ล่ารักแดนทะเลทราย สนพ กรีนมายด์
แหวนล้ำค่าสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์สวมใส่อยู่บนนิ้วของ ‘แอล’ นักวาดภาพสมัครเล่น แต่องค์รักษ์ธามินยังไม่ทันสืบหาเรื่องราวที่แท้จริง ก็พบหญิงสาวลึกลับผู้นั้นอยู่กลางวงล้อมของกบฏที่แฝงตัวไปทั่วทะเลทราย เธออาจเป็นนางนกต่อหรือสายของกบฏก็ได้ ทว่าธามินต้องพาเธอไปด้วยจนกว่าจะพบองค์หญิงซาเมรา ซึ่งคนของเขาส่งข่าวว่าถูกลักพาไปเป็นตัวประกัน
ซาเมราต้องปลอมตัวเป็นหญิงสามัญชน เพราะไม่อาจวางใจชายแปลกหน้าที่เข้ามาช่วยเธอไว้กลางทะเลทราย แต่ด้วยความจำเป็นทำให้หญิงสาวต้องเดินทางไปกับเขา เพื่อสืบให้รู้ว่ากบฏแดนทรายอยู่ที่ใด จะได้กำจัดให้สิ้นซาก
แต่ความลับกลับถูกเปิดเผยเสียก่อน เมื่อหญิงสาวลึกลับกลายเป็นองค์หญิงซาเมรา และชายแปลกหน้ากลายเป็นราชองครักษ์ธามิน องค์ชายที่ถูกลดเกียรติให้เป็นเพียงสามัญชน และเขาอาจเป็นกบฏที่เธอตามหาอยู่ก็เป็นได้ ซาเมราจะทำอย่างไร ระหว่างมอบความตายให้ธามิน หรือหนีไปด้วยกันจนสุดหล้า เมื่อเธอรู้ตัวแล้วว่ารักเขาหมดหัวใจ
Tags: ทะเลทราย ความรัก องครักษ์ เจ้าหญิง

ตอน: ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง

นาอินกลับมาถึงบ้านในตอนบ่ายหลังจากไปส่งไมราที่บ้าน เธออ้างว่ามีธุระทั้งๆ ที่ว่างทั้งวันเพราะทนความเฉยเมยทำเป็นเหมือนไม่สนใจของธามินไม่ไหว เธอจะอ่านหนังสือพิมพ์ให้ฟังเขาก็หลับ พอเธอปอกผลไม้ให้เขาก็บอกว่าอิ่ม เธอชวนไปเดินเล่นที่ระเบียงเขาก็บอกว่าระบมแผลทั้งที่เมื่อวานออกไปนั่งคุยเป็นนานสองนานกับราเนียได้ ขนาดป้าไมราคะยั้นคะยอเขายังมีข้ออ้างไปได้เรื่อยๆ
นาซีฟกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปงานเลี้ยงที่บริษัทพอเห็นนาอินเลยนึกแปลกใจ หลายวันนี้เขาเห็นลูกสาวกลับมาบ้านก็เย็นค่ำ แต่วันนี้กลับเร็ว
“เป็นอะไรลูกอิน ทำไมไม่อยู่ดูแลธามล่ะ พ่อให้หยุดงานบริษัทไปก่อนนี่นา”
นาอินนั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่พลางเปิดเครื่องเสียง วันนี้เธอไม่มีอารมณ์เอาใจใครแล้วน่ะสิ แต่ขืนพูดอย่างนั้นคงถูกพ่อดุ ถึงท่านดิฮ์ยาจะยอมสละยศของตัวเอง แต่ความรวยของตระกูลยังติดอันดับสามของประเทศซึ่งธุรกิจของพ่อต้องการเม็ดเงินจำนวนมหาศาลไม่อย่างนั้นบริษัทคงล้มละลายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
“บางทีพี่ธามอาจจะมีใครในใจอยู่แล้วก็ได้นะคะพ่อ” นานอินเปรยขึ้น
นาซีฟส่ายหน้าหัวเราะ “เหลวไหลน่ะอิน ถ้าธามมีใครอยู่ในใจแล้ว ท่านหญิงไมราจะเงียบอยู่หรือ”
“ก็ราเนียไงคะ วันก่อนอินเห็นว่ายัยนั่นมาหาพี่ธาม คุยกันอยู่ตั้งนาน”
นาซีฟรู้ว่าราเนียเป็นถึงลูกสาวของนายพลคนปัจจุบันของนัวเรด์ดีน แต่ก็อีกนั่นล่ะ ธามินกับราเนียเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ถ้าจะรู้สึกอะไรต่อกันคงเกิดไปนานแล้ว ไม่ใช่ตอนนี้
“ไม่มีอะไรหรอก ถ้าเบื่อๆ อินไปขับรถเล่นก็ได้นี่ อย่าคิดเล็กคิดน้อย ผู้ชายที่มีความรับผิดชอบสูงไม่มานั่งเล่าทุกเรื่องให้ภรรยาฟังหรอก อินควรดูแม่เป็นตัวอย่าง”
“ถ้างั้นอินไปขับรถเล่นดีกว่า” นาอินหัวเราะเบาๆ กลบเหลื่อนสิ่งที่กำลังคิด
ปัญหาที่แม่พบจากพ่ออาจไม่ใช่กรณีเดียวกับเธอที่จะพบจากธามินก็ได้ แต่ถ้านาอินคนนี้ไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน นอกจากราเนียแล้ว มีใครที่อยู่ในใจธามินอีกหรือเปล่านะ ตอนอยู่อเมริกาเขาทำตัวห่างเหิน ถ้าซ่อนผู้หญิงไว้ที่นั่นป้าไมราอาจไม่รู้ก็ได้ เธอคงต้องขอให้เพื่อนที่อเมิกาช่วยสืบให้แล้วล่ะ

ภาพเขียนถูกส่งมาให้ธามินวันเว้นวัน ธามินคิดว่าเขาน่ารู้ว่าแอลคือองค์หญิงสูงศักดิ์ที่ปลอมตัวเป็นศิลปินข้างถนนในยามค่ำคืนเพื่อหาเงินไปช่วยเด็กกับศิลปินคนอื่นๆ ตั้งแต่ตอนที่ซาเมราวาดรูปของกบฏที่ลักพาตัว เขาไม่แปลกใจอีกแล้วว่าทำไมแอลถูกตามล่า โชคดีเหลือเกินที่คืนนั้นเขาตามเธอไปจนช่วยไว้ได้หวุดหวิด
ช่วงบ่ายธามินขอให้แม่ไปพักผ่อนเพราะเขาอาการดีขึ้นเกือบปกติแล้ว ส่วนนาอินอยู่ดูแลพักเดียวเท่านั้นก็ขอตัวกลับ หลายวันมานี้การเฉยชาของเขาคงได้ผลเมื่อเวลาที่นาอินอยู่โรงพยาบาลเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อนานไปเขาหวังว่าเธอจะเข้าใจว่าเขารู้สึกเช่นใด
ระเบียงด้านนอกกลายเป็นห้องทำงานชั่วคราวของธามิน เขานั่งอ่านเอกสารอย่างเงียบๆ แม้จะได้ยินเสียงเปิดประตูที่เดาว่าอาจเป็นบุรุษพยาบาลหรือทหารบางคน ทว่าเสียงเดินกลับเบากว่า ผ้าม่านถูกเลิกเปิดพร้อมกับเสียงใสๆ ของใครบางคนลอยมา
“ไม่คิดจะพักทั้งๆ ที่ป่วยเลยหรือไงน่ะธาม”
ธามินหันหน้าไปมองด้วยความหวังหัวใจพลันเต้นระรัว ซาเมรายิ้มกว้างดวงตาพราวระยับแสนงาม แว่นตาสีชาและหมวกแก๊ปไม่สามารถพรางตัวตนของเธอไปจากเขาได้ การรอคอยช่างคุ้มค่าเมื่อเธอมาให้เห็นหน้าราวกับรู้ว่าเขาคิดถึงอยู่ตลอดเวลา
“หายแล้วใช่ไหมธาม”
ธามินจะลุกจากเก้าอี้ไปหาซาเมราทว่าเธอกลับเดินมาชิดใกล้แล้วยิ้มใส่ตา เขาจับมือบางบางมาแนบอกไว้อยากให้รู้ว่าดีใจแค่ไหนที่เห็นเธอตรงหน้า หัวใจที่เต้นเร่าของเขารอเธอเพียงผู้เดียวตลอดมา ทั้งสองสบตากันนิ่งนานราวบอกความในใจตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าการรอระหว่างเขากับเธอเท่ากันแล้ว
“ผมดีใจที่องค์หญิงมาหา แล้วองค์หญิงมาได้ยังไงครับ มีใครตามเสด็จหรือเปล่า ไม่รู้หรือไงว่ามันอันตราย ผมจะอาการทรุดก็เพราะคนดื้อๆ แบบองค์หญิงนั่นแหละ”
ซาเมราถอดแว่นตาออกเพื่อที่จะได้ค้อนใส่ธามินที่กำลังพูดไม่เข้าหูระคนน้อยใจที่ถูกดุ กว่าจะมาที่นี่ได้เธอต้องล่อหลอกหัวหน้านางกำนัลแทบตายทั้งที่รู้ว่าเรื่องคงถึงหูพี่ชาย
“ถ้างั้นฉันกลับก็ได้ถ้าทำให้นายอาการทรุด ก็ดีต่อไปฉันจะได้ไม่ต้องมาเยี่ยมอีก”
ธามินจับมือเล็กไว้แน่น เขารอซาเมรามาตั้งนานให้กลับไปง่ายๆ ได้อย่างไร ถ้าเขาได้พบเธอทุกวันคงหายในเร็ววันต่างหาก
“ขี้ใจน้อยจัง ผมก็แค่เป็นห่วงองค์หญิงกลัวว่าจะได้รับอันตรายเท่านั้นเองครับ สรุปแล้วมีใครตามองค์หญิงมาหรือเปล่า”
ซาเมราทำหน้านึกแกล้งเบ้ปากใส่ธามิน พอเขาทำหน้าเหมือนขอโทษ เธอเลยหัวเราะเบาๆ ให้เป็นรางวัลเดี๋ยวอาการทรุดหนักจะมาโทษกันได้
“มีสิ องครักษ์หญิงหนึ่งคน แล้วก็คนขับรถ พอไหมที่นายจะไม่ดุฉัน ที่มาหาก็เพราะว่าฉันเป็นห่วงนายนี่นา”
ยิ่งกว่าพอ ‘ห่วง’ คำสั้นๆ ที่ทำให้ธามินอุ่นไปถึงใจ
คำถามหนึ่งเกิดขึ้นกลางใจหากว่าสิ่งที่เขากับซามเรารู้สึกไม่ใช่ความไหวหวั่นจากความใกล้ชิดกันของหญิงชาย แต่เป็นความรู้สึกจากใจ ถ้าเดินตามทางของหัวใจไปเรื่องราวจะเป็นเช่นใด มือหนาของธามินประคองแก้มนวลของซาเมราไว้ ความหมายต่างๆ จากหัวใจสื่อออกไปผ่านดวงตาที่หวานละมุนชวนให้อุ่นซ่านในสัมผัสจากมือและหัวใจ
เกินกว่าจะทานทนไหวเมื่อซาเมราเป็นฝ่ายหลับตาเสียเอง พอนึกได้ว่าทำแบบนี้คงกลายเป็นเชิญชวนเธอก็รีบลืมตาเหมือนจ้องกลับก่อนจะรีบใสแว่นตาให้หายใจหายคอได้บ้าง ผู้ชายอะไรสายตาประหารคนได้
ธามินหัวเราะเบาๆ เป็นสุขใจ เขาอยากคว้าเธอมากอดแล้วจูบให้หายคิดถึง แต่สิ่งสวยงามแบบนั้นควรเกิดขึ้นในสถานที่และเวลาที่ดีกว่านี้ ทุกอย่างที่เขาทำต้องสง่างามและเปิดเผยสำหรับซาเมรา ไม่ใช่หลบๆ ซ่อนๆ เหมือนกับทำอะไรผิด
“ฉันต้องไปแล้วล่ะธาม ขอเวลาไว้แค่สิบห้านาทีขืนช้าอาจจะถูกลากกลับไปที่รถ”
ซาเมราหัวเราะกลบเกลื่อน แม้ว่าแก้มของเธอจะแดงซ่านจนปิดธามินไม่มิดแล้วก็ตาม เพียงสายตาของเขาที่มองมา เธอยังต้านทานไม่ได้เลย
“ขอบคุณสำหรับภาพเขียนนะครับ”
ซาเมราเห็นแล้วว่าธามินติดภาพเขียนเอาไว้ตรงไหน แค่คิดว่าเขาจะมองภาพนั้นแล้วคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกลางทะเลทรายหัวใจของเธอก็พลันพองฟูเป็นสุข
“ฉันจะส่งมาให้อีก ถ้าธามชอบนะ”
“ผมชอบภาพเขียนทุกภาพที่แอลวาดให้” สายตาคมๆ ของธามินจ้องใส่ซาเมรา
ซาเมราเสลุกขึ้นยังไม่ยอมรับง่ายๆ ธามินก็ไม่ได้คาดคั้น เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปส่งเธอจนถึงลิฟต์ราวอยากยืดเวลาออกไป องค์รักษ์หญิงมารอซาเมราอยู่ก่อนแล้ว การจากลาแสนยาวนานจะเกิดขึ้นอีกไม่รู้กี่วัน แต่การพบกันแม้จะสั้นเพียงไม่กี่นาที ทว่าตราตรึงอยู่ในใจยาวนานจนกาลเวลาเท่านั้นที่พรากความทรงจำนี้ไปได้

เนื้อแผลจากการผ่ากระสุนออกสมานกันดีเป็นที่น่าพอใจและอาการบอบช้ำภายในหายดีแล้ว หมอจึงอนุญาตให้ธามินไปพักร่างกายต่อที่บ้าน แต่ก็ยังมีคำแนะนำจากหมอว่าห้ามออกกำลังหายหนักๆ และไม่ควรรีบกลับไปทำงาน มีคำสั่งจากชีคชามีลว่าให้เขาหยุดงานไปอีกหนึ่งสัปดาห์ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าคำสั่งแสนใจดีนี้มีอิทธิพลมากจากแม่ของเขานั่นเอง
ธามินกลับมาถึงบ้านในตอนบ่ายพร้อมกับไมรา สาวใช้กับพ่อบ้านมายืนรอต้อนรับที่เขาบ้านกลับมาอย่างปลอดภัย เขาหยุดทักทายก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องซึ่งอยู่ชั้นสองของบ้านก็พบว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างในห้องเปลี่ยนไป ทว่ามีสิ่งเดียวที่ดึงดูดสายตาของเขากำลังพลิ้วไหวอยู่ตรงหน้าต่าง
“แม่เปลี่ยนผ้าม่านห้องนอนของธามเสียใหม่ ทำให้เป็นลายทะเลทรายเผื่อธามจะชอบ”
ไม่ใช่เพียงผ้าม่านที่ถูกเปลี่ยน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็ถูกซื้อมาใหม่ด้วยเหมือนกัน ไมรามักจะไม่ยอมให้ทุกคนใช้ของที่อยู่ในช่วงเกิดเรื่องไม่ดีในบ้าน ตอนที่ดิฮ์ยาแก้ข้อกล่าวหาว่าเป็นกบฏได้แล้ว ของใช้ต่างๆ ในบ้านถูกไมราส่งให้การกุศลและซื้อของใหม่มาทดแทนทั้งหมด
“ขอบคุณครับแม่ แล้วภาพเขียนของผม” ธามินไม่ลืมแน่ๆ ว่าเอาลงมาใส่กล่องอย่างดีตั้งแต่เมื่อคืน
“กำลังขนขึ้นมา ธามอยากให้พ่อบ้านติดตรงไหนก็บอกแล้วกัน พักผ่อนเสียนะตื่นมาจะได้สดชื่น เย็นนี้แม่จัดงานฉลองกันในครอบครัว เชิญหนูอินกับพ่อมาด้วย” ไมรายิ้มบางๆ มองลูกชายอย่างคาดหวัง
“หรือครับ ถ้างั้นผมคงต้องรีบพักจะได้สดชื่นอย่างที่แม่ต้องการ”
ธามินสบตาอย่างรู้ทันไมราที่กำลังเปิดประตูออกไปจากห้อง เขาอยากพูดเรื่องความในใจกับนาอินตามลำพังไม่ใช่ประกาศออกไปแล้วกลายเป็นทำให้พ่อกับลุงนาซีฟมองหน้ากันไม่ติด การทำงานน่าจะเป็นทางออกเมื่อเขาคงอยู่บ้านไม่ได้แล้ว โทรศัพท์ที่เขาไม่ได้ใช้มาหลายวันถูกกดโทรออกและรอไม่นานมาลิคก็รับสาย
“ว่าไงธาม กลับบ้านปุ๊บก็โทรมาปั๊บอย่างนี้หมายความว่ายังไงหว่า” มาลิคทักทายเสียงร่าเริงเพราะเพิ่งตื่นนอนพอดี
“ว่างไหมมาลิค ฉันมีเรื่องอยากให้นายช่วย”
“ว่ามาสิ นึกไว้อยู่แล้วเชียว”
มาลิคฟังเรื่องที่เพื่อนขอให้ช่วยแล้วหัวเราะลั่นห้องในคอนโดกลางเมืองซึ่งสามารถเดินทางไปที่บ้านของธามินได้ภายในสิบนาที ธามินวางสายแล้วก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและเขียนข้อความไว้ เขาไม่ได้ดื้อรั้น แค่รู้ทันความคิดของแม่เท่านั้นเอง

องครักษ์หญิงประจำตัวซาเมราถูกชีคชามีลเรียกตัวมาสอบถามอยู่ไม่กี่คำก็กลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ ชามีลหัวเราะเบาๆ เมื่อความสงสัยของเขาไม่ได้ผิดพลาดเลยสักนิด ซาเมราไปเยี่ยมอาการบาดเจ็บของธามินถึงสองครั้ง ความห่วงใยที่น้องสาวของเขามีต่อธามินบ่งบอกอย่างที่สวยงามและเขาไม่อาจมองข้ามได้
“เป็นไปอย่างที่คิดจริงๆ ทะเลทรายทำให้เกิดมนตราบางอย่าง”
ยาซินไม่ได้นึกสงสัยจนกระทั่งองครักษ์หญิงถูกเรียกตัวมาสอบถามนี่แหละ ใครอย่าได้มาโกหกใส่องค์ชีคเชียว ถูกจับพิรุธได้หมด แต่เขาฟังแล้วน่าจะเป็นข่าวดีนี่นา
“ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือพระองค์ ถ้าองค์หญิงซาเมรากับท่านราชองครักษ์ธามินรู้สึกดีต่อกัน สองตระกูลก็จะแนบแน่นด้วยความรักของหนุ่มสาว ราชบัลลังก์ของพระองค์ก็จะยิ่งมั่นคง”
ชีคชามีลไม่เถียงหรอกเพราะคิดแบบนั้นอยู่เช่นกัน แต่เขาจะแน่ใจได้อย่างไรว่าหลังหมดมนตราจากทะเลทรายแล้ว ซาเมรากับธามินจะยังมีสัมพันธ์ที่สวยงามต่อไป เขาเคยมีความรักและผิดหวังมาก่อนเพราะฉะนั้นย่อมไม่ด่วนมั่นใจ
“อะไรก็ตามที่ได้มาอย่างง่ายดาย คุณค่าย่อมเหือดหายในเร็ววันนะยาซิน”
“แล้วพระองค์จะทำอย่างไรต่อไปล่ะพะยะค่ะ...เอ่อ ครับ”
ชีคชามีลยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ยาซินเมื่อคิดแผนบางอย่างไว้ในใจแล้ว เขาคงต้องพิสูจน์หัวจิตหัวใจของธามินสักครั้งรวมทั้งซาเมราด้วย แม้ว่าเขาอยากให้บัลลังก์มั่นคงก็จริง แต่ถ้าต้องแลกมาด้วยน้ำตาของน้องสาว เขายอมนั่งบังลังก์ที่พร้อมจะล้มครืนต่อไปยังดีกว่า

แล้วจะมา up ต่อให้ถึงตอนที่ 16 นะคะ ตอนนี้หนังสือล่ารักแดนทะเลทราย สามารถหาซื้อได้ที่ซีเอ็ดและนายอินทร์แล้วนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านค่ะ
อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 พ.ย. 2558, 10:00:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 พ.ย. 2558, 10:00:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 949





<< ตอนที่ 14 ครึ่งแรก   ตอนที่ 15 ครึ่งแรก >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account