กำราบรักจอมเผด็จการ
'กฎของเราคือห้ามรัก' ชัคไม่คิดว่าจะพาอันนามาสู่อันตราย ร่วมมือกันเพื่อหาคนร้ายคือทางออกเดียวที่เธอจะออกไปจากวังวนของมาเฟียอย่างเขาได้
Tags: ความรัก อดีต ซาบซึ้ง

ตอน: ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง

อันนาหลับไปเพราะยาที่กินก่อนจะเข้ามานั่งในรถของชัค พอรู้สึกตัวตื่นถึงได้คำตอบของความอุ่นตลอดชั่วโมงที่ผ่านมา สูทตัวหนาวางไว้ตรงกลางระหว่างเรา อะไรก็ตามที่เขาให้แล้วจะไม่รับคืน แต่เธอไม่รู้จะเอาเสื้อไปอีกตัวทำไม เขาทำแบบนี้ตลอดกับทุกคนหรือเปล่า ถ้าใช่ ค่าเสื้อผ้าและของใช้คงมากกว่าเงินเดือนของเธอกระมัง
“ยิ้มอะไร ไม่น่าจะเพราะผมมาส่งคุณแน่ๆ” ชัคถามเพราะรถกำลังเลี้ยวเข้ามาจอดหน้าหอพักของอันนาแล้ว
คนถูกจับได้ว่ายิ้มหันมามอง “บังเอิญว่าใช่ค่ะ ไปๆ มาๆ คุณมาที่นี่บ่อยกว่าเพื่อนสนิทของฉันเสียอีก”
ชัคเลิกคิ้วแปลกใจเพิ่งรู้ตัวเหมือนกันว่ามาที่นี่บ่อยเกินไปแล้ว
“แต่คุณก็ไม่ดีใจอยู่ดี”
“ดีใจสิคะ ถ้าฉันอยู่ใกล้คุณก็ไม่ต้องกลัวใครหรอก ไม่มีใครทำให้ฉันตกอยู่ในอันตรายได้เท่าคุณอยู่แล้วนี่”
อันนาหุบยิ้ม ตั้งแต่มีเขาเข้ามาในชีวิตเนี่ย เกือบตายมาหนึ่งครั้ง แถมยังเข้าใจผิดจนบานปลายกลายเป็นเจ้านายกับลูกน้องไงล่ะ
“ผมจะคิดว่านี่เป็นคำชม”
แปลกคนจริงๆ อันนาได้แต่คิดในใจ เธอยกมือข้างเดียวขึ้นมาไหว้โล่งใจเป็นล้นพ้นที่กลับมาอย่างปลอดภัย
“ลาล่ะค่ะ”
ชาญมาช่วยเปิดประตูให้ อันนาสะพายกระเป๋ากล้องและถือกระเป๋าตัวเองก้าวขาลงไป มือหนาคว้ามือที่โผล่พ้นเฝือกไว้ เธอหันไปมอง
“เดี๋ยว” ถุงสีขาวมีตราโรงพยาบาลหรายื่นมาให้ “ยา อย่าลืมสิ หรือว่าจงใจลืม”
หูถุงแขวนให้อย่างหวังดีตรงมือที่พอขยับได้นั่นแหละ อันนาเห็นแล้วก็ขำปนสังเวชตัวเอง แค่แขนหักทำไมเหมือนชีวิตลำบากขึ้นนักก็ไม่รู้
“ฉันเห็นหน้าคุณมานานเกินกว่าจะเห็นอีกรอบภายในวันนี้แล้วล่ะค่ะ ขอบคุณ หวังว่าวันจันทร์คงไม่พบกันนะคะ”
อันนาเดินเร็วๆ แต่ชาญก็ยังอุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วยหาคีย์การ์ดเปิดประตูให้ แถมยังเจ้านายและบอดี้การ์ดยังปักหลักรอจนเห็นเธอเดินเข้าลิฟต์ไปนั่นล่ะ หญิงสาวไขกุญแจเข้าห้องอย่างทุลักทุเล วางของประดามีลงบนเตียงแล้วเดินไปที่ระเบียง รถของชัคยังจอดอยู่ที่เดิม แต่เพียงไม่กี่วินาทีที่เธอมองก็เคลื่อนออกไป ช่างเป็นวันที่ยาวนานและเหนื่อยล้าจนทำให้หลับไปตลอดทั้งบ่าย

แบบฉลากของผลิตภัณฑ์ที่พิธานรับผิดชอบเสร็จแล้ว หลังจากนั้นก็ปิดความลับไม่เกินสองสัปดาห์ งานเปิดตัวจะจัดขึ้นที่ห้างใหญ่กลางเมือง อันนามองอย่างทึ่งๆ เวลาเพียงแค่สองวันเท่านั้น งานก็เสร็จเรียบร้อยถึง 3 แบบสำหรับให้ชัคและผู้จัดการฝ่ายที่เกี่ยวข้องเลือก
“พี่พิธทำงานเร็วจัง สวยด้วย ดูแพงมากเลยค่ะ แม้ว่าเครื่องดื่มจะราคา 20 บาท”
“ก็เพราะได้น้ำมาช่วยนั่นแหละ งานของน้ำถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยก็บอกได้เลยนะเป็นการชดเชยที่น้ำเจ็บตัวจนแขนหัก พรุ่งนี้พี่พาไปเลี้ยงข้าวแล้วกัน รู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้” พิธานตบไหล่บางเบาๆ เอ็นดูอย่างน้อง
“โหย อย่าคิดมากค่ะ น้ำซุ่มซ่ามเองต่างหาก แต่ข้าวฟรีน้ำโอเคนะคะ”
“ใครมาหรือนั่น คนมุงกันใหญ่” พริมมามองไปตรงลิฟต์
หลายคนในออฟฟิศมองตาม พอเห็นว่าใครก็เกาะขอบกระจกมองตามกันยกใหญ่ อันนามองบ้างยังไม่รู้อะไรจนพิธานพูดออกมาน้ำเสียงเรื่อยๆ ไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนคนอื่น
“ดาราน่ะสิพี่ คนที่เป็นข่าวกับบอสของเราไงล่ะ ผมเห็นตอนเดินเข้ามาในออฟฟิศชั้น 10 น่าจะมาถ่ายภาพนิ่ง”
ความสนใจหมดลงทันที อันนากลับไปที่โต๊ะของตัวเองแล้วเปิดคอมวาดแบบต่อ ผู้ชายแบบชัคไปชอบลิลลาได้อย่างไง ไหนว่าอกหักคนรักตาย ผู้หญิงที่เขาชอบสีฉูดฉาดแบบนี้หรือ
“สงสัยคุณดาราอยากมาหาพวกเรานะครับ เดินมานั่นแล้ว”
อันนาเงยหน้ามองก็เห็นลิลลาดันประตูกระจกเข้ามา เธอก้มหน้าทำงานต่อไม่อยากให้ความสนใจ จนกระทั่งดาราสาวเดินมาหยุดลงที่หน้าโต๊ะ เสียงถอนใจดังมาก่อนเสียงทักจากเพื่อนเก่าเสียอีก
“น้ำ...มาทำงานที่นี่ก็ไม่บอก ไม่เจอกันตั้งนาน คิดถึงมากเลยรู้ไหม แล้วแขนไปทำอะไรมาถึงได้เข้าเฝือกน่ะ”
พนักงานคนอื่นๆ พากันมองมา อันนาฝืนยิ้มให้ลิลลา ยังเดาไม่ถูกว่ามาหาเธอด้วยเรื่องอะไร ในเมื่อคุณดาราสมหวังไปทุกอย่างแล้วไม่ใช่หรือ
“แปลกนะที่ฉันไม่ค่อยคิดถึงเธอเท่าไหร่ ไม่ต้องมองแบบนั้น แค่แขนหักฉันยังไม่ตาย ถ้ามาหาคุณชัค ฉันคิดว่าเธอคงมาผิดชั้นแล้วล่ะนะ”
ลิลลายิ้มกว้างแถมยังยื่นมือมาจับแขนเพื่อนอย่างสนิทสนมอีกด้วย
“ฉันตั้งใจมาหาเธอก่อนต่างหากล่ะ มาระลึกความหลัง”
“น้องน้ำเป็นเพื่อนดาราดัง แถมไม่ถือตัวด้วย น่ารักทั้งคู่เลยค่ะ” พริมมาดูปลื้มไม่น้อย
ลิลลาหันไปยิ้มหวานใส่
“เราสองคนเป็นเพื่อนกันมานานแล้วล่ะค่ะ ถึงตอนนี้อะไรๆ จะเปลี่ยนไปมาก เราสองคนต่างกันด้วยเรื่องต่างๆ แต่ลิลก็คิดถึงน้ำเสมอนะคะ”
อันนาหัวเราะการแสดงไม่ต้องอยู่หน้ากล้องลิลลาก็ตีบทแตก แต่เธอไม่ชอบให้ใครมารู้เรื่องส่วนตัว เด็กกำพร้าไม่มีเรื่องราวให้ใครต้องหันมาสนใจ
“เดี๋ยวฉันไปส่งเธอดีกว่า”
อันนาคว้าแขนเพื่อนดึงให้ออกไปจากห้องนี้ ลิลลายอมเดินตามมาโดยดีเพราะไม่ได้คิดถึงอะไรใครอยู่แล้ว แต่ไม่ชอบใจที่เพื่อนเก่ามาทำงานที่นี่ต่างหาก ว่างๆ ก็มาป่วนสักหน่อยแค่นั้น ผลการเรียนดีเลิศของอันนาไม่ใช่เรื่องที่คุณแม่อธิการนำมาเปรียบเทียบอีกต่อไป ฐานะทางสังคม ชื่อเสียง ตอนนี้ใครล่ะที่เหนือกว่าจนเทียบไม่ได้
“เธอมาทำไม ต้องการทำอะไรกันแน่ ฉันไม่ยอมเป็นเครื่องมือให้เธออีกแล้วนะ ถ้าจะทำแบบนั้นอีกทำเป็นไม่รู้จักกันไปเลยก็ได้”
“ทำไมเธอต้องมาอยู่ใกล้ๆ ผู้ชายของฉันด้วย”
“ฉันมาทำงาน ไม่ได้มาทำอย่างอื่น”
ความสงสัยในอดีตผุดขึ้นกลางใจ ถ้าจะมีใครทำเรื่องแย่ๆ ต่อเธอได้อย่างไม่ลังเลคงมีแค่คนเดียวเท่านั้น
“ฉันนึกได้ล่ะ คราวก่อนที่ผับ Blue Moon เธอทำใช่ไหม”
ลิลลาเบ้ปากขมวดคิ้วทำไขสือ
“ทำอะไรยะ ชอบโทษคนอื่นอยู่เรื่อย พอๆ ฉันไปหาพี่ชัคก่อนล่ะ เอาไว้จะมาใหม่ แล้วต่อไปฉันกับพี่ชัคหมั้นกัน เธอคงต้องหางานใหม่ บอกไว้แต่เนิ่นๆ เธอคงเตรียมตัวทัน”
“เลิกเพ้อได้แล้ว เบื่อจะฟัง”
อันนาหันหลังเดินไปแล้ว ลิลลาไปรอหน้าลิฟต์ วันนี้ไม่ได้นัดมาก่อนอาจโดนพี่ชัคดุก็ได้ แต่ใครสน ขอแค่ได้ควงเขาไปทานข้าวด้วยกันเย็นนี้ก็พอแล้ว
“ไม่ดีกว่า ฉันเปลี่ยนใจแล้ว เพื่อนมาทั้งทีจะไม่ไปส่งได้ยังไงล่ะ”
สองสาวเข้าไปในลิฟต์ด้วยกัน อันนาแค่อยากแกล้งกลับ อีกเดี๋ยวได้มีคนหน้าแตก บ่ายนี้เมธาออกไปกันใครล่ะ แหมบังเอิญเห็นพอดี เลขาวัยดึกบอกเสียงเรียบๆ ให้ลิลลาหน้าชาแต่เก็บอาการไว้
“คุณชัคออกไปพบลูกค้าค่ะ บ่ายนี้คงไม่เข้ามาแล้ว”
“คนรักกันน่าจะบอกกันนะ มาเสียเที่ยวเลย” อันนาทำหน้าเห็นใจสุดๆ เพิ่งรู้ตัวว่าแสดงละครเป็นเหมือนกัน
“ฉันอยากมาเซอร์ไพรส์พี่ชัคต่างหากล่ะ เธอน่ะไม่ทำงานหรือไง พี่ชัคเสียเงินจ้างให้มาทำงาน ไม่ใช่ตามใครไปทั่วสักหน่อย”
อันนาจ้องกลับให้คำพูดร้ายๆ ย้อนกลับไป ลิลลาหน้าชาอีกรอบเพราะที่ทำอยู่ตอนนี้ก็ ‘ตาม’ พี่ชัคเหมือนกัน คนกวนโมโหเดินสบายใจเฉิบไปที่บันไดลง ปล่อยให้คนมาเก้อรอลิฟต์ต่อไป ถ้ายัยนี่เป็นคนรักของชัคจริงๆ เธอคงต้องหางานใหม่เสียตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วกระมัง ไม่ได้กลัว แต่คงรำคาญมลพิษทางหูในอนาคต

เมธาสั่งให้อันนาหาแฟ้มงานเก่าที่เกี่ยวกับฝ่ายผลิตเพื่อนำมาประกอบเป็นไอเดียสำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ตัวเดิมที่ต้องการรีแบรนด์ใหม่ แต่ปัญหามันอยู่ที่เอกสารที่ฝ่ายผลิตส่งมาให้ฝ่ายของเธอนั้นไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แล้วความที่มันนานเกือบ 3 ปี ทำให้ต้องไปหาที่ห้องเก็บเอกสารรวม
ภายในห้องมีตู้ขนาดเหมือนห้องสมุด ความที่ห้องนี้อยู่ชั้นใต้ดินทำให้รู้สึกเย็นและอับเล็กน้อย อันนาเดินไปยังตู้ของฝ่ายผลิต เอกสารหาไม่น่ายาก แต่มันมากทำให้ต้องใช้เวลาการในอ่าน เกือบครึ่งชั่วโมงนั่นล่ะกว่าจะพบ เธอดึงประตูจะออกไปจากห้อง ป่านนี้พี่ๆ คงกลับกันหมดแล้วแน่ๆ แต่ประตูกลับเปิดไม่ออก ไฟทั้งห้องดับพรึบ เหลือเพียงแสงจากแป้นกดรหัสผ่านเข้าห้องเท่านั้น เธอลองกดแต่ประตูก็ไม่เปิดอยู่ดี
“แล้วจะออกไปยังไงล่ะนี่ โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอามา”
อันนาตบบานประตูให้เสียงดังที่สุด ปากก็ตะโกนเผื่อว่าจะมีคนผ่านลงมาแถวนี้ แต่กลับเงียบกริบ ภายในห้องมืดมิด หญิงสาวเดินคลำทางไปจนเจอเก้าอี้ พัดลมระบายอากาศไม่ทำงานแล้ว ถ้าติดอยู่ในนี้ทั้งคืนจะเป็นอันตรายหรือเปล่า ทำยังไงดี ความซวยของเธอมันยาวนานเกินไปแล้ว

แล้วจะมา up ต่อถึงตอนที่ 15 นะคะ มีจำหน่ายในรูปแบบหนังสือและ e-book แล้วค่ะ



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 มิ.ย. 2558, 09:06:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 มิ.ย. 2558, 09:06:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 1255





<< ตอนที่ 8 ครึ่งแรก   ตอนที่ 9 ครึ่งแรก >>
กาซะลองพลัดถิ่น 23 มิ.ย. 2558, 21:44:02 น.
มีแต่เรื่องเข้ามาหาเพียบเลยเนอะอันนา งานนี้สงสัยอยู่สองคน เมธากับพริมา ล่ะ
แต่อาจจะเป็นอุบัติเหตุก็ได้ ประตูปิดเอง


แว่นใส 24 มิ.ย. 2558, 08:30:51 น.
ใครแกล้งล่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account