มงกุฎแสงดาว (พิริตา) (เปิดจองรูปแบบเล่มพร้อมE-Book)
‘วาวพลอย’ เจ้าหญิงพลัดถิ่นผู้ไม่เคยรู้สถานะของตัวเองมาก่อน
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ถูกคุกคามด้วยภัยและความจริง การพลัดพรากจากคนที่รักก็มาถึง
พร้อมกับการเดินทางกลับสู่ ‘บ้าน’ ที่เธอไม่เคยรู้จักก็เริ่มต้นขึ้น


ด้วยการนำทางของ ‘หัสตะ’ ชายหนุ่มลูกครึ่งอดีตหน่วยซีลผู้เก่งกล้าสามารถ
ท่ามกลางเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค อันตรายที่ทั้งคู่ต้องร่วมกันฝ่าฟัน
ความรู้สึกบางอย่างได้ถักทอขึ้นในหัวใจทั้งสองดวง
แต่ทว่าชาติกำเนิดในอดีตกลับเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่กว่า
เจ้าหญิงและผู้นำทางจะทำอย่างไรกับความรักที่ไม่เห็นหนทางเป็นไปได้


Tags: เจ้าหญิง เจ้าชาย มงกุฎ แสงดาว ติดเกาะ โจรสลัด หน่วยซีล ทะเล

ตอน: บทที 13


เช้าของวันต่อมา พายุฝนซาไปตั้งแต่เมื่อคืน มีเพียงละอองฝนเท่านั้นที่ยังโปรยปรอยตลอดจนถึงรุ่งเช้าจึงหยุดเม็ด แสงแดดส่องสว่างจ้า ทำให้วาวพลอยต้องตื่นขึ้น

แต่ความรู้สึกปวดหัวส่งผลให้หญิงสาวยังคงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะขยับตัว อาการปวดเมื่อยไปทั่วทั้งสรรพางค์ เป็นเหตุให้เจ้าของร่างบอบบางครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว

“ฟื้นแล้วเหรอคุณ” เสียงที่คุ้นเคยทำให้เธอลืมตาขึ้นมอง

เห็นเพดานหินเป็นอย่างแรก และพอพยายามลุกขึ้นก็ต้องตกใจเมื่อร่างกายของเธอมีเพียงใบไม้ขนาดใหญ่สอง-สามใบปกปิดเอาไว้ วาวพลอยหันไปมองร่างใหญ่ที่นั่งหันหลังให้อยู่อีกด้าน

“นี่... อย่าบอกนะว่าคุณเป็นคนถอดเสื้อผ้าฉัน... ” หญิงสาวถามเสียงเบา หน้าแดงปลั่งด้วยความอายผสมฤทธิ์ไข้ที่ยังรุมๆ

“ตัวคุณเปียก ถ้าทิ้งไว้อาจทำให้คุณเป็นปอดบวมตายได้ เพราะแค่นี้ไข้คุณก็ขึ้นสูงแล้ว แต่สาบานได้ว่าผมไม่ได้ละลาบละล้วงอะไรคุณเลยนะ” ชายหนุ่มบอกเสียงจริงจังราวกับกลัวเธอจะไม่เชื่อ ก่อนจะลุกขึ้น แต่ยังไม่ยอมหันหน้ามาทางหญิงสาวแต่อย่างใด

“แต่ว่า... คุณเห็น... ” วาวพลอยยังไม่คลายความอับอาย เมื่อคิดว่าเขาเป็นคนถอดเสื้อผ้าเธอออกจนล่อนจ้อนอย่างนี้

“ผมไม่ได้มองคุณอย่างที่เข้าใจหรอกน่า” หัสตะรีบบอก เขาเองก็ตะขิดตะขวงใจไม่น้อยไปกว่าเธอเลยเมื่อพูดถึงเรื่องนี้

“คุณไม่มองแล้วจะถอดเสื้อผ้าฉันได้ยังไง” แต่คนฟังก็ยังไม่ยอมเชื่อ

“ผมคลำเอา”

“อะไรนะ!! ” หญิงสาวร้อง ใบหน้ายิ่งร้อนขึ้นกว่าเดิม

ร่างบางพยายามลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับกระชับใบตองปิดตัวแน่นขึ้นเมื่อเขาหันหน้ามา แต่สายตาของชายหนุ่มกลับจับจ้องไปยังเพดานหินเสียอย่างนั้น

“เอาน่า ทุกอย่างเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ผมพยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว” ชายหนุ่มรีบปัดไป เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกอับอายมากไปกว่านี้

“ว่าแต่คุณเถอะ รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือเปล่า” ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องพูด

“ฉันปวดหัว ปวดตัวไปหมด” และนั่นก็ได้ผลไม่น้อย เพราะวาวพลอยหันกลับมาสนใจอาการไม่สบายของตัวเองต่อ

“ร่างกายคุณไม่พร้อมสำหรับสถานการณ์อย่างนี้ก็ต้องน็อกเป็นธรรมดา เมื่อกี้ผมออกไปสำรวจป่าด้านหลัง เจอพืชสมุนไพรที่รู้จัก มีสรรพคุณแก้ปวดหัว แก้ไข้ ก็เลยรีบเอามาคั้นน้ำให้คุณ แต่ก่อนอื่นคุณต้องกินนี่ก่อน” เขาพูดพลางก้าวเข้ามาหา ก่อนส่งอะไรบางอย่างมาให้เธอ

มันเป็นเนื้อย่างที่ฉีกออกเป็นชิ้นเล็กๆ วางอยู่บนใบตอง กลิ่นของมันก็หอมกรุ่นยั่วย้ำลายดีนัก หญิงสาวสูดกลิ่นหอมเข้าเต็มปอด ท้องก็ร้องประท้วงขึ้นมาทันที เธอจึงนึกได้ว่าตัวเองไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวาน

“เนื้ออะไรคะ หอมจัง” วาวพลอยถามพลางรับมา และส่งเนื้อชิ้นเล็กนั้นเข้าปาก

“อร่อยดีด้วย” ก่อนเอ่ยต่อเมื่อรับรู้ถึงรสชาติเหมือนเนื้อไก่ ผสมความหวานอร่อยอย่างที่เนื้อสัตว์พึงมี

“ถ้าอร่อยก็กินให้หมดเลยสิ เพราะตอนนี้ร่างกายคุณต้องการพวกโปรตีนมาก” หัสตะว่า

วาวพลอยตั้งหน้าตั้งตากินเนื้อย่างนั้นจนหมด ชายหนุ่มกลับไปนั่งที่เดิม ง่วนอยู่กับอะไรบางอย่างแล้วร่างสูงจึงลุกมาหาเธออีกครั้ง คราวนี้เขาประคองกรวยใบตองมาด้วย

“มันจะช่วยให้อาการปวดหัวและไข้ลดลง” หัสตะส่งกรวยใบตองที่มีน้ำสีเขียวๆ และกากของมันลอยอยู่ประปรายมาให้ หญิงสาวรับมาดื่มอย่างว่าง่าย แต่เพราะรสชาติขมของมันทำให้เธอสำลักออกมา

“พอแล้วได้ไหม มันขม” วาวพลอยทำหน้าผะอืดผะอม เหมือนเด็กที่ชอบงอแงเวลากินยา เรียกรอยยิ้มขำแกมเอ็นดูจากคนตัวโตได้ไม่น้อย

“ไม่ได้ ยังไงคุณก็ต้องดื่มให้หมด ไม่อย่างนั้นอาการของคุณจะแย่ลงไปกว่านี้นะ อย่าลืมสิว่าที่นี่ไม่มีหมอ ไม่มีโรงพยาบาล นี่เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้อาการของคุณดีขึ้น หรือคุณจะให้ผมป้อน” ชายหนุ่มแสร้งขยับตัวเข้าไปใกล้

“อ๊ะ...ไม่ต้อง ก็ได้กินก็ได้” หญิงสาวรีบร้องขึ้นพลางทำหน้าง้ำ ก่อนจะรีบกลั้นใจดื่มน้ำสีเขียวรสขมๆ นั้นอย่างรวดเร็ว และกรวยใบตองบรรจุน้ำใสๆ จึงตามมา

“ค่อยยังชั่วหน่อย แล้วคุณเอาน้ำจืดมาจากไหนคะ” ก่อนถาม หลังจากดื่มน้ำเปล่าตบท้ายเรียบร้อย

“จากพายุเมื่อคืน” เจ้าของดวงหน้าหล่อเหลาตอบด้วยเสียงเรียบเรื่อย

“แล้วคุณเอาอะไรรองคะ อย่าบอกนะว่าใบตอง” วาวพลอยซักต่อ

พลางมองใบตองที่พับเป็นกรวยในมือ ด้วยลักษณะที่บอบบางของมัน ทำให้มาตอนนี้มีรอยช้ำไปทั่ว หญิงสาวนึกสงสัยว่ามันไม่น่าจะรองน้ำไว้ได้นานอย่างนี้

“เปล่าหรอก ใบตองแบบนี้ใช้รองได้แค่ครั้งต่อครั้งเท่านั้น และต้องรองไปกินไป เอาไว้นานไม่ได้ มันรั่ว” หัสตะตอบออกมาเพียงแค่นั้น

แต่สายตาคมมองออกไปนอกชะง่อนผา พอวาวพลอยมองตามสายตาของเขาก็พบรองเท้าสองข้างวางอยู่กลางพื้นหินที่เป็นลานหน้าชะง่อนผา

“อย่าบอกนะคะว่า รองเท้านั่น... ” หญิงสาวเอ่ยออกมาได้เพียงแค่นั้น ก็หันมามองหน้าคนข้างๆ อย่างพรั่นพรึงใจ

“มันเป็นชนิดที่กันน้ำ นอกจากจะกันน้ำเข้าแล้ว ยังกันน้ำออกได้เป็นอย่างดีด้วย รับรองว่าผมล้างมันเป็นอย่างดีแล้ว” ชายหนุ่มบอกต่ออย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร

วาวพลอยมองรองเท้าคู่ใหญ่ของเขาอีกครั้ง พลางกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดฝืน พร้อมกับพยายามทำใจให้ชินในคราวเดียวกัน แต่ทว่าพอหันกลับมาก็ต้องตกใจแทบหมดสติอีกรอบ เมื่อเห็นซากกระดูกยาวๆ ที่กองอยู่ข้างกองไฟเล็กๆ นั่น

“เนื้อที่ฉันกินเมื่อกี้ อย่าบอกนะว่าเป็นงูตัวนั้น... ที่คุณฆ่ามัน... ” คราวนี้เสียงของเธอสูงปรี๊ดด้วยความตกใจสุดขีด แต่คนฟังยังคงไม่มีท่าทีอะไร นอกจากยิ้มให้เธอน้อยๆ

“งูเห่ามันก็เหมือนกับพวกโจรสลัดนั่นแหล่ะ ถ้าเราไม่ฆ่ามัน มันก็ฆ่าเราอยู่ดี อีกอย่างเนื้องูเห่ามีฤทธิ์ร้อน มันจะช่วยให้คุณอบอุ่น และสร่างไข้ได้” เขาอธิบายหน้าตาเฉย หญิงสาวทำหน้าผะอืดผะอม พยายามจะอาเจียนแต่กลับไม่มีอะไรออกมา

“นี่คุณทำอะไรแบบนี้เป็นธรรมดาเลยเหรอคะ ถึงไม่ได้รู้สึกอะไร” เจ้าของดวงหน้างามซึ้งอดค่อนให้ไม่ได้

“ไม่หรอก เฉพาะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เท่านั้น คุณเองก็เหมือนกัน บางทีเจ้าหญิงก็ต้องสมบุกสมบัน มองผ่านความโหดร้ายบ้างเมื่อถึงเวลาและทำอะไรไม่ได้” แม้จะพูดออกมาอย่างนั้น แต่ใบหน้าหล่อเหลายังคงระบายรอยยิ้มขันอยู่บางๆ

“ฉันละเชื่อคุณเลย” หญิงสาวประชด

ในใจคิดไปว่า นี่เธอกำลังอยู่กับคนแบบไหนกันนะ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ตอนนี้ตัวเธอเองยังแทบเอาตัวไม่รอดด้วยซ้ำ คงได้แต่ทำใจเท่านั้น

“แล้วพวกของคุณกับโก๋จะเป็นยังไงบ้าง ฉันเป็นห่วงน้องจังค่ะ” วาวพลอยเปรยเมื่อฉุกคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ น้ำเสียงและดวงหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีพวกเขาอาจจะกำลังตามหาเราอยู่ก็ได้” หัสตะเองก็มีสีหน้าครุ่นคิดขึ้นมาเหมือนกัน

“แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่ตามเรือของพวกโจรสลัดมาติดๆ ล่ะคะ หรือว่าเรือของพวกเขาจะมีปัญหา”

ความจริงหญิงสาวไม่ได้ต้องการให้พวกหรคุณตามมาช่วยแต่อย่างใด เพราะเธอยังปรารถนาให้พวกเขาปลอดภัย แคล้วคลาดจากพวกโจรสลัดกลุ่มนี้ เพียงแต่อดสงสัยและคิดไปในแง่ร้ายไม่ได้เท่านั้นเอง

“หากเป็นอย่างนั้นจริง ผมคิดว่าเรือคงไม่เสียหายอะไร เรือของหรคุณสร้างจากวัสดุชั้นดี อาวุธแค่นั้นของพวกโจรสลัดคงทำอะไรไม่ได้ แต่พวกเครื่องยนต์ผมไม่แน่ใจ เพราะตอนที่ต่อสู้กับพวกโจรสลัดมันชุลมุนมาก แต่อย่าพึ่งมองในแง่ร้ายเลยคุณ สถานการณ์ของเราเลวร้ายกว่าพวกเขายังรอดมาได้เลย” เขาพยายามปลอบใจเธอ และในใจส่วนหนึ่งก็เชื่อในความสามารถคนของตนด้วยเช่นกัน

“อ้อ... เสื้อผ้าของคุณผมผึ่งไว้ข้างกองไฟเมื่อคืนมันเริ่มหมาดแล้ว ช่วงเช้านี้ถ้าแดดจัดอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมงคงแห้งสนิท”

“เดี๋ยวนะ คุณเอาไฟกับฟืนมาจากไหน ถึงได้ก่อกองไฟได้” วาวพลอยรู้สึกว่าตัวเองเป็นลูก คุณช่างสงสัย เข้าให้แล้ว แต่มันอดถามไม่ได้จริงๆ โชคดีที่หัสตะไม่ได้รำคาญที่จะตอบ

“ผมมีไฟแช็กติดมาด้วย แต่มันเปียกหมด ผมเลยต้องแกะเอาแต่ถ่านหินมาจุดไฟ ส่วนเชื้อเพลิงก็แค่กิ่งไม้ใบหญ้าที่อยู่ในซอกชะง่อนผาเล็กๆ บริเวณใกล้ๆ นี้ มันยังแห้งและใช้การได้อยู่ แต่กว่าจะออกไปได้ก็ต้องรอพายุฝนสงบก่อน”

“ตกลงตอนนี้เราไม่มีอะไรเหลือเลยใช่ไหมคะ” เจ้าของดวงหน้างามถามอย่างพยายามปลดปลงในตอนท้าย ชายหนุ่มเข้าใจสภาพจิตใจของอีกฝ่ายดี เขาจึงพยายามให้กำลังใจเธอ

“มีสิ ชีวิตของเราสองคนไง” หญิงสาวจ้องใบหน้าของเขา หัสตะจึงส่งรอยยิ้มอ่อนโยนมาให้

“นอกจากนั้นผมยังมีมีดสั้นที่พกติดตัว ถ่านหินจากไฟแช็กที่ยังเก็บไว้ใช้อย่างประหยัดได้ อย่ากังวลเลย ผมจะหาทางออกจากเกาะให้เร็วที่สุด คุณนอนพักเสียเถอะ ตื่นขึ้นมาคงจะทำให้ดีขึ้นบ้าง ผมเองก็จะพยายามสำรวจบริเวณรอบๆ นี้ดู บางทีถ้าโชคดีเกาะนี้อาจจะมีคนอยู่ก็ได้” หัสตะบอกถึงสิ่งที่คาดไว้ในตอนท้าย

วาวพลอยทิ้งตัวลงนอนบนพื้นปูด้วยใบตองที่เธอนอนอยู่ก่อนหน้านี้ อาการปวดหัวยังคงมีอยู่ และเธอรู้สึกว่ามันจะหนักขึ้นเมื่อได้รู้อะไรต่อมิอะไรจากหัวหน้าทหารรับจ้างคนนี้ ด้วยความเหนื่อยอ่อนและฤทธิ์ไข้ หญิงสาวจึงหลับลงไปในไม่ช้า

หัสตะเห็นเจ้าของร่างบอบบางหลับลงไปแล้ว เขาจึงมองสำรวจความเรียบร้อยรอบๆ ก่อนจะก้าวออกไปจากชะง่อนผา ตรงไปยังป่าด้านหลังไม่ไกลจากที่พักนัก

แม้ดวงตะวันจะสาดแสงแรงกล้าในยามสาย แต่อากาศในทะเลแบบนี้ก็ไม่อาจไว้ใจได้ ชายหนุ่มจึงพยายามมองหากิ่งไม้แห้งที่พอจะทำฟืนได้ตากแดดเอาไว้

จากจุดหนึ่งของป่าที่เป็นเนินสูงมองลงไปเบื้องล่างเห็นเพียงแต่ลานโขดหิน และล่างสุดเป็นทะเลสีครามงดงาม น่าแปลกที่เกาะนี้ไม่มีหาดทราย หรือจุดที่เขาอยู่จะเป็นด้านหลังของเกาะ

หากนี่เป็นเกาะนียา หนึ่งในหมู่เกาะมาเรติกจริง ก็แสดงว่าจะต้องมีฝั่งหนึ่งฝั่งใดเป็นที่อยู่ของชาวเกาะ ซึ่งได้โยกย้ายมาจากเกาะข้างเคียง อย่างที่เขาเคยรู้มาจากเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้ศึกษาเรื่องทะเล การเดินเรือ ในหมู่เกาะแถบนี้มาโดยตลอด

ตอนนี้พอไร้เสียงอื้ออึงของพายุ อากาศสดใส ก็รับรู้ได้ถึงเสียงของสรรพสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นแมลงหรือสัตว์เล็กสัตว์น้อยต่างๆ หัสตะพบกับต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ชอบขึ้นอยู่ตรงชายทะเล และผลของมันกินได้

ชายหนุ่มจึงเก็บมันกลับมาด้วย เพราะคิดว่าจากนี้ไปคนที่จับไข้อยู่คงไม่เจริญอาหารที่ได้จากสัตว์เล็กสัตว์น้อยสักเท่าไหร่ หัสตะอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อคิดถึงท่าทางของเธอ

แต่เสียงบางอย่างที่แว่วเข้าหูมาทำให้เขาชะงักฟังอย่างใจจดใจจ่อ เสียงนั้นนอกจากจะเป็นเสียงคลื่นที่ซัดฝั่งแล้ว ก็ยังมีเสียงเหมือนคนพูดคุย ตะโกน และเสียงของเรือยนต์ ซึ่งเสียงเหล่านั้นเบามาก

ถ้าหากหูไม่ไวก็คงไม่รู้สึกและแยกแยะไม่ได้ แต่หัสตะกลับได้ยิน แม้จะบอกไม่ได้ว่ามาจากทิศใดแต่ก็ทำให้เขารู้สึกใจชื้นขึ้นมา แม้ตอนนี้จะยังทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอให้อาการของวาวพลอยดีขึ้นกว่านี้ก็ตาม

ชายหนุ่มใช้เวลาไม่นานก็กลับมาพร้อมกับฟืน ใบตอง สมุนไพรตัวเดิม และผลไม้ที่เจอ หญิงสาวยังนอนหลับอยู่ เขาก้าวเข้าไปใกล้ร่างบอบบางที่ห่มคลุมด้วยใบไม้

เหมือนร่างนั้นจะดิ้นทุรนทุรายจนใบไม้เริ่มหมิ่นเหม่จะร่วงลงจากตัวเต็มที หัสตะจึงรีบขยับมันให้เข้าที่ ยกมือแตะหน้าผากเล็ก รู้สึกถึงความร้อนผ่าว อีกทั้งดวงหน้างามก็เต็มไปด้วยเหงื่อผุดพราย



ชายหนุ่มจึงใช้เสื้อของตัวเองที่ยังหมาดน้ำอยู่ชุบน้ำอีกนิดแล้วเช็ดไปทั่วทั้งใบหน้า และบนเนื้อตัว เท่าที่จะทำได้ จนความร้อนเริ่มคลาย ร่างบอบบางสงบลง เขาจึงวางใจขึ้น




**‘มงกุฎแสงดาว’ รูปแบบ E-Book สนใจเข้าไปโหลดฉบับเต็มกันได้นะคะ ที่

MEB

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6In
VzZXJfaWQiO3M6NjoiNzEyOTE2Ijt
zOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjY2NzYiO30

ookbee

http://www.ookbee.com/Shop/Book/3cbffb2b-d724-41df-87e9-b81cd2f83d83

ebooks.in.th

http://www.ebooks.in.th/ebook/34430/%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%81
%E0%B8%B8%E0%B8%8E%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B
8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7/



Hytexts

http://www.hytexts.com/ebook/book/B004883



นายอินทร์ปัณณ์

https://www.naiin.com/product/detail/184068/



ซีเอ็ด

https://www.se-ed.com/product/มงกุฎแสงดาว-PDF.aspx?no=9786164063174



banbanbook



http://banbanbook.com/banbanbook/cart/get_detail_book/1110



กานพลู
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ก.ค. 2559, 21:06:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ก.ค. 2559, 21:06:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 814





<< บทที่ 12   บทที่ 14 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account