คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ
ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...
นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ
หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง
หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...
นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ
หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง
หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,
ตอน: ตอน 1 [2]
วันรุ่งขึ้นเวลายังไม่ถึงหกโมงเช้าดีนัก ท้องฟ้าสางเริ่มมีแสงเงินแสงทองส่องให้เห็นรำไร
“ขยันจังนะครับคุณตา เห็นออกมากวาดเศษใบไม้ทุกเช้าเลย” ยุติแวะเวียนมาหาแต่เช้า เป็นฝ่ายเอ่ยทักทายคุณตาขึ้นก่อน
“อื้ม... แก่แล้วต้องขยันออกกำลังบ้าง อยู่เฉย ๆ ไม่ดี เดี๋ยวเส้นสายมันจะยึดพาลเป็นง่อยไป”
“คุณแม่ผมทำขนมเค้กหลายอัน ให้ผมเอาเค้กผลไม้มาให้ครับ”
“เหรอ... ขอบใจมากนะยุติ เอาไปให้ยายในครัวเลย กำลังทำกับข้าวเช้าอยู่ยุติเข้าไปได้เลย” คุณตาชี้มือแนะนำ
ชายหนุ่มจึงเดินตรงเข้าไปในตัวตึกใหญ่แล้วเข้าไปในห้องครัว
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณยาย คุณแม่ผมให้เอาขนมเค้กมาให้ครับ” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงร่าเริง บังเอิญเจอหลานสาวของคุณยายอยู่ด้วย จึงเอ่ยทักอย่างมีไมตรี แต่ผล...!
“อ้าว... หนึ่งอยู่ด้วยเหรอ ชอบกินเค้กผลไม้ไหม เดี๋ยวลองชิมดูสิ”
“ไม่ล่ะ ขอบคุณมาก ขอตัวก่อนค่ะ” ว่าอย่างนั้น แล้วรีบเดินหนี ออกจากห้องครัวไปอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มจึงเก้อ ถือกล่องขนมอยู่อย่างนั้น
“เดินหนีอีกละ เหมือนสมัยก่อนไม่เปลี่ยน ชอบเดินหนีประจำ” เขาบ่นกะปอดกะแปด พอดีคุณยายได้ยิน
“หนึ่งนี่... ไม่มีมารยาทเอาซะเลยหลานคนนี้” คุณยายตำหนิหลานสาว พร้อมกับเดินมารับกล่องขนม
“ขอบใจมากนะยุติ ยุตินี่มีน้ำใจดีสม่ำเสมอ ผิดกับหลานสาวของยายลิบลับ เดี๋ยวยายจะว่ากล่าวตักเตือนให้”
“ช่างเถอะครับผมชินแล้ว เขาเป็นของเขาอย่างนี้ มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวอย่างปลง
“เมื่อวานนี้ยุติเจอหนึ่งแล้วได้คุยอะไรกับยุติบ้าง ยายไม่ทันเห็นเลย”
“เขาเงียบ ๆ ถามคำตอบคำ หนำซ้ำยังเดินหนีผมอีก เลยยังไม่ได้คุยกันให้รู้เรื่องสักที” เขากล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เฮ้อ... ยายละหนักใจกับนิสัยไร้มนุษย์สัมพันธ์ของหลานสาวยายจริง ๆ ” คุณยายส่ายหน้า “ยุติอย่าถือโทษโกรธหนึ่งเลยนะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่คิดถือสาหาความอะไรอยู่แล้ว”
“ยายยังนึกถึงความหลังจำได้ไม่ลืมที่ยุติเป็นคนช่วยชีวิตหนึ่งไว้ อุ้มพาหนึ่งไปส่งโรงพยาบาลตั้งแต่ตอนที่เกิดเรื่องคราวนั้น บ้านเราเป็นหนี้บุญคุณยุติจริง ๆ”
“เรื่องมันเกิดขึ้นมาตั้งนานหลายปี ป่านนี้หนึ่งเขาคงลืมไปแล้วมังครับ”
“ถึงอย่างนั้นเถอะ แต่พวกผู้ใหญ่เขาไม่ลืมกัน เพราะมีหนึ่งเป็นลูกหลานอยู่คนเดียว ถ้าล้มหายตายจากไป ก็ไม่รู้จะหาใครที่ไหนมาทดแทนได้” คุณยายบอก
หลังอาหารเช้า ยุติเข้ามาในห้องนั่งเล่นของกระท่อมตายาย
“แล้วหนึ่ง? เขาไม่ทานข้าวเช้าด้วยกันเหรอครับ”
“อ๋อ... หนึ่งคงกินข้าวแล้วตั้งแต่ยังไม่ทันสว่าง เช้าอย่างนี้หนึ่งเพิ่งเข้านอน กว่าจะตื่นคงเกือบเย็นโน่น” คุณยายตอบ
“เอ๋... เขานอนกลางวันหรอกเหรอ แปลก! แต่เหมือนกับผมเลยเดี๋ยวสาย ๆ จะเข้านอน ทำงานกลางคืน เลยต้องนอนกลางวัน” เขาว่าดังนั้น แล้วเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ “เขาเพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น แล้วหางานทำหรือยังครับ”
“ยังไม่หางานหาการทำเลย เอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ น่าเป็นห่วง มาอยู่เมืองไทยคราวนี้ไม่รู้มีเรื่องคิดมากอะไรหรือเปล่า ดูเงียบ ๆ ไม่เห็นเล่าเรื่องอะไรให้ฟังเลย” คุณยายไม่อาจล่วงรู้ความในใจหลานสาวเท่ากับหนุ่มเพื่อนบ้านนี้เช่นกัน
“ตาอยากให้หนึ่งมีงานทำ เผื่อจะได้มีหลักไม่ต้องมีเวลาไปคิดฟุ้งซ่าน ยุติพอจะแนะนำงานให้หนึ่งได้บ้างไหมล่ะ” คุณตาขอคำปรึกษากับยุติ
“อืม... แล้วผมจะคอยดู ๆ ให้นะครับ เขาคงคล่องเรื่องภาษาทั้งอังกฤษและญี่ปุ่น คิดว่าคงหางานดี ๆ ได้ไม่ยาก” คุยกันได้ไม่ทันไร “ฮ้าว...” แล้วหาวออกมา ด้วยว่าถึงเวลานอนหลับของเขาพอดี “ท่าทางผมจะง่วงแล้วล่ะครับคงต้องขอตัวกลับไปนอนที่บ้าน แต่ง่วงมากอย่างนี้ขี้เกียจเดินเข้าบ้านตัวเองจัง อยากเอนหลังบนโซฟานี่ท่าจะนุ่มสบายดีนะครับคุณตา”
“นอนกลางวันที่ห้องนี่ก็ได้ กลางวันอย่างนี้ไม่มีใครรบกวนยุติหรอก ตากับยายไม่อยู่บ้านเดี๋ยวจะเข้าไปดายหญ้าในสวน”
“ให้ผมนอนที่นี่ได้จริงเหรอครับ ขอบพระคุณมากครับคุณตา งั้นผมไม่เกรงใจล่ะครับ ขอหลับสักงีบค่อยตื่นตอนเย็น”
“เอาเถอะตามสบายเลยยุติ อ้อ... โซฟานี่มีพนักพิงปรับเอนลงเป็นที่นอนได้ แล้วเอาหมอนอิงนี่หนุนหัวนะ” คุณตามาช่วยปรับโซฟา แล้วส่งหมอนอิงให้
“โอ้โฮ... โซฟานี่ดีจังครับ ขอบคุณครับคุณตา” ยุติกล่าวขณะรับหมอนอิงมาวาง เอนตัวลงนอนหนุนหมอนพร้อมความง่วงทำให้หลับไปในเวลาไม่นาน
ใกล้ค่ำ เป็นเวลาเริ่มชีวิตสำหรับคนกลางคืนอย่างเช่น นักดนตรี
“อ้าว... ยุติ ลูกกินข้าวเย็นมาหรือยัง” มารดาเอ่ยถาม เมื่อเดินออกมาจากห้องครัว พบหน้าบุตรชายคนโตเข้าพอดี
“กินมาจากบ้านโน้นแล้ว แม่ไม่ต้องแบ่งของกินเผื่อผมก็ได้ เย็นนี้ผมไม่กินอีกแล้ว”
“เอ้อ... ดีจริงลูกคนนี้ไปขลุกอยู่บ้านโน้นตั้งแต่เช้ายันค่ำ แล้วนี่กลับมาบ้านทำไม” นั้นเป็นคำพูดประชดก่อนจะถาม
“มาเปลี่ยนเสื้อผ้าแค่นั้น เดี๋ยวผมต้องออกไปเล่นดนตรีที่ผับ” ยุติตอบสั้น ๆ ไม่สนใจมารดาของตนนัก
“ทำไมไม่ขนเสื้อผ้าย้ายไปอยู่บ้านโน้นซะเลยล่ะ”
“หา! แม่อยากให้ผมไปอยู่บ้านโน้นเลยเหรอ” ยุติถามอย่างพาซื่อ
“แม่พูดประชดนะไม่รู้ตัวอีก”
“อ้าว... แม่เป็นซะงั้น” ยุติพูดแล้วเดินหลีกแม่ของเขา ขึ้นไปที่ห้องของตนเอง
“แล้วตอนกลับบ้านล่ะ ตีสองจะกินอะไรไหมจะได้เก็บกับข้าวไว้ให้” มารดาถามยังคงเป็นห่วงเรื่องอาหารการกินของบุตรชายคนโต
“กินสิครับ กับข้าวอะไรก็ได้แม่” ยุติตอบมารดา ไม่เรื่องมากเรื่องกินนัก
หลังจากลูกชายไปทำงานแล้ว คุณเพ็ญพิศจึงเข้าครัว บ่นให้แขกของบ้านฟัง
“มีลูกชายสองคนเหมือนมีคนเดียว ยุติวัน ๆ ไม่ค่อยชอบอยู่บ้าน หนำซ้ำยังมีแฟน ๆ เยอะแยะมากมายไม่ได้ดั่งใจแม่เลย เฮ้อ... หนักใจไม่อยากได้ลูกสะใภ้ที่แม่ไม่ปลื้ม ไม่รู้ว่าเจ้าลูกชายมันจะนึกถึงหัวอกแม่บ้างหรือเปล่า”
“เรื่องพี่ยุติหนึ่งไม่มีความเห็นค่ะ เดี๋ยวหนึ่งจะทำซูชิไว้ให้ แต่ว่าจะมีใครกินบ้างคะจะได้กะปริมาณได้พอดีคนกิน” เพชรน้ำหนึ่งเอ่ยถาม เปลี่ยนความสนใจเป็นเรื่องของอาหาร
“ทำเผื่อยุติด้วยคนก็ดีจ้า แล้วเขียนใส่กระดาษโน้ต แปะไว้ข้าง ๆ ตอนใส่ตู้เย็นว่า สำหรับยุตินะจ๊ะ เดี๋ยวพี่เขาไม่รู้ว่าอันไหนเราเก็บไว้ให้”
ระหว่างนั้นเสียงกดออดหน้าประตูใหญ่ดังขึ้น... คนรับใช้ออกไปเปิดรับเห็นเป็นคนข้างบ้านคุ้นเคยกันอยู่
“ใครมานะ หวังว่าคงไม่ใช่สาว ๆ ที่มาหายุตินะ เบื่อรับแขกพวกแฟน ๆ ของยุติ” คุณเพ็ญพิศบ่น
ไม่นานแขกสาววัยรุ่นหน้าคุ้นได้โผล่เข้ามาถึงในห้องครัว
“สวัสดีค่ะคุณนาย คุณยายละมัยใช้ให้หนูเอาต้มยำกุ้งมาให้ค่ะ” สาววัยรุ่นผู้เป็นเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามบอก พร้อมส่งหม้ออวยให้คุณเพ็ญพิศรับไป
“อ๋อ... หนูนารี ขอบคุณมากจ้า ฝากบอกขอบคุณยายละมัยด้วยนะจ๊ะ แล้ววันนี้แต่งตัวสวยเชียวจะไปเที่ยวไหนเหรอ”
“ว่าจะไปเดินห้างนิดหน่อยค่ะ” นารีตอบแล้วชะเง้อมองออกไปที่ห้องอาหารกับห้องรับแขกก่อนเอ่ยถาม “คุณยุติกับคุณลิตไม่อยู่เหรอคะ” ที่แต่งตัวสวยมาในวันนี้เด็กสาวตั้งใจมาอวดตัวเองเผื่อจะเรียกร้องความสนใจจากหนุ่มหล่อสองพี่น้องลูกคนรวยที่ใจแอบหมายปอง
“มีธุระอะไรกับสองคนนั้นเหรอ” คุณเพ็ญพิศถาม
“คุณยุติเคยให้หนูติดรถออกไปข้างนอกด้วย เผื่อจะอาศัยติดรถไปด้วยอีก วันนี้คุณยุติจะไปเล่นดนตรีกี่โมงคะ”
“ยุตินี่เอาแน่อะไรไม่ได้ บางวันไปเร็วบางวันไปช้า แต่วันนี้ออกไปทำงานแล้ว หนูนารีอย่าไปสนใจเลยนะจ๊ะ ลูกชายของน้าเองน้ายังไม่ค่อยอยากจะสนใจเลย ส่วนลิตยังไม่รีบกลับบ้านตอนนี้หรอกอยู่ทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัย”
“เอ๋... พี่หนึ่งใช่ไหม กลับมาเมืองไทยแล้วเหรอ” นารีเอ่ยทักเพชรน้ำหนึ่งพอเป็นมารยาท เมื่อเห็นคุณเพ็ญพิศดูท่าทีกันท่าหวงลูกชายทั้งสองคนจึงเปลี่ยนไปสนใจเรื่องอื่นกลบเกลื่อนไป
“กลับมาเมืองไทยหลายวันแล้วล่ะ” เพชรน้ำหนึ่งบอกไปพลางมือยังช่วยเด็ดผักไปพลาง
“กลับบ้านไปก่อนเถอะหนูนารี ในครัวกำลังทำกับข้าววุ่น ๆ กันอยู่ไม่สะดวกคุยนะจ๊ะ” คุณเพ็ญพิศพูดเป็นเชิงไล่แขกกลาย ๆ ด้วยรู้จุดประสงค์อันไม่พึงปรารถนาที่มุ่งหมายจะมาหาลูกชายสุดรักสุดหวงทั้งสองคน
“เอ่อ... งั้นหนูกลับก่อนล่ะค่ะ” นารีจึงจำใจต้องกลับออกไป
หลังจากนั้นคุณเพ็ญพิศจึงหันมาคุยกับเพชรน้ำหนึ่ง
“เด็กสาวสมัยนี้ตามจีบผู้ชายถึงบ้าน เพิ่งเป็นสาวแท้ ๆ ใจกล้าเกินงาม เมื่อก่อนยังเป็นเด็ก ๆ เห็นน่ารักดี แต่ตอนนี้น้าไม่เต็มใจต้อนรับ แต่ว่าถ้าเป็นหนูหนึ่งน้าไม่หวงนะจ๊ะ เพราะดูหนูหนึ่งเหมาะสมคู่ควรกับลูกชายของน้ามากกว่าสาว ๆ พวกนั้น”
“หนึ่งเพิ่งอกหักค่ะ ไม่มีกะใจจะคิดเรื่องรักใคร่ในตอนนี้ แต่อนาคตถ้าหนึ่งจะแต่งงานกับใคร คนนั้นต้องเป็นคนมีอำนาจวาสนา เป็นผู้นำเหนือหนึ่งได้” เธอบอกถึงลักษณะชายในอุดมคติไว้อย่างชัดเจน
__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__
ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 พ.ย. 2559, 11:08:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 พ.ย. 2559, 11:08:53 น.
จำนวนการเข้าชม : 967
<< ตอน 1 [1] | ตอน 2 [1] >> |