ลบเหลี่ยมรัก / ( เหลี่ยมร้าย บำเรอรัก )
เพราะเกมแมวยักษ์(เสือ)วิ่งไล่จับหนูนา มีคนเล่นตุกติกผิดกติกา แม่หนูเลยถูกพ่อเสือลากเข้าป่า...และตกล่องปล่องชิ้นกลายเป็นเมียเสือไม่รู้ตัว!!!

............

“ ฮักน้องบ่อ้าย” ดวงหน้างามพลันแดงระเรื่อ หัวใจกระตุกไหว พอหลุดปากออกไปก็อยากจะตะปบคำพูดนั้นกลับคืน เฮ้อ...เสียเหลี่ยมเขาแล้วไหมละลูกจันทร์ !
ชายหนุ่มยิ้มนัยน์ตาพราวระยับ ท่าทางเจ้าเล่ห์ยียวน แต่ก็หล่อเหลากระชากใจ ก่อนจะตอบหล่อนเสียงดังว่า “ สุด ๆ ” ทองภูมิเชยคางหญิงสาวด้วยสัมผัสแห่งรัก เขาจุมพิตริมฝีปากอวบอิ่ม เนิ่นนานและอ้อยอิ่งด้วยความรักซึ่งอัดแน่นล้นใจ...

........

ห้าปีก่อน ทองภูมิ หรือ ’ทิกเกอร์’ ถูกพิพากษาให้เป็น ไอ้บ้ากาม จากข้อกล่าวหาของ ลินจันทร์ ซึ่งอ้างว่า เขาแอบถ้ำมองดูหล่อนอาบน้ำ เรื่องนี้ได้กลายเป็นรอยแค้นแรกพบฝังใจทิกเกอร์ตลอดมา และไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์เล็ก ๆ ครั้งนั้นส่งผลให้ลูกครึ่งหนุ่มเลือดร้อนผู้หมอนหมิ่นถูกคลุมถุงชนแต่งงานกับ อรอินทร์ สาวสวยประจำหมู่บ้านซึ่งกำลังตั้งท้องกับ หรรษพล เพื่อนรักซึ่งกำลังมีอนาคตไกล และการช่วยเพื่อนทำให้ทองภูมิต้องตัดใจจากหนึ่งฤทัย ครูสาวซึ่งน้องหรรษพลด้วย



ทว่าหลังจากคลอดลูกชาย น้องขนุน ไม่ทันข้ามปี อรอินทร์ก็ย้อนกลับไปคบกับ หรรษพล การผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างเพื่อนจึงขาดสะบั้นลง ทั้งที่ทองภูมิยอมเสียเกรียติรับผิดชอบเป็นพ่อในท้องให้อรอินทร์แต่สุดท้าย หรรษพลเองก็กลืนคำพูดตนเอง พาอรอินทร์หนีตามกันไป ....







Tags: http://writer.dek-d.com/o-iambear/story/view.php?id=715808

ตอน: บทที่ ๕ ผู้ชายในฝัน( ฝันร้ายสุดๆ )

บทที่ ๕ ผู้ชายในฝัน( ฝันร้ายสุดๆ )


ลินจันทร์มองร่างสูงใหญ่ซึ่งดูดีในชุดเสือยืดกับกางเกงยีนสีซีด หล่อนยอมรับวาบแรกหัวใจถึงกับเต้นผิดจังหวะ ด้วยดวงหน้าคมคร้ามแดด รวมถึงผมสีน้ำตาลยาวหยักสวยปกต้นคอ สร้างภาพหนุ่มในฝันตั้งแต่แรกเห็น


ผู้ชายคนนี้พกหาหุ่นเขาสมาร์ตกระชากใจ ไหล่กว้าง แผงอกหนา ขาก็ยาวรับช่วงตัว ดูดีอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้ชายเท่จัดในพื้นที่ห่างไกลความเจริญเยี่ยงนี้


เอ๊ะ...พ่อ พันธุ์หนุ่มคนนี้ มาหลงเสน่ห์บ้านนอกได้อย่างไร ที่สำคัญเขาเป็นใครนะ หน้าตาดูคุ้นเสียจนหล่อนนึกว่า เคยรู้จักกันมาตั้งแต่ชาติก่อน!


เอ...หรือเคยทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขัน จะว่าไปแล้วในความโชคร้ายก็มีความโชคดีจริง ๆ หลังจากเปิดรับชีวิตใหม่ ๆ ลินจันทร์ได้พบว่า ยังมีผู้ชายคนอื่น ๆ ที่ น่ารักน่าหยิกกว่ารหัทเป็นกอง รวมถึงผู้ชายคนนี้
กระนั้นลินจันทร์ยังวางมาดราวนางพญา แสร้งมองเขาเพียงหางตา หากหัวใจกลับกระตุกไหว
เขางดงามปานเทพบุตร นี่แหละผู้ชายในฝันที่สาว ๆ ปรารถนาอยากตื่นมาเจอในทุกเช้า ๆ


และภายในเรือนร่างกำยำ ชายหนุ่มยังมี บุคลิกอันน่าเย้ายวนใจ ดิบ เถื่อน พอประมาณ เรียกว่าเสน่ห์ทางเพศล้นเหลือ จนหล่อนต้องหน้าแดงระเรื่อ มือไม้ไขว้กันไปหมด!


ครั้นเพ่งพิศให้นานขึ้นหน่อย หล่อนจึงเห็นโครงหน้าโดดเด่น เขาคงเป็นลูกผสม ระหว่างคนพื้นที่ บวกกับชาวอเมริกัน ไม่ก็คงมีเชื้อ ญี่ปุ่นอีกนิดหน่อย และความเป็นลูกเสี้ยวของชายหนุ่มทำให้ลินจันทร์ประหวั่นใจ ความเกลียดชิงชัง ในระดับรุนแรงกำลังจู่โจมหล่อนอย่างลับ ๆ


อย่าเชียวนะ แม่หนูนา หล่อนเกลียดชาวต่างชาติไม่ใช่เหรอ จำใส่ใจไว้สิ คนพวกนี้ไม่ใช่หรือ ที่ใช้เงินซื้อแม่ไป!


แล้วจู่ ๆ ลินจันทร์ก็ต้องส่งเสียงเขียว กลบเกลื่อนความรู้สึกตนเอง


“มองนานไปแล้วมั้งพี่ชาย” ริมฝีปากสีสวยบิดโค้งลง ท่าทางหล่อนยียวนใช่เล่น ก็จึงวางสีหน้ากึ่งบึ้งกึ่งยิ้มตอบกลับมา ได้อย่างน่าหมั่นไส้ที่สุด


“อ๊ะ...ยังไม่หยุดมองอีก เสียมารยาทที่สุด” หล่อนค้อนควัก ค้อนจริง ค้อนจังจนหัวเราะขบคัน


“นี่ ฉันว่าใครคุณนั่นแหละ ยังจะมาหัวเราะเยาะอีกเหรอ บ้าที่สุด! ” ลินจันทร์ผุดลุกขึ้น และมองเขาอย่าง


และเขาก็ตอบกลับหล่อนด้วยสายตาพราวระยับ แล้วยิ้มมุมปากน้อย ๆ เพียงแค่นั้นลินจันทร์ก็คะเนว่าเขาคงเห็นหล่อนเป็นไก่หลง นี่คงเหมารวมว่าหล่อนจะไปไหนต่อไหนได้ง่าย ๆ ล่ะสิ


“รอคนรับใช่ไหม งั้นก็ไปกันได้แล้ว” เสียงเข้มกับท่าทีขรึมเข้ม พลอยให้ลินจันทร์ระวังตัว
นี่คงไม่ใช่พวกสิบแปดมงกุฎหรือแก๊งค้ามนุษย์ คิดล่อลวงหล่อนไปขาย ที่ชายแดนหรอกนะ


หญิงสาวส่ายหน้าพรืด รวบรวมสติ มองหาใครสักคนที่จะช่วยตน หากไม่มีแม้สักคนที่จะหันมาสนใจ


“เอ้า...เร็วสิ ยังยืนแข็งอีก นี่...ถ้าเธอชื่อ ลูกไม้ ลูกลิง อะไรนั่น ฉันนี่ละที่มารับเธอแทนแหม่ม เข้าใจ้”


เขามองหล่อนอย่างเหยียด ๆ ครั้นเห็นสายแววตาหวาด ๆ กับท่าทางสั่นสู่ในเรือนร่างเย้ายวนใจของลินจันทร์ เขาก็นึกสนุก ให้ตายเถอะ...หล่อนช่างน่าขยำดีแท้ ผู้หญิงอะไร! ทำให้ร้อนรุมจนแทบจะห้ามใจไม่ไหว


“ตาบ้า! ” ลินจันทร์กรี๊ดใส่หน้าเขาที่แกล้งเรียกชื่อเล่นหล่อนผิด ๆ ถูก ๆ หน็อยแน่ะ รู้จักลินจันทร์น้อยไปแล้ว ชิ!


“ฉันชื่อ ลูกจันทร์ย่ะ กรุณาบันทึกในหน่วยความจำของคุณเสียใหม่ด้วย” หญิงสาวเท้าสะเอว ยืดตัวสูงเท่าที่จะทำได้ ผู้ชายอะไร หน้าตานับจัดว่าดี เสียแต่ปากร้าย ร้ายจนหล่อนให้คะแนนติดลบ!



“โอเค ลูกจันทร์ก็ลูกจันทร์” เขาแกล้งทำเสียงต่ำประชด และมันได้ผล เพราะทำให้ขนแขนหล่อนลุกซู่ ผู้ชายคนนี้จะว่าน่ากลัวก็น่ากลัว หากมีแวบหนึ่งที่หล่อนรู้สึกว่าเขาเหมือนเด็กที่ชอบยั่วแหย่คนอื่น


หึ...เห็นคนสวยแล้วชอบแหย่ สงสัยเป็นพวกโรคจิต!


พอคิดได้ดังนี้ หล่อนก็ใจเสีย ดูเอาเถิดหน้าตาหื่นพอประมาณแบบนี้ จะให้ไว้ใจไปส่งได้อย่างไรกัน



“’งั้นคุณชื่ออะไร? ” ดวงตาคู่สวยมีประกายคมกล้า หล่อนมองลึกไปที่ดวงตาเขาซึ่งกระตุ้นความทรงจำให้ผุดพรายทีละนิด ท่าทางแบบนี้หล่อนเคยเห็นทีไหนมาก่อนนะ? บ้าจริงมาความจำเสื่อมอะไรตอนนี้! ลูกจันทร์เอย



“ฉันเป็นแค่คนขับรถ ชื่ออะไร คงไม่มีค่าพอให้เธอต้องสนใจ จบไหม” เอ่ยห้วน ๆ แล้วก็ก้าวพรวดเข้าไปหยิบกระเป๋า ชายหนุ่มเตรียมผละไปที่รถ หากลินจันทร์นึกกลัวเขาเป็นพวกมิจฉาชีพจึงไม่กล้าก้าวตาม ได้แต่ดึงดันปักหลัก พลางใช้สายตามองหาทางหนีทีไล่



“ฉันจะไว้ใจคุณได้ยังไง จู่ ๆ โผล่มาแบบนี้ ตัวก็ใหญ่อย่างกับหมีควาย! ถามจริง มาหลอกฉันไปขายหรือเปล่าก็ไม่รู้ อึ๋ย...” หล่อนทำท่าแขยง ได้น่ารักน่าหยิกจริง ๆ และไอ้คำว่าหมีควายอะไรนั่น หล่อนก็จงใจ เน้นให้เขาโกรธ



“ถ้าไม่อยากไป เธอก็รออยู่นี่แล้วกัน แต่กว่าแหม่มจะทำธุระเสร็จคงเที่ยง หรืออยากจ้างสามล้อเครื่องไปส่งก็ตามใจ”



“เออ...ฉัน...” ลินจันทร์คิดหนัก มองเขาสลับกับสามล้อเครื่องรับจ้างซึ่งจอดเรียงอยู่หลายคัน



“เร็วสิจะเอาไง ฮึ ... ฉันไม่มีเวลามาคอยตารับตามส่ง ’เด็ก’ อย่างเธอหรอกนะ เสียเวลาที่สุด”



“เด็กเหรอ ตาบ้า!” หล่อนแทบกรี๊ด เขาเอาส่วนไหนคิด ถึงมองหล่อนเป็นเด็ก



ต้าย พ่อหมีควาย คิดว่าตนเองใหญ่มาจากไหนถึงได้ข่มคนที่พึ่งเห็นหน้าแบบนี้ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ชิ !



“อืม อยากยืนรอก็ตามใจนะ ระวังตัวด้วยละ แถวนี้มันน่ากลัว” ไม่พูดเปล่ายังหิ้วกระเป๋าหล่อนออกไปด้วย ทองภูมิไม่ได้แกล้งยั่วหล่อนหากเขาเป็นห่วงลูกชาย จึงไม่อยากเสียเวลากับหล่อน



ลินจันทร์หน้าแดงก่ำ จ้ำพรวดก้าวตามร่างสูงไปติด ๆ เขากล้าดียังไงถึงหิ้วกระเป๋าแล้วเดินลิ่ว ๆ โดยไม่สนใจคนเป็นเจ้าของสักนิด



“ นี่ ๆ หยุดนะ ฉันบอกให้หยุด” หล่อนเข้าดึงแขนเสื้อเขาสุดฤทธิ์ เขาเริ่มรำคาญจึงคำรามใส่ ก่อนจะปัดมือหล่อนออก ทำราวกับว่าลินจันทร์เป็นเพียงแมงหวี่ แมลงวันที่บินมาตรอมให้รำคาญใจ!



“ว้ายฉันเจ็บนะ ไอ้บ้า ไอ้...ไอ้ฝรั่งดอง ฉันบอกให้หยุดเดี๋ยวนี้” แล้วสิ่งที่หล่อนปรามาสเขา มันส่งผลให้ดวงหน้าคร้ามแดดหันมาจ้องหล่อนเขม็ง ให้ตายเถอะเวลาเขามีอารมณ์กรุ่น ๆ ช่างดุดันเหมือนเสือร้ายพร้อมตะครุบคอหอยเหยื่อให้ขาดใจตายได้ในเสี้ยววินาที



และเมื่อต้องเผชิญหน้ากันหญิงสาวก็ร้อนผ่าวไปร่าง ชายหนุ่มขบกรามแน่น เขาพ่นลมหายใจหนักหน่วงเลยผ่านรดหน้าหล่อน



“ฉันขอเตือนไว้เลยนะ ขืนเรียกฉันอยากนั้นอีกทีเดียว เธอเจอดีแน่” เขาข่มเสียงตนเอง เกือบพลั้งมือทำร้ายหล่อนด้วยความโมโห



“เจอดีอะไร ฮึ เจอดีอะไร้ ไม่ต้องมาขู่ให้กลัวเลย ฉันไม่ใช่เด็กอมมือ” หล่อนเถียงข้าง ๆ คู ๆ



“โอ...ชอบท้าทายนักใช่ไหม ได้...คราวหน้าถ้าฉันได้ยินว่าเรียกฉันแบบนั้นอีก ฉันจะจูบเธอให้ร้อนฉ่าไปทั้งตัว แล้วถ้ายังเรียกไม่หยุด ฉันก็จะ...จะ ขยำ” เขาทำสีหน้าสีตา และท่าทางที่หล่อนกลัวจนลนลานเลยทีเดียว



“ ไอ้โรคจิต ! ” ลินจันทร์สบถคำนั้นในดวงใจ ไม่กล้าเอ่ยให้เขาได้ยินด้วยซ้ำ ดวงหน้าหญิงสาวซีดเผือด ขอบตาร้อนผ่าว ผู้ชายคนนี้ใจร้ายที่สุด!




ครั้นเห็นลูกแมวเชื่องลง เขาจึงปลอบใจด้วยการยื่นโทรศัพท์ให้ ในจังหวะนั้นหญิงสาวเอาแต่นิ่ง
ไม่กล้าตอแยอีก กระทั่งปลายสายกรอกเสียงกลับมานั้นแหละ หล่อนถึงได้คุยกับหนึ่งฤทัย และยอมเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย



กระนั้นลินจันทร์ยังมิวายแสดงมาดนางพญาตลอดการเดินทางไปสู่หมูบ้านเล็ก ๆ ซึ่งหล่อนดั้งดันมารักษาแผลใจ ซึ่งดูเหมือนว่าหญิงสาวกำลังจะย่างเท้าเข้าไปหาแผลเก่าที่เคยก่อร่วมกันกับผู้ชายคนนี้ ทองภูมิ!





จวบจนถูกส่งตัวถึงหมู่บ้าน หนองใสดินงาม อย่างปลอดภัย ลินจันทร์จำต้องนั่งสำรวมอยู่บนเรือนหลังใหญ่ หล่อนแทบไม่ได้ขยับตัวไปไหน เพราะต้องคอยไหว้และตอบคำถามผู้ใหญ่ของท้องถิ่นซึ่งแวะเวียนมาบ้านหนึ่งฤทัยไม่ขาดสาย



กระนั้นหญิงสาวก็เก็บอารมณ์ได้ดี ไม่มีอาการหงุดหงิด หรือเหวี่ยงใส่ใครให้เห็น หากหล่อนก็เพลียจากการเดินทางไม่น้อย ดวงหน้างามจึงตูมนิด ๆ ไม่ใคร่รับแขกเท่าที่ควร




กว่าจะเลี่ยงมาอยู่ในห้องส่วนตัวจัดเสื้อผ้าไปจนถึงของใช้จุกจิกได้ เวลาจึงล่วงผ่านเป็นบ่ายซึ่งหนึ่งฤทัยกลับมาพอดี หลังบานประตูห้องนอนซึ่งสองสาวนั่งกันอยู่เงียบ ๆ นั้น ลินจันทร์เกิดอาการกระส่ายกระสับ หล่อนคอยหลบสายตารุ่นพี่ซึ่งลอบมองมาเป็นระยะ ๆ



“ไหนเล่ามาให้เอื้อยฟังได้หรือยัง เรื่องเป็นยังไง ถึงมาหาเอื้อยปุบปับอย่างนี้ ก่อนปีใหม่ลูกจันทร์ บอกว่ากำลังจะหมั้นไม่ใช่เหรอ...เอ แล้วมาถึงนี่ แฟนไม่ว่าหรือไง” น้ำเสียงราบเรียบนั้นสร้างแรงกดดันให้หญิงสาวมหาศาล อีกทั้งท่าทีหนึ่งฤทัยคล้ายคนอ่านเกมทัน นี่ละหนอผู้เป็นแม่หมอ และศิราณีของสาว ๆ ในกลุ่ม ใครทำอะไร ที่ไหนอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องนั้นเกี่ยวข้องกับหัวใจด้วยแล้ว หนึ่งฤทัยเป็นเดาทางออกไปเสียหมด



ลินจันทร์รู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ กลัวเรื่องที่ปดไว้ไปจะแดงขึ้น แต่ให้ปิดปากเงียบยิ่งไม่ควรทำ ด้วยหนึ่งฤทัยเป็นคนที่หล่อนเคารพรัก ยิ่งพอได้ระลึกถึงเรื่องหมั้นหมายซึ่งเคยบอกครูสาวไว้ หัวใจหล่อนก็ร้าวไหว ภาพที่สร้างเอาไว้สวยหรู บนเส้นทางที่โรยด้วยกุหลาบจบสิ้นลง และยากเกินจะสร้างขึ้นมาใหม่
ลินจันทร์เป่าลมหายใจน้อย ๆ ระบายความเครียดซึ่งค้างใจ หล่อนหันไปมองครูสาวด้วยหวังให้อีกฝ่ายเข้าใจในสิ่งที่หล่อนผิดพลาด


“บอกตามตรงพี่แหม่ม ลูกจันทร์ไม่รู้จะเริ่มเล่าตรงไหนดี ชีวิตวุ่นวายไปหมด เจอแต่เรื่องแย่ ๆ จนอยากหยุดชีวิตไว้แค่นี้...ถ้าลูกจันทร์ตายมันคงดี เรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะได้ตายไปพร้อมกับลูกจันทร์ ไม่ต้องมาทนเจ็บกับความไม่ซื่อสัตย์ของใครบางคน” ดวงตาหล่อนลุกวาว ดวงหน้างามเชิดสูง



“โธ่...ลูกจันทร์ คิดแค้นคนอื่นแล้วมาลงที่ตัวเอง ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเลย ทุกปัญหามีทางแก้ อย่าด่วนตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบยังไงก็มีเอื้อยคนหนึ่งที่พร้อมช่วยลูกจันทร์เสมอ เอื้อยอยู่ข้างลูกจันทร์เสมอ เราเคยสาบาน ผูกแขนเป็นพี่น้องกันจำได้ไหม ตกทุกข์ได้ยาก เป็นตายร้ายดีอย่างไร ก็ต้องดูแลกัน” หนึ่งฤทัยไม่เคยเห็นลินจันทร์ปลงกับชีวิตเช่นนี้ แต่ไหนแต่ไร หล่อนแกร่ง เข้มแข็ง เป็นสาวมั่น แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น น้องสาวที่เธอรู้จักถึงได้เหมือนคนแบกโลกไว้ทั้งใบเช่นนี้


เป็นเพราะความรักใช่ไหม ถึงทำให้คนเราต้องตกอยู่ในวังวนแห่งความทุกข์ ตัวเธอก็เช่นกันติดกับในบ่วงรัก หนึ่งฤทัยรักผู้ชายคนหนึ่งมานานหลายปี มันช่างน่าละอายนัก เธอหลงรักเขาข้างเดียว โดยที่อีกฝ่ายไม่เคยรู้!



หนึ่งฤทัยยิ้มน้อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้รุ่นน้อง จับมือหล่อนมากุมไว้แล้วถ่ายทอดกำลังใจให้ ถึงจะไม่ใช่พี่สาวโดยสายเลือด หากเธอทั้งรักทั้งเอ็นดูลินจันทร์ยิ่งนัก ยามนี้ลินจันทร์น้ำตาคลอเบ้า หัวใจซึ่งอ่อนล้าถูกเติมเต็มด้วยความรักจากรุ่นพี่ซึ่งเข้าอกเข้าใจหล่อนไม่เปลี่ยนแปลง



“เอาละ...ถ้าไม่สบายใจเอื้อยไม่ถามให้มากความหรอก ลูกจันทร์พักผ่อนเถอะ เดี๋ยวเอื้อยขอตัวไปดูเด็กที่โรงเรียนก่อน ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ไปตรวจความเรียบร้อยเลย มีอะไรให้เด็กที่บ้านไปเรียกพี่ ไม่ก็โทรเข้ามือถือนะ” หนึ่งฤทัยว่าพลางขยับตัวลุกขึ้นยืน หากลินจันทร์รีบคว้ามือเธอไว้ก่อน



“พี่แหม่มรอลูกจันทร์แป๊บนึงนะ ขอไปอาบน้ำก่อน อยู่บ้านไม่มีอะไรทำขอตามไปช่วยงานที่โรงเรียนดีกว่า ไหน ๆ ตั้งใจมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก...ลูกจันทร์ก็อยากไปเรียนรู้งานตั้งแต่วันนี้เลย”



“หือ วันนี้เลย แน่ใจน้า” ครูสาวมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เชื่อ ตั้งแต่รู้จักกันมาหล่อนไม่ชอบ เด็ก คนแก่ และชาวต่างชาติ! เอ ตอนนี้คงรวมถึงผู้ชายด้วยกระมัง



“เตือนไว้ก่อนนะลูกจันทร์ ตอนบ่ายเด็ก ๆ พึ่งตื่นนอน ทั้งงอแง เดี๋ยวร้องเข้าห้องน้ำวุ่นวายกันไปหมด ลูกจันทร์มาเหนื่อย ๆ เอื้อยว่าจะหงุดหงิดเอา” เธอพูดเสียลินจันทร์เห็นภาพในหัว “จิ๊บ ๆ พี่แหม่ม ดีกว่าอยู่ที่นี่ ออกไปเดินยืดแข้งยืดข้า ได้สูดอากาศสดชื่น สมองจะได้ปลอดโปร่ง ”



“แต่เอื้อยอดเป็นห่วงไม่ได้ อยู่ ๆ ลูกจันทร์กลายเป็นนางงามรักเด็ก แล้วที่บอกว่าอยากเป็นพี่เลี้ยงเด็ก บอกตามได้ยินครั้งแรกเอื้อยนึกว่าหูฝาด เด็กกับลูกจันทร์ดูไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไหร่ ” หนึ่งฤทัยเย้า เธอหัวเราะเสียงใส ใช้สายตามองคนงามด้วยเลศนัย


“แหม…จริง ๆ แล้วลูกจันทร์รักเด็กนะ แต่แสดงออกไม่เป็นน่ะ ยังไงเชื่อมือเถอะลูกจันทร์เถอะมาสมัครเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ก็ต้องพี่เลี้ยงสิพี่แหม่ม เอาไว้ลูกจันทร์ แปลงร่างเป็น’ ซีอุย’ กินตับเด็กเมื่อไหร่ เดี๋ยวพี่แหม่มก็รู้เองละ” คนพูดเสียงเข้ม สีหน้าสีตาเป็นจริงเป็นจัง จนหนึ่งฤทัยหวั่นจิต สาวสวยคนนี้ แรงทั้งกิริยาและคำพูดไม่มีใครเกิน



“สมแล้วละที่เป็นลูกจันทร์ อืม...ว่าไปแล้วโรงเรียนเอื้อยมีแม่มดไว้ปราบเด็กจอมแก่นสักคนก็ดี เพราะใช้ไม้อ่อน บางทีไม่ได้ผล ต้องหาคนที่ใจถึงแบบลูกจันทร์นี่แหละ เด็กดื้อจะได้กลัว แล้วให้เอื้อยหาหม้อต้มยา หรือ พวกกิ้งก่า กิ้งกือ ไว้ด้วยไหม ” หนึ่งฤทัยเล่นด้วย เธอยิ้มมุมปากนิด ๆ



“ดูพี่แหม่มสิ ให้ลูกจันทร์เป็นแม่มดเลย ความจริงลูกจันทร์เป็นนางฟ้ารักเด็ก ม้ากมาก ต่างหากละ ” ลินจันทร์ค้อนเล็ก ๆ “ จ้ะ นางฟ้าก็นางฟ้า”



“ประชดกันเห็น ๆ ” ลินจันทร์หัวเราะร่วน นึกภาพตัวเองถือไม้เรียว ส่งเสียงแว้ดไล่ต้อน เด็กจอมทโมนตัวน้อย ๆ “ลูกจันทร์เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดแล้ว แค่เติมความน่ารักอีกหน่อย ลูกศิษย์ตัวน้อย ๆ ของเอื้อยก็หลงแย่ คิดดูมีพี่เลี้ยงที่ไหน สวยเท่าน้องสาวคนนี้อีก สงสัยผู้ปกครองหนุ่ม ๆ คงมาเฝ้าหน้ารั้วทุกวัน”



“ไม่เอาละ พวกเฒ่าหัวงู ขืนมายุ่งกับลูกจันทร์นะ จะฉับ ๆ ให้ดู ” หล่อนทำนิ้วเป็นกรรไกรแสดงท่าประกอบเสียง ‘ฉับ’ ซึ่งดูน่ากลัวจนหนึ่งฤทัยต้องตบอกตนเองเบา ๆ



“บ้าน่ะลูกจันทร์ เอื้อยขอเตือนเลย ‘บ้านเด็กดี’ เป็นโรงเรียนเตรียมอนุบาล เพราะฉะนั้นลูกจันทร์ห้ามแผลงฤทธิ์รู้ไหม ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือ ผู้ปกครอง”



“โอ๊ย...พี่แหม่ม พูดให้ขำ ๆ คิดมากเป็นยายแก่ไปได้ ตอนนี้ลูกจันทร์เป็นคนใหม่แล้ว สัญญาว่าจะสงบเสงี่ยม อยู่กับล่องกับลอย ทำตัวเรียบร้อยประหนึ่งผ้าพับไว้”



“เฮ้อ...ฟังนะ เพราะรักหรอกเอื้อยถึงกล้าพูดตรง ๆ กับลูกจันทร์” หนึ่งฤทัยวางสีหน้าลำบากใจ เธอบีบมือลินจันทร์เบา ๆ “พูดเถอะพี่แหม่ม ลูกจันทร์ไม่โกรธหรอก ” หล่อนเม้มปากชิด เห็นดวงหน้าหนึ่งฤทัยแล้วนึกหวั่น



ครูสาวทอดถอนใจ แล้วเอ่ยอย่างชัดแจ้งว่า “ลูกจันทร์ไม่ต้องสัญญาอะไรกับเอื้อยหรอก ถึงอย่างไรลูกจันทร์ก็ทำไม่ได้ จริงไหม... นางสิงห์ยังไงก็เป็นสิงห์วันยังค่ำ ให้เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นคงยาก!”



ลินจันทร์หลบสายตาหนึ่งฤทัยวูบหนึ่ง หล่อนหน้าเสียไปทีเดียว อพิโธ่...ในสายตาคนอื่นหล่อน ‘ร้าย’ ขนาดนั้นเชียวหรือ



“เพราะฉะนั้นตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่ พี่ขอแค่รักเด็ก ดูแลเอาใจใส่พวกเขาให้มาก ๆ อย่าทำให้เอื้อยเสียชื่อก็พอ ขอแค่นี้ทำได้ไหม อย่าลืมนะว่าเอื้อยเชียร์ลูกจันทร์แค่ไหน ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่า ลูกจันทร์ไม่เหมาะกับงานนี้” คำพูดนี้ลินจันทร์เจ็บจี๊ดไม่น้อย “มันก็จริงนะพี่แหม่ม ลูกจันทร์เลี้ยงตัวเองยังไม่รอด แล้วอย่างนี้จะเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้ยังไง” หล่อนบ่นอุบอิบ ด้วยอยากหนีชีวิตเมืองหลวง เลยยกแม่น้ำทั้งห้า ขอทำงานกับหนึ่งฤทัย ทั้งที่ตนไม่มีคุณสมบัติพอจะเป็นพี่เลี้ยงด้วยซ้ำ



“เอื้อยว่าลูกจันทร์ยอมรับตั้งแต่ต้นก็ดี สรุปว่าจริง ๆ แล้วไม่อยากเป็นพี่เลี้ยงเด็กใช่ไหม แค่อยากหลบหน้าใครมากกว่า”หนึ่งฤทัยรุกต่อ


“ปละ เปล่าเลย ไม่ใช่อย่างนั้นนะพี่แหม่ม” หล่อนปฏิเสธเสียงแข็ง หากดวงหน้ากลับซีดเผือด



“โอเค...ถ้าไม่อยากบอกเอื้อยตอนนี้ไม่เป็นไร เอื้อยว่าอย่างลูกจันทร์เก็บความลับได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวคงหลุดปากบอกเอง” ครูสาวมาเหนือเมฆ จึงเริ่มขู่คนที่แต่งเรื่องหาข้ออ้างมาอยู่ที่นี่


“เอื้อยอยากรู้นัก วันหนึ่งถ้านางสิงห์ตัวนี้ เจอราชสีห์ตัวจริง ยังจะทำเก่งแบบนี้ไหม” หนึ่งฤทัยเปรียบเปรย หวังลองใจรุ่นน้องและมันก็ได้ผล



“ถ้าวันนั้นมาถึง นางสิงห์ตัวนี้จะทำให้เจ้าป่าหมอบอยู่แทบเท้า จงรักภักดีไปจนวันตาย!”



“โอย...ลูกจันทร์ให้มันน้อย ๆ หน่อย ขี้คุยมากไปแล้วนะเรา ผู้ชายนะไม่ใช่ลูกแมวเชื่อง ๆ จะได้แค่ร้อง หง่าว ๆ เท่านั้น ”


“ไม่เชื่อ พี่แหม่มก็คอยดูแล้วกัน ลูกจันทร์ซะอย่าง”



“จ้ะ แม่คนเก่งแต่เท่าเอื้อยเห็นอาการเนี่ย ลูกจันทร์ทำตัวเหมือนคนอกหักยังไงพิกลน้า” พอหนึ่งฤทัย
จับพิรุธรุ่นน้องได้ เธอจึงไล่ต้อนจนลินจันทร์ใจวับ ๆ หวำ ๆ




“พี่แหม่ม!” ลินจันทร์ค้อนควักให้คนรู้ทัน วินาทีนั้นหนึ่งฤทัยถึงกับเอามือก่ายหน้าผาก ด้วยเห็นปัญหาลอยวนเวียนอยู่เบื้องหน้าเต็มไปหมด



เขมปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ก.ค. 2554, 05:36:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ค. 2554, 18:31:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 1754





<< บทที่ ๔ เกลียดอะไร เจออย่างนั้น    
anOO 21 ก.ค. 2554, 21:15:02 น.
จะเอาลูกจันทร์ไปกำราบขนุนเหรอ
แล้วจะรอดไหมกับหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กเนี้ย


เขมปัณณ์ 21 ก.ค. 2554, 21:38:42 น.
โอ มาแล้ว เย้ ๆๆๆ รอดสิครับ ลูกจันทร์เลี้ยงตัวลูกได้ แต่ เสือตัวพ่อนี่สิ
เหอ ๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account