เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง

ตอน: ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง

วันอาทิตย์เป็นวันของครอบครัว มัทนาโทรมาหาภาวัตตั้งแต่เช้าว่าอยากพาลูกกับหลานไปเที่ยวทะเลแถวๆ พัทยา สองบ้านเลยรวมอยู่ในรถตู้คันเดียว พอถึงทะเลเด็กๆ พากันลงเล่นน้ำ มัทนา คิมหันต์และภาวัตก็ดูแลอยู่ใกล้ๆ เล่นน้ำสนุกกันไป จนเหนื่อยและหิวนั่นล่ะ เด็กซนทั้ง 3 ก็มานั่งกินอาหารทะเลกัน
บรรดาพ่อแม่มองเด็กๆ ก็แล้วเป็นสุขอยู่ในใจ ตกเที่ยงเสียงเจี๊ยวจ๊าวก็เงียบกริบเมื่อพากันหลับสนิทหมด ภาวัตอยู่โยงเฝ้าเด็กสลับกับมองโทรศัพท์ ป่านนี้แล้วทำไมมาลินยังไม่โทรมา หรือว่ามีปัญหาอะไรอีก
คู่รักลูก 2 กลับมาเลยทันเห็นภาวัตยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้ววางอยู่หลายรอบ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงถอนใจ
“รอโทรศัพท์ใครหรือคะคุณวัต เห็นมองโทรศัพท์อยู่ตั้งนานแล้ว” มัทนาถามพลางรินน้ำให้คิมหันต์
ภาวัตเม้มปากเมื่อพี่ชายกับพี่สะใภ้จ้องมองกันใหญ่ เขาเพิ่งรู้ตัวว่าปกติแล้วไม่เคยทำแบบนี้ ที่ผ่านมีแต่ผู้หญิงโทรหาจนต้องเปลี่ยนเบอร์อยู่บ่อยๆ ไม่งั้นไม่เป็นอันทำงาน
“เปล่าครับ ยิ้มอย่างนี้หมายความว่ายังไง อย่าให้พี่คิมเห็นนะ เดี๋ยวหึงล่ะยุ่งเลย”
คนถูกพาดพิงนั่งอยู่ใกล้ๆ รู้หรอกว่าภาวัตกำลังเปลี่ยนเรื่องไปแบบไม่เนียนเลยสักนิด แต่ก็เอาเถอะ ทุกคนมีมุมส่วนตัว แขนยาวของคิมหันต์โอบไหล่ของมัทนาแถมยังยิ้มพราวภูมิใจเป็นหนักหนา
“เวอร์ไปแล้ว ฉันรู้หรอกน่าว่ามัทรักใคร ไม่ใช่แกแน่ๆ”
มือหนายกขึ้นมาทาบอก ทำหน้าเหมือนถูกควักหัวใจ “โหย...เจ็บปวดชะมัด”
มัทนาหัวเราะชอบใจ ช่างต่อปากต่อคำแล้วยังตลกอย่างนี้เอง ถึงว่าผู้หญิงติดเกรียว แว่วๆ ว่าตอนนี้มีสาวเซเลบมาตามหลงเสน่ห์ ที่รอโทรศัพท์เมื่อกี้ไม่น่าใช่สาวนางนั้นกระมัง ไม่งั้นคงไม่หนีร้อนมาถึงพัทยา

รัมภาติดต่อมาแล้ว แต่ภาวัตยังไม่ให้คำตอบว่าจะไปพบได้เมื่อไหร่ ที่เขารั้งรอไว้เพราะไม่อยากให้ก้องภพเข้าใจผิด ได้ข่าวว่าสามีภรรยาคู่นี้กำลังมีเรื่องให้เตียงหัก นักข่าวพยายามจะดึงเขาเข้าไปในพล็อตรักร้าวอยู่เสียด้วย
เลขาเคาะประตูและพาชายคนหนึ่งเข้ามา แค่เห็นก็จำได้ว่าเป็นรหัทนั่นเอง ซองเอกสารยื่นมาให้เขา พอเปิดดูก็เข้าใจทันที งานก้าวหน้าเร็วกว่าที่คิด
“ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ยังไม่ชัดพอที่จะระบุได้ว่าเป็นใครครับ ที่แน่ๆ เป็นผู้หญิง แต่ถ้าตามลายนิ้วมือคงต้องใช้เวลา รอยไม่สมบูรณ์ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ก่อนนำไปเทียบ”
น่าแปลกที่เขาได้ภาพมา 3 ครั้งแล้วคนส่งก็เงียบหายไป ต้องการอะไร หรือจะเป็นพวกโรคจิต
“ก็ตามนั้น ขอบใจมากนะ”
“คุณลัลนามาขอพบค่ะ” เลขาโทรเข้ามาบอกนาย
“เชิญเข้ามาได้” พบกันที่บริษัทดีกว่าไปพบที่อื่นล่ะน่า
รหัทขอตัวกลับสวนทางกับลัลนาที่เดินลิ่วเข้ามาราวกับนางพญาไม่ว่าผู้ชายคนไหนต้องยอมสยบ ยกเว้นผู้ชายตรงหน้าที่เหมือนจะมีไมตรี แต่พอเดินเกมลุก กลับห่างออกไป นั่นล่ะทำให้เธอไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แล้วแทนที่จะนั่งโซฟารับแขก ร่างอ้อนแอ้นกลับจับจองพนักเก้าอี้แล้วเบียดร่างชิดภาวัตอย่างจงใจ
“จะพบคุณทำไมยากจังเลย วันก่อนเลขาก็บอกว่าคุณออกไปข้างนอกทั้งที่ไม่มีนัดลูกค้า ถ้าวันนี้ยังไม่ได้พบ ลัลคงต้องไปหาถึงที่บ้านละมั้งคะ”
ร่างสูงของภาวัตลุกขึ้นแล้วเดินห่างไปมองผ่านกระจกใสที่เห็นเบื้องล่าง เรียวคิ้วเข้มขมวดเมื่อเห็นร่างเล็กคุ้นๆ กำลังเดินอยู่กับพนักงานชายที่โรงเก็บไม้
“มองอะไรอยู่หรือคะ” ลัลนาตามมายืนใกล้ๆ
“ผมส่งสัญญาส่งเฟอร์นิเจอร์ใหม่ไปให้คุณแล้ว มีข้อไหนที่คุณอยากแก้ไขบ้างหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ ไม่ว่าอะไรที่คุณส่งมา ลัลเต็มใจเซ็นอยู่แล้ว” เรียวปากอวบอิ่มยิ้มพราว “วันนี้ลัลอยากไปทานข้าวกับคุณ แต่ไม่ใช่แค่สองคนหรอกนะคะ ลัลนัดรัมภาไว้ด้วย ได้ข่าวว่าคุณกำลังอยากพบไม่ใช่หรือคะ”
“งั้นรึ...” น่าสนุกหากจับโกหกได้ “ผมเซ็นเอกสารอีกสองสามฉบับแล้วเราค่อยไป”
ภาวัตเลิกคิ้วมองเหมือนขบขันบางอย่างยามเดินกลับมาที่เก้าอี้ตัวเดิมแล้วทำงานเงียบๆ ลัลนานั่งรออย่างสุขใจ
“ไม่ยักรู้ว่าคุณชอบทานขนมไทย หน้าตาน่ารักน่ากินเชียว”
เจ้าของห้องเงยหน้ามองขนมหน้าตาสวยในถาดที่จัดมาอย่างดี เขาก็เพิ่งสังเกตเห็นเหมือนกัน ก่อนไปประชุมยังไม่เห็นมีนี่นา
“เลขาคงซื้อมา”
ลัลนาหมดความสนใจไม่คิดจะกินของหวานให้รูปร่างเสีย ภาวัตเองก็ไม่ได้สนใจขนมที่ไม่เคยมีในห้องมาก่อน จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงจึงทำตามสัญญา เซเลบสาวหน้าบานยามเดินเคียงประธาน Blue Furniture ไปยังลิฟต์

เอมิกาค้อนใส่เพื่อนก่อนแกล้งเอาไหล่กระแทกให้รู้ว่าไม่ชอบหน้าอย่างที่ทำมาตลอด มาลินถอนใจยาวไม่อยากมีเรื่อง ไม่มีเสียงต่อว่าหรือแม้กระทั่งตอบโต้ผิดคาดคนจงใจทำ เอมิกามองไปรอบตัวๆ เมื่อไม่เห็นใครในฝ่ายบัญชีก็ถอดหน้ากากสาวน้อยน่ารักทิ้งไป เหลือไว้เพียงคนช่างประชดประชัน
“ช่างประจบเอาใจจังเลยนะ”
มาลินส่ายหน้านึกไว้ตั้งแต่ถือขนมเข้ามาในบริษัทแล้วให้พี่ๆ ที่รู้จักเอาไปกินด้วยกัน ไม่ได้ซื้อมาเพื่อจงใจให้ใครเป็นพิเศษยกเว้นภาวัตที่เธออยากขอบคุณเขาเท่านั้น
“เค้าเรียกว่าน้ำใจ ไม่ใช่ประจบ ฉันก็ซื้อขนมมาฝากเธอเหมือนกัน ไม่เห็นที่วางให้บนโต๊ะหรือไง ไม่ใช่ว่าจะซื้อให้แต่พี่ๆ ในบริษัทสักหน่อย เมื่อไหร่จะเลิกมองฉันในแง่ร้ายเสียที”
เอมิกาชะงักไป เธอยังไม่ได้กลับที่โต๊ะเลย ใครจะไปรู้ แต่แค่ขนมจะมาญาติดีกันง่ายๆ ได้ไง
“ก็เพราะเธอเกือบแย่งแฟนฉันได้น่ะสิ”
“ฉันไม่เคยคิดทำร้ายเธอ ทำไมเวลามีปัญหาแบบนี้ แทนที่จะโทษผู้ชาย ทำไมมาโทษผู้หญิง ถ้าพี่รหัสดีจริง ถามหน่อย ตอนนี้ไปไหนแล้ว”
เรียวปากสวยเม้มปิดจะพูดออกไปได้ยังไงว่าหลังจากเลิกกัน เธอนึกว่าพี่รหัสจะมาหามาลิน ที่ไหนได้จากตอนนั้นจนถึงตอนนี้มันมีแฟนไปแล้ว 3 คน
“ยัยลิน!”
“ฉันพูดถูก แต่เธอไม่ยอมรับใช่ไหมล่ะ ถ้าเบื่อจะเกลียดฉันแล้วก็แค่กลับมาเป็นเพื่อนกัน มันไม่ยากหรอก”
มาลินเดินลงบันไดแทนที่จะใช้ลิฟต์ ถึงจะเหนื่อย แต่ก็ได้ออกกำลังกายและปลอดภัย เอมิกามองตามยังโมโหเกินกว่าจะไปไหนได้กลัวจะแอ๊บแตกใส่ใครเข้า

ลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่าง สายตาคมมองหาเผื่อว่าจะเจอใครบางคนที่ผิดสัญญา กลับมาถึงหอพักตั้งแต่เมื่อวานกระมัง แต่ทำไมถึงไม่โทรมา ลัลนายืนคอยมองตามสายตาแต่ก็ไม่เห็นใครนอกจากพนักงานที่ค้อมหลังให้เขา จนผ่านไปหลายนาทีแล้วภาวัตยังคงยืนอยู่ที่เดิม
“รออะไรหรือคะ”
“เดี๋ยวผมตามไป คุณรอที่รถดีกว่า มีธุระต้องจัดการนิดหน่อย ไม่นานหรอก”
ลัลนาอยากรอด้วยกัน แต่ไม่อยากขัดใจเลยยอมเดินไปก่อน อย่างน้อยวันนี้เขาก็ไปไหนต่อไหนกับเธอ ภาวัตมองนาฬิกาสลับกับลิฟต์ที่กำลังเลื่อนขึ้นไปที่ชั้น 6 ซึ่งฝ่ายบัญชีอยู่ที่นั่น เสียงเดินดังมาจากบันได มาลินกำลังเดินผ่านไปโดยไม่เห็นเขางั้นเรอะ
“นี่เธอ...เธอนั่นแหละ”
คนถูกเรียกสะดุ้งหันมารีบยกมือไหว้
“คุณวัต...”
ภาวัตเดินมาใกล้ ความสูงของเขาทำให้ต้องเงยหน้าเวลาไม่ใส่รองเท้าส้นสูงแบบในวันนี้ ดวงตากลมโตมองมาเหมือนไม่ได้ติดค้างอะไร นี่แหละที่น่าโมโห
“กลับมาแล้วทำไมไม่โทรหาฉัน สัญญากันแล้วไม่ใช่หรือไง แล้วนี่อะไร มาทำงานแล้วแทนที่จะโทรไปบอกฉันก็ยังทำเฉยอีก”
“เมื่อวานลินกลับมาถึงหอพักเกือบ 4 ทุ่มแล้วก็ไม่เลยไปโทรไปเพราะเกรงใจค่ะ ส่วนวันนี้ลินฝากขนมไปให้คุณวัตแล้วนะคะ คุณเลขายังบอกว่าเอาไปให้ที่โต๊ะทำงานของคุณวัตแล้ว” มาลินบอกเสียงซื่อ หน้าเริ่มเสียเมื่อถูกดุ
ผู้ใหญ่เป็นฝ่ายอึ้งเสียเอง ขนมไทยบนถาดสวยในห้องนั่นเอง! ทำไมเขาไม่ทันคิดว่าเป็นเธอที่เอามาให้ เด็กบ้า! แล้วแทนที่จะโทรมาบอก เลขาก็อีกคน ดูสิ กลายเป็นเขามาหาเรื่อง
“อ้อ ฉันลืมไป กลางวันนี้เธอยังว่างอยู่ไหม”
“ก็กำลังจะไปโรงอาหารกับเพื่อนค่ะ”
ภาวัตมองหาไม่เห็นใครนอกจากมาลิน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ในเมื่อเขาแค่ต้องการไม้กันเซเลบ ผู้หญิงบางคนถ้าเปลี่ยนเป็นนักล่า เสืออย่างเขาก็ไม่ขอเล่นด้วย
“ถ้างั้นไปกับฉัน แล้วไหนเพื่อนเธอล่ะ”
เสียงติ้ง...ดังเบาๆ เอมิกาเดินออกมา หน้ายังบูดบึ้ง
“มานั่นแล้วค่ะ”
คนอารมณ์ไม่ดีหันมาอย่างเอาเรื่องเพราะจำเสียงได้ แต่พอเห็นว่ามาลินยืนคุยอยู่กับใคร รอยยิ้มหวานๆ ก็ผุดพรายภายในเสี้ยววินาที
“สวัสดีค่ะท่านประธาน”
“ตามผมมาทั้งสองคน”
“ไปไหนคะ” มาลินถาม
ภาวัตทำเหมือนไม่ได้ยิน มาลินยืนเฉยเลยถูกเอมิกาฉุดให้เดินตามไปด้วยกัน
“อย่าถามมากเลยน่ะ ท่านประธานสั่งก็ทำตามสิ เดี๋ยวได้ไม่ผ่านงานกันทั้งสองคนหรอก”
นั่นสิ! จริงด้วย สองสาวรีบเดินตามท่านประธานสุดหล่อแบบที่พนักงานเรียกลับหลังไปที่ช่องจอดประจำ มีสาวสวยเริ่ดเชิดใส่อยู่ตรงนั้น สายตานั้นบอกชัดไม่พอใจมองผู้มาใหม่หัวจรดเท้า
“คุณพาเด็กสองคนนี้มาด้วยทำไมคะ”
ภาวัตยิ้มหวานบ้าง “ไปทานข้าวหลายๆ คนสนุกดีออก แล้วก็เด็กสองคนนี้มาฝึกงานหลายวันแล้ว ผมยังไม่ได้พาไปเลี้ยงข้าวเลย พอว่างก็อยากทำหลายๆ อย่าง”
อ้อ มาลินเข้าใจแล้ว เอมิกาก็เหมือนกัน แต่คุณคนนั้นคงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
“แต่ว่า...” ลัลนาจะค้านมากกว่านี้ก็ไม่สะดวกเมื่อเธอเองก็หวังบางอย่างไว้ “ก็ได้ค่ะ ไปนั่งข้างหลังสิ ตรงนี้มันที่ของฉัน”
เอมิกาเปิดประตูผลักเพื่อนเข้าไปนั่ง ก่อนจะตามมาสมทบรู้สึกเหมือนเป็นก้างปลาที่ผู้หญิงคนนั้นอยากหักทิ้งแล้วโยนไปไกลๆ มาลินยิ้มให้เพื่อนของภาวัต แต่กลับถูกเบ้ปากใส่ คนเสน่ห์แรง จะไปสวีตกับแฟนทำไมต้องพาคนอื่นไปด้วยก็ไม่รู้ อยากถาม แต่กลัวไม่ผ่านการฝึกงาน

แล้วจะมา up ต่อนะคะ
อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ธ.ค. 2558, 13:50:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ธ.ค. 2558, 13:50:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 1098





<< ตอนที่ 6 ครึ่งแรก   ตอนที่ 7 ครึ่งแรก >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account