CEO ชำนาญรัก Inlove Book (ลวงเทพบุตรรัก,ปรารถนารักเทพบุตรต้องห้าม)
เขาเป็นอาจารย์พิเศษ ฉฉลาดจนกรดต้องเรียกพี่ มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อ หยิ่งยโส จอมไว้ตัว ผู้ชายสมบูรณ์แบบเจ้าเสน่ห์ และ... อีกหนึ่งความลับ เขาคือโฮสต์!
Tags: โรมานซ์, ฟีลกู๊ด, คู่กัด, อีวอนน์,มัตติกา

ตอน: Chapter 3 หนีไม่พ้น


ให้ตายเขาคิดว่าจำดวงตาคู่นี้ได้!

ไอ้เฮคเตอร์จอมแสบ เจ้าคลินตันวายร้าย งานนี้ไม่ตายดีแน่ ไหนบอกว่าเช็กชื่อลูกค้าช่วงอาทิตย์นี้ดีแล้ว ย้ำนักย้ำหนาว่าไม่มีไง แล้วนี่มันอะไร ทำไมยัยเฉิ่มที่เห็นหน้าเขาเหมือนเห็นผีถึงมาอยู่ที่นี่ได้!

อีวอนน์ได้แต่เอ็ดอึดอยู่ในใจ ดวงตาคู่คมยังจ้องเขม็ง รอยเลือดเล็กๆมุมปากซึ่งช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองจัดการให้ ยิ่งเสริมให้ใบหน้าถมึงทึงดูน่ากลัวมากเข้าไปอีก จนคนตัวเล็กที่ยกมือปิดปากหลบตาวูบ มัตติกาแทบกลั้นหายใจ ใช่ไม่ใช่ไม่รู้ แต่หญิงสาวหมุนตัวอย่างไวคิดจะกลับเข้าไปหมกตัวในห้องน้ำ

ทว่า... ก็ไม่ทัน!

ฝ่ามืออบอุ่นแข็งแรงคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนเธอ มัตติกาหลับตาปี๋ สีหน้าอย่างกับจะบอกว่าอยากจะตายเสียให้ได้ในตอนนี้ เธอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ พลางเอื้อมมือไปแกะฝ่ามือแข็งแรงที่กำต้นแขนตนไว้ออก

“ขอโทษ ฉันจะเข้าห้องน้ำ ดอกเตอร์... เอ้อ เอ๊ย! คุ...คุณมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่า”

เสียงพูดอ่อยๆแสนเบา แต่ฝ่ามือแข็งแกร่งก็ยังกุมไว้มั่น ในระหว่างที่กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นราวกับเสียงสวรรค์ มันดังมาจากทางด้านหลังของทั้งคู่

“ตีตี้ เร็วที่รัก เธอมาเข้าห้องน้ำนานจนพวกเรานึกว่าเธอจะหมกอยู่ในนี้เสียแล้ว”

มิรันด้าคือเจ้าของเสียงสวรรค์นั้น และพอเห็นโฮสต์หนุ่มผละมือจากต้นแขนเพื่อนสนิท ว่าที่เจ้าสาวก็ขมวดคิ้ว เอ่ยถามท่านเค้านท์ตรงหน้าที่ตอนนี้หันมามอง

“มีอะไรหรือเปล่า ขอโทษคุณรู้จักเพื่อนของฉันด้วยเหรอ”

อีวอนน์ส่งยิ้มให้มิรันด้าบางเบา

“ต้องขออภัยด้วยมายเลดี้ เราเพียงแต่พูดคุยกันนิดหน่อย...”

ชายหนุ่มยังไม่ทันได้พูดจะให้จบ มัตติกาก็ชิงพูดเสียก่อนว่า “ไม่มีอะไรหรอก แค่เข้าใจผิดน่ะ เอ่อ... เอ่อ ฉันเดินไม่ถนัดจะล้ม เขาเลยเข้ามาช่วยไปกันเถอะมินนี่”

หญิงสาวเอ่ยพลางก้าวพรวดเข้าไปฉุดแขนของมิรันด้าเพื่อให้ออกเดิน มัตติกาเหลียวมองอีวอนน์แล้วยิ้มแห้ง ผงกศีรษะให้นิดๆก่อนดึงเพื่อนสนิทให้ออกเดินตามกัน แต่มิรันด้าก็ยังไม่วายซักอย่างเป็นห่วง หากมัตติกาไม่เอ่ยขยายความอะไรไปมากกว่านั้น และยังคงปล่อยให้อีวอนน์มองตามมาด้วยแววตาครุ่นคิดแกมเคร่งเครียด

มหาเศรษฐีหนุ่มถอนหายใจ ก่อนล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากในกระเป๋ากางเกง แม้ก่อนหน้านี้อยากโวยไอ้เพื่อนตัวดีทั้งคู่ใจจะขาด แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องรีบจัดการไม่ใช่สิ่งนั้น

“เอรอส” เสียงทุ้มนุ่มลึกดังขึ้นเมื่ออีกฝ่ายรับคำ

“นายจำได้ไหม เมื่ออาทิตย์ก่อนมีนักศึกษาผู้หญิงที่ล้มตรงทางเดินนั่นน่ะ” พอเอรอสซึ่งความจำดีเยี่ยมแม้แต่เรื่องเล็กน้อยยืนยันว่าจำได้ อีวอนน์จึงสั่งความ “ขอข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นในหนึ่งชั่วโมง อาจจะยากแต่ช้ากว่านั้นไม่ได้ เสร็จแล้วส่งข้อมูลมาในมือถือนะฉันจะรอ งานนี้ด่วนของด่วนที่สุด!”

อีวอนน์เก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกง ชายหนุ่มหลับตาลงพลางผ่อนลมหายใจ ก่อนจะเดินตามหลังของหญิงสาวทั้งคู่ออกมายังโถงกลาง เขาหยุดมองนิ่งๆ ก่อนตัดสินใจเดินตรงไปหาผู้จัดการคลับ แจ้งความประสงค์ของตน ก่อนชายที่เตี้ยกว่าเขาราวสามนิ้ว จะพาอีวอนน์ตรงไปยังโต๊ะที่มีมัตติกาและเพื่อนๆนั่งอยู่ ทั้งๆที่ไม่เข้าใจ แต่นายใหญ่สั่งไว้ อะไรที่เป็นความต้องการของพนักงานคนนี้ให้ปฏิบัติตามทันทีห้ามเถียงห้ามสงสัย!

ในตอนนั้นเองมัตติกาที่เพิ่งมาถึงโต๊ะก็นั่งใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ พอนึกถึงสายตาของอีวอนน์เมื่อครู่แล้วเธอก็ยิ่งกว่ากลัว ไม่รู้โชคดีหรืออะไรกันแน่ที่เธอมาเจอเขาที่นี่

แต่ที่แน่ๆ... มันน่าตกใจมากกว่าที่ อีวอนน์ เอส. บราวน์เป็นโฮสต์!

“เมื่อกี๊ที่ไปตามตีตี้ ทายสิฉันเจอใครอยู่ที่หน้าห้องน้ำกับเธอ”

มิรันด้าเปิดหัวข้อเย้าแหย่ แต่มัตติกาหน้าซีดลงไปอีก ส่วนเพื่อนสาวอีกสามคนหูผึ่ง เลิกสนใจหนุ่มหนุ่มที่คลอเคลียชั่วคราว หันมาถามเซ็งแซ่แทบจะพร้อมกัน

“ใครมินนี่!!!”

มิรันด้ายิ้ม ชูแก้วค็อกเทลในมือขึ้น “ฉันให้เดา เริ่มก่อนเลยเจนนี่”

เจนนี่สาวร่างผอมสูง หุ่นนางแบบในชุดเดรสทรงชีธสีน้ำตาลแก่ยกขาขึ้นไขว้ห้าง ในมือยังมีแก้วมาตินี่ถือไว้ไม่ปล่อย เธอเท้าคางกับหัวเข่าตายังจ้องแก้วค็อกเทลที่ตัวเองหมุนไปมาเบาๆและเอ่ยขึ้น

“เจ้าชายจากอังกฤษหรือไงจ๊ะมินนี่ อ๊ะ! ไหนๆตีตี้จะมีเจ้าชายเป็นของตัวเองแล้ว ช่วยบอกหน่อยสิว่า ตีตี้เหมาะจะเป็นเจ้าหญิงทิอาน่าใช่หรือเปล่า”

“ไม่ใช่ ฉันว่าสำหรับตีตี้เธอต้องเป็นเอลล่า ผู้สวมรองเท้าแก้วได้พอดีแน่ๆ”

อลิสสาวหุ่นแซ่บผมสีทองที่เอนอิงพิงซบกับอกล่ำๆของหนุ่มโฮสต์บอกตาเยิ้ม มือเรียวข้างหนึ่งยังวางทาบข้างแก้มเจ้าชายของตนในค่ำคืนนี้ ส่วนอีกฝ่ายก้มลงมองตาหวานฉ่ำ ดูแล้วอาจจะมีซัมติงรองกันไม่ผิดแน่

“ไม่ ตีตี้เหมาะที่จะเป็นมู่หลาน”

เซซิเลียสาวผิวสีคนเดียวในกลุ่มหัวเราะคิกคัก ยามรับแก้วค็อกเทลมาจากเจ้าชายของตน

“บิงโก! งานนี้เจนนี่เดาถูกนะจ๊ะ เขาน่ะเป็นท่านเค้านท์ ผู้ดีมาจากอังกฤษทีเดียว โอ๊ย!มายเลดี้ ฟังซี้ สงสัยคราวนี้ตีตี้จะเจอเนื้อคู่แน่ๆ” มิรันด้าเฉลย แล้วเหล่าสามสาวก็เบิกตาโต เอ่ยถามแทบจะพร้อมกัน

“ท่านเค้านท์คนไหน อย่าบอกนะว่าคนที่พวกเราเห็นตรงเคานท์เตอร์น่ะ”

ว่าที่เจ้าสาวยักคิ้วกลั้นหัวเราะ เมื่อเห็นท่าทางอิจฉาของทั้งสามคน ก่อนหันมามองคนหน้าเหี่ยวหน้าแห้ง

“ว่าแต่ไม่สบายหรือเปล่าตีตี้ ทำไมหน้าซีดจัง ฉันว่ามันซีดมากเลยนะ”

“เปล่า เอ๊ย! ใช่ๆ กลับก่อนได้ไหม”

มิรันด้าหรี่ตามอง และสามสาวที่เหลือก็ส่ายหน้า

“แบบนี้” เจนนี่ยกแก้วมาตินี่ขึ้นดื่ม

และอลิสก็เอ่ยต่อ “ไม่ใช่แล้วละ”

“สบายดีแน่ๆ อย่าหาเรื่องหนีกลับก่อนเลย” เซซิเลียกล่าวบ้าง

ส่วนมิรันด้าปิดท้ายอย่างเคยๆ ด้วยการตอกตะปูปิดฝาโลงให้กับเธอว่า “ไม่สำเร็จนะจ๊ะ หนูน้อย”

แล้วสี่สาวก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน โดยมีอีกสามหนุ่มโฮสต์ยิ้มขำตามกันไป มัตติกาทำหน้าละห้อย

“เอาละ ตอนนี้ก็คงมาถึงไฮไลต์สำหรับคืนนี้เสียที” มิรันด้าวางแก้วเครื่องดื่มของตนลงบนโต๊ะ เธอยิ้มและหันมาขยิบตาให้กับมัตติกาพลางลุกขึ้นยืน แล้วฉุดให้สาวเอเชียในกลุ่มลุกตาม ส่วนคนถูกฉุดสอดส่ายสายตามองหาอีวอนน์ พอไม่พบก็ลอบผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก

“ทางนี้ครับ คุณสุภาพสตรีที่น่ารักทุกท่าน”

ผู้ชายคนหนึ่งอายุราวสามสิบกว่าๆ ดูแล้วน่าจะตำแหน่งสูงกว่าพนักงานโฮสต์เข้ามายืนใกล้ๆเอ่ยบอก พร้อมกับพนักงานชายทั้งสามต่างโค้งตัวและผายมือไปยังด้านขวาของตน เจนนี่ อลิซ เซซิเลียเดินคล้องแขนล่ำๆก้าวนำหน้า ส่วนมิรันด้าโอบเอวมัตติกาเดินตามหลัง

“เราจะไปไหนกันมินนี่”

หญิงสาวกระซิบถาม และว่าที่เจ้าสาวก็ยิ้มตอบ

“เซอร์ไพรส์น่ะที่รัก แต่รู้ไว้เถอะ โชว์เนี่ยต้องจองกันข้ามเดือนทีเดียวนะ แต่โชคดีที่ฉันพอรู้จักคนที่นี่อยู่บ้าง เราเลยได้สิทธิ์พิเศษดู โดยไม่ต้องจองคิวนานเหมือนลูกค้าคนอื่นไงล่ะ”

มิรันด้าบอกอย่างเบิกบาน ระหว่างเดินผ่านชุดโซฟาต่างๆที่มีแขกสาวสาวอยู่เต็ม ห่างจากเคาน์เตอร์บาร์ไปทางด้านหลัง ไม่ไกลนักเป็นประตูกระจกทึบเลื่อนปิดเปิดอัตโนมัติ กลุ่มหญิงสาวเดินผ่านเข้าไป และพบว่าทางเดินนั้นบุพรมสีแดงคล้ำยิ่งส่องกับไฟทึมๆ สำหรับมัตติกาแล้วเธอคิดว่ามันน่ากลัว

แค่สิบกว่าก้าวทั้งหมดก็ไปหยุดที่ประตูบานหนึ่ง ชายผู้นำมาเปิดประตูเข้าไปพลางเชื้อเชิญ มิรันด้าดันหลังให้เธอก้าวเข้าไป ก่อนเจ้าหล่อนจะเป็นคนสุดท้ายที่งับปิดประตูห้อง

ห้องนั้นกว้างพอสมควร มีชุดโซฟาสีดำตัดกับพรมสีแดง บนโต๊ะกระจกจัดวางเครื่องดื่มพร้อม ด้านหน้าเป็นฟลอร์ยกพื้นนิดๆห่างออกไปไม่กี่ก้าว พวกเธอนั่งลงตรงโซฟาชุดนั้น มัตติกายังคงสงสัยว่าทำไมต้องย้ายที่ และมองมิรันด้าซึ่งยิ้มร่าอย่างระแวง ส่วนสามสาวยังคงคลอเคลียกับพ่อหนุ่มของตนอย่างไม่สนใจใคร

มัตติการู้ เพื่อนของเธอนอกจากมิรันด้าแล้ว เจนนี่ อลิส เซซิเลียค่อนข้างที่จะใช้ชีวิตเต็มที่ ทั้งสามสาวไม่ค่อยเครียดเกี่ยวกับเรื่องเซ็ก พวกหล่อนถือเอาความพอใจเป็นที่ตั้ง แต่ถ้าช่วงไหนที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ทั้งสามคนก็จะถือเอาความซื่อสัตย์ต่อคู่ของพวกเธอเป็นหลัก

แต่ตอนนี้ สามสาวต่างโสดสนิท ดังนั้น... มัตติกาถอนหายใจ ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น

เจนนี่แลกจูบกับเจ้าชายของตนดูดดื่ม ส่วนอลิสกระซิบพูดคุยแนบริมฝีปากกับหนุ่มล่ำ ที่มือวางอยู่สะโพกหนั่นแน่นของตน กับเซซิเลียเองนั้นนั่งบนตักแกร่ง มือไม้อยู่ไม่สุขเพราะวนเวียนอยู่แถวซิกแพ็ก ส่วนมือของเจ้าหนุ่มโฮสต์เองก็วางอยู่ข้างอกอวบอิ่ม

คนคงแก่เรียนหน้าแดงได้แต่เบือนหน้าหนี เอ่ยประชดมิรันด้าเบาๆ

“โชว์แบบเนี้ยนะมินนี่ที่ต้องจองข้ามเดือน”

“หื้อใครว่า” มิรันด้าบอกกลั้วหัวเราะก่อนจะขัดจังหวะทั้งสามคู่ “เอ้า! สาวสาวตอนนี้โชว์กำลังจะเริ่ม ปล่อยหนุ่มหนุ่มให้ไปเตรียมตัวกันหน่อยดีไหม”

เจนนี่ อลิส เซซิเลียได้ยินแล้วก็ต่างถอนใจ ปล่อยชายหนุ่มหล่อล้ำกล้ามบึ้กในอ้อมกอดให้ลุกเดินจากไป ทั้งหมดหายออกไปยังประตูที่อยู่ด้านหลังฟลอร์ ไฟที่เปิดอยู่ปิดพรึ่บลง คงเหลือไว้เพียงแค่แสงไฟสลัวพอมองเห็น แล้วเสียงเพลงก็ค่อยๆดังขึ้น มันเป็นเสียงของนักร้องชายที่คุ้นหู... เพราะมัตติกาเพิ่งฟังมาหยกๆ ก่อนมิรันด้ามารับ


So I’ma care for you, you, you
I’ma care for you you, you, you, you, yeah


เสียงดนตรีแม้ช้าแต่เร้าใจเริ่มบรรเลง ตอนที่เจนนี่หันมาหามัตติกา แล้วยิ้มเขินๆทำท่าสะบัดร้อนสะบัดหนาว

“ฉันคิดถึงมิสเตอร์ฟิฟตี้ขึ้นมาเลยตีตี้”

อลิสก็เช่นกัน เธอทำตาเคลิ้มฝัน “พระเจ้า ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแอนา”

“ฉันเตรียมโซ่ แส้ กุญแจมือไว้รอละ” เซซิเลียพูดขำๆ แต่ตาจ้องที่บานประตูซึ่งค่อยๆเปิดออก


You make it look like it’s magic
Cause I see nobody, nobody but you, you, you


เท่านั้นสามสาวก็ตาลอย ต้องมนตร์ไปเรียบร้อย ได้แต่ชะเง้อมองคอยให้ประตูนั้นเปิดออกจนสุด เสียงกรี๊ดดังขึ้นเบาๆ เมื่อบรรดาหนุ่มนักเต้นค่อยๆทยอยออกมาจนครบเจ็ดคน ท่าเต้นกระชากใจสาวสาว แถมด้วยเนื้อเพลงและจังหวะชวนให้เลือดกำเดาไหลนั่น ดูแข็งแรงแต่ก็เซ็กซี่ไปในทีเดียวกัน ความพร้อมเพียงทำให้รู้ว่าพวกเขาเหล่านี้คงต้องฝึกมามากพอตัว แต่... ช้าก่อน ทำไมพวกนี้ถึงปลดผ้าคลุมกันล่ะ!

“นี่เธอพาฉันมาดูผู้ชายเต้นเปลื้องผ้า!”

มัตติกากระซิบเสียงดุ เหล่าสามสาวซ่าหัวเราะคิก ส่วนมิรันด้าพยักหน้ารับบอกเสียงดัง

“เปิดหูเปิดตาซะบ้างตีตี้ อะไรๆที่เห็นในอินเตอร์เน็ตมันไม่เร้าใจเท่ากับตัวเป็นๆหรอก!”

คนตัวเล็กกว่าใครหน้าแดงเถือก ได้แต่บ่นอุบอิบ ในขณะที่เหล่าเพื่อนร้องวี้ดว้ายชอบใจ หลังเห็นหนุ่มหนุ่มเริ่มวาดลวดลาย และถอดกันคนละชิ้นสองชิ้นเหวี่ยงทิ้งลงข้างฟลอร์

“วันนี้มันวันอะไรของฉันกันเนี่ย!”

สาวแว่นบ่นอุบๆ เธอยกมือขึ้นปิดตาก่อนจะงงๆ เมื่อแสงไฟหรี่วูบลง และเสียงเพลงก็แผ่วลงตาม แสงไฟตรงกลางดูสว่างมากกว่าที่อื่น แต่ก็พอเห็นเท่านั้นว่ามีหนุ่มอีกคนก้าวออกมาจากเงามืดยืนอยู่ตรงกลาง

“สโนวไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด คือธีมของคืนนี้ ตีตี้”

มิรันด้ากระซิบอธิบาย เพราะเสียงเพลงดังขึ้นอีกครั้ง ผู้ชายคนนั้นแต่งตัวต่างไปจากคนอื่น เขายกผ้าคลุมขึ้นปิดหน้า เสียงเซซิเลีย อลิส และเจนนี่กรี๊ดลั่น เมื่อพ่อเจ้าประคุณยกผ้าคลุมขึ้นสูงแล้ววาดมือผ่านซิกแพ็กวับๆแวมๆของตน ที่สามารถมองเห็นได้จากอกเสื้อเชิ้ตที่แบะออก

มัตติกาหน้าแดง เธอไม่เถียงเลยว่า ‘สโนวไวท์’ ที่มิรันด้าบอกเต้นได้ดี แม้จะไม่เก่งเท่ากับอีกเจ็ดคนที่เหลือ แต่ก็ถือว่าผ่านมาตรฐานแล้วละ เพราะเอ่อ... ไอ้ท่าเต้นท่าทางแข็งแรงนั่น มันดูยั่วยวน ชวนเรียกเลือดกำเดามาก!

ดังนั้นคนยกมือปิดตาแต่ไม่รู้ตัวว่านิ้วถ่าง จึงได้แต่มองตาค้างหน้าแดงอยู่อย่างนั้น

เสียงเพลงแผ่วลงอีกครั้ง ทำนองช้าๆเบาลง แล้วแสงไฟก็ค่อยๆสว่างขึ้น ทำนองเพลงดังขึ้นกระชั้นขึ้นแต่ไม่มาก ก่อนหยุดสนิทพร้อมแสงไฟส่องชายผู้เป็นสโนวไวท์ ซึ่งตอนนี้ยังคงเบี่ยงหน้าหลบ เมื่อเริ่มถอดผ้าคลุมออกแล้วเหวี่ยงทิ้งไป พร้อมกันนั้นเพลงดังแห่งยุคของบียอนเซ่ก็ดังขึ้น


It’s what you do
It’s what you see
I know if I’m haunting you
You must be haunting me


แล้วมัตติกาก็เห็นใบหน้าพ่อหนุ่มนักเต้นจอมยั่วถนัดชัดเต็มสองตาเมื่อเขาหันมา

แม่ช่วย! นั่นมันดอกเตอร์บราวน์ อี๊! ทำไมในประวัติไม่เคยบอกว่าเขาเต้นยั่ว เอ๊ย เต้นเก่งขนาดนี้!!

มัตติกาที่แต่แรกนิ้วถ่างคราวนี้ยกมือลงอ้าปากหวอ เรือนร่างแข็งแกร่งน่าหลงใหลหลังปลดผ้าคลุมไหล่ เริ่มที่จะปลดกระดุมเสื้อแบะอกทีละเม็ด เจนนี่ อลิส เซซิเลีย วิ่งไปกรี๊ดหน้าฟลอร์ท่าทางคลั่งไคล้ เสียงพวกหล่อนใกล้เคียงกับคำว่าโหยหวน และพร้อมที่จะตะกายขึ้นไปบนฟลอร์ เพื่อเข้าไปตะครุบแล้วทึ้งอีวอนน์อย่างกับแร้งลง

ดวงหน้าคมสันมีเม็ดเหงื่อผุดให้เห็นที่ข้างขมับ ก่อนจะเห็นหยดน้ำชื้นๆที่แผงอกกว้างล่ำสัน ค่อยไหลลงเป็นทางหายลงไปยังขอบกางเกงที่เกาะสะโพกสอบอยู่ต่ำเสียจนน่าใจหาย

มัตติกาอดคิดไม่ได้ ถ้าเต้นๆอยู่ แล้วกางเกงหลุดล่ะจะทำยังไง ไม่ต้องโทงเทงกันเลยเหรอ!

เสียงกรี๊ดสนั่นของเหล่าเพื่อนสาวยังดังต่อเนื่อง แต่นั่นไม่ได้ทำให้มัตติกานึกอยากกรี๊ดไปพร้อมกับพวกเธอเลย หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอได้อย่างยากลำบาก เพราะอิทธิพลของดวงตาคู่คมที่มองมา ตอนอีวอนน์เห็นเธอเหมือนเขาจะเต้นผิดจังหวะไปชั่วขณะ

ดอกเตอร์หนุ่มเบิกตากว้างมองเธอเขม็ง และมันทำให้เธอเสียวสันหลังวูบ จนต้องค่อยๆกระแซะเข้าไปใกล้มิรันด้า แล้วแทบจะซุกอยู่ข้างหลังเพื่อนสนิทด้วยซ้ำไป เพื่อจะหลบสายตากับหน้าดุๆของเขา

ซึ่งแม้กิริยานั้นจะทำให้มิรันด้าที่กำลังเพลิน หันมาถามว่าเป็นอะไร และทั้งๆที่ใจอยากบอก แต่มัตติกาก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้วบอกว่าแค่เพลียๆ เพราะตอนนี้เวลาก็ค่อนข้างดึกแล้ว

กระทั่งโชว์สุดพิเศษนั่นจบลงเมื่อใช้เวลาไปราวครึ่งชั่วโมง โดยที่บรรดาหนุ่มหนุ่มนักเต้นเหลือเพียงกางเกงว่ายน้ำสวมกันเพียงตัวเดียว จะยกเว้นเพียงพ่อสโนวไวท์ที่มีกางเกงสแล็คติดตัวไว้ พอเพลงจบโชว์เสร็จ เขาก็หายเข้าบานประตูหลังฟลอร์ไป ส่วนหนุ่มหนุ่มคนอื่นๆยังอยู่ในห้อง

ซึ่งนี่ยังดี มัตติกาเผลอถึงขนาดยกมือลูบอกด้วยความโล่งใจ เพราะแต่แรกที่มิรันด้าบอกไว้ หญิงสาวยังนึกด้วยซ้ำว่าเสื้อผ้าที่เหลือบนร่างกายของหนุ่มนักเปลื้องผ้า จะไม่มีเลยสักตัวเสียอีก

ดังนั้นเธอก็เลยอดดู เอ๊ย! ไม่ใช่ ไม่ต้องดูผู้ชายตัวเปล่าเดินโทงเทง ร่อนไปร่อนมา!!

และความโล่งอกของมัตติกานั่น ก็คงอยู่ได้แค่ชั่ว เจนนี่ อลิส เซซิเลียมีโอกาสลวนลามหนุ่มหนุ่มนักเต้นอยู่บนฟลอร์อีกพัก ก่อนจะย้อนกลับมานั่งยังโซฟา พร้อมกับแดนเซอร์ทั้งเจ็ด ซึ่งรวมถึงเจ้าชายหนุ่มอีกสามคนก่อนหน้า เดินล้อมหน้าล้อมหลังกลับมาบริการต่อ

เพื่อนสาวทั้งสามของเธอมีเจ้าชายเป็นของตัวเองคนละสอง เช่นเดียวกับอีกสามหนุ่มเข้ามานั่งใกล้ๆมัตติกาและมิรันด้า ซึ่งว่าที่เจ้าสาวก็รีบเอ่ยว่าไม่ต้องการ-การบริการแบบถึงเนื้อถึงตัว

ชายทั้งสามจึงเพียงแต่ช่วยจัดการกับเครื่องดื่ม และนั่งคุยเท่านั้น และระหว่างที่กำลังสนทนาโดยมีเสียงเพลงสนุกดังคลอนั่น มัตติกาที่เพิ่งรับแก้วพันซ์จากหนุ่มหุ่นดีลูกครึ่งเอเชียมา ก็ต้องตัวแข็งค้างอีกรอบ เมื่ออยู่ดีๆได้ยินเสียงทักดังขัด พอหันไปมองก็เจอกับผู้ชายในชุดสูทยืนอยู่กับ...

คนที่เพิ่งทำให้เธออกสั่นขวัญหายเมื่อครู่ เขาส่งยิ้มมาให้ แต่ดวงตาจ้องเธออย่างกับเสือแน่ะ!

“ขออภัยที่มาขัดความสำราญคุณสุภาพสตรี ขอเวลาให้เราเพียงนิด ทางร้านมีบริการพิเศษ” อีกสี่สาวที่เหลือหันมามอง เป็นเวลาเดียวกับอีกฝ่ายผายมือมายังอีวอนน์ “นี่คือโฮสต์ผู้เก่งกาจเรื่องบริการที่ดีที่สุดในคลับเรา ขออนุญาตให้เขาได้รับรองคุณสุภาพสตรีพิเศษท่านนี้ด้วยนะครับ”

ว่าที่เจ้าสาวและเพื่อนสาวสุดแซ่บอีกสามกรี๊ดกร๊าด ส่วน ‘คุณสุภาพสตรีท่านนี้’ ได้แต่อึ้ง มัตติกาเหมือนกลายเป็นหุ่นไปแล้วในตอนนั้น เพราะสบกับสายตาคมปลาบที่มองไม่ลดละของอีวอนน์

“ส่วนสำหรับสุภาพสตรีท่านอื่น วันนี้ทางเรามีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในคลับนี้สำหรับคุณสภาพสตรีทั้งห้า ทางคลับขอรับผิดชอบเองครับ” ผู้จัดการคลับยังพูดอะไรต่ออีกพอสมควร แต่มัตติกาไม่ได้ฟัง ด้วยหลังจากนั้นอีวอนน์ก็ทรุดลงนั่งข้างๆเธอเสียแล้ว เขาไม่พูดอะไรแต่ก็จับมือเธอไว้มั่นไม่ปล่อย

มหาเศรษฐีหนุ่มกุมมือเล็กบางเย็นๆนั้นไว้แน่น ในขณะที่ใบหน้าคมสันเปิดยิ้มมีเสน่ห์ให้กลุ่มสาวๆอีกสี่คน เจนนี่ อลิส และเซซิเลียเอ่ยเซ็งแซ่แทบลืมหนุ่มข้างกาย ด้วยมัวแต่บ่นอิจฉามัตติกา ส่วนมิรันด้ามองอย่างสงสัยและคอยจับสังเกต

อีวอนน์แทบสะดุดขาตัวเองล้มหน้าคะมำด้วยซ้ำ เพราะหลังจากคิดหาวิธีจัดการปิดปากมัตติกาได้ไม่ทันไร เขาก็ถูกเรียกตัวให้มาแสดงโชว์ แม้จะขัดใจที่เพิ่งจะไปบอกผู้จัดการ ว่าเขาจะรับแขกเป็นโต๊ะของมัตติกากับเพื่อนอยู่หยกๆก็ตาม ชายหนุ่มก็ปฏิเสธไม่ได้ เลยคิดว่ารีบทำหน้าที่ให้จบๆไป แล้วจะได้ดึงตัวยัยเฉิ่มนั่นมาตกลงกัน

แต่ที่ไหนได้ ใครจะนึกว่าแขกพิเศษจะเป็นลูกค้าของกลุ่มยัยนั่น ที่สำคัญ... นอกจากจะได้เห็นเขาเป็นโฮสต์แล้ว ยัยเด็กแว่นนั่นยังเห็นเขาเต้นเปลื้องผ้าจนเต็มสองตา!

ตาย-ภาพ-ลักษณ์-ที่-สั่ง-สม-มา ตอนนี้ป่นปี้หมดแล้ว!!

แม้ในใจจะกระวนกระวายมากแค่ไหน แต่สีหน้าของอีวอนน์ก็ยังคงเรียบเฉยติดยิ้มนิดๆ เขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วพันซ์สีสวยที่ถูกยื่นส่งมาให้มิรันด้าจากพนักงานชายอีกคน ก่อนยกมือขึ้นแตะริมฝีปากบริเวณขอบแก้ว จากนั้นจึงยื่นไปตรงหน้าของหญิงสาวที่นั่งอยู่อีกฝั่งของมัตติกา พลางเปิดยิ้มที่ชวนให้คนมองหลงเคลิ้มเอาง่ายๆให้แก่เธอ มือใหญ่ดึงมือเล็กที่กุมแต่แรก ขึ้นมาวางไว้บนต้นขาล่ำสันของเขา

มัตติกาขยับจะดึงมือและพาตัวออกห่าง เธอหมายจะเข้าไปนั่งชิดกับมิรันด้า แต่ก็ถูกคว้าหมับเข้าที่ต้นแขน อีวอนน์ก้มลงมาใกล้ๆ กะพูดเพียงแค่ให้ได้ยินกันสองคน

“มายเลดี้ คืนนี้ผมจะดูแลคุณเอง...”

ชายหนุ่มยังคงยิ้มเย็น แต่จงใจให้น้ำเสียงแช่แข็งผู้หญิงตัวเล็กข้างกาย นัยน์ตามองเธออย่างมาดหมาย

“เป็นกรณีพิเศษ รับรองคุณจะไม่มีวันลืมแน่นอน เบบี๋!”

เท่านั้นที่มัตติกาได้แต่ร้องขอความช่วยเหลืออยู่ในใจ ไม่นะ! พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยตี๊ด้วย!!

แต่คนที่เข้ามาช่วยกลับไม่ใช่พ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้วของเธอ มิรันด้าที่นิ่งมองด้วยความสงสัย แม้จะโดนอีวอนน์โปรยเสน่ห์ใส่แต่ก็ไม่ได้เคลิ้มไปด้วย ว่าที่เจ้าสาวยกแก้วขึ้นจิบ เอ่ยเป็นทำนองชวนอีวอนน์ที่มองมัตติกาตาเขม็งคุย

“คุณเป็นพนักงานที่นี่มานานแล้วหรือยังคะ ขอโทษถ้าหากว่ามันจะเป็นการละล้าบละล้วงเกินไป”

“โอไม่เลยครับคุณผู้หญิง”

อีวอนน์ตอบกลับพร้อมกับยิ้มชวนละลาย ชายหนุ่มปล่อยมือจากการเกาะกุมมือเล็ก พลอยทำให้คนที่รู้สึกใจหายใจคว่ำได้หายใจบ้าง ทว่าวินาทีต่อมามัตติกาก็ดังต้องประสานสายตากับเมดูซ่า เมื่อฝ่ามืออบอุ่นเอื้อมโอบรอบบ่าของเธอดึงเข้าไปชิด ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงคลอเคลียข้างขมับ และกดจูบลงมา!

“ผมมาเมื่อตอนที่ได้รู้ว่า แม่ชีน้อยของผมริอ่านจะเที่ยวโฮสต์คลับ”

ชายหนุ่มรีบฉวยโอกาส เพื่อหาทางดึงตัวมัตติกาออกมาจากกลุ่มเพื่อน เขาแกล้งเหลือบตาลงมองหญิงสาวในอ้อมแขนด้วยแววตาหวานฉ่ำ หวังต้องการให้อีกฝ่ายเข้าใจผิด

“เอ๊ะ! งั้นเหรอมินนี่ ฉันเพิ่งรู้ว่าเธอมีแฟน”

เสียงซักอย่างสงสัยของมิรันด้า ทำให้มัตติกาได้สติกลับคืนมา เธอรีบยกสองมือขึ้นดันใบหน้าอีวอนน์ให้ออกห่าง เอ่ยเสียงดังพอสมควรจนผู้ร่วมโต๊ะทั้งสิบสองคนหันมามองเป็นตาเดียว

“ไม่ใช่ เขาไม่ใช่แฟนฉัน ฉันแค่รู้จักเขาเท่านั้นมินนี่ เพราะเขาเป็นอะ!”

มือหนาเลื่อนขึ้นมาปิดปากอิ่มสีแดงสดทันควัน แล้วหัวเราะกลบเกลื่อน

“ขอแนะนำตัวเองนะครับ ผมชื่อสรวงเป็นแฟนของยัย เอ้อ ตีตี้ เราคบกันเมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเป็นรุ่นน้องในคณะที่ผมเรียนอยู่น่ะ”

สามสาวเบิกตาโต แต่พนักงานโฮสต์อีกสามคนทำหน้างง

ก็ตอนแรกที่ผู้จัดการแนะนำ บอกว่าหมอนี่ชื่อโดมินิค เจมส์ แพตตั๊น แต่ก็เข้าใจเมื่ออีวอนน์เอ่ยต่อ

“บางทีผมก็ชอบให้คนเรียกว่า โดมินิค เจมส์ แพตตั๊นน่ะนะ เหมือนพวกศิลปินอะไรแบบนี้”

มัตติกาพยายามดึงมือใหญ่ออกแต่ไม่สำเร็จ หลังเธอกำลังจะหายใจไม่ออก จนเจนนี่ยกมือขึ้นชี้มา พลางทำหน้าแหยบอกกลั้วหัวเราะว่า

“ดูเหมือนตีตี้กำลังหายใจไม่ออกนะคะ”

“โอ” อีวอนน์ทำท่าว่านึกขึ้นได้ก่อนรีบปล่อยมือ และฉวยโอกาสที่หญิงสาวกำลังอ้าปากหอบเอาอากาศรีบพูด “ผมต้องขอโทษแต่ขอเวลาสักสิบนาที ขอผมคุยกับเธอสักพัก เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันตามประสาคนรัก แต่เดี๋ยวผมจะพาเธอกลับมานั่งที่นี่แน่ และให้พวกคุณซักจนกว่าจะพอใจ โอเคไหม... คุณ--”

ชายหนุ่มเหลียวมองมิรันด้าเป็นเชิงขออนุญาต

“มิรันด้าค่ะ” หญิงสาวมองอีวอนน์สลับกับมัตติกาอย่างครุ่นคิด

“แต่ฉันว่าคุณคุยที่นี่ดีกว่าไหม มันอาจจะดูไม่ดี แต่ระหว่างพวกเรากับตีตี้ไม่เคยมีความลับต่อกัน”

มัตติกาหวังจะชิงโอกาสนี้เพื่อหาทางหนีจากชายหนุ่ม ทว่าอีวอนน์กลับก้มลงมากระซิบที่ข้างหูเธอ ด้วยท่วงท่าคล้ายว่าจูบลงที่ข้างขมับอีกครั้ง แต่แท้ที่จริงแล้วเขาเอ่ยเสียงเข้ม “เราต้องคุยกันแม่ตัวดี ถ้าขืนคุณทำความแตกที่นี่ให้คนอื่นรู้ว่าผมเป็นใครล่ะก็ งานนี้ได้เรื่องแน่”

ริมฝีปากบางที่อ้าค้างหุบฉับ มัตติกาพยักหน้าหงึก ส่วนอีวอนน์ยังพูดต่อ

“โธ่ที่รัก ผมผิดไปแล้วจริงๆ แต่กับผู้หญิงคนนั้นมันไม่มีอะไร ที่สำคัญผมไม่คิดเลยว่ามันจะทำให้คุณโกรธผมถึงขั้นนี้ ได้โปรดเบเบี๋ขอให้ผมได้อธิบาย”

“ตีตี้” มิรันด้าหน้านิ่ว เธอไม่เชื่อเลยว่ามัตติกามีแฟนแล้วจะไม่บอก

“ที่-รัก” อีวอนน์เอ่ยเสียงหวานเว้าวอน แต่สำหรับมัตติกามันคุกคามจนน่าขนลุก เธอมองเพื่อนรักกับผู้ชายจอมข่มขู่ข้างตัวก่อนยอมแพ้สายตาคู่คม พลางยิ้มแห้งบอกกับมิรันด้าว่า

“ขอฉันคุยกับเขาแป๊บเดียวนะมินนี่”

ว่าที่เจ้าสาวกึ่งๆผู้ปกครองถอนหายใจ “โอเค แต่ถ้าเกินสิบนาที--”

“โอเค สิบนาที ไม่ขาดไม่เกินตามนั้นแน่นอน”

อีวอนน์พยักหน้ารับ แล้วรีบดึงมัตติกาให้ลุกขึ้นยืนก่อนกึ่งลากกึ่งจูงร่างเล็กให้ตามไป มิรันด้าได้แต่มองตามหลังอย่างเป็นกังวล แต่เพราะมัตติกายืนยันว่ารู้จักนั่นแหละเลยทำให้เธอยอมรอ และพอลับหลังของคนทั้งคู่ เจนนี่ อลิส เซซิเลียก็พูดกันขรมเกี่ยวกับอีวอนน์ แต่ว่าที่เจ้าสาวกลับยกมือขึ้นกอดอกขมวดคิ้วครุ่นคิด

เอ...เธอว่าหน้าของ ‘สรวง’ ดูคล้ายใครสักคน เหมือนเธอเพิ่งเคยเห็นเมื่อไม่นานมานี้เอง!


============================================================>>>>>

พาอีวอนน์กับยัยตี๊มาส่งค่ะ ^O^

คุณZephyr เฟอร์รี่จัง มันจบตอนพอดีอ่ะ ตอนนี้มาต่อแล้วนะ เฮียจะโหดโฉดชั่ว เอ๊ย ใจร้ายได้ขนาดไหนต้องมารอลุ้นกันต่อ 555

และคุณๆรีดเดอร์นะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่าน มาคุย มากดคะแนนให้ ขอบคุณมากๆ ค่ะ


วันนี้ไปแล้วนะคะ ไว้เจอกันวันพรุ่งนี้ ส่วนวันนี้บ๊ายบายจ้า

ป.ล. ตอนเย็นเจอพี่ธุมกับยัยหมอกนะฮับ ^^



ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.ย. 2558, 08:59:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ก.ย. 2558, 09:00:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 1336





<< Chapter 2 คืนตกหลุม    Chapter 4 ร่างสัญญา >>
Vergo222 2 ก.ย. 2558, 16:26:57 น.
อ๋อ เข้าใจแล้วค่ะ หายไปหลายวัน มาทีเดียวครบร้อย ขอบคุณค่ะ


หนูมะลิ 4 ก.ย. 2558, 14:42:13 น.
อ่านกี่รอบก้อชอบอยู่ดี ตีตี้น่าร๊ากกก มากางนิ้วแอบดูเฮียวอนเต้นเปลื้องผ้าด้วยคน 555


Zephyr 8 ก.ย. 2558, 00:17:40 น.
อ่านอีกก็เคลิ้มอีก
ของแบบเฮีย แพคลงกระเป๋าหนึ่งคนค่า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account