หนาวปรารถนา [Sixteen]
ภีมวัจน์ หรือหนาว
หนุ่มชาวเชียงใหม่ในวัยสามสิบสอง ต้องการซื้อโรงแรมที่ใกล้จะเจ้งในกรุงเทพเพื่อเอามาบริหารต่อ

แรกทีเดียว
เขาตัดสินใจและหันหลังให้เมื่อขอตกลงไม่ตรงกับใจ
แต่เมื่อเจ้าของที่เขาเพิ่งเห็นหน้าเป็นครั้งแรกต้องจากไปอย่างกะทันหัน
ทิ้งลูกสาว 16 ผู้ไม่รู้อะไรในโลกกว้างใบนี้ไว้เบื้องหลัง
เพราะความห่วงใย บวกสงสาร
เรียกร้องให้เขาต้องตัดสินใจใหม่ เพื่อให้ได้เป็นผู้ปกครองของเด็ก
โดยไม่ได้ล่วงรู้ว่า
ในเวลาต่อมา เด็กสาวจะกลายมาเป็นภาระทางใจ
ให้เขาต้องพานพบกับความทุกข์ทรมาน
เพราะความปรารถนาที่เหนือการควบคุม
เขาจะทำยังไงกับเธอดี
จะเดินหน้าหรือหันหลังให้


=============



สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย

หนึ่งคอมเม้นต์คือหนึ่งแรกผลักดันและกำลังใจของคนเขียนนะคะ
แต่ยินดีต้อนรับนักอ่านเงาทุกท่านค่ะ
นิยายของกันเกราที่ผ่านการพิจารณาจาก สนพ. แล้ว จะลงให้อ่านเป็นน้ำจิ้มได้ ๕๐% - ๖๐% เท่านั้นนะคะ ท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านค่ะ
ถ้าผลงานของกันเกราเป็นที่ถูกใจ ก็ฝากให้ติดตามต่อตอนจบในรูปเล่มนะคะ ได้โปรดอย่างอน อย่าเคือง อย่านอยส์ และอย่าทิ้งกันเกราไปไหนนะคะ ขอความเห็นใจและขอความเข้าใจในเรื่องของการขายและการตลาดด้วยจ้า

รักคนอ่านทุ๊ก ทุก คนค่ะ

ยิ้มมมมมมมมมมมมมมม
Tags: Lolicon

ตอน: แรกพบ

นิ้วขาวยาวเรียวปราดไปบนหน้าจอซัมซุง ATIV Q อย่างเชื่องช้าเพื่ออ่านรายงานที่ถูกส่งมาจากเวทิตผู้เป็นนายหน้าเจ้าประจำ ทั้งภาพและรายละเอียดครบครันนั่นทำให้ ‘ภีมวัจน์ กฤตชยางกูร’ พอใจในผลงานและเรียกใช้บริการทุกครั้งที่ต้องอยากได้กิจการใหม่ที่เขามองหามาไว้ในครอบครอง

เขาจ้องมองภาพถ่ายโรงแรม บูติคระดับสี่ดาว บนถนนสุขุมวิท ที่คนขายโอ้อวดว่าใกล้รถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน BTS & MRT Terminal 21 As[oke ซึ่งเป็นย่านธุรกิจกลางใจเมืองกรุง จำนวนห้องพักร้อยสี่สิบหกห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเนื้อที่หนึ่งไร่ หนึ่งงาน ยี่สิบห้าตารางวาในราคาเก้าร้อยแปดสิบล้านบาท แทบไม่ต้องคิดนานเพราะนั่นเกินงบที่เขาวางไว้ไปเกือบเท่าตัว

นิ้วขาวราวสตรีเลื่อนลงไปอย่างรวดเร็วแล้วไปสุดตรง โรงแรมสี่ดาวตกแต่งสไตล์ไทย บนถนนรัชดาภิเษกห้องพักหกร้อยสิบแปดห้อง โครงสร้างโรงแรมและสิ่งอำนวยความสะดวกข้างในยังอยู่ครบ สามารถปรับปรุงแก้ไขต่อเติมได้เลย ปิดกิจการมาได้ 3 ปีแล้ว ใกล้รถไฟฟ้า MRT ย่านธุรกิจ ศูนย์ราชการ และแหล่งชอบปิ้ง มีอาคารที่จอดรถ พื้นที่เก้าไร่ หนึ่งงาน สี่สิบหกตารางวาในราคาขายสามพันหกร้อยห้าสิบล้านบาท

เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาผิวขาวนวลเนียนยิ่งกว่าสตรีบางคนยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยกับราคาขาย ความสนใจถูกโยนทิ้งแล้วเลื่อนลงไปเรื่อยๆ อย่างหมดความสนใจ ก่อนจะสะดุดตาตรงราคาห้าร้อยสิบหกล้านบาท เลยจรดปลายนิ้วเพื่อหยุดแล้วเลื่อนลงมาอ่านโดยละเอียดระดับสามดาวครึ่ง ถนนวิภาวดี หนึ่งร้อยสิบหกห้อง ใก้ลรถไฟฟ้า MRT พื้นที่สองไร่สองงานสิบหกตารางวา เปิดกิจการมาแล้วสิบหกปี นิ้วขาวเลื่อนดูภาพถ่ายทุกซอกทุกมุมที่เวทิตส่งมาให้ ครุ่นคิดนิดหนึ่งก่อนจะโทรหา

’16’

เลขนี้มักจะสะดุดใจเขาทุกครั้งที่เห็น เพราะตัวเขาเกิดวันที่สิบหก เวลา สิบหกนาฬิกาสิบหกนาที พ่อเขาก็เกิดวันที่เดียวกัน และจบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุในวัยห้าสิบปีก ส่วนเขาอายุยี่สิบหกปีพอดิบพอดี นั่นทำให้เขามักจะสนใจอะไรต่อมิอะไรที่เป็นเลขสิบหกอยู่เรื่อยๆ

“คุณเวทิตนะครับ ผมภีมวัจน์นะครับ ผมสนใจโรงแรมพีเอส ขอรายละเอียดเพิ่มแล้วช่วยนัดให้ทีพรุ่งนี้บ่ายโมงเป็นต้นไปผมว่าง ขอข้อมูลแบบไม่เมคนะครับ ขอบคุณครับ”

พอวางสายแล้วเขาก็ตั้งจอแท็บเล็ตเข้ากับคีย์บอร์ดไว้ดังเดิม ก่อนจะเลื่อนแฟ้มบนโต๊ะทางขวามือมาตรงหน้า เปิดอ่านอย่างละเอียดละออก่อนจะจรดปลายปากกาอนุมัติลงไป ส่วนอีกแฟ้มเขาจรดปลายปากกาลงแต่ไม่ใช่อนุมัติ กลับเป็นการขีดฆ่าในส่วนที่รายงานนั้น ‘ทำผิด’ เขาเบื่อหน่ายนิดๆ กับความผิดซ้ำซากจำเจของพนักงาน จนต้องเสียเวลามาตรวจเสียเอง และตอนนี้เขาเดินเฉียดคำที่พ่อมักจะพูดเสมอๆ เมื่อครั้งยังมีชีวิตว่า ‘ผู้จัดการสันดานกรรมกร’ ไปทุกทีๆ แล้ว

เมลแจ้งเตือนว่ามีคนส่งเข้ามา คลิกเข้าไปดูก็รู้ว่าเป็นเวทิตที่ส่งรายละเอียดตามที่เขาขอเมื่อไม่กี่นาทีมาให้ นั่นแปลได้หรือเปล่าว่าเจ้าของอยากขายใจจะขาด เขาเลยสนองนีสด้วยการเปิดอ่านข้อมูลด้านการประกอบการแบบไม่ปิดบังตรงไปตรงมา และนั่นก็แปลได้ว่าอีกฝ่ายก็เป็นคนเปิดเผยพอสมควร ท้ายเมลมีรายงานเพิ่มเติมจากเวทิตเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของ

‘ปัญญา สุริยวงศ์ (ปัญ) อายุหกสิบ สูงร้อยแปดสิบเอ็ด น้ำหนักแปดสิบ เลือดกรุ๊ป เอบี การศึกษาปริญญาตรีอเมริกา

ภรรยา ปาริดา สุริยวงศ์ (ปา) อายุห้าสิบ สูงร้อยห้าสิบแปด น้ำหนักห้าสิบ เลือดกรุ๊ป โอ การศึกษาปริญญาตรีจุฬาฯ ลูกสาว ปรารถนา สุริยวงศ์ (น้องเหนือ) อายุสิบหก สูงร้อยหกสิบสาม น้ำหนักสี่สิบห้า เลือดกรุ๊ป บี การศึกษาเกรดสิบเอ็ดโรงเรียนนานาชาติ เกิดวันที่สิบหก เวลา สิบหกนาฬิกาสิบหกนาที ปล. ห่างกับคุณหนาวสิบหกปีพอดิบพอดี’

หนุ่มวัยสามสิบสองยิ้มมุมปากอีกครั้งตรงที่นายหน้ารู้มากขีดเส้นใต้เอาไว้ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโยงใยเขากับเด็กสาวในทางอื่น นอกจากจะเน้นให้เห็นเลขสิบหกที่รู้ว่าเป็นจุดอ่อนของเขาเท่านั้น และไม่นานเมลต่อมาก็แจ้งวันเวลานัดหมายกับเจ้าของโรงแรมให้เรียบร้อย เขาแค่ตอบกลับไปว่าตกลงเท่านั้น แล้วก็หันหน้ามาหาแฟ้มต่อ จนถึงเวลาเที่ยงครึ่งถึงได้ออกจากออฟฟิศบนชั้นห้า สิบเป็นชั้นบนสุดที่เขายึดเป็นออฟฟิศของครอบครัวไปโดยปริยาย ส่วนพนักงานอื่นๆ จะทำงานอยู่ชั้นใต้ดินของตึก

“คุณหนาวจะกลับเข้ามาก่อนไปโรงงานหรือเปล่าคะ”

ขจีเลขาสาวใหญ่วัยสี่สิบแปดเอ่ยถามเจ้านายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลกับท่าทีนอบน้อม “ไม่ครับ มะรืนถึงจะเข้า”

เจ้านายหนุ่มหล่อตอบด้วยน้ำเสียงสีหน้าและท่าทางไม่ต่างกันนัก ก่อนจะเดินไปหาบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เพราะอยากออกกำลังกายควบคู่กับการเดินดูอะไรต่อมิอะไรในห้างสรรพสินค้าลานนาสแควร์ (Lanna Square) เมืองเชียงใหม่ที่เมื่อสิบหกปีก่อนเป็นแค่โชว์รูมชั้นเดียวขายกระเป๋ากับเสื้อผ้าแบรนด์ ‘PK’ ที่ย่อมากจาก ‘ภีมากรณ์-ภีมภา กฤตชยางกูร’ ซึ่งเป็นชื่อพ่อแม่กับนามสกุลเขาเท่านั้น

จากห้องชั้นเดียวเปลี่ยนมาเป็นอาคารพาณิชย์สามชั้นสามคูหาในเวลาหกปีหลังจากนั้น จนกลายมาเป็นอาคารห้าชั้นกว้างขวางมีร้านรวงเป็นร้อยห้องในเวลาเพียงห้าปีให้หลังมานี้ด้วยฝีมือของเขาล้วนๆ หลังจากพ่อจากไปและเขาจะต้องเป็นหัวเรือใหญ่ให้คนในบ้านและในบริษัท

“สวัสดีครับ”

ภีมวัจน์มักจะต้องคอยยกมือรับไหว้บรรดาเจ้าของร้านค้าที่เขาเดินผ่านเพื่อไปยังฟู๊ดครอสที่อยู่ชั้นสอง เพื่อกินมื้อเที่ยงที่มักจะช้ากว่าชาวบ้านชาวเมืองตลอด อันที่จริงเขาไม่มีความจำเป็นจะต้องเดินมากินเองก็ได้ เพียงแค่สั่งเลขาก็ได้จานข้าวมาตั้งตรงหน้าแล้ว แต่เขาอยากจะดูความเรียบร้อยไปเรื่อยๆ ทุกซอกทุกมุมถ้ามีเวลา จะได้พัฒนาห้างสรรพสินค้าของเขาให้ทันสมัยและไม่ตกเทรนด์

‘ข้าวขาหมู’

คือเมนูที่เขาเลือก และต้องเป็นแบบไม่เอาหนังไม่เอามันด้วย และจะต้องเป็นมื้อเที่ยงด้วยที่เขาจะเอามันเข้าปาก เพราะมีเวลาให้มันย่อยได้อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเข้านอน แม้จะนั่งปะปนอยู่กับคนมาเที่ยวห้างมากมาย แต่นั่นก็ไม่มีใครลบรัศมีความหล่อเหลาของเขาได้ เขามักจะกลายเป็นเป้าสายตาให้ใครต่อใครมองจนชาชินไปแล้ว

‘ถ้าคุณหนาวไปเป็นดารา จีว่าดังระเบิดไปนานแล้ว และไม่ต้องมานั่งตรวจงานหลังขดหลังแข็งอยู่อย่างนี้หรอกค่ะ’

เลขาพ่อที่กลายมาเป็นเลขาเขาไปแล้วมักจะหยอกเย้าตั้งแต่เขาแตกเนื้อหนุ่มจนไม่มีเนื้อส่วนไหนๆ ให้แตกแล้วก็ยังไม่เคยหยุดสักที เขามักจะอดหัวเราะกับตัวเองไม่ได้เสมอๆ ถ้าคิดเอาดีทางที่เลขาว่าไว้คงอยู่ยากพิลึก นี่ขนาดไม่เป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ ทุกครั้งเวลาเดินเข้ามาในห้างก็มักจะถูกมองไม่ว่างเว้น แรกๆ เขามีอาการเอียงอายบ้าง แต่หลังๆ กลายเป็นความชาชินไปแล้ว



กันเกรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 มี.ค. 2559, 18:12:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 มี.ค. 2559, 18:12:47 น.

จำนวนการเข้าชม : 720





   แรกพบ ๒ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account