เจ้าหัวใจแดนเถื่อน
เพราะเงื่อนไขของบุพการี ‘ทรรศิกา’ จำต้องไปใช้ชีวิตที่บ้านนอกคอกนา เป็นเวลาหนึ่งเดือน และที่นั่นเองเธอก็ได้พบกับ ‘เขา’ หนุ่มหล่อคมเข้ม ที่มีทั้งความเถื่อนและอ่อนโยนจนเริ่มทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหว
เพราะคิดว่าเป็นคุณหนูจากเมืองกรุงประเภทเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำให้ ‘อคิราภ์’ รู้สึกไม่ชอบ ‘ทรรศิกา’ ตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า
แต่ตัวจริงที่สวยราวกับนางฟ้าเดินดิน ทำเอาหัวใจเขาถึงกับหวั่นไหว นานวันยิ่งใกล้ชิดเขาก็ไม่อยากให้เธอจากไป อยากให้มาเป็น เจ้าหัวใจในแดนเถื่อน แห่งนี้ แต่ทว่าเขาจะทำอย่างไร เมื่อสาวเจ้ากลับมีเจ้าของจับจองหัวใจอยู่แล้ว
“วันหลังเวลาขอของจากผู้ใหญ่หัดพูดให้มันเพราะๆ หน่อยสิ...เอ้า เอาไปไม่เห็นน่าพิศวาสตรงไหนไซส์อนุบาลซะขนาดนั้น”
หลังจากแกล้งจนพอใจ มือหนาจึงวางเสื้อชั้นในตัวน้อยพาดลงบนบ่าของหญิงสาว ที่ยืนหน้าตูมหายใจฟืดฟาด ก่อนจะพาร่างสูงของตัวเองเดินหายเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่สนใจคนที่ยืนตัวสั่น เพราะโกรธและอายที่โดนดูถูก
“อะ...ไอ้บ้า! ไซส์อนุบาลบ้านคุณนะสิคัพบี จำไว้เลยนะ...โธ่เอ๊ย! ตัวเองเหมือนกับหนอนใบชาล่ะสิถึงได้มาว่าคนอื่นทุเรศ”
มือหนาที่กำลังจะดึงผ้าเช็ดตัวออกจากเอว เปลี่ยนมายืนถอนหายใจหนักๆ เอากับเขาสิยัยคุณหนูผู้ไม่รู้จักแพ้ เดี๋ยวได้รู้สึก ชายหนุ่มคิดอย่าหมั่นเขี้ยว
“ดูถูกใช่ไหม หนอนใบชาใช่ไหม...ได้...อย่างนี้มันต้องพิสูจน์ให้เห็นกับตา”
เพราะคิดว่าเป็นคุณหนูจากเมืองกรุงประเภทเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำให้ ‘อคิราภ์’ รู้สึกไม่ชอบ ‘ทรรศิกา’ ตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า
แต่ตัวจริงที่สวยราวกับนางฟ้าเดินดิน ทำเอาหัวใจเขาถึงกับหวั่นไหว นานวันยิ่งใกล้ชิดเขาก็ไม่อยากให้เธอจากไป อยากให้มาเป็น เจ้าหัวใจในแดนเถื่อน แห่งนี้ แต่ทว่าเขาจะทำอย่างไร เมื่อสาวเจ้ากลับมีเจ้าของจับจองหัวใจอยู่แล้ว
“วันหลังเวลาขอของจากผู้ใหญ่หัดพูดให้มันเพราะๆ หน่อยสิ...เอ้า เอาไปไม่เห็นน่าพิศวาสตรงไหนไซส์อนุบาลซะขนาดนั้น”
หลังจากแกล้งจนพอใจ มือหนาจึงวางเสื้อชั้นในตัวน้อยพาดลงบนบ่าของหญิงสาว ที่ยืนหน้าตูมหายใจฟืดฟาด ก่อนจะพาร่างสูงของตัวเองเดินหายเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่สนใจคนที่ยืนตัวสั่น เพราะโกรธและอายที่โดนดูถูก
“อะ...ไอ้บ้า! ไซส์อนุบาลบ้านคุณนะสิคัพบี จำไว้เลยนะ...โธ่เอ๊ย! ตัวเองเหมือนกับหนอนใบชาล่ะสิถึงได้มาว่าคนอื่นทุเรศ”
มือหนาที่กำลังจะดึงผ้าเช็ดตัวออกจากเอว เปลี่ยนมายืนถอนหายใจหนักๆ เอากับเขาสิยัยคุณหนูผู้ไม่รู้จักแพ้ เดี๋ยวได้รู้สึก ชายหนุ่มคิดอย่าหมั่นเขี้ยว
“ดูถูกใช่ไหม หนอนใบชาใช่ไหม...ได้...อย่างนี้มันต้องพิสูจน์ให้เห็นกับตา”
Tags: นิยายรัก,โรแมนติก,เกศมณี,รดามณี,ไหมขวัญ,ทำมือ,บ้านนอก
ตอน: ตอนที่ 5 >>> 100%
ตอนที่ 5 (ต่อ)
“น่ารักแล้วก็ขยันด้วยน่าชื่นชมจริง” หญิงสาวพูดพลางกอดอกเอียงคอมองตามหลังเด็กชายไปอย่างเอ็นดู แต่เพียงไม่นานความสนใจของเธอก็มุ่งมาที่ฝูงควายฝูงใหม่ที่กําลังเดินมุ่งหน้ามาอย่างตื่นตาตื่นใจ เสียดายที่ไม่ได้พกกล้องมาด้วยไม่อย่างนั้นจะได้ถ่ายรูปไปอวดยัยแพมกับยัยดาว
“อ้าวๆ ควายนะคุณไม่ใช่ไดโนเสาร์ไม่ต้องตื่นเต้นมากก็ได้เก็บอาการหน่อย” เสียงทุ้มคุ้นหูที่ไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าเป็นใคร ทำเอาทรรศิกาออกอาการเซ็งจิตถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะหันมายืนเท้าเอวมองหน้าคนที่เพิ่งมาถึงอย่างเอาเรื่อง
“ทำไมก็ฉันไม่เคยเห็นนี่ ถ้ามันเลี้ยงไว้ดูเล่นได้เหมือนหมาเหมือนแมวฉันคงไม่ต้องถ่อมาดูถึงที่นี่หรอก” พูดจบหญิงสาวก็สะบัดหน้าเดินหนีมาทิ้งตัวนั่งลงบนเปลญวน ที่ผูกไว้ใต้ต้นมะม่วง
“แล้วคุณอยากเห็นอนาคอนด้าไหม” ชายหนุ่มเดินไพล่หลังมาถามหญิงสาวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“บ้า ที่นี่ไม่ใช่ป่าอเมซอนนะจะได้มีอนาคอนด้า” ทรรศิกาพูดพลางเอนตัวลงนอน ไม่คิดจะสนใจคำพูดหลอกเด็กของชายหนุ่ม
“ไม่เชื่อใช่ไหม เดี๋ยวผมจะเอาให้ดู...นี่ไง”
“กรี๊ดดด! ตุ๊บ!” ทรรศิกาถึงกับดิ้นพล่านกรีดร้องออกอย่างตกใจ หลับหูหลับตาปัดซากงูให้ออกห่างเป็นพัลวัน ด้วยความที่ไม่ระวังและตกใจทำให้ร่างสมส่วนหล่นจากเปลลงมากระแทกพื้นอย่างแรง ความจุกความเจ็บบวกกับความกลัวทำให้ดวงตาคู่สวยเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาจนเต็มเบ้า เพียงแค่หญิงสาวกะพริบตาหยาดน้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“เฮ้ย! อย่าร้องไห้สิคุณ ผมแค่ล้อเล่นเองอีกอย่างงูมันก็ตายแล้วด้วย...ไหนดูซิตกลงมาเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” อคิราภ์โยนซากงูไว้ที่พื้น ก่อนจะรีบเข้าไปสำรวจและประครองหญิงสาวที่ยังนั่งหน้าเหยเก เพราะความเจ็บและกลัวอยู่บนพื้นให้ลุกขึ้น หยาดน้ำตายังคงไหลเต็มวงหน้าสวย เห็นแล้วความรู้สึกอยากแกล้งและสนุกในตอนแรก ก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกผิดและสงสารหญิงสาวจนจับใจ
“ถามออกมาได้ว่าเจ็บหรือเปล่า ตกใส่พื้นดินแข็งๆ นะไม่ใช่ตกใส่ฟูกนุ่มๆ จะได้ ไม่เจ็บ...ไปไกลๆ เลยนะเล่นอะไรก็ไม่รู้ถ้าเกิดฉันกลัวจนหัวใจวายตายคุณจะว่าไง” หญิงสาวพูดปนสะอื้น ยกหลังมือปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างลำบาก รู้สึกเคล็ดขัดยอกไปทังก้นกบ ด้วยความถือดีและเจ็บใจที่เขาบังอาจมาแกล้งเธอจึงปัดมืออคิราภ์ออกทุกครั้งที่ชายหนุ่มพยายามจะเข้ามาช่วยประคอง จะเพราะเขารู้สึกผิดหรืออะไรก็ตามเธอจะไม่ขอความช่วยเหลือจากคนคนนี้เด็ดขาด
เมื่อหญิงสาวปฏิเสธความช่วยเหลือที่จริงใจจากเขาอคิราภ์จึงยอมปล่อยให้คนถือดีลุกขึ้นเอง แม้จะทุลกทุเลอยู่บ้างแต่ก็ถือว่าเธอทำสำเร็จ ส่วนตัวเขาก็เดินไปค้นถุงที่ห้อยอยู่บนเสากระท่อมหาอะไรบางอย่างเมื่อเจอสิ่งที่ต้องการเขาจึงนำมันมายื่นให้กับทรรศิกาที่ตอนนี้นั่งอยู่บนแคร่เรียบร้อยแล้ว
“เอานี่ยาหม่อง ทาซะจะได้หายเจ็บ”
“นี่คุณว่าฉันเจ็บตรงไหนถึงจะให้ฉันทายาตอนนี้ห๊า!” หญิงสาวตวาดเขาเสียงเขียว
“อ้าว...ก็ต้องเจ็บที่ขาสิเห็นเดินกระเผลกๆ ซะขนาดนั้น” ชายหนุ่มแกล้งตอบยียวนรู้ทั้งรู้ว่าหญิงสาวนั้นควรจะเจ็บตรงไหน
“บ้า! ก้นฉันกระแทกพื้นนะไม่ใช่ขา”
“เจ็บก้นก็แก้ผ้าทาที่ก้นสิจะไปยากอะไรหรือว่าเจ็บมือด้วย มาๆ เดี๋ยวผมแก้ผ้าทายาให้” อคิราภ์แกล้งเข้าไปนั่งจนชิด หลุบตามองไปที่กางเกงสีสวยของเธอด้วยสายตาแวววาวปนขำ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาสบนัยน์ตาสวยกำลังเบิกกว้างของเธอ
“อ๊าย...ไอ้คนบ้า! ไอ้คนลามก! ไปไกลๆ เลยนะ ไป๊!” มือบางทั้งผลักทั้งทุบคนทะลึ่ง ที่นั่งหัวเราะร่วนราวกับคำด่าของเธอเป็นเรื่องตลก
“คุณนี่หลอกง่ายน่าแกล้งจริงๆ เลย...เอานี่เก็บไว้ พอกลับไปถึงบ้านก็อาบน้ำแล้วทาซะ” อคิราภ์ยัดตลับยาหม่องใส่มือบาง ก่อนจะเดินไปหยิบซากงูที่ตัวเองทิ้งไว้ในตอนแรกขึ้นมาใส่ถุงเอาไว้อย่างดี
“นี่คุณจะเก็บมันไว้ทำไม ทำไมไม่เอาไปทิ้ง อย่าบอกนะว่าคุณจะเก็บเอาแกล้งฉันอีก ฉันไม่กลัวหรอกนะจะบอกให้”
“ใครบอก ของกินนะไม่ใช่ของเล่น นี่นะเมนูอาหารเย็นนี้เลยนะ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับชูถุงขึ้นแกว่งโชว์ไปมา
“อะ...อาหารเย็น!” เธอถามอย่างตกใจอาหารเย็นตรงหน้าทำเอาคอของเธอเริ่มแข็งรู้สึกกระอักกระอ่วนในช่องท้อง เธอไม่อยากจะนึกเลยเมื่อเจ้าตัวยาวๆกลายสภาพมาเป็นอาหารอยู่บนจานมันจะน่าขยะแขยงขนาดไหน
“ใช่ เมนูผัดเผ็ดงู เอ...หรือว่าจะเอาเป็นเมนูย่างดีนะ”
“แหวะ...ฉันยอมอดข้าวดีกว่าต้องกินกับข้าวเมนูพิสดารอย่างนี้”
“น่า...อร่อยนะลองแล้วจะติดใจ” ชายหนุ่มพยักหน้าเชิงชักชวน ส่วนทรรศิกาก็ ส่ายหน้าหวืออย่างเดียว หัวเด็ดตีนขาดยังไงเธอก็ไม่มีวันลอง
“ดิน…ดิน...” เสียงตะโกนเรียกจากนายทัดเทพที่ยืนอยู่ห่างออกไปทำให้อคิราภ์
ที่กำลังเซ้าซี้ทรรศิการีบหันไปขานรับ
“ครับพ่อ”
“กลับไปอย่าลืมไปเอารายการซื้อของพรุ่งนี้กับแม่แกละ” พูดจบร่างสูงของนายทัดเทพก็เดินกลับไปที่รถไถนา ที่วันนี้ตนอาสาจะขับกลับให้เอง เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าลูก ชายสุดที่รักได้มีโอกาสอยู่กับทรรศิกาตามลำพัง
“ครับ”
“นี่ๆ คุณ” มือบางกระตุกแขนเสื้อชายหนุ่มแรงๆ เมื่อได้ ยินสถานที่ที่สองพ่อลูก
คุยกัน และเธอคิดว่ามันน่าไปอีกแล้ว
“อะไร เปลี่ยนใจอยากลองกินผัดเผ็ดงูหรือไง”
“บ้า! ใช่ที่ไหนเล่า พรุ่งนี้จะไปตลาดใช่ม้า...” หญิงสาวพูดพลางเปลี่ยนใบหน้าบึ้งตึงเป็นยิ้มหวานประจบ
“แล้วไง” ชายหนุ่มหรี่ตามองรอยยิ้มหวานนั้นอย่างระแวง
“ฉันขอไปด้วยนะ นะๆ” มือบางเขย่าแขนแข็งแรงเบาๆ เงยหน้ามองใบหน้าคมอย่างออดอ้อน เห็นอย่างนั้นชายหนุ่มก็อดที่จะใจเต้นแรงไม่ได้ จึงแสร้งตีหน้าขรึมข่ม
“ไปทําไมไม่เคยเห็นตลาดหรือไง”
“ก็ฉันอยากไปนี่ นะๆ พี่ดินสุดหล้อสุดหล่อ” หญิงสาวลงทุนอ้อนสุดฤทธิ์ สรรพนามที่ใช้เรียกชายหนุ่มก็เปลี่ยนไปหวังให้เขาใจอ่อนพาเธอไปตลาดด้วย
“พอๆ ไม่ต้องมาแกล้งยอไปก็ไป แต่ต้องตื่นแต่เช้านะ”
“ขอบคุณค่ะ ว่าแต่เช้านี่กี่โมงล่ะ”
“ตีสาม” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ พลางเลิกคิ้วมองสีหน้าตกใจของอีกฝ่าย
“ตีสาม!” ทรรศิกาอุทานออกมาอย่างลืมตัว ก่อนจะนั่งนิ่งกลอกตาไปมาอย่างใช้ ความคิด เช้าไปหรือเปล่าเนี่ย
“ใช่ เปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังทันนะ...บอกไว้ก่อนถ้าจะไปห้ามสาย ถ้าสายไม่มีการรอ โอเค๊”
“ตกลง ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” หญิงสาวพยักหน้าหงึกหงักตกลงไปก่อน แม้จะไม่แน่ใจนักว่าจะตื่นทันหรือเปล่า แต่คิดว่าคงจะไม่มีปัญหาเพราะทุกวันนี้เธอต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าอยู่แล้ว ถ้าจะต้องตื่นเร็วกว่าทุกวันสักสองสามชั่วโมงจะเป็นไรไป
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ดาวโหลด Ebook ได้ที่
- MEB
- hytexst
- ebook
ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ ^_^
“น่ารักแล้วก็ขยันด้วยน่าชื่นชมจริง” หญิงสาวพูดพลางกอดอกเอียงคอมองตามหลังเด็กชายไปอย่างเอ็นดู แต่เพียงไม่นานความสนใจของเธอก็มุ่งมาที่ฝูงควายฝูงใหม่ที่กําลังเดินมุ่งหน้ามาอย่างตื่นตาตื่นใจ เสียดายที่ไม่ได้พกกล้องมาด้วยไม่อย่างนั้นจะได้ถ่ายรูปไปอวดยัยแพมกับยัยดาว
“อ้าวๆ ควายนะคุณไม่ใช่ไดโนเสาร์ไม่ต้องตื่นเต้นมากก็ได้เก็บอาการหน่อย” เสียงทุ้มคุ้นหูที่ไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าเป็นใคร ทำเอาทรรศิกาออกอาการเซ็งจิตถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะหันมายืนเท้าเอวมองหน้าคนที่เพิ่งมาถึงอย่างเอาเรื่อง
“ทำไมก็ฉันไม่เคยเห็นนี่ ถ้ามันเลี้ยงไว้ดูเล่นได้เหมือนหมาเหมือนแมวฉันคงไม่ต้องถ่อมาดูถึงที่นี่หรอก” พูดจบหญิงสาวก็สะบัดหน้าเดินหนีมาทิ้งตัวนั่งลงบนเปลญวน ที่ผูกไว้ใต้ต้นมะม่วง
“แล้วคุณอยากเห็นอนาคอนด้าไหม” ชายหนุ่มเดินไพล่หลังมาถามหญิงสาวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“บ้า ที่นี่ไม่ใช่ป่าอเมซอนนะจะได้มีอนาคอนด้า” ทรรศิกาพูดพลางเอนตัวลงนอน ไม่คิดจะสนใจคำพูดหลอกเด็กของชายหนุ่ม
“ไม่เชื่อใช่ไหม เดี๋ยวผมจะเอาให้ดู...นี่ไง”
“กรี๊ดดด! ตุ๊บ!” ทรรศิกาถึงกับดิ้นพล่านกรีดร้องออกอย่างตกใจ หลับหูหลับตาปัดซากงูให้ออกห่างเป็นพัลวัน ด้วยความที่ไม่ระวังและตกใจทำให้ร่างสมส่วนหล่นจากเปลลงมากระแทกพื้นอย่างแรง ความจุกความเจ็บบวกกับความกลัวทำให้ดวงตาคู่สวยเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาจนเต็มเบ้า เพียงแค่หญิงสาวกะพริบตาหยาดน้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“เฮ้ย! อย่าร้องไห้สิคุณ ผมแค่ล้อเล่นเองอีกอย่างงูมันก็ตายแล้วด้วย...ไหนดูซิตกลงมาเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” อคิราภ์โยนซากงูไว้ที่พื้น ก่อนจะรีบเข้าไปสำรวจและประครองหญิงสาวที่ยังนั่งหน้าเหยเก เพราะความเจ็บและกลัวอยู่บนพื้นให้ลุกขึ้น หยาดน้ำตายังคงไหลเต็มวงหน้าสวย เห็นแล้วความรู้สึกอยากแกล้งและสนุกในตอนแรก ก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกผิดและสงสารหญิงสาวจนจับใจ
“ถามออกมาได้ว่าเจ็บหรือเปล่า ตกใส่พื้นดินแข็งๆ นะไม่ใช่ตกใส่ฟูกนุ่มๆ จะได้ ไม่เจ็บ...ไปไกลๆ เลยนะเล่นอะไรก็ไม่รู้ถ้าเกิดฉันกลัวจนหัวใจวายตายคุณจะว่าไง” หญิงสาวพูดปนสะอื้น ยกหลังมือปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างลำบาก รู้สึกเคล็ดขัดยอกไปทังก้นกบ ด้วยความถือดีและเจ็บใจที่เขาบังอาจมาแกล้งเธอจึงปัดมืออคิราภ์ออกทุกครั้งที่ชายหนุ่มพยายามจะเข้ามาช่วยประคอง จะเพราะเขารู้สึกผิดหรืออะไรก็ตามเธอจะไม่ขอความช่วยเหลือจากคนคนนี้เด็ดขาด
เมื่อหญิงสาวปฏิเสธความช่วยเหลือที่จริงใจจากเขาอคิราภ์จึงยอมปล่อยให้คนถือดีลุกขึ้นเอง แม้จะทุลกทุเลอยู่บ้างแต่ก็ถือว่าเธอทำสำเร็จ ส่วนตัวเขาก็เดินไปค้นถุงที่ห้อยอยู่บนเสากระท่อมหาอะไรบางอย่างเมื่อเจอสิ่งที่ต้องการเขาจึงนำมันมายื่นให้กับทรรศิกาที่ตอนนี้นั่งอยู่บนแคร่เรียบร้อยแล้ว
“เอานี่ยาหม่อง ทาซะจะได้หายเจ็บ”
“นี่คุณว่าฉันเจ็บตรงไหนถึงจะให้ฉันทายาตอนนี้ห๊า!” หญิงสาวตวาดเขาเสียงเขียว
“อ้าว...ก็ต้องเจ็บที่ขาสิเห็นเดินกระเผลกๆ ซะขนาดนั้น” ชายหนุ่มแกล้งตอบยียวนรู้ทั้งรู้ว่าหญิงสาวนั้นควรจะเจ็บตรงไหน
“บ้า! ก้นฉันกระแทกพื้นนะไม่ใช่ขา”
“เจ็บก้นก็แก้ผ้าทาที่ก้นสิจะไปยากอะไรหรือว่าเจ็บมือด้วย มาๆ เดี๋ยวผมแก้ผ้าทายาให้” อคิราภ์แกล้งเข้าไปนั่งจนชิด หลุบตามองไปที่กางเกงสีสวยของเธอด้วยสายตาแวววาวปนขำ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาสบนัยน์ตาสวยกำลังเบิกกว้างของเธอ
“อ๊าย...ไอ้คนบ้า! ไอ้คนลามก! ไปไกลๆ เลยนะ ไป๊!” มือบางทั้งผลักทั้งทุบคนทะลึ่ง ที่นั่งหัวเราะร่วนราวกับคำด่าของเธอเป็นเรื่องตลก
“คุณนี่หลอกง่ายน่าแกล้งจริงๆ เลย...เอานี่เก็บไว้ พอกลับไปถึงบ้านก็อาบน้ำแล้วทาซะ” อคิราภ์ยัดตลับยาหม่องใส่มือบาง ก่อนจะเดินไปหยิบซากงูที่ตัวเองทิ้งไว้ในตอนแรกขึ้นมาใส่ถุงเอาไว้อย่างดี
“นี่คุณจะเก็บมันไว้ทำไม ทำไมไม่เอาไปทิ้ง อย่าบอกนะว่าคุณจะเก็บเอาแกล้งฉันอีก ฉันไม่กลัวหรอกนะจะบอกให้”
“ใครบอก ของกินนะไม่ใช่ของเล่น นี่นะเมนูอาหารเย็นนี้เลยนะ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับชูถุงขึ้นแกว่งโชว์ไปมา
“อะ...อาหารเย็น!” เธอถามอย่างตกใจอาหารเย็นตรงหน้าทำเอาคอของเธอเริ่มแข็งรู้สึกกระอักกระอ่วนในช่องท้อง เธอไม่อยากจะนึกเลยเมื่อเจ้าตัวยาวๆกลายสภาพมาเป็นอาหารอยู่บนจานมันจะน่าขยะแขยงขนาดไหน
“ใช่ เมนูผัดเผ็ดงู เอ...หรือว่าจะเอาเป็นเมนูย่างดีนะ”
“แหวะ...ฉันยอมอดข้าวดีกว่าต้องกินกับข้าวเมนูพิสดารอย่างนี้”
“น่า...อร่อยนะลองแล้วจะติดใจ” ชายหนุ่มพยักหน้าเชิงชักชวน ส่วนทรรศิกาก็ ส่ายหน้าหวืออย่างเดียว หัวเด็ดตีนขาดยังไงเธอก็ไม่มีวันลอง
“ดิน…ดิน...” เสียงตะโกนเรียกจากนายทัดเทพที่ยืนอยู่ห่างออกไปทำให้อคิราภ์
ที่กำลังเซ้าซี้ทรรศิการีบหันไปขานรับ
“ครับพ่อ”
“กลับไปอย่าลืมไปเอารายการซื้อของพรุ่งนี้กับแม่แกละ” พูดจบร่างสูงของนายทัดเทพก็เดินกลับไปที่รถไถนา ที่วันนี้ตนอาสาจะขับกลับให้เอง เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าลูก ชายสุดที่รักได้มีโอกาสอยู่กับทรรศิกาตามลำพัง
“ครับ”
“นี่ๆ คุณ” มือบางกระตุกแขนเสื้อชายหนุ่มแรงๆ เมื่อได้ ยินสถานที่ที่สองพ่อลูก
คุยกัน และเธอคิดว่ามันน่าไปอีกแล้ว
“อะไร เปลี่ยนใจอยากลองกินผัดเผ็ดงูหรือไง”
“บ้า! ใช่ที่ไหนเล่า พรุ่งนี้จะไปตลาดใช่ม้า...” หญิงสาวพูดพลางเปลี่ยนใบหน้าบึ้งตึงเป็นยิ้มหวานประจบ
“แล้วไง” ชายหนุ่มหรี่ตามองรอยยิ้มหวานนั้นอย่างระแวง
“ฉันขอไปด้วยนะ นะๆ” มือบางเขย่าแขนแข็งแรงเบาๆ เงยหน้ามองใบหน้าคมอย่างออดอ้อน เห็นอย่างนั้นชายหนุ่มก็อดที่จะใจเต้นแรงไม่ได้ จึงแสร้งตีหน้าขรึมข่ม
“ไปทําไมไม่เคยเห็นตลาดหรือไง”
“ก็ฉันอยากไปนี่ นะๆ พี่ดินสุดหล้อสุดหล่อ” หญิงสาวลงทุนอ้อนสุดฤทธิ์ สรรพนามที่ใช้เรียกชายหนุ่มก็เปลี่ยนไปหวังให้เขาใจอ่อนพาเธอไปตลาดด้วย
“พอๆ ไม่ต้องมาแกล้งยอไปก็ไป แต่ต้องตื่นแต่เช้านะ”
“ขอบคุณค่ะ ว่าแต่เช้านี่กี่โมงล่ะ”
“ตีสาม” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ พลางเลิกคิ้วมองสีหน้าตกใจของอีกฝ่าย
“ตีสาม!” ทรรศิกาอุทานออกมาอย่างลืมตัว ก่อนจะนั่งนิ่งกลอกตาไปมาอย่างใช้ ความคิด เช้าไปหรือเปล่าเนี่ย
“ใช่ เปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังทันนะ...บอกไว้ก่อนถ้าจะไปห้ามสาย ถ้าสายไม่มีการรอ โอเค๊”
“ตกลง ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” หญิงสาวพยักหน้าหงึกหงักตกลงไปก่อน แม้จะไม่แน่ใจนักว่าจะตื่นทันหรือเปล่า แต่คิดว่าคงจะไม่มีปัญหาเพราะทุกวันนี้เธอต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าอยู่แล้ว ถ้าจะต้องตื่นเร็วกว่าทุกวันสักสองสามชั่วโมงจะเป็นไรไป
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ดาวโหลด Ebook ได้ที่
- MEB
- hytexst
- ebook
ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ ^_^
เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 พ.ย. 2559, 19:20:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 พ.ย. 2559, 19:20:15 น.
จำนวนการเข้าชม : 838
<< ตอนที่ 5 >>> 50% | ตอนที่ 6 >>> 50% >> |