In a day รอรักหลังวิวาห์

Tags: อาลี โมนา

ตอน: Chapter 13: Ignore (มองข้าม)

Chapter 13: Ignore (มองข้าม)





Ali part:


“แกรักน้องฉันรึเปล่า”
“แล้วแกคิดว่าไงล่ะ”
“ไอ้ลี”
“หึ ไม่รู้สิ”
“ไอ้ลี เพื่ออะไรว่ะ”
“อะไร”
“ที่แกทำทั้งหมดนี่ไง เพื่ออะไร ถ้าแกไม่ได้สนใจโมนาตั้งแต่แรกแล้วแกจะแต่งงานกับน้องฉันทำไม”
“ฟังฉันก่อนสิ”
“ฟังเรื่องเห็นแก่ตัวของแกนะหรอ”
“ใช่ ฉันยอมรับว่าฉันมันเห็นแก่ตัว แต่แกก็รู้ไม่ใช่หรือไงว่าฉันไม่ได้เห็นด้วยกับการแต่งงานนี้ตั้งแต่แรก”

เคร่งงง!!

“.......................”
“ไอ้ลี นี่แก...”
“ฟังให้จบ แต่นั่นมันก่อนที่ฉันจะเจอน้องแก และแม้ว่าตอนนี้ฉันยังไม่รู้ว่ารักหรือเปล่า แต่ก็ใช่ว่าต่อไปฉันจะไม่รู้ แกเองก็เคยผ่านความรู้สึกแบบนี้ไม่ใช่หรือไง ให้เวลาฉันหน่อย”
“ใช่เพราะฉันเคยผ่านความรู้สึกนั้นมา ความรู้สึกที่ไม่หนักแน่นพอ จนต้องเสียว่าที่เจ้าสาวให้คนอื่นอย่างทุกวันนี้ไง ฉันไม่อยากให้น้องฉันต้องเสียใจ โมนาคือแก้วใบงามเพียงใบเดียวในบ้าน ภายนอกอาจดูสดใสและแข่งแกร่ง แต่ถ้ากระทบกระเทือนมากๆมันก็ร้าวและแตกได้เหมือนแก้วทั่วไปเช่นกัน”
“ฉันรู้ว่าแกหมายถึงอะไร ฉันขอเวลาไม่นาน”
“แล้วกับคนเก่าของแกล่ะ”
“ฉันยืนยันเลยว่าตอนนี้ อัสเป็นแค่เพื่อนร่วมงานเท่านั้น”
“แกคิดแค่นั้นจริงแค่ไหน”
“ก็มากพอที่จะไม่ทำให้เมียฉันเสียใจ”
“เหอะ ให้มันจริงอย่างที่พูด”
“หึ”
ผมกับมุนชิตที่กำลังจะขึ้นห้องรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่เจกันดอกไม้ประดับล้มอยู่บนพื้น แต่เป็นเพราะดึกมากแล้วผมเลยไม่เอะใจอะไรมาก




09.00 AM.


ผมพาเธอมาบ้านของผม ความจริงแล้วบ้านของผมและเธอไม่ได้ไกลกันมาก แต่เพราะรถติดทำให้ใช้เวลาค่อนข้างมาก บ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่หรอก จะมีก็แต่แม่บ้านที่ผมจ้างให้เข้ามาทำความสะอาดทุกอาทิตย์ เพราะครอบครัวผมย้ายไปอยู่มาเลย์กันหมด บ้านหลังนี้จึงกลายเป็นบ้านพักเวลาที่ผมมาไทยมากกว่า
“เราจะพักกันที่นี่สักสามวันก่อนบินกลับ”
“แต่น้องอยากอยู่บ้านมากกว่า”
“ที่นี่ก็บ้าน บ้านของพี่ก็เหมือนบ้านของน้อง”
“แต่น้องอยากอยู่กับครอบครัวมากกว่า”
“นี่ก็ครอบครัว ครอบครัวของเรา”
“..................................”
“เดี่ยวก่อนบินกลับเราแวะไปเจอคุณพ่อคุณแม่ก็ได้”
“คะ น้องเอาของไปเก็บก่อน”
พรึ่บบบ
“เดี่ยวพี่พาไป”
“คะ เอ่อ ปล่อยมือได้แล้ว น้องเดินเองได้”
“ไม่ได้เดี่ยวหลง”
“นี่มันในบ้าน”
“แล้วไง”
“............................”
เธอเงียบและยอมให้ผมจูงมือเธอขึ้นบนห้องโดยดี การได้แกล้งเธอเป็นอะไรที่มีความสุข ผมเองก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไม ผมรู้แค่ว่าทุกครั้งที่เธอเถียงผมหรือพยายามเอาชนะผมแล้วมันรู้สึกสนุกและสุขใจอย่างบอกไม่ถูก



“ปล่อยได้แล้ว”
“ไม่ปล่อย จับไว้แบบนี้ดีแล้ว”
“เพื่ออะไร”
“หื้ม”
“ปล่อยเถอะคะ”
วันนี้เธอดูแปลกๆตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่ค่อยพูดแล้วไหนยังจะหลบตาผมอีก
“ไม่สบายหรอ”
“เปล่า”
“แล้ว”
“..........................”
เธอมองตาผมก่อนจะหันไปทางอื่น ผมรู้สึกไม่สบายใจ ผมว่าเธอต้องมีอะไรเก็บไว้แน่ๆ

ติ๊ดๆติ๊ดๆ

...อัสมา...
ผมมองหน้าเธอสักครู่ก่อนจะปล่อยมือจากเธอเพื่อออกมารับโทรศัพท์ที่ระเบียงห้อง
“ว่าไงอัส”
“ลีคะ ช่วยอัสด้วย...”
“อัสเป็นอะไร”
“ไม่ไหวแล้ว...”
“อัส ฮัลโหล่อัส ตอบสิ อัส”
ผมรู้สึกตกใจและเป็นกังวลมาก ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร แต่ที่แน่ๆผมต้องไปหาเธอเดี่ยวนี้ ตอนนี้ อย่างเร็วที่สุด
“ไปกับพี่”
“ไปไหน”
“มาเถอะน่า อัสโทรมา ไม่รู้เป็นอะไร”
“แล้วจะให้น้องไปด้วยทำไม”
“ผมจะไปหาอัสที่โรงแรม”
“ก็ไปสิ น้องอยู่คนเดียวได้”
“โมนา”



ตอนนี้ผมกับเธออยู่โรงแรมที่อัสมาพักอยู่ ระหว่างทางมาที่นี่ผมไม่รู้ว่าตัวเองเหยียบคันเร่งมากแค่ไหน รู้แค่ว่าตลอดทางผมได้ยินเสียงเธอร้องเตือนว่ากลัว จนผมรู้สึกสงสารเลยลดความเร็วลงนิดหน่อย
“รอน้องด้วยสิ”
“ก็รีบๆหน่อยสิ พี่รีบ”
“..........................”
ผมที่เดินนำเธอมาก่อนแล้ว หยุดหันไปมองเธอที่อยู่ข้างหลัง เพราะเสียงที่เงียบลง
“หยุดทำไม ตามมาเร็วๆเข้า”
“พี่ไปเถอะ น้องคงเดินเคียงข้างไปกับพี่ไม่ได้ อย่างมากน้องก็ได้แค่ตามอยู่ข้างหลัง”
“โมนา”
“ไปเถอะคะ เดี่ยวคุณอัสมาเป็นอะไรร้ายแรงขึ้นมาจะแย่ไปกันใหญ่”
“จริงสิ งั้นรีบๆตามมาละกัน พี่ไปก่อน”
“..................................”
ผมไม่ได้อยากจะปล่อยให้เธอเดินตามมาคนเดียว แต่ผมก็ปล่อยให้อัสมาเป็นอะไรไปไม่ได้เช่นกัน เพราะถ้าอัสมาเป็นอะไรร้ายแรงขึ้นมาจริงๆผมคงรู้สึกผิดต่ออัสมาและครอบครัวมาก ที่ปล่อยให้เรื่องเลวร้ายแบบนั้นเกิดขึ้น และอีกอย่างโรงแรมแห่งนี้ก็ปลอดภัยพอที่จะไม่ทำให้ผมต้องเป็นกังวลที่ปล่อยให้เธอเดินตามผมมาทีหลัง หวังว่าเธอจะเข้าใจ




Mona part::


ฉันมองแผ่นหลังที่รีบวิ่งหายเข้าไปในลิฟต์อย่างรีบร้อน เหอะ ชัดเจนพอแล้วใช่ไหมโมนา คำพูดที่ได้ยินมาเมื่อคืนกับสิ่งที่เขาแสดงออกมาวันนี้ มันชัดเจนมากพอที่จะทำให้เชื่อแล้วใช่ไหมโมนา ยอมรับความจริงเถอะ เขาไม่ได้สนใจแกเลย ไม่ใส่ใจเลยสักนิด ฉันกะพริบตาถี่ๆ เพื่อขับไล่น้ำใสๆที่คลออยู่รอบดวงตา ฉันพยายามไม่ให้มันไหลออกมา แต่สุดท้ายแล้วมันก็ค่อยๆไหลออกมาจนได้
“โอ้ อัลลอฮได้โปรด บ่าวผู้นี้ไม่รู้จะต้องทำเช่นไรแล้ว เหนื่อยเหลือเกินกับการรอความรักจากคนที่ไม่แม้แต่จะเห็นเราอยู่ในสายตา ได้โปรดดลบันดาลใจเขา หากเขาคือคู่ครองที่แท้จริง ได้โปรดชี้นำทางที่เที่ยงตรงแกบ่าวผู้อ่อนแอนี้ด้วยเถิด ฮึก อื้อ” เข้มแข็งไว้โมนา อดทนไว้ ใจเย็นๆ อย่าคิดไปเองๆ คงเป็นคำปลอบที่ฟังดูเข้าข้างตัวเองสุดๆเลยว่าไหม

พรึ่บบ

“ซุบฮานัลลอฮ!!*”
“ริทเองๆ ขอโทษๆ ตกใจมากหรือเปล่า”
“ริท เล่นอะไรเนี้ย”
ฉันรีบเช็ดน้ำตาลวกๆเพราะไม่อยากให้ใครเห็น รวมทั้งฟาริทด้วย
“เป็นอะไร นี่ร้องไห้หรอ”
“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร”
“โกหก ไม่เป็นอะไรแล้วร้องทำไม”
“ไม่ได้ร้อง”
“โมนา”
“.......................”
“เพราะเขาใช่ไหม”
“ใคร”
“อย่าปิดบังริทเลย ริทดูออก ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันแล้ว ที่พี่เขาทิ้งโมนาที่ห้า”
“พอเถอะริท ขอร้อง”
ฉันหลบหน้าฟาริท เพราะเขากำลังจะทำให้ฉันรู้สึกอ่อนแออีกครั้ง
“โอเค เราเลิกพูดก็ได้ แล้วนี่พี่เขาล่ะ”
“จริงสิ เรารีบไปดูคุณอัสมากันเถอะ เมื่อกี้เขาโทรมาร้องขอคะ”
“ปลอดภัยแล้ว”
“ห่ะ”
“ริทพาพี่เขาไปโรงพยาบาลแล้ว นี่ก็กลับมาเอาของและกำลังคิดจะโทรบอกโมนากับพี่อาลีอยู่พอดี”
“อ้าว แล้วทำไมไม่บอกเมื่อกี้ พี่อาลีขึ้นไปหาคุณอัสข้างบน”
“ก็เห็นโมนามานิ นึกว่าจะมาหาริทสะอีกแอบดีใจนะเนี้ย เลยลืมบอกเรื่องพี่เขาเลย”
“แล้วคุณอัสมาเป็นอะไรมากไหม”
“ก็”
“โมนา อ้าวนายก็อยู่หรอ พี่กดเรียกอัสหลายครั้งแล้วแต่เธอไม่ยอมเปิดประตู”
“จะเปิดได้ไง ก็พี่อัสมาไม่อยู่ในห้อง”
“นายรู้ได้ไง แล้วตอนนี้อัสอยู่ไหน แล้วอัสเป็นอะไร”
“ใจเย็นครับพี่ คุณเขาไม่ไดเป็นอะไรมาก ปลอดภัยแล้ว แค่อาหารเป็นพิษ ตอนนี้นอนเติมน้ำเกลืออยู่โรงพยาบาล”
“ฮู้ว ไงก็ขอบใจ”
“เหอะ เปลี่ยนจากพูดขอบใจเป็นอย่างอื่นดีไหมครับ”
“อะไร”
“ผมอยากขออนุญาตพี่ให้โมนาช่วยเป็นไกด์พาผมเที่ยวสักหนึ่งวันก่อนกลับได้ไหมครับ”



ซุบฮานัลลอฮ!!* = อัลลอฮผู้ทรงยิ่งใหญ่ (ในบริบทนี้ใช้เป็นคำอุทาน)




TheW
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ต.ค. 2559, 23:23:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ต.ค. 2559, 23:23:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 1180





<< Chapter 12: Be unstable (สั่นคลอน)   Chapter: 14 Reconcile (ปรับความเข้าใจ) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account