~ สายใย .. ไฟรัก ~
~ สายใย .. ไฟรัก ~


เส้นสายใย .. ใครกันหนอ .. ที่ทอถัก
เส้นสายรัก .. ใครจักสาน.. ขานคำขอ
เส้นทางเดิน .. ใครเหินห่าง .. ต่างเฝ้ารอ
ไฟรักพอ .. ต่อหัวใจ .. ให้อุ่นอิง




เธอ .. คือ เพื่อนสนิทของน้องสาวเพื่อนรัก

เขา .. คือ ผู้บริหารโรงแรมจอมเผด็จการ แต่กลับเป็นเพื่อนรักพี่ชายของเพื่อนสนิท

ทว่า ..

เธอ .. ในสายตาของเขา .. คือ คนอวดดี ยโส ที่ใช้เพื่อนเป็นทางผ่านไปสู่ความสำเร็จของตัวเอง

เขา .. ในสายตาของเธอ .. คือ ผู้ชายไร้เหตุผล เอาแต่ตนเองเป็นใหญ่

ที่สำคัญเหนืออื่นใด .. ทั้งเธอและเขา .. กำลังตกหลุมรักคนที่ไม่ควรจะรัก!




***************************
Tags: ความรัก ครอบครัว เพื่อน

ตอน: ใยเส้นที่ 23 .. เหนือการควบคุม



ป้ายบอกทางไปยังห้องอาหารนาคา ที่เวหาจองไว้ปรากฏต่อหน้าเพลิงกัลป์และมัสลิน หลังจากชายหนุ่มจูงมือหญิงสาวเดินพ้นล็อบบี้ โดยไม่มีทีท่าจะปล่อยง่ายๆ ซึ่งปฏิกิริยาของฝ่ายหญิง ใครเห็นก็พอจะมองออกว่า ไม่ได้ยินดีที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรองเช่นนี้แม้แต่น้อย

แต่มัสลินก็ไม่สามารถแสดงความไม่พอใจได้เต็มที่ เพราะไม่กี่ก้าวต่อมาก็เห็นเวหากับรัศมิทัตยืนรออยู่หน้าห้องอาหารแล้ว

"ฟ้านึกว่า จะมากันไม่ทันกันซะแล้ว ... ห้องนาคาเขาเซ็ตโต๊ะให้เรา ๒ ทุ่ม นี่ก็ใกล้ได้เวลา เราเข้ากันไปก่อนนิดหน่อยคงไม่เป็นไร"

เวหาเอ่ยยิ้มๆพลางสาวเท้าเข้าหามัสลิน แกล้งเบียดตัวเองแทรกกลางจนเพลิงกัลป์ต้องปล่อยมือที่กุมไว้ ก่อนคนเป็นน้องสาวจะควงรุ่นน้องคนสนิทออกเดินผ่านประตูห้องอาหารเข้าไป เหมือนไม่สนใจว่าผู้ชายอีกสองคนที่เหลือจะเป็นอย่างไร

"ไงครับลุง ... เดินจูงมือเพื่อนผมมาแบบนั้น ผมว่า มันยังไงๆอยู่นะ"

"หึหึ"

เพลิงกัลป์หรี่ตาคาดโทษรัศมิทัต แม้จะไม่พูดอะไรออกมา แต่คนอ่อนวัยกว่าก็พอจะรู้ตัวว่า กำลังหาเรื่องแหย่หนวดเสือ

"น่าๆ ... เรายังต้องอยู่ใกล้ชิดกันไปอีกนาน ไม่ต้องมองผมแบบพิศวาสปานจะขบหัวผมก็ได้"

"แล้วได้อะไรบ้าง"

ท่านประธานรู้คเปลี่ยนเรื่องถามกะทันหันพอให้ได้ยินกันแค่นี้ ขณะปรายตาไปยังเบื้องหลังของสองสาว แล้วขยับก้าวตามพร้อมกับสถาปนิกหนุ่ม

"โอ่โถง อลังการ ... สมราคา ..."

"แค่นั้น?"

คนถามพยายามรักษาสีหน้าให้เรียบนิ่ง ผิดกับคนฟังที่นิ่วหน้าเล็กน้อย เนื่องจากอยู่ในฐานะผู้รายงาน ก่อนเอ่ยต่อจากที่ค้างไว้ราวครุ่นคิดบางอย่าง

"พี่ไฟสงสัยจริงๆหรือครับ ... ว่าที่นี่มีอะไรไม่ชอบมาพากล"

"ก็ ... ไม่รู้สิ ฉันยังไม่รู้อะไรหลายๆอย่าง คงยังปักใจเชื่อไม่ได้ ... นอกจาก สงสัย"

เพลิงกัลป์บอกสิ่งที่เขาคิดให้รัศมิทัตรับรู้ เพราะต้องการทดสอบความคิดของหนุ่มรุ่นน้อง ที่บิดาหมายมั่นปั้นมืออยากให้สองครอบครัวเป็นทองแผ่นเดียวกัน ว่าวิสัยทัศน์พอจะพึ่งพาได้หรือไม่

"ผมว่า ..."

จังหวะหนึ่งที่รัศมิทัตหยุดเดินไปดื้อๆ จนทำให้เพลิงกัลป์ชะลอฝีเท้าที่ช้าอยู่แล้ว หยุดก้าวไปด้วยแล้วเหลียวมองแค่หางตา เนื่องจากต้องการทราบว่า ชายหนุ่มที่ย่างเข้าสู่วัยเบญจเพสในไม่ช้าจะพูดอะไรต่อ

"พี่ไฟรู้มากกว่านี้ ... และอยากเก็บข้อมูลเพิ่ม ชนิดที่ต้องจับให้มั่นคั้นให้ตาย"

แม้ว่าเสียงพูดคุยจะไม่ได้ดังมาก แต่เพลิงกัลป์ก็ได้ยินชัดเจน ชายหนุ่มผู้อยู่เบื้องหน้าไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ หากออกตัวเดินนำต่อไป ทำให้ฝ่ายเดินตามต้องเร่งฝีเท้าให้ทัน

รัศมิทัตจึงไม่มีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มที่คลี่เหยียดสุดมุมปาก อย่างคนยินดีที่ได้พบสิ่งต้องใจ





มัสลินรู้สึกอึดอัดอยู่ตลอดเวลาที่ร่วมโต๊ะอาหารว่า เหมือนมีสายตาบางคู่จับจ้องมาที่เธอ แต่พอเหลียวหาโดยรอบก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้รบกวนจนไม่สามารถทนนั่งรับประทานอาหารได้ ทั้งที่เพิ่งมื้อค่ำเริ่มต้นได้ไม่นาน

"เอ่อ ... ขอโทษนะคะ ลินินขอตัวสักครู่"

"อ้าว ... จะไปไหนจ๊ะ ... ห้องน้ำ?"

"ค่ะ"

เมื่อเวหาเปิดทางให้เช่นนั้น หญิงสาวก็รับไว้เพราะดูจะเป็นเหตุผลที่เข้าท่าที่สุด ท่ามกลางสายตาอีกสองคู่ที่นั่งตรงข้ามของเพลิงกัลป์กับรัศมิทัต

"อย่าหลงทางอีกล่ะ"

เพลิงกัลป์พูดเป็นนัยกับมัสลินขณะที่มองดุจจ้องไม่วางตา คล้ายจะย้ำถึงคืนนั้นที่งานฟูลมูนปาร์ตี้ จนหญิงสาวเผลอเม้มปาก เพราะเข้าใจดีว่าเขาหมายถึงอะไร

รัศมิทัตที่มองเพื่อนอยู่เช่นกันก็ชำเลืองแวบหนึ่งไปทางเวหาปรึกษาในทีด้วยสายตา แล้วตัดสินใจเอ่ยปากเมื่อเห็นสีหน้าบอกอารมณ์ของเพื่อนสาว

"ให้เราไปเป็นเพื่อนไหม ... ลินิน"

"ไม่เป็นไรทัต ... ขอตัวนะคะ"

มัสลินบอกทุกคนในโต๊ะยกเว้นบางคนเท่านั้นที่เธอจงใจเบือนหน้าหนีหลังจบประโยค ก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องอาหาร ด้วยทางที่เดินเข้ามาตอนแรก

คล้อยหลังมัคคุเทศก์สาวหนึ่งเดียว ที่อยู่ในกลุ่มบุคคลที่เป็นหุ้นส่วนของรู้ค รีสอร์ท แอนด์ สปา ไม่ถึง ๕ นาที อีกคนก็เริ่มเปลี่ยนอิริยาบถจากนั่งสบายๆเป็นวางผ้าเช็ดปากลงบนโต๊ะ ให้เป็นที่สงสัยจนอดเอ่ยออกมาไม่ได้

"อ้าว ... พี่ไฟจะไปไหนคะ"

เวหาทักถามเมื่อเห็นว่าเพลิงกัลป์ขยับตัวลุกจากเก้าอี้แล้วยืนขึ้น ท่ามกลางความงุนงงของน้องสาว ยกเว้นว่าที่น้องเขยในอนาคต เพราะรัศมิทัตกลับเป็นคนตอบคำถามนั้น พลางเสมองพี่ชายของคนรักพร้อมยิ้มเผล่เจ้าเล่ห์กับความเห็นเหมือนคนรู้ทัน

"พี่ไฟคงอยากเปิดโอกาสให้เราน่ะ คุณฟ้า ... ใช่มั้ยครับ พี่ไฟ"

"ดูแลด้วยก็แล้วกัน"

เพลิงกัลป์ยกยิ้มมุมปากก่อนก้าวเดินจนพ้นรัศมีโต๊ะอาหาร อย่างน้อยเขาก็เห็นแล้วว่า รัศมิทัตน่าจะเป็นผู้ช่วยที่ดีของเขาได้ ... ส่วนในระดับไหนนั้น คงต้องรอดูกันต่อไป

หากพอลับหลังชายหนุ่มหญิงสาวที่ไม่ได้อยู่ในห้องอาหาร สองคนที่เหลือก็ได้แต่อมยิ้มให้กัน เหมือนกับว่า ความบันเทิงรอยู่ตรงหน้านี่เอง

"เป็นไงล่ะทัต ... ฟ้าบอกแล้ว ว่าคู่นี้ไม่ธรรมดา"

"คุณฟ้ารู้ได้ยังไง ผมเห็นแต่ว่า ลินินกับพี่ไฟไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่"

"นั่นมันก็ช่าย ..."

เวหาลากเสียงยานคางเห็นด้วยกับคำพูดของหนุ่มคนพิเศษ แต่การกระทำของเพลิงกัลป์ที่เธอได้เห็นต่อหน้าต่อตาก่อนหน้านี้ มันกลับทำให้เธอมั่นใจมากกว่าเดิมหลายเท่า

เธอไม่อยากเห็นพี่ชายของเธอเสียใจ เพราะมอบความรู้สึกดีๆให้แก่คนที่ไม่มีวันจะเหลียวแลมา ...

"แต่ทัตไม่คิดว่าดีเหรอ ... ถ้าฟ้าจะช่วยดูผู้หญิงดีๆให้พี่ชายของฟ้า"

"เอ ... ผมชักจะเริ่มเชื่อแล้วว่า พันธุกรรมบางอย่างมันถ่ายทอดกันมาได้อย่างครบถ้วน ... และสมบูรณ์จริงๆ"

คำพูดแฝงรหัสปริศนาของรัศมิทัต มีหรือที่เวหาจะยอมปล่อยผ่าน เธอเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังคาดคั้นถามเพื่อให้ได้คำตอบไม่รีรอ

"หมายความว่าไงทัต ... พูดให้ดีๆนะ"

"ทำไมต้องดุด้วย ... ผมกำลังจะชมคุณฟ้านะฮะ ... ว่าเหมือนคุณลุงเวเปี๊ยบเลย"

ยิ่งสถาปนิกหนุ่มทำเป็นพูดอ้อมค้อมเท่าไหร่ ผู้จัดการฟร้อนท์ ออฟฟิศของรู้คก็ยิ่งตีหน้าเข้มขึ้นเท่านั้น เพราะเริ่มจะเข้าใจได้รางๆแล้ว ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายพยายามสื่อสารออกมา

"น่าๆ ... อย่าเพิ่งโกรธสิ ไม่เพราะคุณลุงเหรอ เราถึงมีวันนี้ได้ ... ผมว่า คุณลุงทำดีที่สุดเลย"

"แล้วไป"

เวหาคลายสีหน้ายิ้มกว้างเมื่อสิ่งที่เธอคิด ตรงกับสิ่งที่รัศมิทัตพูด แต่ใครจะรู้ใจเธอดีเท่าตัวของตัวเอง ... ในเรื่องที่ว่า สิ่งที่กำลังพยายามอยู่นี้

เธอต้องไม่แพร่งพรายให้ใครรู้ทั้งนั้น ไม่ว่าใครก็ตาม ...

ไม่อย่างนั้น เธอนั่นแหละ คือคนที่จะแย่ที่สุด!





มัสลินไม่ไ่ด้ทำธุระส่วนตัวแต่อย่างใด เพียงแค่หวังอาศัยความเย็นจากน้ำก็อกในการล้างมือ ว่าจะช่วยคลายความหงุดหงิดที่มีต่อตัวเองให้ลดลงได้บ้าง แล้วก็ออกมาจากห้องน้ำในเวลาอันรวดเร็ว

เพราะยิ่งคิดเธอก็ยิ่งไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมจึงต้องรู้สึกแปลกๆกับคนบางคนที่ชอบหาเรื่องเธอได้ตลอดเวลา

เพลิงกัลป์ทำให้หญิงสาวรู้สึกว่า แม้เขาจะพูดจาไม่เข้าหู ... แต่พอเธอมีเรื่องกังวลหรือไม่สบายใจ เขาจะเป็นคนแรกที่อยู่ใกล้หลายต่อหลายครั้ง

ถึงมัสลินจะไม่ชอบคำพูดของประธานรู้คที่แสดงให้เห็นว่า เขาคอยจับเธออยู่ และแทบไม่ให้คลาดสายตา ทว่า เธอกลับไม่รู้สึกอึดอัด นอกจาก ...

ลินิน ... เธอจะบ้าเหรอ ไปรู้สึกรู้สาอะไรกับคนพรรค์นั้น คนที่เขาเกลียดเราตั้งแต่เห็นหน้า ... อย่าฟุ้งซ่านให้มากนักเลย

หญิงสาวเตือนสติตนเองเพราะชักจะคิดเหลวไหลเลอะเทอะไปกันใหญ่ แล้วพอสติกลับมาครบถ้วนหลังจากคิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง เธอจึงมองรอบตัวเพื่อหาชื่อห้องนาคาโดยไม่ทันคิดสักนิดว่า

การที่มัวคิดถึงคำพูดและการกระทำของเพลิงกัลป์จะทำให้เธอ ... หลงทาง!

มัสลินเหลียวซ้ายแลขวาหาสัญลักษณ์หรือป้ายบอกทาง ที่จะสามารถพาเธอกลับไปยังโต๊ะอาหารของห้องนาคา

แค่มาเข้าห้องน้ำแล้วกลับไม่ถูก ถ้าใครบางคนรู้เข้าคงรอเยาะเย้ยและถากถางเธอแน่ ...

ความคิดที่เกี่ยวโยงไปถึงเพลิงกัลป์นี้ มีผลต่อเธอมากเสียจนลืมความอึดอัด ที่เกิดขึ้นระหว่างรับประทานอาหารก่อนหน้า จนอาจเป็นเหตุให้ต้องมาผจญสภาวะที่น่าขายหน้าโดยใช่เหตุ

“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”

ความช่วยเหลือถูกเสนอด้วยน้ำเสียงทุ้มกังวานทรงอำนาจในที บ่งบอกบุคลิกภาพเฉพาะตัวตั้งแต่มัสลินยังไม่เห็นว่า เขาเป็นใครกัน

คนหลงทางหันกลับไปตามสัญชาตญาณ แล้วก็ได้พบว่าบุคคลที่อยู่ต่อหน้าเธอตอนนี้ กำลังอมยิ้มนัยน์พราวคล้ายพึงพอใจกับปฏิกิริยาของเธอ

“เอ่อ ... คะ คือ ... ดิฉันจะไปห้องนาคาน่ะค่ะ ... แต่ เอ่อ ...”

จู่ๆความมั่นใจของมัสลินก็เร้นหายไปกะทันหัน จะให้บอกบุรุษแปลกหน้าไปตามตรงว่า ‘หลงทาง’ ก็ใช่ที่ และเพราะเรือนร่างสูงใหญ่ของเขาอีกเช่นกัน ทำให้เธอต้องแหงนหน้าคอตั้งบ่าตอบไปเพียงเท่านั้น

“นี่ถ้าคุณเดินต่อไปอีกนิด ... ก็ถึงห้องนาคีที่อยู่ด้านหลังห้องนาคาแล้วนะ”

“อะไรนะคะ ...”

มัสลินพลั้งปากหลุดอุทานอย่างตกใจ ไม่คิดว่าแค่เธอละสายตาตอนออกจากห้องน้ำ แล้วเผลอเหม่อลอยนิดหน่อย จะทำให้เดินผิดทางมาไกลขนาดนี้

“คุณคงเพิ่งมาเป็น ... ลูกค้าของคิง เซอร์เพนท์สินะ ถึงหลง ... จำไม่ได้ว่าไปทางไหน”

“ก็ ... ทำนองนั้น แต่ดูคุณจะทราบอะไรๆเกี่ยวกับที่นี่ละเอียด คงจะเป็น ... ลูกค้าประจำสินะ ... คะ”

พอพบคนที่แสดงออกถึงความเป็นกันเอง จากอาการประหม่าที่มีก็ลดน้อยลง ความมั่นใจเริ่มกลับมาแทนที่ มัสลินกล้าตอบโต้กับบุรุษร่างสูงสง่าท่าทางเหมือนเป็นชาวต่างชาติมากขึ้น และกล้ามากพอที่จะต่อคำกับเขา จนได้เห็นรอยยิ้มกว้างกับการเล่นล้อคำพูดของเธอ

“ก็ ... ทำนองนั้น”

คำตอบกำกวมล้อเลียนมัสลินพร้อมกลั้วรอยยิ้ม พลอยทำให้เธอยิ้มตามเขาไปด้วย น่าแปลกที่ถึงแม้เขาจะดูสุภาพ แต่ก็ไม่ใช่ว่านอบน้อมนัก ยิ่งชวนให้เธอคิดว่า เขาคือลูกค้าที่มาใช้บริการโรงแรมหรูหราห้าดาวแห่งนี้เช่นกัน

หญิงสาวเห็นควรจะต้องหาทางกลับไปยังห้องนาคาเสียที เพราะเธอออกมานานพอดูเกรงว่า เวหากับรัศมิทัตจะรอและเป็นห่วง

มัสลินย้อนคิดขึ้นมาได้ว่า ผู้ชายคนนี้ออกตัวให้ความช่วยเหลือ ถ้าเธอก็จะรบกวนเขาสักครั้ง ... คงไม่เป็นไร

“ถ้าอย่างนั้น ดิฉันคงต้องขอรับความช่วยเหลือจากคุณแล้วล่ะค่ะ ... ว่า ดิฉันจะกลับห้องนาคาได้อย่างไร”

“ด้วยความยินดี และเต็มใจครับ ... คุณผู้หญิง”

คนที่หญิงสาวมองว่าเป็นชาวต่างชาติ แต่กลับพูดภาษาไทยได้ชัดถ้อยชัดคำ แถมกิริยาท่าทีก็ไม่มากไม่น้อย จนเธอไม่ติดใจสงสัยอื่นใดมากนักและวางใจให้เขาเป็นคำนำทางไปยังห้องนาคา อย่างที่เขาหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ด้วยความยินดี





เพลิงกัลป์เดินมาตามทางที่มีสัญลักษณ์บอกถึงสถานที่ในการทำธุระส่วนตัว แล้วก็เริ่มแปลกใจตัวเองว่า เขาจะต้องปลีกตัวตามออกมาด้วยทำไม

คิง เซอร์เพนท์ ออฟ เดอะ เซาท์ ซี เป็นโรงแรมที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด คงไม่มีทางเกิดเรื่องร้ายๆขึ้นแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุคคลที่ถือได้ว่าเป็นแขก ... เป็นลูกค้าของที่นี่

แล้วมัสลินหายไปไหน ?

ชายหนุ่มถามตัวเองและตอบทันทีตามความสงสัยที่มี ... ในเมื่อเขาอยู่ในส่วนที่ใครจะเข้าหรือออกจากห้องอาหารนาคา จะต้องผ่านจุดนี้ แล้วจุดที่เป็นห้องน้ำแม้จะมิดชิดแต่ก็ยังสังเกตง่าย

"บ้าจริง ... หลงไปทางไหนอีกเนี่ย ... ยัยเด็กบ้าเอ๊ย"

ความร้อนใจทำให้เพลิงกัลป์ผลุนผลันออกไปตามหามัสลินทันที จะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่เขาไม่มีเวลามากพอที่จะคิดถึงมัน เพราะที่คิง เซอร์เพนท์แห่งนี้ สำหรับเขาแล้ว ... ไม่มีสิ่งใดน่าไว้ใจสักอย่าง

ถึงแม้จะเคยมาที่คิง เซอร์เพนท์อยู่บ้าง เวลามีการจัดงานประชุมหรือพบปะระหว่างผู้ประกอบการโรงแรมบนเกาะลาลัล หากเพลิงกัลป์ก็ใช่จะมาด้วยตัวเองทุกครั้ง

ความใหญ่โตโอ่อ่าและกว้างขวางของโรงแรมนี้ หากใครมาครั้งแรกแล้วหลงทาง เพลิงกัลป์จะไม่แปลกใจเลย ้พราะความลดเลี้ยวเคี้ยวคดไปมาจากพื้นที่หนึ่งไปสู่อีกพื้นที่ และทางเดียวที่ผู้มาเยือนทำได้คือ เดินไปตามพรมแดงที่ปูลาด ราวเป็นตัวกำหนดส้นทางที่ทุกคนจะต้องเดินไป

นายใหญ่แห่งรู้คอดคิดไม่ได้ว่า ช่างให้ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกล่อหลอกให้มึนงง โดยมีงูยักษ์รอเขมือบที่ปลายทางอย่างไรอย่างนั้น

แต่เพลิงกัลป์ก็ความคิดไว้เพียงเท่านี้ เมื่อเดินมาจนถึงบริเวณประตูอีกฝากของโรงแรม ซึ่งถ้าก้าวพ้นจากตรงนี้ไป เบื้องหน้าคงจะเป็นชายหาดส่วนตัวของคิง เซอร์เพนท์ ที่ขึ้นชื่อลือชาว่า เม็ดทรายขาวสะอาดเนียนละเอียดจนนุ่มยามเท้าสัมผัสและเหยียบย่าง

ที่ชายหนุ่มพอจะทราบเช่นนั้น เพราะได้ยินเสียงคลื่นซัดสาดแว่วมาแต่ไกล และคาดว่าคืนนี้คลื่นลมน่าจะแรงพอสมควร

ขณะที่เพลิงกัลป์เตรียมชักเท้าก้าวเดิน เสียงอ่อนหวานคุ้นหูก็ทักทายมาจากเบื้องหลังจนเขาต้องชะงัก แล้วหันกลับมาอย่างคนที่ต้องรักษามารยาทเอาไว้

"คุณไฟ ... มาได้ยังไงคะ ... ตายจริง รี่ไม่คิดว่าจะได้พบคุณที่นี่"

ชายหนุ่มรักษาสีหน้าไว้ได้อย่างดี ยิ้มรับคำทักทายเหมือนยินดีที่ได้พบไม่ต่างกัน

"สวัสดีครับ คุณรี่ ... ผมสิครับที่ควรแปลกใจ นึกไม่ถึงว่าจะได้พบเหมือนกัน"

"แหม ... คุณไฟล่ะก็ ไม่คิดว่าจะมีอารมณ์ขันนะคะ"

เพลิงกัลป์ยิ้มเพียงมุมปากเมื่อสรัลรีหัวเราะเบาๆกับคำพูดของเขา ที่อาจคิดว่าล้อเลียนสิ่งที่เธอพูดมา ครู่หนึ่งเจ้าของร้านอาหารจึงปรับเปลี่ยนอารมณ์เสียใหม่

"แล้วคุณไฟมาทำอะไรคะ"

"มาทานอาหารกับครอบครัวครับ"

"ครอบครัว?"

คำถามเสียงสูงบอกความประหลาดใจเกินเหตุของสรัลรี ทำให้เพลิงกัลป์ต้องย่นคิ้วเพราะนึกอะไรขึ้นมาได้ว่า ไม่ใช่ทุกคนที่มาด้วยกันจะเป็นครอบครัวของเขา แต่พอคิดว่าไม่จำเป็นต้องไขความกระจ่างให้ 'คนอื่น' รู้ เขาก็ยืนยันคำเดิม

"ครับ"

สรัลรีลอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยกับน้ำเสียงยอมรับหนักแน่นของเพลิงกัลป์ ไม่ต้องให้ใครมาบอกเธอก็เข้าใจได้ว่า การมาในครั้งนี้เป็นเรื่องส่วนตัว และโดยมารยาทเธอไม่ควรจะเหนี่ยวรั้งเขาไว้

ยังไม่ทันที่หญิงสาวต้นวัยสามสิบจะเอ่ยคำแสดงเจตนา ชายหนุ่มก็ชิงออกตัวอย่างสุภาพ อย่างที่เธอไม่อยากได้ยิน แต่ก็พออุ่นใจได้ว่า เขาไม่ได้ตัดรอนเสียทีเดียว

"ผมขอตัวนะครับ ... แล้วพบกันใหม่"

"ค่ะ ... คุณไฟ"

เป็นคำตอบรับแผ่วเบาอย่างจำใจยอมรับที่เพลิงกัลป์ได้ยิน แต่ไม่มีผลใดๆกับเขา เพราะทันทีที่จบการสนทนาสั้น ชายหนุ่มก็ปลีกตัวไปยังประตูด้านที่เปิดออกไปสู่ชายหาด โดยไม่เหลียวหลังไปมองคนที่ทอดสายตาตามแผ่นหลังเขาไปแม้แต่นิดเดียว





มัสลินชักเริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมา เมื่อบุรุษร่างสูงใหญ่เดินนำผ่านประตูบานหนึ่งออกมาพบกับเสียงระลอกคลื่นกระทบฝั่งค่อนข้างแรง ไอทะเลอวลทั้งความอุ่นและเย็นคละเคล้า เบื้องหน้ามีดวงดาววิบวับระยับตาเกลื่อนฟ้าอยู่ลิบๆ

ต่อให้คิดว่า บรรยากาศน่าเดินเล่นผ่อนคลายแค่ไหน หญิงสาวคงไม่อาจทำอย่างนั้นกับคนแปลกหน้า โดยเฉพาะกับผู้ชายแน่ๆ

“เอ่อ ... คุณคะ ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวดิฉันหาทางกลับเองก็ได้ ที่เดินผ่านมาเมื่อครู่คลับคล้ายจะจำทางไปห้องนาคาได้แล้วค่ะ”

“ผมอยากให้คุณรู้จัก คิง เซอร์เพนท์ ... ว่าที่นี่ มีดีอะไรบ้าง”

“เอ่อ ค่ะ ... แต่ ...”

ผู้ชายคนนี้มีอะไรบางอย่างดึงดูดสายตา อาจรวมถึงความสนใจใคร่รู้ปนๆกัน แต่ที่สุดในความรู้สึกของมัสลินคือ ความน่าเกรงขามที่น่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก

“มัสลิน!”

คนกำลังอยู่ในภาวะละล้าละลังไม่รู้จะทำอย่างไรดี หันขวับไปยังต้นเสียงที่คุ้นเคยและจดจำได้ว่า เป็นคนคนเดียวกันกับที่ทำให้เธอคิดสับสนวุ่นวาย จนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเช่นนี้

“มัสลิน ... มัวทำอะไรอยู่ ฉันรอเธอตั้งนาน ... หลงทางใช่หรือเปล่า”

“คุณเพลิงกัลป์ ... เอ่อค่ะ ลินินจำทางไม่ได้ โชคดีจังที่คุณมา”

ยามหน้าสิ่วหน้าขวานชวนให้ไม่น่าไว้วางใจ มัสลินเลือกที่จะเดินเข้าหาเพลิงกัลป์มากกว่าอยู่กับผู้ชายแปลกหน้า ที่นอกจากจะไม่ช่วยเหลือเธอดังที่เสนอแต่แรก แต่กลับพาเธอมายังที่ลับตาผู้คน

“เธอนี่ยังไง ... ฉันก็เตือนแล้วนี่ว่า ให้ระวัง ... แล้วตามใครมาอีก ฮึ!”

น้ำเสียงของเพลิงกัลป์เข้มดุเหมือนกับบอกเป็นนัยไปถึงใครที่ไม่รู้จัก แต่มัสลินกลับรู้สึกอุ่นใจมากกว่าจะโกรธเขาในเวลานี้ และโดยไม่คาดคิดชายหนุ่มก็สาวเท้าเข้ามาจนถึงตัว ยกมือขึ้นแตะหัวไหล่แล้วหมุนร่างในชุดสีครีมให้หันไปทางบุรุษร่างสูงสง่าผู้นั้นอีกครั้ง

จึงกลายเป็นว่า หญิงสาวถูกโอบประคองอย่างช่วยไม่ได้ แต่เธอจะอดทนไว้ก่อน อย่างไรเสียก็ขอให้พ้นไปจากที่ตรงนี้อย่างปลอดภัย ... เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง

เจ้าของรู้ค รีสอร์ท แอนด์ สปา ออกแรงกึ่งบังคับให้คนในอ้อมแขนเดินเคียงเขา ขณะก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย ก่อนจะปรับน้ำเสียงให้ดีขึ้น พูดกับผู้ชายแปลกหน้าที่เธอเพิ่งคิดได้ว่า ไม่น่าตามเขามาเลย

“ขอโทษนะครับ ... ที่คนของผมทำให้คุณ ... นาคินทร์ ต้องลำบาก”

เพลิงกัลป์ใช้คำที่มีความหมายกำกวมกับอากัปกิริยาปกป้องออกนอกหน้าเกินจำเป็น จนมัสลินรู้สึกร้อนบนผิวแก้มไม่กล้ามองหน้าเขา ก่อนที่จะได้ยินชายหนุ่มเอ่ยชื่อหนึ่งออกมาราวกับเพิ่งนึกได้ว่า เจ้าของเรือนกายสูงสง่าเป็นใคร

มัสลินเบี่ยงความคิดมาทบทวนการขอลุแก่โทษนั้นแทนการคิดถึงประโยค ‘คนของผม’ ก็พอจะเห็นว่า มันเป็นแค่คำพูดง่ายๆ หากกิริยาไม่ได้อ่อนน้อมยอมให้อย่างจริงจัง

แต่ั้ที่ทำให้เธอต้องเหลียวมองคนพูดทันที ก่อนจะชำเลืองไปทาง ‘คุณนาคินทร์’ แล้วเปลี่ยนเป็นจ้องมองให้ชัดเต็มตา

“อ่อ ... นึกว่าใคร คุณเพลิงกัลป์ ... นี่เอง ... ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีบริการใครก็ตามที่มาเป็นลูกค้า หรือพันธมิตรของเรา”

มัสลินได้ยินนาคินทร์ตอบกลับมาอย่างไว้ตัวปานกัน ด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจกว่าที่ได้สนทนากันตอนแรก และเธอก็พอจะจับเค้าทำความเข้าใจอะไรได้มากขึ้น จนสามารถสรุปได้แล้วว่า เหตุใดผู้ชายแปลกหน้าท่าทางสุภาพองอาจคนนี้ ถึงได้รู้จัก คิง เซอร์เพนท์เป็นอย่างดี

บุรุษผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ คิง เซอร์เพนท์ ออฟ เดอะ เซาท์ ซี โฮเทล ที่เธอเคยได้ยินชื่อเสียงและน่าจะเคยได้อ่านบทสัมภาษณ์มาจากที่ใดที่หนึ่ง โดยไม่ปรากฏภาพถ่ายของเขาในหน้าสื่อ

เป็นช่วงเวลาสั้นๆที่มัสลินต้องยอมรับกับตัวเองว่า อดตื่นเต้นไม่ได้หลังจากมีโอกาสได้พูดคุยใกล้ชิด กับบุคคลที่เธอเคยรู้สึกทึ่งกับประสบการณ์และชื่นชมความสามารถของเขาเมื่อนานมาแล้ว แม้จะไม่รู้ตัวมาก่อนว่าเขาคือ นาคินทร์ พี. เซอร์เพนท์ ... ตัวจริง ก็ตาม












*************************************************







โปรดติดตามตอนต่อไป ...

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม และ ขอขอบคุณสำหรับไลค์กำลังใจฮะ

คุณkaelek : คุณไฟของคุณkaelek คงต้องมีใครสักคนมาคอยเตือนสติ เตือนใจจริงๆบ้างแล้วมั้งฮะ ... //ขอบคุณคุณkaelek ฮะ



แรมรติ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 พ.ย. 2558, 09:44:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 พ.ย. 2558, 09:44:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 1149





<< ใยเส้นที่ 22 .. สิ่งที่ต้องสำรวจ    ใยเส้นที่ 24 .. กระดูกชิ้นโต >>
kaelek 1 พ.ย. 2558, 20:57:18 น.
คนนี้นี่คู่แข่งหัวใจคุณไฟด้วยอะป่าว.. อาป่านจะรู้มั้ยว่าหลานเจอคนทีี่อาก็อยากเจอ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account