กุหลาบซ่อนกลิ่น (จบแล้ว)
นางเอกโตมาในไซด์งานก่อสร้าง ที่นั่นทำให้เธอรู้ว่า การแสดงตัวว่าเป็นหญิงเป็นเรื่องอันตราย ดังนั้นนางเอกจึงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเอง จนใคร ๆ มองว่าเป็นทอม แต่แท้จริงแล้ว เธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีรัก..และรักของเธอก็เป็นรักที่มีเวลามาเป็นตัวกำหนด....


Tags: โรแมนติก..

ตอน: 29.“โถ นึกว่าเรื่องอะไร..”

29.

“คุณสูรย์”

“เอ๊ะ ทำไมเสียงเป็นแบบนี้ มีอะไรหรือม่า” ด้วยเพิ่งร้องไห้กับน้าอ้อยกับน้าอ้อยไป เสียงของกุสุมาจึงยังสั่นเครือเมื่อรับสายของสูรย์..

“ม่า..เอ่อ ม่าไม่ได้ไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียแล้วนะ” ว่าแล้วกุสุมาก็ร้องไห้ให้กับความผิดหวังของตัวเอง..

“เฮ้ย ทำไมละม่า มีอะไร เกิดอะไรขึ้น..มีใครเป็นอะไรรึ มีเรื่องอะไร หยุดร้องไห้ก่อน เล่ามา ๆ” ยิ่งสูรย์มีน้ำเสียงห่วงใยเอาใจใส่เป็นอย่างมาก กุสุมาก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีก..

สูรย์ใช้เวลาปลอบอยู่นาน จนกระทั่งกุสุมาได้สติจึงเล่าเรื่องน้าอ้อยให้ฟังคร่าว ๆ..

“โถ นึกว่าเรื่องอะไร..ไม่ได้ ก็ไม่ได้ไปสิ”

“แต่ม่าพูดไปทั่วแล้วนะว่าจะไปเรียนต่อ..”

“อยากไปมากไหมละ”

กุสุมาถอนสะอื้น รู้ใจตัวเองว่าสับสน ใจหนึ่งก็ดีใจที่จะไม่ได้ไป เพราะว่าจะได้อยู่กับสูรย์ตลอดไป แต่อีกใจก็เสียใจและอายที่จะบอกว่าไม่ได้ไปเพราะอะไร..กุสุมาจึงนิ่งไม่ตอบคำถามนั้น...

“อยากไปไหม” สูรย์ถามซ้ำด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น

“อย่างไร มันก็ไม่ได้ไปแล้วนี่..ถามทำไม”

“ฉันออกค่าใช้จ่ายให้ เอาไหม สองปีล้านหนึ่งคงพอ”

“คุณสูรย์” กุสุมาตกใจกับความใจป้ำของเขา แต่ที่แน่ ๆ ถ้าเขายอมให้เงินเธอถึงหนึ่งล้านบาทได้แสดงว่า เขาคงรักเธออยู่ไม่น้อย เหมือนพ่อบุญโชคที่รักแม่มาก ๆ ยอมแม้แต่ได้ขึ้นชื่อว่า ได้เมียเป็นแม่ม่ายลูกติด ยอมยกทรัพย์สินเงินทองให้แม่ดูแล ยอมเสียเงินเสียทองเลี้ยงลูกติดอย่างดียิ่ง..

กุสุมาร้องไห้อีกยก ดีใจกับความรัก และก็เสียใจกับความเห็นแก่ตัวของตัวเอง..

“เป็นอะไร ขี้แยจังเลย เมื่อก่อนลงจากรถทำไมไม่ร้องไห้เนอะ..”

“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย”

“ฉันพูดจริง ๆ นะม่า อยากไปไหม ...”

“ไม่แล้ว ..ไม่ไปแล้ว อยู่เมืองไทยนี่แหละ”

“อยู่เมืองไทย แล้วจะทำอะไร..”

“หาที่เรียนยังทัน ช่วยงานพ่อก็ได้....”

“แล้วเรื่องของเราละ..ไม่คิดจะพิจารณาใหม่รึ”

“ม่ายังเด็ก ม่ายังไม่พร้อม”

“เราไม่อยากอยู่กับฉันทุกวันหรอกหรือ เราไม่รักฉันหรือม่า..”

“รักสิ..เมื่อกี้ก็บอกไปแล้วว่ารัก จะให้พิสูจน์อย่างไงอีก” ตอนอยู่บนรถเขาก็ถามเธอแล้ว ..แถมยังบังคับให้เธอหอมเขาตอนที่รถติดไฟแดงอีกด้วย..

“แต่งงานกันไหม แต่งแล้ว ฉันจะพาไปฮันนี่มูนให้ทั่วโลกเลย..อยากไปที่ไหนละ..”

“คุณสูรย์ ทำไมชอบเอาอะไรมาหลอกล่อ เห็นว่าม่าขาดแคลนหรืออย่างไร ถึงม่าจะจนกว่าคุณสูรย์แต่ม่า ม่าก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายขนาดนั้น...” ครั้งนี้กุสุมาอารมณ์เสียจริง ๆ เพราะเขาไม่เข้าใจเธอเลย เขาก็จะเอาแต่ความสุขของเขา เขาไม่คิดเลยว่า เธอต้องการการยอมรับจากคนอื่น ๆ จากคนรอบ ๆ ตัวเขา เธอไม่ต้องการแต่งงานเพื่อยกระดับตัวเอง แต่เขาไม่เข้าใจ..

“พูดอะไรผิดหูไป ฉันขอโทษนะ คืนนี้ถ้าไม่อยากคุยกับฉัน..พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”

เขาวางสายไป กุสุมาคว้าผ้าเช็ดตัวเปลื้องผ้าแล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำ จนกระทั่งรู้สึกว่าอารมณ์เป็นปกติแล้วกุสุมาจึงเดินลงมาหาพ่อกับแม่ซึ่งยังนั่งดูโทรทัศน์กันอยู่

“แม่..งานเข้าอีกแล้ว” แล้วกุสุมาก็เล่าเรื่องของน้าอ้อยให้แม่กับพ่อฟัง และแม่กับพ่อก็สรุปกันว่า ไม่ได้ไปก็ไม่เป็นไร เพราะที่เมืองไทยก็ยังมีอะไรให้ทำอีกไม่น้อย


หลังจากที่วางสายจากกุสุมาแล้วด้วยอารมณ์เซ็ง ๆ กับการถูกขัดใจ สูรย์จึงลุกขึ้นแต่งตัวพลางโทรศัพท์ชวนให้ทรงฤทธิ์ออกมาพบกันที่ร้านประจำ..

“เป็นอะไรของมึง”

“เซ็งคน..กูไม่เข้าใจเค้าเลยว่ะ เค้าต้องการอะไร ผู้หญิงต้องการอะไร”

“เล่ามา..”

พอทรงฤทธิ์บอกอย่างนั้น สูรย์ก็พยักหน้าให้เด็กเสิร์ฟชงเหล้าให้ทรงฤทธิ์ พอเด็กเสิร์ฟวางแก้วเหล้าไว้ตรงหน้าทั้งสองหนุ่มแล้ว สูรย์ก็คว้าแก้วที่มีน้ำสีอำพันเกือบเต็มแก้วขึ้นมากระดกพรวด..

“ไอ้ห่า ค่อย ๆ กิน เดี๋ยวสำลัก”

“เซ็ง เบื่อ คบเด็กนี่เรื่องเยอะเหลือเกิน” พอเกริ่นไปอย่างนั้นแล้วสูรย์ก็เล่าเรื่องราวระหว่างเขากับกุสุมา แล้วทรงฤทธิ์ก็สรุป สั้น ๆ เมื่อสูรย์ยกแก้วเหล้าเข้าปากเป็นแก้วที่ห้าไปว่า

“กูขอตัวไปห้องน้ำก่อน ขยักไว้ให้กูบ้างนะ”

ทรงฤทธิ์ไม่ได้ไปห้องน้ำ แต่เขาเดินออกมาด้านนอกร้าน พลางโทรศัพท์หาคู่กรณีของสูรย์

“ทะเลาะอะไรกัน มันชวนพี่ออกมาเมา”

“ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน แค่คุยกันไม่รู้เรื่องเรื่องนิดหน่อยเท่านั้นเอง”

“จะมาง้อมันหน่อยไหม”

“ไม่..พี่ไปส่งเขาที่บ้านด้วย..”

“สาว ๆ โต๊ะข้าง ๆ เหล่มันอยู่นะ..มันถูกงาบไปแล้วจะเสียใจ”

“ไม่ต้องมาขู่..”

“ตกลงมีปัญหาอะไรกัน เล่ามา พี่จะได้เกาให้ตรงจุด..”

“ก็..” แล้วกุสุมาก็ระบายในสิ่งที่ตัวเองได้คิดให้ทรงฤทธิ์ได้รับรู้..

“พี่เข้าใจแกแล้วกัน แต่พี่ก็เข้าใจมันนะม่า ผู้ชายถ้าเขาพร้อม เขาก็อยากปกป้องคุ้มครองดูแลคนที่เขารัก เขาไม่ได้ตั้งใจเอาเงินซื้อหัวใจแกหรอกนะ แต่เขาอยากให้แกมีความสุข เพราะความสุขของเขาก็คือ เห็นแกมีความสุข.. เขาไม่ผิดหรอก แกก็ไม่ผิด เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุยกันใหม่...”

“แล้วทำไมม่าต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้ละ ร้านไหนบอกมา..”


สูรย์ที่ ‘ได้ที่’ แล้ว นั่งหลับตาพิงโซฟาฟังเพลงอย่างสบายอารมณ์..แม้ว่าจะยังคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่เรื่องเหล่านี้มันจะต้องเป็นเรื่องเล็ก ๆ ระหว่างเขากับกุสุมา และขณะที่หลับตาหูได้ยินเพลงแสนหวาน หัวใจของสูรย์ก็นึกถึงปลายจมูกเล็ก ๆ ของกุสุมาที่คลอเคลียอยู่กับแก้มของเขา..

“หน้ามีแต่ขน”

“ที่อื่นก็มี..”

“อย่า ๆ ..”

“ขอจูบคืนมั่งได้ป่ะ”

“ไม่..ม่าเปลืองตัว”

“แล้วฉันไม่เปลืองอย่างนั้นสิ..นะ จูบที”

“ไฟเขียวแล้ว..เร็ว ๆ”

“เอียงแก้มมาสิ”

“ไม่ใช่ ไฟเขียวแล้ว..คันหลังบีบแตรแล้ว”

สูรย์หลับตายิ้มพริ้มพรายพลางสั่นขาเบา ๆ อย่างเพลิน ๆ ..จนกระทั่งรู้สึกว่า ที่นั่งข้าง ๆ ตนยวบลง สูรย์ลืมตาทันที เพราะกลัวว่าน้องหนูโต๊ะข้าง ๆ จะตัดสินใจมาจู่โจมเสียก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายรุกคืบ..แต่พอลืมตาก็เห็นว่าเป็นกุสุมาที่ยิ้มแฉ่งให้ สูรย์ขยี้ตาอีกครั้ง เพราะคิดว่า คิดถึงกุสุมาจนกระทั่งตาฝาด..แต่พอกุสุมาห่อริมฝีปากยื่นมาให้ เขาก็แสร้งสะบัดหน้าไปทางซ้ายบอกให้รู้ว่า ยังมีงอน..

กุสุมาขยับไปจนประชิดตัว แล้วก็ซบลงที่ต้นแขนของเขา..

“งอนอะไรม่าหรือฮะ”

“ไม่ได้งอน”

“งั้นก็หันมาทางนี้”

“ทำไมต้องเชื่อด้วย”

เมื่อสูรย์ไม่หัน กุสุมาที่อยู่ในชุดกางเกงยีนส์ขาเดฟเสื้อคอกลมพอดีตัวสีขาวก็กระโดดขยับตัวข้ามขาของสูรย์ไปอีกฝั่ง..

“ม่าขยับมาเองก็ได้”

ที่นี้สูรย์ไม่ขยับใบหน้าคมคายหนี นอกจากนั้นดวงตาของเขาก็ยังมองดวงตาเจ้าเล่ห์ของกุสุมาเผยความเสน่หาจนกระทั่งหมดหัวใจ

“เราดีกันนะ” กุสุมาเป่าลมจากปากซึ่งมันใจว่ากลิ่นหอมพอให้เขาระทวยไปด้วย และสูรย์ก็สูดกลิ่นนั้นเข้าไปก่อนจะขยับพูดเบา ๆ ว่า

“ฉันไม่เคยโกรธเราหรอกม่า..”

กุสุมารู้ว่าเขารักเธอมาก จนความโกรธไม่สามารถแสดงผลได้....หญิงสาวยิ้มบาง ๆ ให้เขา แล้วสูรย์ก็ฉวยโอกาสนั้นขยับตัวใช้ริมฝีปากได้รูปของตนแตะเบา ๆ ไปที่ริมฝีปากไร้สีสันของกุสุมาดื่มด่ำความในใจที่มีให้กันพร้อมกับอธิบายทุกความรู้สึกที่มันเอ่อล้นอยู่ในทรวงอก..

และทั้งคู่ต้องผละจากกันเพราะสาว ๆ โต๊ะข้าง ๆ ที่เหล่สูรย์มาตั้งแต่แรกพากันร้องกรี๊ดเหมือนถูกน้ำร้อน ๆ สาดมาเป็นถัง..


“เอาอย่างไรดีละมึง กูบอกมึงแล้วว่า นายไม่ใช่คนใจดี มึงก็ไม่เชื่อกู..ทีนี้ มึงกับกู เตรียมตัวรับกรรม”

คนที่สมรู้ร่วมคิดเดินวนไปวนมา เพราะคิดหาทางออกให้กับปัญหาไม่ได้..เขากับพวกเป็นเพียงลูกกระจ๊อก และกฎของงาน คือโทษเดียวกับนักพนันรายอื่น ๆ เงินตั้งเป็นแสน เมื่อมันพลาดไปแล้ว เขาก็รู้ซึ้งว่า คนหมดหนทางหาเงินมาใช้หนี้จนต้องออกปล้น จี้ เพื่อหาเงินมาไถ่ชีวิตตัวเองนั้นรู้สึกอย่างไร นอกจากนั้นบางคนยังตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา..และเมื่อปล่อยให้ชีวิตพลาดมาเจอทางตัน..ทางออกอีกทางหนึ่ง ซึ่งน่าจะทำให้ชีวิตของเขายังคงอยู่ แม้จะขาดอิสรภาพไปบ้าง แต่อีกไม่นาน มันก็จะดีกว่าที่จะต้องประสพในเร็ววัน..

“กูว่ากูยอมติดคุกดีกว่าที่กินยำตีนจากคนของนาย” คนของนายมีมากมายหลายสาย ..เพราะนายไม่ต้องการให้คนใต้ปกครองรู้จักกันเอง เป็นพวกกันเอง ไม่เช่นนั้นงานใหญ่ก็ดำเนินไปไม่ได้

“มึงจะทำอย่างไง”

“ทำให้ตำรวจจับ..ติดคุก หนี้ของนายก็จะได้เว้นไป..เพราะเราต้องการเอาเงินมาใช้หนี้ให้นาย”

“แผนของมึงคือ..”

“จับอีม่ามาเรียกค่าไถ่ ทางนี้จะมีทางออกสองทาง หนึ่งได้เงินจากไอ้สูรย์ไปใช้หนี้ สอง ติดคุกอย่างที่ตั้งใจ ..มึงว่ากูคิดดีไหม”

“ก็ร่วมหัวจมท้ายกับมึงมาตั้งแต่ต้นแล้วนี่ กูก็ต้องตอบว่าดี แต่ถ้าตำรวจซัก มึงจะตอบว่าไง..ถ้ามึงบอกว่าจะเอาเงินไปใช้หนี้บอล รับรองเลยว่า นายส่งของขวัญไปให้มึงในคุกแน่ ๆ”

“ถ้าเราบอกกับตำรวจว่า เรา..มีความแค้นกันเป็นการส่วนตัวจากเรื่องแค่นั้นละ แล้วเราก็อยากเอาเงินไปให้ค่าเทอมของลูกที่อยู่บ้านนอก”

“น้ำเน่าอีกแล้ว”

“หรือมึงจะยอมกินตีน..มันจะยิ่งกว่านั้นนะมึง..แต่ถ้าตำรวจซักทอดขยายความจับกุมได้จริง ๆ เราก็น่าจะอยู่รอดปลอดภัยไปอีกนาน..”

“เอาไงเอากันโว้ยย นี่นายก็ขีดเส้นตายมาแล้ว..ก่อนสงกรานต์นี้เท่านั้น..”

พอรู้ตัวว่าจะไม่ได้ไปออสเตรเลียแน่ ๆ กุสุมาจึงรีบโทรหาอ๊อด และก็ได้คำตอบแบบสบายใจจาก อ๊อดมาว่า “อ๊อดก็ไม่ได้อยากไปอยู่แล้วพี่ม่า..เรียนต่อที่เมืองไทยก็ดี ไม่ไกลจากเพื่อนฝูงด้วย เดี๋ยวอ๊อดจะดู
ที่ ม.เจ้าพระยานี่แหละ เรียนเอาจบง่าย ๆ อาจจะเป็นรัฐศาสตร์ พี่ไม่ต้องห่วงอ๊อดหรอกฯ”

หมดเรื่องจากอ๊อดแล้ว กุสุมาก็โทรหาถมยา..

“กูว่าจะทำงานเก็บเงินสักปีน่ะ ปีหน้ากูว่าจะสอบเข้า ม.ของรัฐ ถ้าไม่ได้ก็ถึงไปเอกชน”

“แล้วเงินถูกหวยของมึงละเอาไปไหนหมด”

“ฝากธนาคารไว้..ถ้าจะเรียนมันไม่พอหรอก คงต้องกู้เรียน”

“แล้วกูจะเอาไงดีวะ”

“มีตังค์ ก็เอกชนไปเลย สองสามปีก็จบแล้ว”

“แต่กูก็ไม่ได้อยากเรียนทางด้านนี้ กูคิดว่ามันไม่ใช่กู..”

“แล้วมึงอยากเป็นอะไร..”

“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน..”

“ไปปรึกษาแฟนมึงแล้วกัน กูคงช่วยอะไรมึงไม่ได้หรอก..”

“กูไม่อยากให้เขาเห็นว่ากูโลเล”


“แล้วมึงรู้ไหมว่า คำว่าแฟนเขามีไว้ทำไม ถ้าไม่รู้ กูจะบอกให้นะ แฟนเขามีเอาไว้ปรึกษาเรื่องไม่ค่อยจะเป็นเรื่องนี่แหละ”

“อืม..งั้นกูไม่รบกวนมึงแล้ว..คุยกับเพื่อนอย่างมึงต้องคุยเฉพาะเรื่องสำคัญ ๆ เท่านั้น กูเพิ่งรู้วันนี้เอง”

ก่อนจะกุสุมาจะกดวางหูก็ได้ยินเสียงถมยาหัวเราะกับมุกของตน กุสุมาเองก็อมยิ้มเมื่อนึกถึงคำนิยามของถมยา..และระหว่างตัดสินใจว่าจะโทรศัพท์ไปคุยเรื่องไม่ค่อยเป็นเรื่องกับสูรย์ดีไหม กุสุมาก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าสูรย์กำลังขับรถตรงมายังบ้านที่เธอมาคุมการต่อเติมอาคาร..

“มาได้อย่างไร” กุสุมาเอ่ยถามเมื่อสูรย์เลื่อนกระจกลงเผยให้เป็นใบหน้าและดวงตากรุ้มกริ่ม

“ถามแม่นะสิ.. แล้วแม่ก็ถามพ่อ แค่นี้เอง”

“แล้วทำไมไม่ถามม่า”

“รู้ว่าไม่ให้มาหรอก แต่ว่าใจของฉันอยากมา แล้วคุมงานอะไรมายืนเล่นอยู่หน้าบ้านนี่” ว่าแล้วสูรย์ก็มองไปในบ้านหลังใหญ่ที่มี่รั้วมิดชิด เขาจึงไม่เห็นว่า ข้างในบ้านมีใครทำอะไรอยู่บ้าง แต่ว่ายังไม่ทันที่สูรย์จะลงจากรถ เจ้าของบ้านที่กุสุมาคุ้นหน้าคุ้นตาดีอยู่แล้วก็เดินออกมา..

“อ้าว คุณศุภกฤช” สูรย์ร้องทัก ขณะที่ฝ่ายนั้นก็ดูจะยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นสูรย์ที่หน้าบ้านหลังใหญ่โตของตน..กุสุมาเลิกคิ้วแปลกใจว่าคนทั้งคู่รู้จักกันได้อย่างไร

“มาได้อย่างไรครับ” ศุภกฤชเอ่ยถามสูรย์ที่ลงจากรถมาจับมือกับเขา

“แฟนผมมาคุมงานก่อสร้างที่นี่ ผมก็เลยต้องตามมาส่งข้าวส่งน้ำ”

“หวานกันจัง..โถ่นึกว่าใครที่ไหน ที่แท้ก็คนกันเอง..” อันที่จริงศุภกฤชจำได้ว่าเคยเห็นกุสุมาไปกินข้าวกับสูรย์ แต่เมื่อไม่มีใครแนะนำอย่างเป็นทางการ เขาจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้จักกุสุมาที่มาคุมคนงานแทน
พ่อเลี้ยงที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล เมื่อคุยกันได้ไม่กี่ประโยค ศุภกฤชก็ขอให้สูรย์เลื่อนรถออกจากหน้าบ้านเพราะว่าจะต้องรีบออกไปทำงาน..

“ใครเหรอคะ” กุสุมาถามข้อมูลของคนที่เพิ่งขับรถออกไป..

“แฟนคุณธัญรัตน์น่ะ เมื่อวานนี้เอง เขาเพิ่งพาไปกินข้าวที่ร้าน แล้วก็แนะนำอย่างเป็นทางการ”

“ถ้าไม่รวยขนาดนี้ คุณธัญรัตน์จะมองไหม” เพราะเห็นว่านายศุภกฤชนั้นหน้าตาธรรมดา ๆ แถมรูปร่างก็สันทัดไม่สูงใหญ่เท่าสูรย์ กุสุมาจึงต้องพูดไปอย่างนั้น

“เขาอาจจะรักกันที่นิสัยใจคอ เหมือนที่ฉันรักเธอ..”

กุสุมาหน้าแดงซ่าน แต่ก็พูดแก้เกี้ยวอย่างตลก ๆ ไปว่า

“แหม ยังไม่ทันจะได้กินของคาวเลยนะ ของหวานก็มาซะแล้ว”

และขณะที่สูรย์ถอดปิ่นโตออกจากเถาวางไว้บนโต๊ะหินใต้ร่มมะม่วงข้างโรงจอดรถ กุสุมาก็ชะเง้อชะแง้มองกับข้าวและมองหน้าของเขาด้วยตาซาบซึ้งกับความรักความห่วงใยที่เขามีให้

“คิดจะช่วยกันบ้างไหม”

“ม่ารู้ว่าคุณสูรย์อยากทำให้ม่า”

“อยากทำอย่างอื่นด้วย”

“พอเลย ๆ ..แล้วทำไมเอาข้าวมาเยอะแยะ”

“จะมากินด้วย กินคนเดียวไม่อร่อย” ว่าพลางสูรย์ก็ยกปิ่นโตข้าวไปให้กุสุมา และกุสุมาก็ดึงจานที่เขาใส่ตะกร้ามาด้วย ตักข้าวแบ่งออกมากิน

“กินน้อยจัง จะมีแรงทำงานเหรอ”

“หมดแล้วค่อยตักใหม่ แต่ว่าคุณสูรย์กะเล่นหมดปิ่นโตเลยเหรอ”

“หิว..ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย”

“ทำไมไม่กินละ”

“ก็รอมากินกับเรานี่แหละ”

พอเขาพูดประโยคที่ทำให้ใจละลายอีกครั้ง กุสุมาจึงเสตักผัดผักรวมมิตรใส่ปิ่นโตเพื่อเอาใจเขาบ้าง เขาเองก็ตักแพงพะแนงหมูที่มีโหระพาโรยจนน่ากินไปใส่ให้กุสุมา.

และเมื่อกุสุมาเคี้ยวข้าวแล้วเกิดไอเพราะรสชาติที่ร้อนแรง..สูรย์ที่นึกได้ว่า ไม่ได้เอาขวดน้ำลงมาจากรถก็รีบลุกไปที่รถทันที..

กุสุมามองตามหลังสูรย์ไปด้วยความซาบซึ้งใจ และพอเขาถือขวดน้ำกลับมาพร้อมกับแก้ว กุสุมาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื้นตันว่า
“ขอบคุณนะคะ”

“ฉันก็ต้องขอบคุณเรา เหมือนกัน..”

กุสุมาดื่มน้ำแล้วมองหน้าของเขา..

“ที่เข้ามาทำให้ชีวิตฉันสมบูรณ์ขึ้น”

ขณะที่สองหนุ่มสาวกำลังกินข้าวพลางคุยกันไป ที่ตรงกันข้ามกับประตูรั้วบ้าน รถยนต์สี่ประตูกลางเก่ากลางใหม่ก็ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาจอด


สูรย์กลับไปทำงานแล้ว แต่ว่าคำพูดของเขายังก้องอยู่ในหูของกุสุมาตามแบบฉบับผู้ใหญ่ที่ผ่านกาลเวลามามากกว่า “ม่ามีเรื่องจะปรึกษา เรื่องเรียนต่อ ม่ายังหาที่เรียนไม่ได้เลย”

“เอกชนน่าจะมีจะยังพอมีที่นั่ง”

“แต่เกรดม่าไม่ดีนัก จริง ๆ ที่ม่าอยากไปเมืองนอก เพราะม่าอยากจะเปลี่ยนสายการเรียน แต่เมื่อไม่ได้ไป..”

“ก็เปลี่ยนที่เมืองไทยก็ได้ แต่ตอนนี้เราต้องถามตัวเองก่อนว่า อยากเป็นอะไรกันแน่”

“ม่า..ก็ไม่รู้เหมือนกัน ม่ารู้สึกว่าตัวเองไม่ดีก็ตรงนี้แหละ ตรงที่ไม่มีความฝันอะไรเลย ที่ผ่าน ๆ มา เหมือนสนุกสนานไปวัน ๆ เท่านั้นเอง”

“ก็ยังไม่สายนี่ม่า อายุเรายังน้อย ไม่แปลกที่จะมีสับสนบ้าง แต่ถ้าเรายังคิดไม่ได้ว่า จะไปทางไหนดี ก็ลองฟังข้อเสนอของฉันดูอีกสักรอบ..ตามแผนเดิมที่เราวางไว้น่ะมันดีอยู่แล้ว จำได้ไหม วันแรกที่เราไปหาฉันที่ครัวอิ่มสุข เราบอกกับฉันว่า อยากได้งานครัวติดตัวไป จนถึงวันนี้ เราจะเชื่อไหมว่า งานครัวน่ะเป็นงานที่ดีทีเดียวนะ สนใจจริง ๆ บ้างไหม”

“อยู่ในครัวอย่างนั้นหรือ”

“เรียนทำอาหาร เรียนที่ไหนก็ได้ ต่างประเทศน่ะอยากได้กุ๊กไทยเยอะแยะ เรื่องของกินมันเป็นเรื่องใหญ่ เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ เหมือนที่อยู่อาศัย แต่ว่าคนจนก็ต้องกินนะม่า ทำอาหารเป็นซะอย่างเดียว มีงานรองรับแน่นอน ปีนี้ ระหว่างที่ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ ก็กลับไปฝึกงานในครัวตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก ดีไม่ดี ปีหน้า ฟ้าเปลี่ยนสีน้าอ้อยของเราอาจจะหวนกลับมาที่แผนเดิมก็ได้ ช้าไปปี แต่เราไปคราวนี้เราสบายเชียวแหละ มีวิชาดี ๆ ไปด้วย..”

“แต่ว่า”

“ตอนนี้ป้าส้มลิ้ม แกไม่มีอะไรแล้ว เมื่อเช้าก็ยังบอกเลยว่าให้ชวนเรากลับไปฝึกงานครัว ทีนี้แกจะให้วิชาอย่างหมดไส้หมดพุง”

“คุณสูรย์จะเสียการปกครองไหม ถ้าม่ากลับไปอยู่ที่นั่น ม่าก็จะต้องขอสิทธิพิเศษอีกมากมาย”

“แล้วเราไม่ดีใจหรือที่จะได้เป็นคนพิเศษของที่นั่น..ม่า ฟังฉันนะ ปีสองปีที่เราขอไว้ ปีแรก เรากลับเข้าไปฝึกงานครัวให้เก่งกาจ ส่วนปีที่สองสาม เราจะไปเรียนต่ออย่างอื่นก็เรื่องของเรา หรือจะไปเมืองนอกก็ไม่แน่..แต่ปีนี้ ไหน ๆ มันก็ล่วงเลยมาแล้ว กลับไปฝึกงานครัว เพราะในอนาคต ถ้าเราอยากอยู่กับฉันทุกวันขึ้นมา ทุก ๆ วันในอนาคตของเรา เราจะได้ช่วยกันให้เต็มที่ เพราะเราคือเจ้าของกิจการ คนอื่นจะลาออก ไปทำอะไรก็ได้ แต่เราจะทิ้งร้านไม่ได้ เพราะร้านนี้สูตรอาหารมันจะสืบทอดไปสู่ลูกหลานของเรา หรือเงินตรงนี้ จะเป็นทุนให้เราต่อเงินอย่างอื่นมาได้...ก็ลองเก็บไปคิดดูนะ..”




จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ค. 2554, 23:38:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ค. 2554, 23:39:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 3030





<< 28.คุยเรื่องของเราดีกว่า   ตอนจบ..(แฮปปี้เอนดิ้ง..จุ๊บ ๆ) >>
กาแฟสีชมพู 20 ก.ค. 2554, 00:59:50 น.
หวานได้จนย่อหน้าสุดท้ายเลยพระเอกเรา


คิมหันตุ์ 20 ก.ค. 2554, 01:39:38 น.
วางอนาคตไกลมากกกกกค่ะคุณ สูรย์


sai 20 ก.ค. 2554, 01:42:21 น.
แก้ปัญหาได้เยี่ยมค่ะ


Zephyr 20 ก.ค. 2554, 02:20:01 น.
หวานเสมอต้นเสมอปลายเลยคุณสูรย์ แต่ภัยจะเยือนหนูม่าอีกแล้ว เรื่องวิ่งหาเธอตลอดเลย


nutcha 20 ก.ค. 2554, 09:39:35 น.
คุณสูรย์น่ารักมากกกกกก....อิจฉาม่าจังเลย


ปอยอะนะ 20 ก.ค. 2554, 10:25:38 น.
โอ้ คุณสูรย์ ชายในฝัน 555


เจ้าชายน้อย 20 ก.ค. 2554, 13:43:00 น.
เปนหลักเปนฐานมากๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account