เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง

ตอน: ตอนที่ 12 ครึ่งแรก


ลุงหมายขับรถในไร่มารับพัชนีกับมาลินกลับบ้าน สีหน้าของแต่ละคนกังวลแต่ไม่พูดออกมาให้สถานการณ์ยิ่งแย่ คนงานมารอฟังข่าว มาลินได้แต่บอกว่าร่มธรรมยังต้องอยู่โรงพยาบาลให้ทำงานกันตามปกติ ความหนักใจวางเต็มบนบ่าทั้งสองข้าง แม่นั่งพักอยู่ที่นอกชานตอนนี้เราต้องช่วยกัน




“เรื่องค่ารักษา...”




มาลินจับมือแม่มากุมไว้ “ลินจะหาทางเองค่ะ แม่ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวจะไม่สบายอีก”




“เอาที่ดินส่วนของแม่ไปขาย ตอนนี้อะไรที่แลกมาเป็นเงินได้ก็ต้องทำ คุณตาคงต้องอยู่โรงพยาบาลอีกสัก แล้วยังค่าผ่าตัด แม่เกรงใจคุณวัต”




มันคงเป็นทางออกเดียว แต่จะขายให้ใคร ถ้าเป็นเมื่อก่อนมาลินคงคิดถึงภาวัตเป็นคนแรก แต่ตอนนี้ชานนท์น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ถ้าไม่ได้มีหนี้เก่าที่ค้างคากันอยู่ จำนองธนาคารจะดีไหม แต่ใช้เวลานานมากหรือเปล่า




“ลิน...ทำไมไม่โทรบอกพัฒ” พิพัฒบอกเสียงหอบๆ พลางยกมือไหว้ “คุณป้าสวัสดีครับ”




“แม่พักนะคะ ลินทำอะไรให้กินก่อน”




มาลินขยิบตาให้พิพัฒเดินตามมา พอลับตาก็นั่งลงเหมือนหมดแรงไปอีกคน เพื่อนชายนั่งลงใกล้ๆ วางมือบนไหล่บางอย่างเข้าใจ




“ขอบใจนะพัฒที่มา อีกประเดี๋ยว ลินจะกลับไปโรงพยาบาล อยากได้เพื่อนมาคอยซับน้ำตาจริงๆ เลยล่ะ เครียดจนอยากร้องไห้อยู่แล้ว”




พิพัฒพยักหน้าตบไหล่เบาๆ มาลินซบลงแล้วถอนใจ ตอนนี้คงมีเพียงคนเดียวที่เธอจะแสดงความอ่อนแอให้เห็นได้ แต่เพียงชั่วอึดใจร่างบางก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าครัวไป ให้เครียดขนาดไหนอย่างไรก็ต้องกินเพื่อให้มีแรง




พัชนีเข้ามานั่งให้องมองรูปสามีอย่างชั่งใจ บางเรื่องหากต้องตัดสินใจก็รอเวลาไม่ได้ นามบัตรที่เคยเก็บไว้ถูกค้นจนได้เบอร์แล้วกดโทรออก รอไม่นานปลายสายก็กดรับเพียงฟังเสียงก็จำได้ทันที




“มาหาป้าที่ไร่ตอนนี้ได้ไหมคะ เรื่องที่ดิน ป้าจะขายในส่วนของตัวเอง ถ้าพ่อวัตยังต้องการซื้อก็มาคุยกัน เราจะได้ตกลงกันเรื่องราคานะ”




“ผมจะรีบไปหาครับ” น้ำเสียงตอบกลับมาอย่างยินดี




สายถูกวาง หัวใจที่หนักอึ้งเริ่มเบาขึ้น แต่ถึงกระนั้นรอยยิ้มของสามีผู้ล่วงลับยังไม่สามารถทำให้พัชนี้เป็นสุขได้เมื่อปัญหายังคงดาหน้าเข้ามา




“คุณเข้าใจฉันใช่ไหมคะว่าทำไมถึงทำแบบนี้”




ไม่มีเสียงตอบกลับมาทว่าหัวใจของพัชนีบอกชัดว่าหนทางนี้น่าเดินกว่าการขอให้ชานนท์ช่วย แน่นอนว่าชานนท์ยอมช่วยแน่ๆ แต่จะกลายเป็นผลักให้มาลินไม่มีทางเลือกอย่างที่บัวเคยพบมาก่อน กลัวเหลือเกินว่าจะสูญเสียยิ่งกว่า









มาลินรับอาสานำโฉนดที่ดินของพัชนีในตู้เซฟธนาคารออกมาด้วยแผนการในใจ ทว่าคำพูดของแม่ตอนที่เธอแย้งว่าไม่ไว้ใจภาวัตเพราะเขาหลอกพวกเรายังวนเวียนอยู่ในสมอง ‘จำไว้นะลูก เวลามองอะไรอย่างมองด้านเดียว ต้องดูที่เจตนา แม่รู้จักลุงทีปต์มานาน เขาอยากช่วยถึงส่งหลานมาเจรจาขอซื้อที่ดิน แม่ตัดสินใจแล้ว ลินเข้าใจไหมลูก’ มันยากจะเข้าใจ ถ้าเขาจริงใจทำไมต้องหลอกพวกเรา ถึงจะหวังดี แต่มันก็คือการโกหกอย่างมีแผนอยู่ดี




“กลับไร่เลยไหมหนูลิน”




“ไม่ค่ะ เราจะไปไร่ของพี่นนท์กัน”




รถขับตรงไปไม่เลี้ยวเข้าไร่ขวัญชีวาตามความคาดหมายของสายตาคู่หนึ่ง เพียงไม่นานรถอีกคันที่ขับตามมาห่างๆ ก็เร่งเครื่องแล้วปาดหน้าทำให้สมหมายหักพวงมาลัยหลบแล้วเบรกจนมาลินหัวทิ่ม กระจกรถถูกเคาะ พอกระจกเลื่อนลง มือของภาวัตก็จัดการปลดล็อคเปิดประตูแล้วคว้าตัวเธอออกมาอย่างรวดเร็วยังไม่ทันได้ร้องโวยวายด้วยซ้ำ




“ขอโทษนะครับลุงหมาย ผมมีเรื่องจะคุยกับยัยเด็กดื้อนี่ บอกคุณป้าพัชนีด้วยว่าเดี๋ยวผมจะพามาลินไปส่ง ขอเวลาเคลียร์ปัญหาสักชั่วโมง”




มาลินตั้งสติได้ในเสี้ยววินาทีต่อมากระชากตัวออก แต่ไม่เป็นผล แถมยังถูกค้อนใส่ เขาไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับเธอสักหน่อย




“ไม่ไปค่ะ คุณวัตมีสิทธิ์อะไรมาบังคับ”




“ไม่ไปดีๆ ใช่ไหม”




มาลินไม่ตอบแต่กระกุยหน้าอกหนาอย่างเอาเป็นเอาตาย คนใจเย็นก็ร้อนได้เลยจัดการอุ้มคนตัวเล็ก ลุงหมายร้องตามเสียงหลงยามเห็นหลานเจ้านายถูกจับยัดใส่รถแล้วดันไปอีกฝั่ง พอจะลงก็ไม่ทันเพราะรถขับทะยานไปอย่างกับเหาะ แต่ภาวัตยังมีแก่ใจเปิดกระจกตะโกนบอกเสียงดังลั่น




“ผมไม่ได้ทำอะไรหรอกครับ บอกแล้วแค่อยากเคลียร์”




เขาควรตามหรือไปรอที่บ้านดีล่ะนี่ สองคนนี้มีเรื่องอะไรกัน แต่ก็นั่นล่ะทางเลือกมีเหลือไม่มากเมื่อมองไปอีกทีถนนก็โล่งจนตามไม่ทันแล้ว คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง









ภาวัตเงียบขรึมอย่างกับโกรธใครมา แล้วมันเรื่องอะไรกันล่ะ เขารู้ว่าเธอจะไปหาพี่นนท์หรือว่าโกรธเรื่องอื่นกันแน่ ความเร็วของรถทำให้มาลินหวาดเสียวอยู่บ้าง ถนนที่ค่อนข้างโล่งทำให้ไม่ต้องยกมือขึ้นมาสวดมนต์ แต่จู่ๆ ภาวัตก็หักพวงมาลัยเลี้ยวไปยังที่ดินซึ่งถางเป็นลานกว้าง เหยียบเบรกจนเธอหัวแทบทิ่มอีกรอบแล้วเปิดประตูลงไป แต่ยังไม่วายหันมาสั่งเสียงเรียบๆ




“ห้ามลงมา”




มาลินชะงักกึก กลัวๆ กล้าๆ แต่ยังจะก้าวลงไปอยู่ดี ภาวัตหันกลับมาแล้วคว้ามือเธอมารวบไว้พลางหาอะไรสักอย่างจนเจอผ้าขนหนูผืนยาวก็จับข้อมือเล็กผูกไว้กับพวงมาลัยรถ มันจะเกินไปแล้วนะ!




“คุณวัตจะทำอะไรอีก มามัดไว้ทำไม คนบ้า นี่เองใช่ไหมตัวจริงของคุณ ป่าเถื่อน รุนแรง โหดร้าย คบไม่ได้ ไม่จริงใจ ที่ผ่านมาก็แค่แสดงละครหลอกกันจริงๆ ใช่ไหม”




“อยากให้ฉันเป็นยังไงก็ตามที่เธอคิดแล้วกัน” ภาวัตปิดประตูปังแล้วเดินห่างออกไป เสียงมาลินลอยตามมา




“ปล่อยลินลงไปนะ”




คนก่อเรื่องไม่แม้จะหันมามอง มาลินยังตะโกนต่อไปหวังใจว่าจะมีใครผ่านมาช่วยบ้าง ตอนนี้ภาวัตบ้าไปแล้ว เสียงไอตามมาเป็นระยะเพราะคอเริ่มแห้ง แต่ความโมโหทำให้ยังส่งเสียงไม่เลิก แดดยามเที่ยงช่างระอุร้อนจนเหงื่อไหลจนเพลียในเวลาต่อมา เสียงบอกให้ปล่อยเว้นระยะแล้วเงียบลงกลายเป็นนั่งมองภาวัตอย่างอ้อนวอนแทน เธอยังไม่อยากเนื้อสุกอยู่ในรถ เขาสิสบายเข้าไปยืนในร่มไม้




เรียวปากหนาที่เคยเม้มปิดเผยอเปิดคล้ายขบขันยามเดินกลับมาที่รถแล้วเปิดประตูเข้ามานั่ง สายตาคมมองมาเสมือนเห็นเด็กยอมจำนน




“ไง สงบปากคำได้แล้วใช่ไหม ทีนี้ฉันจะได้เป็นฝ่ายพูดบ้าง”




“คุณวัตใช้วิธีสกปรก” มาลินหน้าง้ำปรายตามองข้อมือตัวเอง




ภาวัตช่วยแก้มัดให้ “ก็เหมือนกับเธอนั่นแหละ จะไปไร่ของว่าที่คู่หมาย อ้อ โทษที ไม่ตรงเท่าไหร่ ต้องบอกว่า...ว่าที่สามีล่ะสินะ ทั้งๆ ที่แม่ของเธอรอโฉนดเพื่อมาตกลงราคากับฉันอยู่ ทำแบบนี้สมควรที่ฉันจะโกรธเธอไหม”




คนก่อเรื่องก้มหน้าหลบตา “ถึงตอนนี้ลินจะไม่โกรธคุณแล้ว แต่ลินยังไว้ใจคุณได้อีกหรือคะ”




“ถ้าฉันไม่จริงใจในการขอโทษ จะมายอมให้เธอด่าเอาๆ ไหมฮึ มาลิน ลองคิดดูสิ ฉันเป็นใคร เธอเป็นใคร ไม่ต้องเอาเรื่องเจ้านายลูกน้องมาเกี่ยวข้องก็ได้ ที่ผ่านก่อนเกิดเรื่อง เราก็เป็นเพื่อนที่ดีก่อนไม่ใช่หรือ” เขาบอกเสียงอ่อนลง บางเรื่องมันกลับไปเหมือนได้ก็จริง แต่ต้องใช้เวลา




มือบางดึงกลับมาในทันทีที่เป็นอิสระ สายตาสุกสกาวคู่นั้นมองภาวัตอย่างค้นหา ชั่งใจ และกังวลหากตัดสินใจไปแล้วจะกลับมาเสียใจทีหลังไม่ได้




“สัญญาได้ไหมว่าคุณวัตจะไม่ทำแบบนี้อีก”




นิ้วก้อยยื่นออกมารอ ภาวัตมองแล้วยิ้มพราว เขาอายุเท่าไหร่แล้วต้องมาสัญญาแบบเด็กๆ อย่างนี้ด้วยหรือ แต่ก็นั่นล่ะ ใครยังคับให้เขายื่นนิ้วก้อยออกไปเกี่ยวล่ะ




“สัญญา แต่ถ้ามันเกิดขึ้นก็ขอให้รู้ว่าเพราะความจำเป็น มันไม่ได้หมายความว่าฉันหวังร้าย สิ่งที่ทำอยู่บนพื้นฐานของความหวังดีทั้งนั้น”




“ก็ได้ค่ะ ลินจะเชื่อคุณวัตอีกครั้ง ถ้างั้นเรากลับบ้านกันเถอะนะคะ แม่คงรอแล้ว”




นิ้วก้อยที่เกี่ยวกันคลายออก รอยยิ้มกลับมาแทนความโกรธเกรี้ยวเมื่อครู่ราวกับหายไปไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รถกลับเข้าสู้เส้นทางกลับไร่ ความเข้าใจก่อเกิดแต่ความเชื่อใจยังต้องสร้างกันใหม่ ภาวัตปรายตามองเมื่อความโกรธกลายเป็นสบายใจเพียงไม่ถึงชั่วโมง




“คุณวัต!...ระวังค่ะ”




พวงมาลัยถูกหักหลบกะทันหัน เพียงเสี้ยววินาทีที่ละสายตาจากถนนเท่านั้น รถบรรทุกคันหนึ่งได้เบียดแซงจนรถที่ขับนำมาก่อนเกือบถูกตบลงข้างทาง ภาวัตมองพยายามจำทะเบียนรถไว้ก่อนจะหันมามองร่างเล็กที่กระแทกใส่ประตูข้างเต็มแรง




“เป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า”




“ไม่ค่ะ แค่...ตกใจ”




มาลินตอบพลางคลำหัวไหล่ป้อยๆ แล้วพลันคนมองมาอย่างห่วงใยกลับคว้ากอดเสียแน่น จากที่ตกใจรถเลยกลายเป็นกอดที่มาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวแทน




“ก็เธอบอกว่าตกใจ เวลาภาคตกใจฉันก็ทำแบบนี้ทุกที มันมีอะไรผิดปกติตรงไหน ทำไมต้องจ้องมาเหมือนเป็นพวกหื่นกาม” เสียงนุ่มเอ่ยเบาๆ ที่ใบหูเล็ก เขาไม่ได้ตกใจเรื่องรถ แต่ความห่วงมาอยู่ที่มาลินมากกว่า




มาลินเม้มปากพรางยันอกหนาที่ยอมคลายกอดแล้วขยับห่างไปแต่โดยดี พวงแก้มเห่อร้อนแม้พยายามคิดว่าแค่กอดปลอบใจ แต่ใจกลับสั่นเพราะสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยคู่นั้น




“ก็...อยากขอบคุณนะคะ แต่ว่าลินไม่ใช่ลูกสาวอีกคนของคุณวัตสักหน่อย ตอนนี้ไม่ตกใจแล้วค่ะ”




เสียงหัวเราะเข้ามาแทนที่ความเงียบที่กลัวเหลือเกินว่าภาวัตจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นเร่าผิดจังหวะ เขายิ้มบางพลางถอนใจ ก่อนจะยื่นมือมาเกลี่ยผมออกไปจากแก้มแดงซ่าน




“ใช้ได้ ประสาทแข็งดี เอาไว้ขับรถแข่งด้วยกัน ท่าทางจะกรี๊ดไม่เก่ง ฉันชอบ” ภาวัตพูดแล้วคิดมากเสียเองจนต้องรีบแก้ “ชอบที่ไม่เสียงดัง เป็นเด็กอย่ามาคิดมาก”

มาลินพยักหน้ายิ้มยังไม่ทันได้คิดอะไรสักอย่าง รถกลับเข้าสู่เส้นทางโดยมีรหัทขับตามคุ้มกันมาห่างๆ ทะเบียนของรถบรรทุกกำลังถูกเช็ค ถ้าเป็นเรื่องบังเอิญก็แล้วไป แต่ถ้าไม่...ย่อมแสดงว่าภาวัตกำลังตกอยู่ในอันตราย ไฟท้ายตบเบาๆ ก่อนมือของภาวัตจะอื่นออกมาทักทายรถข้างหลัง บอดี้การ์ดหนุ่มหัวเราะเบาๆ รู้ตัวได้ยังไงว่าถูกเขาตาม





หนังสือวางแผงแล้วนะคะ สามารถซื้อได้จากร้านหนังสือทั่วประเทศหรืออ่านต่อใน E-BOOK เว็บ MEB ค่ะ ฝากภาวัตกับมาลินด้วยจ้า

อัมราน_บรรพตี






บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ธ.ค. 2558, 10:45:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ธ.ค. 2558, 10:45:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 1223





<< ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง   ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง >>
konhin 23 ธ.ค. 2558, 09:58:50 น.
หึๆๆ คนหนึ่งฉลาดแกมโกง แต่ยังสู้ความเก๋าคนแก่ไม่ได้ หึๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account