เรียงหัวใจฝัน:รอยเล่ห์ลวงใจ (เปิดจอง 31 เม.ย. 59- 31 กรกฎาคม 59)
‘เพราะความรัก ความผูกพันที่ก่อตัวมายาวนาน ถูกทำลายลงด้วยเล่ห์ลวงแสนร้าย กว่าจะรู้ตัวว่าได้เหยียบย่ำหัวใจ เวลาก็ผ่านไป เขาไร้เธอข้างกาย ดวงใจสลายกลายเป็นผู้ชายไร้หัวใจ’
Tags: คุณณัยกับคุณปรียา,ปาใน,รอยเล่ห์ลวงใจ,ร้อย:เรียง:เพียง:คำ,เรียงหัวใจฝัน,ดังปัณณ์,

ตอน: บทที่ ๔ 2/4

“พี่ปาคนดีอยู่ในสะ คุณปียาจะไปหาแล้วนา”

เท่านั้นแหละคนที่ไม่เดือดไม่ร้อนในตอนแรก ก็แทบจะตกต้นไม้เมื่อเด็กหญิงเดินดุ่มไม่มองหน้ามองหลังตรงไปยังสระน้ำ แม้เขาจะรีบร้องบอกไปว่า “คุณปรียาคุณณัยอยู่นี่”

แต่นั่นก็เหมือนยิ่งเร่งเพราะเท้าเล็กๆ ยิ่งสาวใหญ่ เด็กชายลนลานจนตกลงมากองอยู่ทรงพื้นหญ้า แต่ถึงจุกเพียงไรก็ยังกัดฟันรีบลุกขึ้นวิ่งตรงไปข้างหน้าพร้อมกับร้องห้ามเสียงลั่น

“คุณปรียาหยุด คุณณัยบอกให้หยุดไง!”

“แน้!” เด็กหญิงแย้งเสียงแจ๋วไม่หันมาสักนิด “คุณปาอยู่ในสะ คุณปียาลู้แล้ว” ตานี้เด็กชายรู้แล้ว ยายตัวแสบหมายตาสระน้ำมากกว่ามาตามหาเขา!

“ยายปิรันย่าเอ๊ย!”

เด็กชายเอ็ดเสียงลั่นเมื่อคว้าตัวเด็กหญิงไว้ได้ แค่ก้าวเดียวเท่านั้นเอง ถ้าหากเขาช้ากว่านี้เธอก็คงจะลงไปแช่น้ำเหมือนกับตุ๊กตาตัวโปรดที่ตอนนี้ลอยตุ๊บป่องอยู่นั่นแหละ

“ทำไมถึงได้ชอบทำให้คนอื่นเดือดร้อนกันนักนะหะ คุณปรียา!”

อัลิปรียาหน้าเหลอ เบะปากแดงย้อย สักพักน้ำตาก็ไหลพรากด้วยความตกใจ เสียงร้องไห้โฮทำเอาคนเอ็ดเสียงอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว

เด็กชายยันตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะดึงเด็กหญิงขึ้นนั่งตาม แถมดูละล้าละลังเพราะจะปลอบก็ปลอบไม่เป็นเลยได้แต่กอดไว้แนบอก จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เมื่อแลเลยไปยังเบื้องหลังของเด็กหญิง แล้วเห็นบรรดาผู้ใหญ่วิ่งหน้าตาตื่นตรงมา เสียงตะโกนล้งเล้งถาม ส่วนผลที่ได้ก็คือเขาโดนดุไปตามระเบียบ ส่วนเจ้าตัวคนก่อเรื่องยิ้มร่านั่งประจบอยู่ใกล้ๆ






อยากกลับไปตอนนั้นนะ

ปณัยรำพึงในใจแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมค่อยปรือเปิดเปลือกตา พลันนั้นเองที่ตัวแข็งทื่อ เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างบอบบางของผู้หญิงคนหนึ่งในสวนหย่อม มือเขาสั่น ปากก็สั่น เอ่ยพึมพำเรียกชื่อที่เจนใจอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

“คุณปรียา”

ปณัยไม่สนใจอะไรอีก ไม่คิดด้วยซ้ำว่าภาพที่เห็นมันจะเป็นแค่ภาพหลอนที่เขาสร้างขึ้นมา เมื่อก้าวพรวดพราดไปเปิดประตู วิ่งหัวซุนไปตามทางเดินที่ตรงไปสู่สวนหย่อมที่ใกล้ที่สุด

ในใจนั้นนึกอย่างเดียว... คืออยากให้ภาพที่เห็นเป็นความจริง

จะปาฏิหาริย์... จะความฝัน... หรือจะเป็นอะไรก็ช่าง

ในตอนนี้ ขณะนี้ ชายหนุ่มขอแต่เพียงว่าเมื่อไปถึงที่ตรงนั้นแล้ว ขอให้เจออัลิปรียาอยู่ตรงนั้นจริงๆ อย่างที่สายตามองเห็นก็เป็นพอ!

เขาภาวนา!!

แม้จะเป็นแค่ไม่กี่นาทีเมื่อวิ่งพ้นทางเดินภายในอาคาร ปณัยกลับรู้สึกเหมือนมันยาวนานชั่วกัปชั่วกัลป์ เขาสาวเท้าลงไปยังพื้นที่ของสวน หอบหายใจอย่างน่ากลัวด้วยความเหนื่อยและตื่นเต้น ทว่าเมื่อกวาดสายตามองหา สิ่งที่ปรากฎแก่สายตากลับเป็นเพียงความว่างเปล่า

ตรงนั้นในสวน ที่เก้าอี้ข้างสระบัวเล็กๆ นั้นไร้เงาของสิ่งมีชีวิตใดๆ รอบๆ มีเพียงแสงแดดอ่อนๆ ฉายกราดไปทั่ว กับลมเย็นๆ ที่พัดมาบางเบา

ปณัยยกมือขึ้นลูบหน้า ยืนนิ่งอยู่แบบนั้นด้วยความรันทดท้อ

หัวใจปวดหนึบ เขากลืนน้ำลายได้อย่างยากลำบาก ความรู้สึกทั้งหวัง หมดหวัง เจ็บปวดรวดร้าวและสมเพช ปะปนกันอยู่ในใจ

‘เธอตายไปแล้ว ส่วนคนที่ฆ่าเธอก็คือแกนั่นแหละปณัย!’

เสียงในหัวใจตอกย้ำซ้ำเติมความทุกข์ทรมานในความผิดบาปของเขา

ปณัยแทบหมดแรงหยัดยืน เขาปรารถนาเหลือเกินที่จะทิ้งตัวลงเกลือกกลิ้งกับพื้นเสียให้รู้แล้วรู้รอด เพราะทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอจากไปแล้ว ไม่มีวันกลับมาอีก แต่ในสมองก็ยังคอยแต่สร้างภาพของเธอ คอยย้ำกับหัวใจว่าเขามันเลว!!

แต่แล้วเสียงของบราลีที่ดังขึ้นก็ทำให้เขาต้องตั้งสติ แม้มันจะทำได้อย่างยากเย็นก็ตามที

“คุณปณัยคะ”

เธอยืนอยู่ข้างหลัง แต่เขาไม่ได้หันไป ปณัยยืนนิ่งหลับตาลงและสูดลมหายใจเข้าลึก นานอึดใจกว่าจะหันกลับมามองคนเรียก แม้จะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แต่ร่องรอยของความรวดร้าวก็ยังปรากฏอยู่ให้เห็นจางๆ จนบราลีนึกเป็นห่วง ว่าตอนนี้ปณัยเป็นอะไรกันแน่ จึงได้ดูทุกข์ทรมานมากเช่นนี้

แต่ว่ามันก็ไม่มีทางใดเลย ที่เธอจะช่วยให้เขาดีขึ้น โดยไม่ไปแตะต้องบาดแผลในใจนั่นของเขา สิ่งที่เธอทำได้จึงมีแค่ส่งสายตาห่วงใยไปให้ และพยายามทำให้เขาสบายใจขึ้น

“ลีไปที่ห้องแล้วไม่เจอคุณปณัยน่ะค่ะ เลยเดินออกมาตาม”

ชายหนุ่มพยักหน้ารับเนือยๆ ทอดสายตาอย่างอาลัยเมื่อกลับไปมองที่สวนอีกครั้ง

“มีอะไรคะ...คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”

น้ำเสียงทอดอ่อนแสดงความห่วงใย ช่วยทุเลาความเจ็บปวดในใจลงไปได้บ้าง ปณัยเลยมีสีหน้าที่ดีขึ้นเมื่อตัดใจละสายตากลับมา

“เปล่าครับ... เชิญคุณลีที่ห้องประชุมดีกว่า ขอโทษทีพอดีผม--”

ชายหนุ่มหันหลังกลับ สองไหล่ตั้งตรง สายตาทอดมองเพียงทางข้างหน้า

“แค่เห็นคนรู้จัก... ดูคล้ายๆ เลยออกมาหวังทักทายแค่นั้น... แต่ไม่ใช่”

บราลียิ้มรับไม่ซักต่อแม้ว่าจะไม่เห็นใครอยู่ในสวนหย่อมนี้เลยก็ตาม เธอเอ่ยชักชวนหวังให้เขาสบายใจขึ้น จากเรื่องอะไรก็ตามที่มันทำให้เขาทรมานอยู่ในตอนนี้ “งั้นเราไปประชุมกันเลยดีกว่าไหมคะ คุณเดโชจะได้ไม่หักเงินเดือน คุณปณัยจะได้เลี้ยงข้าวลีได้เสียที”

ปณัยยิ้มให้เธอฝืนๆ ก่อนผายมือเชื้อเชิญให้หญิงสาวเดินนำ ส่วนตัวเขาเองนั้นยังอดจะหันหลังกลับไปมองยังเก้าอี้ตัวที่เขาเห็นอัลิปรียานั่งอยู่ไม่ได้

ความว่างเปล่าดุจจะย้ำ

ชายหนุ่มระบายลมหายใจเฮือกใหญ่และกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก เขาเบือนหน้าหนี เมื่อต่อให้เพ่งมองสักเท่าใด บัดนี้ตรงเก้าอี้นั่นมันก็มีแค่ความว่างเปล่าที่เงียบงันเท่านั้นเอง


====================================================


ดีค้า พาคุณณัยกับคุณปรียามาส่งค่า ^O^

คุณZephyr เฟอร์รี่จัง ม่ายยยยยยยยยยย ไม่ให้เจอกันง่ายร้อกกกกก อิๆ

และคุณๆรีดเดอร์นะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่าน มาคุย มากดคะแนนให้ ขอบคุณมากๆ จริงๆค่ะ

ส่วนวันนี้ไปแล้วนะคะ ไว้เจอกันตอนหน้า คืนนี้หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ



ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.ค. 2559, 19:07:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ก.ค. 2559, 19:07:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 879





<< บทที่ ๔ 1/4   
Zephyr 2 ก.ค. 2559, 23:50:29 น.
โอ้ยยยยยย หลบกันไปหลบกันมา ฮึ
เจอซะทีเซ่ อยากดูเค้าป่ะกัน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account