แหวนปฏิพัทธ์ (ขาย E-book ที่ meb และ ookbee ในชื่อว่า "หนึ่งใจในรอยกาล" แล้วนะคะ)
ปาฏิหาริย์บางอย่างทำให้ธราต้องย้อนเวลากลับไปในอดีต

เพื่อพบกับทินกร ชายผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือเธอจากการโดนทำร้าย

เขาเป็นดาราดังที่ทำตัวแย่ๆ จนในปัจจุบันชีวิตตกอับ ไร้งานละคร

เธอจึงพยายามที่จะช่วยเหลือเขาเป็นการตอบแทน

แม้ความหวังดีของเธอจะสร้างความหงุดหงิดน่ารำคาญสำหรับเขาแค่ไหน

แต่เธอก็ยังพยายามที่จะทำให้สำเร็จ แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งพังมากขึ้นเท่านั้น

จนทุกอย่างมาถึงทางเลือก ระหว่างหัวใจกับเป้าหมาย อะไรสำคัญกว่า....
Tags: รักโรแมนติก,ดารา,นักเขียน

ตอน: ตอนที่ 10 ...คำสั่ง

ร่างสูงใหญ่กำยำยืนครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาทำอะไรลงไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่ได้รู้เลยว่าสิ่งที่ตามมามันจะบานปลายถึงขนาดนี้ ดวงตาคมคู่นั้นจับจ้องคู่กรณีอย่างไม่พอใจ และเหมือนอยากจะบีบคอให้ตายคามือ

“เอ้า เซ็นสิคะคุณทินกร” หญิงสาวพยักหน้าให้ชายหนุ่มก้มมองเอกสารตรงหน้า ปากกาอยู่ในมือเขามานานแล้ว แต่ไม่ยอมเซ็นเสียที คำสั่งของเจ้าหล่อนผสมรอยยิ้มคิกคักในแบบของคนชนะ ทำเอาทินกรหมั่นไส้อยู่ไม่น้อย

พระเอกหนุ่มก้มหน้าเซ็นอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก ช่วงเวลาเมื่อครู่แค่คิดว่าจะแกล้งเจ้าลิงกังเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าแม่คุณจะกรี๊ดดังสนั่นลั่นคอนโดจนแม่บ้านและ รปภ.มาดูกันเป็นโขยง และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องมายืนเซ็นเอกสารจองห้องอยู่ตรงนี้ในเวลาเกือบห้าทุ่ม เพราะเจ้าหล่อนกำลังจะตะโกนฟ้องคนพวกนั้นตามที่ขู่ไว้ หากไม่ยอมเช่าอีกห้องให้อยู่

...ไม่คิดเลยว่าจะต้องเป็นคนแพ้! แพ้แบบราบคาบจริงๆ

“ห้องข้างๆ คุณทินกรว่างอยู่พอดี เอาห้องนี้เลยใช่ไหมครับ” พนักงานหนุ่มเอ่ยถามธรา เธอหันมายักคิ้วให้พระเอกดังรอบหนึ่ง ก่อนตอบ

“ค่ะ เอาให้ใกล้ที่สุดเลยค่ะ”

“ได้เลยครับ คุณทินกรจะจ่ายสดหรือว่า...” พนักงานยังเอ่ยไม่ทันจบ ทินกรก็แทรกขึ้นเสียก่อน

“เอาบัตรเครดิตไปแล้วกันครับ พอดีผมไม่มีเงินสด กระเป๋าสตางค์โดนคนบ้าเขวี้ยงลงข้างทางไปครับ” เมื่อพูดจบ เสียงจิ๊จ๊ะก็ดังอยู่ไม่ห่างนัก

เมื่อการทำสัญญาทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวก็รีบเดินขึ้นห้องทันทีที่ได้รับกุญแจ ทินกรเดินตามเจ้าหล่อนไปโดยไม่ลืมบอกพนักงานก่อนว่า “ความลับเท่านั้นนะครับ” ซึ่งพนักงานก็รับปากอย่างหนักแน่นว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้พักอาศัย
ชายหนุ่มเดินกลับขึ้นห้องอย่างหงุดหงิดใจ เมื่อเขาเดินผ่านห้องของธรา เธอก็รีบออกมายิ้มต้อนรับทันที

“คุณเพลิง ฉันไม่มีชุดเลย นี่ฉันก็ใส่ชุดเดิมจากเมื่อวานนะเนี่ย ขอเสื้อผ้าคุณสักสามตัวสิ” หญิงสาวเอ่ยเสียงหวานกว่าทุกคราวที่พูดคุยกัน ชายหนุ่มขำในลำคอ

...หึ! จะพูดดีก็ต่อเมื่อได้ผลประโยชน์ ฝันไปเถอะ

“เรื่องอะไรผมต้องให้คุณด้วยไม่ทราบ” เขาเอ่ยเรียบๆ ก่อนเดินต่ออย่างไม่สนใจ ทว่าหญิงสาวร่างบางถลาเข้ามาขวางหน้าไว้เสียก่อน ทินกรยืนกอดอกอย่างไม่พอใจ

“นี่คุณอย่ามาล้อมหน้าล้อมหลังได้ไหม ผมรำคาญ ทำตัวอย่างนี้จะให้เชื่อได้ไงว่าอายุ 23”

“ไม่เอาน่าคุณ อย่าเครียดสิ ฉันแค่จะขอยืมเสื้อผ้าคุณเองนะ เดี๋ยวฉันซักคืนให้ก็ได้”

“คุณก็ดีแต่ปากแบบนี้แหละ เรื่องค่าห้องก็เหมือนกัน อยากจะรู้นักว่าจะมีปัญญาหามาคืนผมไหม แพงขนาดนั้น”

“ฉันสัญญาแล้วว่าจะคืน ฉันก็ต้องคืน อย่ามาดูถูกกันนักได้ไหม พูดดีๆ กันบ้างไม่ได้เลยเหรอ” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจือความโมโห คิ้วสวยขมวดมุ่นเหนือดวงตากลมโตคู่นั้น

ชายหนุ่มไม่เอ่ยอะไรต่อ แต่สิ่งที่ดวงตาคมดุสื่อออกมาคือความเย่อหยิ่งจองหอง ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นชินกันเสียแล้ว ยกเว้นหญิงสาวตรงหน้า ทุกคราที่ได้สนทนากัน หลายครั้งที่เธอกำหมัดสะกดอารมณ์ตัวเองจากการกระทำของพระเอกดังคนนี้

“ผมจะคอยดูแล้วกัน เข้ามาเอาเสื้อ แล้วก็รีบๆ ออกไป” ทินกรเปิดประตูค้างไว้ แต่ธรากลับยืนนิ่งอยู่ด้านนอก “บอกให้เข้ามา ผมไม่อยากให้ใครเห็นว่าคุณมายืนอยู่หน้าห้องผม”

หญิงสาวเดินเข้ามานั่งที่เตียงเขา ก่อนเอ่ยลอยๆ “ไม่อยากให้ใครเห็นว่ายืนอยู่หน้าห้อง แต่ให้เข้ามาอยู่ในห้องแทน คุณนี่ก็แปลกดีเนอะ”

เขาไม่ตอบอะไรกลับไป พร้อมทั้งส่ายหน้าอย่างเอือมระอา แสดงออกออกชัดว่าไม่อยากแม้กระทั่งเสวนาด้วย ชายหนุ่มยืนเลือกเสื้อผ้าอยู่สักพัก ก่อนจะหยิบมาให้เธอ

“เอาไป แล้วก็ซักมาคืนด้วย ปรับผ้านุ่มมาให้หอมๆ” พูดจบเขาก็เดินไปที่ประตู พลางเชื้อเชิญให้เธอออกทางอ้อม หญิงสาวขำคิกคัก นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้สำหรับการถูกเชิญให้ออก หากไม่เห็นว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยเธอไว้ เธอคงไม่มาตามตื๊อให้เขารำคาญใจเช่นนี้หรอก และไม่ว่าอย่างไร เธอก็ยังเชื่อว่าเธอจะเปลี่ยนเขาได้

หญิงสาวเดินไปที่ประตู ยิ้มให้นิดๆ เป็นการขอบคุณ “คุณเพลิง อย่าลืมกินข้าวนะ ที่ฉันทำไว้ให้น่ะ รับรองว่าอร่อยแน่นอน”

“ไม่ล่ะ จะเอาไปทิ้งให้หมด” ทินกรทำหน้าเบื่อหน่ายราวกับเหนื่อยใจเต็มทน “แล้วผมจะบอกคุณให้อีกอย่างนะ ผมไม่ชอบให้ใครมาเรียกชื่อเล่น นอกจากน้องฟ้าคนเดียว”

ประโยคนั้น ทำเอาคนที่กำลังจะออกจากห้องหยุดชะงักไปอีกรอบ ดวงหน้าหวานมีวี่แววแห่งความสงสัย

“น้องฟ้า ใครกันคะ”

“อะไรกัน ก็แฟนผมไง คุณไม่รู้จักได้ไง ถ้ารู้จักผมก็ต้องรู้จักฟ้าสิ ผมจะบอกให้ว่าผมกับฟ้ารักกันมากนะ ผมไม่ยอมแน่ๆ ถ้าหากจะมีใครมาทำให้เราทะเลาะกัน” ทินกรเอ่ยเสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม พร้อมทั้งจ้องตาเธอเขม็ง ดั่งจะให้รับรู้ทุกอย่างที่เขาสื่อ “เพราะฉะนั้น คุณห้ามบอกใครเด็ดขาดว่าเรารู้จักกัน ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ผมเล่นงานคุณแน่ นี่คือคำสั่ง! จำไว้!”

เขาไม่รอให้หญิงสาวตอบอะไรกลับมา มือหนาก็เอื้อมไปปิดประตูเสียก่อน ชายหนุ่มยืนพิงประตูอย่างหงุดหงิดรำคาญใจ สองวันมานี้เขาเจอแต่เรื่องประหลาด ก็เพราะเด็กประหลาดที่โผล่เข้ามาก่อกวนในชีวิตเขา

“หงิงๆ” เสียงครางเรียกเบาๆ จากสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ เขาเดินเข้าไปหามันที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว พลันสายตาเหลือบไปเห็นอาหารหลายอย่างที่วางอยู่ รูปร่างภายนอกน่าทาน

‘คุณเพลิง อย่าลืมกินข้าวนะ ที่ฉันทำไว้ให้น่ะ รับรองว่าอร่อยแน่นอน’

เสียงหวานเจื้อยแจ้วของหญิงสาวหน้าทะเล้น ดังมาเข้าหูอีกรอบ ทินกรนั่งลงช้าๆ กวาดสายตามองไปทั่วโต๊ะ คงต้องยอมรับเสียแล้วว่ามันช่างน่ากินยิ่งกว่าที่แม่ครัวเอาขึ้นมาให้เสียอีก

...ก็แค่น่ากิน รสชาติดีหรือเปล่าก็ไม่รู้

เขาไม่รอให้ตัวเองสงสัยนานนัก ลงมือตักกับข้าวอย่างแรกเข้าปากทันที ชายหนุ่มเคี้ยวเข้าไปคำแรก สิ่งหนึ่งที่รู้สึก “รสชาติเหมือนที่แม่เคยทำให้กิน”

หลังจากนั้นก็มีคำที่สองและสามตามมา จากที่ว่าจะเอาไปทิ้ง กลับกลายเป็นว่ามันเป็นเครื่องดึงดูดที่ทำให้เขานั่งอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมง แต่ละคำที่ผ่านไป ให้ความรู้สึกได้หลากหลาย เขายิ้มให้กับความรู้สึกอบอุ่นครั้งนี้ ทั้งที่ไม่เคยได้รับเลยตลอดเวลาเกือบยี่สิบปีที่ผ่านมา





หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งพิงกำแพงข้างเตียง สายตากวาดมองไปทั่วห้องพักใหม่ โทนสีของห้องนี้ให้ความรู้สึกเย็นตามากกว่าห้องของทินกร ห้องนั้นจะเป็นการจัดเน้นสีน้ำเงิน ส่วนห้องนี่จะเป็นสีฟ้าอ่อน เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับผู้หญิงมากกว่านั่นเอง

เธอนั่งคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่เมื่อวาน เธอย้อนเวลากลับมาที่นี่ เพียงเพื่อมาทะเลาะกับผู้ชายนิสัยเสียคนนี้เท่านั้นหรือ? เพื่อมาแก้ไขอดีตเขา? สิ่งที่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว มันจะไปแก้ไขได้อย่างไรเล่า แต่สมองเจ้ากรรมดันนึกไปถึงคำสั่งจากพระเอกดังคนนี้

“ฟ้า แฟนคุณเพลิงงั้นเหรอ ชักคุ้นๆ แล้วแฮะ” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบาๆ นึกไปถึงบทความที่เธอเคยอ่านเกี่ยวกับทินกร มีเรื่องราวของคนชื่อฟ้าอยู่เหมือนกัน ถ้าเธอจำไม่ผิด ผู้หญิงคนนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตในวงการของทินกรต้องจบลงอย่างไม่ดีนัก

...คนชื่อฟ้านี่เอง ที่เป็นต้นเหตุทำให้ตานั่นต้องดับ ถ้างั้นหากเราจะแก้ไขชีวิตของคุณเพลิง ทุกอย่างก็ต้องไปเชื่อมต่อกับคุณฟ้าด้วยเหมือนกัน ความจริงคืออะไร ต้องรู้ให้ได้!





เอวาลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 มิ.ย. 2559, 18:41:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 มิ.ย. 2559, 18:41:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 859





<< ตอนที่ 9 ...ละครที่เป็นจริง   ตอนที่ 11 ...คนที่ใครก็มองว่าเลว >>
Zephyr 30 มิ.ย. 2559, 10:30:56 น.
กันฟ้าออกไปๆๆๆๆ 555
เฟมือนสองคนนี้คบกันเพราะผลประโยชน์นะ
ดูไม่ได้นักกัน หรือน่าจะรักหลอกโปรโมต
หึหึ นางจะแก้พี่เพลิงยังไงนะ
ทะเลาะกันทุกคำเลยอ่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account