เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง

ตอน: ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง

มาลินกัดริมฝีปากตัวเองฝืนไว้ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมา ไม่โกรธที่เขาดุ แต่โกรธตัวเองมากกว่า
“ขอโทษนะคะที่ทำให้ภาคเจ็บตัว ลินขอลาออกเพราะคิดว่าทำหน้าที่ได้ไม่ดีค่ะ”
ภาวัตฟังแล้วโมโหขึ้นหน้า เขาไม่ได้บอกให้มาลินออกสักคำ แต่เด็กนั่นกลับหนีปัญหาจากไปง่ายๆ ถ้ายอมแพ้แบบนี้เขาจะคัดค้านไปทำไม ภาคมองผู้ใหญ่ไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่เท่าที่เด็กน้อยอยากทำมีเพียงกอดพ่อไว้ สายตาทั้งพ่อและลูกชายมองครูที่กำลังเก็บของแล้วจากไป
มาลินสะดุ้งเจ็บเมื่อกัดริมฝีปากตัวเองจนได้เลือดรสขมปร่า น้ำตาพลันเอ่อไหล่ พอเห็นว่าภาณินเพิ่งกลับเข้ามาพอดีรีบเช็ดออกแล้วยกมือไหว้
“หนูลินกลับแล้วหรือคะ ไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนล่ะ อาหารกำลังจะเสร็จพอดีเลย”
“คงจะกลับแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ” เธอฝืนยิ้มยกมือไหว้
“นั่นแขนกับฝ่ามือไปโดนอะไรจ๊ะ เลือดไหลซึมเชียว ตาภาคซนใส่หรือเปล่า มาให้ป้าทำแผลก่อน แล้วค่อยกลับ”
ภาณินคว้าข้อมือเล็กไว้ แต่มาลินบิดออกอย่างเกรงใจ “ไม่ใช่เพราะภาคหรอกค่ะ เดี๋ยวลินไปทำแผลเองดีกว่า ดีใจที่ได้เจอคนใจดีอย่างคุณป้านะคะ”
ภาณินมองตามจะห้ามก็ไม่ทัน เด็กคนนั้นเดินไปจนถึงรั้วบานเล็กแล้ว รถแล่นเข้ามาจอด หมอจากคลินิกประจำมาถึงพร้อมกระเป๋ายา สาวใช้มานำทาง ภาณินรีบตามไปก็เห็นหลานชายนั่งกอดพ่ออยู่
“ตาภาคเป็นอะไรนะวัต เห็นหมอเข้ามา”
“ล้มครับ แขนถลอก เลือดออก ผมเลยขอให้อาหมอมาตรวจ เผื่อจะเป็นอะไรตรงไหนอีก”
ดูท่าไม่หนักหนาเท่าไหร่ หมอกำลังทำแผล เด็กน้อยนั่งเฉยสายตามองหาคุณครู แต่ไม่รู้ไปไหน
“เมื่อกี้หนูลินก็มีแผลที่แขน ผ่ามือก็ด้วย เห็นเลือดซึมออกมาจากเสื้อ จะทำแผลให้ก็กลับไปเสียแล้ว”
“อะไรนะครับ มาลินก็มีแผล” ภาวัตถามเสียงหลง เมื่อครู่ไม่ทันเห็น “เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
พี่เลี้ยงของภาคถูกเรียกตัวมาสอบถามเพราะตอนที่กลับมาดันเป็นลมไปเสียก่อน พอรู้ว่าครูถูกไล่ออกก็ร้องไห้กระอืดๆ
“มีรถขับแว้งเข้ามา หนูหลบเกือบไม่ทัน พอตะโกนบอก คุณครูก็เอาตัวบังคุณภาคไว้ ตัวเองล้มหลังกระแทก ข้อมือซ้น มีแผลที่แขนด้วย ถ้าไม่ได้คุณครู คุณภาคอาจจะแย่ก็ได้นะคะ”
เคยรู้สึกเหมือนมีมีดมาแทงที่อกจนเจ็บไหม นั่นล่ะที่เขากำลังรู้สึก เป็นผู้ใหญ่เสียเปล่า แทนที่จะถามให้รู้เรื่องกลับโมโหหน้ามืดจนสมองปลิวหายไปหมด แล้วที่นี้ยังไงล่ะ ดุไปเสียหน้าจ๋อย ลาออกยังไม่ทัดทานสักคำ ป่านนี้โกรธจนร้องไห้ตาบวมไปแล้วละมั้ง
“ไปดุอะไรเด็กหรือเปล่า หน้าจ๋อยเชียว”
“ผมพลาดจริงๆ ครับแม่” สอบตกหมดในฐานะเจ้านาย พ่อของลูกชายและเพื่อนของเด็กคนนั้น “มีอะไรครับภาค ยังกลัวหรือไงถึงได้มากอดพ่อไว้”
ภาคทำแผลเสร็จแล้วเดินมากอดพ่อก่อนจะเปิดกระเป๋าซิปออกเพราะเพิ่งนึกได้ พวงมาลัยดอกมะลิดูยับเยิน แต่ยังส่งกลิ่นหอมและสวยเป็นวงวางลงบนมือของภาวัต
“ให้พ่อหรือครับ” ราวกับภาวัตได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ เขากอดลูกชายไว้ด้วยความรักเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะให้ดวงใจได้ “ขอบใจมากเลย พ่อก็รักลูกนะ”
“คุณครูซื้อให้ครับ บอกให้ภาคเอามาไหว้พ่อ” เด็กน้อยเล่าเสียงเบา กลัวพ่อโกรธที่ออกไปเที่ยวเล่น
ชีพที่ฟื้นคืนกลายเป็นศพเดินได้ สิ่งที่ทำไปไม่ต่างจากผู้ใหญ่รังแกเด็กเลยสักนิด ทำยังไงดี(วะ) ภาณินตบไหล่ลูกชายเบาๆ พอเข้าใจแล้วว่าใครทำผิดเอาไว้ ถึงว่ามาลินตาแดงๆ ออกไป ถูกใส่แรงจนร้องไห้น่าสงสารจริง
“ผมไม่เคยรู้สึกแย่เท่านี้เลยแม่ เป็นผู้ใหญ่เสียเปล่า ดันโมโหหน้ามืดไร้เหตุผลจนไม่ถามอะไรให้ดีก่อน” ภาวัตอยากถีบตัวเอง “ฝากภาคด้วยนะครับ เดี๋ยวผมกลับมา”
ภาคได้รับกอดอุ่นจากพ่ออีกรอบก่อนที่ย่าจะเข้ามากอดแทน ภาวัตเดินแกมวิ่งไปที่รถ ป่านนี้กลับถึงหอหรือยังก็ไม่รู้ ยังไม่ทันถึงรถก็วิ่งกลับมาขอยาจากหมอ ไปมือเปล่าคงถูกโกรธไม่มองหน้า ผู้ใหญ่ต้องง้อเด็กกันล่ะคราวนี้
รถยนต์คนหรูขับมาจ่อรั้วที่กำลังเปิดให้รถในบ้านขับออกไป ลัลนาจำได้รีบเปิดกระจกเรียกหา
“จะรีบไปไหนคะวัต”
รั้วบ้านยังเปิดรอ แต่ล้อรถผู้มาเยือนเบี่ยงออกแล้วขับตามไปอย่างไม่ลดละ วันก่อนลัลนาได้ข่าวร้อนๆ มาว่าภาวัตไปดินเนอร์หรูกับแฟนเก่า จนต้องถ่อมาถึงที่นี่ให้หายสงสัย แต่ทำไมเขาต้องขับรถหนีเธอไปด้วย งานนี้ต้องตามให้รู้ว่าไปหาใคร

ภาวัตหาที่จอดรถได้แล้ว แต่ปัญหามันอยู่ที่เขาไม่มีคีย์การ์ด ตอนนี้ไม่มีใครเข้าออก จะรอต่อไปก็ไม่ทันการณ์ ถ้าขึ้นไปหามาลินไม่ได้ ง่ายๆ นิดเดียวก็ต้องให้เจ้าตัวลงมา โทรศัพท์ถูกกดโทรออกอย่างมั่นใจ แต่สัญญาณดังระงมอยู่อย่างนั้น โกรธจนไม่รับสายหรือว่าร้องไห้จนเป็นลมเป็นแล้ว ยิ่งคิดยิ่งร้อนใจ เขาโทรซ้ำๆ จวนเจียนจะพังประตูกระจกอยู่แล้วถ้าไม่ได้ยินเสียงกดรับเสียก่อน
“ฉันรออยู่หน้าหอพัก ลงมาหน่อยได้ไหม ถ้าไม่ลงมา ฉันจะขึ้นไปหาเธอถึงห้อง”
สายถูกกดวาง มาลินเดินไปที่ระเบียงแอบมอง ภาวัตเงยหน้าขึ้นมาพอดี เธอรีบหลบชั่งใจควรลงไปหรือปล่อยให้เขารออยู่ตรงนั้นยังไงก็คงถูกด่าเหมือนกัน
ภาวัตมองลิฟต์สลับกับบันได ถ้ามาลินไม่ลงมาเขาบุกถึงห้องแน่ๆ แต่จะกลายเป็นถูกโกรธหนักกว่าเดิมหรือเปล่า เฮอะ! ช่างประไร เขามาเพื่อเคลียร์เรื่องเมื่อตอนค่ำ ไม่ได้มาง้อแฟน มาลินลงบันไดมาแล้วมองหา เขาหันหลังให้ทำทียืนกอดอก พอเด็กบ้ามายืนสมทบจึงทำหน้าเฉยใส่
“คุณวัตมีอะไรหรือคะ” เธอถามหน้าเสีย มือทั้งสองข้างถูกดึงมาแล้วแบออก “โอ๊ะ! จะทำอะไรคะ”
ภาวัตมองแล้วก็ได้แต่ถอนใจ รอยถลอกยังอยู่ชัด เลือดแห้งก็เช่นกัน แน่ล่ะสิ จนป่านนี้แล้วมาลินยังไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ถ้าตอนนั้นไม่โกรธจนตาถั่วคงเห็นว่าเสื้อคลุมแขนยาวสีฟ้ามีเลือดซึมออกมา
“ป่านนี้แล้วยังไม่ได้ทำแผลอีก ถ้าฉันขอเข้าไปในห้องคงไม่ยอมใช่ไหม ตรงนี้คนก็มากเสียด้วย แถมยัง...” ภาวัตถอนใจพรืดเมื่อเห็นรถของลัลนาเพิ่งเลี้ยวเข้ามาในหอพัก มือหนาคว้าข้อมือเล็กหมับ “ตามฉันมา”
มาลินขืนตัวถึงจะไม่โกรธ แต่ก็เคืองอยู่บ้าง
“ไม่ค่ะ ลินไม่ได้เป็นอะไร คุณวัตกลับไปเถอะ”
“ดื้อนี่เรา มาด้วยกันเดี๋ยวนี้เลย”
เอวบางถูกโอบรัดแน่นบังคับด้วยกายให้ตามมาด้วยกัน รถปลดล็อคปั๊บประตูเปิดปุ๊บ มาลินถูกดันให้เข้าไปนั่ง พอจะพรวดออกมาก็ถูกบังไว้พร้อมสายตาที่จ้องมาบึ้งตึง
“ห้ามลงมาเชียวนะ”
อยากเสี่ยงขัดคำสั่ง แต่สายตาบอกว่าเอาจริงของเขายังจ้องแม้จะเดินผ่านหน้ารถเพื่อมานั่งเก้าอี้คนขับ เพราะฉะนั้นเจ็บตัวเพียงเท่านี้ดีกว่า รถสปอร์ตขับสวนกับรถหรูของลัลนาที่ผ่านเข้ามา เซเลบสาวมองแทนจะบินตามไป แต่พอกลับรถก็ตามไม่ทันแล้ว

มาลินเบียดตัวเองจนถ้ายัดใส่ประตูได้คงทำไปแล้ว ภาวัตมาเพื่อดุ ขอโทษ หรือว่าทำอะไร ขับรถมาเงียบๆ แบบนี้กะให้เธอสยองขวัญจนช็อคตายใช่ไหม รู้แล้วว่ามีแผลยังพาตะลอนออกมาทำไม ใบหน้าสวยงอบึ้งถอนใจ ทว่าเรียวปากหนากลับคลี่ออกพลางเปิดเพลงให้เด็กฟัง ไม่รู้เป็นยังไงกะมาง้อ แต่พอได้แกล้งกลับสบายใจ
รถเลี้ยวเข้าไปจอดในคอนโดกลางเมือง มาลินมองรอบตัวเลิกลั่ก ถึงจะไม่ใช่โรงแรม แต่มันมีห้องมากมาย คนอย่างภาวัตคงไม่ทำอะไรเสื่อมเสียใช่ไหม
“คุณพาลินมาที่นี่ทำไมคะ ไม่ใช่โรงพยาบาลหรือคลินิกเสียหน่อย”
“จะทำแผลให้ ไปห้องของฉันก็แล้วกัน อยู่ที่นี่แหละ ซื้อไว้เผื่อวันไหนทำงานดึกๆ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขับรถ” เขาบอก แต่มาลินมาไม่ยอมขยับ ต้องขู่กันตลอดเวลาเลยสิน่า “ลงมาสิหรือต้องให้อุ้ม”
คนเต็มลิฟต์ตอนที่สองหนุ่มสาวเข้ามาสมทบ มาลินโล่งใจเพราะไม่อยากรบกวนให้ภาวัตมาจับมือไม่ให้กลัวบ่อยๆ ลิฟต์เปิดในชั้น 18 เธอก้าวตามร่างสูงที่เป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนต่างวัยมายืนหน้าห้องที่เขากำลังกดรหัส ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าเป็นห้องของใคร
“ลินไม่เข้าห้องของคุณวัตได้ไหมคะ มันไม่...”
สีหน้าของมาลินเหมือนอยากโวยวายแต่ทำไม่ได้เพราะเกรงใจ ถ้าตารู้ว่าเข้าห้องผู้ชายคงโกรธและเสียใจ ภาวัตขมวดคิ้วไม่เข้าใจ แค่เข้าไปในห้องเพื่อทำแผลไม่เห็นจะเป็นอะไร คำพูดของแพรมนดังก้องอยู่ในหัว ให้มันได้อย่างนี้ แค่อยากทำดีไถ่โทษทำไมมันยากอย่างนี้ เด็กเกินไป หรือเขาไม่เข้าใจคนอายุน้อยกว่า 12 ปี
“โอเคๆ ฉันก็ดันลืมคิด ถ้างั้นก็ไปที่อื่นที่ไม่ใช่ห้องของฉัน พอใจไหม”
มาลินค่อยยิ้มได้ “ที่ไหนหรือคะ”
ภาวัตตวัดสายตาสั่งให้ตามมา มาลินมองตามพอไม่ได้ดั่งใจมือหนาก็คว้าข้อมือเล็กไปด้วยกัน ถึงจะต้องขึ้นบันไดไป แต่มันแคบไม่ใช่หรือ สมภารไม่ควรกินไก่วัด แพรมนต้องเข้าใจเสียใหม่ว่าอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ มาลินก็จะกลับไปเรียนเพราะเปิดเทอมแล้ว ส่วนเขาก็ยังทำงานต่อไป ดังนั้นฐานะที่ว่าใกล้จบลงแล้ว
ลัลนาออกมาจากลิฟต์ก็ตรงนี่มายังห้องที่เธอให้คนสืบมาตั้งนานแล้วถึงได้รู้ว่าภาวัตมีห้องพักที่ไหนบ้าง พอถึงห้องเซเลบสาวไม่พูดพร่ำเคาะห้องอย่างเมามันพลางเอาหูแนบเงี่ยฟัง แต่เงียบกริบ
“เคาะตั้งนานทำไมยังไม่มาเปิด”
เพื่อความแน่ใจลัลนาลงทุนตามหารถของภาวัตตั้งแต่ชั้นใต้ดินจนถึงชั้น 5 จนกระทั่งพบ รถก็อยู่ตรงนี่ แล้วภาวัตพาเด็กฝึกงานคนนั้นไปที่ไหน น่าหงุดหงิดชะมัด โทรไปก็ไม่รับ ป่านนี้ทำอะไรกันอยู่ ในหัวของเธอเริ่มมีภาพติดเรต 18 บวก
ไม่นะ! ทำไมเขาต้องหนีด้วยเนี่ย

แล้วจะมา up ต่อนะคะ ตอนนี้สามารถอ่านในรูปแบบ E-BOOK ใน MEB ได้แล้วค่ะ
อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ธ.ค. 2558, 09:53:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ธ.ค. 2558, 09:53:47 น.

จำนวนการเข้าชม : 1122





<< ตอนที่ 9 ครึ่งแรก   ตอนที่ 10 ครึ่งแรก >>
konhin 17 ธ.ค. 2558, 15:02:00 น.
หึๆๆ ทำไมไม่พาไปหาหมอเนี่ยยยย คลินิกเต็มกรุงเทพ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account