เขาล่อลวงเธอด้วยมนตราแห่งปรารถนา แต่สุดท้ายก็ได้รู้
หาใช่เขาที่เป็นผู้คุมเกมเสน่หานี้ไม่

“นิว นีเดอแลนด์ ทริบูน ฉบับวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๐๑๕ เฉียบขาดสมกับเป็นม้ามืดแห่งวงการข่าวนิวยอร์ก เมื่อพิสูจน์ตัวเองด้วยบทสัมภาษณ์ของ นิโคลัส แวนดอร์ฟ เจ้าพ่อแห่งวงการค้าอัญมณีที่ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์กับสื่อมานานกว่าหนึ่งปี” หนังสือพิมพ์ที่ถูกกางออกอ่านค่อยเลื่อนลงมาช้าๆ เผยให้เห็นชายศีรษะล้าน คิ้วบาง และกรอบแว่นสายตา ดวงตาหลังเลนส์นั้นหรี่ลงนิดๆ และ...

“ว้าว! มันเยี่ยมมาก อันนา!”

หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นถูกวางลงบนโต๊ะไม้ทันใด พร้อมกับเผยให้เห็นใบหน้าอวบอูมและสองแก้มแดงราวกับแอปเปิ้ล

“พรุ่งนี้หนังสือพิมพ์เล่มต่างๆ จะต้องอิจฉาเราแน่ๆ เธอเจ๋งจริงแม่หนู”

เจ้าของคำชมเป็นผู้ชายเลยวัยกลางคนไปแล้ว และเขาชื่อ อีเดน ธอร์น เจ้าของธุรกิจสิ่งพิมพ์ขนาดเท่าเมล็ดงาในแมนฮัตตัน

ส่วนคนถูกชมเป็นหญิงสาวอายุราวๆยี่สิบกลางๆนั่งยิ้มแป้นอยู่หน้าโต๊ะไม้มะฮอกกานีมันปลาบ พวกเขาอยู่กันตามลำพังในห้องกระจกสี่เหลี่ยมขนาดกลาง ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยชั้นวางหนังสือที่วางเรียงชิดกับผนังห้องทั้งซ้ายขวา ส่วนทางด้านหลังของอีเดนเป็นผนังกระจกสีควันบุหรี่ และมู่ลี่บานเกร็ดที่ไม่ได้ถูกเปิด

“แม่หนูน้อย เธอเป็นเทพธิดาของฉันจริงๆอันนา เธอเป็นนางฟ้าที่เข้ามาช่วยทำให้เราพ้นจากการถูกมองข้าม”

อีเดนเอ่ยชมอย่างจริงใจ เพราะหกเดือนที่อันนาเข้ามาทำงานในสำนักพิมพ์ที่ใกล้จะเจ๊งมิเจ๊งแหล่นี้ ได้ช่วยทำให้นิว นีเดอแลนด์ ทริบูน กลับมาเป็นที่สนใจของผู้บริโภคข่าวสารอีกครั้ง และพ้นวิกฤตการณ์การปิดตัวลงไปได้อย่างฉิวเฉียด

“แหม อีเดน ก็คนมันเจ๋งอะ แต่อันทำงานด้วยหัวใจนะ ว่าแต่”

นักข่าวสาวยิ้มสวย

“โบนัสอย่าลืมนะคะบอส!”

คนขี้งกและหลงตัวเองเป็นที่หนึ่งยิ้มร่าหน้าบาน

อีเดนถอนหายใจกลอกตาไปมา ลูกน้องคนนี้ของเขาจริงใจเป็นที่สุด และพูดตรงเป็นที่สุดอีกเช่นกัน ไม่มีไว้หน้า ไม่มีอ้อมค้อม วาทศิลป์ที่ควรใช้... ถูกเก็บงำไปไว้ตอนสัมภาษณ์ แต่ในชีวิตประจำวันน่ะเหรอ... อย่าได้หวัง!

แล้วทั้งหมดนี้ ก็อาจเป็นผลมาจากการเลี้ยงดู... ง่ายๆดูการพาดหัวข่าวนี่ก็ได้!

“โอเค สองเดือน”

ดวงตาเรียวยาวเหมือนตาหงส์ใต้คิ้วเรียวหรี่ลงยามต่อรอง “สามเดือนค่ะบอส”

ชายเลยวัยกลางคนถอนหายใจอีกเฮือก ท่าทียอมจำนนนั้นทำให้สาวร่างเล็กสวมเชิ้ตตัวใหญ่มีแว่นตาดำเหน็บที่อกเสื้อกับกางเกงยีนส์ร้องเยส ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มกว้างถูกอกถูกใจ

“แล้วก็อีเดน” เสียงหวานหยดทำให้เจ้าของสำนักพิมพ์หรี่ตามอง “อันมีงานใหม่มาเสนอด้วยละ”

ขนตาหนางอนกระพริบปริบๆ ใบหน้ารูปไข่นวลเนียนยามยิ้มกว้างหวานหยดย้อย

“อีเดนรู้ไหมคะตอนนี้เครือเกลนนอนแบงก์กำลังจะมีการปฏิวัติครั้งใหญ่ บาร์นาบี้ พี. เกลนนอน กำลังจะลงจากบังเหียน ข่าวล่ามาว่าจะดัน เฮคเตอร์ พี. เกลนนอน ขึ้นนั่งแทน แต่กรรมการหลายคนหนุนโอดิน ริชชี่”

อีเดน ธอร์นเบิกตากว้าง “เสียใจด้วยนะแม่หนู ฉันรู้แล้ว”

อันนากลอกตาจุปากจิ๊กจั๊ก ก่อนโน้มตัวเข้าไปใกล้อีกนิดเท้าแขนลงกับโต๊ะ

“อ่าฮะ แล้วยังไงคะ สนใจอยากได้ข่าวนี้มาลงไหมล่ะอีเดน เฮคเตอร์ พี. เกลนนอน เก็บตัวไม่ให้สัมภาษณ์มานานหลายเดือนละนะ คุณก็รู้หนุ่มฮอตร้อนฉ่าของแมนฮัตตันเป็นที่สนใจของสาวสาวมากแค่ไหน และ... ลูกค้าผู้หญิงเยอะกว่าผู้ชายเป็นเท่าตัว ไม่ใช่สิ ผลการสำรวจอัตราประชากร ผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชายถึงสี่เท่า ลองนึกตามนะคะอีเดน ยอดขายของเรามันจะพุ่งไปสักขนาดไหน”

คนเสนอยิ้มกว้างเอียงคอมองตาแป๋ว

ชายวัยกลางคนยิ้มตาม เขาเบิกตาโต ก่อนโน้มตัวเท้าแขนลงบนโต๊ะ

“ถ้ายังไม่อยากให้ที่นี่ต้องปิดตัว อย่าพูดเรื่องนี้เลยอันนา”

“อีเดน” เจ้าของชื่อเลิกคิ้วขึ้นเอนตัวนั่งพิงพนัก ข้อศอกเท้ากับโต๊ะ สองมือผสานกัน ตาหรี่จับหญิงสาว

“อันนา การแหย่เสือหลับมันอาจจะทำให้เราลำบาก เรื่องนี้มันสุดความสามารถ ฉันรู้เธอเจ๋งแม่หนู แต่... เรื่องนี้เป็นข้อยกเว้น เฮคเตอร์ พี. เกลนนอน ขึ้นชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษยอดเยี่ยม เจ้าเสน่ห์ น่ารักในสายตาสาวสาว เขาเพอร์เฟ็กต์และ... อย่าลืมว่าโหดด้วย ไม่เห็นเหรอพวกสื่อที่คอยวิ่งตามเขา มีใครรอดสักรายไหมที่อาจหาญล้ำเส้นของเขาน่ะ”

“แต่เราไม่ได้ล้ำเส้นนะเอ๊ด! ลุงก็รู้ หนูไม่เคยทำให้ลุงผิดหวังและ... เสื่อมเสีย”

เมื่อใดที่อันนางัดคำว่าหนูมาใช้ นั่นแสดงว่าเธอจะดื้อจนกว่าจะได้ที่ต้องการ

อีเดนส่ายหน้า และลูกไม้นี้ก็ใช้ไม่ได้ผล ชายวัยกลางคนเจอมันมานับแต่รับอันนามาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม จากลูกคนเดียวสู่การกลายเป็นลูกคนสุดท้องของบ้าน ทำให้อันนาได้รับการเอาอกเอาใจและตามใจยิ่ง

ใช่... นิสัยต่างๆของเธอมันถ่ายทอดมาจากเขานี่แหละ

เจ้าของสำนักพิมพ์ถอนหายใจ รู้สึกเหมือนเห็นตัวเองในภาคผู้หญิง!

“แล้วจังหวะ...”

อีเดนยินแล้วจะส่ายหน้า แต่อันนามองเขม็งบอกว่า

“ป้าบอกว่าลุงควรฟังหนูพูด... ให้จบนะคะ” ยิ้มหวานพิฆาตถูกส่งมาข่มขู่ คนถูกขู่จึงกลอกตาและผายมือเป็นเชิงให้หญิงสาวพูดต่อ “ขอบคุณค่ะ”

นักข่าวสาวยิ้มหวานกระพือขนตาใส่อีกหนึ่งที

“คือตอนนี้น่ะนะคะเอ๊ด จังหวะมันเหมาะมาก มันจะเป็นความภูมิใจของหนูสุดๆกับการได้สัมภาษณ์เขา ในขณะที่นักข่าวคนอื่นกินแห้ว ที่สำคัญหนูอดทนพิสูจน์ตัวเองมานานมากแล้วนะ มันยังไม่พออีกเหรอที่ลุงจะเชื่อใจในตัวหนู”

“แต่เรื่องนี้ต้องคิดให้รอบคอบอันนา หนูก็รู้ดี ถ้าเกิดเราทำให้เขาไม่พอใจ ใช่แค่ลุง หนู แต่มันรวมถึงคนอื่นๆ ในสำนักพิมพ์นี้ด้วย ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาด ชีวิตของคนสามสิบคนจะแย่แค่ไหน”

“ลุงเอ๊ดขา” เลเวลการอ้อนเพิ่มระดับ อันนาพยายามหลายครั้งหลายหนเพื่อขอสัมภาษณ์ เฮคเตอร์ พี. เกลนนอนแต่ไม่ประสบผล และครั้งนี้เธอจะไม่ยอมถอยอีกแล้ว

ให้ตายสิเอ้า! เธอพิสูจน์ตัวเองมามากพอแล้ว!!

“หนูสัญญาด้วยอาชีพที่หนูรักเลยนะ หนูใฝ่ฝันมากที่จะอยากสัมภาษณ์เขา และ...”

ดวงตาคู่โตกะพริบปริบ

“นิโคลัส แวนดอร์ฟ ที่ตอนแรกลุงไม่เห็นด้วย หนูก็ยังได้บทสัมภาษณ์เขามา นี่มันยังไม่พออีกเหรอที่ลุงจะไว้ใจหนู และหนูมั่นใจมากๆ ว่า... ยอดขายของนิว นี เดอแลนด์ ทริบูนจะต้องเพิ่มอีกยี่สิบเปอร์เซ็น ไม่ใช่สิ สามสิบเปอร์เซ็นยังไหว!”

ข้อเสนอน่าสนใจ และที่ลูกสาวบุญธรรมคนนี้พูดมันก็จริง อีเดนหรี่ตาลงอย่างชั่งใจ ก่อน...

“โอเค!” ชายวัยกลางคนตบโต๊ะปัง อันนาหัวเราะร่วน เธอตีมือกับเขาด้วยท่าทีสนิทสนมยิ่ง เหตุเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่พ่อแม่ของอันนายังอยู่ อีเดนได้เห็นอันนาและเลี้ยงมากับมือตั้งแต่อ้อนแต่ออก เพราะพ่อแม่ของเธอเสียไปตั้งแต่เล็ก

“อันนารักอีเดนจังเลย!”

กำปั้นสองกำปั้นปะทะกันเมื่อหญิงสาวบอกเสียงใส และเธอก็คุยรายละเอียดกับลุงที่เป็นพ่อบุญธรรมอีกพักใหญ่ ก่อนจะเปิดประตูห้องทำงานของเขาออกมา

ตรงนั้นเป็นห้องโถงยาวสามเท่าของห้องอีเดน อยู่บริเวณชั้นสองของตึก มีพาทินสันกั้นแต่ละโต๊ะเพื่อความเป็นส่วนตัว จากผนังกระจกทำให้เห็นท้องฟ้าเดือนกันยายนที่กำลังมีฝนตกปรอยๆ อากาศช่วงนี้ถือว่าอันนาชอบมากที่สุด ไม่หนาวเกิน และไม่ร้อนเกิน ถึงจะมีฝนบ้างแต่เธอก็ยังชอบฤดูใบไม้ร่วงแบบนี้อยู่ดี

“เฮ้! อีเดนว่าไงบ้าง อันถึงได้เข้าไปคุยอยู่นานสองนาน”

เสียงทักดังขึ้นจากทางด้านหลัง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเหลือกตามองและท่าทีประหลาดปนตลกนั้น ทำให้หนุ่มหล่อลูกครึ่งอเมริกัน-อินโดนีเซียนหัวเราะร่วน ริมฝีปากบางรูปกระจับแย้มกว้างจนเห็นไรฟันขาว

เซบาสเตียน เบรนดอน อายุมากกว่าอันนาสิบปี ตอนนี้เขาอายุสามสิบห้าเป็นหนุ่มเนื้อหอม หอมขนาดไหนก็แบบมะพร้าวห้าวต้องเรียกพี่เชียวละกับเสน่ห์อันล้นเหลือของเขา เซบาสเตียนทำงานที่นี่มาก่อนหน้าอันนาสองปี เขาเป็นช่างภาพที่ทำให้ นิว นีเดอแลนด์ ทริบูน ได้รางวัลจากภาพข่าวยอดเยี่ยมเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว

แน่นอนถ้าอันนาเป็นเทพธิดาสำหรับอีเดน เซบาสเตียนก็เป็นเทพบุตรในสายตาของชายวัยกลางคน!

“อันจะได้สัมภาษณ์ เฮคเตอร์ พี. เกลนนอนละ แซม!”

หญิงสาวหมุนตัวหันมาหาคนสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ตางามราวตากวางพราวระยับ

“เฮคเตอร์เทพบุตรการเงินเชียวนะ โอ๊ย! อันรอเวลานี้มาตั้งนานแน่ะ! เขาทั้งหล่อ ขี้เล่น ดูเฟรนด์ลี่มั่กมาก และยังเป็นสุภาพบุรุษสุดเฟอร์เฟ็กต์ ชีวิตนี้ขออันได้นั่งมองหน้าเขาสักสิบนาที อันก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่ามากๆแล้ว”

ใบหน้ารูปสามเหลี่ยมของคนฟังเรียบสนิท แต่ดวงตาเรียวยาวชั้นเดียวมีแววไม่พอใจ คิ้วหนาเข้มของเขาขมวดมุ่น ก่อนเซบาสเตียนจะได้สติเมื่อถูกกระแทกไหล่ เขาเหลียวไปมองด้วยสายตาดุๆ และด้านขวาของเขานั้น ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งถือแก้วกาแฟขึ้นจิบตีหน้าตาย

“ฉันรู้ว่าเธอปลื้มเกลนนอนนะอัน แต่อย่าออกนอกหน้ามาก เดี๋ยวจะมีคนขาดใจตายด้วยความอิจฉาไปเสียก่อน” สาวสวยผมยาวสีออกแดงนิดๆ คนนี้อายุมากกว่าอันนาสองปี เธอเป็นนักข่าวเช่นเดียวกัน แต่ดูแลเรื่องข่าวสังคมวงไฮโซ ไม่ใช่สายธุรกิจเหมือนกับอันนา แม้ว่าสายงานจะเอี่ยวกันอยู่ก็ตามที

แคทเธอรีน ธีโอเตี้ยกว่าอันนาสองเซนติเมตร รูปร่างค่อนไปทางอวบอิ่มสมส่วน เธอเป็นเหยี่ยวสาวสวยเฉี่ยว ดวงหน้ารูปสามเหลี่ยมนั่นเปื้อนรอยยิ้มเสมอ แต่ดวงตาโตสองชั้นใต้คิ้วเรียวค่อนข้างดุ ยิ่งคำพูดเชือดเฉือนหลุดจากเรียวปากอิ่มเมื่อไหร่ คนได้รับเป็นได้รู้สึกเหมือนกำลังถูกมีดโกนเฉือนเอาเลยทีเดียว!

อันนาหัวเราะร่วนยกมือขึ้นโบกไปมา

“ไม่เอาน่าแคท เธอหมายถึงแซมเหรอ ม่าย-ย-ย-ย ไม่มีทาง อาทิตย์ก่อนแซมเพิ่งควงสาวสุดเซ็กซี่ของ เอ็นวายนิวส์ไปออกเดตนะ”

แม่คนหลงตัวเอง ขี้งก และ... ความรู้สึกช้ารีบพูดแล้วหลิ่วตามองชายหนุ่มหนึ่งเดียว

“เธอคนนั้นสวยเอ๊กซ์สุดๆ เด็ดมากใช่ไหมล้าแซม เชื่อมือแม่สื่อเถอะ ระดับนี้แล้ว”

เซบาสเตียนยิ้มรับแบบฝืนๆ แต่แคทเธอรีนยกแก้วกาแฟขึ้นจิบแล้วเบือนหน้าหนีพลางถอนหายใจ เธอหันกลับมามองอันนาที่ยังมองมาตาใสและยิ้มส่งให้ ก่อนยกมือขึ้นตบลงบนบ่าตากล้องหนุ่มแรงๆ สองสามที

“มีงาน เดี๋ยวอีเดนออกมาแล้วโดนว้ากไม่รู้ด้วยนะ ไปละ” แคทเธอรีนเดินจากไป

เซบาสเตียนมองเข่นเขี้ยวตามหลัง เขายกมือขึ้นวางบนศีรษะของอันนาโยกเบาๆสองสามครั้งและยิ้มให้เธอ

“แม่สาวคนนั้นสุดยอด แต่จบกันไปแล้วเราเข้ากันไม่ได้” อันนาร้องว้ารีบเดินตามคนที่เดินจากไป พยายามคาดคั้นถามว่าทำไม แคทเธอรีนวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ เพื่อนร่วมสำนักพิมพ์อีกคนเงยหน้าขึ้นจากบรู๊ฟงานตรงหน้าชะเง้อมองไปยังทิศทางโต๊ะของเซบาสเตียน แล้วเบือนสายตามามองแคทเธอรีนยิ้มๆ

“ไม่รู้จะสงสารแซมหรือโมโหอันดีนะ อีกคนก็ทื่อ อีกคนก็บื้อ”

“นั่นสิ” หญิงสาวพึมพำตอบรับแต่ตาหม่นลง

แคทเธอรีนทรุดลงนั่งทำเป็นสนใจกับงานในคอมพิวเตอร์ แต่ก็ยังอดจะทอดถอนใจไม่ได้ เพราะคำว่านั่นสิของเธอ หมายถึงว่า ไม่รู้จะเห็นใจเซบาสเตียนที่ทื่อมะลื่อแล้วยังบื้อไม่ต่างจากอันนา หรือสงสารตัวเองที่ไม่กล้าพอกันแน่


=================================================================>>>>>>


ดีค้า ครึ่งแรกพายัยอันมาส่งค่ะ ^^

คุณบุลินทร เฮคเตอร์ออกจะน่ารักนะยะ หึๆ
คุณkaelek อาจมีการอยากกระโดดถีบขาคู่ หรือว่า อยากแทนที่ยัยอันก็ได้ค่างานนี้ 5555
คุณใบบัวน่ารัก อุ้ย ไม่เอา ต้องรอเฉลยดิ อิๆ
คุณLiez 555 รับประกันความน่ารัก เกรียนและหวานค้า ฮิ้ววววววววววว

และคุณๆรีดเดอร์นะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่าน มาคุย มากดคะแนนให้ ขอบคุณมากๆนะค้า

สำหรับวันนี้หนอนน้อยไปแล้วนะคะ คืนนี้ขอให้หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์จ้ะ ^^

ดังปัณณ์

จำนวนการเข้าชม : 2260

---

---

---

---

เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account

Copyright (c) 2012 love-stories.net. All Rights Reserved. Designed by @windygallery