สามีรีเทิร์น
เขาต้องจากกับคนรักเพราะถูกกีดกันจากครอบครัวของเธอที่ชอบคนรวย และเมื่อวันที่เขามีพร้อมเขาก็กลับมาเอาคืน เอาคืนทุกอย่างรวมทั้งเมียของเขาที่ถูกใสตะกร้าล้างน้ำยกให้ผู้ชายอื่นด้วย
Tags: สามี, นิยายรัก, ลมหวน, อดีต, กลับมารักกัน

ตอน: ตอนที่ 6 >>> 50%

ตอนที่ 6

เสียงเคาะประตูห้องทำให้คูเปอร์ที่เพิ่งมาถึงห้องเมื่อครู่ขมวดคิ้วอย่างสงสัย จะว่ารูมเซอร์วิสก็ไม่น่าจะใช่เพราะเขาไม่ได้โทร.สั่ง และก่อนที่ชายหนุ่มจะสงสัยมากไปกว่านี้คนนอกห้องก็ตะโกนรายงานตัวเอง “ผมแซคครับมิสเตอร์อิวานอฟ”

“โอ้” ชายหนุ่มครางแล้วเดินไปเปิดประตู “เร็วตามเคยนะแซค”

“ถ้าผมเร็วคุณคงได้เป็นมิสเตอร์แม็คเคย์แทนอิวานอฟแล้วละครับ หรือคุณจะเปลี่ยนใจ”

คูเปอร์โคลงศีรษะพร้อมกับขำน้อยๆ เจอหน้ากันทีไรแซคคนของตระกูลแม็คเคย์มักจะเอ่ยถึงข้อผิดพลาดของตัวเองให้ได้ยินเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นแซคก็เป็นคนพาเขาไปพบกับครอบครัวของบิดาที่ทำให้เขากับแม่ถึงกับตะลึงอึ้งรับประทานไปตามๆ กันกับสิ่งที่ได้รับรู้

แม้มารดาจะเคยเล่าว่าให้ฟังว่าพ่อเคยบอกว่าที่บ้านของพ่อมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ก็ไม่คิดว่าธุรกิจที่ว่าจะใหญ่โตระดับมหาเศรษฐีขนาดนี้

“พอเถอะแซค แค่งานของอิวานอฟผมก็แทบจะแย่แล้ว ในส่วนของแม็คเคย์ก็ให้คนทางนั้นดูแลไปนะดีแล้ว”

“แต่ว่าคุณมีสิทธิ์รับตำแหน่ง...” คูเปอร์รีบยกมือห้ามไม่ให้อีกฝ่ายพูดต่อ ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วแซคเป็นคนหรือหุ่นยนต์ที่ถูกป้อนโปรแกรมมากันแน่ เจอหน้ากันทีไรพูดแต่เรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ได้

“ไม่ละ ผมพอใจ...พอใจกับหุ้นที่คุณปู่แบ่งให้ ซึ่งรายได้มันก็มหาศาลแล้ว จบนะครับ”

“ครับ” แซครับครับเสียงหนักแน่นตามเคย แม้ภายในใจจะเสียดายที่เมื่อหลายปีก่อนตนหาตัวคูเปอร์และคนเป็นแม่ช้าไป ทำให้ชายหนุ่มผู้มากด้วยความสามารถตกไปเป็นลูกเลี้ยงของนักธุรกิจค้าเหล็กจากรัสเซีย อย่างไลรีย์ อิวานอฟ และรับช่วงธุรกิจต่อ ส่วนตระกูลแมคเคย์ซึ่งเป็นตระกูลของบิดา ชายหนุ่มทำเพียงรับหุ้นที่คนเป็นปู่มอบให้เท่านั้น ไม่ขอยุงเกี่ยวกับการบริหาร แต่ถึงอย่างนั้นแซคที่ทำงานให้ตระกูลแมคเคย์ที่เมืองไทยก็ยินดีรับใช้คูเปอร์ที่ขึ้นชื่อว่าเจ้านายเสมอ ขอให้เรียกตอนไหนเขาก็ยินดีมาทั้งนั้น เพราะนั่นคือหน้าที่ของเขา

“คุณจำเจ้าของตลาดที่คุณเคยไปตามหาผมกับแม่ได้ไหม”

แซคนิ่งคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับ “ครับ”

“ผมอยากรู้เรื่องทั้งหมดของพวกเขาในตอนนี้ว่าเป็นยังไง คุณทำได้ใช่ไหม”

“ครับ คืนพรุ่งนี้ผมจะเอาข้อมูลทุกอย่างมาให้คุณที่นี่” แซคตอบรับอย่างมั่นใจ และนั่นสามารถเรียกรอยยิ้มจากคูเปอร์

“ดีมาก ผมมีเรื่องจะวานแค่นี้แหละ”

“งั้นผมขอตัวนะครับ” แซคโค้งคำนับแล้วเดินออกไปพร้อมกับปิดประตู

คูเปอร์ทิ้งตัวลงพิงพนักโซฟาแหงนหน้ามองเพดานแล้วถอนหายใจ แล้วหยิบมือถือราคาแพงขึ้นมามองอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจกดเบอร์โทร.ที่เขาจำมันขึ้นใจ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่เมื่อจะต้องกดโทร.ออกจริงๆ เขากลับกดมันทิ้งทุกครั้งไป

โทร.ไปเพื่ออะไรในเมื่อเธอแต่งงานมีสามีมีลูกไปแล้ว...คิดอย่างนั้นคูเปอร์จึงโยนโทรศัพท์ออกห่างจากตัวเอง แล้วลุกขึ้นเตรียมไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เสียงโทรศัพท์ที่ทิ้งเอาไว้ก็ดังขึ้น และคนที่โทร.มาหาก็ใช่ใครก็คือมารดาของเขานั่นเอง

“ครับแม่”

“เป็นไงลูกที่เมืองไทย”

“ก็ดีครับ อะไรๆ เปลี่ยนไปเยอะเลยครับ” ชายหนุ่มเน้นประโยคนี้เป็นพิเศษอย่างแฝงความนัย

“อย่างนั้นเหรอ ยังไงก็อย่าหักโหมทำงานจนเกินไปละ พักผ่อนบ้างนะลูก” นางจินตนาบอกอย่างเป็นห่วง

“ครับ แต่ช่วงนี้ผมคงจะยุ่งหน่อย เอาไว้ทุกอย่าลงตัวผมจะหาเวลาพักแล้วกันนะครับ”

“ดีจ้ะ แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่ล่ะ”

“ว่าจะอาบน้ำนอนนะครับ”

“ดีมาก กินข้าวอาบน้ำนอนอย่าเถลไถล”

คูเปอร์หัวเราะเมื่อได้ยินมารดาสั่งราวกับเขาเป็นเด็กสิบห้าสิบหก “คร๊าบบบ” ชายหนุ่มรับคำแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง “วันนี้ผมแวะไปตลาดมา”

“อย่าบอกนะว่าจะทำกับข้าวกินเอง” คนเป็นแม่ล้อ คูเปอร์หัวเราะในลำคอแล้วพูดต่อ “ผมไปหาป้าจาบ แต่ไม่เจอ เจอแต่หลานสะใภ้แก”

“แกสบายดีไหม ตั้งแม่มาอยู่ที่นี้ก็แทบจะไม่ได้ติดต่อแกเลย” พูดอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย

“สบายดีครับ แต่ก็มีอีกคนที่ดูเหมือนจะไม่สบายเท่าไหร่”

“ใคร” นางจินตนาถามอย่างอยากรู้

“เจ้าของตลาด”

“คุณนายรงรองน่ะเหรอ แกเป็นอะไร ป่วยหนักเหรอ”ถามด้วยน้ำเสียงตกใจ แม้จะเคยโดนอีกฝ่ายรังแก แต่มันก็อดเป็นห่วงไม่ได้

“โรคผีพนันเข้าสิงครับ”

“พูดเป็นเล่น” นางจินตนาอุทานอย่างไม่อยากจะเชื่อหู “แม่ไม่เคยเห็นแกเล่นการพนันเลยนะ”

“ก็ไม่รู้สิครับ แต่ตอนนี้แทบจะหมดตัวแล้วครับ เห็นว่าบ้านกับตลาดก็ติดจำนอง และดูท่าจะได้ขายในเร็วๆ นี้เพราะเจ้าหนี้ในบ่อนมาทวงเงินแล้ว รู้สึกจะเป็นหนี้ก้อนโตเสียด้วย”

“ตายแล้วเป็นไปได้ยังไง แล้ว...เสี่ยนิติล่ะเขาไม่ช่วยแม่ยายเขาเลยเหรอ” นางจินตนาถามเสียงแผ่วอย่างกลัวมันจะไปกระทบกระเทือนความรู้สึกของคนเป็นลูก

“เรื่องนั้นผมไม่รู้หรอกครับ”

น้ำเสียงที่ติดประชดนั้นทำให้นางจินตนาถอนหายใจ ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนลูกชายของนางก็ยังแค้นฝังใจกับการกระทำของคุณนายรงรอง

“แม่ว่าอย่าไปยุ่งกับเขาเลยนะ ทุกอย่างมันเกิดเพราะการกระทำของเขาเองทั้งนั้น ต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะลูกนะ” นางจินตนาบอกอย่างกังวลว่าลูกชายจะไปก่อเรื่องให้วุ่นวายไปใหญ่

“ครับ แค่นี้นะครับผมอยากอาบน้ำนอนแล้ว”

“ฝันดีจ้ะ”

คูเปอร์วางสายจากมารดาแล้วแสยะยิ้ม อย่าไปยุ่ง ต่างคนต่างอยู่อย่างนั้นเหรอไม่มีทาง...เวลาของเขามาถึงแล้ว คราวนี้คุณนายรงรองจะได้สัมผัสความรู้สึกที่เขาและแม่เคยได้รับบ้าง



มินรญาเดินถือยาแก้ฟกช้ำเข้าไปในห้องของมารดา แล้วต้องตกใจเมื่อเห็นคนเป็นแม่ริ้อเอกสารจากตู้เซฟออกมากองเต็มที่นอน

“คุณแม่ทำอะไรคะนั่น” มินรญาถามพลางรีบเดินเข้าไปหยิบและเก็บเอกสารสำคัญพวกนั้นใส่กลับเข้าไปในแฟ้มตามเดิม

“แม่จะดูว่ามีอะไรที่พอขายได้บ้างนะสิ” นางตอบโดยที่มือก็ยังรื้อค้นดูของในตู้เซฟ

“ยังมีอีกเหรอคะ มิ้นนึกว่าคุณแม่ขายไปหมดแล้วเสียอีก”

“ก็มันไม่มีนี่ไง แม่ถึงต้องรื้อดูเผื่อมีตกหล่น”

“แล้วเจอไหมคะ” คนเป็นลูกสาวถามเสียงประชด

“เจอสิ เจอแต่แผ่นกระดาษเฮงซวยพวกนี้” นางโยนกระดาษสัญญาการจำนองบ้านกับธนาคารลงบนที่นอนอย่างหัวเสีย

“นี่ค่ะ” มินรญายื่นยาทาแก้ฟกช้ำให้มารดา นางปรายตามองแล้วรับมันมาเปิดทา

“พวกบ้านี้แม้กระทั่งคนแก่มันก็ไม่เว้น นรกกินกบาล อู้ย...ซี้ด...” นางครางเมื่อเผลอลงน้ำหนักมือที่กำลังทาแผลแรงตามอารมณ์

“มิ้นว่าถ้าเราไม่รีบหาเงินไปใช้พวกมัน ครั้งต่อไปคงไม่แค่นี้แน่” เธอบอกอย่างเป็นกังวลและเป็นห่วงในความปลอดภัยของมารดา

“เอาที่ไหนล่ะ แม่ว่าบางทีเราต้องยอมเสียตลาด”

“ไม่ได้นะคะแม่ ถ้าขายตลาดรายได้หลักของเราจะไม่มีเลยนะคะ ตึกแถวแม่ก็เอาไปขายหมดแล้ว”

“แล้วแกจะให้แม่ทำยังไง ขายบ้านแทนตลาดงั้นเหรอ แกกับฉันจะมีที่ซุกหัวนอนหรือไง” ว่าพลางมองค้อนบุตรสาวที่ไม่ค่อยจะได้ดั่งใจ จะพูดจะทำอะไรเป็นขัดไปซะทุกเรื่อง

“มิ้นจะลองหาวิธีดู”

“อย่ามาทำเป็นพูดดี วิธีของแกไม่เห็นจะได้เรื่อง ถ้าแกเชื่อแม่เลือกผู้ชายรวยๆ สักคนมาเป็นผัวที่ป่านนี้สบายไปแล้ว ไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้ด้วย เผลอๆ เอาบ้านกับตลาดออกจากธนาคารมาแล้ว ใช่สิแกคงอยากให้แม่โดนฆ่าตายใช่ไหมจะได้ไม่ต้องมีใครมาเป็นภาระ” นางรงรองตัดพ้อ

“โธ่แม่...มิ้นจะคิดอย่างนั้นได้ยังไง ถ้าคิดว่าแม่เป็นภาระ มิ้นเอาแม่ไปไว้ที่บ้านพักคนชราแล้ว” มินรญารีบเข้าไปกอดอย่างเอาใจ

“ถ้าอย่างนั้นแกก็ยอมให้แม่หาผัวใหม่ให้สักทีสิ จะอยู่เป็นแม่ม้ายกระดังงาลนไฟไปถึงเมื่อไหร่”

“เอาเป็นว่าเรื่องนั้นเอาไว้ค่อยว่ากันแล้วกันนะคะ” มินรญาแบ่งรับแบ่งสู้ แต่แค่นั้นก็สร้างความหวังให้กับนางรงรองไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้มินรญาแทบจะไม่ตอบรับเรื่องนี้เลย

“จริงนะ”

“ค่ะ” เธอรับคำพร้อมกับเก็บเอกสารทุกอย่างกลับเข้าที่เดิม “ถ้าไม่มีอะไรแล้วมิ้นขอตัวไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า”

“จ้ะ ฝันดีนะ”

“ฝันดีค่ะ” มินรญากอดและหอมแก้มคนเป็นแม่แล้วผละจะเดินออกจากห้อง ทว่านางรงรองกลับวิ่งมาดักหน้าเอาไว้ “เดี๋ยวสิยัยมิ้น”

“คะ”

“เครื่องเพชรที่พ่อแกซื้อให้ยังอยู่ใช่ไหม” นางหมายถึงเครื่องเพชรที่สามีของนางซื้อให้ลูกสาวในวันเกิดครบรอบสิบห้าปี

“ค่ะ”

“แม่ขอได้ไหม” นางรงรองเงียบเพื่อดูท่าทีของบุตรสาว และเมื่อเห็นท่าทีลังเลนางจึงรีบพูดต่อ “คือแม่ว่าจะเอาไปขายแล้วเอาเงินไปใช้หนี้เขาบางส่วนก่อนนะ คราวนี้แม่เข็ดจริงๆ”

“ได้ค่ะ พรุ่งนี้ก่อนไปทำงาน มิ้นจะเอามาให้นะคะ”

“ลูกรัก...แม่ขอโทษนะ แม่สัญญาว่าจะพยายามเลิกมันให้ได้”

“ค่ะ มิ้นเชื่อว่าแม่ทำได้” ว่าแล้วมินรญาก็เดินออกจากห้องด้วยความหวังว่ามารดาจะกลัวและเลิกมันได้จริงๆ เพราะอะไรก็ไม่สำคัญขอแค่ได้แม่คนเดิมกลับมาเธอก็พอใจแล้ว

แต่นางรงรองกลับคิดต่างออกไป นางนั่งอมยิ้มเมื่อคำนวณมูลค่าเครื่องเพชรของลูกสาว ถ้านางขายแล้วเอาเงินไปใช้หนี้เลย หนี้ก็ลดลงนิดหน่อยเท่านั้น สู้เอาไปต่อทุนหากมือขึ้นก็จะสามารถนำเงินมาใช้หนี้ได้ทั้งหมด ใช่ๆ ยังไงวิธีหลังก็ดีกว่า เพราะการลงทุนคือการเสี่ยง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ ^_^



เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.ย. 2559, 16:16:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.ย. 2559, 16:16:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 980





<< ตอนที่ 5 >>> 100%   ตอนที่ 6 >>> 100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account