: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ

อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้

เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้

สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์

ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!

เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!



♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)

เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ

ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^

♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 11 (50%)

ทันทีที่ทราบข่าว บรรดาเพื่อนสนิทในกลุ่มทั้งแพรวเพชร แก้วกาญจน์ และอนุธาน ก็ยกขบวนมาเยี่ยมพันเทพ แต่ก็ต้องกลับไปพร้อมความผิดหวัง เพราะคนเจ็บหลับสนิทจากฤทธิ์ยาที่แพทย์ให้ไว้ทางสายน้ำเกลือ หลังจากนอนไปเกือบสามชั่วโมง เขาก็ได้สติตอนที่พยาบาลเข็นรถอาหารเย็นเข้ามาพอดี

อิงอรุณซึ่งรับประทานอาหารพร้อมมารดาเรียบร้อยแล้ว ได้รับอนุญาตจากเปรมิกาให้มาอยู่เป็นเพื่อนพันเทพแทน ด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น แต่ก็พอฟังออกว่าเจือความห่วงใย

‘ไปเฝ้ากันเถอะย่ะ เกิดฟื้นมาไม่เจอใครเลยจะเคว้งคว้างซะเปล่าๆ ทางนี้ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง หมอให้ยาไว้ คุณพ่อคงหลับอีกนาน ถ้าคุณพ่อตื่นเมื่อไหร่ แม่จะให้เลขาฯไปตาม’

อิงอรุณเห็นคนเจ็บปรือตาขึ้นช้าๆ จึงโผเข้าไปยืนเกาะเตียงทันที “ตื่นแล้วเหรอ ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

พันเทพขยับแขนเบาๆทดสอบ แล้วก็ครางโอย เมื่อรู้สึกถึงอาการปวดตึงไปหมด ที่แขนและลำตัวหนักราวกับมีหินก้อนยักษ์ถ่วงทับเอาไว้ ทว่าเมื่อเห็นสายตาเป็นห่วงของคนเฝ้าไข้ เขาก็วางหน้าปกติ

“โอเคแล้วละ นี่เราอยู่โรงพยาบาลหรือโรงแรมเนี่ย” เขาถามเสียงแหบหลังจากกลอกตาไปรอบๆห้องซึ่งตกแต่งด้วยโซฟาสีสดใส ผนังห้องเป็นโทนสีครีมสลับน้ำตาล มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทุกองค์ประกอบล้วนให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย ผิดกับภาพลักษณ์โรงพยาบาลทั่วไปจนเหมือนโรงแรมมากกว่า

“เลขาฯแม่จัดการให้น่ะ เทพคงเดาได้ว่าคุณหญิงเปรมิกาทำอะไรธรรมดาไม่เป็นหรอก นี่ห้องชุดพรีเมียร์ จ้ะ แพงเป็นอันดับสองของโรงพยาบาลแล้วละ” คนพูดยิ้มแย้มล้อเลียนพยายามให้เขาผ่อนคลาย

ทว่าพันเทพมิได้แย้มริมฝีปากสักนิด เขาขยับแขนข้างซ้ายยันที่นอนแล้วลุกขึ้นนั่งช้าๆ อิงอรุณรีบปรับเตียงให้ตั้งขึ้น แล้วสอดหมอนไว้ด้านหลังชายหนุ่มให้นั่งพิงสบายๆ

“เทพกินข้าวเลยไหม พยาบาลเพิ่งเอามาส่งให้เมื่อกี้นี้เอง ยังร้อนๆอยู่เลย” ไม่เพียงเสนออย่างกระตือรือร้น เธอยังกุลีกุจอเลื่อนโต๊ะมาวางคร่อมเตียงเพื่อให้เขารับประทานอาหารได้สะดวกอีกด้วย

พันเทพเม้มปากกดความรู้สึกบางอย่างไว้ แต่แล้วก็ต้องรีบคลาย เพราะเจ็บตึงๆที่มุมปากด้านหนึ่ง เขายกมือข้างที่ไม่เจ็บสำรวจร่างกายทีละส่วน เพื่อจะพบว่านอกจากศีรษะซึ่งถูกพันผ้าไว้หนาเตอะแล้ว แขนขวายังมีผ้าพันคล้องไหล่ไว้ด้วย ตามลำตัว แม้จะมองไม่เห็นเพราะอยู่ใต้ร่มผ้า แต่ก็รู้สึกได้ว่าเจ็บหน่วงๆร้าวๆไปทั้งตัว

“เจ็บเหรอเทพ อิงเรียกพยาบาลให้ไหม”

“ไม่ต้อง!” เขาปรามเสียงแข็ง คอยจนอิงอรุณหันมาด้วยสายตาหลากใจ แล้วจึงตัดสินใจโพล่งออกไปดื้อๆ “เราเลิกกันเถอะอิง”

“สมองกระเทือนหรือไงคะคุณชาย ฟื้นขึ้นมาก็พูดจาอัปมงคลเชียวนะ” อิงอรุณย่นจมูกดุจไม่ใส่ใจคำพูดของเขา คงเพราะเข้าใจว่าเขายังเบลอจากยาที่แพทย์ให้

แต่พันเทพรู้ดีว่าเขายังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน จะว่าไปแล้วเขาทบทวนเรื่องนี้มาพักใหญ่แล้วด้วยซ้ำ ทุกอย่างเพิ่งมาถึงจุดที่เขาต้องตัดสินใจก็วันนี้เอง เขาไม่อยากให้ผู้หญิงแสนดีอย่างอิงอรุณต้องมาเผชิญกับเรื่องแย่ๆไม่มีวันสิ้นสุด

“แม่อิงให้เราพักฟื้นแบบนี้ ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าฐานะของเรากับอิงต่างกันมากเกินไป เลิกกันตอนนี้ดีกว่า ขืนแต่งงานกัน แล้วไปกันไม่ได้ มันจะเจ็บปวดกันทุกฝ่ายเปล่าๆ” เขาหาเหตุผลที่คิดว่าเข้าท่าที่สุดมาอ้าง

หญิงสาวจ้องตาเขาอย่างค้นหา และพันเทพก็เสเบือนหน้าไปทางอื่น หลบสายตาเธอทันที

“มีอะไรกันแน่ ทำไมอยู่ดีๆเทพถึงพูดอย่างนี้” หญิงสาวคาดคั้น ครั้นไม่ได้รับคำตอบ จึงใช้สองมือประคองใบหน้าเขา บังคับให้เขามองเธอนิ่งๆ “เทพยังไม่ได้บอกอิงเลยนะ ว่าใครทำให้เทพเป็นแบบนี้”

“เรามีเรื่องกับวินมอเตอร์ไซค์นิดหน่อยน่ะ” บอกไม่ได้เด็ดขาดว่าคนที่ทำให้เขาอยู่ในสภาพนี้คือใคร

“วินแถวไหนล่ะ บอกมาสิ เดี๋ยวอิงจะขอให้คุณลุงช่วยจัดการให้”

“จำไม่ได้แล้ว” เขาปัดพอให้พ้นๆตัว

หญิงสาวหรี่ตาจับผิด และนั่นทำให้เขาไม่สบายใจเลยสักนิด

พันเทพหายใจเข้าช้าๆ รวมรวมกำลังใจ “อิง เราพูดจริงนะ เลิกกันเถอะ กลับไปเป็นเพื่อนกันอย่างเดิม ลืมเรื่องแต่งงานทั้งหมดไปซะ” นี่เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดซึ่งเขาพอจะทำให้เพื่อนรักได้

“เหตุผลล่ะ”

“เราต่างกันเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...เรื่องฐานะ” พันเทพยืนกรานข้ออ้างเดิม

“ถ้าเหตุผลของเทพมีแค่นี้ งั้นอิงก็ตอบได้เลยว่าไม่เลิก”

“อิง...” พันเทพชักอ่อนใจ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมาโน้มน้าวคนหัวดื้อให้คล้อยตาม “คนที่แม่เลือกให้ อาจไม่เลวร้ายก็ได้นะ อิงเปิดใจทำความรู้จักกับเขาก่อนสิ”

“มันไม่ได้เกี่ยวกับเลวร้ายหรือเปล่า แต่มันเกี่ยวกับว่าเราจะแต่งงานกับเทพเท่านั้น”

“เคยถามตัวเองไหม ว่าทำไมอิงถึงจะแต่งงานกับเรา”

“ก็อิงรักเทพ ก็เรารักกัน” อิงอรุณยิ้มเป็นต่อ “หรือจะเถียง”

พันเทพลิ้นแข็งกะทันหัน เขารู้ว่าหญิงสาวพูดถูก แต่...ไม่ทั้งหมด เขารักเธอและเธอก็รักเขา นั่นเป็นเรื่องจริง แต่ทั้งคู่ก็รู้แก่ใจว่าความรักนั้นมีความสนิทเสน่หาฉันชู้สาวอยู่เท่าใด

“แต่ว่า...”

อิงอรุณยกมือปราม “พอเถอะเทพ ไม่ต้องอธิบายให้เยิ่นเย้อ ยังไงอิงก็ไม่เปลี่ยนใจหรอก”

“แต่เราเปลี่ยนใจแล้ว จะบังคับเราแต่งงานกับอิงเหรอ”

“ถ้าต้องบังคับ ก็จะบังคับ” อิงอรุณเสชะโงกดูอาหารบนโต๊ะ เริ่มลงมือแกะพลาสติกที่ปิดหน้าแต่ละจาน พลางเปลี่ยนเรื่องแทน “เทพกินข้าวดีกว่า เดี๋ยวเย็นแล้วไม่อร่อย โอ้โห...กับข้าวน่ากินทุกอย่างเลยนะเนี่ย”

พันเทพถอนหายใจ มองอิงอรุณด้วยสายตาที่คละเคล้ากันทั้งความรู้สึกอ่อนใจ ซาบซึ้ง และรู้สึกผิดไปในคราวเดียวกัน

หญิงสาวหยิบช้อนส่งให้เขา รินน้ำมาวางให้เสร็จสรรพ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง

คนเจ็บรับประทานอาหารช้าๆด้วยมือข้างไม่ถนัด ปล่อยใจให้คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นด้วยความขมขื่น หลังจากแพรวเพชรโทร.แจ้งเรื่องพ่อของอิงอรุณ ชายหนุ่มเดาได้รางๆว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงตรงดิ่งกลับบ้าน ขอพบบิดาตามลำพังในห้องทำงาน เพื่อหาคำยืนยันว่าสิ่งที่คิดผิดไปจากความจริงกี่มากน้อย

‘พ่อบอกผมได้ไหม ว่าที่พ่อของอิงเข้าโรงพยาบาลไม่เกี่ยวกับพ่อ’ พันเทพเสียงสั่น กลัวความจริงที่จะได้ยินไม่แพ้กัน

‘ฉันไปบังคับหัวใจใครให้วายได้หรือไง มันแค่เป็นผลพลอยได้เท่านั้นแหละ เสียดาย...ไม่น่าแค่ช็อก น่าจะตายๆไปเลย’ นายพลเอกแห่งกองทัพไทยยกมุมปากนิดๆ เป็นกิริยาที่เขาเห็นจนชินตาทุกครั้งยามท่านมีเรื่องพึงใจ

สีหน้าเยาะหยันไม่แยแสของบิดา ยังไม่บาดหัวใจเขาเท่ากับรอยยิ้มบนใบหน้าท่าน ‘ฉันไปเจรจาเรื่องสินสอดกับบ้านโน้นให้เรียบร้อยแล้วนะ พ่อแม่หนูอิงจะจัดการเรื่องสินสอดมาวางใส่พานเอง แกไม่ต้องห่วง รับรองว่าพ่อไม่ทำให้แกเสียหน้าแน่นอน’

พันเทพโกรธจี๊ด พ่อเห็นความเป็นความตายของคนคนหนึ่งเป็นเรื่องสนุกแบบนี้ได้ยังไง ขณะที่อาการของสุพจน์ร้ายแรงถึงขนาดต้องส่งโรงพยาบาลฉุกเฉิน แทนที่พ่อจะแสดงความเห็นอกเห็นใจ ท่านกลับ...

ชายหนุ่มกำมือแน่นเพื่อระบายความเจ็บปวดในใจ นี่เป็นหนึ่งในหลายๆครั้งที่เขานึกเสียใจกับการเห็นแก่ตัวดึงอิงอรุณและครอบครัวเข้ามาเกี่ยวพันกับนายพลศักดิ์สิทธิ์ เทพวรสิงห์ มันอาจยังไม่สายเกินไป ถ้าเขาจะตัดสินใจใหม่ ก่อนทุกอย่างจะดำเนินไปถึงจุดที่ไม่อาจหันหลังกลับได้อีก

‘จะไม่มีการแต่งงานอะไรทั้งนั้นครับ’ พันเทพบอกด้วยน้ำเสียงแห้งแล้ง ‘ผมกับอิง เราเลิกกันแล้ว’

สีหน้าของบิดาเปลี่ยนไปทันที ‘แกว่าอะไรนะ’

‘ผมเลิกกับอิงแล้ว เราทะเลาะกันเพราะไอ้ที่พ่อสั่งให้ผมไปพูดเรื่องย้ายเข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์เทียมสุบรรณ อิงหาว่าผมสนใจแต่ผลประโยชน์ ผมก็มีศักดิ์ศรีพอและยอมรับไม่ได้เหมือนกันถ้าต้องถูกมองว่าอยากตกถังข้าวสาร’ เขาปดบุพการีด้วยเหตุการณ์ที่คิดขึ้นสดๆร้อนๆ ส่วนเหตุผล...เขาตระหนักถึงความแตกต่างทางฐานะของทั้งสองฝ่ายมาโดยตลอดอยู่แล้ว

ศักดิ์สิทธิ์มือสั่นระริก หันรีหันขวางคล้ายหาที่ลงให้กับอารมณ์ซึ่งปะทุสูงขึ้นเรื่อยๆ เส้นเลือดตรงขมับเต้นตุบ ขณะหน้าตาเกร็งเขม็งด้วยความโกรธ

‘ผมไม่ยอมให้ใครมาตราหน้าว่าเกาะชายกระโปรงผู้หญิงเด็ดขาด’ พันเทพเสริมด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หารู้ไม่ว่าคำพูดนั้นเท่ากับสาดน้ำมันลงในกองเพลิงดีๆนี่เอง

ฉาด! ผู้อาวุโสตวัดฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าเขาเต็มแรง

พันเทพสะบัดหน้าไปตามแรงตบนั้น และเพียงเขาหันกลับมา ก็โดนคนอายุมากกว่าโถมเข้ามาประเคนทั้งมือและเท้าเข้าใส่อย่างรุนแรงซ้ำๆจนชายหนุ่มเซถลาไปชนชั้นหนังสือด้านหลังและร่วงลงไปกองกับพื้น ปากก็พร่ำซ้ำๆ

‘เลิกกันงั้นเหรอ ไอ้ลูกโง่ ใครใช้ให้มึงคิด กูต่างหากที่เป็นคนคิด มึงมีหน้าที่ทำตามที่กูสั่งก็พอ’ แค่ลงมือลงเท้าไม่พอ ศักดิ์สิทธิ์ยังหันไปคว้าเก้าอี้ใกล้มือยกสูงขึ้นเหนือศีรษะและฟาดลงมาเต็มแรง

พันเทพยกมือขวาขึ้นปกป้องตัวเองตามสัญชาตญาณ เป็นผลให้เก้าอี้ปะทะเข้ากับแขนขวาอย่างจังจนเศษไม้แตกหักเป็นชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ศักดิ์สิทธิ์นั้นโกรธจนหน้ามืดจึงโยนเศษเก้าอี้ทิ้ง และตามมาใช้เท้าเตะชายโครงเขาซ้ำๆเพื่อระบายความโกรธ

‘เงินทองกองเป็นภูเขารอให้หยิบแล้ว มึงยังเสือกโง่ผลักทิ้งอีกเหรอ มึงมันโง่กว่าควายด้วยซ้ำ ไอ้...’ คำผรุสวาทและสรรพนามที่ท่านไม่เคยใช้ให้ได้ยินมาก่อน บอกชัดถึงระดับความโกรธเกรี้ยวรุนแรงที่สุดเท่าที่เขาเคยพบอารมณ์ของท่าน

พันเทพคิดว่าตัวเองจะตายคาเท้าบิดาแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ ทส.ของศักดิ์สิทธิ์เปิดประตูวิ่งเข้ามารัดแขนรอบตัว ดึงท่านออกห่าง

‘พอเถอะครับท่าน หยุดเถอะครับ’ นายทหารหนุ่มรัวเสียงบอก

‘ผมเลิกกับอิงแล้ว พ่อจะทำอะไรได้ ถึงยังไงผมก็จะไม่แต่งงานกับอิง ต่อให้พ่อฆ่าผมให้ตายก็ตาม’ พันเทพซึ่งกองอยู่กับพื้นในสภาพยับเยินแหงนมองบิดาตอกย้ำเจตนารมย์ของตัวเอง

‘คุณพันเทพครับ อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย’ ผู้มาใหม่ปรามนิ่วหน้าไม่สบายใจ

ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งยังหายใจหอบ สะบัดทหารคนสนิทออกห่าง หันไปคว้าปืนพกจากซองที่เอวลูกน้องมาปลดเซฟตี้ แล้วเล็งปลายกระบอกสีดำมะเมื่อมตรงตำแหน่งศีรษะเขา คำรามเสียงต่ำ ‘มึงตาย’

เจ้าของปืนตวัดมือจากด้านใต้ ตบช้อนท่อนแขนเจ้านายขึ้นสูง

ปัง! กระสุนลั่นเจาะเพดาน เศษหินเศษปูนร่วงกราวลงบนพื้น ทหารคนสนิทบีบข้อมือนายพลเลือดร้อนไว้ ขณะอีกมือล็อกตัวท่านแน่น

ศักดิ์สิทธิ์หอบหายใจจนตัวโยน จ้องตาลูกน้องอย่างจะกินเลือดกินเนื้ออยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายจึงปล่อยมือให้นายทหารหนุ่มดึงปืนกลับไปสอดเก็บใส่ซอง บิดาหันมาชี้หน้าเขา เค้นทีละคำด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว ‘กูให้โอกาสมึงอีกครั้ง มึงจะไปทำห่าอะไรก็ตาม แต่ยังไงก็ต้องแต่งงานกับนังนั่นให้ได้ ถ้ามึงเลิกกับมัน กูบอกให้รู้ไว้เลย ว่ามันได้มีผัวทีละหลายคนแน่!’

เพียงสิ้นประโยค ศักดิ์สิทธิ์ก็คว้าแจกันใกล้มือทุ่มลงมาเบื้องหน้าจนน้ำสาดกระเซ็นเต็มหน้าเขาเพื่อระบายอารมณ์อีกครั้ง ก่อนจะหมุนตัวออกจากห้องไปราวพายุ

คนสนิทของบิดาเหลือบมองเขาแล้วส่ายศีรษะเห็นใจ ‘ผมว่าคุณดำเนินนโยบายผิดแล้วละ ไม่มีใครขัดใจท่านได้ อย่าพยายามทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีกเลย’

พันเทพทิ้งศีรษะลงกับพื้นอย่างสิ้นเรี่ยวแรง เขานอนมองแผ่นหลังคนสนิทของบิดาไปจนลับตา แล้วจึงใช้มือข้างที่ไม่บาดเจ็บยันพื้นลุกขึ้น พลางหัวเราะหึๆด้วยความสมเพชตัวเอง

สำหรับพ่อแล้ว ชีวิตของเขาไร้ค่ากว่าเงินทอง หรือตำแหน่งที่ท่านต้องการเสียอีก!

พันเทพวางช้อน ปาดน้ำตาที่รินลงมาโดยไม่ทันควบคุม เขากัดริมฝีปากแน่นกลั้นเสียงสะอื้น จนได้กลิ่นคาวขื่นในปาก ความ
เจ็บปวดตามร่างกาย เทียบไม่ได้เลยกับบาดแผลในหัวใจ

มือเล็กๆยื่นกระดาษทิชชูมาตรงหน้า ทำให้ชายหนุ่มได้สติ เขาเหลือบไปทางอิงอรุณ ก็เห็นฝ่ายนั้นกำลังจ้องมาด้วยสีหน้าและแววตาเห็นใจ

พันเทพก้มหน้าก้มตาตักอาหารรับประทานต่อ แสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยให้อิงอรุณถือกระดาษทิชชูค้างไว้เช่นนั้น แต่แล้วหญิงสาวก็เอ่ยขึ้นลอยๆ

“อิงรู้แล้วละ ว่าเทพไปมีเรื่องกับวินมอเตอร์ไซค์ที่ไหนมา”








:+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :+ :

สารภาพว่าฉากนี้เขียนยากที่สุดตั้งแต่เขียนนิยายมาเลย
ติชมกันได้นะคะ
ตรงไหนไม่ดีงาม ไม่สมจริง
บอกกันได้เลย
จะได้เอาไปปรับปรุงแก้ไขในฉบับตีพิมพ์ อิอิ




สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 เม.ย. 2559, 16:44:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 เม.ย. 2559, 16:44:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 1218





<< ตอนที่ 10 (100%)   ตอนที่ 11 (100%) >>
พอใจ 20 เม.ย. 2559, 21:25:43 น.
สงสารพันเทพที่สุด


konhin 20 เม.ย. 2559, 21:42:49 น.
ง่ะ คือ คิดว่าเทพรู้ถึงปัญหาตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมถึงตกลงกับอิงหล่ะ หรือความรักบังตา มาถึงตอนที่ปัญหามาก็แก้ไม่ทันแล้ว


Zephyr 21 เม.ย. 2559, 01:21:12 น.
หึ อ่านละขึ้น
พ่ออะไร โรคจิตมาก
ยอมคนสนิทมากกว่าลูก
แช่งแม่มเลย ตายๆไปเลยไปนายพลโรคจิต
ทำอะไรกับลูกไว้จงย้อนกลับไปหาตัวเองนะ


wane 21 เม.ย. 2559, 06:13:43 น.
ตอนแรกคิดว่าพันเทพจะเป็นคนไม่ดี นี่กลายเป็นไม่ได้พ่อมาเลย พ่อแย่มากๆ


นักอ่านเหนียวหนึบ 23 เม.ย. 2559, 21:22:30 น.
เป็นห่วงหนูอิงงงง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account