มงกุฎแสงดาว (พิริตา) (เปิดจองรูปแบบเล่มพร้อมE-Book)
‘วาวพลอย’ เจ้าหญิงพลัดถิ่นผู้ไม่เคยรู้สถานะของตัวเองมาก่อน
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ถูกคุกคามด้วยภัยและความจริง การพลัดพรากจากคนที่รักก็มาถึง
พร้อมกับการเดินทางกลับสู่ ‘บ้าน’ ที่เธอไม่เคยรู้จักก็เริ่มต้นขึ้น


ด้วยการนำทางของ ‘หัสตะ’ ชายหนุ่มลูกครึ่งอดีตหน่วยซีลผู้เก่งกล้าสามารถ
ท่ามกลางเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค อันตรายที่ทั้งคู่ต้องร่วมกันฝ่าฟัน
ความรู้สึกบางอย่างได้ถักทอขึ้นในหัวใจทั้งสองดวง
แต่ทว่าชาติกำเนิดในอดีตกลับเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่กว่า
เจ้าหญิงและผู้นำทางจะทำอย่างไรกับความรักที่ไม่เห็นหนทางเป็นไปได้


Tags: เจ้าหญิง เจ้าชาย มงกุฎ แสงดาว ติดเกาะ โจรสลัด หน่วยซีล ทะเล

ตอน: บทที่ 25

เปิดจอง‘มงกุฎแสงดาว’
นิยายรักโรแมนติค ผสมผสานการผจญภัย แอ็คชั่น สนุกสนาน และน่าลุ้น!!
จะเป็นอย่างไรเมื่อเจ้าหญิงพลัดถิ่นต้องเดินทางกลับบ้านเมืองของตน
ด้วยการนำทางของหนุ่มลูกครึ่งอดีตหน่วยซีลฯ ที่เป็นดังแสงสว่าง
และแฝงไปด้วยอดีตที่เกี่ยวพันกันอย่างไม่น่าเชื่อ
มงกุฎแสงดาว มี 2 เล่มจบ ราคาเล่มละ 289 บ.
2 เล่ม ในราคาพิเศษเพียง 548 บ. ค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน 40 บ.
สั่งจองได้ทาง กล่องข้อความ http://web.facebook.com/pirita.boonta
หรือในเพจ ‘พิริตา อเมทริน นักเขียน’
Email: kanplu@windowslive.com
โทร.062665624 หรือทางไลน์ ID: pirita-ametrine
สั่งพิมพ์ประมาณต้นเดือนสิงหาคมนี้จ้า!!



เสียงเอะอะโวยวายพร้อมเสียงปืนดังผสานกันขึ้นในตอนเช้า วาวพลอยที่นอนอยู่ในเต็นท์สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที เธอรีบเปิดประตูเต็นท์ออกมา พบว่าหัสตะกำลังต่อสู้กับคนร้ายกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีอยู่สาม-สี่คน ชายหนุ่มจัดการกับพวกมันอย่างรวดเร็ว

ทำให้บางคนตกลงไปในน้ำ บ้างก็ล้มกลิ้งไปบนลานหิน จนกระทั่งคนสุดท้ายล้มลงแน่นิ่งกับพื้น หัสตะจึงหันมาทางเธอ ชายหนุ่มรีบหยิบปืนพกยาวเอชเค 33 ที่ตกบนพื้นขึ้นมา ก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาฉวยมือหญิงสาวในทันที

“เกิดอะไรขึ้นคะ” วาวพลอยถามเสียงสั่น หน้าตาตื่นตระหนก

“พวกมันดักรอเราอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว รีบหนีกันเถอะ” แต่เสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และหลายทิศทางทำให้เขาต้องดึงหญิงสาวเข้าไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่ และเริ่มยิงต่อสู้กับพวกคนร้ายที่ตามมาเพิ่มอีกเท่าตัว

ระหว่างที่กำลังยิงตอบโต้กันอยู่นั้นก็มีเสียงร้องโอดโอยจากฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่นานนักหัสตะก็สังเกตเห็นว่าพวกมันไม่ได้ต่อสู้กับเขาเท่านั้น แต่ยังหันไปยิงต่อสู้กับกลุ่มของใครสักคนอีกด้านหนึ่งด้วย

“ถอยไปตั้งหลักก่อนโว้ย!! ” เสียงสั่งการในกลุ่มพวกมันดังขึ้น พร้อมกับที่ต่างพากันถอยออกไปในสภาพบาดเจ็บกันหลายคน แต่เสียงปืนจากด้านโน้นยังดังไล่ตามพวกคนร้ายไปไม่ลดละ

“มีคนมาช่วยเรา” ชายหนุ่มบอกเสียงเบา มือหนายังจับปืนไว้มั่น แต่ไม่ได้ยิงต่อสู้แล้ว และสายตาก็ไม่ละไปจากกลุ่มคนร้าย

“ใครคะ ที่นี่ไม่ใช่เขตภูศิยาน์ไม่ใช่เหรอคะ” วาวพลอยที่มองจุดเดียวกับเขาตลอดเวลาถามขึ้นอย่างแปลกใจ

“ผมก็ไม่รู้ ต้องรอดูต่อไป” สิ้นคำของหัสตะ ทั้งสองก็เห็นร่างคุ้นตาของใครบางคนก้าวเข้ามายังที่ตั้งของเต็นท์

“ใช่หัวหน้ากับคุณวาวพลอยหรือเปล่า” เสียงของหรคุณดังขึ้น

“ฉันไม่แน่ใจ พวกเขาคงหนีไปแล้ว” และจิญจายะนั่นเองที่ตอบ

“หรคุณ จิญ” หัสตะตะโกนเรียก พร้อมดึงมือหญิงสาวลุกขึ้นจากที่กำบัง

“หัวหน้า/ หัสตะ... ” ทั้งสองร้องขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่โก๋กับตันเตจะตามมาสมทบ

“ไล่พวกมันไปหมดแล้วครับท่านหรคุณ” ตันเตรายงาน แล้วคนที่มาใหม่ทั้งสองก็อ้าปากค้างเมื่อเห็นหัสตะกับวาวพลอย

“โก๋/เจ๊พลอย!! ” ทั้งโก๋และวาวพลอยโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ

“พี่นึกว่าจะไม่เจอโก๋อีกแล้ว” หญิงสาวพร่ำน้ำตาไหลพราก

“โก๋ก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แล้วนี่เจ๊ไปอยู่ไหนมาตั้งนาน” โก๋เองก็รีบถามขึ้นเสียงสั่นเช่นกัน

“อย่าพึ่งพูดอะไรตอนนี้เลย เรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ เดี๋ยวพวกมันแห่กันมาอีกจะยุ่ง” หัสตะแทรกขึ้น ดวงตาคู่สีเทาอมฟ้ายังคงกวาดมองไปทั่วอย่างระแวดระวัง

จากนั้นทั้งหมดก็เดินเท้ามาอีกไม่ไกลจึงถึงที่พวกหรคุณจอดรถเอาไว้ ก่อนจะพากันขึ้นรถโฟร์วิล ไดร์ฟสีดำออกจากป่า เส้นทางเต็มไปด้วยความขรุขระ ลาดชัน บ่งบอกว่าไม่ใช่ถนนสำหรับรถวิ่งตามปกติ แต่หรคุณก็สามารถพาทุกคนออกมาจากป่าได้อย่างปลอดภัย

ขณะเดียวกันก็ไม่พบกับพวกทหารรับจ้างหรือกลุ่มคนร้ายแต่อย่างใด การเดินทางที่แสนทุลักทุเลสิ้นสุดลงเมื่อย่างเข้าสู่วันใหม่ รถโฟร์วีล ไดร์ฟจอดนิ่งอยู่ในหุบเขาที่เหมือนอ่างขนาดใหญ่

ล้อมรอบด้วยภูเขาเขียวขจีสูงสลับซับซ้อน หมอกสีขาวบางเบาลอยตัวอ้อยอิ่งอยู่บนยอดเขาที่รายรอบ อากาศจึงค่อนข้างหนาว บ้านเรือนหลังเล็กหลังน้อยซ่อนตัวอยู่ตรงนั้นตรงนี้ท่ามกลางดงไม้สูง หัสตะส่งมือให้หญิงสาวจับขณะกระโดดลงมาจากด้านหน้าของรถ

“ที่นี่ที่ไหนคะ” วาวพลอยถาม พลางมองทัศนียภาพโดยรอบ ในใจนึกทึ่งในความสวยงามราวกับภาพฝันที่ปรากฎตรงหน้า

“ดอยหมอกห่ม เป็นหมู่บ้านของพวกผมเอง” ชายหนุ่มตอบ

ขณะเดียวกันเสียงร้องบอกต่อกันเป็นภาษาริตถาวดีก็ดังมา พร้อมกับกลุ่มคนสิบกว่าคนที่วิ่งมาหากลุ่มของพวกเธอ ท่าทางเต็มไปด้วยความยินดี

“นี่เป็นครอบครัวของพวกเรา” เขาบอก ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะโอบกอดกันและกัน

วาวพลอยกับโก๋ได้แต่ยืนมองตาปริบๆ เธอสะดุดตากับหญิงชาวตะวันตกสูงวัยสองคนที่กำลังโอบกอดพร้อมหอมแก้มหัสตะและหรคุณราวกับเป็นเด็กตัวน้อยๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันมาทางหญิงสาว

“นี่แม่ของผมกับหรคุณ ชื่อ มาเรีย และ น้าลินดา แม่ น้าลินดาครับนี่คุณวาวพลอย เพื่อนของผมมาจากเมืองไทย แล้วก็โก๋น้องชายของเธอครับ” วาวพลอยกับโก๋ยกมือไหว้ แต่นางมาเรียกับนางลินดาส่งมือมาให้จับ

“ยินดีต้อนรับจ้ะหนูวาวพลอย โก๋ ตามสบายนะจ๊ะ” หญิงสาวกับโก๋กล่าวคำขอบคุณ

“ถ้าอย่างนั้นเราเข้าไปในบ้านกันเถอะทุกคน จะได้ทานอาหารเช้ากัน” นางมาเรียบอกด้วยรอยยิ้มใจดี

*-*-*-*-*-*

หลังอาหารเช้าผ่านไป หัสตะให้วาวพลอยพักกับมารดาและน้าของเขาที่บ้านของคนทั้งคู่ ที่ดอยหมอกห่มส่วนมากชาวบ้านคนอื่นจะพูดภาษาริตถาวดีกัน ยกเว้นกลุ่มของพวกเขาที่สื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่

นางมาเรียกับนางลินดาต่างก็ดูแลหญิงสาวเป็นอย่างดี โก๋เองแม้จะได้ไปพักกับหรคุณแต่ก็รีบมาหาวาวพลอยทันทีที่อาบน้ำอาบท่าเสร็จ

“เจ๊ โก๋นึกว่าจะไม่ได้เจอเจ๊อีกแล้ว ถ้าไม่มีเจ๊โก๋ก็ไม่รู้จะกลับไปเจอหน้าป้าพรยังไง ไหนจะเจ๊พราวอีก” คนเป็นน้องชายเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นหน้าหญิงสาว

“พี่ก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ว่าแต่หลังจากถูกโจรสลัดปล้น ทำไมไม่เห็นตามพวกพี่ไปล่ะ”

“โห... พูดแล้วโก๋ยังเสียวไม่หาย... ” ว่าแล้วโก๋ก็เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทางฝ่ายตนให้วาวพลอยฟังอย่างออกรส

หลังจากถูกโจรสลัดปล้นเรือ และจับตัววาวพลอยไป โดยมีหัสตะแอบตามขึ้นเรือไปช่วย เครื่องยนต์เรือของหรคุณที่โดยสารกันอยู่ก็มีปัญหาเพราะโดนยิงจุดสำคัญทำให้ใช้การไม่ได้ เรือลอยเคว้งคว้างอยู่กลางทะเลเป็นอาทิตย์

โชคดีที่โจรสลัดไม่ได้เอาเสบียงไปหมด จึงพอมีเหลือประทังชีวิตอยู่บ้าง ก่อนจะได้รับความช่วยเหลือจากเรือสินค้าในวันหนึ่ง ทั้งหมดจึงได้กลับไปเกาะสุตวาอีกครั้ง เพื่อทำการซ่อมเครื่องยนต์ ซึ่งก็ใช้เวลาหลายอาทิตย์เช่นกัน เพราะต้องรออะไหล่ที่สั่งจากฝั่ง

ระหว่างนั้นทางกลุ่มได้ทราบข่าวเรือโจรสลัดระเบิด จึงว่าจ้างเรือชาวประมงที่เกาะสุตวาออกตามหาแต่ก็ไม่มีร่องรอยอะไรเหลือให้เห็น จึงคิดว่าหัสตะกับวาวพลอยคงไม่รอด สร้างความเสียใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก

พอซ่อมเรือเสร็จเลยตัดสินใจพากันเดินทางกลับริตถาวดี แต่ได้เจอกับพวกที่ตามล่าเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งริตถาวดีเข้าด้วยความบังเอิญบนฝั่ง จึงพยายามสืบข่าวคราวจากพวกนี้และได้รู้ว่าเจ้าหญิงยังไม่ตาย พวกเขาเลยแอบตามติดพวกคนร้ายตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา จนเจอคนทั้งคู่ในที่สุด

“แล้วทางเจ๊ล่ะเป็นยังไงบ้าง” โก๋ถามต่อหลังเล่าเรื่องทางตัวเองจบ

วาวพลอยจึงเล่าเรื่องของเธอกับหัสตะให้โก๋ฟังอย่างคร่าวๆ แน่นอนว่าจงใจละเว้นเรื่องการแต่งงานหลอกๆ ที่เกาะนียาเอาไว้

“พูดไปเรื่องนี้ก็เหมือนหนัง เหมือนละครเลยนะเจ๊ ผจญภัย บู๊กันสนั่นหวั่นไหว” โก๋ว่าอย่างนึกขัน หลังจากที่ต่างก็ผ่านนาทีชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิดหลายครั้ง

“นั่นสิ ตอนนี้ไม่รู้แม่จะเป็นยังไงบ้าง พี่เป็นห่วงแม่จังโก๋ พี่พราวอีกคน” เพราะความเป็นห่วงมารดาทำให้หญิงสาวอดเปรยขึ้นไม่ได้ในตอนท้าย

“ไม่ต้องห่วงหรอกเจ๊ ป้าพรฉลาดเป็นกรด เอาตัวรอดได้อยู่แล้วน่า” โก๋ปลอบใจ ก่อนจะคุยสัพเพเหระกันต่อ แล้วจึงแยกกันไปพักผ่อน

ยามเย็นย่ำมารดาของหัสตะได้จัดงานเลี้ยงเล็กๆ ขึ้นที่ลานโล่งหน้าบ้าน เพื่อต้อนรับการกลับมาของลูกชายทั้งสองและเพื่อนๆ ต่างก็พูดคุยดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน หัสตะนั่งอยู่ข้างๆ นางมาเรียกับนางลินดา วาวพลอยนั่งข้างเขาอีกที

ชายหนุ่มคอยหยิบจับอาหาร เครื่องดื่มให้กับเธอ พร้อมกับเล่าให้หญิงสาวฟังถึงที่มาที่ไปของอาหารเครื่องดื่ม และแนะว่าต้องทานยังไง เครื่องดื่มพิเศษของที่นี่นั้นทำมาจากพวกผลไม้ในป่าตามฤดูกาลกับข้าวสาลีหมัก เป็นเหล้าหวานของริตถาวดี

แต่เพราะเคยเมาเหล้าหมักสูตรพิเศษที่เกาะนียามาก่อน จึงทำให้วาวพลอยแค่จิบลิ้มลองรสชาติ ไม่กล้าดื่มแบบเอาเป็นเอาตายเหมือนครั้งนั้นอีก ซึ่งแม้รสชาติของเหล้าหมักทั้งสองแห่งจะไม่เหมือนกัน แต่ก็มีความหวาน ดื่มง่ายคล้ายกัน

ส่วนอาหาร แม้ที่นี่จะทานข้าวเป็นหลักเหมือนที่เมืองไทย แต่อาหารส่วนมากจะต้มเละๆ เหมือนซุป ปรุงแต่งรสชาติด้วยเครื่องเทศกลิ่นฉุน รสเผ็ดร้อน และมีที่ปิ้งย่าง คั่ว หรือผัดบ้างเล็กน้อย แต่รสชาติก็ยังแตกต่างจากที่เธอคุ้นเคยอยู่ดี

หัสตะกับนางมาเรียเล่าว่า เพราะดอยหมอกห่มอยู่ห่างไกลความเจริญจึงทำให้ต้องพึ่งพาตัวเองในทุกด้าน ผัก ผลไม้ ถั่ว ฯ ที่ใช้ปรุงอาหารและบริโภคต่างๆ มีทั้งที่ปลูกเอาไว้และขึ้นเองตามป่าและริมน้ำธรรมชาติ

เนื้อที่นำมาปรุงอาหารก็ได้มาทั้งจากป่าและสัตว์ที่เลี้ยงเพื่อบริโภค รวมถึงพวกน้ำมันก็ยังมาจากพืชตระกูลถั่วหรือไม่ก็สัตว์ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวริตถาวดีนั่นเอง

และมาตอนนี้อาหารริตถาวดีแท้ๆ นี้ก็ถูกปรุงขึ้นโดยคนต่างชาติอย่างนางมาเรียและนางลินดา ช่างเป็นเรื่องน่าทึ่งไม่น้อยในความคิดของวาวพลอย

“เมื่อก่อนป้าเองก็ทำอะไรไม่เป็นหรอก ใช้เวลาเรียนรู้ตั้งนาน กว่าจะทำได้เหมือนคนอื่นเขา โชคดีที่พ่อของเด็กๆ สอนให้ทำอาหารง่ายๆ ก่อน ป้าก็เลยค่อยๆ เรียนรู้มาเรื่อยๆ จนมาถึงตอนนี้จึงทำอาหารแบบ

ริตถาวดีแท้ๆ ให้กินกันได้” นางมาเรียเล่าด้วยน้ำเสียงและใบหน้าเปี่ยมสุข เมื่อพูดถึงสามี จนวาวพลอยรู้สึกสนใจขึ้นมา

“ดีจังนะคะ คุณพ่อของคุณหัสตะคงเป็นคนน่ารักมากนะคะ แล้วตอนนี้ท่านอยู่ไหนล่ะคะ” หญิงสาวถามออกไปอย่างสนใจใคร่รู้

แต่ทว่าคำถามนั้นกลับก่อให้เกิดความเงียบสงัดไปทั่วทั้งวง วาวพลอยมองหน้าคนโน้นทีคนนี้ทีอย่างไม่เข้าใจ แต่อะไรบางอย่างบอกกับหญิงสาวว่าเธอไม่ควรพูดถึงเรื่องนี้

“ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วงเลยนะคะ” วาวพลอยรีบพูดขึ้น หน้าจืดเจื่อนลงด้วยความรู้สึกผิด

ด้วยเข้าใจว่าเรื่องนี้คงละเอียดอ่อนสำหรับทุกคนในครอบครัว หญิงสาวคิดว่าพ่อของเขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว เหมือนกันกับบิดา มารดาของเธอ

“ไม่เป็นไรจ้ะ เอาเป็นว่าเราทานอาหารกันต่อเถอะจ้ะ” นางมาเรียบอกพร้อมรอยยิ้ม



แม้จะมีความใจดีเหมือนเดิม แต่ก็แฝงไปด้วยความเศร้าสร้อยที่วาวพลอยรับรู้ได้ ก่อนจะชวนคุยเรื่องอื่นๆ ทำให้บรรยากาศที่น่าอึดอัดคลายลงไปในที่สุด




**‘มงกุฎแสงดาว’ รูปแบบ E-Book สนใจเข้าไปโหลดฉบับเต็มกันได้นะคะ ที่

MEB

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YTo
yOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNz
EyOTE2IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjY2NzYiO30

ookbee

http://www.ookbee.com/Shop/Book/3cbffb2b-d724-41df-87e9-b81cd2f83d83

ebooks.in.th

http://www.ebooks.in.th/ebook/34430/%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0
%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%8E%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0
%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7/



Hytexts

http://www.hytexts.com/ebook/book/B004883



นายอินทร์ปัณณ์

https://www.naiin.com/product/detail/184068/



ซีเอ็ด

https://www.se-ed.com/product/มงกุฎแสงดาว-PDF.aspx?no=9786164063174



banbanbook



http://banbanbook.com/banbanbook/cart/get_detail_book/1110




กานพลู
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ก.ค. 2559, 13:28:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ก.ค. 2559, 13:28:34 น.

จำนวนการเข้าชม : 867





<< บทที่ 24   บทที่ 26 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account