เล่ห์รักพรางแค้น วางแผงแล้ว สนพ ทัช
ใครจะไปคิดว่าการทำภารกิจให้ปู่ กลับกลายเป็นถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้เขาถูกสลัดลงจากคาน ยัยซื่อบื้อนั่นน่ะหรือคือไก่วัดที่ทำให้เขากลายเป็นสมภาร
Tags: ความรัก ความหลัง

ตอน: ตอนที่ 15 ครึ่งแรก

มาลินยังไม่ง่วงเลยแม้แต่นิดเดียวยังเกร็งๆ เจ้าของบ้าน ตอนกินข้าวก็มีกันแค่สองคน เธอพูดน้อยหากไม่สนิทใจ อีกทั้งทีปต์ยังเป็นผู้ใหญ่เลยยิ่งไม่รู้จะคุยอะไรเลยขอตัวกลับห้องมาเงียบๆ หญิงสาวออกมานั่งเล่นตรงระเบียง แสงจันทร์ส่อง ลมเย็นๆ พัดผ่านเข้ามา เธอมองสวนด้านล่าง คุณทีปต์กับตาชอบปลูกต้นไม้เหมือนกันเสียด้วย แล้วนั่นใครหรือที่กำลังย้ายกระถางต้นไม้อยู่ พอเพ่งมองไป จู่ๆ ใครคนคนนั้นก็เงยหน้ามาแล้วโบกมือให้พลางตะโกนถาม

“นอนไม่หลับหรือหนูลิน ลงมาเดินเล่นข้างล่างไหมล่ะ”

คนแอบมองสะดุ้งยกมือไหว้แล้วรีบลงไปข้างล่างไม่กล้าขัดคำสั่ง พ่อบ้านเป็นลูกมือคอยช่วยชายชรา แต่เธอดันมองไม่เห็นตั้งแต่แรก ทีปต์หยุดมือแล้วมานั่งรับลมที่ศาลาเล็กๆ ข้างสวนหย่อม มาลินตามมานั่งด้วยกัน

“ทำไมคุณทีปต์ยังไม่นอนล่ะคะ ปกติลินเห็นตานอนเร็วมากเลย นึกว่าคนอายุมากๆจะชอบนอนแต่หัวค่ำเสียอีก เอ่อ ลินขอเรียกว่าปู่ได้ไหมคะ”

“ได้สิ” ทีปต์พยักหน้าพลางเช็ดมือไปด้วย “ปกติปู่นอนดึกอยู่แล้ว คนแก่ก็อย่างนี้ นอนดึกตื่นเช้า แล้วหนูลินล่ะ ทำไมยังไม่นอน วันนี้มีเรื่องให้ปวดหัวไม่ใช่เรอะ หลานปู่มันห่วงหนูลินนะ”

มาลินยิ้มเกรงใจ “คงแปลกที่มั้งคะ คุณปู่ดูใจดีจัง ตอนแรกลินกลัวๆ นึกว่าจะถูกดุแล้ว”

ทีปต์หัวเราะชอบใจ เขาไม่ได้นิยมคนกล้าอย่างเดียว แต่ยังชอบคนตรงไปตรงมาด้วย มีคนกลัวเขาแต่ไม่พูดออกมา มาลินเหมือนร่มธรรมก็ตรงนี้เอง

“ปู่ไม่ดุเท่าตาของหนูลินหรอก ได้ข่าวว่าธรรมอาการดีขึ้นมากแล้ว ดีใจด้วยนะ”

“พรุ่งนี้ลินขอไปเยี่ยมตาแต่เช้านะคะ” เธอบอกไว้ก่อน จู่ๆ หายไปไม่บอกกล่าวตากับแม่จะถูกว่าเอาได้ว่าอบรมมาไม่ดี

“ได้สิปู่จะบอกคนขับรถไว้ให้ ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ หลานของธรรมก็เหมือนหลานของปู่ แล้วยิ่งเรื่องราวยุ่งๆ มาจากทางฝั่งปู่ด้วย ห้ามเกรงใจเด็ดขาด”

มือเล็กยกขึ้นพนมไหว้ ปู่กับหลานช่างมีน้ำใจต่อเธอเหลือเกิน “ขอบคุณนะคะ ถ้าตารู้ว่าเพื่อนของตาดีกับลินแล้วก็แม่ คงไม่โมโหทุกครั้งที่เห็นคุณวัตแล้วละมั้งคะ”

“ก็...ไม่แน่หรอก เรื่องในอดีตมันนานก็จริง แต่ให้อภัยกันยาก” ร่มธรรมเป็นคนช่างจดช่างจำเสียด้วย โดยเฉพาะเรื่องที่เขาทำเลวไว้ “ทำหน้าอย่างนี้แสดงว่าไม่มีใครเล่าให้ฟังใช่ไหมว่าทำไมปู่กับตาของหนูลินถึงได้เป็นแบบนี้”

“ยังเลยค่ะ แต่ถ้าคุณปู่จะเล่า...” มาลินยิ้มประจบ

ทีปต์ถอนใจเบาๆ การนึกเรื่องในอดีตไม่ทำให้เขาเสียใจอีกแล้ว แต่เสียดายมากกว่าที่ไม่คิดให้มากก่อนทำอะไรลงไป มาลินเขยิบมาใกล้ตั้งใจฟังเรื่องราวในอดีต รอยยิ้มค่อยๆ หายไป ความเข้าใจก่อเกิด นี่เองหรือเหตุผลที่ตากับปู่ไม่มองหน้ากันมาเป็นสิบๆ ปี ความเศร้าของตาช่างน่าเจ็บปวดเมื่อไม่สามารถแก้ไขสิ่งใดได้ ทุกอย่างสายไปในตอนนั้น การจากลาของคนหนึ่ง แต่สร้างความเจ็บปวดให้แก่คนถึงสองคน

ความรักทำให้เกิดโลกใบใหม่ที่แสนงดงามเปี่ยมสุข ทว่าหากผิดหวังในรัก โลกใบนั้นจะเต็มไปด้วยสีดำหม่นและจบลงด้วยโศกนาฏกรรม คำขอโทษอันยาวนานยังไม่อาจรักษาความเจ็บปวดใจของตาได้ ทีปต์เองก็ไม่ยอมแพ้ แม้ว่าเขาจะเสียใจไม่ต่างกันเลยหากเธอคิดแบบคนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์

“อย่างนี้นี่เอง ลินไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมตาถึงโกรธ แต่เรื่องมันก็นานมากแล้ว คุณปู่ก็ยังมีความพยายาม สักวันตาคงใจอ่อนแน่ๆ ค่ะ”

“ไม่โกรธตามตาของเราหรือไงล่ะหนูลิน”

มาลินนิ่งคิด ถ้าเธออยู่ในเหตุการณ์และผูกพันกับคนในอดีตก็คงโกรธอยู่แล้ว แต่คงไม่นาน การที่พ่อแม่จากไปอย่างกะทันหันทำให้เธอเลือกที่จะทำอะไรที่ทำให้ตัวเองมีความสุข

“ลินไม่ชอบโกรธใครค่ะ เสียพลังงานชีวิต เอาเวลาไปรักใส่ใจคนที่เรารักดีกว่า”

“พอจะเข้าใจล่ะ...” ทีปต์ยิ้มชื่นดีใจแทนเจ้าคนที่ป่านนี้อาจทำงานหรือหลับไปแล้ว “หนูลินเป็นคนมองโลกในมุมบวกที่ไม่โลกสวยจนน่าปวดหัว พอดีปู่กับคนอื่นๆ ไม่ค่อยพบคนแบบหนูในบ้านเท่าไหร่น่ะ ดึกมากแล้วไปนอนได้แล้วนะ”

มาลินเหลือบมองนาฬิกาข้อมือเกือบ 5 ทุ่มแล้ว นี่เธอคุยกับคุณทีปต์มาเป็นชั่วโมงแล้วหรือ เธอยกมือไหว้อีกรอบรู้สึกเกรงใจที่วันนี้อาจทำให้ชายชรานอนดึกกว่าปกติ

“ถ้างั้นลินไปนอนแล้วนะคะ ขอบคุณสำหรับน้ำใจดีๆ บ้านนี้น่าอยู่ขึ้นเพราะคุณปู่ใจดีค่ะ”

ทีปต์ยิ้มกว้างเพิ่งรู้ตัวว่าเป็นคนใจดี ที่ผ่านมามีแต่ถูกหลานว่าเป็นคนเจ้าแผนการพากันกลัวถูกจับคู่กันหมด รายนี้เรียกว่าโชคชะตาอุ้มสมคงได้กระมังเพราะเขาไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่างยังอุตส่าห์มาเจอกันเอง ว่าแต่ภาวัตจะจัดการปัญหาผู้หญิงรอบตัวยังไง



ภาวัตยังคงทำตัวปกติ ความเฉยเมยจะทำให้คนรักเกียรติยอมล่าถอยไปเอง เขาก็หวังแค่ให้แขกยอมไปก่อนที่นักข่าวจะรู้เรื่อง ถ้านานไปคงต้องพูดกันตรงๆ กัน ตอนนี้รัมภายังไม่ใช่ปัญหาหนักหนา เมื่อเขามีปัญหาหนักกว่าอย่างแหล่งไม้อาจไม่พอต่อความต้องการในอนาคต การกว้านซื้อที่ดินเพื่อปลูกต้นไม้คือทางออกซึ่งอาจช้าบ้างในช่วงแรก แต่จะยั่งยืนมีแหล่งไม้เป็นของตัวเอง

การประชุมจบลงก่อนเวลา ภาวัตกลับมาทำงานต่อที่ห้อง เสียงเคาะประตูดังขึ้นตอนใกล้เที่ยง พอเงยหน้าก็เห็นรหัทเดินเข้ามา เขายังไม่ชินจริงๆ ที่ต้องมีบอดี้การ์ด

“หน้าตาแบบนี้มีเรื่องแน่ๆ ชีวิตผมตอนนี้เห็นหน้าคุณทีไรผวาทุกที”

“มีคนพยายามลอบเข้ามาหาคุณร่มธรรมไม่น่าจะหวังดี อาจจะเป็นรายเดิมที่เคยก่อเรื่องไว้ ผมกำลังจะไปตรวจความเรียบร้อยที่โรงพยาบาล” รหัทงานแล้วแกล้งออกจากห้องไป

เสียงเก้าอี้ถูกเลื่อนตามมาด้วยเสียงเดินเร็วๆ ภาวัตยิ้มร้ายๆ ใส่ มาพูดแล้วทิ้งให้คาใจนี่มันนิสัยพี่คิมชัดๆ ติดนิสัยกันมาล่ะสิ ร้ายพอกันทั้งเจ้านายและลูกน้อง

ภาพจากกล้องวงจรปิดถูกขอให้นำมาเปิดเมื่อตำรวจมีเหตุผลจากคดีที่กำลังตามสืบ แต่วนดูหลายรอบแล้วก็ยังไม่ได้อะไร ภาวัตมาถึงพอดีก็ขอร่วมด้วยช่วยกันจ้อง แม้ว่าจะเริ่มมืดแปดด้านไปตามๆ กันเมื่อไม่มีใครน่าสงสัยเลยสักคน

“ย้อนภาพไปที่ 12 นาที 14 วินาทีหน่อยครับ” ภาวัตไล่นิ้วไปตามชายคนหนึ่งที่มากับผู้หญิงท้องแก่ ใส่หน้ากากปิดปากกันทั้งคู่ “ซูมที่เสื้อ ตรงต้นแขนขวาให้ที”

ภาพลายปักที่แขนเสื้อชัดขึ้นเป็นภาษาจีนที่อ่านไม่ออก ภาวัตนิ่วหน้าพยายามนึก เขาต้องเคยเห็นมาก่อนแน่ๆ แต่ที่ไหนหว่า

“คุณวัตเคยเห็นมาก่อนหรือครับ”

“ก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ก็น่าจะทำให้แน่ใจได้ ผมขอเวลาคิดสักครู่”

ภาวัตนั่งนิ่งอยู่นานก่อนจะวิ่งไปที่ลิฟต์ รหัทวิ่งตามยังไม่รู้เหตุผลว่าทำไมนายรีบร้อนขนาดนั้นจนกระทั่งมาที่ลานจอดรถ SD การ์ดอันเล็กถูกถอดออกมาจากตัวบันทึกจากกล้องหน้ารถ ความเข้าใจเล็กๆ ก่อเกิด บางอย่างที่อาจเป็นเบาะแสถูกบันทึกไว้ในนี้เมื่อหลายเดือนก่อน ตำรวจได้หลักฐานชิ้นใหม่ทันที



มาลินแวะซื้อน้ำเต้าหู้ไปฝากบอดี้การ์ดที่มาดูแลความปลอดภัยให้ร่มธรรม ทำให้วันนี้มาถึงโรงพยาบาลช้า เธอเดินขึ้นบันไดมาเรื่อยๆ ในมือถือของกินพะรุงพะรัง บางครั้งก็อยากลองเข้าลิฟต์มาคนเดียวสร้างความมั่นใจให้ตัวเองว่าทำได้เหมือนกัน แต่ไม่กล้ายังกลัวเกินกว่าจะทำอยู่ดี

“ผมบอกแล้วไงว่ารู้จักกับลุงธรรม พวกคุณเป็นใครอยู่ๆ ก็มาขวางทางไว้”

เสียงใครสักคนพูดไม่เบานักมาจากห้องคนป่วยริมสุดในชั้น มาลินเดินไปตามเสียงก็ได้ยินบอดี้การ์ดตอบกลับมาอย่างสุภาพ

“เป็นคำสั่งของคุณภาวัตครับ ถ้าไม่ใช่บุคคลที่ได้รับอนุญาตห้ามเข้าเยี่ยมเด็ดขาด”

ชายที่มาเยี่ยมกอดอกใส่ มาลินเห็นจากด้านหลังก็จำได้ทันที

“พี่นนท์...สวัสดีค่ะ”

ชานนท์เห็นว่าเป็นมาลินก็รีบเดินมาหาสีหน้าบูดบึ้งไม่พอใจ

“ลินมาก็ดีแล้ว บอกพี่ทีเถอะว่ามันเกิดอะไรขึ้น แค่พี่จะเข้าไปเยี่ยมลุงธรรมมันจะอะไรนักหนา แล้วนายภาวัตมีสิทธิ์อะไรมาห้ามโน่นห้ามนี่”

คงโมโหมากจริงๆ ปกติแล้วชานนท์ไม่เคยโกรธใครด้วยซ้ำ มาลินยิ้มเจื่อนๆ พลางส่งของกินที่ซื้อมาให้คุณบอดี้การ์ดแล้วบอกว่าจะคุยเอง ชานนท์สีหน้าดีขึ้นกลับมายิ้มให้เธอเหมือนเดิมภายในเวลาไม่กี่นาที

“พอดีมีเรื่องเกิดขึ้นน่ะค่ะ ถ้าเป็นพี่นนท์คงไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวลินคุยให้นะคะ ว่าแต่พี่นนท์รู้ได้ยังไงคะว่าตาของลินมาพักรักษาตัวอยู่ที่นี่” เธอไม่ได้บอกใครสักหน่อย

“ป้าพัชบอกพี่น่ะ พอดีพี่ไปหาที่บ้านมาหลังจากไปโรงพยาบาลแล้วไม่เจอลุงธรรม นึกว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ที่ไหนได้ พี่ถูกลืมเสียแล้ว” ชานนท์ตัดพ้อ

มาลินยกมือไหว้ขอโทษเพราะลืมบอกเขาจริงๆ เธอไปคุยกับทีมบอดี้การ์ดไม่กี่คำชานนท์ก็ได้เข้ามาเยี่ยมตาอย่างที่ต้องการ แต่พอดีว่าตาของเธอยังหลับอยู่จึงได้แต่เล่าอาการคร่าวๆ ให้เขาฟัง ยกเว้นเรื่องความจำที่ภาวัตบอกว่าให้คนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี

“ลุงธรรมฟื้นแล้วก็ดีเหมือนกัน อาการดีขึ้นแบบนี้พี่ก็เบาใจ แล้วหมอจะให้ย้ายกลับไปที่โรงพยาบาลใกล้บ้านของเราเมื่อไหร่หรือ พี่จะได้มาเยี่ยมสะดวก นี่ถ้าไม่ไปถามป้าพัชคงไม่รู้เรื่อง”

ตัดพ้ออีกแล้ว มาลินทำเป็นไม่เข้าใจตอบเฉพาะที่พอจะตอบได้

“ยังไม่รู้เลยค่ะ”

“หิวไหม ไปหาอะไรกินด้วยกันหน่อยสิ พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลย”

“เหมือนกันเลย ผมก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน”

มาลินยกมือทาบบอกตกใจอยู่ๆ ภาวัตก็โผล่พรวดมาจากข้างหลัง เอ หรือว่าเขาเดินตามมา แต่ว่าตอนไหนทำไม่เห็นรู้สึกตัว

“ไปกัน 3 คนก็แล้วกัน ที่ไหนดีล่ะมาลิน”

ภาวัตไม่ชวนเปล่าๆ ยังเอาตัวเองไปแทรกอยู่ตรงกลาง ชานนท์หันมามองอย่างไม่เป็นมิตร ในขณะที่มาลินไม่ทันสังเกตอะไรยังคงยิ้มอารมณ์ดี

“ใต้ตึกไหมคะ ใกล้ๆ ดี เดี๋ยวลินต้องไปมหา’ลัยต่อ คงไปไหนไกลๆ ไม่ได้”

ไม่มีใครแย้ง มาลินเดินนำไปที่ร้านอาหารใต้ตึกซึ่งเธอมากินหลายครั้ง ร้านเปิดแล้วอาหารส่งกลิ่นหอมต้อนรับคนหิวพอดี ภาวัตนั่งลงคนละฝั่งกับชานนท์ มาลินไปเข้าห้องน้ำพอกลับมาก็เห็นสองหนุ่มมองไปคนละทาง

“มานั่งด้วยกันสิ จะไปนั่งเบียดพี่ชายของเธอทำไม” ภาวัตพูดดักไว้ก่อน

“ผมไม่ใช่พี่ชาย”

มาลินห่อปากคาดว่าสงครามเบาๆ จะเกิดในไม่ช้า แต่ถ้าไปนั่งกับชานนท์เธอจะพบความยุ่งยากมากขึ้นอีก 2 เท่า ชานนท์เม้มปากข่มความไม่พอใจเมื่อมาลินเลือกไปนั่งฝั่งเดียวกับเจ้านั่น

“ขอเมนูด้วยครับ” ภาวัตยักคิ้วให้

อาหารถูกสั่งไป โชคดีที่เป็นของง่ายๆ อย่างข้าวมันไก่กับก๋วยเตี๋ยวเลยรอแป๊บเดียวก็ได้กิน ไม่ต้องนึกว่าต้องคุยอะไร สองหนุ่มพากันกินเงียบๆ มาลินเลยเงียบตาม แต่ภาวัตก็ชวนคุยเรื่อยๆ เหมือนมากันแค่สองคน ชานนท์ยังนิ่งคงไม่คิดอะไรมากกระมัง

ชานนท์มีธุระต้องไปทำต่อ มาลินขอเดินไปส่งที่รถ แน่ล่ะอีกหนึ่งหนุ่มก็ต้องตามไปด้วยเพราะอาสาจะไปส่งเธอที่มหา’ลัย

“ขับรถดีๆ นะคะ พี่นนท์ ขอบคุณที่มาเยี่ยมตาค่ะ”

มือบางยกไหว้ถูกประกบทับไว้ด้วยมือหนา ภาวัตเข่นเขี้ยวไม่ชอบใจ ชานนท์ยิ้มเย้ยยังไม่ปล่อยมือง่ายๆ

“เราคนกันเอง กลับบ้านแล้วเจอกันนะ แต่ถ้าพี่ว่างๆ จะมาเยี่ยมอีก”

มาลินพยักหน้ายิ้มแห้งๆ พลางดึงมือออกมา ชานนท์เข้าไปนั่งในรถโบกมือให้อารมณ์ดีขึ้นทันตา ภาวัตทำหน้าเฉยๆ ใส่จนกระทั่งมาลินหันมาแล้วมองอย่างกับมีอะไรติดอยู่บนหน้า

“หน้าตาคุณวัตเหมือนไม่ได้นอน ถ้ายังไงลินไปมหา’ลัยเองดีกว่าค่ะ”

“ฉันไม่หลับในพาเธอแหกโค้งหรอกน่ะ แค่อย่าเงียบ ชวนคุยบ่อยๆ ด้วย” มือหนาคว้าข้อมือเล็กไว้ให้เดินตามกันมาที่รถ ช่างไม่รู้เสียเลยว่าเขารีบมาแต่งเช้าก็เพราะเธอทั้งนั้น

มหา’ลัยอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลขับรถเพียง 15 นาทีก็ถึงแล้ว มาลินชวนคุยกลัวภาวัตง่วงไปตลอดทางจนเขามาจอดหน้าตึกคณะ เธอเริ่มหวาดๆ กลัวถูกถ่ายรูปไปลงข่าวอีก แต่มันยังเช้าเลยยังมีนักศึกษาไม่มาก แล้ววันนี้รถของเขาก็ไม่เด่นเรียกแขกเลยพอเบาใจได้

“แล้วตอนลินลงไปแล้วคุณวัตจะทำยังไงล่ะคะ” เธอถามสีหน้าบอกชัดว่าห่วง

ภาวัตยิ้มไม่ตอบอะไรแถมยังไล่ให้มาลินเข้าตึกไปได้แล้ว แต่เดินยังไม่ถึง 3 ก้าวโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นคนโทรมาน่ะหรือ...จะใครเสียล่ะ

“มีอะไรหรือคะคุณวัต”

“ฉันง่วง เธอช่วยชวนคุยไปเรื่อยๆ จนกว่าฉันจะขับรถถึงบริษัทได้ไหม แต่ถ้ารบกวน...” เขาแกล้งพูดค้างไว้ แล้วได้ยิ้มกว้างในวินาทีต่อมา

“โอ้! ไม่เลยค่ะ คุณวัตห้ามหลับในนะคะ...”

คนเจ้าเล่ห์ยิ้มร้ายๆ กวางน้อยจะมาหาทันอดีตเสือผู้หญิงอย่างเขาได้ยังไง เสียงหวานๆ เจื้อยแจ้วชวนคุยฟังเพลินหวานชื่นถึงใจ ค่อยสมกับที่อดหลับอดนอนมาค่อนคืนเพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัยกับตำรวจเพื่อเธอหน่อย



หนังสือวางแผงแล้วนะคะ สามารถซื้อได้จากร้านหนังสือทั่วประเทศเช่น se-ed นายอินทร์ หรืออ่านต่อใน E-BOOK เว็บ MEB ค่ะ ฝากภาวัตกับมาลินด้วยจ้า

อัมราน_บรรพตี



บรรพตี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ธ.ค. 2558, 09:42:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ธ.ค. 2558, 09:42:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 1156





<< ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง   ตอนที่15 ครึ่งหลัง >>
konhin 29 ธ.ค. 2558, 10:16:13 น.
โอ๊ะ รุกแล้วสิ แบบว่ารักตอนไหนกันเนี่ยไม่ทันรู้ตัวเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account