดยาว ผ่านต้นไม้ใหญ่ที่เรียงรายไปตามเส้นทาง ก่อนจะหยุดนิ่งเหมือนหินเมื่อสายตาของเขาพลันเห็นอะไรบางอย่างเบื้องหน้า

สายตาของอลัน จำต้องสะดุดหยุดลงอย่างกะทันหัน ร่างกายหยุดการเคลื่อนไหวเหมือนคนโดนสาปเมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาคือ ร่างของชายหนุ่ม ร่างหนึ่งถูกแขวนคออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ติดกับทะเลสาปเบื้องหน้า ห่างจากสะพานที่สร้างขึ้นทอดยาวเพื่อใช้เป็นเส้นทางเชื่อมตัวจนมาถึงพื้น ร่างที่ไร้วิญญาณถูกแขวนคอในสถานที่ห่างไกล ไร้ผู้คน น้อยคนนักที่จะเดินทางเข้ามาถึงทะเลสาบทางด้านตะวันตกแบบนี้ อลันตัวชา ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ไม่คาดว่าจะต้องมาพบเห็นคนตายในลักษณะนี้ ทันใดนั้นเอง

“พี่!ช่วยด้วย!ช่วยผมด้วย!” เสียงปริศนาดังแทรกขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบ พร้อมกับร่างไร้วิญญาณที่ถูกจับแขวนคอห้อยอยู่ใต้ต้นไม้ค่อยๆ หันกลับมาอลัน

ร่างสูงใหญ่ ถึงกับเซทำท่าจะล้มเสียให้ได้เมื่อ ร่างไร้วิญญาณที่ถูกจับแขวนคออยู่ใต้ต้นไม้ หันกลับมาหาเขา และใบหน้าคนที่ถูกแขวนคอ มีหน้าตาเหมือนกับเขาเป็นพิมพ์เดียวกันคือเจตน์ น้องชายฝาแฝดของเขา น้องชายที่เขาเฝ้ารอคอยและกำลังเดินทางมาหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ อลันแทบจะสิ้นไร้เรี่ยวแรงเมื่อเห็นภาพดังกล่าว ชายหนุ่มรีบถลาเข้าไปหาร่างไร้วิญญาณของน้องชายทันที

ทว่าร่างไร้วิญญาณของน้องชายถูกจับแขวนคอ อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่สูงจากพื้นดินเกินกว่าที่เขาจะนำร่างลงมาได้ ชายหนุ่มแหงนคอมองร่างไร้วิญญาณตรงหน้า ด้วยความเสียใจที่หาอะไรมาเปรียบมิได้ ร่างสูงค่อยๆ ทรุดกายลงพื้นดินด้วยความอ่อนแรง หยาดน้ำตาแห่งความเสียใจหลั่งรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย

“เจตน์!!!!!!” อลันตะโกนเรียกชื่อน้องชายฝาแฝดออกมาจนสุดเสียง

“เฮือก!” ร่างใหญ่สะดุ้งเฮือกจนสุดตัว

อลัน กะพริบตาติดๆกัน ก่อนจะพยุงร่างของเขาลุกขึ้นจากเก้าอี้รับรองแขกตัวยาว ดวงตาสีสนิมเหล็กกวาดสายตาไปทั่วห้องที่เขากำลังนั่งอยู่ในขณะนี้

“นี่เราฝันไปเหรอเนี่ย ฝันทำไมมันชัดเจนเหมือนจริงเสียเหลือเกิน”อลันพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะยกมือหนาขึ้นแตะใบหน้าของเขา เมื่อรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างไหลเปรอะเปื้อนใบหน้าคมคร้ามของเขาอยู่ในขณะนี้

“น้ำตา! นี่เราร้องไห้จริงๆ ไม่ใช่ร้องไห้เฉพาะอยู่ในความฝันอย่างนั้นเหรอ”ชายหนุ่มรำพึงพร้อมรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ในยามนี้ความกังวลบางอย่างที่อยู่ในใจของเขา วิ่งจับแล่นไปถึงขั้วหัวใจอยู่ในขณะนี้

“กริ้งงงงง”เสียงโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของเขา ดังขึ้นทำลายความเงียบงัน พร้อมๆกับร่างของอลัน รีบถลากดรับสายเรียกเข้านั้นทันที

“มีอะไรคืบหน้าไหม!”ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ทันที

“คุณท่านครับ ตอนนี้พวกเราตามหาคุณเจตน์และเพื่อนที่มาด้วยกันไม่พบเลยครับ”ปลายสายส่งข่าวรายงาน ที่เล่นเอาคนฟังถึงกับใจหายแวบไปเลยทีเดียว

“หมายความว่าอย่างไงตามหาไม่พบ ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้คอยเฝ้าดูอย่าให้คลาดสายตาไปได้ แล้วทำไมจู่ๆ ถึงบอกว่าตามหาไม่พบแล้ว ทำไม!”คำถามสุดท้ายชายหนุ่มตะคอกเสียงเข้มกึ่งตะโกนถามกลับไป

“พวกเราคอยติดตามและคอยเฝ้าตามที่นายท่านสั่งกำชับทุกอย่างครับ แต่คุณเจตน์และเพื่อนพากันไปนั่งเรือชมทะเลสาปที่อยู่ด้านหลังของบ้านพัก กว่าพวกเราจะหาเรือตามไปได้ก็เสียเวลาพอสมควร และตอนนี้ก็บ่ายคล้อยแล้ว ยังไม่มีวี่แววเรือของคุณเจตน์ที่ออกไปกับเพื่อน แล่นอยู่ในทะเลสาบหรือแล่นกลับมาที่พักเลยครับ ถ้าหากมืดลงแล้วการติดตามก็จะลำบากขึ้นแล้วครับท่าน”

อลัน ถึงกับตัวชาวาบขึ้นมาทันที เมื่อบอดี้การ์ดที่เขาส่งไปคอยติดตามน้องชายของเขารายงานข่าวให้ทราบเช่นนั้น ชายหนุ่มสะกดอารมณ์ พร้อมผ่อนลมหายใจเข้าออกเพื่อระงับสติและเรียกสติของเขากลับคืนมา พยายามทบทวนภาพที่เกิดขึ้นในความฝัน ใครจะหาว่าบ้าและไร้สาระก็ช่างหัวมัน บางทีความฝันของเขาอาจจะทำให้เขาตามน้องชายฝาแฝดพบก็เป็นได้ อลันรีบสั่งการทางโทรศัพท์ทันที

“พวกนายรีบแล่นเรือไปทางฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ ให้สังเกตสะพานที่ใช้เป็นทางเดินไปทางฝั่งตะวันตก ห่างจากนั้นไม่เกิน 300 เมตร จะเป็นแนวต้นไม้ใหญ่พวกนายรีบแล่นเรือไปแถวนั้นทันที รีบไปช่วยน้องชายฉัน! และติดต่อกลับมาทันที เมื่อเห็นสิ่งผิดปกติ เดี๋ยวฉันจะรีบตามไป”ชายหนุ่มสั่งการด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ พร้อมกดปิดโทรศัพท์สายสนทนา ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ ต่อสายนอกด้วยความรวดเร็ว

“เอาเฮลิคอปเตอร์ จอดรอผมที่ดาดฟ้าของตึกเดี๋ยวนี้! ผมจะไปทะเลสาบออนแทรีโอ ในอีก 20 นาที” ชายหนุ่มสั่งการทางโทรศัพท์ด้วยความรวดเร็ว ร่างสูงค่อยๆ หันกลับไปมองทางทิศที่ทะเลสาบออนแทรีโอตั้งอยู่ พร้อมรำพึงออกมาเบาๆ

“นายจะต้องไม่เป็นอะไรเจตน์ พี่จะไปช่วยนายให้ได้ นายจะต้องไม่เป็นเหมือนที่พี่ฝันเห็นอย่างเด็ดขาด”ดวงตาสีสนิมเหล็กคมกล้า ทอดมองไปยังทิศที่ทะเลสาบออนแทรีโอตั้งอยู่ ชายหนุ่มให้สัญญากับตัวเองและจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องน้องชายฝาแฝดของเขา

ทะเลสาปออนแทรีโอด้านทิศตะวันตก

ในยามนี้ร่างสูงใหญ่ของไบรอัน กำลังยืนอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ที่เรียงรายทอดยาวเป็นระยะๆ บริเวณทะเลสาปออนแทรีโอเรียบร้อยแล้ว ด้วยเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของเขาทำให้อลัน มาถึงทะเลสาบออนแทรีโอโดยใช้เวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีสนิมเหล็กกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณโดยรอบ สถานที่แห่งนี้เหมือนในความฝันของเขาไม่ผิดเพี้ยน จะแตกต่างกันตรงที่ไม่มีร่องรอยของน้องชายเขาปรากฏเหมือนที่เขาฝัน

“เหมือน เหมือนที่เราฝันทุกอย่าง แต่ทำไมถึงไม่มีร่องรอยของเจตน์”ชายหนุ่มรำพึงด้วยความประหลาดใจก่อนจะสบถออกมาเบาๆ

“หรือว่าเราจะบ้าแล้ววะ มาเชื่อความฝันเป็นตุเป็นตะ แต่ไม่ใช่สิ! ไอ้สถานที่แห่งนี้มันก็มีอยู่จริงเหมือนกับที่เราฝันเปี้ยบเลย มันจะต้องมีร่องรอยบางสินะ ถ้าเชื่อมั่นในลางสังหรณ์ มันก็จะต้องสังเกต”ชายหนุ่ม ยืนบ่นพึมพำอยู่คนเดียวท่ามกลางสายตาของเหล่าผู้ติดตาม กำลังยืนมองด้วยความสงสัยว่าเจ้านายของเขากำลังตามหาน้องชาย แต่น้องชายกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย แม้กระทั่งพวกเขาก็ยังคาดไม่ถึง

เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนาน จนท้องฟ้าเริ่มจะมืด การค้นหาเป็นอันต้องยุติลง อลันแหงนคอมองท้องฟ้าที่กำลังเริ่มมืดลงอย่างช้าๆ ในเวลานี้เขาทั้งสงสัยระคนแปลกใจว่าเหตุใด น้องชายของเขาและคนที่ติดตามมาด้วยจู่ๆ ถึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แต่แล้วเหมือนเขาจะนึกอะไรบางอย่างออก พร้อมหันกลับไปถามบอดี้การ์ดที่เขาสั่งให้คอยติดตามน้องชายเขาทุกฝีก้าวตั้งแต่ลงเครื่องจากสนามบินจนถึงที่ออนแทรีโอ

“พวกนายเห็นน้องชายของฉันมีคนติดตามมาด้วยใช่ไหม แล้วเห็นหน้าตาหรือถ่ายวีดีโอเอาไว้หรือเปล่า”ชายหนุ่มสอบถามด้วยความรวดเร็ว

รวดเร็วดั่งใจคิด บอดี้การ์ดที่คอยเฝ้าติดตามน้องชายฝาแฝด รีบนำโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือ เดินเข้ามาหาอลันพร้อมรายงานเจ้านายทันที

“พวกเราติดตามคุณเจตน์ไม่คลาดสายตาเลยครับ พวกเราบันทึกวีดีโอเอาไว้ให้ท่านด้วย”บอดี้การ์ดพูดพร้อมยื่นโทรศัพท์มือถือส่งให้นายของตนทันที

อลัน รับโทรศัพท์มือถือพร้อมกดดูวีดีโอที่บอดี้การ์ดถ่ายเอาไว้อย่างละเอียด ภาพในวีดีโอทำให้คิ้วเข้มเรียงตัวสวยของชายหนุ่มขมวดเข้าหากันทันที ก่อนจะหันกลับไปถามด้วยความรวดเร็ว

“คนที่มาด้วยกับเจตน์ไม่ได้นั่งเรือไปด้วยกัน ถ้าเช่นนั้นหมายความว่าผู้ชายคนนี้ยังอยู่ที่บ้านพักตากอากาศล่ะสิ แล้วมีใครคอยเฝ้าไว้เอาไว้หรือเปล่า หา! ”อลันเอ่ยถามเสียงเข้ม ก่อนจะได้ยินคำตอบ

“เราทิ้งคนไว้คอยเฝ้าไว้ 1 คน ครับท่าน ก่อนหน้านี้ประมาณ 30 นาที พวกเราโทรสอบถามความคืบหน้าก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีใครออกมาจากห้องเลยครับ แล้วก็รู้สึกจะเงียบจนผิดปกติเสียด้วย”

คำตอบของเหล่าบอดี้การ์ดเล่นเอา อลัน มึนตึ้บขึ้นมาทันทีทันใด นี่มันกำลังเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายฝาแฝดของเขากันแน่

“พาฉันไปบ้านพักตากอากาศหลังนั้นเดี๋ยวนี้!” ชายหนุ่มสั่งพร้อมก้าวเดินนำหน้า ไปทางเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของเขาเพื่อไปยังบ้านพักของน้องชายพร้อมผู้ติดตาม 2 คน เพื่อนำทางเขาไปยังจุดหมายที่ต้องการ พร้อมบอดี้การ์ดคนอื่นๆ พากันแยกไปขึ้นเรือเร็วที่ใช้แล่นสำหรับทะเลสาป ตามเจ้านายของพวกเขาไปติดๆ

บ้านพักตากอากาศ

บ้านพักตากอากาศสุดแสนหรูหรา สไตล์บ้านไม้ ตัวบ้านเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว มีระเบียงยื่นลงไปในน้ำสำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้ง หลังบ้านมีโรงจอดเรือ ห้องนั่งเล่นสามารถเปิดประตูแบบบานพับให้กว้างออกเพื่อรับลมที่พัดมาจากทะเลสาป และมีเตียงนอนเล็กๆอีก 2 เตียง ที่พอจะนอนก็เอาผ้าม่านลง ถัดไปมีเตียงนอนใหญ่ขนาดคิงส์ไซส์วางไว้สำหรับพักผ่อน ถัดไปเป็นห้องรับประทานอาหารมีโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 10 ที่นั่ง จุคนนั่งสังสรรค์ได้ไม่ใช่น้อย แถมยังมีห้องครัวและบาร์แบบเอาท์ดอร์เสียด้วย มองไปโดยรอบตัวบ้านแทรกตัวอยู่ในธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เนินเขาและสายน้ำจากทะเลสาป ถ้าเป็นเวลาปกติมหาเศรษฐีหนุ่ม อลัน แอนเดอร์สัน คงดื่มด่ำกับธรรมชาติที่รายล้อมบ้านพักตากอากาศหลังนี้มากเลยทีเดียว แต่สำหรับเวลานี้มันกลับไม่ใช่

ร่างสูงใหญ่ของอลัน ยืนเอามือไพล่หลังตรงระเบียงที่ยื่นลงไปในน้ำสำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้ง สายตาของเขามองไปที่หลังบ้านที่เป็นโรงจอดเรือตลอดเวลา ในขณะที่ภายในบ้านกำลังตามหาเพื่อนร่วมทางจากเมืองไทยที่ติดสอยห้อยตามน้องชายฝาแฝดของเขามาจากเมืองไทย

ใบหน้าคมคร้าม เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด อลันกำลังปะติดปะต่อข้อมูลทุกอย่างที่เขาได้รับรู้จากการส่งสายข่าวไปสืบครอบครัวของเขาทางเมืองไทย เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับน้องชายฝาแฝดของเขา มันต้องเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงอะไรบางอย่างกับทางเมืองไทย ซึ่งเขาต้องล่วงรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไรกันแน่!
เสียงฝีเท้าของผู้ติดตามคนสนิท กำลังเดินทางเข้ามาหาชายหนุ่มทางเบื้องหลัง ก่อนจะหยุดยืนพร้อมรายงานความคืบหน้าให้เขาได้รับทราบ

“ค้นหาจนทั่วบ้านพักแล้วครับนายท่าน ไม่มีใครอยู่ในบ้านพัก แม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ของคุณเจตน์ ที่พวกเราเห็นคุณเจตน์นำติดตัวมาด้วยเป็นกระเป๋า 1 ใบ ก็ไม่เห็น คนที่ติดตามมาจากเมืองไทยก็ไม่เห็น ไม่มีร่องรอยอะไรเลยครับ”
อลัน หันกลับมาทันทีเมื่อได้ยินการรายงานเช่นนั้น ชายหนุ่มมองเข้าไปในบ้านพักตากอากาศ ที่บัดนี้แสงสว่างจากหลอดนีออน ทำให้บ้านสว่างไสวมองเห็นได้อย่างแจ่มชัดไปทั่วบริเวณ ไม่เหมือนกับวินาทีแรกที่เข้าก้าวเข้ามาที่มีแต่ความเงียบและความมืด

“คนที่ติดตามน้องชายของฉันมาจากเมืองไทย ไม่ได้ออกไปกับเจตน์ แต่เขาอยู่ในบ้านพัก แต่ตอนนี้กลับไม่มีใครอยู่ที่บ้านพัก ข้าวของเครื่องใช้ของน้องชายฉันก็หายไปด้วย แน่ใจแล้วเหรอว่าไม่มีใครออกไปจากบ้านพัก และไม่มีใครเข้ามาที่บ้านพักหลังนี้อีก มันเป็นผี หรือมันหายตัวไปได้อย่างนั้นเหรอไง !”ชายหนุ่มเอ่ยถามน้ำเสียงเคร่งเครียด

“พวกเรากำลังสงสัยว่า คุณเจตน์กำลังโดนใครสักคนวางแผนหลอกล่อเพื่อทำอะไรบางอย่าง ระหว่างเรียกค่าไถ่ กับ...เอ่อ...ฆาตกรรมอำพรางครับนายท่าน”เสียงของบอดี้การ์ด เอ่ยไม่เต็มเสียงเท่าใดนัก เพราะล่วงรู้ว่าเจ้านายของพวกเขาในขณะนี้ กำลังมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว

“ฉันก็คิดแบบนั้น ไม่มีใครที่ไหนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้ได้หรอก แสดงว่าต้องมีการเตรียมแผนล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี แต่มันกำลังคิดจะทำอะไรน้องชายฝาแฝดของฉัน และคนที่อยู่เบื้องหลังมันรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นพี่ชายฝาแฝดของเจตน์”ชายหนุ่มกล่าวออกมาพลางใช้ความคิดตาม ก่อนจะได้ยินเสียงวิ่งและร่างของบอดี้การ์ด กำลังตรงดิ่งมาทางระเบียงริมทะเลสาบ และทันทีที่มาถึง

“คนของเราที่เฝ้าอยู่ในสนามบิน แจ้งกลับมาว่าเห็นคนที่ติดตามคุณเจตน์มาจากเมืองไทย ตอนนี้อยู่ที่สนามบิน จอห์น เอฟ เคนเนดี้ แล้วครับ ทางด้านนั้นกำลังคอยติดตามอยู่ครับว่าจุดหมายปลายทางกำลังจะไปที่ไหน”สิ้นเสียงรายงานความคืบหน้า CEO หนุ่มแห่งแอนเดอร์สัน ถึงกับยืนนิ่งงันไปเลยทีเดียว

“ผู้ชายคนนั้นออกจากบ้านพักตากอากาศหลังนี้ไปตั้งแต่เมื่อไร และออกไปได้อย่างไงกัน ทั้งๆที่คนของเราก็คอยซุ่มเฝ้าดูอยู่ มันหายตัวได้อย่างนั้นเหรอถึงสามารถไปโผล่ที่สนามบินได้ ฉันต้องรู้คำตอบเรื่องนี้ให้ได้! ให้ตายสิ! มันเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายของฉันกันแน่!”ชายหนุ่มสบถออกมาทันที ก่อนจะนิ่งเงียบเหมือนเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง และถ้าหากการคาดเดาของเขาใกล้เคียงความเป็นจริง บางทีเขาอาจจะต้องทำอะไรบางอย่างเสียแล้ว

อลัน แอนเดอร์สัน ค่อยๆ กวาดสายตามองไปโดยรอบของบ้านพักตากอากาศ ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ สถานที่ซึ่งน้องชายฝาแฝดของเขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีวันที่เขาจะอยู่เฉย และเขาต้องล่วงรู้ทุกสิ่งทุกอย่างให้ได้ ชายหนุ่มเอ่ยสั่งการทันที

“ไปสืบให้ได้ว่า บ้านพักตากอากาศหลังนี้ใครเป็นเจ้าของ ฉันจะซื้อบ้านพักตากอากาศหลังนี้พร้อมพื้นที่รอบบ้านทั้งหมด พวกนายผลัดกันเฝ้าและคอยตามหาน้องชายฝาแฝดของฉัน เบาะแสอะไรที่เกี่ยวข้องเก็บรายละเอียดให้หมด”ชายหนุ่ม เอ่ยบอกพร้อมหันไปทางบอดี้การ์ดที่รายงานข่าวจากสนามบิน พร้อมเอ่ยสั่งสำทับ

“ส่วนผู้ชายที่ติดตามน้องชายของฉันมาจากเมืองไทย ปล่อยให้มันกลับไป คอยดูว่ามันจะไปไหนให้คนของเราติดตามมันอย่าให้คลาดสายตา และถ้ามันไปเมืองไทยก็ให้คนของเราทางเมืองไทย คอยเฝ้าติดตามมันตลอดเวลาและไปตรวจสอบประวัติของมันทั้งหมดเอามาให้ฉันด้วย”

“รับทราบครับนายท่าน”เสียงขานรับจากบรรดาบอดี้การ์ดตอบรับ ก่อนจะรีบแยกย้ายไปทำตามคำสั่งที่ได้รับมา
ดวงตาสีสนิมเหล็ก ทอดสายตามองไปยังบ้านพักตากอากาศตรงหน้า ในขณะนี้เขาตัดสินใจได้แล้วที่จะลงมือทำอะไรสักอย่าง เพื่อความกระจ่างและสิ่งที่เขาต้องรู้ให้ได้ว่า น้องชายฝาแฝดของเขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้มีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่

มือหนาสอดมือล้วงกระเป๋ากางเกง หยิบโทรศัพท์มือถือพร้อมกดโทรสั่งการ และทันทีที่ปลายสายรับ CEO หนุ่มแห่งแอนเดอร์สัน เอ่ยสั่งการเลขาด้วยความรวดเร็ว

“เจนนิเฟอร์ คุณจองตั๋วเครื่องบินไปประเทศไทยให้ผมหน่อย เอาสายการบินที่สามารถไปถึงประเทศไทยให้เร็วที่สุดผมไม่ชอบนั่งอยู่บนเครื่องบินนานๆ ส่วนเรื่องที่พักทางประเทศไทย คุณปรึกษาหารือกับพ่อบ้านประจำตระกูลของผมให้หาที่พักเป็นการส่วนตัวในเมืองไทยให้ผมด้วย ส่วนงานทางด้านนี้ให้เรียกประชุม กรรมการบริหารบอร์ดเข้าประชุมใหญ่วันพรุ่งนี้ เพื่อที่ผมจะสั่งงานให้กับที่ประชุมบอร์ดให้ได้รับทราบ”

“ท่านประธานจะไปประเทศไทยสักกี่วันค่ะ ดิฉันจะได้จัดเตรียมที่พักได้ถูกต้องค่ะ”

“ผมยังไม่มีกำหนดวันกลับ เอาเป็นว่าคุณหาที่พักซึ่งสามารถรองรับทุกอย่าง และผมสามารถทำงานผ่านทางเมืองไทยมาถึงนิวยอร์ค ,แมนแฮตตัน และถึงรัฐอื่นๆได้ ไปจัดการตามที่ผมต้องการให้ได้เจนนิเฟอร์”อลัน สั่งการเสร็จกดปิดสายทันที ใบหน้าที่คมคร้ามที่ชวนมองและน่าหลงใหลในยามปกติ ทว่าในยามนี้ดุดันและถมึงทึงอย่างเห็นได้ชัด ภายในใจเต็มไปด้วยคำถามมากมายนานัปการ

“ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วเจตน์หายไปไหน!ถ้าหากคนทำมันวางแผนชั่ว ลวงเจตน์มาถึงที่นี่ฉันก็จะต้องรู้ให้ได้ว่าใครมันเป็นคนทำ!”ชายหนุ่มรำพึงอยู่ภายในใจ สายตายังคงจับจ้องบ้านพักตากอากาศและทะเลสาปออน แทรีโอเบื้องหน้าของเขา ราวกับว่าถ้าค้นหาคำตอบจากสายน้ำนั้นได้ เขาก็จะแหวกสายน้ำนั้นเพื่อให้ได้คำตอบนั้นกลับมา



มณีภัสสร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 พ.ค. 2558, 19:10:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 พ.ค. 2558, 15:03:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 799





<< ตอนที่ 1 บ่วง   ตอนที่ 3 สูญเสีย >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account