รักคุณอย่างเป็นทางการ

Tags: บุลินทร

ตอน: คุณภาสแน่ใจเหรอคะ



เจ้านาย








“คุณเกล เดี๋ยวเย็นนี้ผมพาไปดูชุดราตรีนะ”

ดวงตาคมของเจ้านายหนุ่มที่จ้องมองมาทำให้กลิกาหน้าร้อนผะผ่าวขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ แถมยังรู้สึกหวิวๆช่องท้องราวกับมีพายุหมุนลูกเล็กจำนวนมากพัดอยู่ภายใน

ทั้งที่แววตาของภาสวัฒน์เป็นสิ่งที่เธอเห็นทุกวันจนน่าจะเคยชิน แต่ความสว่างเจิดจ้าราวแสงตะวันยามเช้าก็ทำให้ไหวหวั่นทุกครายามสายตาประสานกัน โดยเฉพาะเวลาอยู่ในห้องทำงานของเขาสองต่อสองท่ามกลางบรรยากาศเงียบๆเช่นนี้

เธอประสานมือไว้ใต้โต๊ะแน่น แก้อาการประหม่าที่อาจแสดงออกผ่านดวงตาเรียวรีเบื้องหลังกรอบแว่นสายตาสีดำหนาเตอะ

“ชุดราตรีอะไรคะคุณภาส” เลขาฯสาวขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างงุนงง

เมื่อครู่เธอและเจ้านายเพิ่งพูดคุยสรุปการประชุมจบ แล้วจู่ๆเขาก็เอ่ยเช่นนั้นขึ้น จนกลิกาจับต้นชนปลายไม่ถูก

ริมฝีปากหยักลึกสีระเรื่อของภาสวัฒน์ระบายยิ้มเล็กน้อยขณะชี้แจง “ขอโทษที่พูดข้ามขั้นไปหน่อยครับ พรุ่งนี้ตอนทุ่มนึงคุณไปงานเลี้ยงประจำปีของบริษัทธนาจิเวลรี่กับผมหน่อยสิ” ประธานบริหารโรงแรมน่านนิรมิตเอ่ยถึงบริษัทของเพื่อนสนิทที่ส่งบัตรเชิญมาให้ ขณะที่ผู้ช่วยของเขาทำหน้าเหลอหลา

“บริษัทธนาจิเวลรี่เหรอคะ” กลิกาทวนคำ ใช่ว่าไม่เคยไปงานเลี้ยงกับเขา แต่ที่เธอประหลาดใจก็เพราะนี่เป็นงานส่วนตัว ไม่ใช่งานเลี้ยงในวงการธุรกิจโรงแรมเหมือนผ่านๆมา

“ปกติงานส่วนตัวผมจะไปกับคุณแม่ แต่วันนั้นท่านไม่ว่าง ติดงานการกุศลน่ะ ผมไม่มีเพื่อนไป เลยนึกถึงคุณเป็นคนแรก” เจ้าของใบหน้าคมคายบอกเสียงนุ่มนวล

แม้น้ำเสียงภาสวัฒน์จะเป็นปกติ แต่กลิกากลับคิดว่าตัวเองเห็นประกายลึกล้ำในดวงตาสีนิลคู่นั้น ต้องพยายามควบคุมหัวใจอย่างหนักไม่ให้คิด ‘เข้าข้างตัวเอง’ โดยเฉพาะคำว่า ‘นึกถึงคุณเป็นคนแรก’ ยิ่งพาให้คิดไปไกลแสนไกล หัวใจดวงน้อยๆพองโตคับอกจนกลัวว่าเขาจะเห็นอาการ ‘บางอย่าง’ ที่เก็บไว้มานานแสนนาน

แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่ท่านประธานจะชวนเธอไปงานเลี้ยงด้วยเหตุผลอันลึกซึ้ง กลิการู้ตัวดีว่าห่างไกลจากสเป็คของเขาลิบลับ

ภาสวัฒน์เป็นชายในฝันที่สาวๆหลายคนคลั่งไคล้ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่สมบูรณ์แบบจนได้ฉายาว่า ‘เจ้าชายแห่งวงการโรงแรมเมืองเหนือ’ ดวงตาคมสว่างไสวชวนมองของเขาเป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงต่างใจละลายเมื่อได้สบตา ยิ่งบวกกับความสามารถด้านการทำงานแล้ว ยิ่งทำให้ใครหลายคนอยากเป็นเจ้าของหัวใจชายหนุ่ม ต่างพยายามเข้ามาทำความรู้จักและนำเสนอตัวเองเต็มที่ แต่ที่ผ่านมา ภาสวัฒน์ไม่เคยสนใจใครจริงจัง เพียงรู้จักไม่นานก็เลิกลากันไป เข้าข่ายความสัมพันธ์แบบชั่วครั้งชั่วคราวอะไรแบบนั้นมากกว่า

ดูเถอะ ขนาดมีคนสวยๆเข้ามาในชีวิตเขายังไม่คิดสานต่อ บางคนเป็นถึงลูกสาวนักธุรกิจ มีทุกอย่างเท่าเทียมกันด้วยซ้ำ แล้วประสาอะไรกับลูกสาวเจ้าของแปลงดอกไม้เล็กๆ หน้าตาไม่โดดเด่นอย่างเธอเล่า

เลิกคิดว่าเจ้านายจะคิดอะไรกับตัวเองได้แล้วยายเกล เขาก็แค่ไม่มีเพื่อนไปงานเลี้ยงจริงๆอย่างที่บอก เลยอยากมีคนควงแก้ขัดเฉยๆ

คิดมาถึงตรงนี้ กลิกาก็รู้สึกเจ็บแปลบปลาบในหัวใจดุจมีมีดเล่มคมกรีดลงมาเบาๆ มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาหนึ่งปีที่เธอทำงานในโรงแรมน่านนิรมิต บางครั้งนานๆมันจะมาที หรือบางช่วงก็มาถี่ๆจนต้องใช้ความอดทนเข้าข่มเจ้าความรู้สึกที่เปรียบเสมือนปีศาจแสนซนตัวเล็กๆ ให้มันเพียงแค่สะกิดหัวใจเบาๆ ไม่ดื้อรั้นเอาหอกแหลมมาทิ่มแทงให้เธอทรมานไปมากกว่านี้

ความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในใจ เก็บไว้คนเดียวมานาน บอกไม่ได้ และไม่ควรบอก หรือบอกไปก็ไม่รู้ว่าคนถูกบอกจะมีปฏิกิริยาเช่นไร จริงๆคำตอบมันก็มีสองอย่าง เขาอาจเป็นเจ้านายที่แสนดีเช่นเดิม หรืออาจเปลี่ยนไปเลยก็ได้ แต่คำว่าเปลี่ยนไปนั่นแหละที่น่ากลัวสำหรับกลิกา

ถ้าให้เลือก แน่นอนว่าหญิงสาวเลือกที่จะแอบชื่นชมเขาอยู่ไกลๆแบบนี้ ไม่หวังให้อะไรมากขึ้นหรือน้อยลง ขอเพียงภาสวัฒน์คุยด้วยและยิ้มให้อย่างทุกวันในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง เธอก็มีความสุขมากเกินพอ เพราะอย่างไรมันก็ดีกว่าการหมางเมิน และมองด้วยสายตาเย็นชา รังเกียจ ซึ่งคงจะทำให้เจ็บกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่านัก

“ไปนะครับ” เจ้าของโรงแรมเอ่ยขึ้นอีกคล้ายเป็นการทวงคำตอบ

กลิกาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจตอบ เพราะคิดว่าเขาคงรู้สึกว้าเหว่จริงๆหากไม่มีคนไปด้วย

“ได้ค่ะ แต่ว่า…”

“เรื่องไซส์ของชุดไม่ต้องห่วง” ภาสวัฒน์เอ่ยขึ้นราวกับรู้ว่าหญิงสาวจะถามอะไร

“ค่ะ” กลิกาแสดงท่าทีรับรู้ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ ท่านประธานทราบได้ยังไงว่าเธอใส่เสื้อผ้าไซส์ไหน

“คุณคงไม่ได้คิดว่า ผมรู้ขนาดเสื้อผ้าของคุณหรอกนะ” ดวงตาคมซึ่งมองร่างบางมีรอยยิ้มอยู่ในนั้น แม้ใบหน้าคนพูดจะไม่ได้ยิ้ม

เลขาฯสาวหน้าร้อนวาบ เพราะกำลังคิดอย่างที่เขาพูดอยู่พอดี

“เปล่าค่ะ” เธอส่ายหน้าไวๆ

ชายหนุ่มกระตุกมุมปากยิ้มนิดๆ

“เย็นนี้เดี๋ยวผมพาไปลองชุดที่ร้าน ถ้าไม่พอดีจะได้แก้ แล้วให้คุณแอ๋วส่งชุดมาที่โรงแรมพรุ่งนี้อีกที” ภาสวัฒน์สรุปพร้อมลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน ทำให้เห็นร่างสูงสง่างามในชุดสูทสีเทาเข้มแบรนด์ยุโรปเต็มตา “ผมต้องออกไปข้างนอกแล้ว มีนัดตอนบ่าย”

กลิกาลุกขึ้นตามพร้อมหอบสมุดบันทึกมาไว้ในอ้อมแขน ด้วยความที่เธอสูงเพียงร้อยหกสิบต้นๆ ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นอีกเมื่อคุยกับเขา

“คุณภาสแน่ใจเหรอคะ”

“แน่ใจว่าอะไร” คิ้วหนาของชายหนุ่มขมวดเข้าหากัน

“ก็…ที่จะให้ดิฉันไปงานเลี้ยงด้วย คือ…ดิฉันไม่เคยไปงานหรูๆแบบนี้มาก่อน” งานเลี้ยงส่วนตัวนี้น่าจะรวมเหล่าบรรดานักธุรกิจและคนในวงการไฮโซไว้มากมาย ซึ่งลูกสาวชาวบ้านอย่างเธอไม่ได้อยู่ใกล้วงโคจรนั้นเลยสักนิด

“ไม่เคยก็ไม่เป็นไร ฝึกไว้ ต่อไปคุณอาจต้องออกงานกับผมบ่อยๆ เพราะช่วงสามเดือนมานี้ คุณแม่ท่านไม่ค่อยว่าง เวลาไปงานผมอาจต้องให้คุณไปเป็นเพื่อน”

ไม่รู้ว่าเธอตาฝาดหรือเปล่าที่เห็นแววตาเจิดจ้าของชายหนุ่มคล้ายมีความสับสนลังเลเจืออยู่ในนั้น

“ตกลงตามนี้นะครับ”

“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับโดยไม่มีทางเลือก เพราะในฐานะเลขาฯ เมื่อเจ้านายไหว้วานอะไรก็ควรทำให้ได้ทุกอย่าง ยกเว้นว่าจะเกินความสามารถจริงๆ

“ขอบคุณมาก คุณไปทานอาหารเที่ยงเถอะ แล้วตอนเย็นผมจะเข้ามารับ” พูดจบเจ้าของร่างสูงหนาก็เดินออกไปจากห้องทำงาน ทิ้งให้เลขาฯส่วนตัวคิดหนักอยู่คนเดียว

งานคืนพรุ่งนี้ เธอจะทำให้เจ้านายขายหน้าหรือเปล่านะ



บุลินทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ม.ค. 2559, 11:31:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ม.ค. 2559, 11:31:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 1092





<< บทนำ   
บุลินทร 10 ม.ค. 2559, 11:33:00 น.
คุณ Zephyr
มาติดตามต่อกันเลย เฟอร์ลืมเนื้อเรื่องไปยังเนี่ย แต่มีเปลี่ยนปมใหม่แบบคนละขั้วกับรอบก่อนเลย


lovemuay 10 ม.ค. 2559, 13:07:30 น.
น่าติดตามดีนะคะ บางทีอาจจไม่ได้รักข้างเดียวก็ได้นะ


ปิ่นนลิน 10 ม.ค. 2559, 15:04:11 น.
มาลงชืออ่านค่ะ


Zephyr 10 ม.ค. 2559, 21:05:53 น.
ลืมไปละ คุ้นแต่ชื่อนางเอกง่า
นายภาสจะเก้กไปไหน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account