บ่วงรักฝังแค้น
เมื่อความรักกลายเป็นความอาฆาตแค้น และตามจองเวรเขาและเธอไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่ว่าภพชาติไหนจะขอตามจองล้างจองผลาญไม่ให้เหลือสิ้น ความรักและความแค้น
จากอดีตชาติติดตามเป็นเงาตามตัว เขาและเธอจะทำเช่นไรเพื่อหยุดความแค้นนี้ลงได้
Tags: บ่วง,รัก,ฝัง,แค้น

ตอน: ตอนที่ 14 เครื่องเพชรนำพา

ตอนที่ 14 เครื่องเพชรนำพา

MANEEPHATSORN คอนโดมิเนียม

ชั้นบนสุดของคอนโด 45 ชั้น ถูกสร้างและตกแต่งเป็นลักษณะเพนท์เฮ้าส์ ยกทั้งชั้นสวยสุดหรูบนโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา มีเนื้อที่เกือบ1000 ตารางเมตร ไม่ต้องมีเพื่อนบ้านอยู่รวม ใช้เป็นที่สำหรับพักผ่อนเป็นการส่วนตัวสำหรับอภิมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่ง

ร่างสูงใหญ่ดั่งชาวยุโรป เข้ามาพักผ่อนในคอนโดหรูที่เขาเพิ่งซื้อมาไว้ในครอบครอง เพื่อเปลี่ยนสถานที่การพักผ่อนของเขาให้ผ่อนคลายความตึงเครียดในหลายวันที่ผ่านมา ชายหนุ่มยืนจิบบรั่นดีพร้อมทอดสายตามองแม่น้ำเจ้าพระยาที่เห็นอยู่ตรงหน้าด้วยความเพลิดเพลินอยู่ภายในเพนท์เฮ้าส์ชั้นบนสุดของคอนโดที่เขาเพิ่งได้ครอบครอง กระแสลมที่พัดขึ้นมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาพาดผ่านกายเข้ามาเป็นระยะๆ ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก

ช่วงหลายวันที่ผ่านมานับตั้งแต่เขาได้ไปเยี่ยมทายาทคนปัจจุบันของวังเทพรัตน์ ความเป็นส่วนตัวของเขาเริ่มถูกก่อกวน สาเหตุเพราะทายาทสาวคนสวยจากวังเทพรัตน์ โทรศัพท์หาเขาแทบจะทุกๆ ชั่วโมงจนเขาไม่เป็นอันทำอะไร เพราะแต่ละครั้งที่โทรมาเจ้าหล่อนจะต้องหาเรื่องอะไรต่อมิอะไรมาคุยกับเขา จนชายหนุ่มเบื่อหน่ายและรำคาญเป็นที่สุด และที่สำคัญมหาเศรษฐีหนุ่มกำลังตามหาตัวหญิงสาวที่มีหน้าตาเหมือนกับท่านหญิงมณีของเขาแทบพลิกแผ่นดินก็ว่าได้

ข้อมูลที่ได้มาจากทายาทของวังเทพรัตน์ทำให้เขาดีใจอย่างที่สุดเมื่อล่วงรู้ว่า จะเริ่มต้นตามหาหญิงสาวปริศนาที่เขาพบที่โรงพยาบาลในเครือ AMS ของเขาได้อย่างไร แต่ทว่าหญิงสาวที่มาส่งแบบแปลนดังกล่าวกลับไม่มีใครรู้จักเธอเลย พนักงานที่จะต้องมาส่งแบบแปลนในวันนั้นจะต้องเป็นพนักงานของบริษัทฯเท่านั้น ไม่สามารถให้ใครมาส่งแทนได้ เพื่อป้องกันงานสูญหายและจะทำให้เกิดความเสียหายติดตามมา

และที่สำคัญเจ้าของผลงานที่เป็นผู้ออกแบบและเป็นคนมาส่งงานให้กับทายาทสาวจากวังเทพรัตน์เป็นผู้ชาย แต่คนที่มาส่งแบบแปลนที่เขาดูจากกล้องวงจรปิดเป็นผู้หญิงชัดเจนอย่างแน่นอน และที่สำคัญเธอเหมือนกับหม่อมเจ้าหญิงมณีภัสสร สุริยารังษีราชนิกูลผู้เลอโฉมแต่แสนอาภัพเมื่อสมัยร้อยกว่าปีก่อน ไม่มีผิดเพี้ยน งานนี้เล่นเอามหาเศรษฐีหนุ่มมึนตึ้บไปเลยทีเดียว ในขณะที่กำลังครุ่นคิดเรื่องท่านหญิงมณีอยู่เงียบๆเสียงบอดี้การ์ดคนสนิทของเขาก็ดังแทรกขึ้นมา

“นายท่านครับ”ร่างสูงของบอดี้การ์ดคนสนิทยืนอยู่ด้านหลังของมหาเศรษฐีหนุ่ม ทว่าเจ้านายของเขาหาขยับเรือนกายแต่อย่างใด ยังคงยืนนิ่งเหม่อมองสายน้ำเจ้าพระยาอยู่เบื้องหน้าอยู่เช่นเดิม

“นายท่านครับ!นายท่าน!”แมกซ์เอ่ยเรียกเจ้านายหนุ่มของเขาเสียงดังขึ้นกว่าเดิม และนั้นทำให้เจ้านายหนุ่มของเขารู้สึกตัวพร้อมหันหลังกลับมาทางต้นเสียงเรียกทันที

“มีอะไรอย่างนั้นเหรอแมกซ์ ฉันกำลังคิดอะไรอยู่เพลินๆ ก็เลยไม่ได้ยินเสียงนายเรียก

“เมื่อสักครู่นี้ทางโรงพยาบาล AMS โทรมาบอกว่า คุณวรรณษา เทพรัตน์ ที่นายท่านเป็นเจ้าของไข้ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ววันนี้และทางคุณวรรณษา ต้องการให้นายท่านมารับเธอกลับวังเทพรัตน์ด้วยครับ”แมกซ์เอ่ยบอก

“ว่าไงนะ!ต้องการให้ฉันไปรับกลับอย่างนั้นเหรอ....ทำอย่างกับว่าฉันว่างมากหรือไง”ชายหนุ่มเอ่ยอย่างขัดเคืองใจ

“ฉันไม่เอาเวลาอันมีค่าไปเสียเวลากับเรื่องแบบนั้นหรอก นายโทรกลับไปบอกทางโรงพยาบาลด้วยว่าฉันติดงานสำคัญด่วนมาก แล้วจะชดเชยให้ภายหลัง”อลันเอ่ยสั่งลูกน้องคนสนิท ก่อนจะเอ่ยถามกลับไป

“วันนี้มีงานที่ฉันจะต้องไปไหนอีกหรือเปล่าแมกซ์”

บอดี้การ์ดหนุ่มยกโทรศัพท์มือถือของเขาพร้อมกดดูคิวตารางงานของเจ้านายหนุ่มทันทีที่เอ่ยถาม

“วันนี้เจ้านายมีงานที่สมาคมผู้ค้าอัญมณี เป็นประธานกล่าวเปิดงานการแสดงแฟชั่วโชว์อัญมณีและเครื่องทอง จัดขึ้นที่โรงแรมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อแสดงผลงานจากบริษัทฯ ผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องทองของประเทศไทยครับ รู้สึกว่าโรงแรมจะอยู่ฝั่งตรงกันข้ามของคอนโดนี่เองครับนายท่าน แต่งานนี้นายท่านปฏิเสธไปแล้วครับว่าไม่สามารถไปร่วมงานได้”แมกซ์เอ่ยบอกเจ้านายของตน

“หา! โรงแรมที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับคอนโดของฉันนี่นะเหรอ ใกล้กันเกินไปไหม”ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเบาๆ พร้อมยกมือขึ้นกอดอก คล้ายกำลังคิดอะไรอยู่ภายในใจเงียบๆ เมื่อคนสนิทของเขากล่าวรายงานเช่นนั้น

“ฉันไม่ชอบโกหกใครซะด้วย เดี๋ยวคุณวรรณษาจะหาว่าฉันโกหกหาเรื่องขึ้นมาอ้างก็เลยไม่ไปรับเจ้าหล่อนออกจากโรงพยาบาล นายยืนยันกลับไปที่งานด้วยก็แล้วกันว่าฉันตอบตกลงจะไปร่วมงานด้วย ส่วนนาย ช่วยจัดการให้ฉันด้วยก็แล้วกันเรื่องคุณวรรณษา”ชายหนุ่มเอ่ยพลางส่ายหน้าไปมาด้วยความรำคาญใจ พร้อมยื่นแก้วบรั่นดีให้กับคนสนิทก่อนจะก้าวเดินตรงไปยังห้องนอนด้วยความรวดเร็ว โดยมีสายตาของแมกซ์มองตามหลังเจ้านายของเขาด้วยความสงสัย

“แปลก!หมู่นี้ทำไมนายอารมณ์เสีย ฉุนเฉียวและขี้หงุดหงิดง่ายจริงๆ แถมเจ้านายก็ไม่เคยยืนใจลอยแบบนี้ แต่ทำไมพักหลังๆ ถึงได้เป็นบ่อย ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาเสียเลยเหมือนใจลอยกำลังคิดถึงใครอยู่ หรือว่า....”แมกซ์หยุดเอ่ยลงทันใด เมื่อฉุกคิดบางสิ่งขึ้นได้

“แสดงว่าเจ้านายกำลังมีคนที่ใช่อยู่ในใจแน่ๆ เลย ผู้หญิงที่ไหนทำให้เจ้านายมีอาการแบบนี้ได้ แสดงว่าต้องไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดาแน่ๆ”แมกซ์เอ่ยพลางยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะก้าวเดินออกจากระเบียงด้วยความรวดเร็ว

ณ.โรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา

โรงแรมสุดหรูระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โรงแรมวิวสูงเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสาย ให้บรรยากาศอันแสนน่าพิสมัยให้กับผู้ที่มีโอกาสได้เข้าพัก ดื่มด่ำและชื่นชมสายน้ำที่เต็มไปด้วยความสวยงาม ชนิดที่ว่าหาชมที่อื่นมิได้

ร่างองอาจ ผึ่งผายของบุรุษหนุ่ม เจ้าของใบหน้าชวนฝัน ของมหาเศรษฐีหนุ่มซึ่งกำลังเป็นที่กล่าวขวัญและกำลังถูกจับตามองในวงการนักธุรกิจคลื่นลูกใหม่ไฟแรง ซึ่งกำลังกล่าวถึงอยู่ในขณะนี้ งานแสดงอัญมณีแน่นอนต้องคู่กับผู้หญิงและบรรดากระทาชายที่ไม่เต็มร้อยทั้งสิ้นทั้งปวง ต่างควงคู่กันมาเป็นคู่ๆ เพื่อมาร่วมงานนี้กันอย่างถ้วนหน้า คุณหญิง คุณนาย ไฮโซชื่อดังขนเครื่องเพชรใส่ประโคมอวดโฉมกันอย่างเต็มที่ ประหนึ่งตู้เพชร ตู้ทองเคลื่อนที่ก็ไม่ปาน

อลัน แอนเดอร์สัน หนุ่มหล่อโคตรเฟี้ยวแต่ไร้สาวสวยเดินเคียงข้างกาย ชายหนุ่มเดินฝ่ากองทัพนักข่าวที่กำลังกดชัตเตอร์เก็บภาพของเขากันอย่างจ้าละหวั่น ทันทีที่เขาก้าวเข้าสู่ภายในงาน ร่างสูงใหญ่ขนาดชาวยุโรป ภายใต้ชุดสูทสากลราคาแพงสีดำสนิท ขับกับใบหน้าหล่อเหลาคมคายจนเหล่าชะนีเก้งกว้าง นั่งน้ำลายหกไปตามๆ กันเลยทีเดียว และนี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่เขาจะปฏิเสธงานประเภทนี้ที่เชิญเขาไปร่วมงานด้วยเสมอ

เพราะแต่ละคนมาร่วมงานเพื่อประกาศศักดาความร่ำรวย ด้วยการซื้อเครื่องเพชร เครื่องทองภายในงานนี้กลับไป และมาเพื่ออวดเครื่องเพชรของตนให้ปรากฏสายตาแก่ผู้คนทั่วไป ซึ่งงานประเภทนี้เท่านั้นถึงจะสามารถรวมคนบ้าเอาไว้ได้ทั้งหมดเพราะมีแต่คนบ้าประเภท บ้าเพชร! บ้าทอง! บ้าความรวย! และบ้าน้ำลายตัวเอง เป็นแหล่งรวมเรื่องนินทาครบวงจร

“นี่เธอ ใช่คุณเจตน์ประธานกลุ่มบริษัทฯ AMS ใช่ไหมอ่ะ”

“ไหน!ไหน!ไหน!ต้าย ตาย อกซิลิโคนจะแตก ผู้ชายอะไรหล่อไม่บันยะบันยัง หล่อไม่เกรงใจเทวดาฟ้าดินกันบ้างเลย ให้ตายเถอะ”

“แหม! มางานคนเดียวด้วยล่ะเธอ สงสัยยังไม่มีใครเป็นเจ้าของแน่ๆ เลย”

“ทั้งหล่อ ทั้งรวย ไฮโซ เริดหรู อลังการงานสร้างแบบนี้ รวยกับรวยเท่านั้นแหละยะ ถึงจะเหมาะสมกัน กระจอกๆ จนๆ มีเครื่องเพชรใส่โชว์ราคาไม่กี่แสนบาท หลบไปให้ไกลเลยไป”

เสียงเล็กเสียงน้อย เสียงเห็บหอย ต้อยแต๊แว๊ด ส่งเสียงกระซิบกระซาบไปทั่วงานเล่นเอามหาเศรษฐีหนุ่มส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา และเริ่มจะเกิดความเบื่อหน่ายรำคาญเพิ่มขึ้นไปทุกขณะ ชายหนุ่มเดินเลี่ยงไปอีกมุมของโรงแรม หลังจากพบปะพูดคุยกับกลุ่มนักธุรกิจและสมาคมผู้ค้าอัญมณีเป็นที่เรียบร้อย พร้อมหยิบเครื่องดื่มอ่อนๆ ที่บริกรนำมาเสริฟ ก่อนจะหาที่สงบไกลจากเสียงจอแจของบรรดาผู้ร่วมงาน แต่ละคนเอาแต่จ้องเขาตาเป็นมันราวกับว่าชายหนุ่มคืออาหารอันโอชะก็ไม่ปาน

อลัน เดินเลี่ยงออกมารับลมเย็นๆ ที่พัดขึ้นมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา จุดที่เขายืนอยู่ตรงนี้มองเห็นภายในงานได้อย่างชัดเจน ชายหนุ่มยกเครื่องดื่มขึ้นจิบพลางยกนาฬิกาข้อมือของเขาดูเวลา เพื่อกะเวลาเอาไว้ในใจว่าเขาจะอยู่ร่วมงานเพื่อเป็นประธานกล่าวเปิดพิธีและอยู่ร่วมงานอีกราวครึ่งชั่วโมงเพื่อมิให้เสียมารยาทแล้วค่อยเดินทางกลับไปคอนโดของเขาที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามของโรงแรม ก่อนจะชายตามองไปทางต้นเสียงที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงจุดที่ไม่ไกลจากที่เขายืนมากนัก เนื่องจากเสียงพูดคุยดังกล่าวดังเสียจนชายหนุ่มได้ยินด้วยความบังเอิญ

“หา! ทำไมเธอถึงเพิ่งโทรมาบอกฉันยะว่า แม่นางแบบขาวีนมาเดินแบบวันนี้ไม่ได้ แล้วทำไมไม่บอกกันล่วงหน้า แล้วฉันจะไปหานางแบบที่ไหนมาเดินแบบได้ทัน เวรแล้วไหม”กะเทยชายวัยดึก ส่งเสียงแวดๆ ต่อว่าต่อขานปลายสายเป็นการใหญ่ ก่อนจะตัดสายทิ้งด้วยความหงุดหงิด

“โอ๊ย!เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น พวกไฮโซผู้ดีมีแต่ทำเรื่องเด็ดๆ ทั้งนั้น เป็นผู้ดีมาตั้งแต่เกิดมีเชื้อสายขุนนางเก่าแก่แท้ๆ แต่ทำไมทำตัวก็แย่! นิสัยก็แย่! มาไม่ได้แทนที่จะแจ้งล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่นๆ เพิ่งมาแจ้งก่อนงานเริ่ม กูตายแน่คราวนี้! จะไปหาใครที่ไหนมาเดินแบบแทนได้ทัน”กะเทยแก่บ่นฟาดงวงฟาดงาเป็นการใหญ่ ก่อนจะกระฟัดกระเฟียดเดินหายเข้าไปภายในงาน

“ท่าทางงานนี้คงวุ่นวายแน่ๆ นางแบบไม่มาแบบนี้”อลันพึมพำเบาๆ พลางยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ ก่อนจะวางลงบนถาดเมื่อบริกรหนุ่มเดินผ่านมาทางนั้นพอดี ก่อนจะก้าวเดินออกไปข้างนอกเพื่อชมบรรยากาศสายน้ำเจ้าพระยา

ทันใดนั้นเองสายตาคมกริบของอลันก็พลันมองเห็นบางสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิด ทันทีที่เขาเดินพ้นออกมาจากประตูของงาน ทั่วทั้งร่างหยุดชะงัก หยุดก้าวเดินและหยุดทุกสิ่งทุกอย่างไว้ ณ บัดนั้นทันที

ร่างสูงโปร่งของหญิงสาว ในชุดกางเกงยีน เสื้อเชิ้ตสีขาว ผมสีดำขลับยาวสยาย กำลังเดินตรงมาทางเขา เธอเดินผ่านบุรุษร่างงามที่หยุดยืนอยู่กับที่โดยไม่ใส่ใจหรือแม้แต่จะชายตามองเขาเสียด้วยซ้ำ ราวกับว่าเธอกำลังเร่งรีบไปที่ไหนสักแห่ง

“ท่าน...ท่านหญิงมณี!”อลันรำพึงออกมาเบาๆ ด้วยความตื่นตะลึงเมื่อสายตาของเขาได้เห็น นางในฝันของเขาชัดๆ เต็มสองตาด้วยความบังเอิญ

ร่างสูงใหญ่ดั่งชาวยุโรป หันหลังกลับไปมองร่างงามที่เดินสวนกับเขาทันทีที่รู้สึกตัว สายตามองเห็นด้านหลังอันบอบบางหายเข้าไปภายในห้องที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เขายืนอยู่ไม่มากนัก และเท้าก็เร็วกว่าความคิด อลันวิ่งตามหลังร่างของหญิงสาวไปด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะหยุดลงเมื่อประตูทางเข้าปรากฏบางอย่างให้เขาเห็นเบื้องหน้า

“เขตหวงห้ามเฉพาะเจ้าหน้าที่ผู้จัดงานสมาคมผู้ค้าอัญมณีเท่านั้น” ชายหนุ่มอ่านป้ายห้ามที่ติดอยู่หน้าห้องด้วยความรวดเร็ว

“ผู้หญิงที่เหมือนท่านหญิงมณีมางานนี้อย่างนั้นเหรอ เธอเกี่ยวข้องอะไรกับงานนี้ด้วย” ชายหนุ่มพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะก้าวถอยหลังเมื่อเจ้าหน้าที่ภายในห้องเปิดประตูออกมา

“อ้าว!คุณเจตน์ มายืนอยู่ตรงหน้าห้องเก็บเครื่องเพชรทำไมเหรอครับ”เสียงของชายวัยกลางคนซึ่งเป็นประธานสมาคมผู้ค้าอัญมณีเอ่ยทักทายเขาทันทีที่เห็น

“เออ...ห้องนี้เป็นห้องเก็บเครื่องเพชรอย่างนั้นเหรอครับ”ชายหนุ่มเอ่ยถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

“ใช่ครับคุณเจตน์ มีอะไรหรือเปล่าครับ!”

“ปะ..เปล่าครับ ผมเดินผ่านมาเห็นป้ายบอกเอาไว้ก็เลยหยุดอ่านไม่มีอะไรหรอกครับ”อลันเอ่ยปัดไปทางอื่นแต่ภายในใจได้แต่เก็บงำความสงสัยเอาไว้ในใจ ก่อนจะได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยขึ้น

“เราเข้าไปภายในงานเถอะครับ เดี๋ยวนางแบบก็จะเดินโชว์เครื่องเพชรให้พวกเราได้ชมกันแล้ว คุณเจตน์อาจจะได้เครื่องเพชรติดมือกลับบ้านไปก็ได้นะครับวันนี้”ชายกลางคนเอ่ยบอก

มหาเศรษฐีหนุ่มค่อยๆ หันหลังกลับพลางก้าวเดินเคียงข้างไปกับชายคนดังกล่าว แต่ความสงสัยก็ยังไม่สิ้นสุด เขาจะต้องล่วงรู้ให้ได้ว่าหญิงสาวที่หน้าตาเหมือนท่านหญิงมณีของเขาหายเข้าไปภายในห้องนั้นจริงๆ และมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับงานนี้

“เออ..ผมสงสัยอย่างหนึ่ง พอดีก่อนหน้านี้ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินหายเข้าไปในห้องเก็บเพชร บังเอิญว่าเธอเหมือนกับคนที่ผมรู้จักมาก ทำอย่างไงถึงจะรู้ว่าเธอมาร่วมงานนี้ด้วยครับและในฐานะอะไร”ชายหนุ่มเอ่ยถามในสิ่งที่เขาคาใจ

“เอ...ผู้หญิงอย่างนั้นเหรอครับ พอดีว่าผมก็ไม่ทันสังเกตเสียด้วย ภายในห้องนั้นจะมีบอดี้การ์ดและเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบเพชร จะมีผู้หญิงไหมอันนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ”

คำตอบของชายวัยกลางคนดังกล่าว ยิ่งสร้างความแปลกใจให้กับอลันมากขึ้นเป็นทวีคูณ เขาแน่ใจว่าผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนกับท่านหญิงมณี เดินสวนทางกับเขาเธอมีเลือดเนื้อ มีตัวตนและมีชีวิตจริง สามารถจับต้องได้อย่างแน่นอน จู่ๆ จะมาหายไปเฉยๆ ราวผีหลอกเป็นไปไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรเสียเขาต้องหาคำตอบเรื่องนี้ให้ได้

มหาเศรษฐีหนุ่มเดินกลับเข้าไปในงาน โดยไม่สักถามสิ่งใดอีกได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ภายในใจเดิมทีกะว่าจะอยู่ร่วมงานเพียงไม่นาน แต่ไม่เป็นดั่งที่คิดแล้วเพราะเขาจะต้องควานหาตัวผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนท่านหญิงมณีให้ได้ภายในงานนี้

บริเวณภายในงาน

เสียงตบมืออย่างกึกก้องเมื่อประธานในพิธีกล่าวเปิดงานเป็นทางการ มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อก้าวลงจากเวทีอย่างสง่างามภายใต้แสงแฟลชของกล้องที่กดรัวถี่ยิบ ราวกับว่าเขาคือดาราชื่อก้องหรือเป็นบุคคลสำคัญ

สายตาคมกริบกวาดไปทั่วบริเวณงานเพื่อหาเป้าหมายที่เขาเฝ้ามอง ทว่าไม่ว่าจะมองไปจุดใดไร้สิ้นเงาพาดผ่านของร่างที่เขากำลังเพ่งมอง ไม่ว่านางแบบชื่อดังจะเดินแบบในชุดสุดหรูและสวมเครื่องเพชรในราคาแสนแพงสักเพียงใด ก็ไม่สามารถทำให้เขานั่งมองด้วยความสนใจแต่อย่างใด ชายหนุ่มหาจังหวะที่จะลุกออกไปจากห้องแสดงงานเพื่อกลับไปที่ห้องเก็บเครื่องเพชรอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที

“โอโห!สวยจังเลย สวยมากๆ ”เสียงผู้คนภายในงานส่งเสียงเอ็ดอึงกันไปทั่ว เมื่อนางแบบบนเวทีที่เพิ่งก้าวเดินออกมาพร้อมเครื่องเพชรมูลค่ามหาศาล กำลังก้าวเดินมาตามทางที่ปูพรมอยู่บนเวทีอย่างช้าๆ

อลัน แอนเดอร์สัน เหลือบขึ้นไปมองบนเวทีเพียงชั่วพริบตาโดยไม่ใส่ใจ แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักงันเมื่อสิ่งที่อยู่บนเวทีตรงหน้าเขา บังคับให้สายตาของเขาหันกลับมามองอีกครั้ง

ร่างสูงสง่าของหญิงสาวปริศนาในชุดราตรีสีดำสนิทเปลือยไหล่ เนื้อผ้าพริ้วบางเบา ผมสีดำถูกรวบเกล้าขึ้นสูง เผยผิวพรรณขาวนวลเนียนประดับด้วยสร้อยเพชร ออกแบบนำสมัย รับกับต่างหูและกำไลข้อมือเพชรขนาดความยาวเกือบ 3 นิ้ว ตัวกระโปรงผ่าหน้าขาขึ้นมาสูงเผยให้เห็นปลีขาเรียวยาว รับกับรองเท้าส้นสูงแบบโปร่ง มีลูกเล่นติดเพชรห้อยตุ้งติ้งเล่นกับแสงไฟ

“ตุ๊บ!”มหาเศรษฐีหนุ่มถึงกับทิ้งตัวลงนั่งอยู่กับที่ทันที

ดวงตาสีนิลกาฬตื่นตะลึงเมื่อเห็นร่างของนางแบบสาวที่กำลังเดินแบบโชว์เครื่องเพชรสุดอลังการ กำลังก้าวเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเขา ทำให้ชายหนุ่มมองเห็นใบหน้าสวยของเธอได้อย่างเต็มตา

“ท่านหญิงมณี!”อลันพึมพำออกมาเบาๆ ดวงตาจับจ้องมองอยู่ที่ใบหน้านางแบบสาวตาไม่กะพริบ

ใบหน้าสวยอยู่ภายใต้เครื่องสำอางราคาแพง ด้วยเครื่องหน้าที่ลงตัวไปเสียทุกส่วนบวกกับการแต่งหน้าให้เข้ากับชุดราตรีสีดำ ปากสีแดงสด ดวงตาดำกลมโตยิ่งขับให้เธอโดดเด่นไปมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม นางแบบปริศนาที่ไม่เคยมีใครพบเห็นเธอมาก่อน ปรากฏตัวพร้อมเครื่องเพชรสุดอลังการและราคาสูงลิบลิ่วซึ่งเธอสวมใส่อยู่บนร่างในขณะนี้

“สำหรับเครื่องเพชรชุดนี้ ประกอบไปด้วย ต่างหูเพชร สร้อยเพชร กำไลข้อมือเพชรและแหวนเพชรขนาด 5 กะรัต รวมมูลค่าทั้งสิ้น 500 ล้านบาทค่ะ สำหรับท่านใดที่สนใจเครื่องเพชรชุดนี้ สามารถแจ้งความประสงค์กับทางเจ้าหน้าที่ได้เลยนะค่ะ”พิธีกรในงานประกาศราคาเครื่องเพชรที่โคตรแพงแสนแพงให้ได้รับรู้

“นางแบบคนนี้สวยจริงๆ นี่ขนาดเดินแบบครั้งแรกยังเดินเหมือนมืออาชีพเลย”ชายวัยกลางคนในตำแหน่งประธานผู้ค้าอัญมณีและการส่งออกกล่าวด้วยความชื่นชม ก่อนจะหันกลับไปมองคนนั่งอยู่ข้างกายเขาพร้อมยิ้มออกมาทันใดก่อนจะเอ่ยกระเซ้า

“แสดงว่านางแบบคนนี้สวยจริงๆ ใช่ไหมครับคุณเจตน์ เพราะขนาดตัวคุณเจตน์เองยังต้องมองตาค้างถึงขนาดนี้เลย”

คำกล่าวของประธานสมาคมทำให้อลันรู้สึกตัวเองขึ้นมาโดยพลัน ก่อนจะพยักหน้าขึ้นลงเป็นการยอมรับว่านางแบบที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขานี้ สะดุดทั้งตา สะดุดทั้งใจซ้ำร้ายสะดุดไปจนถึงจิตใต้สำนึกของเขาเลยทีเดียว
“น้องเขาสวยมากครับ สวย ลึกลับและน่าค้นหามาก เดินแบบมานานหรือยังครับ”ชายหนุ่มเอ่ยถามโดยไม่หันกลับมามองคู่สนทนาของเขาแม้แต่น้อย

“อ๋อ...เด็กคนนี้ยังไม่เคยเดินแบบที่ไหนมาก่อนหรอกครับ งานนี้เป็นงานแรกของเธอเพราะมาเสียบแทนนางแบบที่ไม่สามารถมาเดินแบบในวันนี้ได้ ส้มก็เลยหล่นลูกใหญ่เพราะเครื่องเพชรชุดนี้เป็นชุดที่แพงที่สุดในงาน เราจึงต้องคัดนางแบบเป็นพิเศษ และไม่น่าเชื่อว่าเครื่องเพชรชุดนี้น้องเขาใส่ได้สวยจริงๆ ขึ้นตามากเลย ถ้ามีใครสนใจซื้อเครื่องเพชรชุดนี้ไป ก็เท่ากับว่าน้องเขาจะได้มีเงินไปเรียนต่อ”

มหาเศรษฐีหนุ่มหันกลับมามองคู่สนทนาของเขาทันที เมื่อได้ยินเช่นนั้น คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันทีด้วยความแปลกใจ
“ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะครับคุณภมร น้องเขามาเดินแบบในงานนี้ถ้าเครื่องเพชรขายไม่ได้น้องเขาก็ไม่ได้ค่าจ้าง แต่ถ้าขายได้ถึงจะได้อย่างนั้นเหรอครับ มันจะถูกต้องเหรอ”

“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอกครับคุณเจตน์ ค่าจ้างให้นางแบบมาเดินมีหลายระดับ ถ้าดารา นางแบบชื่อดังก็แพงมากหน่อย แต่ถ้าโนเนมไม่มีใครรู้จักก็จ่ายขั้นต่ำสองหมื่นบาท แต่ถ้าบังเอิญเครื่องเพชรชุดนั้นที่นางแบบสวมใส่ มีคนสนใจซื้อทันทีในงานที่เดิน นางแบบคนที่ใส่เครื่องเพชรดังกล่าวเราถือว่าเธอเป็นพรีเซนต์เตอร์ที่ทำให้เราสามารถขายเครื่องเพชรชุดนั้นได้ ซึ่งเราให้1 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าเพชรที่ขาย ถ้าเด็กโชคดีมีคนซื้อในงานี้ ก็มีเงินทุนไปเรียนต่อได้สบายเลย”ชายวัยกลางคนกล่าวอธิบายและคำตอบของเขาทำให้มหาเศรษฐีหนุ่มต้องรุกคำถามต่อทันที

“คุณภมรพูดราวกับว่ารู้จักน้องเขาดีเลยนะครับ”

“อ๋อ...ถ้ารู้จักเป็นการส่วนตัว ไม่รู้จักหรอกครับ แต่ที่รู้จักเพราะว่าน้องเขาเป็นเด็กฝึกงานในบริษัทสตาร์จิวเวลรี่ของผม และที่ได้มาเดินแบบในงานนี้เพราะนางแบบเกิดเบี้ยวงาน หานางแบบไม่ทัน ทีมงานเห็นน้องเขามาช่วยจัดงานบ่อยๆ ก็เลยขอยืมตัวขัดตาทัพ จริงๆ แล้วน้องเขาเป็นคนที่สวยมากอยู่แล้วนะครับพอจับมาแต่งเนื้อแต่งตัว โอโห! ขึ้นกล้องอย่าบอกใคร ดารานางแบบที่ว่าชื่อดังหมองไปเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พ่อแม่เด็กจะรู้บ้างไหมว่าลูกที่ตัวเองทิ้งจะโตมาแล้วสวยมากขนาดนี้”

“เด็กกำพร้าเหรอ”ชายหนุ่มรำพึงออกมาเบาๆ ด้วยเพราะไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน พร้อมหันกลับไปมองหญิงสาวแสนสวยตรงหน้าที่เหมือนท่านหญิงมณีของเขาราวกับคนเดียวกัน

อลันนั่งมองหญิงสาวตรงหน้า เดินแบบโชว์เครื่องเพชรสุดอลังการ ดวงตาของเธอสดใสเปล่งประกายระยิบระยับ ใบหน้าสวยหวานแฝงความลึกลับแต่กลับแลดูสูงสง่าอย่างน่าประหลาด ชายหนุ่มนั่งนิ่งคิดอะไรบางอย่างอยู่ภายในใจเงียบๆ ก่อนจะหันกลับไปเอ่ยกับคู่สนทนาข้างกายเขา

“ถ้าเช่นนั้นผมขอความร่วมมืออะไรบางอย่างจากคุณภมรจะได้ไหมครับ และผมคิดว่าสิ่งที่คุณภมรเคยเสนอหุ้นของสตาร์จิวเวลรี่ให้ผมพิจารณา ผมยินดีรับเอาไว้พิจารณาส่วนผลจะเป็นอย่างไรต่อไป ผมและคุณต้องมาคุยกันอีกยาว”อลันเอ่ยบอกคู่สนทนาของเขา

“จริงเหรอครับคุณเจตน์!”ชายกลางคนกล่าวด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชัด

“ถ้าเช่นนั้นคุณเจตน์จะขอความร่วมมืออะไรจากผม ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ถ้าผมสามารถช่วยคุณเจตน์ได้ ช่วยเหลือเต็มที่เลยครับขอให้บอก”

“ขอบคุณมากคุณภมร ถ้าเช่นนั้นเราไปหาอะไรดื่มกันสักหน่อยดีกว่า จะได้คุยสะดวกหน่อยอยู่ในนี้เสียงดังคุยไม่ค่อยสะดวกเอาซะเลย”อลันเอ่ยบอกพร้อมค่อยๆ ลุกขึ้นเดินนำหน้าออกไปทันที โดยมีร่างของประธานผู้ค้าอัญมณีลุกเดินตามหลังไปติดๆ

ภายในห้องเก็บเครื่องเพชร

กะเทยวัยดึกหรือที่รู้จักกันดีในนามไดอาน่าในฐานะผู้ดูแลนางแบบทั้งหมดซึ่งมาเดินแบบในงานครั้งนี้กำลังส่งเครื่องเพชรให้กับทีมผู้ตรวจสอบ พร้อมทั้งตรวจตรานางแบบแต่ละคนจนเป็นที่เรียบร้อยดีแล้ว ก่อนจะทำหน้าที่เป็นสักขีพยานนำเครื่องเพชรมาเก็บไว้ในตู้นิรภัย เพชรที่ใส่เดินโชว์ในวันนี้มีหลายชุดที่ผู้มาร่วมงานได้มีการจับจองเป็นเจ้าของ และชุดที่ถูกกล่าวขวัญอย่างที่สุดคือเครื่องเพชรชุดใหญ่มูลค่ารวม 500 ล้านบาท ได้ถูกซื้อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้นางแบบคนงามมีโชคก้อนใหญ่โดยไม่รู้ตัว

กล่องกำมะหยี่สีดำสนิทแต่ละกล่องถูกบรรจุเข้าตู้นิรภัยจนครบหมดทุกรายการ หลังจากตรวจตราความเรียบร้อยแล้ว ตู้เซฟค่อยๆ เคลื่อนย้ายออกไปจากห้องโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 8 นายเดินไปพร้อมกับตู้เซฟเพื่อนำไปเก็บไว้ในสถานที่ปลอดภัย

“เฮ้อ!เสร็จเรียบร้อยสักที ฉันนึกว่าวันนี้จะไม่รอดซะแล้ว”กะเทยไดอาน่าบ่นออกมา

“รอดตายหวุดหวิดเลยใช่ไหมละเจ้ ดีนะมีคนมาเสียบได้ทัน แต่โชคไม่ดีเอาซะเลยดันมาสวมเครื่องเพชรราคาแพงซะขนาดนั้น งานนี้ก็เลยได้ค่าตัวแค่ 2 หมื่น เครื่องเพชรแพงซะขนาดนั้นต้องรอมหาเศรษฐีซื้อได้อย่างเดียว แต่เสียดายไม่มีใครซื้อในงานเลยค่าคอมก็เลยไม่ได้ไปเสียฉิบ แต่ก็ดีแล้วเด็กใหม่ก็แบบนี้ได้ค่าจ้างเดินแบบก็สมราคาแล้วละจะเอาอะไรให้มันมากไปกว่านี้อีก”

หนึ่งในนางแบบปากเน่าเอ่ยเหน็บแนมหญิงสาวหน้าตาหมดจดที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กะเทยไดอาน่า จนแม่กะเทยวัยดึกคันปากขึ้นมาทันที แต่ยังมิทันจะเอ่ยปากด่าสวนกลับไป หญิงสาวหน้าตาหมดจดที่ยืนนิ่งเฉยแลดูเรียบร้อยเอ่ยแทรกขึ้นมาโดยพลัน

“พี่แน่ใจเหรอว่านั่นเป็นคำพูดของคนที่ใช้สมองทำงาน แต่เท่าที่ฟังดูแล้วรู้สึกว่าจะใช้ปากทำงานหากินมากกว่าใช้สมองทำงานให้เกิดประโยชน์ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่ถึงได้เป็นแค่นางแบบแต่ไปไกลกว่านี้ไม่ได้”หญิงสาวพูดพร้อมเดินออกไปจากห้องเก็บเครื่องเพชรทันที ท่ามกลางความงงงันของนางแบบปากเน่าทั้งหลาย

“นังเด็กใหม่มันด่าใครกัน ด่าแก หรือด่าแก หรือด่าใคร”เหล่าบรรดานางแบบต่างพากันถกเถียงเป็นการใหญ่ ก่อนจะสงบปากลงเมื่อเสียงตวาดจากกะเทยไดอาน่าดังกระหึ่มขึ้นมาทันที

“โอ๊ย! หยุดได้แล้ว! แสดงว่าสมองพิการกันไปหมดโดนเด็กมันด่าเต็มๆ ยังไม่รู้สึกอีก เด็กมันด่าพวกหล่อนทั้งหมดนั้นแหละ แสดงว่าไม่เคยชินการด่าแบบผู้ดี ถ้าด่าแบบต่ำๆ ถนัดกันทั้งนั้นก็เลยแปลกันไม่ค่อยจะออก!โอ๊ย! กูจะบ้าตาย!”กะเทยไดอาน่าพูดพลางส่ายศีรษะไปมาด้วยความเอือมระอา ก่อนจะก้าวเดินตามหญิงสาวหน้าตาหมดจด และตามด้วยเสียงกรีดร้องของเหล่าบรรดานางแบบปากเน่าทั้งหลาย

“นังเด็กใหม่มันด่าพวกเราอย่างนั้นเหรอ”

“ใช่!”

“กรี๊ดดดดด!”

ภายในห้องแต่งตัววีไอพี 1

“ขอบคุณค่ะเจ้!”หญิงสาวหน้าตาหมดจด พนมมือไหว้พร้อมรับซองเงินสดซึ่งจ่ายเป็นค่าแรงเดินแบบของเธอในค่ำคืนนี้
หญิงสาวเปิดซองสีน้ำตาลที่บรรจุธนบัตรใบละหนึ่งพันบาท พร้อมกับนับเงินภายในซองทันที ก่อนจะหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อเธอนับเงินแล้วปรากฏว่าเงินเกินมาถึงสามหมื่นบาท หญิงสาวรวบซองส่งคืนให้กับกะเทยวัยดึกที่ยืนอยู่ตรงหน้าทันที

“เจ้ไดอาน่า สงสัยซองเงินที่ให้หนูมาจะไม่ใช่ของหนูหรอกค่ะ เงินมันเกินมาตั้งเยอะหนูนับเงินแล้วตั้งห้าหมื่นไม่ใช่ค่าแรงสองหมื่นบาทที่หนูจะต้องได้รับหรอกค่ะ”หญิงสาวเอ่ยพร้อมยื่นซองสีน้ำตาลใส่มือไดอาน่าทันที พร้อมแบมือขอรับซองสีน้ำตาลที่ถูกต้องของเธอ

กะเทยวัยดึกส่ายหน้าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อสาวน้อยตรงหน้าทั้งซื่อและท่าทางจะงกเอามากๆ เสียด้วย

“ซองนี้แหละถูกต้องแล้ว ทางสตาร์จิวเวลรี่เพิ่มค่าจ้างให้กับหล่อนจากสองหมื่นบาทเป็นห้าหมื่นบาทเพราะเครื่องเพชรชุดที่หล่อนใส่ขายได้ทั้งชุดเลย เดี๋ยวเจ้จะต้องพาหล่อนไปรับค่าคอมมิชชั่นที่เขาต้องจ่ายให้อีก เป็นของหล่อนเต็มๆ เนื้อๆ ไม่โดนหักอะไรทั้งนั้น งานเดียวโอ๊ย!เริด!รวยเละ!” กะเทยไดอาน่าบอกสาวน้อยตรงหน้าพลางทำท่าประกอบยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว ก่อนจะหันกลับมามองหญิงสาวเมื่อรู้สึกว่าไร้สิ้นเสียงไปซะงั้น

“อ้าว!นี่หล่อนเป็นอะไรไปยะ แค่บอกว่าได้ค่าจ้างเพิ่มกับได้เงินค่าคอมถึงกับนั่งตัวแข็งขนาดนี้เลยเชียวเหรอ นี่ฉันยังไม่ได้บอกหล่อนเลยว่ายังต้องไปทำสัญญาเป็นนางแบบอีกนะ เออนะ...แม่มณี!แม่มณี!”ไดอาน่าพูดพร้อมเขย่าตัวแม่สาวน้อยตรงหน้าไปมาเพื่อเรียกสติกลับคืน

พลันยัยกะเทยฝีปากกล้าเหลือบไปเห็น หลังไวๆ ของนางแบบปากเน่ามาแอบยืนฟังอยู่นอกประตู

“นี่นังผีตัวไหน!เที่ยวมาแอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านกันนักนะ หน็อย!นังพวกนี้อยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้านกันซะจริง พวกมึงไม่ต้องแอบฟังหรอกเดี๋ยวกูเดินไปบอกเองให้รู้กันหมดทุกตัวเลย”ไดอาน่าเอ่ยพร้อมก้าวเดินออกจากห้องแต่งตัววีไอพีทันที

ห้องแต่งตัววีไอพี 2

“ว๊ายยยย!จริงเหรอ!เครื่องเพชรชุดที่เด็กใหม่ใส่ มีมหาเศรษฐีซื้อยกทั้งชุด ชุดนั้นราคามัน...มัน”

“500 ล้านบาทไงละย่ะ เด็กใหม่ฟันเงินค่าคอมไปเลยเนาะๆ ห้าล้านบาท กับค่าจ้างเดินแบบอีกสองหมื่นบาท ค่าจ้างสองหมื่นรับเลยหลังเสร็จงาน”

“แต่ค่าคอมห้าล้านจะไปรับตอนไหนน้าหรืออาจจะต้องไปจ่ายเพิ่มที่โรงแรมหรือเปล่าก็ไม่รู้ อยากรู้จริงจริ้ง ว่าเศรษฐีแก่คนไหนซื้อเครื่องเพชรชุดนี้ไป ได้ทั้งเพชรได้ทั้งตัว ต้ายยย!โคตรคุ้มเลยอะแก”เสียงวี้ดว้ายของเหล่าบรรดาทีมงาน ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมันปาก

“อยากรู้เหรอว่าใครเป็นคนซื้อเครื่องเพชรชุดนี้”กะเทยวัยดึกนามว่าไดอาน่าเดินนวยนาดเข้ามาภายในห้องแต่งตัวที่เต็มไปด้วยนางแบบและผู้ติดตามของแต่ละนางมากมาย

“ใครเหรอเจ๊ ที่ซื้อเครื่องเพชรราคาตั้งห้าร้อยล้านชุดนั้น แหมช่างรวยจริง อะไรจริงเชียว จ่ายแบบไหนเหรอเงินสดหรือผ่อนระยะสั้น 0 % 6 เดือน แล้วค่าคอมที่นังเด็กใหม่มันจะต้องได้ตั้งห้าล้านตกลงมันได้เปล่าเจ้”นางแบบสาวหน้าสวยแต่ปากแสนเน่าเอ่ยพลางหัวเราะเยาะด้วยความขบขัน เนื่องจากเจ้าหล่อนล่วงรู้วงการนี้เป็นอย่างดีว่าเป็นเช่นไร

“ถ้างั้นตั้งใจฟังก็แล้วกันนะแม่คุณ เรื่องแรกเด็กใหม่ที่พวกเธอกำลังเมาท์กันอย่างสนุกปากอยู่ตอนนี้ ได้ค่าคอมเป็นแคชเชียร์เช็คเงินสดห้าล้านบาทเนาะๆ ไปเต็มๆ เลยยะ”

“หา!”เสียงเหล่านางแบบปากเน่าทั้งหลายพร้อมผู้ติดตาม อุทานเสียงหลงขึ้นมาพร้อมกันเลยทีเดียว

“เรื่องที่สองมหาเศรษฐีที่ซื้อเครื่องเพชรชุดนี้ก็คือ คุณเจตน์ จาก AMSวโรดม ที่พวกหล่อนทั้งหลายจ้องอยากจับเอามาทำผัวจนตัวสั่นพั่บพั่บอย่างไงล่ะจ๊ะแม่คู้ณ จ่ายด้วยแคชเชียร์เช็คเงินสดห้าร้อยล้านบาททันทีเลย เป็นไงรวยไหม โคตรรวยเลยพวกแกและที่สำคัญ เด็กใหม่ที่พวกหล่อนเมาท์กันอย่างเมามันตอนนี้กลุ่มบริษัทฯ AMS ของคุณเจตน์และสตาร์จิวเวลรี่ ของคุณภมร จองตัวเป็นพรีเซนเตอร์ ให้กับแบรนด์บริษัทฯ ของเขาทำสัญญายาววววไปเลย”กะเทยวัยดึกนามไดอาน่า จีบปากจีบคอเล่า

“เป็นอย่างไงล่ะ มีปัญญาทำได้เหมือนเด็กใหม่กันบ้างไหมพวกหล่อนทั้งหลาย อยากได้ผัวเศรษฐีจะได้พากันสบายแต่ปากทำตัวให้ต่ำ หาผัวดีๆ คงได้ยากถ้าขืนยังไม่ปรับปรุงเรื่องปากต่ำๆ ให้ดีขึ้นกว่านี้ได้ระวังจะได้แต่ผัวเลวๆ ที่เก่งเรื่องบนเตียงและเก่งเป็นแมลงปีกแข็ง ที่เขาเรียกว่าแมงดา....ปีกทอง!”กะเทยไดอาน่าเอ่ยพลางส่งเสียงหัวเราะร่วน พร้อมก้าวเดินนวยนาดจากไปอย่างช้าๆ ทิ้งให้บรรดานางแบบปากเน่าทั้งหลายนั่งอ้าปากค้างไปตามๆ กัน ก่อนจะได้ยินเสียงดังเอ็ดอึงติดตามมา

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด”



มณีภัสสร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 มิ.ย. 2558, 13:51:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 มิ.ย. 2558, 13:51:55 น.

จำนวนการเข้าชม : 799





<< ตอนที่ 13 ปลดปล่อยผีร้าย   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account