ล่ารักแดนทะเลทราย สนพ กรีนมายด์
แหวนล้ำค่าสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์สวมใส่อยู่บนนิ้วของ ‘แอล’ นักวาดภาพสมัครเล่น แต่องค์รักษ์ธามินยังไม่ทันสืบหาเรื่องราวที่แท้จริง ก็พบหญิงสาวลึกลับผู้นั้นอยู่กลางวงล้อมของกบฏที่แฝงตัวไปทั่วทะเลทราย เธออาจเป็นนางนกต่อหรือสายของกบฏก็ได้ ทว่าธามินต้องพาเธอไปด้วยจนกว่าจะพบองค์หญิงซาเมรา ซึ่งคนของเขาส่งข่าวว่าถูกลักพาไปเป็นตัวประกัน
ซาเมราต้องปลอมตัวเป็นหญิงสามัญชน เพราะไม่อาจวางใจชายแปลกหน้าที่เข้ามาช่วยเธอไว้กลางทะเลทราย แต่ด้วยความจำเป็นทำให้หญิงสาวต้องเดินทางไปกับเขา เพื่อสืบให้รู้ว่ากบฏแดนทรายอยู่ที่ใด จะได้กำจัดให้สิ้นซาก
แต่ความลับกลับถูกเปิดเผยเสียก่อน เมื่อหญิงสาวลึกลับกลายเป็นองค์หญิงซาเมรา และชายแปลกหน้ากลายเป็นราชองครักษ์ธามิน องค์ชายที่ถูกลดเกียรติให้เป็นเพียงสามัญชน และเขาอาจเป็นกบฏที่เธอตามหาอยู่ก็เป็นได้ ซาเมราจะทำอย่างไร ระหว่างมอบความตายให้ธามิน หรือหนีไปด้วยกันจนสุดหล้า เมื่อเธอรู้ตัวแล้วว่ารักเขาหมดหัวใจ
Tags: ทะเลทราย ความรัก องครักษ์ เจ้าหญิง

ตอน: ตอนที่ 8 ครึ่งแรก

ตอนที่ 8

ธามินจ่ายค่าห้องแล้วก็เดินไปซื้ออูฐที่ท้ายหมู่บ้านพร้อมกับซาเมรา ร้านค้าต่างๆ เริ่มตั้งขายแล้ว ส่วนใหญ่เป็นพวกเครื่องประดับ ของกินและผ้าสีต่างๆ ดูน่าสนใจ เธอยืนรอเงียบๆ ในระหว่างที่เขาตกลงราคากับพ่อค้าอูฐ เพียงไม่กี่นาทีธามก็จูงอูฐออกมานอกตลาดโดยซาเมราขอยืนเฝ้าในระหว่างที่เขาไปซื้อเสบียงสำหรับเดินทาง รวมทั้งซื้อผ้าเอาทำมากระโจมด้วย
ชาวบ้านเดินผ่านไปผ่านมาแล้วมองซาเมราอยู่บ่อยครั้งแม้ว่าเธอจะพันสะระบั่นเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ เธอก้มหน้าไม่สบตาใครตามที่ธามเคยบอกไว้ หางอูฐสะบัดไปมาเมื่อมีแมลงวันตอมทำให้ต้องขยับห่างออกมาจนเธอชนผู้ชายหน้าตาไม่เป็นมิตรเข้าอย่างไม่ตั้งใจ
“ไอ้นี่ เดินไม่ดูทาง นายเอ็งอยู่ที่ไหน”
ซาเมรายกมือแบออกเป็นการขอโทษ แต่สีหน้าของชายคนนั้นกลับยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่
“บ๊ะ หยิ่งไม่ตอบหรือวะ วอนตายเสียแล้ว”
กำปั้นใหญ่ของชายคนนั้นยกขึ้นแล้วเงื้อลงมากะฟาดให้โดนปาก ซาเมราถอยหลังกำมือแน่นจะสวนหมัดกลับไป แต่มือใหญ่กว่าของธามเข้ามายันกลับทำให้ชายคนนั้นถึงกับเสียหลักเกือบล้ม
“แม้กระทั่งคนเป็นใบ้ยังไม่ละเว้น ต่อไปอย่ารังแกคนที่อ่อนแอกว่าอีกนะ จำเอาไว้” ธามินคำรามเสียงต่ำไม่อยากให้ใครมาสนใจนัก แต่คงเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี
ชายคนนั้นมองด้วยสายตาอาฆาต ฮึดฮัดและจะเข้ามาเอาคืนให้หายเสียหน้า แต่กลับถอนร่นเมื่อธามใช้ความที่ตัวใหญ่กว่ามายืนบังซาเมราไว้ เมื่อสู้ไม่ได้ก็เดินจากไปอย่างหัวเสีย หญิงสาวมองตามไม่ค่อยสบายใจ แต่พูดอะไรยังไม่ได้ในเมื่อเขาเพิ่งว่าเธอเป็นใบ้ไปเมื่อครู่

ธามินพาซาเมราออกมาจากหมู่บ้านอย่างเงียบๆ ในเวลาเกือบเที่ยงเต็มที โดยที่เขานั่งอยู่บนหลังอูฐ ส่วนเธอเดินตามมาเพื่อไม่ให้ใครสงสัย จนกระทั่งไกลมาพอสมควร ธามินก็ตีที่ก้นของอูฐให้มันนั่งลง แล้วบอกให้ซาเมราขึ้นไปนั่งบนหลังอูฐแทนอย่างที่ควรจะเป็นตั้งแต่แรก
“ทำไมธามไม่ซื้ออูฐมาสองตัวล่ะ กว่าจะถึงที่หมายนายไม่เหนื่อยแย่หรือ” พอหายเหนื่อยซาเมราก็เริ่มไม่สบายใจที่เอาเปรียบธามอีกแล้ว
“ผมไม่อยากให้ใครสงสัยเลยซื้ออูฐมาแค่ตัวเดียว ถ้าดูจากรูปร่างแล้วองค์หญิงอาจจะถูกมองว่าเป็นคนรับใช้มากกว่าน้องชาย ไม่มีนายที่ไหนซื้ออูฐให้คนรับใช้นั่งหรอกครับ”
ซาเมราไม่ทันคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ถึงว่าธามปล่อยให้เธอเดินมาตั้งไกลกว่าจะบอกให้ขึ้นมานั่งบนหลังอูฐแทน
“นายนี่รอบคอบดีจัง เอาอย่างนี้แล้วกัน ถ้าเมื่อยเมื่อไหร่ก็บอก กินแรงนายบ่อยๆ ฉันไม่สบายใจหรอกนะ”
ไม่มีเสียงตอบรับหรือปฏิเสธจากธาม แต่เมื่อออกปากไปแล้วซาเมราก็จะทำตามนั้น แสงแดดจัดจ้ามากในยามนี้ แม้จะมีลมพัดผ่านก็ไม่ช่วยมากนักเพราะมันเป็นลมร้อนๆ ปนละอองของฝุ่นทราย เหงื่อเลยไหลย้อยจนเธอยกหลังมือขึ้นมาเช็ดแล้วสะบัดออกอยู่หลายครั้ง แต่ธามเขาดูสบายๆ เหมือนอยู่กลางสวนไม่ใช่กลางทะเลทรายอย่างไรอย่างนั้น
การเดินทางเกือบจะราบรื่นอยู่แล้วถ้าธามินจะไม่หันไปเห็นจุดเล็กๆ ที่ค่อยๆ ชัดขึ้นและใกล้เข้ามา เขาจ้องอยู่นานจนแน่ใจว่าไม่ชอบมาพากลจึงหันไปสั่งซาเมรา
“องค์หญิงลงมาจากหลังอูฐก่อนนะครับ”
“นายเมื่อยแล้วใช่ไหม ได้ๆ เดี๋ยวฉันจะลงให้นายมานั่งบนหลังอูฐบ้าง”
ซาเมรารีบลงมาจากหลังอูฐแล้วรอให้ธามขึ้นไปนั่ง แต่เขากลับยืนมองอะไรสักอย่าง เธอมองตามจึงเห็นว่าท่ามกลางทะเลทรายมีฝุ่นตลบนั้นม้าหลายตัวกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
“ผมไม่แน่ใจว่าเป็นพวกกบฏหรือแค่คนเดินทางผ่านมา เพราะฉะนั้นองค์หญิงต้องกลับมาเป็นคนใบ้แล้วนะครับ”
ซาเมราพยักหน้าพลางดึงปมของสะระบั่นมาผูกให้แน่นขึ้น มือบางยื่นไปจับมือหนาไว้ ความกลัวแล่นปราดสู่กลางใจเมื่อเห็นชัดขึ้นว่าคราวนี้พวกมันมาหลายคน ถ้าเป็นพวกกบฏตัวเธออาจรอดเพื่อพาไปใช้ประโยชน์ในการต่อรองบางอย่าง แต่ธามอาจจะถูกฆ่าเสียตรงนี้ก็เป็นได้

ทีมค้นหาของมาลิคเดินทางมาถึงโอเอซิสฟารุกตั้งแต่ชั่วโมงก่อนและเริ่มค้นหาองค์หญิงซาเมรากับธามินทันที แต่กลับไม่พบทั้งสองคนแล้วจะพบก็เพียงร่องรอยการมาพักที่นี่และรอยเท้าซึ่งคาดว่าเป็นของผู้หญิงและผู้ชาย แต่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นใคร มาลิคสั่งให้ทหารตามหาเบาะแสที่ธามินอาจจะทิ้งไว้เพื่อจะได้รู้ว่าที่หมายต่อไปคือที่ใด
ทหารกระจายกันค้นหาตั้งแต่พื้นทราย ต้นกระถิน ในน้ำและก้อนหินที่มีอยู่มากมายซึ่งใช้เวลานานไม่น้อยกว่าจะมีเสียงตะโกนอย่างดีใจ
“พบบางอย่างที่น่าจะเป็นเบาะแสแล้วครับท่านราชองครักษ์”
ก้อนหินขนาดใหญ่กลายเป็นจุดสนใจขึ้นมาทันทีเพราะมีรอยครูดเป็นรหัสที่ด้านหลังติดกับดงต้นกระถิน ถ้าไม่ไปชะโงกดูคงไม่เห็น มาลิคถ่ายรูปเอาไว้แล้วหาที่นั่งร่มๆ สำหรับถอดรหัส ใช้เวลาไม่นานนักก็ได้ข้อความที่ธามินทิ้งไว้
...หมู่บ้าน N2 องค์หญิงยังปลอดภัยดี มุ่งหน้าชายแดน
“ทั้งหมดเก็บของแล้วรีบออกเดินทางเร็วที่สุด ต้องไปถึงหมู่บ้าน N2 ตามแผนที่ทหารภายในเที่ยงคืนของวันนี้”
มาลิคสั่งลูกทีมเสร็จก็ส่งข่าวบอกราเนียให้รายงานต่อ หลังจากนั้นทหารที่ชายแดนได้รับคำสั่งให้ออกลาดตระเวนเผื่อว่าธามินจะพาองค์หญิงเดินทางใกล้ถึงที่นั่นแล้ว

ฝุ่นตลบค่อยๆ จางหายจนธามินมองเห็นชายสามคนบนหลังม้าตัวใหญ่ชัดเจนขึ้น กระสุนปืนของเขาคงพอหากคนพวกนี้ไม่ต่อสู้แบบลูกผู้ชาย ร่างเล็กกว่ามองจากด้านหลังร่างใหญ่แวบเดียวก็จำได้ ซาเมราคิดแล้วเชียวว่าสายตาของผู้ชายที่เธอไปชนเข้าดูเคียดแค้นเอาเรื่อง แต่เธอไม่คิดว่าจะเขาลงทุนตามมาตั้งไกลขนาดนี้
“พวกคุณมีอะไรไม่ทราบ” ธามินถามคนพาลที่ไม่ใช่พวกกบฏอย่างที่กังวลในตอนแรกดีๆ
“เอาตัวให้หนุ่มตัวเล็กมา ฉันจะเตะมันให้หมอบ ส่วนนายมัน พวกแกก็ช่วยสั่งสอนให้เลือดกบปาก”
“ถ้าโกรธเพราะผมสั่งสอนที่คุณรังแกคนอ่อนแอกว่า ผมคงบอกได้เพียงว่าคุณมันทุเรศสิ้นดี อุตส่าห์สอนแล้วยังไม่สำนึก แล้วนี่อะไร ไปลากคนอื่นมาช่วยคงต้องด่าว่าขี้ขลาดอีกอย่าง”
ซาเมราแอบยกนิ้วโป้งให้ธาม แต่ไอ้พวกที่มากันอย่างกับหมาหมู่คงไม่ปลื้มเท่าไหร่
“อย่าไปฟังมัน ถ้าพวกแกไม่จัดการ เงินที่ติดหนี้ไว้พรุ่งนี้ก็เอามาคืน ไม่งั้นฉันจะยึดอูฐของพวกแก”
“อ้อ ข่มขู่” ธามินส่ายหน้าเสียเวลาจริงๆ
“เร็วๆ สิวะ”
ลูกหนี้ทั้งสองคนมองหน้ากันเลิกลั่กก่อนจะกระโจนเข้าใส่ธามินพร้อมกันเลยถูกถีบไปนอนจุกหนึ่งคน ส่วนอีกคนเหวี่ยงหมัดเข้ามาเฉี่ยวแก้มของเขา ธามินกระแทกหมัดสวนทีเดียวเจ้าคนนั้นก็เลือดออกจมูก เจ้าคนนอนจุกลุกขึ้นมาช่วยเพื่อนเลยถูกเขาถีบร่วงไปอีกรอบ
ชายต้นเรื่องฉวยโอกาสที่กำลังสองรุ่มหนึ่งเข้ามาจะเอาคืนเจ้าใบ้ที่ทำให้เขาขายหน้าในบาซา ซาเมราสาดทรายใส่และอาศัยจังหวะที่ชายคนนั้นขยี้ตาเข้ามาจัดหมัดหนักๆ ให้ตามด้วยขัดขาจนร่างใหญ่ลงไปนอนกอง ด้วยความโมโหที่เสียหน้าซ้ำสองชายต้นเรื่องจึงชักปืนออกมา ลูกหนี้พากันมาหลบข้างหลังเจ้าหนี้ในสภาพสะบักสะบอม
“ฮึๆ ถ้าไม่อยากตายก็ก้มลงร้องขอชีวิตสิวะ แล้วส่งไอ้ใบ้มา ฉันจะเอามันมาเป็นคนเช็ดรองเท้า”
ธามินขบกรามด้วยความโมโหเพราะเจ้าคนพวกนี้ช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง เขาดูจากท่าจับปืนก็รู้แล้วว่ามันไม่ชำนาญ
“แน่จริงก็ยิงมาได้เลย”
“เอาเลยๆๆ” ลูกหนี้พากันยุ
ชายต้นเรื่องยิ้มเหี้ยมพร้อมกับยัดนิ้วเข้าไปที่ไกก่อนจะเล็งแล้วเหนี่ยว แต่กระสุนยังไม่ทันออกจากกระบอกปืนด้วยซ้ำ เข็มฉีดยาพุ่งมาเร็วและแรงใส่ข้อมือของมันจนสะบัดเร่าทำให้กระสุนพุ่งออกไปคนละทิศละทาง
ปัง...ปัง!
ของที่ระลึกจากกบฏกำลังทำให้ชายต้นเรื่องตาเริ่มปรือภายในห้าวินาทีเท่านั้น ธามินกับซาเมราไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยแถมยังได้ปืนมาอีกกระบอกแบบไม่ต้องแย่งมา
“โอ๊ย...ไอ้หมาลอบกัด”
“ใครกันแน่ที่ลอบกัด” ธามินถามกลับอย่างโมโห “ถ้าไม่อยากตายก็เอาเชือกที่เตรียมมาไปมัดกันไว้ ใครตุกติก ผมยิง บอกมาแล้วกันว่าต้องการให้ยิงตรงไหน ระยะนี้ไม่มีพลาดแน่นอน”
ทั้งสามหน้าจ๋อยพากันใช้เชือกมัดตัวเองไว้ ยังไม่ทันมัดเสร็จด้วยซ้ำเจ้าหนี้ก็หลับผล็อยไป ลูกหนี้ที่เหลือพากันหน้าซีดกลัวตาย
“รุ่งสางคงมีคนมาพบ อย่าได้คิดจะตามไปแก้แค้นเพราะคราวหน้าหัวกระสุนคงมาอยู่ตรงนี้” ปลายกระบอกปืนในมือธามินจ่อที่หน้าผากของเจ้าลูกหนี้ที่กลัวจนแทบเป็นลมอยู่แล้ว
ม้าทั้งสามตัวถูกปล่อยให้กลับไปยังหมู่บ้าน ธามินมองกราดพวกคนพาลอีกรอบเลยก้มหน้าหนีกันวุ่น ซาเมราส่ายหน้าสังเวชเพราะทีอย่างนี้ล่ะกลัวตายขึ้นมาเชียว
“ไปกันเถอะ”
อูฐถูกทำให้นั่งลงอีกครั้ง ซาเมราเหนี่ยวตัวขึ้นไปนั่ง พอเธอหันกลับไปมองข้างหลังก็ชักไม่แน่ใจ
“นายแน่ใจนะว่าพวกนั้นจะไม่ตามฉันมาอีก”
“ไม่แน่ใจหรอกครับ แต่กว่าพวกมันจะตามมา ผมก็พาองค์หญิงไปไกลแล้ว”
ซาเมราฟังแล้วรู้สึกโล่งใจและเชื่อว่าถึงพวกมันตามมาอีกก็คงถูกธามจัดการจนไปไม่เป็นเหมือนในตอนนี้นั่นแหละ เรื่องที่ไม่ควรเป็นเรื่องแท้ๆ เชียว

ชีคชามีลเพิ่งเสด็จออกมาจากห้องบัญชาการที่ราเนียรับหน้าที่ประสานงานกับทหารหน่วยต่างๆ รวมทั้งมาลิคด้วย สีพระพักต์คล้ำดูเหนื่อยเพราะไม่ได้พักผ่อนมาหลายวัน ยาซินเดินตามมาท่าทางเหนื่อยล้าไม่ได้พักพอกัน แต่ดวงตาของทั้งคู่มีความหวัง เมื่อรู้แล้วว่าซาเมรามีธามินคอยคุ้มกันอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ยังหาตัวไม่พบเท่านั้น
รถพระที่นั่งมาจอดรอหน้าตำหนัก ทั้งที่ยาซินคิดว่าชีคคามีลควรกลับห้องบรรทมแล้วพักได้แล้ว เมื่อคืนก็ทรงงานจนถึงเช้า
“พระองค์จะเสด็จไปไหนอีกพะย่ะค่ะ”
ชามีลหันไปมองยาซินแล้วบอกตามความจริง “ไปคุกหลวง”
“อย่าไปเลยพระองค์ พวกกบฏยิ่งจ้องเรื่องนี้อยู่” ถ้ากระโดดขวางรถแล้วไม่ถูกรถทับตาย ยาซินจะกระโดดขวางทันที ทำไมชีคถึงไม่เชื่อเขาบ้าง
ชีคชามีลเข้าไปนั่งในรถ รู้ดีว่ายาซินเป็นห่วง แต่เขาก็ต้องไปอยู่ดี
“อีกสามวันคำสั่งประหารกาลิบจะประกาศออกไป หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือนกาลิบจะถูกประหารจริงๆ เสียที อยู่ทางนี้ก็อย่าเพิ่งหนีไปนอนนะยาซิน ช่วยหาผู้หญิงมาปลอมตัวเป็นเมราแล้วส่งข่าวลือออกไปว่าเมรากลับมาที่วังแล้ว พวกสายของกบฏในวังจะได้เชื่อ ทีนี้คงเลิกตามล่าซาเมรากันเสียที”
ยาซินยืนรอส่งเสด็จก่อนจะรีบเดินกลับไปห้องบัญชาการ สายต่างๆ ที่แฝงไปทั่วเมืองได้รับคำสั่งจากเขาโดยทั่วกัน ไม่เกินคืนนี้ข่าวลือว่าองค์หญิงซาเมรากลับวังอย่างปลดภัยแล้วจะดังไปถึงหมู่บ้านต่างๆ กลางทะเลทราย

แล้วจะมา up ต่อนะคะ
อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ต.ค. 2558, 09:23:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ต.ค. 2558, 09:23:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 835





<< ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง   ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account