: + : + : + : + : ผู้ช่วยกามเทพ : + : + : + : + :
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ทายาทคนเล็กบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่ง และเจ้าของบริษัทจับคู่ยอดฮิตแห่งยุค อยากรู้นักว่าเธอเคยไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนแล้วลืมแก้บนหรือเปล่า ทำไมเรื่องวุ่นๆถึงประดังเข้ามาในชีวิตแบบนี้ก็ไม่รู้
เพราะถูกแม่จับคลุมถุงชนกับคนแปลกหน้า ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาแต่ใจมาตลอดจึงประกาศกร้าวขอแต่งงานกับเพื่อนสนิทเพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แต่โชคร้ายที่แม่เล่นใหญ่ชนิดรัชดาลัยเธียเตอร์ชิดซ้าย เมื่อบังคับกันดีๆไม่ได้ ท่านจึงตัดความช่วยเหลือทางการเงินจนเหี้ยน ทำให้เธอยิ่งต้องเอาชนะคำสั่งของแม่ให้ได้
สาวัช ปรเมศวร์ เกิดมาในฐานะลูกเมียน้อย เขาจึงทำตัวให้เลือนรางที่สุด เมื่อบ้านที่พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ชื่อเสียงและอำนาจ แต่กลับไม่เคยมีความรักให้เขาสักนิด สาวัชจึงชดเชยให้ตัวเองด้วยการปฏิเสธทุกคำร้องขอจากคนภายนอก ใครๆก็ว่าเขาเย็นชา ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่สาวัชก็ไม่เคยแคร์
ครั้นหนทางแห่งผลประโยชน์ชักนำ อิงอรุณจำต้องเข้าขอความช่วยเหลือจากสาวัช เมื่อคนหนึ่งเติบโตด้วยความรักพร้อมพรั่งรอบกายจนกลายเป็นคนแสนเอาแต่ใจ ต้องมาเจอกับคนที่ชีวิตแล้งไร้ความรักแถมยังไม่เคยตามใจใคร ย่อมต้องมีสักคนเป็นฝ่ายถอย!
เมื่อคนสุดขั้วสองคนต้องมาเจอกันในภารกิจเอาตัวรอดของอิงอรุณ ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น แต่คนที่ใจอ่อนก่อน บอกรักก่อน อาจไม่ใช่คนแพ้เสมอไปก็ได้!
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
หายไปสองปี หวังว่าเพื่อนๆคงยังไม่ลืมสิริณกันนะค้า
ผู้ช่วยกามเทพ เป็นตอนต่อของ สนิมดอกรักค่ะ
อ่านแยกกันได้ ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าอ่านสนิมดอกรักก่อนจะยิ่งได้อรรถรสสุดฤทธิ์ (ขายของค่ะ 555)
เช่นเคยนะคะ สิริณยินดีและน้อมรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จะติก็ได้ ชมก็ยิ่งดี อ่านแล้วจัดเต็มกันได้เลย
มิต้องกลัวคนเขียนนอยด์ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากผลงานไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต
หากฝ่าฝืน สิริณ(แม่มณี) จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น
ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ(แม่มณี) มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
ชวนเพื่อนๆนักอ่านไปกดไล้ค์แฟนเพจของสิริณกันด้วย
www.facebook.com/SirinFC
ตรงนั้นจะมีกิจกรรมร่วมสนุก แจกของที่ระลึกกันเป็นระยะ
(แน่นอนว่าของที่สิริณมีมากที่สุดคือ 'หนังสือ' :D )
ไปกดไล้ค์กันเยอะๆนะคะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 33 (33%)
‘สีชัง ชังแต่ชื่อ เกาะนั้นหรือจะชังใคร ขอแต่แม่ดวงใจ อย่าชังชิงพี่จริงจัง[1]’
เสียงเพลงที่ลอยมาตามลมทำให้คนที่เดินอยู่เคียงข้างก้มหน้าซ่อนยิ้ม ตั้งแต่นั่งเรือข้ามจากท่าเรือเกาะลอยศรีราชามายังเกาะสีชัง เช่ารถสามล้อที่คนท้องถิ่นเรียกว่ารถสกายแล็ปไปยังศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ชมวิวยังช่องเขาขาด และมาจบลงที่พระจุฑาธุชราชฐาน อิงอรุณฮัมเพลงสีชังติดปากทุกครั้งที่เผลอ บอกให้รู้ว่าเธอกำลังอยู่โหมดผาสุขโดยแท้
‘คนรุ่นคุณรู้จักเพลงแบบนี้ได้ยังไง’ เขาถามอย่างอดไม่ได้
‘ตอนเด็กๆคุณตาเปิดเพลงคุณชายถนัดศรีทุกวัน ถ้าไม่รู้จักก็แปลกแล้ว’ อิงอรุณเฉลยชื่นมื่นติดจะภูมิใจด้วยซ้ำที่รู้จักเพลงเก่าโบราณซึ่งคนยุคใหม่น้อยคนจะเคยได้ยิน
มันคงเป็นความลำเอียงที่ทำให้สาวัชคิดว่าเธอน่ารักนัก!
ตลอดการเดินทาง หญิงสาวบันทึกเสียงใส่โทรศัพท์เป็นระยะ จดรายละเอียดสำคัญลงในแทบเลต และถ่ายรูปจำนวนมาก แม้รู้แก่ใจว่าอิงอรุณเห็นการพักผ่อนครั้งนี้เป็นการสำรวจเก็บข้อมูลเรื่องงาน แต่สาวัชกลับไม่หงุดหงิดเลย
หลังชมอาคารอาไศรยสฐานทั้งสามหลัง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามว่าเรือนวัฒนา เรือนผ่องศรี และเรือนอภิรมย์ ตามพระนามของพระบรมราชเทวี พระวรราชเทวี และอรรคชายาเธอทั้งสามพระองค์ครบแล้ว สาวัชนำลูกทัวร์เพียงคนเดียวไปยังสะพานอัษฎางค์ อันเป็นสะพานไม้สีขาวทอดยาวลงไปในทะเล มีศาลาพักอยู่ที่ต้น กลาง และสุดปลายสะพานจุดละหนึ่งหลัง
สายลมพัดพากลิ่นไอเค็มจากทะเลมาแตะแต้มจมูก แต่ฆานประสาทของเขากลับได้กลิ่นหอมของดอกไม้อ่อนๆที่ฉมกระจายอยู่รอบตัวอิงอรุณมากกว่า
สาวัชทอดสายตาไปตามเรือประมงน้อยใหญ่ที่ลอยเท้งเต้งอยู่ไม่ไกล แล้วเบือนหน้ามาทางสตรีข้างกาย จับตามองเธอนิ่งๆด้วยหัวใจสุขสงบ อิงอรุณยืนตัวตรงมือทั้งสองเกาะราวสะพานไม้สีขาว เชิดหน้าขึ้นนิดๆ หลับตาพริ้ม มีรอยยิ้มแต้มประดับบนใบหน้า แสงแดดฉาดฉานให้ดวงหน้าเธองามจรัส เดรสแขนยาวสีขาวพิมพ์ลายตัวหลวมที่ยาวเหนือเข่าเล็กน้อยปลิวไปตามสายลมแนบเรือนร่างบอบบางข่มให้เห็นว่าแท้จริงแล้วหญิงสาวตัวเล็กเพียงใด
“เดี๋ยวผิวก็ไหม้หมดหรอก” เขาเตือน เมื่อไม่มีทีท่าว่าอิงอรุณจะเบือนหน้าหลบแดด
“อิงลงกันแดดมาอย่างดี รับรองว่าไม่มีปัญหาค่ะ” ดวงตากลมโตลืมขึ้นมามองเขาตาใสแจ๋ว “ว่าแต่อิง แล้วคุณสาวัชเหอะค่ะ ทากันแดดมาบ้างหรือเปล่า”
“ผู้ชายไม่ต้องทาหรอก”
อิงอรุณเบ้ปาก “รังสียูวีมันเลือกเหรอคะ ว่าคนนี้ผู้หญิงคนนี้ผู้ชาย ฉันจะโดนแต่ตัวผู้หญิงเท่านั้นน่ะ”
ไม่บ่อยที่สาวัชต้องรบกับคนช่างประชด และจะว่าไปอิงอรุณก็...มีเหตุผล!
“เอาเถอะ ครั้งหน้าผมจะทาละกัน”
“โอ้โห...คุณสาวัชกินยาผิดสำแดงหรือเปล่าคะเนี่ย นอกจากจะไม่ตอกกลับให้อิงหงายแล้ว วันนี้มีโหมดยอมให้อิงง่ายๆด้วย”
“คิดว่ายังไงล่ะ”
“ก็คิดว่าดีจังเลยน่ะสิคะ”
“ทำไมถึงดี” ระหว่างรอฟังคำตอบนั้น หัวใจเขาเต้นระรัวเร็วขึ้น มือก็เย็นจนรู้สึกได้ สาวัชซ่อนอาการประหม่าด้วยการเสวางมือบนราวรั้วที่กั้นตลอดแนว กำมันแน่นเพื่อระบายความตื่นเต้น
“ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอคะ” อิงอรุณสบตาเขา รอยระยิบเป็นประกายสดใสในดวงตาคู่นั้นย้ำให้เขาเบาใจว่าเธอก็คงคิดไม่ต่างกัน เพราะตลอดเวลาที่รู้จักกัน ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยแสดงความเป็นกันเองเฉกที่กระทำต่อเขากับผู้อื่น
“ผมยังต้องมีเหตุผลเลย”
“เหตุผลอะไรเหรอคะ”
“คุณเคยรู้สึกดีๆกับใครสักคนไหม”
“ก็ต้องเคยสิคะ แหม...ถามแปลกจัง”
“แต่ผมไม่เคย” สาวัชจริงจัง
คู่สนทนาของเขาเอียงศีรษะแสดงความฉงน
ชายหนุ่มสบตาอิงอรุณนิ่งๆ แต้มยิ้มบางเบาบนริมฝีปาก ขณะเอ่ยช้า...ชัดเจนทีละคำ
“ผมไม่เคยรู้สึกดีกับใครมาก่อน จนกระทั่ง...ผมรู้จักคุณ!”
รูปถ่ายสุภาพสตรีร่างเล็กในอิริยาบถและสถานที่ต่างๆซึ่งกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะถูกรวมเข้าด้วยกันแล้วสอดใส่ซองกระดาษสีน้ำตาล จากนั้นปิดผนึกแน่นหนา ผู้เป็นเจ้าของห้องยื่นซองนั้นให้ผู้ที่ยืนนอบน้อมอยู่เบื้องหน้า
“ส่งให้ถึงมือสุพจน์ เทียมสุบรรณ เท่านั้น เข้าใจไหม”
“ครับท่าน” ผู้น้อยยกมือแตะปลายนิ้วที่หางคิ้วตะเบ๊ะรับคำสั่งขันแข็ง “ต้องเรียนไหมครับว่าท่านให้นำมามอบให้”
“นั่นเป็นไฮไลต์สำคัญของเรื่องนี้เลยนะ จะพลาดได้ยังไง”
“รับทราบครับผม” คนอายุน้อยกว่ารับคำเสียงเข้ม เมื่อนายให้หน้าอนุญาต เขาจึงค้อมศีรษะต่ำแล้วหมุนตัวออกจากห้องไปเงียบๆ
ศักดิ์สิทธิ์หัวเราะหึๆอย่างพึงใจ กะการณ์ถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึงด้วยความชื่นมื่น สุขใจเต็มเปี่ยม!
[1] บทเพลง สีชัง คำร้องโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำนองโดย สง่า อารัมภีร ขับร้องโดย ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์
: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์ด้วยนะคะ
สิริณอ่านหมดน้า แต่ระยะนี้ไม่สามารถตอบกลับทุกคนได้จริงๆ
เพราะว่าโพสต์หลายเว็บ แล้วคนอ่านเริ่มเยอะมากกก
อยากให้รู้ว่ารู้สึกขอบคุณจากใจ
ดีใจที่คนอ่านชอบ อิน หมั่นหน้านางเอก สงสารพระเอก ฯลฯ
คือจะมาแนวติ หรือชม ก็ดีใจหมด
เพราะแสดงว่าอ่านละเอียด รักกันจริง
ถึงสละเวลาบอกกล่าวให้สิริณรับคำติชมไปพัฒนาผลงานให้ดียิ่งๆขึ้น
ทุกคอมเม้นต์เป็นความชื่นใจของคนเขียนจริงๆค่ะ
เสียงเพลงที่ลอยมาตามลมทำให้คนที่เดินอยู่เคียงข้างก้มหน้าซ่อนยิ้ม ตั้งแต่นั่งเรือข้ามจากท่าเรือเกาะลอยศรีราชามายังเกาะสีชัง เช่ารถสามล้อที่คนท้องถิ่นเรียกว่ารถสกายแล็ปไปยังศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ชมวิวยังช่องเขาขาด และมาจบลงที่พระจุฑาธุชราชฐาน อิงอรุณฮัมเพลงสีชังติดปากทุกครั้งที่เผลอ บอกให้รู้ว่าเธอกำลังอยู่โหมดผาสุขโดยแท้
‘คนรุ่นคุณรู้จักเพลงแบบนี้ได้ยังไง’ เขาถามอย่างอดไม่ได้
‘ตอนเด็กๆคุณตาเปิดเพลงคุณชายถนัดศรีทุกวัน ถ้าไม่รู้จักก็แปลกแล้ว’ อิงอรุณเฉลยชื่นมื่นติดจะภูมิใจด้วยซ้ำที่รู้จักเพลงเก่าโบราณซึ่งคนยุคใหม่น้อยคนจะเคยได้ยิน
มันคงเป็นความลำเอียงที่ทำให้สาวัชคิดว่าเธอน่ารักนัก!
ตลอดการเดินทาง หญิงสาวบันทึกเสียงใส่โทรศัพท์เป็นระยะ จดรายละเอียดสำคัญลงในแทบเลต และถ่ายรูปจำนวนมาก แม้รู้แก่ใจว่าอิงอรุณเห็นการพักผ่อนครั้งนี้เป็นการสำรวจเก็บข้อมูลเรื่องงาน แต่สาวัชกลับไม่หงุดหงิดเลย
หลังชมอาคารอาไศรยสฐานทั้งสามหลัง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามว่าเรือนวัฒนา เรือนผ่องศรี และเรือนอภิรมย์ ตามพระนามของพระบรมราชเทวี พระวรราชเทวี และอรรคชายาเธอทั้งสามพระองค์ครบแล้ว สาวัชนำลูกทัวร์เพียงคนเดียวไปยังสะพานอัษฎางค์ อันเป็นสะพานไม้สีขาวทอดยาวลงไปในทะเล มีศาลาพักอยู่ที่ต้น กลาง และสุดปลายสะพานจุดละหนึ่งหลัง
สายลมพัดพากลิ่นไอเค็มจากทะเลมาแตะแต้มจมูก แต่ฆานประสาทของเขากลับได้กลิ่นหอมของดอกไม้อ่อนๆที่ฉมกระจายอยู่รอบตัวอิงอรุณมากกว่า
สาวัชทอดสายตาไปตามเรือประมงน้อยใหญ่ที่ลอยเท้งเต้งอยู่ไม่ไกล แล้วเบือนหน้ามาทางสตรีข้างกาย จับตามองเธอนิ่งๆด้วยหัวใจสุขสงบ อิงอรุณยืนตัวตรงมือทั้งสองเกาะราวสะพานไม้สีขาว เชิดหน้าขึ้นนิดๆ หลับตาพริ้ม มีรอยยิ้มแต้มประดับบนใบหน้า แสงแดดฉาดฉานให้ดวงหน้าเธองามจรัส เดรสแขนยาวสีขาวพิมพ์ลายตัวหลวมที่ยาวเหนือเข่าเล็กน้อยปลิวไปตามสายลมแนบเรือนร่างบอบบางข่มให้เห็นว่าแท้จริงแล้วหญิงสาวตัวเล็กเพียงใด
“เดี๋ยวผิวก็ไหม้หมดหรอก” เขาเตือน เมื่อไม่มีทีท่าว่าอิงอรุณจะเบือนหน้าหลบแดด
“อิงลงกันแดดมาอย่างดี รับรองว่าไม่มีปัญหาค่ะ” ดวงตากลมโตลืมขึ้นมามองเขาตาใสแจ๋ว “ว่าแต่อิง แล้วคุณสาวัชเหอะค่ะ ทากันแดดมาบ้างหรือเปล่า”
“ผู้ชายไม่ต้องทาหรอก”
อิงอรุณเบ้ปาก “รังสียูวีมันเลือกเหรอคะ ว่าคนนี้ผู้หญิงคนนี้ผู้ชาย ฉันจะโดนแต่ตัวผู้หญิงเท่านั้นน่ะ”
ไม่บ่อยที่สาวัชต้องรบกับคนช่างประชด และจะว่าไปอิงอรุณก็...มีเหตุผล!
“เอาเถอะ ครั้งหน้าผมจะทาละกัน”
“โอ้โห...คุณสาวัชกินยาผิดสำแดงหรือเปล่าคะเนี่ย นอกจากจะไม่ตอกกลับให้อิงหงายแล้ว วันนี้มีโหมดยอมให้อิงง่ายๆด้วย”
“คิดว่ายังไงล่ะ”
“ก็คิดว่าดีจังเลยน่ะสิคะ”
“ทำไมถึงดี” ระหว่างรอฟังคำตอบนั้น หัวใจเขาเต้นระรัวเร็วขึ้น มือก็เย็นจนรู้สึกได้ สาวัชซ่อนอาการประหม่าด้วยการเสวางมือบนราวรั้วที่กั้นตลอดแนว กำมันแน่นเพื่อระบายความตื่นเต้น
“ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอคะ” อิงอรุณสบตาเขา รอยระยิบเป็นประกายสดใสในดวงตาคู่นั้นย้ำให้เขาเบาใจว่าเธอก็คงคิดไม่ต่างกัน เพราะตลอดเวลาที่รู้จักกัน ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยแสดงความเป็นกันเองเฉกที่กระทำต่อเขากับผู้อื่น
“ผมยังต้องมีเหตุผลเลย”
“เหตุผลอะไรเหรอคะ”
“คุณเคยรู้สึกดีๆกับใครสักคนไหม”
“ก็ต้องเคยสิคะ แหม...ถามแปลกจัง”
“แต่ผมไม่เคย” สาวัชจริงจัง
คู่สนทนาของเขาเอียงศีรษะแสดงความฉงน
ชายหนุ่มสบตาอิงอรุณนิ่งๆ แต้มยิ้มบางเบาบนริมฝีปาก ขณะเอ่ยช้า...ชัดเจนทีละคำ
“ผมไม่เคยรู้สึกดีกับใครมาก่อน จนกระทั่ง...ผมรู้จักคุณ!”
รูปถ่ายสุภาพสตรีร่างเล็กในอิริยาบถและสถานที่ต่างๆซึ่งกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะถูกรวมเข้าด้วยกันแล้วสอดใส่ซองกระดาษสีน้ำตาล จากนั้นปิดผนึกแน่นหนา ผู้เป็นเจ้าของห้องยื่นซองนั้นให้ผู้ที่ยืนนอบน้อมอยู่เบื้องหน้า
“ส่งให้ถึงมือสุพจน์ เทียมสุบรรณ เท่านั้น เข้าใจไหม”
“ครับท่าน” ผู้น้อยยกมือแตะปลายนิ้วที่หางคิ้วตะเบ๊ะรับคำสั่งขันแข็ง “ต้องเรียนไหมครับว่าท่านให้นำมามอบให้”
“นั่นเป็นไฮไลต์สำคัญของเรื่องนี้เลยนะ จะพลาดได้ยังไง”
“รับทราบครับผม” คนอายุน้อยกว่ารับคำเสียงเข้ม เมื่อนายให้หน้าอนุญาต เขาจึงค้อมศีรษะต่ำแล้วหมุนตัวออกจากห้องไปเงียบๆ
ศักดิ์สิทธิ์หัวเราะหึๆอย่างพึงใจ กะการณ์ถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึงด้วยความชื่นมื่น สุขใจเต็มเปี่ยม!
[1] บทเพลง สีชัง คำร้องโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำนองโดย สง่า อารัมภีร ขับร้องโดย ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์
: + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + : + :
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์ด้วยนะคะ
สิริณอ่านหมดน้า แต่ระยะนี้ไม่สามารถตอบกลับทุกคนได้จริงๆ
เพราะว่าโพสต์หลายเว็บ แล้วคนอ่านเริ่มเยอะมากกก
อยากให้รู้ว่ารู้สึกขอบคุณจากใจ
ดีใจที่คนอ่านชอบ อิน หมั่นหน้านางเอก สงสารพระเอก ฯลฯ
คือจะมาแนวติ หรือชม ก็ดีใจหมด
เพราะแสดงว่าอ่านละเอียด รักกันจริง
ถึงสละเวลาบอกกล่าวให้สิริณรับคำติชมไปพัฒนาผลงานให้ดียิ่งๆขึ้น
ทุกคอมเม้นต์เป็นความชื่นใจของคนเขียนจริงๆค่ะ
สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 มิ.ย. 2559, 15:50:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 มิ.ย. 2559, 15:54:44 น.
จำนวนการเข้าชม : 1344
<< ตอนที่ 32 (100%) | ตอนที่ 33 (66%) >> |
พอใจ 26 มิ.ย. 2559, 16:36:43 น.
นั่นไงคะ ต้องมีใครตามจับผิดหนูอิงแน่ๆ แล้วพ่อหนูอิงจะโกรธสาวัชมั้ยเนี่ย. ใครกันนะที่อยู่เบื้องหลังการสะกดรอยตาม
นั่นไงคะ ต้องมีใครตามจับผิดหนูอิงแน่ๆ แล้วพ่อหนูอิงจะโกรธสาวัชมั้ยเนี่ย. ใครกันนะที่อยู่เบื้องหลังการสะกดรอยตาม
Zephyr 26 มิ.ย. 2559, 19:26:55 น.
อุต้ะ อุปสรรคใหญ่เริ่มเคลื่อนไหวละ
อุต้ะ อุปสรรคใหญ่เริ่มเคลื่อนไหวละ
นักอ่านเหนียวหนึบ 26 มิ.ย. 2559, 22:04:43 น.
โอยยยยย ก็มุ้งมิ้งน่ารักกันดี จะมาขัดลำทำไมเล่าาาาา เอาเถอะ ฟ้าหลังฝนมักจะสวยงามเสมอ ช่วงนี้ก็ให้ครึ้มๆ พายุกระหน่ำกันไป
โอยยยยย ก็มุ้งมิ้งน่ารักกันดี จะมาขัดลำทำไมเล่าาาาา เอาเถอะ ฟ้าหลังฝนมักจะสวยงามเสมอ ช่วงนี้ก็ให้ครึ้มๆ พายุกระหน่ำกันไป
Kim 27 มิ.ย. 2559, 02:14:01 น.
จะเป็นยังไงต่อไป ตอนหน้าจะเริ่มขมไหมหนอ
จะเป็นยังไงต่อไป ตอนหน้าจะเริ่มขมไหมหนอ
konhin 27 มิ.ย. 2559, 03:55:38 น.
สงสารเฮียจริงๆ จะจีบสาวทั้งที ทื่อไปไหนเนี่ย
สงสารเฮียจริงๆ จะจีบสาวทั้งที ทื่อไปไหนเนี่ย