แหวนปฏิพัทธ์ (ขาย E-book ที่ meb และ ookbee ในชื่อว่า "หนึ่งใจในรอยกาล" แล้วนะคะ)
ปาฏิหาริย์บางอย่างทำให้ธราต้องย้อนเวลากลับไปในอดีต

เพื่อพบกับทินกร ชายผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือเธอจากการโดนทำร้าย

เขาเป็นดาราดังที่ทำตัวแย่ๆ จนในปัจจุบันชีวิตตกอับ ไร้งานละคร

เธอจึงพยายามที่จะช่วยเหลือเขาเป็นการตอบแทน

แม้ความหวังดีของเธอจะสร้างความหงุดหงิดน่ารำคาญสำหรับเขาแค่ไหน

แต่เธอก็ยังพยายามที่จะทำให้สำเร็จ แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งพังมากขึ้นเท่านั้น

จนทุกอย่างมาถึงทางเลือก ระหว่างหัวใจกับเป้าหมาย อะไรสำคัญกว่า....
Tags: รักโรแมนติก,ดารา,นักเขียน

ตอน: ตอนที่ 8 ...ตะวันจันทรา

...ที่นี่ที่ไหน แล้วเรามาได้ยังไง

ความคิดนี้ควรเกิดขึ้นในแวบแรกที่รู้สึกตัว แต่สำหรับหญิงสาวร่างเพรียวที่กำลังกะพริบตานอนมองเพดานอยู่ในยามนี้ กลับไม่คิดเช่นนั้น

...แน่ล่ะสิ ก็เราไม่ได้เป็นลมจริงๆ สักหน่อย

ธรานอนขำคิกคัก ก่อนยืดตัวขึ้นบิดขี้เกียจไปมาสักสองสามที สำรวจตัวเองสักพัก เสื้อผ้าถูกเปลี่ยนใหม่ไปแล้วด้วยฝีมือของแม่บ้านที่ทินกรเรียกมา

หญิงสาวยืดตัวขึ้นอย่างอารมณ์ดี พลางกวาดสายตามองไปรอบบริเวณห้อง ไม่มีใครอยู่แถวนี้ และใครที่ว่านั่น ก็คือ ทินกร พระเอกหนุ่มสุดฮอตที่ยืนเถียงกับเธอกลางสายฝนเมื่อคืน หากเธอไม่แกล้งเป็นลม เธอคงถูกทิ้งไว้ที่คลินิกรักษาสัตว์นั่นแหละ แต่ที่น่าแปลกคือนักแสดงที่ผ่านละครมาแทบทุกบทบาท กลับจับไม่ได้ว่าเธอกำลังแสดงละครฉากเล็กๆ หรือนี่คือสิ่งที่บุรุษมิอาจเทียบสตรี ความมารยาอย่างไรล่ะ

“เอ๊ะ! เจ้าตูบ เจ้าตูบอยู่ไหน โฮ่งๆ” เสียงหวานใสเอ่ยเรียกสุนัขตัวเล็กหูตกที่ทินกรเก็บมาจากข้างทางเมื่อคืน ไม่นานนัก เจ้าตูบก็มุดออกจากใต้เตียงมาทำเสียงครางหงิงๆ ใส่เธอ หญิงสาวลูบหัวมันอย่างอ่อนโยน ที่เธอมั่นใจมากว่าเขาเลี้ยงมันไว้ เพราะคำสบถเรื่องเจ้าสุนัขถ่ายไม่เป็นที่ยังติดหูเธออยู่เลย

‘นี่เจ้าตูบ มาอึ๊ไว้ตรงนี้ไม่ได้นะ รู้ไหมว่าพื้นนี่ราคาเท่าไหร่ อ๊ะๆ ขึ้นไปบนเตียงก็ไม่ได้ด้วย’

เสียงหัวเราะคิกคักของเขาดังลั่น

‘งั้นคืนนี้แกนอนตรงพรมเช็ดเท้านั่นไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อบ้านหมาหลังเล็กๆ มาให้ดีไหม อ้อ แล้วจะบอกอย่างหนึ่งนะ ฉันอาจจะไม่ค่อยมีเวลามาเล่นกับแกมากนัก เพราะฉันต้องทำงานเยอะ ไว้ฉันจะซื้อเสื้อผ้าน่ารักๆ มาให้ใส่ และก็อาหารหมาแพงๆ ด้วย ห้ามงอแงนะเจ้าตูบ ไหนโฮ่งสิ โฮ่งๆ’

ธราแทบกลั้นขำไว้ไม่อยู่ เมื่อได้ยินประโยคเล่นกับหมาของเขา มีเสียงงื้ดง้าดจากเจ้าตูบประสาน

...คนปากหมา เข้ากับหมาได้ดีกว่าคนอีกนะ

‘ตูบ ถ้าพรุ่งนี้ยายนั่นตื่นน่ะ รีบเห่าไล่ออกจากห้องไปเลยนะ อย่าปล่อยให้มาแย่งที่นอนของเจ้านายแกนานนัก’

กระนั้นก็เถอะ ต่อให้ไล่อย่างไร เธอคงไม่ไปง่ายๆ แน่ ก็ตอนนี้มีเขาคนเดียวที่เธอรู้จักแถมยังมั่นใจเสียด้วยว่าจะแก้ไขอดีตที่ผิดพลาดของชายหนุ่มคนนี้ได้

แต่....เธอต้องทำเพื่ออะไรกันล่ะ ในเมื่อเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอเลยสักนิด หรือดวงตาคมดุในวันแรกที่พบเห็น จะมีอิทธิพลกับหัวใจเธอถึงเพียงนี้

...ป่านนี้ตานั่นจะทำอะไรอยู่นะ ไปอาละวาดใส่ใครอยู่หรือเปล่า




“ฮัดเช้ย!”

“พี่เพลิงเป็นอะไรหรือเปล่าคะ เห็นคัดจมูกมาตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่สบายเหรอ” อัจฉราเอ่ยถามทินกรอย่างเป็นห่วงเป็นใย ก็จะไม่ให้เป็นห่วงได้อย่างไรล่ะ ตั้งแต่เช้ามาเขาก็หายใจฟุดฟิดไม่ได้หยุดหย่อน หนำซ้ำเมื่อเธอคลำหน้าผากเขา ยังมีอาการร้อนนิดๆ

“ไม่เป็นไรหรอก น่าจะมีคนนินทามากกว่า” ทินกรตอบไม่จริงจังนัก พลางนึกไปถึงใบหน้ายียวนกวนประสาทของแม่เด็กแสบ กลับไปจะตะเพิดให้หลุดวงโคจรไปเลยเชียว

“อย่างพี่เนี่ยนะ จะเชื่อเรื่องอะไรแบบนั้น” หญิงสาวยิ้มหวาน

“ล้อเล่นน่ะ พอดีเมื่อวานพี่ตากฝนนานไปหน่อย” ชายหนุ่มหันไปไอด้านข้าง ไม่ได้สังเกตสายตาหญิงสาวที่มองมาอย่างแปลกใจ

“พี่ไปตากฝนที่ไหนมาคะ เมื่อวานตอนพี่มาส่งฟ้า พี่ก็กลับเลยนี่คะ”

“ก็ดันไปเจอเด็ก...” ทินกรเอ่ยขึ้นอย่างฉุนๆ ก่อนจะหยุดพูดเมื่อมองหน้าอัจฉรา “พี่หมายถึงว่า เจอลูกหมาตัวหนึ่งน่ะจ้ะ มันยังเด็กๆ อยู่เลย หูตูบด้วยนะ มันตากฝนอยู่ และก็ขาเจ็บ พี่เลยพามันไปหาหมอ และตอนนี้ก็เลี้ยงมันไว้ที่ห้องด้วย น่ารักมากเลย พี่ว่าวันนี้จะไปซื้ออาหารหมา บ้านหมา ฟ้าไปด้วยกันไหมล่ะ”

“เพิ่งรู้นะคะว่าพี่เพลิงก็รักหมาด้วย ไปสิคะ ฟ้าอยากไปดูหมาที่ห้องพี่ด้วย ได้ไหมคะ” หญิงสาวยิ้มร่า สายตาวาววับ ขณะที่พระเอกหนุ่มกลับหน้าเจื่อนลง

“วันนี้อย่าเพิ่งไปดูเลยจ้ะ พี่ขอเคลียร์ห้องก่อนดีกว่า แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่พาไปดู ตกลงไหม”

...ยังไงวันนี้ก็ต้องไล่แม่ตัวแสบนั่นออกจากห้องไปให้ได้

ชายหนุ่มนึกในใจ หวังว่าเสียงในใจเขาคงไม่ดังจนหญิงสาวตรงหน้าเขาได้ยินหรอกนะ ร้อยวันพันปีอัจฉราไม่เคยขอไปห้องเขาเลยสักครั้ง แต่กลับจะมาไปในวันที่มีลูกลิงกังอยู่ในนั้นเสียได้

และยังไม่ทันที่อัจฉราจะตั้งท่าแง่งอนอะไร เสียงเรียกจากด้านหลังก็ดังขึ้น

“คุณเพลิงกับน้องฟ้า เป็นยังไงบ้างครับ ถ่ายละครกองนี้วันแรก บทยากไหม” ชายหนุ่มร่างสูงเพรียวในชุดธรรมดา เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขาด ผมยาวถูกมัดไว้อย่างลวกๆ เดินเข้ามาทักทั้งคู่ พลางส่งยิ้มให้แก่อัจฉราเป็นพิเศษ ก็ใครบ้างล่ะที่จะไม่หลงเสน่ห์หญิงสาวหน้าหวานคนนี้

“ดีค่ะพี่ปุ่น ไม่ยากเท่าไหร่ แถมยังสนุกซะอีก” อัจฉราเอ่ยตอบอย่างเป็นกันเอง สำหรับปารวัตร บดินทร์ศวร ผู้กำกับหนุ่มคนนี้ ซึ่งเธอให้ความเคารพเสมือนพี่ชายคนหนึ่ง เพราะเขาดูเป็นผู้ชายอบอุ่นมาก เช่นเดียวกับที่ทุกคนมองเขานั่นแหละ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้ร่วมงานกับปารวัตร แต่เป็นครั้งแรกของทินกรที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับคนนี้ หญิงสาวยิ้มร่า ไม่ได้สนใจสายตาของพระเอกหนุ่มเลยสักนิด

“บทมันไม่ยากหรอกครับ สำหรับคนฝีมืออย่างผมแล้ว แค่นี้ธรรมดามาก” ใจหนึ่งเขาอยากจะตอบไปอีกว่าที่อัจฉราบอกว่าสนุกนั้น เป็นเพราะได้เล่นละครเรื่องเดียวกับเขา แต่ก็ยั้งปากไว้ได้ทัน

ทินกรยืดตัวขึ้นยืนเต็มความสูง 180 เซนติเมตร กระนั้นก็ยังดูเตี้ยกว่าผู้กำกับหนุ่มในวัย 28 ปีคนนี้ ซึ่งสูงเกือบ 185 เซนติเมตร แต่ด้วยความกำยำที่เขามีมากกว่าทำให้ทินกรกลับไม่รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยกว่าเลยสักนิด ทั้งสีหน้าและแววตาฉายชัดว่าหยามเหยียดปารวัตรเพียงใด

“และผมจะบอกให้นะครับคุณปารวัตร ว่าผม...ไม่ชอบให้คนที่ไม่สนิทมาเรียกชื่อเล่น คราวหน้ากรุณาเรียกทินกรนะครับ คุณ-ทิน-กร ฉลาดๆ อย่างคุณ ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจนะ”

พระเอกหนุ่มยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินกลับเข้าไปภายในกองถ่าย โดยไม่หันมามองอีก มีเพียงปารวัตรเท่านั้นที่มองตามหลังทินกรไปจนลับตา ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา

“สมแล้ว ที่คุณเพลิง เอ๊ย! คุณทินกร เป็นพระเอกที่ทีมงานทุกคนกล่าวขวัญถึงดีกรีความเหวี่ยง ตั้งแต่ได้เห็นรายชื่อนักแสดง” เขาเอ่ยยิ้มๆ สบตาดาราสาว

“ฟ้าขอโทษแทนพี่เพลิงนะคะ พี่เขาชอบเป็นแบบนี้อยู่เรื่อยเลย ไว้ฟ้าจะเตือนเขาบ้าง” หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อนอย่างรู้สึกผิด แต่ปารวัตรกลับขำเบาๆ

“ฟ้ากับคุณทินกรนี่แตกต่างกันสุดขั้ว ไม่น่ามาคบกันได้เลยนะ” เขาเว้นไว้ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นสีหน้านางเอกสาวเขาจึงพูดต่อ “อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ถือ”

พูดจบปารวัตรก็เดินจากไป เหลือเพียงอัจฉราที่ได้แต่มองตามทินกรที่เดินไปวีนทีมงานคนอื่นอยู่ในกองถ่าย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนพูดว่าเธอกับทินกรไม่เหมาะสม และก็ไม่ใช่ครั้งแรกเช่นกันที่เธอเก็บคำพูดของของคนเหล่านั้นมาคิด ในใจเพียรถามตัวเองตลอดมา

นั่นสิ จะคบไปเพื่ออะไรถ้าหากไม่เหมาะกัน แต่คำตอบก็มีเพียงเธอและทินกรเท่านั้นที่รู้

หลังกล้อง ปารวัตรมองการแสดงของทินกรด้วยสายตาชื่นชม ร่างสูงที่หยัดยืนตระหง่านเด่นเป็นสง่า รวมถึงหน้าตาอันหล่อเหลาคมคายนั้นราวกับเบื้องบนให้มาอย่างหาข้อติไม่ได้ และการแสดงของเขา ไม่น้อยหน้าใครเลยจริงๆ เรียกได้ว่าทินกรก้าวเข้ามาเพื่อเป็นดาวเด่นของวงการด้วยความสามารถของเขาโดยแท้ แต่หากว่าเขาจะวางตัวได้ดีกว่านี้สักนิด ไม่หยิ่งทะนงอย่างที่ใครๆ เห็น เขาคงไปได้ไกลกว่านี้อีก ปารวัตรเชื่อเช่นนั้น

หลังจากมองพระเอกหนุ่มเนิ่นนาน ปารวัตรหันกลับมาเพื่อย้อนมองดูผิวสีแทน ร่างกายผอมแห้งแต่ปราดเปรียวของตนเอง ไหนจะใบหน้าคมเข้มคล้ำแดด หนวดเครารุงรังนั่นอีก ไม่มีอะไรทัดเทียมกับคนที่อยู่หน้ากล้องนั่นได้สักนิด แต่เขาก็อยากให้ทินกรรับรู้ไว้เช่นกันว่าคนที่อยู่สูงเป็นดวงตะวันบนฟากฟ้า หน้าที่มันมีเพียงสาดส่องแสงสว่างลงมาเบื้องล่าง แต่ไม่มีสิทธิเหยียบย่ำผู้อื่น

อยากให้เขารู้...ว่าฟ้ามิได้มีเพียงดวงตะวัน แต่ยังมีจันทรา ส่องสว่างให้โลกได้เช่นกัน!

“คัต! ดีมากครับคุณทินกร” ปารวัตรลุกขึ้นปรบมืออย่างชื่นชมจากใจจริง “เลิกกองแล้ว คุณกลับได้”

ทินกรเหยียดยิ้ม ก่อนเอ่ย “บอกแล้วนี่ ว่าบทแค่นี้มันธรรมดาสำหรับผม”

ชายหนุ่มทั้งคู่เหยียดยืนมองกันนิ่งนาน ใบหน้าของทินกรเรียบเฉยประดุจรูปปั้น ต่างจากปารวัตรที่ยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่น ไร้ความชิงชัง

“ครับ ผมรู้ คุณเก่ง” ทินกรตอบรับคำชมจากผู้กำกับหนุ่มเพียงแค่ยักคิ้ว ก่อนจะเดินจูงมืออัจฉราไปขึ้นรถคันหรู

และเขาไม่ลืมที่จะเปิดประตูให้อัจฉราขึ้นก่อนที่จะอ้อมไปขึ้นฝั่งตัวเองทีหลัง อัจฉรามองเขาอย่างครุ่นคิด จริงๆ แล้วทินกรเป็นคนที่ดูแลเธอได้ดีมาก แต่น่าแปลกที่เขาไม่ได้ดีกับทุกคน

“มีอะไรเหรอฟ้า” ดวงตาคมมองมาอย่างสงสัย เมื่อเห็นอัจฉรามองแปลกๆ

“พี่เพลิงคะ ทำไมพี่ถึงไม่วางตัวในวงการให้ดีกว่านี้ล่ะคะ”

ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนตอบ “แล้วทำไมต้องทำล่ะ”

“พี่ไม่กลัวดับหรือไงคะ ในวงการนี้มีนักแสดงมากมายที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาแทนที่พี่เพลิงนะ”

“ไม่หรอก ไม่มีใครแทนพี่ได้หรอก พี่เชื่ออย่างนั้น” เขาเว้นไว้ครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ “อีกอย่างนะ ถึงจะมีวันนั้นจริงๆ พี่ก็มั่นใจว่ายังไงพี่ก็ยังมีฟ้า แค่นี้พี่ก็พอใจแล้วล่ะเพราะฟ้าคือคนที่พี่นึกถึงตลอดมา”

ทินกรหันมายิ้มกรุ้มกริ่มให้อัจฉรา หญิงสาวเองก็ยิ้มให้เขา แต่เป็นยิ้มที่ฝืดเคืองนัก ก่อนหลบตาก้มมองตัก เขาเชื่อมั่นในตัวเธอ แต่กลับเป็นเธอ...ที่ไม่เชื่อมั่นในตัวเอง



เอวาลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 มิ.ย. 2559, 19:18:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 มิ.ย. 2559, 19:18:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 933





<< ตอนที่ 7 ...คำแนะนำของเจ้าตูบ   ตอนที่ 9 ...ละครที่เป็นจริง >>
Zephyr 28 มิ.ย. 2559, 19:58:13 น.
อืม นั่นสิ คบกันเพราะอะไรนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account